มินตราเห็นมาเทโอเข้าห้องนอนมาในช่วงกลางดึกหญิงสาวที่ตาสว่างโล่รีบล้มตัวฟุบกอดตุ๊กตาหมีหลับตา เพื่อที่จะได้ไม่เห็นชายหนุ่มเพราะยังรู้สึกเคืองคำพูดของเขาไม่หาย มาเทโอเปรยสายตามองผ่านคนตัวเล็กอย่างไม่ใส่ใจ แม้จะรู้ว่าเธอรีบล้มตัวนอนหนีหน้าเขา ดีแล้วที่เธอเลือกจะหลับไปจะได้ไม่มาพล่ามเรื่องพ่อให้เขาได้ขุ่นเคืองใจอีก
มาเทโออาบน้ำเสร็จก็พันผ้าขนหนูปิดช่วงล่างหมิ่นเหม่เข้ามาสวมกอดหญิงสาวที่นอนกอดตุ๊กตาหมี เขากรอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะยังไม่ทันจะดึงตัวสาวเจ้ามากระชับกอดดีๆ เธอก็ขืนตัวหนีไปกอดตุ๊กตาหมีเช่นเดิม
“ผมให้โอกาสคุณพูดแค่ครั้งเดียว”
มินตราได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งลืมตากว้างผุดลุกนั่งเปรยยิ้มร่าให้คนที่นอนอารมณ์เสียยกมือก่ายหน้าผากอยู่ข้างๆ
“มานอนพูดตรงนี้”
มาเทโอวาดแขนอีกข้างพาดยาวให้หญิงสาวได้ล้มตัวนอน มินตรารีบเลื่อนตัวนอนฟุบเทินหัวกับแขนแกร่ง คิดมาตั้งนานว่าจะทำอย่างไรให้มาเทโอรับฟังเธอ จนวางใจไม่อยากจะคิดแต่เขากลับมาขอให้เธอพูดให้ฟังง่ายๆเสียอย่างนั้น และมีหรือเธอจะปล่อยให้โอกาสดีๆเช่นนี้หลุดลอยไป หวังว่าคำพูดของเธอจะทำให้มาเทโอเข้าใจโทชิโระได้ไม่มากก็น้อย
“ที่พ่อพี่เรียวทิ้งไปก็เพราะว่าเค้าต้องการให้พี่เรียวปลอดภัย”
แค่ประโยคแรกที่มินตราเอ่ยขึ้นก็ทำให้มาเทโอเริ่มขมวดคิ้วมีแววตาแปลกใจ
“ตอนนั้นพ่อพี่เรียวต้องเผชิญหน้ากับอันตรายทุกอย่างรอบตัวจากคนในครอบครัวที่อยากจะได้สมบัติของพ่อพี่ เค้าเสียแม่พี่ไปเพราะศัตรูที่มองไม่เห็น ที่ต้องเอาพี่เรียวมาฝากไว้กับคุณพ่อเพราะยอมเสียพี่เรียวไปอีกคนไม่ได้ พ่อพี่เรียวเพิ่งจะกลับมาตอนนี้เพราะเค้ามั่นใจแล้วว่าไม่มีใครกล้ามาทำร้ายครอบครัวพี่เรียวอีก เค้ามาที่นี่มาเพื่อมอบกิจการทั้งหมดให้พี่เรียว เค้าเสียสละขนาดนี้พี่เรียวหายโกรธเค้าเถอะนะคะ”
หลังจากที่เธอพูดจบไปครู่หนึ่งมินตราก็เงยหน้ามองมาเทโอ เพราะเห็นว่าเขายังเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร
“แล้วทำไมเค้าไม่เคยถามผมว่าผมอยากจะอยู่เผชิญอันตรายด้วยหรือเปล่า สิ่งที่เค้าทำเค้าคิดเองว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวผม สิ่งที่เค้าทำมันทำให้ผมมีปมตั้งแต่เด็ก ต้องถูกล้อว่าลูกพ่อทิ้งมันน่าเจ็บใจแค่ไหนคุณจะรู้อะไร”
“มะลิก็เคยถูกล้อเหมือนกันมันอยู่ที่ว่าเราจะเก็บมาใส่ใจหรือเปล่าเท่านั้นเอง พี่เรียวอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ลำบาก มีคุณพ่อที่คอยปกป้องเลี้ยงดูมาอย่างดี ที่พี่เรียวมีทิฐิกับพ่อพี่เรียวทุกวันนี้ก็เกิดจากที่พี่เก็บคำพูดคนอื่นมาใส่ใจเองมากกว่า”
มินตราเห็นว่าโทชิโระไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งมาเทโอ แต่เขาทำไปเพราะเหตุจำเป็น หากไม่ใช่เหตุผลนี้เธอไม่มาช่วยพูดให้ปากเปียกปากแฉะแบบนี้แน่นอน
“ถ้าพ่อผมบอกสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะเลือกอยู่เคียงข้างเค้าไม่ไปไหน ถ้าจะตายก็ให้มันตายไป ดีกว่าต้องเสียใจมาโดยตลอดเพราะคิดว่าเป็นคนที่พ่อไม่ต้องการ”
มาเทโอพลิกตัวหันหลังให้มินตรา รู้สึกว่าเรื่องของพ่อกำลังทำให้เขาอ่อนแอ และภาพความอ่อนแอของตัวเองก็ไม่ได้อยากให้ใครเห็นสักเท่าไร
“ลองคิดกลับกันสิคะคิดว่าถ้าพี่เรียวเป็นพ่อของพี่ วันที่ต้องปกป้องคนที่รักสุดหัวใจพี่เรียวจะทำยังไงคะ จะให้เค้าอยู่กับตัวเองเผชิญอันตรายรอบด้าน หรือว่าจะให้เค้าไปอยู่ในที่ปลอดภัย”
พูดจบมินตราก็รับรู้ได้ว่าตัวของชายหนุ่มกำลังสั่นเทา เธอเลือกที่จะกอดมาเทโอซบใบหน้ากับแผ่นหลังของเขาเงียบๆ ไม่คิดจะพูดอะไรต่อเพราะสิ่งที่เธออยากจะพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่มาเทโอจะขจัดทิฐิในใจออกไปได้เมื่อไรก็เท่านั้นเอง
มินตราได้รับสายจากมเหศักดิ์ช่วงเช้าตรู่ว่าโทชิโระเข้าโรงพยาบาลด่วน เธอจึงต้องลากมาเทโอมาที่โรงพยาบาลด้วยกันกว่าจะถึงก็เข้าเวลาสาย เพราะกว่าจะคะยั้นคะยอให้มาเทโอมาด้วยกันก็ต้องขอร้องกันนานสองนาน เพราะมาเทโอคิดว่าโทชิโระแกล้งเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้น
“ตกลงคุณพ่อพี่เรียวเป็นอะไรคะ”
สาวเจ้าเดินนำหน้ามาเทโอมาหามเหศักดิ์ที่ยืนรออยู่หน้าห้องไอซียู มาเทโอเริ่มมีสีหน้าไม่ดีเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องไอซียู คราแรกคิดว่าโทชิโระไม่ได้เป็นอะไรมากเสียอีก
“เนื้อร้ายในสมอง หมอบอกว่าตอนนี้ก้อนเนื้อโตเร็วมาก ถ้าไม่รีบผ่าตัดอวัยวะภายในก็จะค่อยๆหยุดทำงานไปทีละส่วน”
สิ้นเสียงมเหศักดิ์สองสามีภรรยาที่เพิ่งมาถึงก็พูดอะไรไม่ออก มาเทโอชาวาบไปทั้งตัวก่อนจะฟุบนั่งลงกับเก้าอี้หน้าเจื่อน
“อันที่จริงพ่อแกไม่อยากให้ฉันบอกเรื่องนี้กับแก ไม่อยากให้แกมาสงสาร”
มเหศักดิ์ทิ้งตัวลงนั่งข้างมาเทโอ เห็นทีเขาจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับโทชิโระไม่ได้อีกต่อไป
“แล้วทำไมเค้าไม่รักษาล่ะครับ”
มาเทโอเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาคลอจนมินตราต้องเข้ามานั่งจับมือให้กำลังใจชายหนุ่ม
“โทชิกลัวว่าถ้าเข้ารับการผ่าตัดแล้วจะไม่ตื่นมาอีก เลยเลือกจะรอที่จะได้คุยปรับความเข้าใจกับแกก่อน”
น้ำตาลูกผู้ชายของมาเทโอไหลออกมาอย่างไม่คิดอาย เขาจุกอกพุดอะไรไม่ออก รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำร้ายพ่อแท้ๆอย่างที่ไม่น่าให้อภัยทั้งที่พ่อตนเสียสละเพื่อตัวเองมาโดยตลอด
“ฉันเข้าใจทั้งแกแล้วก็โทชิ แต่ฉันก็อยากให้แกลดทิฐิลงบ้าง ฉันไม่อยากจะคิดในแง่ร้าย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาของพ่อแกจะเหลือเวลาอีกเท่าไร”
มเหศักดิ์ยกมือแตะบ่ามาเทโอเบาๆ รับรู้ได้ว่าตอนนี้มาเทโอรู้สึกอย่างไร เขาไม่ได้ขอให้ลูกชายคนนี้ขจัดความรู้สึกไม่ดีกับพ่อออกไปจนหมด เพราะรู้ว่ายังไงมาเทโอก็ทำไม่ได้ แต่เขาอยากให้มาเทโอทำตัวเป็นลูกชายที่ดีของโทชิโระในเวลานี้สักหน่อยก็ยังดี เพราะหากโชคร้ายโทชิโระก็จะไม่มีเวลาอยู่บนโลกนี้ได้นานนัก
“ถ้าผมได้พูดขอโทษคุณพ่อสักคำก็คงดี”
“หมอบอกว่าพรุ่งนี้พ่อพี่เรียวน่าจะฟื้น เราไปรอเฝ้าตั้งแต่เช้าเลยดีไหมคะ”
“ทำไมถึงหวังดีกับผม”
“ก็..เราเป็นสามีภรรยากันนี่คะถึงแม้ว่าจะไม่ได้รักกันจริงๆ แต่ยังไงเราก็อยู่ด้วยกันยาวๆอยู่แล้ว มะลิอยากเห็นคนที่มะลิอยู่ด้วยมีความสุขค่ะ”
มาเทโอนึกถึงคำพูดปลอบใจของมินตราเมื่อช่วงเย็น เขาก็รู้สึกว่าอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก นึกภาพไม่ออกเลยว่าหากตอนนี้ไม่มีหญิงสาวคอยปลอบใจอยู่ข้างๆเขาจะเครียดขนาดไหน
“ขอบคุณ”
ชายหนุ่มก้มพรมจูบพวงแก้มนวลของคนที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างกาย รู้สึกขอบคุณความหวังดีของเธอจริงๆ ทั้งภาวนาในใจว่าให้วันพรุ่งนี้อย่าได้มีอะไรผิดคาดไปจากที่คิดเลย เขาอยากจะเอ่ยขอโทษคนเป็นพ่อ อยากให้พ่อนั้นรับรู้ว่าตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้วจริงๆ และหวังในใจเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อของเขาจะได้รับการรักษาจนปลอดภัย หลังจากนี้จะได้มีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันอย่างที่เขาเคยฝันไว้เสียที
มินตราและมาเทโอหลับพักผ่อนไปได้ไม่เท่าไรก็มีสายจากโรงพยาบาลว่าตอนนี้โทชิโระเริ่มอาการไม่ดี มาเทโอมาถึงโรงพยาบาลได้ก็นั่งกุมขมับหนึบน้ำตารื้นตลอดเวลา เพราะรู้ว่าเวลานี้หมอและพยาบาลกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจให้พ่อของเขาฟื้นคืนกลับมา มินตราในตอนนี้ก็มีสีหน้าหดหู่ไม่ต่างไปจากทุกคน เธอเอาแต่กอดปลอบมาเทโอไว้ไม่ยอมปล่อยเพราะไม่เคยเห็นเขาน่าสงสารขนาดนี้มาก่อน
“คุณโทชิเป็นยังไงบ้างครับคุณพ่อ”
การันต์เข้ามาในโรงพยาบาลกลางดึกหลังจากได้ข่าวของโทชิโระจากคนสนิท
“หมอเริ่มเตรียมตัวผ่าตัดแล้ว ฉันว่าไม่น่ามีอะไรเป็นห่วง”
“แล้ว โอกาส...”
“ฉันเชื่อมือหมอ”
“ครับ เรียวล่ะครับ”
มเหศักดิ์หันหน้าไปที่มุมตึกที่มีสองสามีภรรยากอดกันกลมมาพักใหญ่
“ฉันพึ่งเคยเห็นเรียวใจเสียเอามากก็วันนี้”
มเหศักดิ์มองภาพนั้นด้วยสายตาหดหู่พอสมควร เพราะตั้งแต่รับมาเทโอมาเลี้ยงก็เพิ่งจะเคยเห็นลูกบุญธรรมตัวเองดูอ่อนแอมากๆก็วันนี้ เขาเองก็เป็นห่วงโทชิโระจนรู้สึกเครียดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะอยากให้โทชิโระนั้นปลอดภัยและได้กลับมามีเวลาอยู่กับลูกของตนได้อย่างที่หวังเสียที เขาไม่อยากให้เกิดการสูญเสียอะไรในชีวิตอีก เพราะหากมันเกิดขึ้นเขาคงเจ็บปวดหัวใจไม่น้อยไปกว่าใครเหมือนกัน
“คุณพ่อกับคุณรันต์กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ถ้าหมอว่ายังไงเดี๋ยวมะลิโทรบอกนะคะ”มินตราเห็นมเหศักดิ์และการันต์มานั่งรอฟังผลการผ่าตัดตั้งแต่เมื่อคืนจวบจนเช้า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าหมอจะออกมา เธอจึงเอ่ยให้ทั้งสองกลับไปพักเพราะรู้ว่าทั้งมเหศักดิ์และการันต์ก็มีงานการกันทั้งคู่“อืม เดี๋ยวฉันกับการันต์ต้องขอตัวก่อน ยังไงหนูมะลิก็บอกให้เรียวได้พักผ่อนด้วยล่ะ”“ค่ะคุณพ่อ”“ขอตัวนะครับ”มินตราค้อมหัวให้ทั้งสองก่อนจะรีบกลับมานั่งกุมมือมาเทโอเอาไว้ สายตาของชายหนุ่มตอนนี้เอาแต่จับจ้องไปยังหน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมละ ในใจของหญิงสาวตอนนี้อยากจะให้หมอออกมาพูดอะไรสักคำก็ยังดีเพราะรู้สึกสงสารมาเทโอเหลือเกิน“หมอยังไม่ออกมาบอกอะไรอีกเหรอ”ไอเซย่าเข้ามาหามาเทโอในช่วงใกล้เที่ยง คราแรกคิดว่าโทชิโระจะได้ออกจากห้องผ่าตัดแล้วเสียอีก“อืม”“ถ้านายอยากฟังข่าวใกล้ชิดฉันว่านายพักที่โรงแรมข้างๆ โรงพยาบาลก็ได้ เดี๋ยวฉันจองห้องให้ คุณมะลิจะได้พักด้วย”ไอเซย่ามองไปยังมินตราที่ยืนดื่มกาแฟร้อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขานับถือหัวใจของหญิงสาวเลยทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ๆ แต่กลับมีท่าทีห่วงใยโทชิโระและมาเทโอไม่ต่างจากคนในครอบค
“เมื่อกี้มะลิขอโทษนะคะ”ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ได้มินตราก็รีบเอ่ยขอโทษมาเทโอเสียงอ่อน สีหน้าของเธอตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะรู้ตัวว่าทำเกินหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ผู้หญิงคนเมื่อครู่บอก“อืม”มาเทโอไม่ได้ถือสาอะไรหญิงสาว แค่เธอทำให้มาริษาเลิกมายุ่มย่ามกับเขาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว“ค่ะ แล้วคุณพ่อพี่เรียวเป็นยังไงบ้างคะ”“การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี แต่ต้องเฝ้าดูอาการตลอดเวลา”“รู้แบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยค่ะ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องเห็นพี่เรียวนั่งเศร้าอีก”มาเทโอมองจ้องหญิงสาวที่ทำท่าทางโล่งใจ ริมฝีปากหนาเปรยยิ้มอ่อน ไม่รู้ว่าหญิงสาวห่วงอะไรเขานักหนาคิดไปคิดมาก็ไปสะดุดเมื่อนึกถึงคำพูดของไอเซย่า “ว่าไปคุณมะลิดูห่วงนายเป็นพิเศษแถมยังหวังดีกับนายมากด้วย ถ้าเธอเกิดรักนายขึ้นมาจะทำไง” ไม่แน่ความคิดของไอเซย่าอาจจะเป็นจริง และหากเป็นเช่นนั้นเขาเองก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อย เพราะตั้งแต่ที่เขาเข้าใจคนเป็นพ่อ ความรู้สึกที่ไม่อยากมีครอบครัวไม่อยากผูกมัดกับใครก็หายไปโดยปริยาย และจะดีไม่น้อยหากได้ผู้หญิงที่คิดห่วงใยคนอื่นโดยไม่มีข้อแม้อย่างมินตรามาเป็นคู่ชีวิต“เป็นอะไรหรือเปล่า ดูซึมๆ ไป”มาเทโอเห็นมินตราดูไม่ค่อยจะร่าเริ
พอใจรีบถือกระเช้าผลไม้เดินปรี่ไปที่ลานจอดรถ เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเดินเลือกซื้อกระเช้าไปเยี่ยมโทชิโระในช่วงเช้าเธอรู้สึกได้ว่ามีคนตามตลอดเวลา และสังเกตเห็นผู้ชายชุดดำใส่หมวกอยู่ถึงสองสามครั้งเธอจึงค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าไม่ได้กำลังคิดไปเอง“พวกคุณเป็นใคร”ไม่ทันที่สาวเจ้าจะสาวเท้าถึงรถ จู่ๆ ก็มีรถตู้ขับมาเทียบตัวของเธอและมีเหล่าชายฉกรรจ์สามสี่คนกรูกันลงมาจากรถขวางหน้าเธอเอาไว้ คนเหล่านั้นไม่พูดไม่จาลงรถมาได้ก็รีบดึงทึ้งตัวของพอใจให้ขึ้นรถไป“ช่วยด้วยค่ะ อ๊ายยย ช่วยด้วย”กระเช้าของหญิงสาวหลุดจากมือไปกองกับพื้น เธอหลับตาปี๋กรีดร้องลั่นตัวสั่นเทาไม่กี่วินาทีก็รู้สึกได้ว่าตัวของเธอกำลังถูกใครบางคนดึงออกจากรถไป เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่โล่งก็รีบลืมตาภาพตรงหน้าตอนนี้คือไอเซย่าและเคนชิกำลังอัดคนพวกนั้นจนไปนอนกองกับพื้นในเวลาไม่กี่วินาที จากคราแรกที่ตกใจจนตัวสั่น ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นกับฝีมือของสองหนุ่มมากกว่า ในใจตอนนี้นึกขอบคุณไปทั่วที่ฟ้านั้นส่งเคนชิและไอเซย่ามาช่วยเธอได้ทันตอนนี้พอใจนั่งอยู่โรงพักมาร่วมชั่วโมงให้ปากคำจนปากเปียกปากแฉะ เพราะไม่ว่าตำรวจจะเค้นถามหาศัต
“พี่เรียวคิดอยากมีลูกจริงๆ เหรอคะ พร้อมที่จะเป็นพ่อคนแล้วใช่ไหม”มินตราซุกตัวกอดคนตัวโตที่เพิ่งทิ้งตัวลงนอนข้างเธอเอาไว้แน่น“อืม แล้วมะลิพร้อมหรือเปล่า”“มะลิว่ามะลิพร้อมค่ะ แต่ต้องบอกเรื่องที่เราแต่งงานกับคุณย่าแล้วก็คุณแม่ก่อนนะคะ”แววตาของหญิงสาวฉายแววของความกังวลจนมาเทโอรับรู้ได้ เขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นปัญหาค้างคาต่อชีวิตคู่นานแน่“พี่จะไปคุยกับคุณพ่อว่ายังไม่ได้บอกเรื่องแต่งกับทางบ้านมะลิ”“คุณพ่อจะไม่โกรธใช่หรือเปล่าคะ”“พี่เชื่อว่าท่านจะเข้าใจ แต่ทางคุณย่ากับคุณแม่มะลิท่านจะรับได้หรือเปล่าที่รู้ว่ามะลิแอบไปแต่งงาน”มาเทโอกุมมือมินตราเอาไว้แน่น แอบกังวลถึงวันข้างหน้ากลัวว่ามินตราจะต้องผิดใจกับครอบครัว“แอบกลัวอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าจะถูกตำหนิอะไรบ้าง”“เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”เอ่ยจบก็พลิกตัวคร่อมคนตัวเล็ก สอดส่ายมือหนาบดขยำอกอิ่มใต้เดรสชุดนอนสีหวาน และก้มบดจูบริมฝีปากบางด้วยลีลานุ่มนวลมินตราสอดมือคล้องคอคนเป็นสามีก่อนจะเลื้อยกอบกุมเรือนผมเล่น ขณะแลกลิ้นกันกับคนตัวโตระรัว ท่าทีของหญิงสาวเป็นที่ถูกใจมาเทโอไม่น้อย เพราะรู้ว่าคนตัวเล็กเริ่มเป็นงานบ้างแล้วหลังจากสอนกันอยู่เป็นแรมเด
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท