มาเทโอที่เตรียมตัวออกไปข้างนอก เขายืนชั่งใจวนไปวนมาหน้าบ้านอยู่หลายนาที ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น
“วันนี้ผมน่าจะกลับดึก คุณนอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอผม”
มินตรายังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หูทวนลมขณะที่มาเทโอมายืนพูดด้วยตรงหน้า เธอหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนไปมาไม่ยอมพูดยอมจาโต้ตอบกับอีกฝ่าย พฤติกรรมของหญิงสาวที่ทำเหมือนมาเทโอเป็นธาตุอากาศเริ่มที่จะทำให้มาเฟียหนุ่มอารมณ์เสียขึ้นมาอีกรอบ
“ไม่มีปากหรือไง ถามทำไมไม่ตอบ”
เขากระชากข้อมือมินตราให้เธอเลิกจ้องแต่มือถือ
“ไม่กล้าพูดเดี๋ยวถูกขังค่ะ”
เสียงที่เคยหวานตอนนี้เอ่ยแข็งกร้าว ดวงตากลมโตมองค้อนคนเอาแต่ใจ แทนที่เขาจะเข้ามาขอโทษเธอกลับมาทำพฤติกรรมแย่ใส่อีกครั้งใครเค้าจะอยากคุยกับคนพาลกัน
“ประชดเหรอ”
มินตราสะบัดข้อมือออกจากมือของชายหนุ่ม เธอรีบสาวเท้าเดินหนีมาเทโออีกรอบ ครั้งนี้เธอเลือกที่จะเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องหากมีใครตามไปจะได้เข้าไปหาเธอไม่ได้ มาเทโอยืนเท้าเอวถอนหายใจเฮือกใหญ่ และรีบเดินออกไปขึ้นรถด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก เขาต้องปล่อยหญิงสาวไปก่อนเพราะมีงานสำคัญในช่วงเช้านี้
“โมเดลลิ่งส่งเด็กใหม่มาให้นาย”
ไอเซย่าเดินเข้ายื่นไอแพดตรงหน้ามาเทโอขณะที่ชายหนุ่มกำลังตราวเอกสารบัญชีของผับหรูดูความเรียบร้อยก่อนจะถึงวันประชุมใหญ่วันพรุ่งนี้ อันที่จริงไอเซย่าไม่ได้อยากให้มาเทโอดูเท่าไรเพราะตอนนี้เพื่อนตนมีมินตราอยู่ที่บ้านทั้งคน แต่ทำไปเพื่ออยากที่จะแน่ใจอะไรบางอย่างที่คิดเอาไว้เท่านั้น
“ฉันไม่มีอารมณ์ นายช่วยบอกกับโมเดลลิ่งทุกที่ว่าถ้าฉันไม่เอ่ยปากถามหาคนก็ไม่ต้องส่งมา”
มาเทโอไม่ได้สนใจจะเงยหน้ามองหน้าจอแม้แต่น้อย
“อืม”
ไอเซย่าหันหลังเดินอมยิ้มกรุ้มกริ่มกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะของตัวเอง แน่ใจแล้วว่าจะออกแบบแปลนบ้านให้กับมาเทโอแบบไหน คงจะให้เป็นหลังเล็กๆ อย่างที่เพื่อนตนต้องการมาได้ เพราะบ้านหลังนั้นอาจจะต้องมีสักสามห้องนอนสองห้องน้ำ รวมถึงห้องนั่งเล่นที่เป็นโถงกว้างๆ เพื่อเหมาะแก่การที่จะเลี้ยงเด็กทารกสักสองสามคนด้วย
ในเวลาที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใกล้จะปิด รถในลานจอดรถก็แทบจะไมเหลือสักคัน แต่สองหนุ่มอย่างมาเทโอและไอเซย่ายังคงเดินถือตุ๊กตาหมีตัวโตกันคนละตัวอยู่ในลานจอดรถ
“นายซื้อตุ๊กตาตัวใหญ่นี่มาทำอะไร”
ไอเซย่าไม่รู้ว่าทำไมมาเทโอต้องลำบากมาหอบหิ้วด้วยตัวเองทั้งที่ร้านตุ๊กตาก็มีบริการส่งให้ถึงบ้านเพียงแค่โทรสั่ง
“ให้เด็กขี้งอน”
มาเทโอที่เดินอุ้มตุ๊กตาหมีสีขาวหันไปกลับหลังไปบอกกับไปเซย่าที่กำลังเดินแบกตุ๊กตาหมีสีชมพูพาดบ่าตามหลังเขามาติดๆ
“มะลิเหรอ งอนอะไรนาย”
“แค่ความเห็นเรื่องการเคารพพ่อแม่ไม่ตรงกันนิดหน่อย”
พูดถึงเรื่องนี้ขึ้น มาเทโอก็มีน้ำเสียงเหนื่อยใจ
“อ๋อ พอจะเข้าใจ ดูนายจะแคร์เธอมากเหมือนกันนี่”
“ก็ ไม่ได้แคร์ขนาดนั้น ถ้าทะเลาะกับคนที่ต้องอยู่ด้วยกันทุกวันมันอึดอัด แค่เรื่องงานก็ปวดหัวพอแล้ว”
ไอเซย่าชำเลืองมองหน้าเพื่อนขณะช่วยกันยัดเจ้าตุ๊กตาตัวโตลงหลังรถ เขาอมยิ้มอ่อนเมื่อรู้ว่าปากกับใจของเพื่อนไม่ได้ตรงกันเท่าไร รู้ดีว่ามาเทโอไม่ใช่คนง้อคนยิ่งเป็นเรื่องผู้หญิงยิ่งรู้ดีว่ามาเทโอไมได้ใส่ใจเท่าไร แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ เขาจะรอดูซิว่าต่อไปสัญญาข้อตกลงที่มาเทโอทำเอาไว้จะถูกฉีกทิ้งเมื่อไร
มินตรารู้สึกสงสัยตั้งแต่มาเทโอกลับมาแล้วว่าเขาแบกตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สีขาวกับชมพูมาด้วยทำไม เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำไปพักใหญ่ เธอจึงเดินเข้ามาสำรวจเจ้าตุ๊กตาที่แสนน่ารักสองตัวที่วางอยู่บนโซฟาใหญ่มุมห้อง ขนาดของเจ้าตุ๊กตาหมีทั้งสองเท่ากับตุ๊กตาของเธอไม่มีผิดเพี้ยน แถมยังดูใหม่เอี่ยมและน่ารักจนเธออดยิ้มให้พวกมันไม่ได้ แอบคิดในใจว่ามาเทโออาจจะซื้อมาเพื่อขอโทษเธอ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าจะใช่เพราะตอนที่เขาเดินเข้าห้องมาพร้อมเจ้าหมีสองตัวนี้ ไม่เห็นเขาจะพูดจาหรือมองหน้าเธอแม้แต่นิดเดียวทั้งที่เธอยังนั่งรอเขาไม่ยอมหลับ ที่นั่งรอไม่ใช่เพื่อรอต้อนรับแต่รอคำขอโทษจากเขาต่างหาก
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
มาเทโอเอ่ยทักคนตัวเล็กในชุดนอนเดรสสีหวานที่กำลังยืนชื่นชมตุ๊กตาหมีทั้งสอง สาวเจ้าสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่ม มินตราหันมายืนหน้าบึ้งใส่คนที่พันผ้าขนหนูผืนเดียวออกจากห้องน้ำ และรีบเดินปรี่กลับมานั่งที่เตียงไม่พูดไม่จาอะไรกับเขา อาการตกใจจนหน้าถอดสีของมินตราเมื่อครู่ทำมาเทโอรู้สึกขบขันไม่น้อย แต่พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ พอจะมองออกว่าหญิงสาวน่าจะชอบเจ้าหมีสองตัวที่เขาซื้อมาพอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปแอบยืนสำรวจจนไม่รู้ว่าเขาออกมาจากห้องน้ำตอนไหน
“มายุ่งอะไรคะ”
มินตรารีบเข้ามาผลักมือของชายหนุ่มขณะที่เขากำลังจะยื่นมือมาจับตุ๊กตาที่เธอนอนกอดอยู่ทุกวัน ทั้งยังจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาระแวงไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธออีกหรือเปล่าที่เห็นเธอไม่ยอมคุยด้วยดีๆ
“หมีสองตัวนี้เป็นพ่อกับแม่คุณใช่ไหม”
มาเทโออุ้มยกคนตัวเล็กไว้ปลายเตียงและเข้ามาคุกเข่ากลางเตียงตรงหน้าตุ๊กตาของรักของหวงของมินตรา พฤติกรรมของชายหนุ่มทำสาวเจ้าเดาไม่ออกว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่
“ทำไมคะ”
หญิงสาวรีบพุ่งตัวเข้ามานั่งพิงหัวเตียงเอามือโอบกอดตุ๊กตาแสนรักของเธอเอาไว้ ดวงตากลมโตมองจ้องมาเทโอด้วยสายตาฉงนหนักขึ้นเรื่อยๆ
“คุณพ่อคุณแม่มะลิครับ ผมขอโทษ”
มาเทโอนั่งคุกเข่าค้อมหัวเล็กน้อย และเอ่ยคำที่มาตราอยากจะได้ยินออกมา หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจและค่อยๆ เปรยยิ้มออก
“โอเคยัง”
มินตราพยักหน้าให้อภัยชายหนุ่มได้อย่างไม่คิดติดใจอะไร แค่คำขอโทษคำนี้คำเดียวหากออกมาจากปากเขาตั้งแต่เมื่อเช้าก็ไม่ต้องขุ่นเคืองใจกันไปทั้งวันแบบนี้
“โอเคละนะ นี่ผมซื้อเพื่อนมาให้พ่อกับแม่คุณด้วย”
มาเทโอหันไปยังเจ้าตุ๊กตาสองตัวที่ตั้งอยู่บนโซฟา
“มะลิคิดเอาไว้แล้วว่าพี่เรียวน่าจะซื้อมาง้อมะลิ แต่เห็นว่ากลับมาไม่ได้พูดอะไรเลยไม่แน่ใจ”
“ไม่ได้ซื้อมาง้อ ซื้อมาเป็นเพื่อนพ่อกับแม่คุณเท่านั้น”
มาเทโอรีบส่ายหัวตอบอึกอักไม่สบสายตาหญิงสาว แค่นี้มินตราก็รู้แล้วว่าที่เธอคิดมันถูก เข้าใจว่ามาเฟียอย่างเขาคงต้องวางมาดแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจจะเค้นให้ได้คำตอบที่อยากได้ แค่เขายอมพูดคำว่าขอโทษกับผู้หญิงที่เป็นแค่ภรรยาตามข้อตกลงอย่างเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว
“ไม่ให้เป็นเพื่อนได้ไหมคะ ให้เป็นมะลิกับพี่เรียวแล้วกันค่ะ มะลิเป็นสีชมพูนะคะ ถ้าพี่เรียวทำให้มะลิไม่พอใจมะลิจะปาดคอหมีสีขาวตัวนั้น”
มินตราชี้ไปที่เข้าหมีสีขาวด้วยท่าทีขบขัน พอจะเอ่ยหยอกเย้าเล่นกับเขาได้เพราะอารมณ์ตอนนี้ดีขึ้นกว่าที่เป็นทั้งวันมาก
“อืม..แล้วแต่ หายโกรธแล้วกอดได้ใช่ไหม”
“ก็กอดแล้วนี้คะ”
สาวเจ้าพยักหน้าหงึกหงักอมยิ้มอ่อน จะให้เธอพูดปฏิเสธคงไม่ทัน เพราะชายหนุ่มเล่นรวบกอดเธอตั้งแต่ก่อนพูดขออนุญาตแล้ว
มาเทโอรวบกระชับกอดคนตัวเล็กไว้บนตัก แขนแกร่งประคองโอบหัวไหล่มน ฟอดดด ฟอดดด.. ก้มหน้ากดจมูกสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่พวงแก้มนวลฟอดใหญ่ ก่อนจะใช้ริมฝีปากหนาบดจูบปากเรียวเล็กอย่างนุ่มนวล แขนเรียวทั้งสองโอบคล้องคอชายหนุ่มเอาไว้แน่นขณะที่รู้ว่าเขากำลังเลื่อนมืออีกข้างบดขยำอกอิ่มเล้าโลมเรียกอารมณ์วาบหวามให้เธอ
“อึก อื้อ”
คิ้วเรียวบางเริ่มขมวด เสียงครางอ่อนของเธอพึมพำอยู่ในลำคอเพราะริมฝีปากบางยังไม่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ สาวเจ้าเริ่มกดจิกเล็บเท้าเมื่อมือหนาที่บดขยำอยู่ที่อกอิ่มเลื่อนมาสอดใส่ใต้เดรสสีหวานดึงชั้นในตัวจิ๋วของเธอออกก่อนจะใช้นิ้วโป้งวนคลึงเม็ดทับทิมสีหวานเบามือ
“อืมม อื้ออ”สาวเจ้าแอ่นสะท้านเบาๆ เมื่อมาเทโอเริ่มสอดใส่นิ้วร้ายกับช่องทางรักคับแคบขณะเดียวกันกับที่เขาเริ่มบดจูบมูมมามตวัดลิ้นควานไปทั่งโพลงปากเล็ก เสียงลมหายใจของชายหนุ่มเริ่มฟึดฟัดถี่ขึ้นเพราะอารมณ์สวาทเริ่มประทุพลุ่งพล่าน มือหนาหยอกล้อเล่นกับช่องทางรักสาวเจ้าจนเริ่มรู้สึกเปียกชื้นจึงค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงกับเตียง ก่อนจะถลกชุดเดรสของเธอออกไปกองกับพื้นจนสาวเจ้าเหลือตัวล่อนจ้อนมือทั้งสองดันขาเรียวให้แหกกว้างก่อนจะก้มลงพรมจูบตวัดลิ้นเลียธารน้ำหวานอย่างมูมมาม “อ อื้อ อ้ะ” จนสาวเจ้าหลับตาพริ้มส่งเสียงครางแอ่นตัวเร่า“อืมม”มาเทโอจับขึงสะโพกมนไม่ให้เลื้อยหนีขณะที่ส่งลิ้นร้ายแทงละเลงในร่องสวาทระรัว จนธารน้ำของอารมณ์วาบหวามทะลักให้เขาได้ดูดกลื่นอยู่เรื่อยๆ“อ๊าย อ้ะ”มินตราครางเสียงหลงมือไม้ปัดป่ายจิกหมอนนุ่มจนแทบขาด อกอิ่มตั้งชูชันขนลุกซู่ไปทั่วตัวเริ่มมองคนที่ก้มอยู่กึ่งกลางลำตัวด้วยสายตาปรือเยิ้มเว้าวอน มาเทโอเห็นเช่นนั่นก็รีบถลกผ้าขนหนูที่พันเอวทิ้งเลื่อนตัวขึ้นมาบดจูบริมฝีปากบางอีกรอบ มือทั้งสองบดขยำสองเต้างามนุ่มนิ่มสนุกมือ ไม่นานนักก็เริ่มบดหัวเจ้ามังกรยักษ์ที่กำลังผงาดเต็มที่ถูไถกั
“อ อ้ะ อืมม”มาเทโอตวัดฉกชิมธารน้ำที่ไหลทะลักครู่ใหญ่ สาวเจ้าครางเสียงหวานอยู่ไม่นิ่ง ไม่นานนักคนตัวโตที่กำลังหื่นกระหายก็ยกอุ้มเธอมานั่งพิงหลังที่โซฟาข้างตุ๊กตาหมีตัวโตมาเทโอสอดแขนคล้องขาพับคนตัวเล็กขึ้นคุกเข่ากับโซฟา เขาก้มจูบริมฝีปากบางพร้อมบดสอดใส่แท่งร้อนปูดเป่งก่อนจะสาวสะโพกด้วยลีลาเร่าร้อน“อื้ออ อื้อ อื้อ”มือเรียวกอดรัดเอวหนาแน่น เสียงหวานร้องครางในลำคอเป็นจังหวะที่แท่งร้อนกระแทกสวนเข้ามาในร่องสวาทระงม“อื้ม อื้ออ”มาเทโอหายใจหอบถี่อารมณ์วาบหวามเสียวซ่านเริ่มประทุหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเผลอกระแทกคนตัวเล็กจนตัวโยน ด้วยเสียงครางหวานระบายความกระสันทำเขาควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนเอาไว้ไม่ไหว“พ พี่เรียว มะลิจุก”สาวเจ้าผละจูบหันหน้าหนีส่ายหัวหน้าเหยเก เอ่ยเสียงกระเส่าร้องขอให้คนตัวโตลดจังหวะลง แต่เหมือนเสียงร้องขอของเธอไม่ได้เป็นผลเลยสักนิด“อ่า อ้า อ้าสส”มาเทโอยังรัวสาวสะโพกกระแทกแท่งร้อนไม่มีผ่อน ใบหน้าเชิดแหงนหน้าอ้าปากครางระบายความเสียวกระสันเสียงดังลั่นเพี๊ยะ “มะลิ จุก”เมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดผ่อนปรนจังหวะ มินตราจึงต้องยกมือเรียวฟาดไปที่ต้นแขนชายหนุ่ม ให้เขารับฟังคำประท้วงของเธอบ้าง
“พี่เรียวเค้าฝังใจเรื่องคุณพ่อมากค่ะเลยเป็นแบบนั้น แล้วคุณพ่อมีเหตุผลอะไรที่ต้องฝากพี่เรียวไว้ที่นี่ตั้งแต่เด็กๆ ล่ะคะ”มินตรานั่งจ้องหน้าซีดเซียวของโทชิโระด้วยสายตาเป็นกังวล อยากจะรู้เหตุผลมากๆ เหมือนกันว่าทำไมโทชิโระถึงได้เลือกที่จะกลับมาหามาเทโอในเวลานี้“ชีวิตของพ่ออยู่ในความเสี่ยง มีธุรกิจใหญ่โตเงินทองล้นมือมากเท่าไรก็ต้องยิ่งระวังตัวมากเท่านั้น ชีวิตพ่อมีคนลอบกัดมาโดยตลอดถึงต้องฝากเรียวไว้กับเหมและขอร้องเหมห้ามบอกความจริงเรื่องพ่อให้เรียวฟัง เพราะกลัวว่าเรียวเลือกที่จะกลับไปหาครอบครัวในขณะที่พ่อยังสะสางอะไรไม่เรียบร้อย ที่พ่อกลับมาก็เพราะมั่นใจแล้วว่าไม่มีศัตรูหน้าไหนกล้ามายุ่มย่ามกับครอบครัวอีก ที่สำคัญก็อยากจะยกกิจการทั้งหมดให้กับเรียวด้วย...”โทชิโระเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้มินตราได้ฟังอยู่พักใหญ่ มินตราคิดว่าหากมาเทโอได้ฟังเหตุผลของโทชิโระ ทิฐิในใจของเขาน่าละลดลงไปได้มาก มินตรารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคนที่เป็นพ่ออย่างโทชิโระและมเหศักดิ์มาก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ทั้งสองทำไปก็เพื่อรักษาชีวิตของมาเทโอให้ปลอดภัยเท่านั้นไม่มีเจตนาอื่นเลย“อย่างนี้นี่เอง คุณพ่อเสียสละมากๆ เลยนะคะ
มินตราเห็นมาเทโอเข้าห้องนอนมาในช่วงกลางดึกหญิงสาวที่ตาสว่างโล่รีบล้มตัวฟุบกอดตุ๊กตาหมีหลับตา เพื่อที่จะได้ไม่เห็นชายหนุ่มเพราะยังรู้สึกเคืองคำพูดของเขาไม่หาย มาเทโอเปรยสายตามองผ่านคนตัวเล็กอย่างไม่ใส่ใจ แม้จะรู้ว่าเธอรีบล้มตัวนอนหนีหน้าเขา ดีแล้วที่เธอเลือกจะหลับไปจะได้ไม่มาพล่ามเรื่องพ่อให้เขาได้ขุ่นเคืองใจอีกมาเทโออาบน้ำเสร็จก็พันผ้าขนหนูปิดช่วงล่างหมิ่นเหม่เข้ามาสวมกอดหญิงสาวที่นอนกอดตุ๊กตาหมี เขากรอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะยังไม่ทันจะดึงตัวสาวเจ้ามากระชับกอดดีๆ เธอก็ขืนตัวหนีไปกอดตุ๊กตาหมีเช่นเดิม“ผมให้โอกาสคุณพูดแค่ครั้งเดียว”มินตราได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งลืมตากว้างผุดลุกนั่งเปรยยิ้มร่าให้คนที่นอนอารมณ์เสียยกมือก่ายหน้าผากอยู่ข้างๆ“มานอนพูดตรงนี้”มาเทโอวาดแขนอีกข้างพาดยาวให้หญิงสาวได้ล้มตัวนอน มินตรารีบเลื่อนตัวนอนฟุบเทินหัวกับแขนแกร่ง คิดมาตั้งนานว่าจะทำอย่างไรให้มาเทโอรับฟังเธอ จนวางใจไม่อยากจะคิดแต่เขากลับมาขอให้เธอพูดให้ฟังง่ายๆเสียอย่างนั้น และมีหรือเธอจะปล่อยให้โอกาสดีๆเช่นนี้หลุดลอยไป หวังว่าคำพูดของเธอจะทำให้มาเทโอเข้าใจโทชิโระได้ไม่มากก็น้อย“ที่พ่อพี่เรียวทิ้งไปก็เพร
“คุณพ่อกับคุณรันต์กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ถ้าหมอว่ายังไงเดี๋ยวมะลิโทรบอกนะคะ”มินตราเห็นมเหศักดิ์และการันต์มานั่งรอฟังผลการผ่าตัดตั้งแต่เมื่อคืนจวบจนเช้า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าหมอจะออกมา เธอจึงเอ่ยให้ทั้งสองกลับไปพักเพราะรู้ว่าทั้งมเหศักดิ์และการันต์ก็มีงานการกันทั้งคู่“อืม เดี๋ยวฉันกับการันต์ต้องขอตัวก่อน ยังไงหนูมะลิก็บอกให้เรียวได้พักผ่อนด้วยล่ะ”“ค่ะคุณพ่อ”“ขอตัวนะครับ”มินตราค้อมหัวให้ทั้งสองก่อนจะรีบกลับมานั่งกุมมือมาเทโอเอาไว้ สายตาของชายหนุ่มตอนนี้เอาแต่จับจ้องไปยังหน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมละ ในใจของหญิงสาวตอนนี้อยากจะให้หมอออกมาพูดอะไรสักคำก็ยังดีเพราะรู้สึกสงสารมาเทโอเหลือเกิน“หมอยังไม่ออกมาบอกอะไรอีกเหรอ”ไอเซย่าเข้ามาหามาเทโอในช่วงใกล้เที่ยง คราแรกคิดว่าโทชิโระจะได้ออกจากห้องผ่าตัดแล้วเสียอีก“อืม”“ถ้านายอยากฟังข่าวใกล้ชิดฉันว่านายพักที่โรงแรมข้างๆ โรงพยาบาลก็ได้ เดี๋ยวฉันจองห้องให้ คุณมะลิจะได้พักด้วย”ไอเซย่ามองไปยังมินตราที่ยืนดื่มกาแฟร้อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขานับถือหัวใจของหญิงสาวเลยทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ๆ แต่กลับมีท่าทีห่วงใยโทชิโระและมาเทโอไม่ต่างจากคนในครอบค
“เมื่อกี้มะลิขอโทษนะคะ”ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ได้มินตราก็รีบเอ่ยขอโทษมาเทโอเสียงอ่อน สีหน้าของเธอตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะรู้ตัวว่าทำเกินหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ผู้หญิงคนเมื่อครู่บอก“อืม”มาเทโอไม่ได้ถือสาอะไรหญิงสาว แค่เธอทำให้มาริษาเลิกมายุ่มย่ามกับเขาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว“ค่ะ แล้วคุณพ่อพี่เรียวเป็นยังไงบ้างคะ”“การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี แต่ต้องเฝ้าดูอาการตลอดเวลา”“รู้แบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยค่ะ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องเห็นพี่เรียวนั่งเศร้าอีก”มาเทโอมองจ้องหญิงสาวที่ทำท่าทางโล่งใจ ริมฝีปากหนาเปรยยิ้มอ่อน ไม่รู้ว่าหญิงสาวห่วงอะไรเขานักหนาคิดไปคิดมาก็ไปสะดุดเมื่อนึกถึงคำพูดของไอเซย่า “ว่าไปคุณมะลิดูห่วงนายเป็นพิเศษแถมยังหวังดีกับนายมากด้วย ถ้าเธอเกิดรักนายขึ้นมาจะทำไง” ไม่แน่ความคิดของไอเซย่าอาจจะเป็นจริง และหากเป็นเช่นนั้นเขาเองก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อย เพราะตั้งแต่ที่เขาเข้าใจคนเป็นพ่อ ความรู้สึกที่ไม่อยากมีครอบครัวไม่อยากผูกมัดกับใครก็หายไปโดยปริยาย และจะดีไม่น้อยหากได้ผู้หญิงที่คิดห่วงใยคนอื่นโดยไม่มีข้อแม้อย่างมินตรามาเป็นคู่ชีวิต“เป็นอะไรหรือเปล่า ดูซึมๆ ไป”มาเทโอเห็นมินตราดูไม่ค่อยจะร่าเริ
พอใจรีบถือกระเช้าผลไม้เดินปรี่ไปที่ลานจอดรถ เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเดินเลือกซื้อกระเช้าไปเยี่ยมโทชิโระในช่วงเช้าเธอรู้สึกได้ว่ามีคนตามตลอดเวลา และสังเกตเห็นผู้ชายชุดดำใส่หมวกอยู่ถึงสองสามครั้งเธอจึงค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าไม่ได้กำลังคิดไปเอง“พวกคุณเป็นใคร”ไม่ทันที่สาวเจ้าจะสาวเท้าถึงรถ จู่ๆ ก็มีรถตู้ขับมาเทียบตัวของเธอและมีเหล่าชายฉกรรจ์สามสี่คนกรูกันลงมาจากรถขวางหน้าเธอเอาไว้ คนเหล่านั้นไม่พูดไม่จาลงรถมาได้ก็รีบดึงทึ้งตัวของพอใจให้ขึ้นรถไป“ช่วยด้วยค่ะ อ๊ายยย ช่วยด้วย”กระเช้าของหญิงสาวหลุดจากมือไปกองกับพื้น เธอหลับตาปี๋กรีดร้องลั่นตัวสั่นเทาไม่กี่วินาทีก็รู้สึกได้ว่าตัวของเธอกำลังถูกใครบางคนดึงออกจากรถไป เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่โล่งก็รีบลืมตาภาพตรงหน้าตอนนี้คือไอเซย่าและเคนชิกำลังอัดคนพวกนั้นจนไปนอนกองกับพื้นในเวลาไม่กี่วินาที จากคราแรกที่ตกใจจนตัวสั่น ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นกับฝีมือของสองหนุ่มมากกว่า ในใจตอนนี้นึกขอบคุณไปทั่วที่ฟ้านั้นส่งเคนชิและไอเซย่ามาช่วยเธอได้ทันตอนนี้พอใจนั่งอยู่โรงพักมาร่วมชั่วโมงให้ปากคำจนปากเปียกปากแฉะ เพราะไม่ว่าตำรวจจะเค้นถามหาศัต
“พี่เรียวคิดอยากมีลูกจริงๆ เหรอคะ พร้อมที่จะเป็นพ่อคนแล้วใช่ไหม”มินตราซุกตัวกอดคนตัวโตที่เพิ่งทิ้งตัวลงนอนข้างเธอเอาไว้แน่น“อืม แล้วมะลิพร้อมหรือเปล่า”“มะลิว่ามะลิพร้อมค่ะ แต่ต้องบอกเรื่องที่เราแต่งงานกับคุณย่าแล้วก็คุณแม่ก่อนนะคะ”แววตาของหญิงสาวฉายแววของความกังวลจนมาเทโอรับรู้ได้ เขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นปัญหาค้างคาต่อชีวิตคู่นานแน่“พี่จะไปคุยกับคุณพ่อว่ายังไม่ได้บอกเรื่องแต่งกับทางบ้านมะลิ”“คุณพ่อจะไม่โกรธใช่หรือเปล่าคะ”“พี่เชื่อว่าท่านจะเข้าใจ แต่ทางคุณย่ากับคุณแม่มะลิท่านจะรับได้หรือเปล่าที่รู้ว่ามะลิแอบไปแต่งงาน”มาเทโอกุมมือมินตราเอาไว้แน่น แอบกังวลถึงวันข้างหน้ากลัวว่ามินตราจะต้องผิดใจกับครอบครัว“แอบกลัวอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าจะถูกตำหนิอะไรบ้าง”“เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”เอ่ยจบก็พลิกตัวคร่อมคนตัวเล็ก สอดส่ายมือหนาบดขยำอกอิ่มใต้เดรสชุดนอนสีหวาน และก้มบดจูบริมฝีปากบางด้วยลีลานุ่มนวลมินตราสอดมือคล้องคอคนเป็นสามีก่อนจะเลื้อยกอบกุมเรือนผมเล่น ขณะแลกลิ้นกันกับคนตัวโตระรัว ท่าทีของหญิงสาวเป็นที่ถูกใจมาเทโอไม่น้อย เพราะรู้ว่าคนตัวเล็กเริ่มเป็นงานบ้างแล้วหลังจากสอนกันอยู่เป็นแรมเด
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท