“ถ้าจะทำหน้าแบบนี้ ก็ไม่ควรเสนอตัวให้กูตั้งแต่แรกสิวะ!” “ขอ ขอโทษ” “เงียบซะไวท์! แม้แต่เสียงร้องไห้ ก็อย่าให้มันเล็ดลอดออกมา” เพราะเหล้าผสมยาปลุกเซ็กส์ ที่บาร์เทนเดอร์ของผับแห่งหนึ่ง ใส่มันเพื่อหวังเคลมฉันตอนเมา ทำให้ฉันเสนอตัวให้เขา ไลน์เนอร์ เดือนสุดโหดจากคณะวิศวะ เขาเป็นคู่อริของน้องชาย ซ้ำยังเคยถูกเขาลากไปเพราะความเข้าใจผิด แต่ฉันก็ยังให้เขากินเล่น ทั้งยังรู้ผลลัพธ์ของความสัมพันธ์นี้ดีเขามี ‘คนของเขา’ อยู่แล้ว หลังจากจบคืนนั้น ตั้งใจจะลบเขาออกไป แต่ …. “ฉันนึกว่าเธอจะเปลี่ยนไปจากคืนนั้น แต่ก็ยังง่ายเหมือนเดิม เป็นฉันก็ได้ เป็นพี่ชายฉันก็ดีล่ะสิ” “เลือกซะไวท์ จะเป็นของฉัน หรือของเขา” “เลือกมันสินะ! ก่อนที่จะเป็นของมัน มึงต้องเป็นของกูก่อน” “เหมือนเธอจะชอบควยของฉันนะไวท์” “อึก ไลน์! ฉัน ฉัน จะ เสร็จแล้ว อ๊า!” ความสัมพันธ์ที่ไร้สถานะ ดำเนินต่อไปพร้อมกับความยุ่งเหยิง บางครั้งเจ็บปวดจนอยากวิ่งหนี บางทีก็หอมหวานเสียจนต้องวิ่งเข้าใส่ จะจากไปก็ไม่กล้า จะอยู่ข้างๆก็หน้าด้านไม่พอ
View More“ผมมีเรื่องสำคัญมากๆจะบอกพ่อครับ”ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของความรุนแรง พูดจาได้น่าฟังสุดๆ จนฉันแอบยกนิ้วโป้งให้ ก็พูดดีได้นี่หว่า แล้วจะคีพลุคแบดบอยเพื่อ?“อะไร?”น้ำเสียงของคุณอเล็กซ์นุ่มนวล ต่างกับตอนที่พูดกับไลน์เนอร์ลิบลับ รู้ได้เลยว่าใครลูกรัก ใครเป็นลูกชัง“เรื่องคนที่ผมชอบ”“แล้ว?”“ผมชอบไวท์ครับ”กึด!สิ่งที่พี่อาเธอร์โพล่งออกมา ทำให้ความเงียบเข้ามาเกาะกุมห้องอาหารขนาดใหญ่นี้ไว้ ฉันกำมือแน่น พยายามมองคนพูดเพื่อขอให้เขาพูดใหม่ แต่พี่อาเธอร์ไม่ทำแบบนั้น เขาพูดสิ่งที่ต้องการต่อไปอีก“ผมอยากหมั้นกับไวท์ครับ”“ลูกพูดจริงเหรอ?”“ครับ! ผมชอบไวท์จริงๆ”ฉันได้แต่นั่งมองการสนทนาของสองพ่อลูกตาปริบๆ สมองมันเริ่มประมวลผลช้า ร่างกายเริ่มตอบสนองต่ออาการแพ้ และลิ้นมันเริ่มชาจนขยับตามใจไม่ได้ อยากจะแย้งแทบตายแต่งัดลิ้นให้ขยับไม่ไหว“ว่ายังไงแม็กซ์ นายเห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกชายฉันพูดหรือเปล่า?”คุณอเล็กซ์ถามพ่อฉัน เหมือนรู้ว่าถามฉันแล้วผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง พ่อหันมามองหน้าฉันเหมือนขอความเห็นใจ การปฎิเสธคนระดับนั้น เป็นสิ่งที่ฉันไม่ควรทำสินะ นี่หรือคือราคาที่ต้องจ่าย เพื่อแลกกับความปลอดภัย
“วันนี้ลูกสาวแม่แต่งตัวสวยจัง”แม่เอ่ยปากชมการแต่งตัวของฉัน ฉันไม่ได้ตอบอะไรท่านเลย เพราะมัวแต่คิดถึงสายตาของคุณอเล็กซ์“ไวท์! ลูกไม่สบายหรือเปล่า?”“คะ? เปล่าค่ะ ไวท์แค่คิดอะไรอยู่น่ะ”แม่เลื่อนมือมากุมมือฉันไว้ ซบใบหน้าลงบนไหล่ของฉัน การกระทำนั้นฉันรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร ความห่วงใยถูกส่งผ่านจากหัวไหล่มาถึงหัวใจ“แม่ดีใจมากเลย ที่ได้เห็นลูกสาวของแม่แต่งชุดสวยแบบนี้ ถ้าไวท์ไม่ว่าอะไร คราวหน้าให้แม่เลือกชุดให้ไวท์ได้ไหมจ๊ะ”“ได้สิคะ”การสนทนาระหว่างฉันกับแม่ จำเป็นต้องหยุดค้างไว้เพียงแค่นั้น เพราะการปรากฏตัวของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งชายหญิงคู่หนึ่งที่น่าจะมาด้วยกันกับคนกลุ่มนั้น คือไลน์เนอร์และลูกหนู เขาแต่งตัวง่ายๆ เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์ ยืนคู่กับลูกหนูที่ใส่ชุดราตรีหน้าผมจัดเต็ม ดูไม่เหมาะกันเลย“มาแล้วเหรอ นี่ไอยราภรรยาของฉัน และไลน์เนอร์ ลูกชายอีกคน”คุณอเล็กซ์กล่าวแนะนำให้เรารู้จักกับภรรยาของท่าน ที่น่าจะเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันแทบลืมหายใจก็คือ ไลน์เนอร์เป็นลูกของท่านกับคุณไอยรา นั่นก็หมายความว่า เขากับพี่อาเธอร์เป็นพี่น้องกันใช่เหรอ? สีตาไม่เหมือนกันเลย ถึงจะม
“สะ เสร็จยัง?”ถามเสียงสั่น พยายามควบคุมการเต้นของหัวใจ ที่ทำได้ยาก และมันค่อยๆเต้นเร็วขึ้น“ยัง! มันติดผ้า!” น้ำเสียงห้วนดังใกล้หู ขนลุกซู่จนต้องย่นคอหนี“รีบหน่อยสิ! ฉันมีนัด”“ใคร?”เหมือนน้ำเสียงของเขาจะห้วนขึ้น ลมหายใจที่เป่ารดข้างหู ก็ดูเหมือนว่าจะร้อนขึ้นกว่าเดิม“หะ?” ฉันถามซ้ำทั้งที่ได้ยินชัดเจน คาดหวัง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะคำพูดต่อจากนั้นที่ตอบกลับมา“ช่างเถอะ ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว”ความตื่นเต้น ดีใจ และความวูบไหวที่เล่นงานร่างกายเมื่อสักครู่ จางหายราวกับเปลวไฟถูกน้ำเย็นราด ความจริงจากปากเขา ทำให้ฉันกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ เออ! ลืมไปหรือไง ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน อย่าประสาท อย่าโลภมาก กับอีแค่ได้กันเพียงคืนเดียว“ระ รีบๆทำหน่อยสิ!” ฉันเร่งเพราะไม่อยากใกล้ชิดกับเขามากไปกว่านี้ แต่“ขอร้องให้คนอื่นช่วยแท้ๆ นิสัยแย่ชะมัด”ริมฝีปากคนพูดอยู่ชิดใบหู ลมร้อนถูกเป่าเข้าไปเหมือนตั้งใจทำ“ฉัน …ไม่อยากให้ลูกหนูเข้าใจผิด”“มีจริยธรรมเหลือเกินนะ ทั้งที่คืนนั้นเสนอตัวให้ฉันเอาฟรีๆ”“ไลน์เนอร์!”ฉันหมุนตัวกลับไปเพราะคำพูดดูแคลนของไลน์เนอร์ แต่เหมือนเขารอจังหวะนี้
“พี่ไวท์ไม่โกรธเหรอคะ?”ข้าวหอมถาม ในขณะเปิดประตูรถของเธอให้ฉัน ฉันยิ้ม ขยับเข้าไปนั่งข้างในรถ เมื่อเธอขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัย สตาร์ทเครื่องยนต์ ฉันจึงเริ่มต้นพูด“โกรธแหละ แต่พี่ไม่มีเวลาอะ นัดทานข้าวกันสองทุ่ม ไม่รู้จะเสร็จทันไหม”ฉันพิมพ์รายละเอียดเรื่องนัดหมาย สถานที่ และเวลาให้ข้าวหอมไปแล้ว เธอบอกว่ามีร้านขาย-เช่าชุดราตรีดีๆ อยู่ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย แต่ร้านนี้ดังมาก ถึงจะติดต่อขอทำนัดเข้าไปแล้ว ก็ไม่รู้จะเสร็จทันเวลาหรือเปล่า“เดี๋ยวข้าวติดต่อไปขอแทรกคิวให้ค่ะ พี่ไวท์ไม่ต้องกังวลนะคะ”ข้าวหอมตั้งใจขับรถมากขึ้น หลังจากบอกไม่ให้ฉันกังวลเรื่องนี้เสร็จ ไอ้เรื่องชุดฉันไม่กังวลเท่าไหร่หรอก สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด จนอยากทำให้ทุกอย่างมันออกมาดี ก็คือบุคคลที่เป็นผู้นำของ T. K Groups ต่างหาก หวังว่าตัวตนของฉัน จะไม่ส่งผลกระทบกับงานของพ่อนะ17 :05 น. เพราะได้ข้าวหอมช่วยจัดการเรื่องคิวให้ ฉันจึงได้แต่งหน้าและทำผมทันทีที่มาถึงร้าน ซึ่งในขณะที่นั่งให้ช่างแต่งหน้าและทำผมไปด้วยนั้น ข้าวหอมก็ช่วยเลือกชุด ที่มันเข้ากับสถานที่ โอกาส และสรีระร่างกาย“ข้าวว่าชุดนี้ดีที่สุด”ข้าวหอมสรุปด้วยใบหน้าจริง
เมื่อรถขับมาถึงบ้าน ฉันก็พรูลมหายใจออกมาแรงๆ แม่ของฉันไม่อยู่ในบ้าน ไนท์เองก็ยังไม่กลับ การไม่ต้องถูกใครซักถามในเวลาแบบนี้ เป็นเรื่องดีสุดๆสำหรับฉัน ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่สิบสองชั่วโมงข้างหน้า จะได้ตื่นขึ้นมากินยาเม็ดที่เหลืออยู่ เมื่อมั่นใจว่ามันจะส่งเสียงเตือนให้รู้ ก็กินยานอนหลับที่มีติดห้องไว้ ลงไปพร้อมกับยาแก้ปวดที่ได้มาจากพี่แพรความเหนื่อยล้า และปวดร้าวตามร่างกาย ส่งผลให้ใช้เวลาเพียงไม่นาน ห้วงนิทราก็เข้ามาเยือน ความฝันซ้ำซากที่เคยเกิดขึ้นไม่เว้นวัน มีฉันวิ่งหนีคนที่ตามฆ่าสุดแรง ในวินาทีที่กำลังสิ้นหวัง ไลน์เนอร์ก็ปรากฎตัว ฉันยกมุมปากขึ้นยิ้ม พร้อมกับน้ำตาที่รินไหลออกมา แม้แต่ในฝันอันยาวนาน เขาก็ยังแทรกซึมเข้ามารบกวนมัน และทำให้ฉันใจชื้น แล้วแบบนี้ฉันจะใช้ชีวิตปกติยังไง ฉันจะใช้วิธีไหนในการลืมเขาสัปดาห์ต่อมาฉันพยายามใช้ชีวิตที่ไม่ปกติ ให้มันเหมือนปกติให้ได้มากที่สุด โชคดีที่ไลน์เนอร์ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย ความรู้สึกต่างๆที่เคยคิดว่าจะแบกรับมันไม่ไหว ค่อยๆเบาบางลง ตามวันเวลาที่ผันเปลี่ยนเวียนไป“ไวท์! เย็นนี้อย่าลืมนัดนะ!”ไนท์เอ่ยเตือนฉัน ก่อนเราจะเริ่มเรียนวิชาสุดท้ายขอ
“ฉันต้องไปรับลูกหนู เธอรับผิดชอบตัวเองได้ใช่ไหม?”ไลน์เนอร์เดินออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่ไม่ต่างจากตอนเดินเข้าไปเท่าไหร่นัก มีเพียงหยดน้ำเม็ดใหญ่ที่เกาะพราวตามร่างกาย บอกให้รู้ว่าเขาเข้าไปทำความสะอาดร่างกายมา“ไม่ได้ยินที่พูด?”คนยืนเปลือยกายอยู่หน้าห้องน้ำถามซ้ำ ดวงตากดต่ำและลากไล้ ฉันรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเปลือยของตัวเองไว้ จากสายตาที่ลูบไล้โลมเลีย สติที่หลงมัวเมาไปตลอดสามชั่วโมง ถูกความจริงตรงหน้าตบให้ตื่นก็นะ! ฉันเป็นได้แค่ผู้หญิงชั่วคราว ไม่ใช่ตัวจริงที่ควรให้ค่า เขาจะไปทันทีที่เสร็จก็ไม่แปลก“อือ” ตอบรับพลางก้มหน้าซ่อนความเสียใจ ที่อาจปิดซ่อนไว้ได้ไม่ดีพอ“ถ้าไม่อยากท้องก็หายาคุมฉุกเฉินมากินซะ!”ไลน์เนอร์ก้าวเดินมาหยิบกางเกงที่หล่นอยู่ข้างเตียง เขาใส่มันตรงนั้น อย่างไม่กลัวว่าฉันจะแอบมองเลย เขาทำทุกอย่างได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันมีเสน่ห์จนฉันเผลอจ้อง กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ควรมอง ดวงตาสีเข้มก็หรี่ลงเหมือนไม่ชอบใจ“เข้าใจที่พูดไหม!?”“อือ … เข้าใจ”ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน อายจนไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ เขาจะคิดยังไงเกี่ยวกับฉันนะ จะคิดว่าฉันหน้าด้านไร้ยางอาย หรือไม่เคยคิดอะไรเกี่ยวกับฉ
“อึก! อื้อ”แรงดูดสร้างกระแสไฟเล็กๆ ลุกลามไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย ความเสียวซ่านโอบอุ้มจุดที่ไวต่อความรู้สึก โดยเฉพาะจุดกระสัน มันขับน้ำหวานออกมามากขึ้น กระตุ้นให้ความต้องการที่ยังไม่มอดดับยากต่อการควบคุม แต่ … ความกลัวยังมีผลต่อร่างกาย สะท้านทุกครั้ง และพยายามขยับท่อนล่างหนี“อือ! อ๊ะ! ไลน์ … เนอร์! อือ”ความแข็งแต่นุ่มปัดป่ายผ่านจุดกระสัน ด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไร ฉันจึงลดสายตาลงไปมอง เมื่อเห็นว่าท่อนลำใหญ่กำลังถูไถอยู่เหนือเนื้อผ้าบางเบา ดวงตาก็สั่นระริกแวววาวหยาดน้ำ ความต้องการถูกความกลัวลดทอนลงฉันยังไม่เคยเลย ใหญ่ขนาดนั้น มันจะเข้ามาในตัวฉันยังไง“ฮึก! ละ ไลน์ เนอร์ ฉันว่า ระ เรา! พอแค่นี้เถอะ”เบือนหน้าหนีไปด้านซ้ายเมื่อพูดจบประโยค ฉันกับเขา เราไม่ควรมาถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาคือไลน์เนอร์ ผู้ชายที่เข้ามากระชากเอาหัวใจของฉันไปตั้งแต่เจอครั้งแรก ร่างกายจึงไม่ฟังที่สมองสั่ง และสมองทำงานไม่สัมพันธ์กับหัวใจฉันต้องการเขา“เธอจะหนีเอาตัวรอดเหรอ?”“ปะ เปล่าสักหน่อย ฉัน ฉันกลัวของนายต่างหาก”เมื่อถูกกล่าวหาว่าจะหนีเอาตัวรอด ฉันก็รีบแก้ต่างให้ตัวเอง เสียงหัวเราะนุ่มทุ้มดึงดูดให้ห
“แม่ง! ตามมา!”ไลน์เนอร์กระชากตัวฉันขึ้นจากโซฟา ฉันเดินตามหลังเขาและพยายามก้าวให้ทันช่วงขาเรียวยาว มองแผ่นหลังของเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ผสมปนเปกันจนจับความรู้สึกตัวเองไม่ถูกแอ๊ด! พลั่ก!“เข้าไปสิ!”ไลน์เนอร์พาฉันมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง เขาเปิดประตูเสร็จก็ผลักไหล่ฉันเบาๆ พร้อมสั่งให้ก้าวเข้าไปข้างใน ฉันลังเลที่จะก้าว เห็นเตียงสีขาวในนั้นแล้วใจมันฟ่อฉันจะทำได้เหรอ? ถ้าผ่านคืนนี้ไปพร้อมกับเขา ฉันจะลืมเขาได้อย่างที่บอกตัวเองไว้ก่อนหน้านั้นไหมนะพรึ่บ!“อ๊ะ! จะทำอะไร!”ฉันตกใจเมื่อจู่ๆ ไลน์เนอร์ก็ก้าวมากระชากเสื้อที่ใส่อยู่ออก เพราะมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อย ไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ ประตูห้องถูกปิดลงไปแล้ว เสื้อของไลน์เนอร์ถูกเขาถอดทิ้งไว้บนพื้นตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้เลย เขาเอาจริงเหรอ! เปลี่ยนใจตอนนี้ได้ไหม ฉันกลัว“ฉัน … ฉันล้อเล่นน่ะ! ฉันแค่อยากเอาชนะนาย! ช่วย! ช่วยปล่อยฉันได้ไหม”ไม่อยากจดจำเขาต่อไป เพราะสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากฤทธิ์ของน้ำเมา และยาแปลกๆ ฉันขยับถอยหลังเมื่อไลน์เนอร์ไม่ปล่อย ซ้ำยังก้าวขาไล่ต้อนฉันไปเรื่อยๆ จนถึงเตียงสีขาวขนาดหกฟุตซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุดของห้อง ข้างๆเป็นกำ
อึก! อึก!ความหอมหวานของเหล้าผสมทำให้ฉันดื่มมันเกือบหมดแก้ว บาร์เทนเดอร์หนุ่มยิ้มมุมปาก วางแผ่นเมนูไว้ตรงหน้า ฉันหยิบมันขึ้นมาเพื่อดูว่าจะสั่งอะไรต่อ แต่ดูไปก็เท่านั้น ฉันเลือกถามมันกับเขา ว่าอะไรอร่อย และเหมาะกับฉันที่สุด“คุณคิดว่าอะไรอร่อย แล้วเหมาะกับฉัน?”คิ้วสีดำเข้มเลิกขึ้นสูง เขาไล่สายตาสำรวจฉันอย่างจริงจัง สายตาวาบหวามแบบนั้น ทำเอาหน้าร้อนวูบขึ้นมา คิดถึงสายตาของไลน์เนอร์ขึ้นมาเฉยเลย วันที่เขาลากฉันไปถ่ายแบบ เขาก็มองฉันด้วยสายตาแบบนี้เลย มันหมายความว่ายังไงนะ สนใจ หรือ …“มอง … มองแบบนั้นหมายความว่ายังไง?”มุมปากหยักยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกว้าง มือที่เห็นรอยสักโผล่พ้นจากร่มผ้า วางลงตรงหน้าฉัน เขายื่นหน้าเข้ามาเอียงไปด้านข้าง กระซิบข้างหูเสียงพร่า“เพราะสนใจไงครับ”“สนใจ … งั้นเหรอ”“อื้อ คุณสวยนี่นา ก็ต้องสนใจอยู่แล้วแหละ”เขาถอยออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง ประโยคนั้นควรจะทำให้ฉันดีใจ แต่มันกลับทำให้รู้สึกแย่มากกว่า ไลน์เนอร์เองก็คิดแบบนี้หรือเปล่านะ เห้อ! ช่างเรื่องไลน์เนอร์ได้ไหม ไอ้สมองบ้าๆเนี่ย เลิกคิดเรื่องเขาสักทีพรึ่บ!“อันนี้ของคุณครับ”“ฉันไม่เหมาะกับอันนี้หรอกมั้ง?”เตกีลาเพร
“นั่นพี่ไนท์นี่นา กรี๊ดพี่ไนท์!”เสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่เรียนอยู่ชั้นปีต่ำกว่า ดังไปทั่วบริเวณทางเดินเชื่อมระหว่างตึกเรียน ฉันก้มหน้าลงต่ำสาวเท้าเดินตามหลังผู้ชายรูปร่างสูงยาวเข่าดี ที่มีดีกรีเดือนบริหารประดับอยู่บนบ่า บ่นขมุบขมิบเมื่อพวกผู้หญิงเหล่านั้น ชี้มือมาทางผู้ชายที่ชื่อไนท์“ฉันอยากเป็นของเขาจัง”“ฉันอยากนอนอยู่ใต้ร่างกำยำนั่นสักคืน”“ฉันอยากลองที่ระเบียงกับเขา”ผู้หญิงพวกนั้นพูดออกมาอย่างไม่อายฟ้าดิน หรือแม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ฉันได้แต่คิดอยู่ในใจ ถ้าพวกเธอรับอารมณ์เถื่อนๆ ของไอ้ไนท์ได้ ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอก กลัวแต่ร่างกายของพวกเธอจะไม่ทน ให้ไอ้คนป่าเถื่อนอย่างไนท์ขย้ำนะสิ“เห้ย! นั่นพี่ไวท์นิ! ชิบหายล่ะ!”ปฏิกิริยาของผู้หญิงพวกนั้นต่างออกไปจากเดิม เมื่อมองเลยร่างของไนท์มาเจอฉัน ซึ่งสวมหมวกใบใหญ่ปิดบังใบหน้า ที่สำคัญคือฉันใส่แมสอยู่ด้วย ปิดขนาดนี้แล้วยังรู้ว่าเป็นฉัน ฉันที่ไม่อยากให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ รีบหลบเข้าไปอยู่หลังไนท์ที่รูปร่างใหญ่กว่า“ฉันอยากได้พี่ไวท์อะ!”ฉันขนลุก เมื่อรุ่นน้องปีหนึ่งหน้าตาสวยหยด พูดขึ้นและส่งสายตาเหมือนอยากจะได้ฉันจ...
Comments