All Chapters of มายาปฏิพัทธ์: Chapter 1 - Chapter 10

18 Chapters

บทนำ

มายาปฏิพัทธ์เขียนโดย เฌอรินทิพย์บทนำ‘ถ้าแกยังไม่ยอมเลิกมีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!’เธอยังจำเสียงนี้ได้ดีและไม่มีวันลืม ไม่ว่ากี่ครั้งที่ปิดเทอมจากมหา’ลัย กลับบ้านมาก็มักจะโดนว่าแบบนี้ทุกครั้ง จนตอนนี้เรียนจบมาสองปีกว่าทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้ว ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนใจมารดาได้เลย ทุกวันหยุดปีใหม่ปีที่แล้วต้องคิดนานว่าควรจะกลับไปดีไหม?สุดท้ายก็กลับไปและ...‘ฉันเลี้ยงให้แกโตมาชอบผู้ชายด้วยกัน!’เป็นแบบนี้มาตลอดจนเมื่อหลายเดือนก่อนแม่เกิดป่วยกะทันหันและด่วนจากไป ทั้งครอบครัวตอนนี้จากสามคนเหลือเพียงคนเดียว คำสั่งเสียของแม่คือการที่ให้แต่งงานกับผู้ชายมีครอบครัวดีๆ ซึ่งมันแทบไม่มีวันเป็นไปได้เลย เธอไม่ได้รังเกียจผู้ชายแต่ทว่าการคบกับผู้หญิงด้วยกันมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย...อีกอย่าง ในทางตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกว่าสบายใจกว่ากันเยอะทีเดียว“น้องต๋อมอยากสั่งอะไรมาทานไหมครับ”จรีภรณ์หรือ ‘ต๋อม ’ส่ายหน้าแทนคำตอบนั่ง เธอตรงข้ามฝั่งรุ่นพี่หนุ่มที่ทำงานร่วมกัน แม้สายตาจะไม่ได้แสดงออกมาว่าเกลียดผู้ชาย แต่ท่าทางที่ดูเหินห่างก็พอบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่
Read more

บทที่ 1 สามีในนาม

เสียงพูดคุยดังเข้าผ่านหูของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง กลิ่นยาและน้ำหอมจากคนผสมกัน ทำให้ดมจนแทบอยากจะอ้วก ไม่นานนักเสียงที่น่ารำคาญก็ค่อยๆ หายไป จรีภรณ์พยายามปรือตาที่หนักอึ้งขึ้นอย่างช้าๆ มองไปยังเพดานสีขาวสะอาด ตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่าอยู่โรงพยาบาล เธอขยับปรับเปลือกตาเพื่อรับแสงก่อนจะมองเห็นพยาบาลที่กำลังเก็บของอยู่“ฟื้นแล้วหรือคะ ? ฉันจะไปตามคุณหมอมานะคะ”จรีภรณ์เพียงแค่พยักหน้าตอบเพราะยังคงมึนงงกับร่างกายอยู่หญิงสาวหลับตาลงในขณะที่พยาบาลเดินออกจากห้องไป กำลังพยายามนึกภาพก่อนเกิดอุบัติเหตุและก็จำได้ว่าดวงซวยที่ดันไปยืนอยู่ตรงนั้น จนถูกป้ายโฆษณาหล่นใส่เอาได้ ดีที่ยังไม่ตาย ไอ้ต๋อมเอ๊ย...เพิ่งเข้าโรงพยาบาลหนักๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกเลยประตูห้องเปิดเข้ามา เสียงมากมายก็ดังตามมาด้วยจรีภรณ์หันหน้าไปมองผู้มาเยือนที่ไม่รู้จัก“พริมฟื้นแล้วหรือลูก”หญิงสาวยิ่งคิ้วขมวดใหญ่มากกว่าเดิมเมื่อถูกหญิงวัยกลางคนทัก...ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ??“คุณหมอคะ เธอเป็นอะไรทำไมไม่ยอมพูดคะ”จรีภรณ์ยังคงมองด้วยความงุนงงทั้งที่อยากจะเปิดปากพูดว่ากำลังทักคนผิดแต่ทว่าไม่มีแรงมากพอได้แค่นอนนิ่งๆ มองดูคนแปลกหน้าต่อไป ส
Read more

บทที่ 2 สีหน้าไม่เต็มใจ

กตตน์เดินเข้ามาในบ้าน หลังจากที่ไม่ได้กลับมานอนหลายคืน ด้วยเหตุที่อ้างว่าติดงานเยอะจึงอยู่พักที่คอนโดฯ ส่วนตัว สองเท้าก้าวยาวตรงผ่านห้องรับแขกไปทว่าเสียงของมารดาก็ดักขึ้นเสียก่อน“กว่าจะกลับมาได้ วันๆ ซุกตัวอยู่กับนังผู้หญิงแพศยานั่น”บวรลักษณ์กล่าวว่าลูกชายด้วยความโมโห ทั้งที่หาคนเหมาะสมให้แต่งงานด้วยแล้วยังจะไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกกตตน์หันมาด้วยสีหน้านิ่งๆ แม้จะรู้สึกไม่พอใจที่กล่าวว่าแบบนี้“ผมกับแพรว เรารักกัน” คำพูดนี้พูดออกมาจากใจจริง ทว่า บวรลักษณ์ได้ยินแล้วไม่รู้สึกเห็นใจในความรักของลูกชายสักนิด“รักแกจริงใจ ! น้ำเน่า…ผู้หญิงแบบนั้นจะรักแก มันรักเงินของแกมากกว่าน่ะสิ !” บวรลักษณ์แทบเลือดขึ้นหน้า ทั้งที่บอกแล้วว่าผู้หญิงอย่างแพรวรุ้งไม่มีทางจริงใจได้ แต่ลูกชายก็ไม่ฟัง หนำซ้ำยังคิดจะแต่งเป็นเมียอีกกตตน์ไม่ฟังที่มารดาพูด เขาหมุนตัวเดินจากไปในทันที“กลับมาก่อนนะ ตาไม้”พูดไปก็เหมือนลมผ่านหูเมื่อลูกชายสุดที่รักเดินลับสายตาไปแล้ว บวรลักษณ์คิดแค่ว่าหากกตตน์แต่งงานเเล้วจะเลิกสนใจแพรวรุ้ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะวุ่นวายมากกว่าเดิม หนำซ้ำพริมมาต้องมาทนทุกข์จากการกระทำของลูกชายตัวดีอีก“พู
Read more

บทที่ 3 ความจริงที่ว่า

แสงอาทิตย์ลับของฟ้ามานานแล้ว ทว่าจรีภรณ์ยังคงนั่งอยู่เช่นเดิม สายตาทอดมองออกไปยังหน้าต่างจากมุมห้องพักตึกสูง หากว่านี้เป็นความฝันก็อยากจะรีบตื่นจากมันเสีย หญิงสาวคนนี้ร่างบอบบางเกินกว่าที่ตัวเองจะถนัดได้ ตัวเล็กผิวขาวน่าทะนุถนอม หากได้เจออาจจะต้องหลงชอบบ้าง แต่ทว่ามันไม่ชินเลยสักนิดกับการที่ต้องมาแบกหน้าอกสะบึ้มทั้งที่ก่อนหน้านั้น ร่างของเธอแบนเรียบเหมือนไม้กระดาน !ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีจรีภรณ์หันไปทางกระจกหน้าต่างแล้วยกมือขึ้นชี้หน้าตัวเอง“เธอเป็นใคร !!”น่าขันจริงๆ หรือว่านี่จะเป็นปีโคตรซวย โคตรชงใช่ไหม !แล้วตอนนี้ร่างของเธอละ อยู่ที่ไหนกัน ?หญิงสาวนั่งอยู่นานก่อนจะขยับตัวเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียงมา ตอนนี้ไม่รู้ว่าจำใครได้บ้าง เบอร์ของใครสักคนที่สามารถติดต่อถึงได้ ว่าร่างอยู่ที่ไหนฮิปโป...ตอนนี้ในสมองคงจะจำได้แค่เบอร์ของคนนี้ ไม่อยากจะโทร.ไปฟังเสียงชวนขนลุกนี้เลย มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ตอนนี้ความอยากรู้มากกว่าทุกสิ่ง จรีภรณ์รีบกดเบอร์ของชายหนุ่มและยกโทรศัพท์แนบหูทันที[สวัสดีครับ]หญิงสาวเงียบนิ่งไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับอีกฝ่ายยังไงดี“สวัสดีค่
Read more

บทที่ 4 เสียงเรียก

หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเเล้ว จรีภรณ์เดินขึ้นมาห้องนอนทันทีเพราะไม่อยากจะยุ่งเรื่องของคนในครอบครัวเท่าไหร่ ทว่าเสียงของคุณแม่สามีก็ดังจนผ่านผนังห้องเข้ามาจนน่าตกใจ อันที่จริงอยากจะบอกว่า ไล่ไปนอนที่ไหนก็ไปเถอะ ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากจะนอนด้วยกันอยู่เเล้วจรีภรณ์เดินไปกลางห้องสำรวจรอบๆ พลางถอนหายใจออกมาและตกอยู่ในภวังค์ของตน ไม่รู้จะอยู่ในร่างนี้อีกนานเเค่ไหนกันเชียว ไม่รู้ว่าวิญญาณของพริมมาจะเป็นอย่างไร ทว่าตอนนี้รู้สึกกลายเป็นคนบาปที่แย่ง ร่างของผู้หญิงคนนี้“พริมมา ฉันขอโทษนะ” จรีภรณ์พูดพลางยกมือขึ้นไหว้ด้วยความรู้สึกผิด วาบ…รอบผิวกายของเธอกลับรู้สึกเย็นเยือกในทันที เจ้าตัวยกมือลูบที่ต้นเเขนเบาๆ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเเละเปิดออกคุณพระ ! จรีภรณ์มองเสื้อผ้าตรงหน้า ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอ บอกทีว่าคืนนี้เธอต้องใส่ชุดนอนอันบางเบานอนกับผู้ชายคนนั้น !“ใครจะกล้าใส่กัน !” หญิงสาวหยิบเสื้อผ้าเเต่ละชุดที่คิดว่าต้องไม่ใส่ออกมาจนหมดเเละ…มันก็หมดตู้“แล้วคืนนี้ฉันจะใส่อะไรเนี่ย ลำพังแค่เดรสที่ใส่วันนี้ ลมวาบๆ ที่ขาจนแทบเดินไม่ออกเเล้ว !” จรีภรณ์อยากจะร้องไห้ เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก
Read more

บทที่ 5 งานอำลา

แสงอรุณสอดผ่านม่านในยามเช้า หญิงสาวพลิกร่างซุกใต้ผ้าห่มหนีแสงด้วยความรำคาญ มือขยับเล็กน้อยแต่ก็ตกใจสะดุ้งตื่นทันทีเมื่อมือของ ชายหนุ่มทับอยู่ที่หน้าอกของเธอ“เฮ้ย !” จรีภรณ์เด้งตัวขึ้นดึงผ้าห่มและขยับเท้าออกแรงถีบทันทีตุบ ! ร่างของกตตน์ร่วงลงกระแทกพื้น ทำให้เขาตื่นขึ้นในทันที ชายหนุ่มขยับตัวร้องด้วยความเจ็บ เงยหน้าส่งสายตามองหญิงสาว“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย !” กตตน์มองพลางขยับตัวลุกขึ้น จากที่ง่วงอยู่ตอนนี้ตาสว่างขึ้นมาเลยจรีภรณ์มองคนตัวใหญ่ด้วยความไม่พอใจ ต่อให้จะไม่ใช่เจ้าของร่างนี้แต่แรกแต่เมื่อเธอมาอยู่ในร่างนี้แล้วไม่มีทางเด็ดขาดที่จะให้ผู้ชายโดนตัว ถึงแม้จะเป็นการไม่ตั้งใจก็ตามแต่เธอก็ไม่ชอบ“ฉันละเมอ !” หญิงสาวโกหกกตตน์มองหญิงสาวเเละไม่คิดว่าจะละเมอออกมาได้จงใจถีบตกเตียงจรีภรณ์มองหน้าเขาก่อนหันไปทางอื่น ไม่นานนักได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำจึงส่งสายตามองประตูพลางลอบถอนหายใจออกมา ก็ใครให้ใช้นอนไม่ดูเเบบนั้นกันเล่า สมควรโดนเเล้ว !หญิงสาวขยับตัวลงจากเตียง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบชุดที่จะใส่ออกมา ครั้นมองเสื้อผ้าเเต่ละชุดตรงหน้าแล้วก็อยากจะร้องไห้ พริมมาไม่ชอบใส่กางเกงขายาวเลยหรือไงกั
Read more

บทที่ 6 ไม่มีใครได้ยิน

“จะนอนก็นอนไปเถอะน่า !” หญิงสาวข่มเสียงพูดก่อนเดินมาวางกระเป๋าและหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปในห้องน้ำจรีภรณ์ล้างหน้าและยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกเป็นเวลานาน แม้จะรู้ว่าผู้หญิงที่มองเห็นไม่ใช่ตัวเธอก็ตามทั้งรูปร่างหน้าตาทุกอย่างต่างกันโดยสิ้นเชิง...เธอรับรู้ถึงความหนาวจากลมที่พัดผ่านกายเธอเข้ามาได้ พลันหันมองว่ามีช่องลมหรือไม่ทว่าในห้องนี้ปิดหมดไม่มีแม้แต่รูหนูเข้า แล้วลมพัดเย็นเยือกนี้มาจากไหน ?แม้จะสงสัยแต่จรีภรณ์ก็ไม่ได้สนใจมากกว่าการถอดเสื้อผ้าของตนเองและลงแช่ในอ่าง…‘ออกไปซะ !’ เสียงสะท้อนดังขึ้น ทว่าไม่มีใครได้ยิน ร่างโปร่งปรากฏชัดเจนและมองไปยังหญิงสาวที่อาบน้ำอยู่ในอ่าง หยดน้ำตาจากขอบตา แดงก่ำไหลลงมาด้วยความเจ็บปวด‘เอาร่างของฉันคืนมา !’แม้ว่าจะพูดดังแค่ไหนอีกฝ่ายก็ไม่มีทางได้ยิน วิญญาณสาวเคลื่อนเข้ามาหาจนแทบชิดติดใบหน้าของร่างตัวเอง...แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นมองไม่เห็น ทำได้เพียงแค่ตะโกนสุดเสียงทั้งที่ไม่มีใครได้ยิน‘ออกไปซะ ! ออกไป !’หญิงสาวเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้งหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาเป่าให้แห้งและหวีผม ก่อนเดินไปที่เตียงขยับตัวขึ้นนอนด้วยความเหนื่อยล้าบรรยากาศคืนนี้ดูหนาวผิดปกติจาก
Read more

บทที่ 7 ความรัก

“อาว่าสินค้าตัวใหม่ของเราที่นำออกสู่ตลาดไป ยังไม่ค่อยได้รับผลตอบรับที่ดีมากนัก ถ้าจะขยายโรงงานในตอนนี้ อาว่าอย่าเพิ่งเลยจะดีกว่า” ธีทัตเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่กันตภณมีความเห็นคิดว่าการขยายโรงงานผลิตสินค้าเพิ่ม เพื่อผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการของตลาดกตตน์นิ่งไม่แสดงความคิดเห็นอะไร ปล่อยให้พี่ชายเป็นฝ่ายเสนอ ถึงจะไม่ค่อยชอบการกระทำของอาธีทัตเท่าไหร่ แต่ก็เป็นถึงผู้อาวุโสและเพื่อนเก่าแก่ของบิดา“แต่สินค้าของเราเพิ่งจะวางออกสู่ตลาดได้ไม่นาน นอกจากนี้ก็ยังไม่เข้าถึงผู้บริโภคมากพอ ถ้าหากทำการโปรโมทการตลาด ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น น่าจะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นนะครับ” หนึ่งในคณะกรรมการพูดแสดงความคิดเห็น“นั่นสิครับ สินค้าตัวอื่นๆ ที่วางขายก็ยอดดีเกินคาดหมด” คณะกรรมการอีกคนพูดเสริมทันทีไม่สำเร็จผล เพราะคณะกรรมการนั้นเห็นด้วยกับการตัดสินใจของกันตภณและกตตน์ ทำให้ธีทัตรู้สึกไม่ชอบใจที่ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้ด้วย“งั้นเรื่องนี้รอหนูพริมมาอีกทีไหม…ยังไงก็เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน น่าจะให้เขามีส่วนกับการตัดสินใจด้วย” ธีทัตพยายามค้านให้ได้มากที่สุด “หลานสองคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง”กตตน์ถอ
Read more

บทที่ 8 เสียงเรียกที่สามีไม่มีวันได้ยิน I

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ กตตน์ไปส่งแพรวรุ้งก่อนกลับมาทำงานต่อที่บริษัท เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องทำงาน เลขา ฯ ก็บอกว่าพี่ชายเข้ามารอพบอยู่ก่อนเเล้ว“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องมองพี่ชายที่นั่งรออยู่บนโซฟารับรอง เขาก้าวเข้ามาเเละนั่งลงฝั่งตรงข้าม“ออกไปกับแพรวรุ้งมาอีกใช่ไหม ?” กันตภณเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง มองน้องชายด้วยความไม่พอใจ หากไม่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาของพนักงานคงไม่รู้เลยว่าเจ้าน้องชายออกไปทานมื้อกลางวันกับแพรวรุ้งอีกแล้ว หนำซ้ำฝ่ายหญิงยังมาหาเองถึงที่ด้วย“ครับ มีอะไร ?”“ช่วงนี้พริมไม่อยู่จะทำอะไรก็รักษาน้ำใจเมียเราบ้างนะ ถึงจะเป็นผู้หญิงที่เราไม่รักก็เถอะ” กันตภณตักเตือน“เรื่องนี้พี่ก็รู้ผมไม่สนใจ อีกอย่างถ้าไม่เพราะคุณแม่บังคับให้แต่งงานกับพริมมาเเล้ว…ผมคงไม่มีวันแต่งกับเธอ” กตตน์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ถ้าไม่มีอะไรเเล้ว ผมจะทำงานต่อ”กันตภณถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้อีกกี่สิบครั้ง กตตน์ก็ไม่เคยสนใจเเม้เเต่น้อย คงได้เเต่หวังว่าสักวันหนึ่งจะรู้ตัวเองจริงๆ“เอาเถอะ พี่ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้เท่าไหร่ เเต่ยังไงวันนี้ก็กลับมานอนที่บ้านด้ว
Read more

บทที่ 9 เสียงเรียกที่สามีไม่มีวันได้ยิน II

เป็นอีกคืนที่จรีภรณ์ไม่ได้นอน แม้จะบอกว่าหลับตาสนิทแต่ทว่าในใจกลับคิดหวาดระแวงมากจนเกินไป แม้กระทั่งเดินไปเข้าห้องน้ำกลางดึกยังไม่กล้าด้วยซ้ำไป จนต้องอดกลั้นรอถึงตะวันพ้นขอบฟ้า แล้วรีบจัดการกิจวัตรส่วนตัวในตอนเช้าให้เสร็จอย่างรวดเร็วหญิงสาวไม่ได้แต่งหน้าตามที่มารวีสอนเลยสักนิดเพียงแค่ทา แป้งตลับก็มากเกินพอแล้ว หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เดินลงมาจากห้องพร้อมกับชายหนุ่มเพื่อรับประทานอาหารเช้า“พริม...เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือลูก ทำไมตาคล้ำแบบนั้น” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง นั่นเพราะว่าเมื่อคืนวานก่อนก็ไม่ได้นอน พอกลับมาเมื่อคืนก็ถูกวิญญาณของพริมมาหลอนจนไม่ได้นอนทั้งคืนอีกจรีภรณ์ยิ้มเจื่อนๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น“แล้วแบบนี้จะไปทำงานไหวหรือคะคุณแม่ ? ให้ยัยพริมพักอีกสักวันจะดีไหม ?” มารวีเอ่ยขึ้นพลางมองน้องสะใภ้อย่างเห็นใจ ใบหน้าคล้ำซีดเซียวแทบไม่มีแรง“ก็ดีนะ ส่วนเรื่องงานที่เราบอกว่าต้องรอพริมตัดสินใจเพื่อประชุม เลื่อนไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ยัยพริมใช่ว่าจะจำอะไรได้ด้วย” บวรลักษณ์พูดขึ้นลูกชายทั้งสองจึงตอบรับและทานข้าวเช้ากันอย่างเงียบๆ ในขณะที่จรีภรณ์กำลังคิดอยู่
Read more
PREV
12
DMCA.com Protection Status