Share

บทที่ 5 งานอำลา

แสงอรุณสอดผ่านม่านในยามเช้า หญิงสาวพลิกร่างซุกใต้ผ้าห่มหนีแสงด้วยความรำคาญ มือขยับเล็กน้อยแต่ก็ตกใจสะดุ้งตื่นทันทีเมื่อมือของ ชายหนุ่มทับอยู่ที่หน้าอกของเธอ

“เฮ้ย !” จรีภรณ์เด้งตัวขึ้นดึงผ้าห่มและขยับเท้าออกแรงถีบทันที

ตุบ ! ร่างของกตตน์ร่วงลงกระแทกพื้น ทำให้เขาตื่นขึ้นในทันที ชายหนุ่มขยับตัวร้องด้วยความเจ็บ เงยหน้าส่งสายตามองหญิงสาว

“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย !” กตตน์มองพลางขยับตัวลุกขึ้น จากที่ง่วงอยู่ตอนนี้ตาสว่างขึ้นมาเลย

จรีภรณ์มองคนตัวใหญ่ด้วยความไม่พอใจ ต่อให้จะไม่ใช่เจ้าของร่างนี้แต่แรกแต่เมื่อเธอมาอยู่ในร่างนี้แล้วไม่มีทางเด็ดขาดที่จะให้ผู้ชายโดนตัว ถึงแม้จะเป็นการไม่ตั้งใจก็ตามแต่เธอก็ไม่ชอบ

“ฉันละเมอ !” หญิงสาวโกหก

กตตน์มองหญิงสาวเเละไม่คิดว่าจะละเมอออกมาได้จงใจถีบตกเตียง

จรีภรณ์มองหน้าเขาก่อนหันไปทางอื่น ไม่นานนักได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำจึงส่งสายตามองประตูพลางลอบถอนหายใจออกมา ก็ใครให้ใช้นอนไม่ดูเเบบนั้นกันเล่า สมควรโดนเเล้ว !

หญิงสาวขยับตัวลงจากเตียง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบชุดที่จะใส่ออกมา ครั้นมองเสื้อผ้าเเต่ละชุดตรงหน้าแล้วก็อยากจะร้องไห้ พริมมาไม่ชอบใส่กางเกงขายาวเลยหรือไงกัน

จรีภรณ์เลือกชุดอยู่นานสองนานเเต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ จนสุดท้ายทำใจเเล้วว่าต้องยอมใส่ไปก่อน แค่วันนี้เเหละน่า เดี๋ยวจะออกไปซื้อใหม่ยกตู้เลยคอยดู !

ประตูห้องน้ำเปิดออกมา พอดีกับที่หญิงสาวปิดตู้เสื้อผ้าลง สายตาหันเจอชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวเช่นเมื่อวาน

“นี่คุณ ชุดคลุมก็มีทีหลังก็ใส่ออกมาสิ”

จรีภรณ์ตะโกนบอก ทว่ากตตน์ไม่ได้สนใจที่จะฟัง

“หูหนวกหรือไงกัน !” เธอบ่นเสียงดังเหลือบมองคนตัวใหญ่ด้วย ความไม่พอใจ

กตตน์หันมาทันทีเมื่อได้ยิน เเต่เจ้าตัวก็เดินเข้าห้องน้ำไปเสียเเล้ว ถ้าพี่ชายไม่บอกว่าหญิงสาวเสียความทรงจำ จะไม่เชื่อเลยว่าผู้หญิงเมื่อครู่นี้คือ พริมมาจริงๆ เพราะหล่อนออกจะดูเรียบร้อยและไม่พูดจาเเบบนี้เเน่นอน

ลงจากห้องมารับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน ต่างคนต่างเดินลงมาไม่สนใจ จรีภรณ์ก็ไม่คิดว่าจำเป็นต้องพูด ‘คะ ขา’ กับสามีของพริมมา เเละมันก็น่าขนลุกมากหากเธอต้องพูดออกไป

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จทุกคนก็ต่างแยกกันไปทำงานซึ่งเหลือเพียงจรีภรณ์ที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี

“ช่วงนี้หนูอยู่บ้านก่อนก็ได้ รอหายดีเเล้วเดี๋ยวให้ตาไม้เริ่มสอนงานใหม่” บวรลักษณ์เอ่ยขึ้นเมื่อมองสายตาของลูกสะใภ้ที่สับสนตัดสินใจไม่ถูก

จรีภรณ์ยิ้มรับเฉยๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไร

“เมื่อคืนนอนกับตาไม้เป็นไงบ้าง?” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ก็เฉยๆ …ค่ะ” จรีภรณ์ตอบ “มีอะไรหรือ...?”

“เปล่าหรอกจ้ะ” บวรลักษณ์พูดแทรกขึ้นทันที ใจก็แอบหวังว่า ลูกชายจะสนใจสะใภ้สักนิดเเละยอมมีหลานให้อุ้มสักคน

“เออ…” หญิงสาวลากเสียงยาว ทำใจลำบากที่ต้องเรียกแม่สามีของพริมมาว่า ‘คุณแม่คะ…นะคะ’

จรีภรณ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“คุณแม่คะ คืนนี้พริมจะออกไปงานศพเพื่อนหน่อยน่ะค่ะ”

“ตายจริง ! เพื่อนคนไหนหรือ ?” บวรลักษณ์ถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

จรีภรณ์อ้ำอึ้งตอบลำบากใจ หาใช่เพื่อนคนไหนแต่อย่างใดแต่เป็นร่างของเธอเอง !

“เพื่อนเก่าค่ะ นานมากแล้ว พอดีเพื่อนอีกคนโทรมาบอกเมื่อเช้านี้”

“เอาเถอะ เดี๋ยวตาไม้กลับมาแม่จะให้…”

“ไม่เป็นไรค่ะ คือ…พริมไปเองได้” หญิงสาวรีบบอกทันที “อีกอย่าง ไม่อยากจะ…เออ…”

“เอาเถอะ ตามใจเเล้วกัน…เดี๋ยวหากกลับดึกไม่มีรถโทรบอกแม่นะ จะได้ให้คนไปรับกลับมา กลับดึกๆ คนเดียวมันอันตราย”

จรีภรณ์ยิ้มรับโดยไม่พูดอะไรอีก เรื่องกลับบ้านไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากเท่ากับการที่ต้องไปงานศพของตัวเอง...

มาถึงแล้ว…งานอวมงคลที่เต็มไปด้วยความโศก จรีภรณ์ได้แต่ยืนอยู่นอกงานห่างๆ โดยไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป ดวงตากลมมองเพื่อนร่วมงานในแผนกและเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็ต่างทยอยกันเดินเข้ามานั่งฟัง พระสวด ทว่าเท้าของเธอกลับก้าวต่อไปไม่ออก ร่างกายไม่เคยสั่นสะท้านแบบนี้มาก่อน

เธอไม่กล้าเข้าไป...

หญิงสาวค่อยๆ เดินถอยหลังออกห่าง ใจไม่กล้ามากพอที่จะเข้าไป วันนี้ไอ้ต๋อมได้ลาจากไปแล้ว หลังจากนี้จะไม่มีคนที่ชื่อ ‘จรีภรณ์’ อีก

สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เข้าไปในงาน จรีภรณ์เดินออกจากวัดขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน เป็นเพราะใจไม่แข็งพอจริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมามองร่างของตัวเองอีกครั้ง ใช่แล้วมันทำใจยากที่บอกว่าเธอตายแล้ว

หญิงสาวนั่งคิดเรื่องมากมายก็อดที่จะน้ำตาไหลออกมาไม่ได้ ไม่รู้ว่าสวรรค์จงใจกลั้นแกล้งให้เธอทรมานทั้งเป็นอยู่ในร่างนี้หรือไม่

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หญิงสาวนั่งคิดเพลินมาจนกระทั่งรถแท็กซี่จอดลงที่หน้าประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์ จรีภรณ์หยิบเงินจ่ายก่อนจะลงจากรถเปิดประตูเดินเข้าไปข้างในบ้าน

เป็นครั้งแรกที่รู้สึกสับสนใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าเดินเข้ามาในบ้านแล้ว

“กลับมาแล้วหรือ ทำไมกลับมาเร็ว แม่นึกว่าจะกลับดึก ว่าจะให้ ตาไม้ออกไปรับอยู่เชียว” บวรลักษณ์เดินเข้ามาหา

จรีภรณ์หันมองก่อนจะยิ้มรับ “เออ...พอดีขอกลับมาก่อน...”

“งั้นเหรอจ้ะ เอาเถอะนี่ก็ดึกแล้วกินอะไรมาหรือยัง”

หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบ

“ขอตัวก่อนนะคะ พอดีรู้สึกไม่ค่อยสบาย”

“จ้ะ ไปพักเถอะ”

จรีภรณ์ยิ้มให้บวรลักษณ์แล้วเดินขึ้นบันไดและตรงมาที่ห้องทันที

ครั้นเมื่อประตูห้องปิดลงหญิงสาวก็ทรุดตัวลงกับพื้น หยดน้ำตาค่อยๆ ไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ นี่เธออ่อนแอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน... จรีภรณ์อยากจะบอกให้หัวใจเข็มแข็ง แต่ทว่าตอนนี้เธอทำไม่ได้

กตตน์เดินออกจากห้องน้ำมาส่งสายตามองไปยังประตูเห็นภรรยานั่งอยู่ก็อดแปลกใจไม่ได้ เขาไม่ได้เดินเข้าไปหาเพียงแต่เอ่ยขึ้นเสียงดัง

“จะนั่งจนถึงเช้าไหม ?”

จรีภรณ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยุงร่างกายลุกขึ้น พลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาออก

“จะนอนก็นอนไปเถอะน่า !” หญิงสาวข่มเสียงพูดก่อนเดินมาวางกระเป๋าและหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ

จรีภรณ์ล้างหน้าและยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกเป็นเวลานาน แม้จะรู้ว่าผู้หญิงที่มองเห็นไม่ใช่ตัวเธอก็ตามทั้งรูปร่างหน้าตาทุกอย่างต่างกันโดยสิ้นเชิง...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status