Home / โรแมนติก / มายาปฏิพัทธ์ / บทที่ 6 ไม่มีใครได้ยิน

Share

บทที่ 6 ไม่มีใครได้ยิน

Author: Mamaya Writer
last update Last Updated: 2024-10-15 11:37:46

“จะนอนก็นอนไปเถอะน่า !” หญิงสาวข่มเสียงพูดก่อนเดินมาวางกระเป๋าและหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ

จรีภรณ์ล้างหน้าและยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกเป็นเวลานาน แม้จะรู้ว่าผู้หญิงที่มองเห็นไม่ใช่ตัวเธอก็ตามทั้งรูปร่างหน้าตาทุกอย่างต่างกันโดยสิ้นเชิง...

เธอรับรู้ถึงความหนาวจากลมที่พัดผ่านกายเธอเข้ามาได้ พลันหันมองว่ามีช่องลมหรือไม่ทว่าในห้องนี้ปิดหมดไม่มีแม้แต่รูหนูเข้า แล้วลมพัดเย็นเยือกนี้มาจากไหน ?

แม้จะสงสัยแต่จรีภรณ์ก็ไม่ได้สนใจมากกว่าการถอดเสื้อผ้าของตนเองและลงแช่ในอ่าง…

‘ออกไปซะ !’ เสียงสะท้อนดังขึ้น ทว่าไม่มีใครได้ยิน ร่างโปร่งปรากฏชัดเจนและมองไปยังหญิงสาวที่อาบน้ำอยู่ในอ่าง หยดน้ำตาจากขอบตา แดงก่ำไหลลงมาด้วยความเจ็บปวด

‘เอาร่างของฉันคืนมา !’

แม้ว่าจะพูดดังแค่ไหนอีกฝ่ายก็ไม่มีทางได้ยิน วิญญาณสาวเคลื่อนเข้ามาหาจนแทบชิดติดใบหน้าของร่างตัวเอง...แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นมองไม่เห็น ทำได้เพียงแค่ตะโกนสุดเสียงทั้งที่ไม่มีใครได้ยิน

‘ออกไปซะ ! ออกไป !’

หญิงสาวเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้งหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาเป่าให้แห้งและหวีผม ก่อนเดินไปที่เตียงขยับตัวขึ้นนอนด้วยความเหนื่อยล้า

บรรยากาศคืนนี้ดูหนาวผิดปกติจากเมื่อวาน รอบผิวกายดูเย็นราวกับมีลมพัดผ่านตลอดทั้งที่หน้าต่างและม่านในห้องก็ปิดสนิท แอร์ที่เปิดก็ดูไม่ได้เย็นมากนัก จรีภรณ์ขยับตัวขึ้นนอนพลางยกมือสองข้างลูบที่ต้นแขน ก่อนจะหันมามองชายหนุ่มข้างตัวที่หลับไปแล้ว

จรีภรณ์ขยับตัวนอนลงคลุมผ้าห่มแล้วข่มตาหลับ ทว่าเสียงลมพัดจากหน้าต่างที่ห่างไม่ไกลจากเตียงดังมากจนทำให้ต้องหันไปมอง ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก เมื่อสายตากำลังจ้องมองหญิงสาวผมยาวตรงหน้า ร่างโปร่งแสงราวกับเงามืดในยามค่ำคืน ใบหน้าของวิญญาณสาวค่อยๆ เงยขึ้นมาและจ้องมาที่เธอ

“กรี๊ดดดดดด ผีหลอก !”

หญิงสาวตกใจขยับตัวถอยออกห่างโดยไม่รู้เลยว่ากำลังขึ้นทับตัว ชายหนุ่มเสียแล้ว กตตน์สะดุ้งตื่นเมื่อคนตัวเล็กกำลังปีนขึ้นทับตัวเขา

“เฮ้ย ! คุณทำบ้าอะไร !” เขาตกใจและพยายามผลักหญิงสาวออก แต่มือของเธอกลับยึดไว้แน่น หนำซ้ำยังก้มหน้าซุกแผ่นอกอีก

“ผีหลอก ผี...ฮือๆ” จรีภรณ์ไม่ได้สนใจเลยว่าเธอนั้นนอนทับอยู่บนตัวของกตตน์แล้ว ตอนนี้สนเพียงหญิงสาวผมยาวที่จ้องมองมาราวกับต้องการเอาชีวิต

กตตน์พยายามใจเย็นก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “ผี ?”

จรีภรณ์ยกมือชี้ไปทางหน้าต่างทั้งที่หน้าของเธอก็ยังซุกอยู่ที่อกของชายหนุ่ม ไม่แม้แต่จะหันมองตาม เขาถอนหายใจออกมาและหันไปมองตามทิศทางที่ภรรยาบอก ทว่าทุกอย่างนั้นดูปกติเรียบร้อยดี

“นี่คุณ” กตตน์เขย่าตัวเธอ “จะนอนกอดผมแบบนี้อีกนานไหม ?”

จรีภรณ์หรี่ตาขึ้นมอง สะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนรีบขยับตัวออกห่าง

จากชายหนุ่มทันที ทำอะไรไม่ถูกเพราะนอกจากจะอายที่ซุกอกเขาแล้วยังจะกลัวผีที่เจอเมื่อกี้นี้อีก

“คุณยังไม่หายดีใช่ไหม ? พรุ่งนี้ไปหาหมออีกทีดีเปล่า ผมว่าบางทีอาจจะ...”

“ว่าใครฮะ !” หญิงสาวเถียงกลับรู้ความหมายที่เขาพูด

“ฉันไม่ได้บ้านะ แต่ฉันเห็นผีจริงๆ”

กตตน์ถอนหายใจออกมา “งั้นคุณตั้งสติแล้วหันกลับไปดูใหม่”

จรีภรณ์ส่ายหน้ารัวๆ

“งั้นก็นั่งแบบนั้นไปทั้งคืน ผมจะนอนแล้ว” กตตน์ไม่ได้สนใจ หญิงสาว เขาขยับตัวลงนอนและพลิกตัวหันหลังให้ จรีภรณ์ก็ขยับตัวลงนอนโดยไม่คิดจะหันไปมองทางหน้าต่าง หนำซ้ำยังยอมขยับตัวนอนใกล้ๆ เขา อย่างน้อยมันก็น่าปลอดภัยมากกว่านอนห่างๆ

“นี่คุณ...คุณ...”

เขาหลับไปแล้ว...หญิงสาวจึงข่มตานอน โดยที่ไม่ว่าได้ยินเสียงอะไรก็จะไม่ลืมตาตื่นขึ้นมามองเด็ดขาด !

วิญญาณสาวปรากฏตัวอยู่ที่ปลายเตียง สายตามองชายหนุ่มด้วยความอาลัยอาวรณ์ พลันมองนานก็น้ำตาไหลออกมา พยายามเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มและกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและทรมาน

‘คุณกตตน์...ช่วยพริมด้วย !’

ตื่นเช้ามาไม่ต่างจากผีดิบเท่าไหร่เลย ใบหน้าดูหมองคล้ำโทรมอย่างหนัก สาเหตุมาจากเมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวแต่หวาดระแวงเสียงลมพัด เสียงอะไรเล็กๆ ที่แว่วเข้าหูตลอดที่นอน แม้จะไม่ลืมตาขึ้นมาดูแต่ก็นอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่มจนถึงเช้า

ใครว่าเธอชอบดูหนังฆาตกรรมแล้วไม่กลัวผีบ้างล่ะ ! ชอบน่ะก็ชอบที่เป็นแนวสืบสวน แต่แนวผีเน้นๆ ขอลาเลย

จรีภรณ์มองร่างของพริมมาที่สะท้อนอยู่ในกระจกอย่างสมเพช หน้าตาออกมาจะดูดี แต่ไม่นอนเพียงคืนเดียว ก็พาตกใจได้เหมือนกัน

กตตน์เดินออกจากห้องน้ำหันมองหญิงสาวก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

“เมื่อวานไม่ได้นอนหรือ ?”

จรีภรณ์หันมองชายหนุ่มแล้วเบ้ปากใส่ทันที ก็ใช่น่ะสิตาบ้า ! จะนอนหลับได้ยังไง เสียงลมพัดก็น่ากลัว ไหนจะเสียงสุนัขหอนอีก ใครจะไปหลับลง !

“วันนี้แต่งหน้าหน่อยก็ดีนะ” กตตน์เอ่ยขึ้นพลางหัวเราะในลำคอ

“รู้แล้วน่า !” จรีภรณ์ส่งสายตามองด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะหันไปยังโต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองเครื่องสำอาง

ฮ่าๆ แต่งหน้า ! คนอย่างจรีภรณ์แต่งหน้าเป็นซะที่ไหนเล่า ! แม้มือจะหยิบตลับแป้งขึ้นมาแต่ทว่าต้องยอมรับจริงๆ ใช้ไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี

“นี่คุณ…คุณแต่งหน้าเป็นไหม ?”

จรีภรณ์หันหาชายหนุ่มที่กำลังใส่ชุดเตรียมไปทำงาน

กตตน์ทำหน้านิ่งขณะที่มือจัดเนกไทโดยไม่สนใจหญิงสาว จรีภรณ์เดินเข้าไปหาดึงมือเขาที่จัดเนกไทอยู่ออกแล้วจัดให้อย่างสบายๆ

“เสร็จเเล้ว…” หญิงสาวพูดด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะส่งตลับแป้งให้ชายหนุ่ม

“ผมก็แต่งหน้าไม่เป็น แต่ผมจะให้พี่เมย์ขึ้นมาสอนคุณ” เมื่อพูดจบก็เดินมาหยิบกระเป๋าทำงานออกจากห้องไป ทางจรีภรณ์ได้แต่มองประตูปิดลงด้วยความไม่พอใจ

“ไอ้ขี้เก๊ก !”

หญิงสาวกำลังขยับตัวแต่รับรู้ถึงลมเย็นๆ ที่พัดผ่านไปมา หน้าต่างก็ปิดอยู่ไม่มีลมเข้า เพราะเปิดเพียงผ้าม่านเท่านั้น แล้วลมมาจากไหนกันล่ะ !

หรือว่า…ผีเมื่อวาน !

ขาทั้งสองข้างของจรีภรณ์สั่นจนเดินไปไหนไม่ออก หญิงสาวรับรู้ถึงบางสิ่งที่กำลังเข้ามาหาเธอ บรรยากาศในตอนนี้ แสดงถึงความเศร้าโศก โดดเดี่ยวและอาลัย รุมเร้าไปรอบกาย ความรู้สึกเดียวกันกับที่สัมผัสเมื่อคืน…นี่จะโดนผีหลอกแต่เช้าเลยหรือเนี่ย !!

‘ออกไปซะ…ออกไป…!’

เสียงสะท้อนดังเข้าที่โสตประสาตของหู หญิงสาวมั่นใจว่าไม่ได้หูฝาดเป็นแน่ จรีภรณ์ขาสั่นทรุดลงกับพื้นและรีบยกมือขึ้นไหว้

“อย่ามาหลอกเลย ฮือๆ ฉันจะทำบุญไปให้…นะ…” จรีภรณ์พูดออกมาโดยไม่คิดจะเงยหน้ามองสิ่งรอบตัว

“ยัยพริม…”

“กลัวแล้ว ฮือๆ”

“ยัยพริมนี่พี่เอง…ยัยพริม !”

จรีภรณ์ได้ยินเสียงของมารวีจึงหยุดร้องโวยวายและค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองช้าๆ แต่ก็ไม่วายที่จะจับเนื้อจับตัวอีกฝ่ายให้เเน่ใจ

“เป็นอะไรไป ?” มารวีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“เมื่อกี้…” จรีภรณ์แทบอยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ทว่ามารวีส่ายหน้าถอนหายใจออกมา

“เอาเถอะ ลงไปกินข้าวเช้าก่อน”

จรีภรณ์เพียงพยักหน้าเดินออกจากห้องไปพร้อมกับมารวี

ร่างโปร่งแสงปรากฏขึ้นอีกครั้งทั้งน้ำตา ส่งสายตามองไปที่ประตูด้วยความอาวรณ์

‘พี่เมย์…พริมอยู่นี่ ! ช่วยพริมด้วย...!’

วิญญาณสาวร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ทว่าไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครรู้เลยว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่...พริมมา !

Related chapters

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 7 ความรัก

    “อาว่าสินค้าตัวใหม่ของเราที่นำออกสู่ตลาดไป ยังไม่ค่อยได้รับผลตอบรับที่ดีมากนัก ถ้าจะขยายโรงงานในตอนนี้ อาว่าอย่าเพิ่งเลยจะดีกว่า” ธีทัตเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่กันตภณมีความเห็นคิดว่าการขยายโรงงานผลิตสินค้าเพิ่ม เพื่อผลิตสินค้าให้ทันต่อความต้องการของตลาดกตตน์นิ่งไม่แสดงความคิดเห็นอะไร ปล่อยให้พี่ชายเป็นฝ่ายเสนอ ถึงจะไม่ค่อยชอบการกระทำของอาธีทัตเท่าไหร่ แต่ก็เป็นถึงผู้อาวุโสและเพื่อนเก่าแก่ของบิดา“แต่สินค้าของเราเพิ่งจะวางออกสู่ตลาดได้ไม่นาน นอกจากนี้ก็ยังไม่เข้าถึงผู้บริโภคมากพอ ถ้าหากทำการโปรโมทการตลาด ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น น่าจะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นนะครับ” หนึ่งในคณะกรรมการพูดแสดงความคิดเห็น“นั่นสิครับ สินค้าตัวอื่นๆ ที่วางขายก็ยอดดีเกินคาดหมด” คณะกรรมการอีกคนพูดเสริมทันทีไม่สำเร็จผล เพราะคณะกรรมการนั้นเห็นด้วยกับการตัดสินใจของกันตภณและกตตน์ ทำให้ธีทัตรู้สึกไม่ชอบใจที่ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้ด้วย“งั้นเรื่องนี้รอหนูพริมมาอีกทีไหม…ยังไงก็เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน น่าจะให้เขามีส่วนกับการตัดสินใจด้วย” ธีทัตพยายามค้านให้ได้มากที่สุด “หลานสองคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง”กตตน์ถอ

    Last Updated : 2024-10-15
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 8 เสียงเรียกที่สามีไม่มีวันได้ยิน I

    หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ กตตน์ไปส่งแพรวรุ้งก่อนกลับมาทำงานต่อที่บริษัท เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องทำงาน เลขา ฯ ก็บอกว่าพี่ชายเข้ามารอพบอยู่ก่อนเเล้ว“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องมองพี่ชายที่นั่งรออยู่บนโซฟารับรอง เขาก้าวเข้ามาเเละนั่งลงฝั่งตรงข้าม“ออกไปกับแพรวรุ้งมาอีกใช่ไหม ?” กันตภณเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง มองน้องชายด้วยความไม่พอใจ หากไม่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาของพนักงานคงไม่รู้เลยว่าเจ้าน้องชายออกไปทานมื้อกลางวันกับแพรวรุ้งอีกแล้ว หนำซ้ำฝ่ายหญิงยังมาหาเองถึงที่ด้วย“ครับ มีอะไร ?”“ช่วงนี้พริมไม่อยู่จะทำอะไรก็รักษาน้ำใจเมียเราบ้างนะ ถึงจะเป็นผู้หญิงที่เราไม่รักก็เถอะ” กันตภณตักเตือน“เรื่องนี้พี่ก็รู้ผมไม่สนใจ อีกอย่างถ้าไม่เพราะคุณแม่บังคับให้แต่งงานกับพริมมาเเล้ว…ผมคงไม่มีวันแต่งกับเธอ” กตตน์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ถ้าไม่มีอะไรเเล้ว ผมจะทำงานต่อ”กันตภณถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้อีกกี่สิบครั้ง กตตน์ก็ไม่เคยสนใจเเม้เเต่น้อย คงได้เเต่หวังว่าสักวันหนึ่งจะรู้ตัวเองจริงๆ“เอาเถอะ พี่ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้เท่าไหร่ เเต่ยังไงวันนี้ก็กลับมานอนที่บ้านด้ว

    Last Updated : 2024-10-15
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 9 เสียงเรียกที่สามีไม่มีวันได้ยิน II

    เป็นอีกคืนที่จรีภรณ์ไม่ได้นอน แม้จะบอกว่าหลับตาสนิทแต่ทว่าในใจกลับคิดหวาดระแวงมากจนเกินไป แม้กระทั่งเดินไปเข้าห้องน้ำกลางดึกยังไม่กล้าด้วยซ้ำไป จนต้องอดกลั้นรอถึงตะวันพ้นขอบฟ้า แล้วรีบจัดการกิจวัตรส่วนตัวในตอนเช้าให้เสร็จอย่างรวดเร็วหญิงสาวไม่ได้แต่งหน้าตามที่มารวีสอนเลยสักนิดเพียงแค่ทา แป้งตลับก็มากเกินพอแล้ว หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เดินลงมาจากห้องพร้อมกับชายหนุ่มเพื่อรับประทานอาหารเช้า“พริม...เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือลูก ทำไมตาคล้ำแบบนั้น” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง นั่นเพราะว่าเมื่อคืนวานก่อนก็ไม่ได้นอน พอกลับมาเมื่อคืนก็ถูกวิญญาณของพริมมาหลอนจนไม่ได้นอนทั้งคืนอีกจรีภรณ์ยิ้มเจื่อนๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น“แล้วแบบนี้จะไปทำงานไหวหรือคะคุณแม่ ? ให้ยัยพริมพักอีกสักวันจะดีไหม ?” มารวีเอ่ยขึ้นพลางมองน้องสะใภ้อย่างเห็นใจ ใบหน้าคล้ำซีดเซียวแทบไม่มีแรง“ก็ดีนะ ส่วนเรื่องงานที่เราบอกว่าต้องรอพริมตัดสินใจเพื่อประชุม เลื่อนไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ยัยพริมใช่ว่าจะจำอะไรได้ด้วย” บวรลักษณ์พูดขึ้นลูกชายทั้งสองจึงตอบรับและทานข้าวเช้ากันอย่างเงียบๆ ในขณะที่จรีภรณ์กำลังคิดอยู่

    Last Updated : 2024-10-15
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 20 ความอึดอัดเป็นเหตุ I

    ให้ตายสิ ! เธอรู้สึกอึดอัดเป็นบ้าเลยจรีภรณ์รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องมาเดินซื้อของพร้อมกับ ชายหนุ่ม เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ออกมาเดินข้างนอกพร้อมกับเขาและทุกคนในครอบครัว แต่ก็ไม่แย่เท่ากับในตอนนี้ที่ถูกหลอกและทิ้งให้อยู่กับกตตน์เพียงสองคนตามลำพังไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเป็นแผนของคุณพี่สะใภ้แน่นอน คิดว่าการเดินเที่ยวด้วยกันลำพังสองคนจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่ผิดถนัดเลยเพราะ ตาบ้าขี้เก๊กเดินไม่รอเธอ และเดินไปไม่มีจุดหมาย แค่เดินตามก็เหนื่อยจนไม่มีแรงพูดแล้ว รอหน่อยก็ไม่ได้ อย่าห้ามทันนะเดี๋ยวแม่ตบคว่ำเลยคอยดู !หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมองหาเก้าอี้นั่งโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ยังคงเดินนำไปเรื่อยๆ มองแผ่นหลังใหญ่จากหายไปกับฝูงชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเธอจึงไม่คิดที่จะตามต่อ“เดินเข้าไป ขานี่ทำด้วยเหล็กหรือไง !” บ่นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง‘ทำไมไม่รีบตามไป’ พริมมาปรากฏกายขึ้นนั่งข้างๆ จรีภรณ์“เฮ้ย !” หญิงสาวสะดุ้งตกใจและขยับตัวออกห่างทันที‘เธอยังไม่ชินอีกหรือไง’“ให้ชินก็บ้าแล้ว” พูด

    Last Updated : 2024-10-16
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 10 เพื่อนเก่า

    กว่าจะกลับถึงบ้านพระอาทิตย์ก็เกือบจะลับขอบฟ้า พอดีกับที่ทุกคนกลับมาหลังจากไปทำงาน จรีภรณ์เดินถือของเข้ามาในบ้านพลางส่งสายตามองชายหนุ่มร่างสูงและเบ้ปากให้ใส่ด้วยความหมั่นไส้“ทำไมไม่บอกว่าจะแวะซื้อของด้วยแม่จะได้ให้คนขับรถขับไปส่ง” บวรลักษณ์เอ่ยขึ้นในขณะที่เดินเข้ามาหา“นิดหน่อยเองค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะวางของลงที่พื้นไม่ทันไรสาวใช้สองคนก็เดินเข้ามาหาเเละหยิบขึ้นเดินจากไป จรีภรณ์ไม่ทันจะอ้าปากบอกห้ามด้วยซ้ำว่าไม่ต้องช่วย เเต่เมื่อนึกขึ้นได้ก็ถอนหายใจออกมาลืมไป…พริมมาเป็นคุณหนูถึงเวลารับประทานอาหารเย็น โต๊ะถูกจัดเรียบร้อย กับข้าวแสน อร่อยจากแม่บ้านฝีมือดี จรีภรณ์นั่งฝั่งตรงข้ามกตตน์พลางเหลือบมองเป็นระยะ ตลอดที่ป้ามาลัยตัดข้าวใส่จาน ใบหน้านิ่งขรึมต่างจากที่เห็นเมื่อตอนเที่ยงโดยสิ้นเชิง เเต่ช่างปะไร ไม่ใช่เรื่องของเธอ มันดีซะอีกที่เขาไม่สนใจเพราะนั่นหมายถึงอิสระของเธอนั่นเอง“จริงสิพริม…พรุ่งนี้เราไปทำงานไหวใช่ไหม ?” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นในขณะที่หันมองลูกสะใภ้จรีภรณ์ไม่รู้ว่างานแบบไหนที่พริมมาทำ ตอนนี้

    Last Updated : 2024-10-17
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 11 ทำงาน

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้า หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อยหนีความรำคาญ มือยกเอื้อมขึ้นปิดนาฬิกาปลุก พลางหรี่ตามองว่าชายหนุ่มข้างตัวนั้นตื่นหรือยัง เมื่อไม่เห็นร่างสูงใหญ่ของกตตน์เเล้ว จรีภรณ์จึงรีบขยับตัวลุกขึ้นบิดคลายเมื่อยเเละลงจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเลือกชุดที่จะใส่ออกทำงานในวันนี้ ต้องยอมรับว่าลืมนึกไปที่จะซื้อชุดทำงานมาด้วยเมื่อวาน หญิงสาวถอนหายใจออกมายอมรับชะตากรรม ร่างของพริมมาดูบอบบางเสื้อผ้าเเต่ละชุดก็ดูหรูสวยงาม ทว่าไม่ใช่รสนิยมของเธอเลยสักนิดรอไม่ถึงห้านาทีประตูห้องน้ำเปิดออก หญิงสาวเหลือบมองชายหนุ่มที่เดินออกมาเงียบๆ แล้วอดหมั่นไส้ในใจไม่ได้“วันนี้ช่วงเช้าผมจะไม่เข้าบริษัท คุณติดรถของพี่ไปเเล้วกัน”จรีภรณ์หันมองชายหนุ่ม นึกขึ้นได้ว่าหากไปทำงานเเบบนี้ถ้าไม่มีรถคงจะไม่สะดวกมากพอ อีกอย่างใช่ว่าเธอจะขับรถไม่เป็นเสียหน่อยมีเพื่อนช่วยสอนขับจนสอบใบขับขี่ผ่านอีกทั้งเวลาเที่ยวไกลๆ เธอก็มักเป็นคนขับให้ตลอด เพียงเเต่เมื่อก่อนเเค่เอาเงินเดือนเลี้ยงปากท้องก็แทบเเย่เเล้วเลยไม่มีปัญญาจะออกรถใหม่เเต่ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่มีปัญหาหรอกมั้งที่จะออกรถคันใหม่ เ

    Last Updated : 2024-10-18
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 12 ตั้งแต่วันนี้ฉันคือพริมมา I

    หญิงสาวหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดอ่าน จะว่าเข้าใจก็เข้าใจ จะว่ามีส่วนที่ไม่เข้าใจก็มีอยู่‘เธอจะนั่งทำอะไร !’ เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้จรีภรณ์นิ่งแข็งเป็นหินไม่กล้าขยับตัวพริมมาตามเธอมาด้วย ! อยากจะร้องไห้วิ่งหนีเลยในตอนนี้‘เปิดอ่านเอกสารเก่ามาอ่านก่อนสิ’“อะ…อืม !” จรีภรณ์รีบทำตามทันที ทว่าจะให้เซ็นได้อย่างไร ลายเซ็นของพริมมาไม่ใช่ลายเซ็นของเธอ “จะให้ฉันเซ็นยังไง...”จรีภรณ์หันไปพูดกับอีกฝ่ายอย่างลืมตัว สีหน้าของวิญญาณสาวดู ซีดขาวน่าตกใจ แต่ก็ยังดูสยองอยู่ดีถึงแม้ว่าจะไม่มีรอยเลือดหรือแผลที่น่ากลัว“ฉัน…”‘เปิดหาในเอกสารดูลายเซ็นเก่าๆ ที่ฉันเคยเซ็นไว้’ น้ำเสียงพริมมาดูเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ทำให้จรีภรณ์ดูสงบสติลง“หมาย...หมายถึงจะให้ฉันเซ็นแทนเหรอ ?”‘เธออยู่ในร่างฉันนะ จะให้ใครที่ไหนเซ็นอีกละ’ เสียงของพริมมาดังก้องไปทั่ว จรีภรณ์ไม่รอช้าที่จะเดินไปตู้เอกสารเพื่อค้นหาดูลายเซ็นเก่าๆของพริมมาทันที มือไม้สั่นแทบควบคุมไม่อยู่ เมื่อพริ

    Last Updated : 2024-10-19
  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 13 ตั้งแต่วันนี้ฉันคือพริมมา II

    จรีภรณ์หอบจนแทบหายใจไม่ทัน ไม่เคยรู้สึกเดินแล้วเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะร่างของพริมมาที่อ้อนแอ้นบอบบาง ไม่ถึกเหมือนร่างของเธอจึงยังไม่ชิน สายตาคู่มองไปยังเบื้องหน้าเมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดประตูขึ้นรถ ครั้นกำลังจะก้าวเดินตามไปก็ต้องหยุดชะงักลง...พริมมานั่งอยู่ที่เบาะหน้าข้างกตตน์ !เอาแล้วไง เมียสุดรักมาแล้วจรีภรณ์ตัดสินใจลำบากและยังไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป เพราะว่า พริมมานั่งอยู่ตรงที่นั้นและสายตาก็เอาแต่มองกตตน์ด้วยความอาลัยกตตน์มองภรรยาที่ยืนอยู่นอกรถไม่ยอมเดินมาสักที ชายหนุ่มจึงเปิดกระจกลงและพูดขึ้นว่า“คุณจะกลับบ้านเองใช่ไหม ?”“เปล่า ! ฉันแค่...” จรีภรณ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเข้าไปปรากฏว่าพริมมาหายไปแล้ว หญิงสาวรู้สึกโล่งอกจึงรีบเปิดประตูรถและขึ้นนั่งทันทีกตตน์ขับรถออกไปโดยที่นั่งเงียบๆ ราวกับว่ามีเขาอยู่เพียงคนเดียว บรรยากาศแบบนี้ทำให้จรีภรณ์รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก อยากจะคุยแต่ไม่รู้ว่าจะชวนเขาพูดเรื่องอะไรดี ได้เพียงแค่ถอนหายใจเหลือบมองและเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้เท่านั้นนั่งอยู่ในรถด้วยความหนาว

    Last Updated : 2024-10-20

Latest chapter

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 81 (ตอนพิเศษ) เมื่อผมอยากมีน้องสาว III (END)

    ครั้นเห็นสีหน้าของภรรยาก็รู้สึกสนุก เขายิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น “คุณอยากให้ผมหยุดไหม?”นั่นเป็นคำถามที่เขาควรถามหรือไม่?!จรีภรณ์ก้มหน้านิ่งลงด้วยความอายร่างกายกำลังเรียกร้องหาเขา ถ้าให้เธอหยุดตอนนี้...หญิงสาวขยับตัวลงเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม“ไม่อยากมีกอหญ้าให้ต้นน้ำแล้วหรือคะ?” น้ำเสียงหวานพูดเชิญชวนชายหนุ่ม กตตน์ใจอ่อนทันตา เพราะเสียงและสายตาที่ชวนเขาขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธลงได้กตตน์ดันหญิงสาวชิดกับขอบโต๊ะเขาจูบเธอก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กวางนอนกับโต๊ะทำงาน ของและกองเอกสารที่วางอยู่มุมโต๊ะถูกปัดหล่นที่พื้นโดยไม่มีใครสนใจชายหนุ่มฝั่งปลายจมูกลงที่ส่วนอ่อนไหวอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เขาสามารถทำให้เธอตอบสนองและครางออกมาได้มากกว่าเดิม“คุณชอบไหม?”&nb

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 80 (ตอนพิเศษ) เมื่อผมอยากมีน้องสาว II

    ต้นน้ำวิ่งออกมาจากห้องหันมองประตูด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความอดทน เพราะอยากจะมีน้องสาวไวๆ จึงต้องยอมนอนคนเดียวตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ทั้งยังต้องปล่อยให้พ่ออยู่แม่ด้วยกันนานๆ“กำลังอดทน?”จรีภรณ์ทวนคำพูดของลูกชายก่อนจะวางงานเเละลุกขึ้นทันทีทว่าประตูห้องเปิดเข้ามาเสียก่อน“มาเอาของหรือคะฉันจะไปดูลูกหน่อย”หญิงสาวพูดขณะเตรียมก้าวไปทว่ามือแกร่งของชายหนุ่มรั้งไว้เสียก่อน“ต้นน้ำไม่เป็นอะไรหรอกคุณโอ๋ลูกมาไปจนติดคุณเเล้วรู้ไหม"กตตน์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มเเล้วเอ่ยต่อไปว่า“ต้นน้ำแกบอกว่าอยากมีน้องสาว…”จรีภรณ์ส่งสายตามองสามีเธอรับรู้ถึงน้ำเสียงกะล่อนของเขาได้“คุณไม่ได้พูดอะไรกับลูกใช่ไหม?!”“ผมเปล่าพูดอะไร&rdqu

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 79 (ตอนพิเศษ) เมื่อผมอยากมีน้องสาว I

    จากวันนั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้วทุกอย่างไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเเปลงไปมากกว่าเก่าเพียงเเต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนเเปลงไปคือความรู้สึกของเขาหลายปีมานี้จนกระทั่งมีลูกชายคนเเรกเธอรับรู้การเปลี่ยนไปของผู้ชายคนนี้มากรวมทั้งตัวของเธอด้วยเเต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอไปตลอดคือ'พริมมา'ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก็ไม่มีวันลืมได้ว่าร่างกายนี้…เสียงลมหายใจนี้เป็นของหล่อนที่มอบให้เธอได้กลับมาอยู่กับเขาอีกครั้งหนึ่ง“แม่ค้าบบ”เสียงของเด็กชายวัยสี่ปีกว่าๆดังขึ้นขณะที่เสียงฝีเท้าวิ่งพราดเข้ามาหาผู้เป็นแม่มือน้อยๆดึงชายกระโปรงชุดนอนเป็นเชิงเรียกให้มารดาที่นั่งทำงานอยู่บนโซฟาหันมามอง“มีอะไรครับคนเก่งของแม่”จรีภรณ์ละสายตาจากเอกสารหันมองลูกชายตัวน้อยเด็กชายส่งสมุดวาดรูปให้กับผู้เป็นแม่

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 78 (ตอนพิเศษ) คนในโชคชะตา III

    ขวัญข้าวจัดกระเป๋าขณะที่มือก็ถือกุญแจเอาไว้ แต่ถือไว้ไม่ดีจึงทำให้หล่นลงพื้น ไม่เพียงแค่นั้นขณะก้มลงเก็บสายสะพายกระเป๋าก็ร่วงลงมาด้วยทำให้น้ำหนักทั้งหมดอยู่ที่แขนซ้าย หญิงสาวมีใบหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะของที่เยอะทำให้หยิบจับอะไรไม่สะดวก แต่ก็โทษใครไม่ได้ที่ดันซื้อมาเยอะเองเพราะคิดว่าคืนนี้ต้องอยู่ดึกทำรายงานยาว เกรงว่าจะหิวเลยจัดซะเต็ม‘ของเธอใช่ไหม ?’ เสียงทุ้มเอ่ยทักขึ้นขณะที่ยื่นมือส่งกุญแจให้กับเธอ ขวัญข้าวพยักหน้ารับก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงเขาอีกแล้ว...!!‘ขอบคุณค่ะ’ หญิงสาวกล่าวพร้อมกับเอื้อมมือรับ‘พักอยู่ห้องนี้เหรอ’ ธนวินทร์เอ่ยถามขึ้น‘ค่ะ’‘เหรอ’ เขายิ้ม ‘เราพักอยู่ห้องข้างๆ เธอนะ’ขวัญข้าวยิ้มเจื่อนๆ ก่อนหันมาเปิดประตูห้อง แต่ก็นึกเพราะคนเก่าที่อยู่เป็นรุ่นพี่ผู้หญิง แสดงว่าเขาเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ได้ไม่นาน‘เธอชื่ออะไรเหรอ ?’ ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มที่เป็นมิตรให้ คนตัวเล็กมองอยู่นานก่อนจะตอบกลับ‘ข้าวค่ะ’&lsquo

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 77 (ตอนพิเศษ) คนในโชคชะตา II

    หลังเลิกเรียนวิชาสุดท้ายของวัน อาจารย์ผู้สอนเก็บของและเดินออกไปจากห้อง พะแพงลุกขึ้นวางของแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนในกลุ่มก่อนจะพูดขึ้นเสียงดัง‘วันนี้ไปส่องผู้ชายกัน !’‘ที่ไหน ! / ไปตอนไหน !’ แก้วและปรางพูดขึ้นพร้อมกันขณะที่ ขวัญข้าวนิ่งเงียบทำราวกับว่าไม่ได้ยินที่พะแพงพูด‘ข้าว แกต้องไปด้วยนะ’‘การบ้านยังไม่เสร็จเลย’ หญิงสาวหาข้ออ้าง‘แกทำการบ้านทุกวันนั่นแหละ ! อย่าอ้าง วันนี้ต้องไปด้วย ! เห็นว่าเด็กบริหารหล่อๆ มาเล่นกีฬาที่สนามเยอะเลย’หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ มองหน้าเพื่อนรักทั้งสามคนทำตาปริบๆ‘ไม่ต้อง ! แกต้องไปส่องผู้ชาย ทำการบ้านไปด้วยได้บรรยากาศดีจะตาย’ แก้วพูดขึ้นขวัญข้าวทำหน้ามุ่ย ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆเป็นเวลานานเกือบชั่วโมงที่นั่งรวมตัวอยู่กับเพื่อนแล้ว ‘ส่องผู้ชาย’ ขวัญข้าวแทบไม่มีอะไรทำจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นเกมเป็นการฆ่าเวลา จนกระทั่งผ่านไปถึงสองชั่วโมงเพื่อนทั้งสามของเธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับหอ หญิงสา

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 76 (ตอนพิเศษ) คนในโชคชะตา I

    มีคนบอกว่าการพบกันของคนสองคนมาจากโชคชะตา แต่สำหรับเธอแล้วเหมือน ‘กรรม’ มากกว่า การพบกันไม่ใช่ว่าจะเกิดเรื่องราวดีๆ ระหว่างกันขึ้นเสมอไป มันอาจจะโชคร้ายและแสนเศร้ามากๆ เลยก็ได้ แม้จะมีความสุขแต่ทว่าผลสุดท้ายแล้วคือความเจ็บปวดดีๆ นี่เองเสียงฝีเท้าจากส้นสูงคู่หนึ่งก้าวหยุดอยู่ที่บ้านไม้สองชั้นบรรยากาศ ร่มรื่นมีไม้ดอก ไม้ประดับปลูกล้อมรอบไว้ อีกทั้งในบ้านก็มีต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้นที่คอยให้ร่มเงา เธอเอื้อมมือกดกริ่งเรียกคนในบ้านและยืนรอ“กลับมาแล้วเหรอข้าว” เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาเปิดประตูบ้านให้“กลับมาแล้วค่ะแม่” ขวัญข้าวขานรับทันทีที่ประตูเปิดออกหญิงสาวขนสัมภาระเข้ามาในบ้านแล้วเดินมากอดผู้เป็นมารดา“คิดถึงจังเลยค่ะ”สองปีได้ที่ต้องไปทำงานที่เมืองนอกโดยแทบไม่มีเวลากลับมาเลย ปีหนึ่งกลับมาแค่ช่วงปีใหม่เท่านั้น ต่อให้จะโทรคุยกันในช่วงที่มีเวลาว่างก็ตาม แต่ก็ไม่เท่ากับการพบหน้าคุยกันอยู่ดี“จ้ะ...แล้วนี่กลับมาทำงานที่นี่เลยไหม ?”“ค่ะ เพราะงานวิจัยที่นั่นเสร็จแล้ว&rdquo

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 75 ลาก่อนสามีของฉัน

    จรีภรณ์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้งหันมองไปรอบๆ ห้องแล้วมอง ชายหนุ่มที่ฟุบหน้าลงกับเตียงขณะที่กุมมือของเธอเอาไว้อยู่ สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ราวกับความฝันก็ไม่ปาน...เธอกลับเข้าร่างของพริมมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว หญิงสาวขยับมือเพียงเล็กน้อย ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวและปรือตาขึ้นมอง“พริม”จรีภรณ์ไม่มีคำพูดใดๆ จะพูดออกมาในตอนนี้นอกจากน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย ความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้กับการที่กลับมามองหน้าและสัมผัสเขาอยู่ใกล้กันแบบนี้อีกครั้งหนึ่งกตตน์ลุกขึ้นยกมือขึ้นสัมผัสแก้มนวลของภรรยา เขาใช้มือปาดหยดน้ำใสบนใบหน้าของเธอขณะที่โน้มตัวลง จุมพิตที่หน้าผากของเธอเบาๆ“ผมรักคุณ” เป็นเสียงกระซิบที่มีความหมายต่อเธอเหลือเกิน หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตาแล้วเอ่ยปากพูดตอบเขาด้วยเสียงแผ่ว“ฉันก็รักคุณค่ะ”ท้องฟ้ามืดสนิทในยามวิกาลไร้หมู่ดาว มีเพียงแสงจันทร์สีเหลืองนวลส่องความสว่างอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงลมพัดผ่านเบาๆ บนดาดฟ้าของโรงพยาบาลกับเสียงการจราจรที่ดังผ่านหูเป็นบางครั้งบางคราว พริมมายกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าขณะที่

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 74 ตัดใจยอมรับความจริงเพื่อจากลา

    “เป็นเธอน่ะดีแล้วจริงๆ...” พริมมาพูดอีกครั้งก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้ามาหาจรีภรณ์ แววตาเศร้าสะท้อนออกมามองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้งหนึ่ง“เพราะเธอคือคนที่เขารักยังไงล่ะ...”จรีภรณ์เงยหน้าขึ้นมองพริมมาด้วยแววตาสับสนและไม่เข้าใจความหมาย ร่างกายของเธอสั่นเทาออกมาจนแทบควบคุมไม่ได้ หล่อนต้องการจะบอกอะไรกันแน่ ? บอกเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เธอดีใจงั้นเหรอ?สำหรับเธอ ทุกอย่างมันจบลงตั้งแต่ที่ออกจากร่างของพริมมา“เธอน่ะพูดบ้าอะไร คนที่เขารักก็คือพริมมาต่างหาก !” เจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก แต่ทว่านี่คือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ ความจริงที่กตตน์ ‘รัก’ พริมมา“ไม่หรอก...” พริมมาตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า เพราะรู้ดีว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาสามวันทั้งการกระทำและการเปลี่ยนแปลงของเขาชัดเจน อีกอย่างกตตน์ต้องการพริมมาในแบบจรีภรณ์มากกว่าเธอที่เป็นพริมมาตัวจริงเสียอีก“อย่าพูดบ้าๆ...”‘เวลาของเจ้าได้หมดลงแล้ว’ เสียงหนึ่งดังก้องไปทั่ว หากแต่ไร้ร่างของเจ้าของเสียง จรีภรณ์หันม

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 73 เธอคือคนที่เขารัก

    “ขอบคุณนะคะ” พริมมาพูดด้วยเสียงแผ่วขณะที่ยมทูตค่อยๆ หายไปกับอากาศ...ขอบคุณที่ทำให้อยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง“เสร็จงานแล้วหรือ จะกลับเลยไหม ?” กันตภณเอ่ยถามขึ้นขณะที่เห็นน้องชายเดินมารอลิฟต์เช่นกัน“ยังครับ ผมจะไปหาพริมก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน” กตตน์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งคนเป็นพี่ยิ้มที่มุมปากขณะมองท่าทางของน้องชายก่อนเอ่ยขึ้น “สุดท้ายก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ”“ครับ”“แล้วแพรวรุ้งล่ะ จัดการงานเสร็จหรือยัง” กันตภณเอ่ยถาม“เผาไปเมื่อสองวันก่อน สวดแค่สามวันครับ เห็นชาวบ้านและป้าเจ้าของแมนชั่นบอกว่าแม่ของเธอไม่มางานศพของเธอ ผมเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแพรวมากนัก ผมคบกับเธอโดยที่ไม่ได้สนเรื่องส่วนตัวมากเท่าไหร่ อีกอย่างแพรวตายเพราะผม...” สำหรับกตตน์คิดว่ามันไม่จำเป็นเลยสักนิดถ้าเกิดว่าเขารู้สึกเพียงแค่ชอบเธอ ทว่าสุดท้ายแล้วเขาอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตาย...“ก็อาจจะบางทีหรืออาจจะไม่ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ถ้ามัวแต่ยึดกับอดีตโดยลืมปัจจุบันไปแล้วล่ะก็...บางทีคนที่ต้อง

DMCA.com Protection Status