All Chapters of มายาปฏิพัทธ์: Chapter 11 - Chapter 19

19 Chapters

บทที่ 20 ความอึดอัดเป็นเหตุ I

ให้ตายสิ ! เธอรู้สึกอึดอัดเป็นบ้าเลยจรีภรณ์รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องมาเดินซื้อของพร้อมกับ ชายหนุ่ม เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ออกมาเดินข้างนอกพร้อมกับเขาและทุกคนในครอบครัว แต่ก็ไม่แย่เท่ากับในตอนนี้ที่ถูกหลอกและทิ้งให้อยู่กับกตตน์เพียงสองคนตามลำพังไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเป็นแผนของคุณพี่สะใภ้แน่นอน คิดว่าการเดินเที่ยวด้วยกันลำพังสองคนจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่ผิดถนัดเลยเพราะ ตาบ้าขี้เก๊กเดินไม่รอเธอ และเดินไปไม่มีจุดหมาย แค่เดินตามก็เหนื่อยจนไม่มีแรงพูดแล้ว รอหน่อยก็ไม่ได้ อย่าห้ามทันนะเดี๋ยวแม่ตบคว่ำเลยคอยดู !หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมองหาเก้าอี้นั่งโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ยังคงเดินนำไปเรื่อยๆ มองแผ่นหลังใหญ่จากหายไปกับฝูงชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเธอจึงไม่คิดที่จะตามต่อ“เดินเข้าไป ขานี่ทำด้วยเหล็กหรือไง !” บ่นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง‘ทำไมไม่รีบตามไป’ พริมมาปรากฏกายขึ้นนั่งข้างๆ จรีภรณ์“เฮ้ย !” หญิงสาวสะดุ้งตกใจและขยับตัวออกห่างทันที‘เธอยังไม่ชินอีกหรือไง’“ให้ชินก็บ้าแล้ว” พูด
Read more

บทที่ 10 เพื่อนเก่า

กว่าจะกลับถึงบ้านพระอาทิตย์ก็เกือบจะลับขอบฟ้า พอดีกับที่ทุกคนกลับมาหลังจากไปทำงาน จรีภรณ์เดินถือของเข้ามาในบ้านพลางส่งสายตามองชายหนุ่มร่างสูงและเบ้ปากให้ใส่ด้วยความหมั่นไส้“ทำไมไม่บอกว่าจะแวะซื้อของด้วยแม่จะได้ให้คนขับรถขับไปส่ง” บวรลักษณ์เอ่ยขึ้นในขณะที่เดินเข้ามาหา“นิดหน่อยเองค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะวางของลงที่พื้นไม่ทันไรสาวใช้สองคนก็เดินเข้ามาหาเเละหยิบขึ้นเดินจากไป จรีภรณ์ไม่ทันจะอ้าปากบอกห้ามด้วยซ้ำว่าไม่ต้องช่วย เเต่เมื่อนึกขึ้นได้ก็ถอนหายใจออกมาลืมไป…พริมมาเป็นคุณหนูถึงเวลารับประทานอาหารเย็น โต๊ะถูกจัดเรียบร้อย กับข้าวแสน อร่อยจากแม่บ้านฝีมือดี จรีภรณ์นั่งฝั่งตรงข้ามกตตน์พลางเหลือบมองเป็นระยะ ตลอดที่ป้ามาลัยตัดข้าวใส่จาน ใบหน้านิ่งขรึมต่างจากที่เห็นเมื่อตอนเที่ยงโดยสิ้นเชิง เเต่ช่างปะไร ไม่ใช่เรื่องของเธอ มันดีซะอีกที่เขาไม่สนใจเพราะนั่นหมายถึงอิสระของเธอนั่นเอง“จริงสิพริม…พรุ่งนี้เราไปทำงานไหวใช่ไหม ?” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นในขณะที่หันมองลูกสะใภ้จรีภรณ์ไม่รู้ว่างานแบบไหนที่พริมมาทำ ตอนนี้
Read more

บทที่ 11 ทำงาน

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้า หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อยหนีความรำคาญ มือยกเอื้อมขึ้นปิดนาฬิกาปลุก พลางหรี่ตามองว่าชายหนุ่มข้างตัวนั้นตื่นหรือยัง เมื่อไม่เห็นร่างสูงใหญ่ของกตตน์เเล้ว จรีภรณ์จึงรีบขยับตัวลุกขึ้นบิดคลายเมื่อยเเละลงจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเลือกชุดที่จะใส่ออกทำงานในวันนี้ ต้องยอมรับว่าลืมนึกไปที่จะซื้อชุดทำงานมาด้วยเมื่อวาน หญิงสาวถอนหายใจออกมายอมรับชะตากรรม ร่างของพริมมาดูบอบบางเสื้อผ้าเเต่ละชุดก็ดูหรูสวยงาม ทว่าไม่ใช่รสนิยมของเธอเลยสักนิดรอไม่ถึงห้านาทีประตูห้องน้ำเปิดออก หญิงสาวเหลือบมองชายหนุ่มที่เดินออกมาเงียบๆ แล้วอดหมั่นไส้ในใจไม่ได้“วันนี้ช่วงเช้าผมจะไม่เข้าบริษัท คุณติดรถของพี่ไปเเล้วกัน”จรีภรณ์หันมองชายหนุ่ม นึกขึ้นได้ว่าหากไปทำงานเเบบนี้ถ้าไม่มีรถคงจะไม่สะดวกมากพอ อีกอย่างใช่ว่าเธอจะขับรถไม่เป็นเสียหน่อยมีเพื่อนช่วยสอนขับจนสอบใบขับขี่ผ่านอีกทั้งเวลาเที่ยวไกลๆ เธอก็มักเป็นคนขับให้ตลอด เพียงเเต่เมื่อก่อนเเค่เอาเงินเดือนเลี้ยงปากท้องก็แทบเเย่เเล้วเลยไม่มีปัญญาจะออกรถใหม่เเต่ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่มีปัญหาหรอกมั้งที่จะออกรถคันใหม่ เ
Read more

บทที่ 12 ตั้งแต่วันนี้ฉันคือพริมมา I

หญิงสาวหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดอ่าน จะว่าเข้าใจก็เข้าใจ จะว่ามีส่วนที่ไม่เข้าใจก็มีอยู่‘เธอจะนั่งทำอะไร !’ เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้จรีภรณ์นิ่งแข็งเป็นหินไม่กล้าขยับตัวพริมมาตามเธอมาด้วย ! อยากจะร้องไห้วิ่งหนีเลยในตอนนี้‘เปิดอ่านเอกสารเก่ามาอ่านก่อนสิ’“อะ…อืม !” จรีภรณ์รีบทำตามทันที ทว่าจะให้เซ็นได้อย่างไร ลายเซ็นของพริมมาไม่ใช่ลายเซ็นของเธอ “จะให้ฉันเซ็นยังไง...”จรีภรณ์หันไปพูดกับอีกฝ่ายอย่างลืมตัว สีหน้าของวิญญาณสาวดู ซีดขาวน่าตกใจ แต่ก็ยังดูสยองอยู่ดีถึงแม้ว่าจะไม่มีรอยเลือดหรือแผลที่น่ากลัว“ฉัน…”‘เปิดหาในเอกสารดูลายเซ็นเก่าๆ ที่ฉันเคยเซ็นไว้’ น้ำเสียงพริมมาดูเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ทำให้จรีภรณ์ดูสงบสติลง“หมาย...หมายถึงจะให้ฉันเซ็นแทนเหรอ ?”‘เธออยู่ในร่างฉันนะ จะให้ใครที่ไหนเซ็นอีกละ’ เสียงของพริมมาดังก้องไปทั่ว จรีภรณ์ไม่รอช้าที่จะเดินไปตู้เอกสารเพื่อค้นหาดูลายเซ็นเก่าๆของพริมมาทันที มือไม้สั่นแทบควบคุมไม่อยู่ เมื่อพริ
Read more

บทที่ 13 ตั้งแต่วันนี้ฉันคือพริมมา II

จรีภรณ์หอบจนแทบหายใจไม่ทัน ไม่เคยรู้สึกเดินแล้วเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะร่างของพริมมาที่อ้อนแอ้นบอบบาง ไม่ถึกเหมือนร่างของเธอจึงยังไม่ชิน สายตาคู่มองไปยังเบื้องหน้าเมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดประตูขึ้นรถ ครั้นกำลังจะก้าวเดินตามไปก็ต้องหยุดชะงักลง...พริมมานั่งอยู่ที่เบาะหน้าข้างกตตน์ !เอาแล้วไง เมียสุดรักมาแล้วจรีภรณ์ตัดสินใจลำบากและยังไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป เพราะว่า พริมมานั่งอยู่ตรงที่นั้นและสายตาก็เอาแต่มองกตตน์ด้วยความอาลัยกตตน์มองภรรยาที่ยืนอยู่นอกรถไม่ยอมเดินมาสักที ชายหนุ่มจึงเปิดกระจกลงและพูดขึ้นว่า“คุณจะกลับบ้านเองใช่ไหม ?”“เปล่า ! ฉันแค่...” จรีภรณ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเข้าไปปรากฏว่าพริมมาหายไปแล้ว หญิงสาวรู้สึกโล่งอกจึงรีบเปิดประตูรถและขึ้นนั่งทันทีกตตน์ขับรถออกไปโดยที่นั่งเงียบๆ ราวกับว่ามีเขาอยู่เพียงคนเดียว บรรยากาศแบบนี้ทำให้จรีภรณ์รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก อยากจะคุยแต่ไม่รู้ว่าจะชวนเขาพูดเรื่องอะไรดี ได้เพียงแค่ถอนหายใจเหลือบมองและเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้เท่านั้นนั่งอยู่ในรถด้วยความหนาว
Read more

บทที่ 14 ตั้งแต่วันนี้ฉันคือพริมมา III

[คุณเป็นใคร ?]“แล้วคุณเป็นใครคะ” จรีภรณ์ใจเย็นถามอย่างสุภาพ[ฉันเป็นแฟนไม้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครคะ ?]แค่ฟังเสียงจรีภรณ์ก็รู้สึกได้ว่าไม่ถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้ หล่อนไม่รู้หรือไงว่าพริมมาแต่งงานแล้ว ! หญิงสาวอดที่จะรู้สึกโมโหแทนไม่ได้“ฉันเป็นเมียของแฟนคุณค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไปทันที พลางหันมองพริมมาที่กำลังยืนนิ่งแข็งราวกับรับความจริงนี้ไม่ได้“ไม่ทราบว่ามีอะไรคะ ?”[เอ่อ...ไม่มีค่ะ]เมื่ออีกฝ่ายพูดจบก็ตัดสายทิ้งไปในทันที ไม่มีการสนทนาต่อ ไม่รู้ว่าต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆ คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นที่เธอเห็นในร้านอาหารวันนั้นจรีภรณ์ถอนหายใจออกมาวางโทรศัพท์ลงที่เดิม คิดแล้วก็อดสงสาร พริมมาไม่ได้เพราะเจ้าตัวเอาแต่ร้องไห้และก็หายไปกับความมืด จะให้พูดปลอบใจเช่นไรกัน มันไม่มีประโยชน์เพราะยังไงกตตน์ก็คงไม่หันมารักง่ายๆประตูห้องน้ำเปิดออกมาหญิงสาวหันมองชายหนุ่มที่เดินออกมาในชุดคลุม“เมื่อกี้แฟนคุณโทรมา” จรีภรณ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่ากตตน์ กลับมองด้วยความขุ่นเคืองทันที เขารีบสาวเท้าเดินเข้ามา
Read more

บทที่ 15 ภรรยาคนนี้ไม่เคยมีความสุข I

“คุณแม่คะ พริมขอตามไปด้วยจะได้ไหมคะ ? คือพริมยังอยากจะลองเรียนรู้งานใหม่ด้วยน่ะค่ะ...” จรีภรณ์พูดเสียงแผ่วลงเรื่อยๆ เหลือบมองชายหนุ่มแล้วพูดต่อ “แต่ถ้าคุณกตตน์ไม่สะดวกใจ ก็ไม่เป็นไร...”บวรลักษณ์มองลูกสะใภ้และยิ้มออกมา“ก็ไปด้วยกันสิ แม่จะห้ามทำไมกัน”จรีภรณ์ยิ้มให้ชายหนุ่มพลางมองหน้าเป็นเชิงถามว่า “แล้วคุณล่ะ”“ผมยังไงก็ได้” กตตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่หญิงสาวเหลือบมองพริมมาที่ยืนอยู่ อีกฝ่ายส่งยิ้มให้ก่อนที่จะหายไปกตตน์ขยับตัวลุกขึ้นจากโต๊ะโดยที่ไม่พูดอะไร จรีภรณ์มองอย่างไม่ ใส่ใจและนั่งทานอาหารต่อเงียบๆ“คุณแม่คะ ดูตาไม้สิ ทำตัว...” มารวีพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองบวรลักษณ์ทำได้เพียงส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าลูกชายคนเล็กจะหัวแข็งดื้อไปถึงไหนกันเกือบเที่ยงแล้วพอดีกับที่งานเสร็จในช่วงเช้า หญิงสาวเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้พลางถอนหายใจออกมา สายตาคู่เหลือบมองเวลาก่อนขยับตัวลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงานทันทีที่ก้าวออกมาจากห้องก็มอ
Read more

บทที่ 16 ภรรยาคนนี้ไม่เคยมีความสุข II

พริมมาได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ทั้งโกรธทั้งแค้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แค่มองชายที่รักอยู่กับหญิงคนอื่นจรีภรณ์มองพริมมาที่ยืนนิ่งร้องไห้แล้วค่อยๆ หายไป ก่อนหันมอง กตตน์และแพรวรุ้งที่ยืนจ้องหน้ากันเฮ้อ...ก็แค่วันนี้นะที่ยอม !หญิงสาวเดินเข้าไปหาเอื้อมมือควงที่แขนของชายหนุ่มทันที“คุณกตตน์คะ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวรถติดจะกลับไม่ทันทานมื้อค่ำพร้อม คุณแม่นะคะ” จรีภรณ์กัดฟันพูดพลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม สายตาจิกกัดทำนองว่า ‘จะเอายังไง ตอบ !’กตตน์รู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที แต่วันนี้พูดรับปากหญิงสาวไปแล้วว่าจะกลับบ้านด้วยกัน และเขาเองก็ไม่อยากผิดคำพูด แต่อีกใจก็ไม่อยากทิ้งให้แพรวรุ้งกลับเพียงลำพัง“แพรว วันนี้ผมคงไปส่งคุณไม่ได้”แพรวรุ้งเมื่อได้ยินก็หน้าเสียไปชั่วขณะ แต่ก็ยิ้มตอบชายหนุ่มทันที แม้จะไม่แสดงความรู้สึกโกรธหรืออิจฉา ออกมา แต่ทว่าในใจลึกๆ ก็ไม่พอใจอย่างมากที่ถูกปฏิเสธ...เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิเสธเธอ !“ผมขอโทษ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาหาพอดีเป็นทางผ่าน” แพรวรุ้งฉีกยิ้มตอบ อีกฝ่าย “ถ
Read more

บทที่ 17 อย่าหวังความรักจากคุณสามีดีกว่านะพริมมา! I

หญิงสาวเบ้ปากให้ด้วยความหมั่นไส้ ส่งสายตามองชายหนุ่มที่เดินออกไปรอที่จอดรถจรีภรณ์นั่งลงและรีบเร่งกิน ก่อนจะรีบดื่มน้ำและหยิบกระเป๋าทำงานเดินเร็วตามไปทันที เธอใช้เวลากิน...ไม่สิ ต้องเรียกว่าเทอาหารใส่ท้องมากกว่า เพียงห้านาทีนิดๆ ก็หมดเดินลงมาถึงชายคาบ้าน ส่งสายตามองกตตน์ที่ยืนพิงรถอยู่ แล้วกระแอมเบาๆ เป็นเชิงเรียกเขากตตน์มองด้วยสายตานิ่งๆ ขยับตัวหมุนเดินขึ้นรถไป หญิงสาวได้แค่มองด้วยความขุ่นเคืองกับการกระทำอันแสนสุภาพของเขา แล้วเปิดประตูรถขึ้นมานั่งรถยนต์คันหรูค่อยๆ ขับผ่านพ้นออกจากประตูใหญ่ไป จรีภรณ์นั่งด้วยความอึดอัดพลางเหลือบมองกตตน์แล้วถอนหายใจออกมา“ถ้าคุณแม่อนุญาตขับรถไปเองป่านนี้ฉันไม่มานั่งหรอก”ชายหนุ่มหันมามองโดยไม่พูดอะไร“นี่คุณ...” หญิงสาวเอ่ยปากเรียกพลางหันหน้ามองชายหนุ่ม “ถ้าไม่อยากทน ทำไมไม่หย่าๆ กันให้จบๆ ไปล่ะ”‘ไม่มีทาง !’มาตอนไหนกัน ! จรีภรณ์สะดุ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงของพริมมาจากทางเบาะท้ายของรถ หญิงสาวหันเหลือบมองแล้วรีบหันกลับ แม้จะเห็นจนชินแต่ถ้ามาในสภาพที่ดูไม
Read more
PREV
12
DMCA.com Protection Status