Share

บทที่ 2 สีหน้าไม่เต็มใจ

กตตน์เดินเข้ามาในบ้าน หลังจากที่ไม่ได้กลับมานอนหลายคืน ด้วยเหตุที่อ้างว่าติดงานเยอะจึงอยู่พักที่คอนโดฯ ส่วนตัว สองเท้าก้าวยาวตรงผ่านห้องรับแขกไปทว่าเสียงของมารดาก็ดักขึ้นเสียก่อน

“กว่าจะกลับมาได้ วันๆ ซุกตัวอยู่กับนังผู้หญิงแพศยานั่น”

บวรลักษณ์กล่าวว่าลูกชายด้วยความโมโห ทั้งที่หาคนเหมาะสมให้แต่งงานด้วยแล้วยังจะไปหาผู้หญิงคนนั้นอีก

กตตน์หันมาด้วยสีหน้านิ่งๆ แม้จะรู้สึกไม่พอใจที่กล่าวว่าแบบนี้

“ผมกับแพรว เรารักกัน” คำพูดนี้พูดออกมาจากใจจริง ทว่า บวรลักษณ์ได้ยินแล้วไม่รู้สึกเห็นใจในความรักของลูกชายสักนิด

“รักแกจริงใจ ! น้ำเน่า…ผู้หญิงแบบนั้นจะรักแก มันรักเงินของแกมากกว่าน่ะสิ !” บวรลักษณ์แทบเลือดขึ้นหน้า ทั้งที่บอกแล้วว่าผู้หญิงอย่างแพรวรุ้งไม่มีทางจริงใจได้ แต่ลูกชายก็ไม่ฟัง หนำซ้ำยังคิดจะแต่งเป็นเมียอีก

กตตน์ไม่ฟังที่มารดาพูด เขาหมุนตัวเดินจากไปในทันที

“กลับมาก่อนนะ ตาไม้”

พูดไปก็เหมือนลมผ่านหูเมื่อลูกชายสุดที่รักเดินลับสายตาไปแล้ว บวรลักษณ์คิดแค่ว่าหากกตตน์แต่งงานเเล้วจะเลิกสนใจแพรวรุ้ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะวุ่นวายมากกว่าเดิม หนำซ้ำพริมมาต้องมาทนทุกข์จากการกระทำของลูกชายตัวดีอีก

“พูดไปก็ไม่ฟังหรอกค่ะคุณแม่” มารวี สะใภ้ของลูกชายคนโตเดินเข้ามาหา “สงสารก็แต่ยัยพริมนั่นเเหละค่ะ”

บวรลักษณ์ถอนหายใจด้วยสีหน้าอ่อนล้า ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้กตตน์เลิกสนใจตัวแพรวรุ้งได้เสียที

“ตอนนี้เรามาหาวิธีจัดการกับไม้ก่อนดีไหมคะ?” มารวียิ้มที่มุมปากก่อนพูดต่อไปว่า “ถ้าผู้ชายไม่เอาสักอย่าง ยัยแพรวก็ทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ”

“นั่นสิ…” พยักหน้าเห็นด้วยกับลูกสะใภ้

ทั้งสองคนเดินกลับมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขกเช่นเดิม ระหว่างคุยกันบวรลักษณ์ก็เหลือบมองทางดูว่าลูกชายจะเดินลงมาหรือยัง เเต่ก็ไม่มีวี่แวว ทั้งที่หาคู่ชีวิตดีๆ ให้เเล้วเเต่ไม่สนใจ…โชคดีที่พริมมาเป็นหญิงเรียบร้อย ไม่โวยวาย เเต่มันก็ไม่ได้ดีมากเพราะไม่ยอมสู้คน

“คุยอะไรกันครับ ทำไมหน้าเครียดกันแบบนั้น ?” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยทัก ทำให้ทั้งคู่หันไปมอง

บวรลักษณ์หันมองลูกชายคนโตที่เดินเข้ามาในห้องรับแขก

“ก็จะเรื่องใครอีกละ มีแต่เรื่องตาไม้ไง”

กันตภณมองหน้าภรรยาและมารดาอีกครั้งก่อนจะยิ้มหัวเราะออกมา

“เรื่องนี้อีกแล้วหรือครับ”

“ก็จะมีเรื่องไหนอีกล่ะ แม่กับเมย์กำลังคิดหาวิธีอยู่นี่ไง” บวรลักษณ์บอกลูกชายคนโตด้วยเสียงเครียด

“แม่ครับ เรื่องแบบนี้ต้องให้เจ้าไม้ตัดสินใจเอง...”

“ถึงตอนนั้นได้หมดตัวก่อนนะคุณ !” มารวีพูดขึ้นแทรก

“คุณก็เห็นด้วยกับคุณแม่ไปหมด” กันตภณกล่าว

“หึ ! คุณจะรู้อะไร” คนเป็นภรรยาเชิดหน้าใส่สามี

“เอาน่า...แม่ว่าอย่าเพิ่งเถียงกันเลย...”

“ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจเรื่องไม้ เดี๋ยวผมจะลองคุยให้นะครับ”

บวรลักษณ์ถอนหายใจออกมา ถึงกันตภณจะพูดแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้สบายใจขึ้นแม้แต่น้อย ขนาดแม่ยังไม่คิดจะฟังเลย แล้วนี่พี่ชายจะยอมซะที่ไหนกัน

“นี่ก็ได้เวลามื้อเย็นเเล้ว…ป่านนี้ป้ามาลัยคงตั้งโต๊ะเสร็จเเล้วละค่ะ” มารวีพูดขึ้น

บวรลักษณ์พยักหน้า เเล้วหันไปสั่งให้สาวใช้ไปตามกตตน์ลงมารับประทานอาหารมื้อเย็น ก่อนที่จะเดินไปยังห้องอาหารพร้อมกับกันตภณเเละมารวี

บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นทุกคนพร้อมหน้า เเต่ทว่าไม่มีเสียงพูดคุยหรือบนสนทนากัน จนกระทั่งสะใภ้คนโตเกริ่นขึ้น

“อีกไม่นานยัยพริมก็คงออกจากโรงพยาบาลเเล้วนะคะ”

“นั่นสิ” บวรลักษณ์ตอบหันไปพูดกับกตตน์ว่า “ไม้แม่อยากให้เรากลับมาอยู่บ้าน ถึงจะไม่ได้ชอบอะไรหนูพริมเขา แต่ก็ควรจะมาดูแลบ้าง”

กตตน์เงียบไม่พูดหรือรับปากอะไรทั้งนั้น

“พี่ว่าไม้น่าจะกลับมานอนบ้านบ้างนะ ยังไง...”

“ผมอิ่มแล้ว ขอตัวก่อน”

กตตน์เช็ดปากและลุกขึ้นเดินไปทันที

“เห็นไหมคะ ! บอกแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางฟัง” มารวีพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ตั้งแต่แต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้หญิงสาวก็เข้าได้ดีกับแม่สามีและรักครอบครัวนี้มาก หนำซ้ำยังโชคดีที่มีสามีไม่นอกใจเช่นกตตน์ด้วย

บวรลักษณ์ได้เพียงแต่มองลูกชายคนเล็กเดินลับสายตาไปพลางถอนหายใจออกมา

“พรุ่งนี้พริมก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เดี๋ยวผมทำงานเสร็จจะไปรับ...”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวแม่จะไปรับเอง”

“ฉันก็จะลางานไปครึ่งวันด้วย”

“แบบนั้นก็ได้ครับ” ชายหนุ่มขานรับ

“คุณแม่คะ ช่วงนี้ให้ไม้กลับมาอยู่บ้านก่อนจะดีไหมคะ ? ยังไงเป็นสามีภรรยากันก็น่าจะมาดูแลกันหน่อย ถ้ากลับมาบ้านแล้วยัยพริมอยู่ห้อง คนเดียวเป็นอะไรขึ้นมามันจะแย่เอานะคะ” มารวีกล่าว

“พูดอย่างกับตาไม้จะยอมง่ายๆ” แม้จะเห็นด้วยกับสะใภ้คนโตบอก ทว่ากตตน์คงไม่ยอมมาพักอยู่ที่บ้านแน่ๆ

“ก็ถ้าไม่มาคุณแม่ก็ตัดหุ้นส่วนออกไปเลยค่ะ ดูสิจะมีปัญญาเอาเงินไปประเคนให้นังผู้หญิงคนนั้นอีกไหม ?!” มารวีพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

“มันจะไม่แรงไปหรือไง ?” กันตภณพูดขึ้นเพราะวิธีนี้ออกจะดูโหดร้ายกับน้องชายไปสักหน่อย

“ไม่หรอกค่ะ แบบนี้แหละ ไม่งั้นก็ไม่ยอมเหมือนเดิม”

บวรลักษณ์นั่งครุ่นคิด จนอาหารในจานแทบไม่ลดลง

“แม่เห็นด้วยกับเมย์ เราคงต้องใช้ไม้แข็งดูบ้าง”

กันตภณไม่เสนอความคิดเห็นหรือพูดอะไร เมื่อมารดาตัดสินใจแล้ว เพียงแต่คิดว่ากตตน์จะทำอย่างไรต่อไปก็เท่านั้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status