Share

บทที่ 1 สามีในนาม

เสียงพูดคุยดังเข้าผ่านหูของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง กลิ่นยาและน้ำหอมจากคนผสมกัน ทำให้ดมจนแทบอยากจะอ้วก ไม่นานนักเสียงที่น่ารำคาญก็ค่อยๆ หายไป จรีภรณ์พยายามปรือตาที่หนักอึ้งขึ้นอย่างช้าๆ มองไปยังเพดานสีขาวสะอาด ตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่าอยู่โรงพยาบาล เธอขยับปรับเปลือกตาเพื่อรับแสงก่อนจะมองเห็นพยาบาลที่กำลังเก็บของอยู่

“ฟื้นแล้วหรือคะ ? ฉันจะไปตามคุณหมอมานะคะ”

จรีภรณ์เพียงแค่พยักหน้าตอบเพราะยังคงมึนงงกับร่างกายอยู่

หญิงสาวหลับตาลงในขณะที่พยาบาลเดินออกจากห้องไป กำลังพยายามนึกภาพก่อนเกิดอุบัติเหตุและก็จำได้ว่าดวงซวยที่ดันไปยืนอยู่ตรงนั้น จนถูกป้ายโฆษณาหล่นใส่เอาได้ ดีที่ยังไม่ตาย ไอ้ต๋อมเอ๊ย...เพิ่งเข้าโรงพยาบาลหนักๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกเลย

ประตูห้องเปิดเข้ามา เสียงมากมายก็ดังตามมาด้วย

จรีภรณ์หันหน้าไปมองผู้มาเยือนที่ไม่รู้จัก

“พริมฟื้นแล้วหรือลูก”

หญิงสาวยิ่งคิ้วขมวดใหญ่มากกว่าเดิมเมื่อถูกหญิงวัยกลางคนทัก...

ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ??

“คุณหมอคะ เธอเป็นอะไรทำไมไม่ยอมพูดคะ”

จรีภรณ์ยังคงมองด้วยความงุนงงทั้งที่อยากจะเปิดปากพูดว่ากำลังทักคนผิดแต่ทว่าไม่มีแรงมากพอได้แค่นอนนิ่งๆ มองดูคนแปลกหน้าต่อไป สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะหลับตาลงหนีความวุ่นวายนี้เสีย

“คงเพราะสมองสับสนจากอุบัติเหตุน่ะครับ อาจจะต้องใช้เวลาพักฟื้นก็จะหายเป็นปกติครับ”

“คุณแม่คะ ให้ยัยพริมพักผ่อนก่อนดีกว่าไหมคะ ? ยัยพริมคงยังไม่หายดี” มารวีเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นว่าคนป่วยได้นอนหลับไปแล้ว

บวรลักษณ์พยักหน้าเห็นด้วย เพราะลูกสะใภ้อาจจะต้องใช้เวลา พักฟื้นและทำใจกับเรื่องเลวร้ายบ้าง พลันมองคนป่วยที่หลับตาลงแล้วก็อดสงสารไม่ได้ว่าเจ้าลูกชายไม่ยอมมาเยี่ยมบ้าง

“พริมแม่ไปก่อนนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่”

เสียงประตูห้องปิดลง ทุกอย่างกลับมาเงียบสงบ จรีภรณ์หรี่ตาขึ้นมาและมองไปรอบๆ พลางถอนหายใจออกมา หญิงสาวไม่รู้ว่าคนกลุ่มนี้กำลังเข้าใจอะไรผิดกันแน่ที่อยู่ๆ มาทักคนผิด แต่เอาเถอะมันก็แค่เรื่องที่ไม่เข้าใจและไม่ต้องใส่ใจ

จรีภรณ์ขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะจับผ้าพันแผลแต่ก็ตกใจเมื่อเส้นผมที่ซอยสั้นนั้นดันยาวและดัดลอน เดี๋ยวนะ...ผมเธอไม่ใช่แบบนี้นี่ ! ยังตกใจกับผมที่เปลี่ยนไปไม่พอนิ้วมือจากที่ป้อมๆ สั้นๆ ก็ดูเหมือนจะเรียวขึ้น

หญิงสาวจับไปทุกส่วนของร่างกายและรู้สึกว่ามันแปลก และเมื่อ มือทั้งสองข้างจับที่หน้าอกก็ต้องตกใจมากกว่าเดิม หน้าอกเธอไม่เคยโตแบบนี้มาก่อน แล้วนี่ทำไมถึงใหญ่กว่าเดิมคูณสองเท่า !

จรีภรณ์กำลังมึนงงและเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลางหันมองดูนาฬิกาหรือปฏิทินเพื่อนับวันเวลา หญิงสาวหันมองไปทางประตูและเห็นพยาบาลเดินเข้ามาจึงรีบพูดขึ้นทันที

“วันนี้วันอะไรคะ ?”

“วันเสาร์จ้ะ”

“อ้อ ค่ะ ”

จรีภรณ์กำลังไม่เข้าใจตัวเองแต่ก็ไม่ลืมที่จะขอกระจกจากพยาบาล

“เออ...มีกระจกไหมคะ ?...”

พยาบาลวัยกลางคนมองหน้าก่อนจะเดินไปหยิบกระจกมาให้แล้วเดินออกจากห้องไป

“ขอบคุณค่ะ” จรีภรณ์ยิ้มและกล่าวของคุณ ไม่รอช้าที่จะรีบพลิกกระจกส่องมองตัวเองทันที

ผู้หญิงตรงหน้าของเธอคือใครกัน

จรีภรณ์ยกมือขึ้นลูบใบหน้าและตบแรงๆ ให้ตื่นจากฝัน

เพียะ !

เจ็บระบมไปทั่วใบหน้าซีกขวา แต่เมื่อส่องกระจกอีกครั้งก็ยังเห็นใบหน้าสวยหวานผมสีน้ำตาลดำดัดลอนอยู่

“เฮ้ย !...” จรีภรณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ มือก็โยนกระจกทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี คุณพระ ! นี่มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ ความฝันที่ยังไม่ตื่น

เสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งจรีภรณ์ไม่ได้สนใจมากไปกว่าการตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง...ไม่มีใครทักผิดตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะเธออยู่ในร่างของใครไม่เคยรู้จักพบเจอด้วยซ้ำ แล้วร่างของเธอล่ะไปไหนแล้ว !

“คุณแม่บอกผมว่าคุณประสบอุบัติเหตุ”

จรีภรณ์สะดุ้งและค่อยๆ หันไปมองชายหนุ่มผู้มาเยือนใหม่

ใบหน้าหล่อขาวคมเข้มดวงตาสีน้ำตาลดำ จมูกโด่งในแบบชายไทย...

“คุณเป็นใคร ?”

จรีภรณ์เอ่ยถามขึ้นพลางส่งสายตามองคนตรงหน้า ชายหนุ่มมองหญิงสาวร่างเล็กพลางครุ่นคิดในใจโดยไม่ปริปากพูดอะไร

“คุณเป็นใคร เพื่อนงั้นเหรอ” จรีภรณ์พูดด้วยน้ำเสียงห้วน พินิจมองชายหนุ่มตรงหน้าที่แต่งตัวดูภูมิฐานดี

“คุณจำผมไม่ได้ ?”

หญิงสาวมองด้วยความหมั่นไส้นิดๆ เมื่อเขาท่าทางนิ่งขรึมเก็กหล่อ

ถ้ารู้จักจะถามไหมล่ะ !!

“ถ้ารู้จักคงถามหรอก” จรีภรณ์พูดก่อนขยับตัวพยายามเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียง

หยิบไม่ถึง…!! ทำไมผู้หญิงร่างนี้ถึงแขนสั้นนัก

กตตน์มองคนป่วยบนเตียงก่อนจะก้าวไปหยิบแก้วและเทน้ำส่งให้

จรีภรณ์รับแก้วมาพลางมองโดยไม่กล่าวขอบคุณ เธอดื่มน้ำโดยไม่สนใจคนที่ยืนรอข้างเตียง

“งั้นผมจะบอกคุณเผื่อบางทีคุณอาจจะลืม” กตตน์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งมองหญิงสาวที่ไม่สนใจอะไรนอกจากตั้งหน้าดื่มน้ำในแก้ว

“ผมเป็นสามีของคุณ...”

พรวด!! เมื่อได้ยินจรีภรณ์ก็สำลักน้ำออกมาทันที ยกมือขึ้นลูบหน้าอกเบาๆ ก่อนหันมองชายหนุ่มพลางเช็ดปาก

“คุณพูดอีกทีสิ บางทีฉันอาจหูฝาดไป” หญิงสาวบอกให้เขาพูด อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“สามี...แค่ในนามเท่านั้น”

กตตน์มองคนป่วยที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

จรีภรณ์แทบจะเป็นลมทำอะไรไม่ถูก มือที่ถือแก้วอยู่ได้ร่วงลงไป ถ้าจะเป็นแบบนี้ให้ตายแล้วกลับมาอยู่ในร่าง หญิงคนนี้ยอมตายเสียดีกว่า ถึงเป็นแค่สามีในนามหรือสามีจริงๆ ก็เถอะ แบบนี้มันนรกชัดๆ !

“นี่คุณ...” หญิงสาวเอ่ยปากเรียกด้วยเสียงแผ่ว ดวงตากลอกไปมาแสดงถึงความไม่เชื่อ

“ตบหน้าฉันทีสิ”

กตตน์มองคนป่วยที่กระวนกระวายราวกับรับความจริงไม่ได้

“คุณจำอะไรไม่ได้เลยอย่างงั้นเหรอ ?” ชายหนุ่มถามอีกครั้ง

เธออยากจะเอาหัวชนฝาจริงๆ ทำไมโชคชะตาเล่นตลกกันแบบนี้ !

“คุณคงสับสน พักเถอะ”

กตตน์เอ่ยขึ้นก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

“มันไม่ตลกนะ ไม่ตลกเลยสักนิด ม่ายยยยยยย...”

เมื่อประตูปิดลงแล้วจรีภรณ์ถึงกับต้องร้องออกมาเสียงดัง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status