เมื่อได้นั่งไล่ปลายนิ้วไปตามคีย์เปียโนคีตาลดาก็ไม่คิดถึงสิ่งใดนอกจากส่งมอบเสียงเพลงแห่งความสุขให้แก่คนฟัง นานเท่านานที่เธอปล่อยความคิดจิตใจเคลียคลอไปกับเสียงเปียโน ความรู้สึกอิ่มอุ่นในหัวใจ ความสุขสดใสที่เธอถ่ายทอดผ่านปลายนิ้วไล่สัมผัสไปกับคีย์เปียโนนั้นทรงพลังตราตรึงในหัวใจคนฟังมานักต่อนัก วันนี้เป็นอีกวันที่เธอสร้างความประทับใจให้แก่แขกที่มารับประมานอาหารใน เค.เค.รอยัล คลับ แห่งนี้
คีตาลดาโค้งคำนับรับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมหลังเสียงเพลงสุดท้ายของวันนี้สิ้นสุดลง หญิงสาวยิ้มกว้างยามกวาดสายตามองไปโดยรอบ หัวใจดวงน้อยกวัดแกว่งอย่างแปลกประหลาดเมื่อเห็นว่าโต๊ะหน้าเวทีไร้เงาของคิริน
‘เขาไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ’ คีตาลดาปัดความคิดนั้นออกจากหัวแล้วค้อมกายโค้งคำนับบรรดาแขกในห้องอาหารนั้น อีกครั้งแล้วหันหลังกลับก้าวลงด้านหลังเวที แม้จะพยายามตัดความคิดเกี่ยวกับทายาทคุปต์อนันต์ออกไปแต่ก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ หากประธานใหญ่ไม่ชื่นชอบผลงานการแสดงของเธอแล้ว เธออาจถูกเลิกจ้างก็เป็นไปได้
“วันนี้คุณยอดเยี่ยมมากครับคีตาลดา”
“ผู้จัดการชมเกินไปแล้วค่ะ”
แม้หัวใจดวงน้อยจะฟองฟู่กับคำชมของวีกิจผู้จัดการห้องอาหาร แต่คีตาลดาก็นอบน้อมถ่อมตน
“เกินจริงที่ไหนกัน แขกที่มาวันนี้ชื่นชมคุณไม่ขาดปากเลย อ้อ...มีอีกเรื่องที่ผมต้องแสดงความยินดีกับคุณคีตาลดา”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“ผมเพิ่งได้รับคำสั่งจากท่านประธานว่าให้เพิ่มรอบการแสดงของคุณเป็นสองรอบต่อวัน”
“จริงเหรอคะ” คีตาลดายิ้มกว้างเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ วีกิจรีบยืนยันหนักแน่น
“เรื่องแบบนี้ผมจะล้อเล่นได้ยังไงล่ะ นี่เป็นโอกาสทองของคุณแล้วนะ”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ”
“คนที่คุณต้องขอบคุณคือท่านประธาน ผมน่ะเป็นแค่ คนรับคำสั่ง”
คีตาลดายิ้มค้าง พอพูดถึงเขาเธอก็รู้สึกหัวใจกวัดแกว่งแปลกประหลาดอีกแล้ว
“ท่านประธานใส่ใจทุกรายละเอียดของเค.เค กรุ๊ป การที่สั่งการมาให้เพิ่มรอบการแสดงของคุณแสดงว่าท่านประธานเล็งเห็นความสามารถของคุณแล้ว ทำให้เต็มที่ล่ะคีตาลดา ผมมั่นใจว่าคุณจะไม่ทำให้ท่านประธานผิดหวัง” วีกิจบอกกับเธอแล้วเดินจากไป คีตาลดารู้สึกเหมือนมีใครเอาของหนักๆมาวางบนบ่าทั้งสองข้าง
‘ไม่ทำให้ท่านประธานผิดหวัง’
หึ! ดูเหมือนเชื่อมั่น ดูเหมือนให้กำลังใจ แต่ฟังแล้วมันกดดันชะมัด
คีตาลดาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ สลัดความรู้สึกหนักอึ้งออกไปแล้วดึงความมั่นใจในตัวเองกลับมา
“ฉันจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอนค่ะท่านประธาน”
คีตาลดาเลิกสนใจเรื่องอื่น หญิงสาวเดินออกจากห้องอาหารมุ่งตรงไปยังหน้าโรงแรมเพื่อเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่งสถานีขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งอยู่ถัดจากโรงแรมประมาณสองป้ายรถเมล์ เธอเลือกเดินทางไปกลับด้วยขนส่งสาธารณะแทนการขับรถยนต์ส่วนตัว เพราะเธอรู้สึกสะดวกสบายไม่ต้องเคร่งเครียดกับการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน
“ลดา! คุณหายไปไหนมา ผมตามหาคุณจนทั่วไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
“ทัชกร!” คีตาลดาตกใจที่เจอเขาหน้าโรงแรม หญิงสาวยังไม่ทันได้นึกคิดอะไร จู่ๆทัชกรก็โผเข้ากอดเธอแน่นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว คีตาลดาขัดขืนพยายามผลักทัชกรออก ตอนนี้เธอเกลียดชังและขยะแขยงเขาจนเกินทน
“ปล่อยนะ! ทัชกร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” คีตาลดาโวยลั่น แต่ผลักเท่าไรเขาก็ยังกอดเธอเหนียวแน่นเป็นตุ๊กแก
“คุณเป็นอะไรไปลดา เราเป็นแฟนกันนะ ทำไมคุณทำท่ารังเกียจผมแบบนั้นฮะ”
“ปล่อย!” คีตาลดายังคงต่อต้าน เมื่อเห็นว่าทัชกรไม่ยอมปล่อยเธอง่ายๆ หญิงสาวจึงกระทืบเท้าของเขาแรงๆพร้อมกับออกแรงผลักสุดแรง
“โอ๊ย! คุณกระทืบเท้าผมทำไมลดา”
“สำหรับผู้ชายเลวๆอย่างคุณ นี่มันยังน้อยไปทัชกร”
“คุณด่าว่าผมเลวเหรอลดา ผมไปทำอะไรให้ คุณถึงด่าผมแบบนี้”
“คุณนี่มัน!” คีตาลดาได้แต่ขบฟันแน่น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดยามจ้องมองคนตรงหน้า เธอไม่คิดเลยว่าทัชกรจะหน้าด้านหน้าทนไม่รู้สึกรู้สา ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีในสิ่งที่เขากระทำ
“ไม่เอาน่าลดา...คุณอย่าเอาแต่โมโหสิ ผมต่างหากที่ต้องโกรธคุณที่คุณทำทุกอย่างพัง แต่นี่ผมยังไม่คิดติดใจเอาความโกรธมาลงที่คุณเลย”
“เลว! เลวสิ้นดี ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะมองคนผิดพลาดมากขนาดนี้”
“มากไปแล้วนะลดา คำก็เลว สองคำก็เลว ถ้าผมเลวจริง ผมส่งคุณให้เสี่ยกำชัยแล้วเขี่ยคุณทิ้งไม่สนใจใยดีคุณไม่ดีกว่าเหรอ แต่นี่ผมยังยืดอกยอมรับคุณเป็นแฟนไม่ตะขิดตะขวงใจอะไรเลย”
เพียะ!
“ลดา คุณกล้าตบผมเหรอ”
“ฉันไม่แจ้งความลากคุณเข้าคุกก็ดีเท่าไรแล้วทัชกร” คีตาลดาตวาดแหว เธอเหลืออดเหลือทนกับทัชกรแล้ว อยากฆ่าเขาให้ตายดับให้สาสมกับความรักความแค้นฝังแน่นอกนัก แต่เธอก็ทำได้เพียงหวีดเสียงเกรี้ยวกราดใส่เขา
“คุณเป็นใคร ผมเป็นใคร ถึงคิดจะมาต่อกรกับผม”
“เก็บคำข่มขู่ของคุณเอาไว้ใช้กับคนอื่นเถอะทัชกร ยิ่งคุณอวดเบ่งหยิ่งผยองฉันก็ยิ่งสมเพช ที่ผ่านมาฉันจะถือเสียว่าฉันชดใช้หนี้กรรมให้คุณ จากนี้ทางใครทางมันอย่าได้เกี่ยวข้องกันอีกเลย”
“ฝันไปเถอะลดา อย่าฝันว่าจะเดินไปจากผมง่ายๆ คุณเป็นผู้หญิงของผม ต่อให้วันนี้หรือวันไหนผมก็ไม่มีวันปล่อยคุณไป”
“ว้าย!! ปล่อยนะทัชกร ปล่อยฉัน!” คีตาลดาหวีดลั่นเมื่อถูกทัชกรฉุดกระชากลากดึงถูลู่ถูกังให้เดินตาม ในเวลานั้นผู้คนรอบข้างต่างพากันละล้าละลังไม่กล้าเข้ามาช่วยเพราะทัชกรสบถลั่นห้ามใครยุ่งเรื่องผัวเมีย
คีตาลดาดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง ต่อให้ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย เธอก็จะไม่ปล่อยให้ทัชกรคุกคามเธอได้ง่ายๆแน่นอน
อีกด้าน...คิรินเพิ่งออกมาจากเค.เค รอยัล เขากำลังไปเจรจาธุรกิจกับลูกค้าคนสำคัญ แต่สายตาของเขาก็สบเข้ากับร่างเล็กๆของคีตาลดาที่กำลังถูกทัชกรจับยัดเข้าไปในรถยนต์คันโก้ และตอนนี้รถยนต์คันนั้นกำลังขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ประธานหนุ่มกัดฟันกรอดเค้นเสียงรอดไรฟัน
“ตามรถคันนั้นไปชินโย อย่าให้มันหนีรอดไปได้”
“แต่ว่าเคเคครับ คุณนิธิกำลังรอเจรจาเรื่องสำคัญอยู่นะครับ”
“ฉันบอกให้ขับตามไปก็ขับตามชินโย หาโอกาสเหมาะปาดหน้าสกัดมันไว้ให้ได้”
“ครับเคเค” ชินโยรับคำทำตามทันที สายตาคมดุไม่ต่างจากเจ้านายเพ่งมองไปยังรถเป้าหมายไม่ให้คลาดสายตา
-----------------------------------
ง้อววววว....เคเคจะตามไปช่วยทันไหมนะ ตามไปลุ้นกันค่า
ขอกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ^^
เอี๊ยดดด!!คีตาลดาหัวทิ่มโขลกกับคอนโซลรถด้านหน้า เพราะจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีดำขับปาดตัดหน้าจนทัชกรเบรกรถจนตัวโก่ง แรงกระแทกทำเอาเธอถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราดของทัชกร“ไอ้ห่าเอ๊ย! ขับรถประสาอะไรวะ”คีตาลดาได้ยินทัชกรสบถด่าลั่นก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวลงไป หญิงสาวพยายามดึงสติหวังอาศัยช่วงจังหวะนั้นหลบหนีเอาตัวรอด แต่เธอรู้สึกมึนงงมาก รอบด้านพร่าเลือนมองอะไรไม่ชัดจึงพยายามใช้มือคลำหาที่จับเปิดประตูรถสะเปะสะปะ พอจะเปิดก็เปิดไม่ออกเพราะเป็นระบบล็อคอัตโนมัติด้านนอก ทัชกรที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับยืนตะลึงเมื่อพบว่ารถสปอร์ตที่ขับปาดหน้าตนคือใคร เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อนก่อนจะฝืนยิ้มเจื่อนทักทายจนตรงหน้า“คุณคิรินนั่นเอง ผมทัชกร”ผัวะ!หมัดหนักๆที่ซัดเข้าตรงโหนกแก้มซ้ายของเขาคือคำทักทายตอบ แรงอัดกระแทกแบบไม่ทันตั้งรับทำเอาทัชกรถึงกับถลาล้มหน้าคะมำ“คุณคิริน คุณชกหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง ผมไปทำอะไรให้คุณ”ผัวะ!หมัดที่สองตามมาติดๆแบบที่ทัชกรไม่มีโอกาสต่อต้าน ยิ่งเห็นแววเกรี้ยวกราดในดวงตาสีดำสนิทของคิรินแล้ว คนขลาดอย่างทัชกรก็หงอไม่กล้าต่อกรกลับ“หมัดแรกสั่งสอนท
ก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วย
“เคเคคะ คอนโดฯของลดาไม่ได้ไปทางนี้ค่ะ” คีตาลดารีบหันมาบอกคิรินทันทีที่เห็นว่าคนขับรถของเขาขับเลยทางแยกไปคอนโดมิเนียมของเธอ“ผมรู้”“เคเครู้ แล้วไงคะ หรือว่าคุณคนขับรถไม่รู้” คีตาลดาหันมาถามชินโยซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ เธอเห็นเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็นึกขัดใจ“คุณคะเดี๋ยวถึงจุดกลับรถข้างหน้าคุณก็ยูเทิร์นกลับนะคะ แล้ว...”“ขับตรงไปตามเดิมแหละชินโย” คิรินแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะทันพูดจบ หญิงสาวหันขวับมามองเขาแล้วเลิกคิ้วขณะถาม“เมื่อกี้นี้เคเคพูดว่าอะไรนะคะ”“ผมบอกให้ชินโยขับตรงไปไม่ต้องยูเทิร์น”“แต่มันเลยทางไปคอนโดฯลดาแล้วนะคะ ไม่กลับรถแล้วจะไปทางไหน”“แล้วใครบอกว่าจะไปคอนโดฯ คุณล่ะ”คำพูดแนวนี้ ซีนประมาณนี้เธอเคยเห็นในละครรักแทบจะทุกเรื่องแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอคีตาลดาขบฟันจ้องเขาพลางกระพริบตาปริบๆ หลังจากคิรินพูดยิ้มๆ เขาก็หันไปสนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของตัวเองไม่ได้หันมามองหน้าเธอสักนิด“คุณคะ ช่วยจอดรถตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะ” เมื่อเขาเอาแต่สนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของเขาไม่มีทีท่าสนใจเธอ คีตาลดาก็หันมาทางชินโย แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดเมื่อชินโยก็ทำท่าไม่รับรู้เหมือนเดิม“เค
เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอต้องทำอย่างไรกับชีวิตนับจากนี้ไป ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกความมืดมิด เธอต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบไม่คาดคิด ผู้ชายที่เธอรักและวาดหวังฝากชีวิตไว้กับเขา ท้ายสุดแล้วก็เป็นเพียงผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง เลวสุดใจแบบที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมองคนผิดพลาดได้มากขนาดนี้‘ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลยลดา ผมไม่เห็นว่าคุณจะเสียหายตรงไหนมีแต่ได้กับได้’‘คุณจะบอกว่าการที่ลดาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ลดาไม่เสียหายอย่างนั้นเหรอคะ’‘คุณคิดมากเกินไปลดา ผมเห็นแต่ว่าคุณจะมีแต่สนุกแล้วก็ได้เงิน’‘ทัช! ลดาเป็นแฟนคุณนะ คุณคิดแบบนี้ได้ยังไงคะ’‘คุณเลิกความคิดคร่ำครึหัวโบราณเสียทีได้ไหมลดา ผมเป็นแฟน เป็นผู้ชายแท้ๆผมยังรับได้แล้วคุณจะเรื่องมากให้มันวุ่นวายไปทำไมฮะ’หยุด! หยุดได้แล้ว! หยุดคิดถึงคนชั่วช้านั่นเสียที ยิ่งเธอคิดก็ยิ่งมีแต่เจ็บปวดรวดร้าว เธอจะปล่อยให้เรื่องราวเหล่านั้นมาบั่นทอนชีวิตเธอต่อไปอีกนานแค่ไหนกันพอแล้ว! พอเสียที อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองอีกต่อไปเลย เพียงเท่านี้หัวใจเธอก็เจ็บปวดร้าวลึกจวนเจียนจะขาดใจตายเสียให้ได้ นั่นสิ! เธอแทบจะแดดิ้นตายด้วยความเจ็บปวดครั้งแล้ว
“เคเคครับ ได้เบาะแสของผู้หญิงคนนั้นแล้วครับ”“เจอเธอที่ไหน”“เธอเป็นนักเปียโนใหม่เพิ่งมาเล่นที่ เค.เค.รอยัลเมื่อวานนี้ครับ”“สั่งการลงไป ให้เธอไปรายงานตัวที่ เค.เค. รอยัล คลับ ฉันจะไปรอเธอที่นั่น”“ครับเคเค”เมื่อสั่งการเสร็จท่านประธานก็เอนกายหนาพิงพนักเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่ทอดสายตาคมกริบผ่านผนังกระจกใสเบื้องหน้าไปยังทิวทัศน์ของเมืองกรุง ห้องทำงานของเขาเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูอันดับหนึ่งจึงมองเห็นทัศนียภาพไกลสุดหูสุดตาตัดขอบฟ้าใส หัวใจแกร่งของเขาวันนี้เหมือนจะเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติจนเจ้าตัวรู้สึกได้ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ตื่นตัวภายใน‘หึ! ฉันตามหาเธอมาเกือบเดือน ไม่คิดว่าจู่ๆเธอก็เดินเข้ามาหาฉันเอง’ริมฝีปากหยักสวยราวอิสตรียกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ข่าวที่ได้รับวันนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ดวงหน้าสวยหวานละมุนของคนในห้วงมโนนึกผุดพรายขึ้นกลางเวิ้งฟ้าเบื้องหน้า ชวนให้เขาคิดถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น‘ช่วยฉัน แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ’เขาพูดแล้วย่อมคำไหนคำนั้น เขารักษาคำพูดเสมอ“ฉันจัดการพวกที่ทำร้ายเธอวันนั้น แก้แค้นแทนเธอแล้ว” ประธานใหญ่ยก
คีตาลดารู้สึกประหลาดใจเมื่อผู้จัดการโรงแรมบอกให้เธอไปรายงานตัวกับท่านประธานใหญ่ที่ เค.เค. รอยัล คลับ เธอเป็นเพียงนักเล่นเปียโนพาร์ทไทม์ตัวเล็กๆธรรมดาคนหนึ่ง แต่เพราะอะไรถึงต้องรายงานตัวตรงต่อประธานใหญ่ของเค.เค. กรุ๊ป แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ความสงสัยมากอยู่ แต่เธอก็ได้แต่ทำตามคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง‘หึ! คำสั่งท่านประธาน มีหรือที่เธอจะหาญกล้า อย่าว่าแต่เธอเลย เป็นใครก็ไม่กล้าขัดด้วยกันทั้งนั้น’คีตาลดาหยุดความคิดตัวเองเพียงเท่านั้นเมื่อเธอมาถึงพนักงานต้อนรับของคลับก็พาเธอมายังห้องรับรองสุดหรูของที่นั่น พนักงานที่พาเธอมาส่งเคาะประตูห้องแล้วเปิดออกก่อนผายมือเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน คีตาลดาอดใจสั่นไม่ได้เมื่อเท้าเล็กๆก้าวเข้าไปในห้อง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าจนลึกสุดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง“นักเปียโนใหม่ที่ท่านเรียกพบมาแล้วครับ”พนักงานคนนั้นรายงานแล้วถอยกลับออกไป คีตาลดามองไปยังคนที่นั่งหันหลังให้เธอ ขนาดว่าพนักเก้าอี้ที่เขานั่งทั้งสูงและใหญ่แต่เธอก็ยังเห็นศีรษะของเขาโผล่พ้นพนักเก้าอี้กว่าครึ่งหัว เธอเดาโดยประมาณว่าเขาน่าจะสูงเกิน 190 เซนติเมตรน่าจะได้ เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าทายาทค
คีตาลดานั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เบื้องหน้าของเธอคือกระจกเงาบานใหญ่ ในห้องพักนักดนตรีของโรงแรมตอนนี้มีเธอเพียงคนเดียว หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกนิ่งดั่งคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ความคิดดิ่งลึกนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เธอจะก้าวออกมาจากห้องรับรองนั้น“คุณแน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหน้านี้”แปลก... น้ำเสียงนุ่มทุ้มต่ำลึกที่กระซิบข้างหลัง เธอช่างคุ้นหูเธอเหลือเกิน ตอนแรกที่เขาถามเธอไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถูกถามย้ำอีกครั้งในระยะประชิดตัวแบบนี้ เธอก็อดหวนคิดถึงฝันร้ายแสนหวามในค่ำคืนนั้นไม่ได้บ้าจริง! คิดแบบนั้นได้ยังไงกันนะลดา ท่านประธานจะเป็นผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ต่อให้เกิดเหตุในโรงแรมของเขาก็เถอะ แต่ทายาทคุปต์อนันต์อย่างเขาจะไม่เลือกกินขนาดลากใครที่ไหนขึ้นเตียงแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้“ท่านประธานถามแบบนี้ กำลังจะบอกว่าเคยเจอดิฉันมาก่อนหน้านี้เหรอคะ” เธอถามออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด หากใช่ล่ะ?“คุณอยู่ในสถานะที่ควรย้อนถามผมอย่างนั้นเหรอ”คำถามของเขาทำเอาใจเธอหล่นวูบ นั่นสินะ เธอเป็นใครถึงอาจหาญย้อนถามเขาไปแบบนั้น“ขอประทานโทษค่ะ ดิฉันล่วงเกินท่านแล้ว ดิฉัน