เอี๊ยดดด!!
คีตาลดาหัวทิ่มโขลกกับคอนโซลรถด้านหน้า เพราะจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีดำขับปาดตัดหน้าจนทัชกรเบรกรถจนตัวโก่ง แรงกระแทกทำเอาเธอถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราดของทัชกร
“ไอ้ห่าเอ๊ย! ขับรถประสาอะไรวะ”
คีตาลดาได้ยินทัชกรสบถด่าลั่นก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวลงไป หญิงสาวพยายามดึงสติหวังอาศัยช่วงจังหวะนั้นหลบหนีเอาตัวรอด แต่เธอรู้สึกมึนงงมาก รอบด้านพร่าเลือนมองอะไรไม่ชัดจึงพยายามใช้มือคลำหาที่จับเปิดประตูรถสะเปะสะปะ พอจะเปิดก็เปิดไม่ออกเพราะเป็นระบบล็อคอัตโนมัติ
ด้านนอก ทัชกรที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับยืนตะลึงเมื่อพบว่ารถสปอร์ตที่ขับปาดหน้าตนคือใคร เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อนก่อนจะฝืนยิ้มเจื่อนทักทายจนตรงหน้า
“คุณคิรินนั่นเอง ผมทัชกร”
ผัวะ!
หมัดหนักๆที่ซัดเข้าตรงโหนกแก้มซ้ายของเขาคือคำทักทายตอบ แรงอัดกระแทกแบบไม่ทันตั้งรับทำเอาทัชกรถึงกับถลาล้มหน้าคะมำ
“คุณคิริน คุณชกหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง ผมไปทำอะไรให้คุณ”
ผัวะ!
หมัดที่สองตามมาติดๆแบบที่ทัชกรไม่มีโอกาสต่อต้าน ยิ่งเห็นแววเกรี้ยวกราดในดวงตาสีดำสนิทของคิรินแล้ว คนขลาดอย่างทัชกรก็หงอไม่กล้าต่อกรกลับ
“หมัดแรกสั่งสอนที่นายกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของฉัน”
“ผู้หญิงของคุณ ใคร? คุณจะบอกว่าคีตาลดา...”
คิรินจ้องเขม็งแทนคำตอบ ดวงตาของเขาราวมีลูกไฟวิ่งได้อยู่ในนั้น ทัชกรแสยะยิ้มก่อนตอบกลับอย่างไม่หวาดหวั่นแม้ลึกๆจะเกรงต่ออำนาจของคิรินไม่น้อย
“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นั่นคีตาลดาแฟนผมไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ”
ผัวะ!
หมัดที่สามซัดเข้าจนทัชกรผงะหงาย แม้ว่าคราวนี้เขาจะไหวตัวฉากหลบแต่ก็ไม่พ้นกำปั้นอีกข้างที่เสยเข้าจังๆตรงปลายคาง
“หมัดที่สองสั่งสอนที่นายกล้าต่อปากต่อคำกับฉัน ส่วนหมัดที่สามคือคำเตือนอย่ามายุ่งกับคีตาลดาอีก”
“ผมรู้ว่าคุณมีอำนาจล้นมือ แต่คีตาลดาเป็นแฟนผม แล้วคุณเป็นใครถึงมาสั่งห้าม อย่านะ! อย่าคิดว่าผมจะยอมให้คุณต่อยผมฟรีๆ ถ้าคุณต่อยผมอีกหมัดเดียวผมเอาเรื่องคุณแน่”
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
ทัชกรถึงกับเห็นดวงดาวลอยเต็มเวิ้งฟ้า หมัดหนักๆของคิรินกระหน่ำรัวเข้ามาแทบนับไม่ทัน
“จำไว้คีตาลดาคือผู้หญิงของฉัน อย่าให้เห็นว่านายพยายามมาก่อกวนเธอไม่เลิก” คิรินข่มคำรามเสียงกร้าวก่อนเดินตรงไปยังรถยนต์ของทัชกร ชินโยยืนคุมเชิงทัชกรซึ่งพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนหลังทรุดลงไปกองกับพื้น ดวงตากร้าวกระด้างจ้องเขม็งไปยังร่างสูงใหญ่ที่ตรงไปเปิดประตูรถพาคีตาลดาซึ่งไร้เรี่ยวแรงลงมาจากรถ
ความเจ็บปวดทางกายไม่ได้สร้างความแค้นให้ทัชกรเท่าความเจ็บปวดทางใจที่ถูกหยามหมิ่น ต่อให้เม็ดเงินของตระกูลคุปต์อนันต์มีอำนาจยิ่งใหญ่แค่ไหน สาบานเลยว่าเขาจะหาทางโค่นล้มคนหยิ่งผยองผู้นี้ให้ได้
ทางด้านคีตาลดา หญิงสาวปรือตามองคนร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาช่วยด้วยความรู้สึกขอบคุณ ความมืดสลัวช่วงพลบค่ำบวกกับอาการมึนงงเพราะศีรษะกระแทกอย่างแรงทำให้เธอมองหน้าเขาไม่ชัด แต่ในความเลือนรางนั้นภาพใครคนนั้นในค่ำคืนเลวร้ายกลับซ้อนทับขึ้นมา
‘เหมือนมาก...เหมือนเหลือเกิน’
“ขอบคุณ...ขอบคุณ” คีตาลดาพูดได้เพียงเท่านั้นก็หมดสติล้มพับในอ้อมกอดของเขา คิรินได้แต่สบถด่าตัวเองอย่างเจ็บใจที่ปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายๆกับเธอ
“คีตาลดา ผมขอโทษ ผมสัญญาจากนี้เป็นต้นไปผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณได้อีก” เขาพึมพำบอกกับร่างไร้สติของเธอแล้วช้อนอุ้มเดินกลับไปขึ้นรถ
“ไปโรงพยาบาล” คิรินสั่งการเสียงเข้ม ชินโยรีบทำตามอย่างรู้ใจ สายตาคมของเขาตวัดมองเจ้านายซึ่งประคองกอดร่างอรชรของคีตาลดาไว้อย่างทะนุถนอม เธอคือผู้หญิงคนแรกและน่าจะเป็นคนเดียวที่เขาเห็นเจ้านายหวงแหนราวไข่ในหินแบบนี้
ไม่ถึงชั่วโมงคีตาลดาก็ฟื้นตื่นดี หญิงสาวกระพริบตาขับไล่ความมึนงงปรับม่านตารับกับแสงขาวนวล พอมองเห็นทุกอย่างชัดเธอก็ต้องอุทานด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ข้างเตียง
“ท่านประธาน” คีตาลดาพยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งแต่เขากดไหล่รั้งร่างเธอให้นอนลงไปตามเดิม
“จะรีบลุกไปไหน เดี๋ยวก็เวียนหัวหน้ามืดอีกหรอก”
น้ำเสียงของเขาช่างนุ่มหูเหลือเกินในความรู้สึก ดวงตาสีดำสนิทซึ่งยามปกติทรงพลังอำนาจจนไม่มีใครกล้าสบตายามนี้ดูอ่อนโยนจนหัวใจดวงเล็กๆหวามไหว
“ท่านประธานมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ หรือว่าท่าน...”
“แล้วคุณคิดว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ ใครพามา...ผมหรือว่าไอ้หมอนั่นที่บังคับพาตัวคุณไป”
คีตาลดากลืนน้ำลายฝืดคอ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขาไม่สบอารมณ์ น้ำเสียงแววตาแสนอ่อนโยนดูแข็งกร้าวยามเอ่ยถึงทัชกร
“ดิฉันขอบคุณท่านประธานมากค่ะที่ช่วยเหลือดิฉัน บุญคุณครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันลืม หากมีทางไหนที่ดิฉันสามารถตอบแทนได้ดิฉันก็ยินดีค่ะ”
“อยากตอบแทนบุญคุณผมมากขนาดนั้นเชียว”
“สุภาษิตจีนกล่าวไว้ บุญคุณต้องตอบแทน แค้นต้องชำระ ท่านประธานยื่นมือมาช่วยเหลือดิฉันให้รอดพ้นจากมือคนพาลนั่น ถือเป็นบุญคุณที่ต้องทดแทนอย่างยิ่งค่ะ”
คิรินหัวเราะเบาๆกับความจริงจังนั้น
“ดิฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ ท่านประธานถึงได้...”
“ก่อนอื่น...เลิกเรียกผมท่านประธานเสียทีเถอะ ต่อไปนี้เรียกผมว่าเคเค” เขาแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะพูดจบ หญิงสาวได้ยินถึงกับกระพริบตาปริบๆ พอเห็นเขาเลิกคิ้วมองแทนคำถามเธอก็พยักหน้าหงึกหงักตอบรับคำด้วยความรู้สึกประหม่า
‘เคเค’ เธอได้ยินมาว่ามีเฉพาะคนสนิทเท่านั้นที่เรียกขานเขาแบบนี้ แล้วเธอล่ะ!
“ไหน...ลองเรียกซิ” เขาบอกพร้อมส่งสายตากำชับจับจ้องเธอนิ่ง คีตาลดารู้สึกริมฝีปากสั่นระริกยามเปล่งเสียงเอ่ยเรียกเขา
“ค่ะ...เคเค”
เรียกเขาแล้วคีตาลดาก็รู้สึกวูบโหวงในอก ยิ่งเห็นริมฝีปากหยักสวยของเขาคลี่ยิ้มราวถูกอกถูกใจ ดวงตาของเธอก็พร่างพรายไปหมด หัวใจดวงเล็กๆของเธอเต้นตึกตัก มือไม้เย็นเฉียบเพราะเจ้าตัวกำลังหวามไหวกับความอ่อนโยนนั้น ยิ่งเขาวางมือลงบนศีรษะสวยของเธอแล้วทอดสายตาอบอุ่นมองมาหัวใจเธอก็ยิ่งกวัดแกว่งรุนแรง
-----------------------------
งู้ยยยย...ละลายแทนคีตาลดาแล้วค่า
ก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วย
“เคเคคะ คอนโดฯของลดาไม่ได้ไปทางนี้ค่ะ” คีตาลดารีบหันมาบอกคิรินทันทีที่เห็นว่าคนขับรถของเขาขับเลยทางแยกไปคอนโดมิเนียมของเธอ“ผมรู้”“เคเครู้ แล้วไงคะ หรือว่าคุณคนขับรถไม่รู้” คีตาลดาหันมาถามชินโยซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ เธอเห็นเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็นึกขัดใจ“คุณคะเดี๋ยวถึงจุดกลับรถข้างหน้าคุณก็ยูเทิร์นกลับนะคะ แล้ว...”“ขับตรงไปตามเดิมแหละชินโย” คิรินแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะทันพูดจบ หญิงสาวหันขวับมามองเขาแล้วเลิกคิ้วขณะถาม“เมื่อกี้นี้เคเคพูดว่าอะไรนะคะ”“ผมบอกให้ชินโยขับตรงไปไม่ต้องยูเทิร์น”“แต่มันเลยทางไปคอนโดฯลดาแล้วนะคะ ไม่กลับรถแล้วจะไปทางไหน”“แล้วใครบอกว่าจะไปคอนโดฯ คุณล่ะ”คำพูดแนวนี้ ซีนประมาณนี้เธอเคยเห็นในละครรักแทบจะทุกเรื่องแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอคีตาลดาขบฟันจ้องเขาพลางกระพริบตาปริบๆ หลังจากคิรินพูดยิ้มๆ เขาก็หันไปสนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของตัวเองไม่ได้หันมามองหน้าเธอสักนิด“คุณคะ ช่วยจอดรถตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะ” เมื่อเขาเอาแต่สนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของเขาไม่มีทีท่าสนใจเธอ คีตาลดาก็หันมาทางชินโย แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดเมื่อชินโยก็ทำท่าไม่รับรู้เหมือนเดิม“เค
“เคเค...”“จากนี้ไปคุณคือผู้หญิงของผมคีตาลดา” เขากระซิบชิดริมฝีปากก่อนทาบปิดลงมาอีกครั้งแล้วบดจูบคลอเคล้าราวหิวกระหาย ความเร่าเร้อนออดอ้อนที่เขาถ่ายสอดผ่านจูบแสนหวามทำเอาความรู้สึกนึกคิดของคีตาลดาตีกันวุ่นวายไปหมด‘อยู่กับเขา เป็นผู้หญิงของเขาอย่างนั้นเหรอ นี่เหรอความปรารถนาดีที่เขามอบให้’“ไม่! ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของคุณ”คีตาลดารีบปฏิเสธรัวเร็วทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระ ถ้อยคำที่เธอเอ่ยออกมาทำเอาคิรินชะงักกึก หญิงสาวฉวยโอกาสนั้นผลักไสเขาแล้วพลิกกายหนี คิรินแววตาหล่นวูบเมื่อเห็นคีตาลดาแสดงท่าทีราวหวาดกลัวเขาจับใจ“คีตาลดา...ผมขอโทษ”“ฉันอยากกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่” คีตาลดาบอกเสียงสั่นน้ำตาไหลพราก คิรินกำหมัดแน่นเจ็บใจตัวเองที่บุ่มบ่ามทำให้เธอหวาดกลัว เขายื่นมือไปหมายดึงร่างน้อยมากอดปลอบขวัญแต่คีตาลดาก็ถอยร่นหนีไปไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้“โอเคครับ กลับก็กลับผมจะไปส่งคุณเอง” คิรินบอกเสียงอ่อนก่อนถอยห่างออกมา คีตาลดาใช้มือสางผมและจับเสื้อผ้าให้เข้าทีแล้วรีบลงจากเตียงเดินนำเขาออกจากห้องไปทันที คิรินเดินตามไปห่างๆ เว้นช่องว่างให้คีตาลดาลดอาการหวาดระแวง หัวใจแกร่งของคิริ
“คีตาลดาคุณมาได้ยังไง ไหนท่านประธานบอกว่าคุณไม่สบายต้องหยุดสักระยะ”“อะไรนะคะ” คีตาลดาถึงกับอึ้งกับคำทักทายของผู้จัดการภัตตาคาร หญิงสาวใช้สายตาคาดคั้นเอาคำตอบแต่วีกิจก็ยักไหล่ทำไม้ทำมือแบบไม่รู้จะอธิบายอย่างไร อย่าว่าแต่ คีตาลดาจะมึนงงเขาเองก็ยังงงไม่ต่างจากเธอ“คุณมีอะไรก็ไปทำเถอะวีกิจทางนี้ผมจัดการเอง”คีตาลดากับวีกิจหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกัน ผู้จัดการห้องอาหารขยับจะอ้าปากถามแต่พอสบสายตาคมดุของเจ้านายใหญ่เขาก็รีบชิ่งหลบไปตามคำสั่งทันที“เดี๋ยวสิคะคุณวีกิจแล้วคิวเล่นเปียโนของฉันวันนี้ล่ะคะ”“คิดถึงผลได้ผลเสียภาพรวมบ้างคีตาลดา ถ้าคุณล้มพับไปกลางเวทีแขกเหรื่อจะตกใจขนาดไหน ชื่อเสียงเค.เค.รอยัลจะเป็นยังไง คุณรับผิดชอบไหวเหรอ”“แต่ถ้าฉันไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาคืนท่านประธานล่ะคะ”“อยากชดใช้มากขนาดนั้นเชียว”“เงินไม่ใช่น้อยๆจะให้ฉันนิ่งนอนใจได้ยังไงกัน ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมรับอะไรจากใครฟรีๆนี่คะ”“ได้! อยากชดใช้นักก็ได้! ถ้าอย่างนั้นมานี่”คิรินพูดแล้วก็อุ้มคีตาลดาจับพาดบ่าเดินลัดเลาะไปช่องทางลับด้านหนึ่งซึ่งมีไว
คิรินเฝ้ามองคนนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างด้วยความพะว้าพะวง ตลอดเวลากว่าสี่สิบนาทีที่เขาเฝ้าดูอาการเธอคิรินก็ผุดลุกผุดนั่งอยู่ไม่สุข แม้หมอประจำตัวที่เขาตามให้มาตรวจจะบอกว่าเธอแค่เป็นลมหมดสติเพราะตกใจมากเกินไป นอนหลับพักฟื้นสักหน่อยเดี๋ยวก็ฟื้นตื่นดีถึงกระนั้นเขาก็ยังอดกังวลไม่ได้“เคเค...เคเค...”คิรินหูผึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกเขาพึมพำเล็ดลอดออกจากริมฝีปากอิ่มระเรื่อที่เผยอแย้มเล็กๆของคนบนเตียง ท่านประธานใหญ่รีบโผเข้าไปหาคว้าเอามือน้อยมากอบกุมไว้แล้วเรียกเธอด้วยความดีอกดีใจ“คีตาลดา เด็กดี ผมอยู่นี่แล้ว” เขาพูดพร้อมกับจ้องมองดวงหน้าหวานที่เริ่มส่ายไปมาราวเจ้าตัวกำลังฝันร้าย คิรินบีบกระชับมือน้อยแน่นเข้าราวต้องการปลอบขวัญ พลันร่างอรชรของคีตาลดาก็ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเจ้าตัวตะโกนก้องออกมาลั่นห้อง“ไม่นะ! ไม่!”“คีตาลดา” คิรินเรียกเธอเสียงดังดึงให้คืนสติ หญิงสาวหันขวับมามองคนนั่งข้างๆ พอเห็นเขาชัดเจนเต็มสองตาเธอก็ผวาเฮือกกระถดกายถอยหนีห่างออกไป“คีตาลดา อย่ากลัวผม ได้โปรด...”“อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามาใกล้ลดา”คิรินสะอึกอึ้ง
“คีตาลดาผมต้องการคุณ” คิรินพึมพำชิดริมฝีปากอิ่ม ระเรื่อเสียงกระเส่าราวกำลังละเมอ เขาเอ่ยความรู้สึกลึกล้ำในใจแล้วจรดริมฝีปากบดจูบเธอหนักๆแล้วถอนจูบ...วนเวียนอยู่แบบนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า คีตาลดาหอบหายใจถี่กระชั้นกับความหวามหวานซาบซ่านนั้น“คุณเองก็ต้องการผมเช่นกันใช่หรือเปล่า” เขาถามแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่กลม สองมือของเขาประคองดวงหน้าหวานละมุนอย่างทะนุถนอม ไล้ปลายนิ้วโป้งสัมผัสความเนียนนุ่มของผิวแก้มด้วยความเสน่หาจับหัวใจ“ตอบผม...คำถามนี้ผมต้องการคำตอบ” เขาพูดเหมือนออกคำสั่ง แต่เป็นคำสั่งที่เต็มไปด้วยความเว้าวอนออดอ้อน ร้องขอ คีตาลดาตาพร่าพรายหัวใจของเธอเต้นระรัว ยิ่งยามปลายนิ้วของเขาเลื่อนไล้มาทาบลงบนริมฝีปากอิ่มระเรื่อของเธอบดคลึงราวต้องการกระตุ้นย้ำเตือนว่าเขาแทบจะทนรั้งรอคำตอบไม่ไหว คีตาลดาก็ยิ่งหวามไหวรุนแรง“คำถามยากเกินไปใช่ไหม”คีตาลดาส่ายหน้าเธอไม่ได้ตอบเขาด้วยวาจาแต่ใช้ภาษากายแทนคำตอบ หญิงสาวปิดเปลือกตาลง วางมือเล็กทาบบนหลังมือเขาแล้วเลื่อนลงจับยึดข้อมือแกร่งขณะแหงนเงยดวงหน้าขึ้นเผยอแย้มริมฝีปากสั่นระริกราวลูกนกรอคอยพ่อนกป้อนเหยื่อให้กัดกลืน
หลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอคิริน หลังจากวันนั้นเขาก็มีเหตุต้องเดินทางไกลไปต่างประเทศร่วมสัปดาห์ คีตาลดายอมรับว่าเธอรู้สึกคิดถึงเขาอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แม้แต่กับทัชกรซึ่งเธอรักปักใจกับเขามานานถึง 7 ปี แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกพะว้าพะวงคิดถึงแบบนี้คีตาลดายังไม่อาจยอมรับได้เต็มหัวใจว่าเธอหลงรักท่านประธานใหญ่แห่ง เค.เค. กรุ๊ป เข้าแล้ว เธอได้แต่บอกตัวเองว่าอาจเป็นเพราะความอบอุ่นอ่อนโยนของเขาที่ทำให้เธออิ่มอุ่นในหัวใจจนเริ่มเสพติดความรู้สึกนี้ พอไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆเธอจึงรู้สึกเหมือนคนไข้กำลังขาดยา‘คุณเหงาไหม คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า’เขาถามเธอแบบนี้ทุกครั้งที่โทรมาหา แล้วเธอเองก็ตอบกลับแบบคนปากแข็งทุกครั้งว่าเธอไม่รู้ว่าคำว่า ‘เหงา’ สะกดอย่างไร เธอรู้ว่าเขารู้ทันว่านั่นเป็นเพียงคำพูดเฉไฉของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าเขาเองก็คงรับรู้ได้ว่าเธอเองก็เหงาและคิดถึงเขาไม่น้อย‘ถ้าคุณเหงาจะมาหาผมก็ได้นะผมจะให้ชินโยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้’‘ลดามีงานต้องทำนะคะ จะทิ้งงานไปเที่ยวตามใจได้ยังไง’‘ถ้าอย่างนั้นผมเลิกจ้างคุณดีไหม คุณจะได้ไม่ต้องทิ้งงานเพื่อมาหาผม’‘ถ้าเคเคจะเลิกจ้างลดาเมื่อไรก็บอกล่วงหน้าด้
“ยังไม่ครบกำหนดเดินทางกลับไม่ใช่เหรอคะ แล้วเคเคกลับมาได้ยังไงคะ” คีตาลดาถามเมื่อเขาพาเธอกลับมาส่งที่คอนโดมิเนียม แม้คิรินจะหว่านล้อมสารพัดให้เธอย้ายไปอยู่คอนโดฯของเขา แต่คีตาลดาก็ยังยืนกรานจะอยู่ที่นี่ดังเดิม คิรินจึงจำยอมอย่างไม่เต็มใจนัก“มีพรายกระซิบบอกว่าคุณตกอยู่ในอันตรายผมเลยต้องรีบกลับมา” เขาตอบยิ้มๆ คีตาลดาค้อนขวับพร้อมกับดันตัวออกจากอ้อมกอดเขา แต่คิรินไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เขากระชับวงแขนแน่นเข้าแล้วรั้งร่างเธอขึ้นนั่งบนตักแกร่ง“เคเค”“เชื่อใจผมคีตาลดา ผมบอกแล้วว่าจะรอจนกว่าคุณจะพร้อมเปิดใจรับ”คีตาลดาเม้มปาก ใช่ว่าเธอจะไม่อยากเปิดใจให้เขา แต่ระยะเวลาในความสัมพันธ์ขั้นนั้นมันยังเร็วเกินไป และวันนี้คำพูดของทัชกรก็ตอกย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าอดีตแสนเจ็บปวดยังคงติดตรึงในหัวใจและมันยากเหลือเกินที่จะพาตัวเองก้าวออกมา‘ผู้หญิงบ้านๆอย่างคุณจะเขี่ยทิ้งเมื่อไรก็ได้’“คิดอะไรอยู่ครับ”คีตาลดาสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิด หญิงสาวช้อนสายตามองคิรินนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงลังเล“เคเคคะ อย่ารอลดาอีกเลยค่ะ ลดาคิดว่า...”“คุณยังรัก
“ยังไม่ครบกำหนดเดินทางกลับไม่ใช่เหรอคะ แล้วเคเคกลับมาได้ยังไงคะ” คีตาลดาถามเมื่อเขาพาเธอกลับมาส่งที่คอนโดมิเนียม แม้คิรินจะหว่านล้อมสารพัดให้เธอย้ายไปอยู่คอนโดฯของเขา แต่คีตาลดาก็ยังยืนกรานจะอยู่ที่นี่ดังเดิม คิรินจึงจำยอมอย่างไม่เต็มใจนัก“มีพรายกระซิบบอกว่าคุณตกอยู่ในอันตรายผมเลยต้องรีบกลับมา” เขาตอบยิ้มๆ คีตาลดาค้อนขวับพร้อมกับดันตัวออกจากอ้อมกอดเขา แต่คิรินไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เขากระชับวงแขนแน่นเข้าแล้วรั้งร่างเธอขึ้นนั่งบนตักแกร่ง“เคเค”“เชื่อใจผมคีตาลดา ผมบอกแล้วว่าจะรอจนกว่าคุณจะพร้อมเปิดใจรับ”คีตาลดาเม้มปาก ใช่ว่าเธอจะไม่อยากเปิดใจให้เขา แต่ระยะเวลาในความสัมพันธ์ขั้นนั้นมันยังเร็วเกินไป และวันนี้คำพูดของทัชกรก็ตอกย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าอดีตแสนเจ็บปวดยังคงติดตรึงในหัวใจและมันยากเหลือเกินที่จะพาตัวเองก้าวออกมา‘ผู้หญิงบ้านๆอย่างคุณจะเขี่ยทิ้งเมื่อไรก็ได้’“คิดอะไรอยู่ครับ”คีตาลดาสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิด หญิงสาวช้อนสายตามองคิรินนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงลังเล“เคเคคะ อย่ารอลดาอีกเลยค่ะ ลดาคิดว่า...”“คุณยังรัก
หลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอคิริน หลังจากวันนั้นเขาก็มีเหตุต้องเดินทางไกลไปต่างประเทศร่วมสัปดาห์ คีตาลดายอมรับว่าเธอรู้สึกคิดถึงเขาอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แม้แต่กับทัชกรซึ่งเธอรักปักใจกับเขามานานถึง 7 ปี แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกพะว้าพะวงคิดถึงแบบนี้คีตาลดายังไม่อาจยอมรับได้เต็มหัวใจว่าเธอหลงรักท่านประธานใหญ่แห่ง เค.เค. กรุ๊ป เข้าแล้ว เธอได้แต่บอกตัวเองว่าอาจเป็นเพราะความอบอุ่นอ่อนโยนของเขาที่ทำให้เธออิ่มอุ่นในหัวใจจนเริ่มเสพติดความรู้สึกนี้ พอไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆเธอจึงรู้สึกเหมือนคนไข้กำลังขาดยา‘คุณเหงาไหม คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า’เขาถามเธอแบบนี้ทุกครั้งที่โทรมาหา แล้วเธอเองก็ตอบกลับแบบคนปากแข็งทุกครั้งว่าเธอไม่รู้ว่าคำว่า ‘เหงา’ สะกดอย่างไร เธอรู้ว่าเขารู้ทันว่านั่นเป็นเพียงคำพูดเฉไฉของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าเขาเองก็คงรับรู้ได้ว่าเธอเองก็เหงาและคิดถึงเขาไม่น้อย‘ถ้าคุณเหงาจะมาหาผมก็ได้นะผมจะให้ชินโยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้’‘ลดามีงานต้องทำนะคะ จะทิ้งงานไปเที่ยวตามใจได้ยังไง’‘ถ้าอย่างนั้นผมเลิกจ้างคุณดีไหม คุณจะได้ไม่ต้องทิ้งงานเพื่อมาหาผม’‘ถ้าเคเคจะเลิกจ้างลดาเมื่อไรก็บอกล่วงหน้าด้
“คีตาลดาผมต้องการคุณ” คิรินพึมพำชิดริมฝีปากอิ่ม ระเรื่อเสียงกระเส่าราวกำลังละเมอ เขาเอ่ยความรู้สึกลึกล้ำในใจแล้วจรดริมฝีปากบดจูบเธอหนักๆแล้วถอนจูบ...วนเวียนอยู่แบบนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า คีตาลดาหอบหายใจถี่กระชั้นกับความหวามหวานซาบซ่านนั้น“คุณเองก็ต้องการผมเช่นกันใช่หรือเปล่า” เขาถามแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่กลม สองมือของเขาประคองดวงหน้าหวานละมุนอย่างทะนุถนอม ไล้ปลายนิ้วโป้งสัมผัสความเนียนนุ่มของผิวแก้มด้วยความเสน่หาจับหัวใจ“ตอบผม...คำถามนี้ผมต้องการคำตอบ” เขาพูดเหมือนออกคำสั่ง แต่เป็นคำสั่งที่เต็มไปด้วยความเว้าวอนออดอ้อน ร้องขอ คีตาลดาตาพร่าพรายหัวใจของเธอเต้นระรัว ยิ่งยามปลายนิ้วของเขาเลื่อนไล้มาทาบลงบนริมฝีปากอิ่มระเรื่อของเธอบดคลึงราวต้องการกระตุ้นย้ำเตือนว่าเขาแทบจะทนรั้งรอคำตอบไม่ไหว คีตาลดาก็ยิ่งหวามไหวรุนแรง“คำถามยากเกินไปใช่ไหม”คีตาลดาส่ายหน้าเธอไม่ได้ตอบเขาด้วยวาจาแต่ใช้ภาษากายแทนคำตอบ หญิงสาวปิดเปลือกตาลง วางมือเล็กทาบบนหลังมือเขาแล้วเลื่อนลงจับยึดข้อมือแกร่งขณะแหงนเงยดวงหน้าขึ้นเผยอแย้มริมฝีปากสั่นระริกราวลูกนกรอคอยพ่อนกป้อนเหยื่อให้กัดกลืน
คิรินเฝ้ามองคนนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างด้วยความพะว้าพะวง ตลอดเวลากว่าสี่สิบนาทีที่เขาเฝ้าดูอาการเธอคิรินก็ผุดลุกผุดนั่งอยู่ไม่สุข แม้หมอประจำตัวที่เขาตามให้มาตรวจจะบอกว่าเธอแค่เป็นลมหมดสติเพราะตกใจมากเกินไป นอนหลับพักฟื้นสักหน่อยเดี๋ยวก็ฟื้นตื่นดีถึงกระนั้นเขาก็ยังอดกังวลไม่ได้“เคเค...เคเค...”คิรินหูผึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกเขาพึมพำเล็ดลอดออกจากริมฝีปากอิ่มระเรื่อที่เผยอแย้มเล็กๆของคนบนเตียง ท่านประธานใหญ่รีบโผเข้าไปหาคว้าเอามือน้อยมากอบกุมไว้แล้วเรียกเธอด้วยความดีอกดีใจ“คีตาลดา เด็กดี ผมอยู่นี่แล้ว” เขาพูดพร้อมกับจ้องมองดวงหน้าหวานที่เริ่มส่ายไปมาราวเจ้าตัวกำลังฝันร้าย คิรินบีบกระชับมือน้อยแน่นเข้าราวต้องการปลอบขวัญ พลันร่างอรชรของคีตาลดาก็ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเจ้าตัวตะโกนก้องออกมาลั่นห้อง“ไม่นะ! ไม่!”“คีตาลดา” คิรินเรียกเธอเสียงดังดึงให้คืนสติ หญิงสาวหันขวับมามองคนนั่งข้างๆ พอเห็นเขาชัดเจนเต็มสองตาเธอก็ผวาเฮือกกระถดกายถอยหนีห่างออกไป“คีตาลดา อย่ากลัวผม ได้โปรด...”“อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามาใกล้ลดา”คิรินสะอึกอึ้ง
“คีตาลดาคุณมาได้ยังไง ไหนท่านประธานบอกว่าคุณไม่สบายต้องหยุดสักระยะ”“อะไรนะคะ” คีตาลดาถึงกับอึ้งกับคำทักทายของผู้จัดการภัตตาคาร หญิงสาวใช้สายตาคาดคั้นเอาคำตอบแต่วีกิจก็ยักไหล่ทำไม้ทำมือแบบไม่รู้จะอธิบายอย่างไร อย่าว่าแต่ คีตาลดาจะมึนงงเขาเองก็ยังงงไม่ต่างจากเธอ“คุณมีอะไรก็ไปทำเถอะวีกิจทางนี้ผมจัดการเอง”คีตาลดากับวีกิจหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกัน ผู้จัดการห้องอาหารขยับจะอ้าปากถามแต่พอสบสายตาคมดุของเจ้านายใหญ่เขาก็รีบชิ่งหลบไปตามคำสั่งทันที“เดี๋ยวสิคะคุณวีกิจแล้วคิวเล่นเปียโนของฉันวันนี้ล่ะคะ”“คิดถึงผลได้ผลเสียภาพรวมบ้างคีตาลดา ถ้าคุณล้มพับไปกลางเวทีแขกเหรื่อจะตกใจขนาดไหน ชื่อเสียงเค.เค.รอยัลจะเป็นยังไง คุณรับผิดชอบไหวเหรอ”“แต่ถ้าฉันไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาคืนท่านประธานล่ะคะ”“อยากชดใช้มากขนาดนั้นเชียว”“เงินไม่ใช่น้อยๆจะให้ฉันนิ่งนอนใจได้ยังไงกัน ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมรับอะไรจากใครฟรีๆนี่คะ”“ได้! อยากชดใช้นักก็ได้! ถ้าอย่างนั้นมานี่”คิรินพูดแล้วก็อุ้มคีตาลดาจับพาดบ่าเดินลัดเลาะไปช่องทางลับด้านหนึ่งซึ่งมีไว
“เคเค...”“จากนี้ไปคุณคือผู้หญิงของผมคีตาลดา” เขากระซิบชิดริมฝีปากก่อนทาบปิดลงมาอีกครั้งแล้วบดจูบคลอเคล้าราวหิวกระหาย ความเร่าเร้อนออดอ้อนที่เขาถ่ายสอดผ่านจูบแสนหวามทำเอาความรู้สึกนึกคิดของคีตาลดาตีกันวุ่นวายไปหมด‘อยู่กับเขา เป็นผู้หญิงของเขาอย่างนั้นเหรอ นี่เหรอความปรารถนาดีที่เขามอบให้’“ไม่! ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของคุณ”คีตาลดารีบปฏิเสธรัวเร็วทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระ ถ้อยคำที่เธอเอ่ยออกมาทำเอาคิรินชะงักกึก หญิงสาวฉวยโอกาสนั้นผลักไสเขาแล้วพลิกกายหนี คิรินแววตาหล่นวูบเมื่อเห็นคีตาลดาแสดงท่าทีราวหวาดกลัวเขาจับใจ“คีตาลดา...ผมขอโทษ”“ฉันอยากกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่” คีตาลดาบอกเสียงสั่นน้ำตาไหลพราก คิรินกำหมัดแน่นเจ็บใจตัวเองที่บุ่มบ่ามทำให้เธอหวาดกลัว เขายื่นมือไปหมายดึงร่างน้อยมากอดปลอบขวัญแต่คีตาลดาก็ถอยร่นหนีไปไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้“โอเคครับ กลับก็กลับผมจะไปส่งคุณเอง” คิรินบอกเสียงอ่อนก่อนถอยห่างออกมา คีตาลดาใช้มือสางผมและจับเสื้อผ้าให้เข้าทีแล้วรีบลงจากเตียงเดินนำเขาออกจากห้องไปทันที คิรินเดินตามไปห่างๆ เว้นช่องว่างให้คีตาลดาลดอาการหวาดระแวง หัวใจแกร่งของคิริ
“เคเคคะ คอนโดฯของลดาไม่ได้ไปทางนี้ค่ะ” คีตาลดารีบหันมาบอกคิรินทันทีที่เห็นว่าคนขับรถของเขาขับเลยทางแยกไปคอนโดมิเนียมของเธอ“ผมรู้”“เคเครู้ แล้วไงคะ หรือว่าคุณคนขับรถไม่รู้” คีตาลดาหันมาถามชินโยซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ เธอเห็นเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็นึกขัดใจ“คุณคะเดี๋ยวถึงจุดกลับรถข้างหน้าคุณก็ยูเทิร์นกลับนะคะ แล้ว...”“ขับตรงไปตามเดิมแหละชินโย” คิรินแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะทันพูดจบ หญิงสาวหันขวับมามองเขาแล้วเลิกคิ้วขณะถาม“เมื่อกี้นี้เคเคพูดว่าอะไรนะคะ”“ผมบอกให้ชินโยขับตรงไปไม่ต้องยูเทิร์น”“แต่มันเลยทางไปคอนโดฯลดาแล้วนะคะ ไม่กลับรถแล้วจะไปทางไหน”“แล้วใครบอกว่าจะไปคอนโดฯ คุณล่ะ”คำพูดแนวนี้ ซีนประมาณนี้เธอเคยเห็นในละครรักแทบจะทุกเรื่องแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอคีตาลดาขบฟันจ้องเขาพลางกระพริบตาปริบๆ หลังจากคิรินพูดยิ้มๆ เขาก็หันไปสนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของตัวเองไม่ได้หันมามองหน้าเธอสักนิด“คุณคะ ช่วยจอดรถตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะ” เมื่อเขาเอาแต่สนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของเขาไม่มีทีท่าสนใจเธอ คีตาลดาก็หันมาทางชินโย แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดเมื่อชินโยก็ทำท่าไม่รับรู้เหมือนเดิม“เค
ก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วย
เอี๊ยดดด!!คีตาลดาหัวทิ่มโขลกกับคอนโซลรถด้านหน้า เพราะจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีดำขับปาดตัดหน้าจนทัชกรเบรกรถจนตัวโก่ง แรงกระแทกทำเอาเธอถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราดของทัชกร“ไอ้ห่าเอ๊ย! ขับรถประสาอะไรวะ”คีตาลดาได้ยินทัชกรสบถด่าลั่นก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวลงไป หญิงสาวพยายามดึงสติหวังอาศัยช่วงจังหวะนั้นหลบหนีเอาตัวรอด แต่เธอรู้สึกมึนงงมาก รอบด้านพร่าเลือนมองอะไรไม่ชัดจึงพยายามใช้มือคลำหาที่จับเปิดประตูรถสะเปะสะปะ พอจะเปิดก็เปิดไม่ออกเพราะเป็นระบบล็อคอัตโนมัติด้านนอก ทัชกรที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับยืนตะลึงเมื่อพบว่ารถสปอร์ตที่ขับปาดหน้าตนคือใคร เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อนก่อนจะฝืนยิ้มเจื่อนทักทายจนตรงหน้า“คุณคิรินนั่นเอง ผมทัชกร”ผัวะ!หมัดหนักๆที่ซัดเข้าตรงโหนกแก้มซ้ายของเขาคือคำทักทายตอบ แรงอัดกระแทกแบบไม่ทันตั้งรับทำเอาทัชกรถึงกับถลาล้มหน้าคะมำ“คุณคิริน คุณชกหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง ผมไปทำอะไรให้คุณ”ผัวะ!หมัดที่สองตามมาติดๆแบบที่ทัชกรไม่มีโอกาสต่อต้าน ยิ่งเห็นแววเกรี้ยวกราดในดวงตาสีดำสนิทของคิรินแล้ว คนขลาดอย่างทัชกรก็หงอไม่กล้าต่อกรกลับ“หมัดแรกสั่งสอนท