เอี๊ยดดด!!
คีตาลดาหัวทิ่มโขลกกับคอนโซลรถด้านหน้า เพราะจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีดำขับปาดตัดหน้าจนทัชกรเบรกรถจนตัวโก่ง แรงกระแทกทำเอาเธอถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราดของทัชกร
“ไอ้ห่าเอ๊ย! ขับรถประสาอะไรวะ”
คีตาลดาได้ยินทัชกรสบถด่าลั่นก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวลงไป หญิงสาวพยายามดึงสติหวังอาศัยช่วงจังหวะนั้นหลบหนีเอาตัวรอด แต่เธอรู้สึกมึนงงมาก รอบด้านพร่าเลือนมองอะไรไม่ชัดจึงพยายามใช้มือคลำหาที่จับเปิดประตูรถสะเปะสะปะ พอจะเปิดก็เปิดไม่ออกเพราะเป็นระบบล็อคอัตโนมัติ
ด้านนอก ทัชกรที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับยืนตะลึงเมื่อพบว่ารถสปอร์ตที่ขับปาดหน้าตนคือใคร เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อนก่อนจะฝืนยิ้มเจื่อนทักทายจนตรงหน้า
“คุณคิรินนั่นเอง ผมทัชกร”
ผัวะ!
หมัดหนักๆที่ซัดเข้าตรงโหนกแก้มซ้ายของเขาคือคำทักทายตอบ แรงอัดกระแทกแบบไม่ทันตั้งรับทำเอาทัชกรถึงกับถลาล้มหน้าคะมำ
“คุณคิริน คุณชกหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง ผมไปทำอะไรให้คุณ”
ผัวะ!
หมัดที่สองตามมาติดๆแบบที่ทัชกรไม่มีโอกาสต่อต้าน ยิ่งเห็นแววเกรี้ยวกราดในดวงตาสีดำสนิทของคิรินแล้ว คนขลาดอย่างทัชกรก็หงอไม่กล้าต่อกรกลับ
“หมัดแรกสั่งสอนที่นายกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของฉัน”
“ผู้หญิงของคุณ ใคร? คุณจะบอกว่าคีตาลดา...”
คิรินจ้องเขม็งแทนคำตอบ ดวงตาของเขาราวมีลูกไฟวิ่งได้อยู่ในนั้น ทัชกรแสยะยิ้มก่อนตอบกลับอย่างไม่หวาดหวั่นแม้ลึกๆจะเกรงต่ออำนาจของคิรินไม่น้อย
“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นั่นคีตาลดาแฟนผมไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ”
ผัวะ!
หมัดที่สามซัดเข้าจนทัชกรผงะหงาย แม้ว่าคราวนี้เขาจะไหวตัวฉากหลบแต่ก็ไม่พ้นกำปั้นอีกข้างที่เสยเข้าจังๆตรงปลายคาง
“หมัดที่สองสั่งสอนที่นายกล้าต่อปากต่อคำกับฉัน ส่วนหมัดที่สามคือคำเตือนอย่ามายุ่งกับคีตาลดาอีก”
“ผมรู้ว่าคุณมีอำนาจล้นมือ แต่คีตาลดาเป็นแฟนผม แล้วคุณเป็นใครถึงมาสั่งห้าม อย่านะ! อย่าคิดว่าผมจะยอมให้คุณต่อยผมฟรีๆ ถ้าคุณต่อยผมอีกหมัดเดียวผมเอาเรื่องคุณแน่”
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
ทัชกรถึงกับเห็นดวงดาวลอยเต็มเวิ้งฟ้า หมัดหนักๆของคิรินกระหน่ำรัวเข้ามาแทบนับไม่ทัน
“จำไว้คีตาลดาคือผู้หญิงของฉัน อย่าให้เห็นว่านายพยายามมาก่อกวนเธอไม่เลิก” คิรินข่มคำรามเสียงกร้าวก่อนเดินตรงไปยังรถยนต์ของทัชกร ชินโยยืนคุมเชิงทัชกรซึ่งพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนหลังทรุดลงไปกองกับพื้น ดวงตากร้าวกระด้างจ้องเขม็งไปยังร่างสูงใหญ่ที่ตรงไปเปิดประตูรถพาคีตาลดาซึ่งไร้เรี่ยวแรงลงมาจากรถ
ความเจ็บปวดทางกายไม่ได้สร้างความแค้นให้ทัชกรเท่าความเจ็บปวดทางใจที่ถูกหยามหมิ่น ต่อให้เม็ดเงินของตระกูลคุปต์อนันต์มีอำนาจยิ่งใหญ่แค่ไหน สาบานเลยว่าเขาจะหาทางโค่นล้มคนหยิ่งผยองผู้นี้ให้ได้
ทางด้านคีตาลดา หญิงสาวปรือตามองคนร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาช่วยด้วยความรู้สึกขอบคุณ ความมืดสลัวช่วงพลบค่ำบวกกับอาการมึนงงเพราะศีรษะกระแทกอย่างแรงทำให้เธอมองหน้าเขาไม่ชัด แต่ในความเลือนรางนั้นภาพใครคนนั้นในค่ำคืนเลวร้ายกลับซ้อนทับขึ้นมา
‘เหมือนมาก...เหมือนเหลือเกิน’
“ขอบคุณ...ขอบคุณ” คีตาลดาพูดได้เพียงเท่านั้นก็หมดสติล้มพับในอ้อมกอดของเขา คิรินได้แต่สบถด่าตัวเองอย่างเจ็บใจที่ปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายๆกับเธอ
“คีตาลดา ผมขอโทษ ผมสัญญาจากนี้เป็นต้นไปผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณได้อีก” เขาพึมพำบอกกับร่างไร้สติของเธอแล้วช้อนอุ้มเดินกลับไปขึ้นรถ
“ไปโรงพยาบาล” คิรินสั่งการเสียงเข้ม ชินโยรีบทำตามอย่างรู้ใจ สายตาคมของเขาตวัดมองเจ้านายซึ่งประคองกอดร่างอรชรของคีตาลดาไว้อย่างทะนุถนอม เธอคือผู้หญิงคนแรกและน่าจะเป็นคนเดียวที่เขาเห็นเจ้านายหวงแหนราวไข่ในหินแบบนี้
ไม่ถึงชั่วโมงคีตาลดาก็ฟื้นตื่นดี หญิงสาวกระพริบตาขับไล่ความมึนงงปรับม่านตารับกับแสงขาวนวล พอมองเห็นทุกอย่างชัดเธอก็ต้องอุทานด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ข้างเตียง
“ท่านประธาน” คีตาลดาพยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งแต่เขากดไหล่รั้งร่างเธอให้นอนลงไปตามเดิม
“จะรีบลุกไปไหน เดี๋ยวก็เวียนหัวหน้ามืดอีกหรอก”
น้ำเสียงของเขาช่างนุ่มหูเหลือเกินในความรู้สึก ดวงตาสีดำสนิทซึ่งยามปกติทรงพลังอำนาจจนไม่มีใครกล้าสบตายามนี้ดูอ่อนโยนจนหัวใจดวงเล็กๆหวามไหว
“ท่านประธานมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ หรือว่าท่าน...”
“แล้วคุณคิดว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ ใครพามา...ผมหรือว่าไอ้หมอนั่นที่บังคับพาตัวคุณไป”
คีตาลดากลืนน้ำลายฝืดคอ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขาไม่สบอารมณ์ น้ำเสียงแววตาแสนอ่อนโยนดูแข็งกร้าวยามเอ่ยถึงทัชกร
“ดิฉันขอบคุณท่านประธานมากค่ะที่ช่วยเหลือดิฉัน บุญคุณครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันลืม หากมีทางไหนที่ดิฉันสามารถตอบแทนได้ดิฉันก็ยินดีค่ะ”
“อยากตอบแทนบุญคุณผมมากขนาดนั้นเชียว”
“สุภาษิตจีนกล่าวไว้ บุญคุณต้องตอบแทน แค้นต้องชำระ ท่านประธานยื่นมือมาช่วยเหลือดิฉันให้รอดพ้นจากมือคนพาลนั่น ถือเป็นบุญคุณที่ต้องทดแทนอย่างยิ่งค่ะ”
คิรินหัวเราะเบาๆกับความจริงจังนั้น
“ดิฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ ท่านประธานถึงได้...”
“ก่อนอื่น...เลิกเรียกผมท่านประธานเสียทีเถอะ ต่อไปนี้เรียกผมว่าเคเค” เขาแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะพูดจบ หญิงสาวได้ยินถึงกับกระพริบตาปริบๆ พอเห็นเขาเลิกคิ้วมองแทนคำถามเธอก็พยักหน้าหงึกหงักตอบรับคำด้วยความรู้สึกประหม่า
‘เคเค’ เธอได้ยินมาว่ามีเฉพาะคนสนิทเท่านั้นที่เรียกขานเขาแบบนี้ แล้วเธอล่ะ!
“ไหน...ลองเรียกซิ” เขาบอกพร้อมส่งสายตากำชับจับจ้องเธอนิ่ง คีตาลดารู้สึกริมฝีปากสั่นระริกยามเปล่งเสียงเอ่ยเรียกเขา
“ค่ะ...เคเค”
เรียกเขาแล้วคีตาลดาก็รู้สึกวูบโหวงในอก ยิ่งเห็นริมฝีปากหยักสวยของเขาคลี่ยิ้มราวถูกอกถูกใจ ดวงตาของเธอก็พร่างพรายไปหมด หัวใจดวงเล็กๆของเธอเต้นตึกตัก มือไม้เย็นเฉียบเพราะเจ้าตัวกำลังหวามไหวกับความอ่อนโยนนั้น ยิ่งเขาวางมือลงบนศีรษะสวยของเธอแล้วทอดสายตาอบอุ่นมองมาหัวใจเธอก็ยิ่งกวัดแกว่งรุนแรง
-----------------------------
งู้ยยยย...ละลายแทนคีตาลดาแล้วค่า
ก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วย
“เคเคคะ คอนโดฯของลดาไม่ได้ไปทางนี้ค่ะ” คีตาลดารีบหันมาบอกคิรินทันทีที่เห็นว่าคนขับรถของเขาขับเลยทางแยกไปคอนโดมิเนียมของเธอ“ผมรู้”“เคเครู้ แล้วไงคะ หรือว่าคุณคนขับรถไม่รู้” คีตาลดาหันมาถามชินโยซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ เธอเห็นเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็นึกขัดใจ“คุณคะเดี๋ยวถึงจุดกลับรถข้างหน้าคุณก็ยูเทิร์นกลับนะคะ แล้ว...”“ขับตรงไปตามเดิมแหละชินโย” คิรินแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะทันพูดจบ หญิงสาวหันขวับมามองเขาแล้วเลิกคิ้วขณะถาม“เมื่อกี้นี้เคเคพูดว่าอะไรนะคะ”“ผมบอกให้ชินโยขับตรงไปไม่ต้องยูเทิร์น”“แต่มันเลยทางไปคอนโดฯลดาแล้วนะคะ ไม่กลับรถแล้วจะไปทางไหน”“แล้วใครบอกว่าจะไปคอนโดฯ คุณล่ะ”คำพูดแนวนี้ ซีนประมาณนี้เธอเคยเห็นในละครรักแทบจะทุกเรื่องแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอคีตาลดาขบฟันจ้องเขาพลางกระพริบตาปริบๆ หลังจากคิรินพูดยิ้มๆ เขาก็หันไปสนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของตัวเองไม่ได้หันมามองหน้าเธอสักนิด“คุณคะ ช่วยจอดรถตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะ” เมื่อเขาเอาแต่สนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของเขาไม่มีทีท่าสนใจเธอ คีตาลดาก็หันมาทางชินโย แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดเมื่อชินโยก็ทำท่าไม่รับรู้เหมือนเดิม“เค
เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอต้องทำอย่างไรกับชีวิตนับจากนี้ไป ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกความมืดมิด เธอต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบไม่คาดคิด ผู้ชายที่เธอรักและวาดหวังฝากชีวิตไว้กับเขา ท้ายสุดแล้วก็เป็นเพียงผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง เลวสุดใจแบบที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมองคนผิดพลาดได้มากขนาดนี้‘ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลยลดา ผมไม่เห็นว่าคุณจะเสียหายตรงไหนมีแต่ได้กับได้’‘คุณจะบอกว่าการที่ลดาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ลดาไม่เสียหายอย่างนั้นเหรอคะ’‘คุณคิดมากเกินไปลดา ผมเห็นแต่ว่าคุณจะมีแต่สนุกแล้วก็ได้เงิน’‘ทัช! ลดาเป็นแฟนคุณนะ คุณคิดแบบนี้ได้ยังไงคะ’‘คุณเลิกความคิดคร่ำครึหัวโบราณเสียทีได้ไหมลดา ผมเป็นแฟน เป็นผู้ชายแท้ๆผมยังรับได้แล้วคุณจะเรื่องมากให้มันวุ่นวายไปทำไมฮะ’หยุด! หยุดได้แล้ว! หยุดคิดถึงคนชั่วช้านั่นเสียที ยิ่งเธอคิดก็ยิ่งมีแต่เจ็บปวดรวดร้าว เธอจะปล่อยให้เรื่องราวเหล่านั้นมาบั่นทอนชีวิตเธอต่อไปอีกนานแค่ไหนกันพอแล้ว! พอเสียที อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองอีกต่อไปเลย เพียงเท่านี้หัวใจเธอก็เจ็บปวดร้าวลึกจวนเจียนจะขาดใจตายเสียให้ได้ นั่นสิ! เธอแทบจะแดดิ้นตายด้วยความเจ็บปวดครั้งแล้ว
“เคเคครับ ได้เบาะแสของผู้หญิงคนนั้นแล้วครับ”“เจอเธอที่ไหน”“เธอเป็นนักเปียโนใหม่เพิ่งมาเล่นที่ เค.เค.รอยัลเมื่อวานนี้ครับ”“สั่งการลงไป ให้เธอไปรายงานตัวที่ เค.เค. รอยัล คลับ ฉันจะไปรอเธอที่นั่น”“ครับเคเค”เมื่อสั่งการเสร็จท่านประธานก็เอนกายหนาพิงพนักเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่ทอดสายตาคมกริบผ่านผนังกระจกใสเบื้องหน้าไปยังทิวทัศน์ของเมืองกรุง ห้องทำงานของเขาเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูอันดับหนึ่งจึงมองเห็นทัศนียภาพไกลสุดหูสุดตาตัดขอบฟ้าใส หัวใจแกร่งของเขาวันนี้เหมือนจะเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติจนเจ้าตัวรู้สึกได้ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ตื่นตัวภายใน‘หึ! ฉันตามหาเธอมาเกือบเดือน ไม่คิดว่าจู่ๆเธอก็เดินเข้ามาหาฉันเอง’ริมฝีปากหยักสวยราวอิสตรียกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ข่าวที่ได้รับวันนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ดวงหน้าสวยหวานละมุนของคนในห้วงมโนนึกผุดพรายขึ้นกลางเวิ้งฟ้าเบื้องหน้า ชวนให้เขาคิดถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น‘ช่วยฉัน แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ’เขาพูดแล้วย่อมคำไหนคำนั้น เขารักษาคำพูดเสมอ“ฉันจัดการพวกที่ทำร้ายเธอวันนั้น แก้แค้นแทนเธอแล้ว” ประธานใหญ่ยก
คีตาลดารู้สึกประหลาดใจเมื่อผู้จัดการโรงแรมบอกให้เธอไปรายงานตัวกับท่านประธานใหญ่ที่ เค.เค. รอยัล คลับ เธอเป็นเพียงนักเล่นเปียโนพาร์ทไทม์ตัวเล็กๆธรรมดาคนหนึ่ง แต่เพราะอะไรถึงต้องรายงานตัวตรงต่อประธานใหญ่ของเค.เค. กรุ๊ป แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ความสงสัยมากอยู่ แต่เธอก็ได้แต่ทำตามคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง‘หึ! คำสั่งท่านประธาน มีหรือที่เธอจะหาญกล้า อย่าว่าแต่เธอเลย เป็นใครก็ไม่กล้าขัดด้วยกันทั้งนั้น’คีตาลดาหยุดความคิดตัวเองเพียงเท่านั้นเมื่อเธอมาถึงพนักงานต้อนรับของคลับก็พาเธอมายังห้องรับรองสุดหรูของที่นั่น พนักงานที่พาเธอมาส่งเคาะประตูห้องแล้วเปิดออกก่อนผายมือเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน คีตาลดาอดใจสั่นไม่ได้เมื่อเท้าเล็กๆก้าวเข้าไปในห้อง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าจนลึกสุดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง“นักเปียโนใหม่ที่ท่านเรียกพบมาแล้วครับ”พนักงานคนนั้นรายงานแล้วถอยกลับออกไป คีตาลดามองไปยังคนที่นั่งหันหลังให้เธอ ขนาดว่าพนักเก้าอี้ที่เขานั่งทั้งสูงและใหญ่แต่เธอก็ยังเห็นศีรษะของเขาโผล่พ้นพนักเก้าอี้กว่าครึ่งหัว เธอเดาโดยประมาณว่าเขาน่าจะสูงเกิน 190 เซนติเมตรน่าจะได้ เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าทายาทค
คีตาลดานั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เบื้องหน้าของเธอคือกระจกเงาบานใหญ่ ในห้องพักนักดนตรีของโรงแรมตอนนี้มีเธอเพียงคนเดียว หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกนิ่งดั่งคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ความคิดดิ่งลึกนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เธอจะก้าวออกมาจากห้องรับรองนั้น“คุณแน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหน้านี้”แปลก... น้ำเสียงนุ่มทุ้มต่ำลึกที่กระซิบข้างหลัง เธอช่างคุ้นหูเธอเหลือเกิน ตอนแรกที่เขาถามเธอไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถูกถามย้ำอีกครั้งในระยะประชิดตัวแบบนี้ เธอก็อดหวนคิดถึงฝันร้ายแสนหวามในค่ำคืนนั้นไม่ได้บ้าจริง! คิดแบบนั้นได้ยังไงกันนะลดา ท่านประธานจะเป็นผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ต่อให้เกิดเหตุในโรงแรมของเขาก็เถอะ แต่ทายาทคุปต์อนันต์อย่างเขาจะไม่เลือกกินขนาดลากใครที่ไหนขึ้นเตียงแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้“ท่านประธานถามแบบนี้ กำลังจะบอกว่าเคยเจอดิฉันมาก่อนหน้านี้เหรอคะ” เธอถามออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด หากใช่ล่ะ?“คุณอยู่ในสถานะที่ควรย้อนถามผมอย่างนั้นเหรอ”คำถามของเขาทำเอาใจเธอหล่นวูบ นั่นสินะ เธอเป็นใครถึงอาจหาญย้อนถามเขาไปแบบนั้น“ขอประทานโทษค่ะ ดิฉันล่วงเกินท่านแล้ว ดิฉัน
เมื่อได้นั่งไล่ปลายนิ้วไปตามคีย์เปียโนคีตาลดาก็ไม่คิดถึงสิ่งใดนอกจากส่งมอบเสียงเพลงแห่งความสุขให้แก่คนฟัง นานเท่านานที่เธอปล่อยความคิดจิตใจเคลียคลอไปกับเสียงเปียโน ความรู้สึกอิ่มอุ่นในหัวใจ ความสุขสดใสที่เธอถ่ายทอดผ่านปลายนิ้วไล่สัมผัสไปกับคีย์เปียโนนั้นทรงพลังตราตรึงในหัวใจคนฟังมานักต่อนัก วันนี้เป็นอีกวันที่เธอสร้างความประทับใจให้แก่แขกที่มารับประมานอาหารใน เค.เค.รอยัล คลับ แห่งนี้คีตาลดาโค้งคำนับรับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมหลังเสียงเพลงสุดท้ายของวันนี้สิ้นสุดลง หญิงสาวยิ้มกว้างยามกวาดสายตามองไปโดยรอบ หัวใจดวงน้อยกวัดแกว่งอย่างแปลกประหลาดเมื่อเห็นว่าโต๊ะหน้าเวทีไร้เงาของคิริน‘เขาไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ’ คีตาลดาปัดความคิดนั้นออกจากหัวแล้วค้อมกายโค้งคำนับบรรดาแขกในห้องอาหารนั้น อีกครั้งแล้วหันหลังกลับก้าวลงด้านหลังเวที แม้จะพยายามตัดความคิดเกี่ยวกับทายาทคุปต์อนันต์ออกไปแต่ก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ หากประธานใหญ่ไม่ชื่นชอบผลงานการแสดงของเธอแล้ว เธออาจถูกเลิกจ้างก็เป็นไปได้“วันนี้คุณยอดเยี่ยมมากครับคีตาลดา”“ผู้จัดการชมเกินไปแล้วค่ะ”แม้หัวใจดวงน้อยจะฟองฟู่กับคำชมของวีกิจผู้จัดการห้องอาหาร แต