ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์
“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา
“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”
“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ
“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วยคุณ” เขาบอกเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยน คีตาลดาหวั่นไหวเกินกว่าจะพูดตอบอะไรออกไปได้ หญิงสาวแทบอยากหยิกตัวเองเพราะคิดว่ากำลังฝัน แต่ก็กลัวใจว่าหากหยิกแล้วฝันดีๆแบบนี้จะหายวับไป
“อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”
“ค่ะ ลดา...เอ่อ...ดิฉันอยู่ได้ค่ะ ท่าน...เอ่อ เคเคไปจัดการธุระสำคัญเถอะค่ะ” ไม่รู้เป็นอะไรเธอถึงพูดผิดพูดถูกไปหมด เพราะประหม่ากับสายตาและรอยยิ้มอ่อนโยนของเขา หรือเพราะรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เขาพลาดนัดสำคัญ
“ต่อไปเรียกแทนตัวเองว่าลดานะ ผมชอบ”
คีตาลดากระพริบตาถี่ขึ้น เขาจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าคำพูดของเขาสร้างความหวั่นไหวให้เธอมากมายแค่ไหน
“คุณนอนพักเถอะนะ เสร็จธุระแล้วผมจะรีบมาหา” เขาบอกแล้วยิ้มอบอุ่นให้ มือแกร่งของเขายื่นมาหมายจะไล้ปลายนิ้วลงบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม แต่ก็ชะงักค้างก่อนดึงมือกลับไปสอดเข้าในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกจากห้องไป
คีตาลดามองตามแผ่นหลังกว้างพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ...เกือบไปแล้ว เธอเกือบขิตไปแล้วกับท่าทีอ่อนโยนของเขา ฝันไปแน่ๆ เธอต้องฝันไปแน่ๆคีตาลดา
เช้าวันรุ่งขึ้น...
คีตาลดามองตัวเลขค่ารักษาพยาบาลในมือแบบอึ้งๆ หญิงสาวกระพริบตาปริบๆแล้วเงยหน้ามองเจ้าหน้าที่การเงินที่นำใบแจ้งยอดค่ารักษามาให้แล้วยิ้มปุเลี่ยนก่อนถาม
“อันนี้คิดรวมทั้งหมดแล้วใช่ไหมคะ”
“ยอดนี้เป็นค่ารักษาที่คิดถึงปัจจุบันค่ะ ยังไม่ใช่ยอดทั้งหมด”
“แสดงว่ามีเพิ่มเติมจากนี้อีกเนาะ”
“ใช่ค่ะ”
คีตาลดากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ยอดนี้ยังไม่ใช่ยอดสุทธิ สมองน้อยๆรีบคำนวณเงินในบัญชีที่มีทันที
“บอกคุณหมอเลยค่ะว่าดิฉันหายแล้วต้องการกลับบ้าน ด่วน!”
แกร๊ก
คีตาลดามองขวับไปยังประตูห้องพักคนไข้ทันทีที่ได้ยินเสียงคล้ายมีคนเปิดประตู พอเห็นคนเข้ามาโดยไม่เคาะประตูห้อง หัวใจเธอก็แทบหยุดเต้น
เจ้าหน้าที่การเงินซึ่งหันไปมองพร้อมกันรีบไหว้ทักทายท่านประธานใหญ่อย่างนอบน้อมแล้วขยับถอยออกมาก้าวหนึ่งเปิดทางให้คิรินเดินเข้าไปหาคนเจ็บบนเตียง
“ได้ยินแว่วๆว่าคุณอยากกลับบ้านแล้ว”
คีตาลดาพยักหน้าหงึกหงัก หญิงสาวรีบยื่นกระดาษในมือส่งให้เขาแล้วใช้มือป้องปากกระซิบกระซาบบอกเขา
“แค่คืนเดียวก็แพงหูดับขนาดนี้ ลดาอยู่ต่อไม่ไหวหรอกค่ะ แค่นี้เงินเก็บลดาก็แทบหมดกระเป๋าแล้ว”
คิรินมองตัวเลขบนกระดาษแผ่นนั้นแล้วตวัดตามองคีตาลดาพร้อมกับอมยิ้มเอ็นดู
“คุณนอนพักต่อให้หายดีเถอะ เรื่องค่ารักษาผมจัดการเอง”
“ไม่ได้ค่ะ ลดาไม่อยากรบกวนเคเค แค่นี้ลดาก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
“ผมเต็มใจ เงินแค่นี้ไม่ถึงครึ่งของอาหารหนึ่งมื้อที่ผมเคยกินหรอกน่า”
ฟังท่านประธานใหญ่พูดแล้วคีตาลดาแอบเบะปากด้วยความรู้สึกหมั่นไส้เล็กๆ คิรินเห็นเธอทำปากขมุบขมิบก็เลิกคิ้วสูงแล้วถาม
“แอบนินทาอะไรผมอยู่เหรอ”
คีตาลดาโบกไม้โบกมือว่อนส่ายหัวดิก
“เปล่านะคะลดาไม่ได้นินทา จริงๆนะสาบานได้”
หญิงสาวยกมือชูสองนิ้วประกอบคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือ ส่วนมืออีกข้างแอบไขว้สองนิ้วอยู่ข้างหลัง คิรินหรี่ตามองอย่างรู้ทัน แต่เขาทำเป็นไม่รู้ แล้วเปลี่ยนเรื่องหันกลับไปบอกเจ้าหน้าที่การเงินที่ยืนรออยู่
“ไปทำงานเถอะ เรื่องค่ารักษานี่เดี๋ยวผมจัดการเอง”
เจ้าหน้าที่การงานรับทราบแล้วเดินออกจากห้องไป คีตาลดาขยับจะท้วงแต่พอเห็นสายตาของคิรินเธอก็หุบปากฉับ
“เคเคออกค่ารักษาไปก่อนก็ได้ค่ะ แล้วก็หักจากค่าจ้างที่ลดาเล่นเปียโนได้เลยนะคะ”
พูดออกไปแล้วคีตาลดาก็เริ่มคำนวณในหัวทันที เธอต้องเล่นเปียโนกี่รอบนะถึงจะหักค่ารักษาใช้คืนเขาได้หมด แล้วเงินสำรองในบัญชีของเธอจะใช้ได้นานเท่าไรกัน
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ”
“ก็คิดว่าเงินที่มีจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกกี่วัน อุ๊บ!” คีตาลดารีบตะปบปิดปากตัวเองเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดความคิดตัวเองออกไป พอสบสายตาพร่างพราวของท่านประธานใหญ่ที่สร้างความหวั่นไหวให้เธอคีตาลดาก็รีบเปลี่ยนเรื่อง
“ลดาว่าลดาหายดีแล้ว ลดาขอหมอกลับบ้านดีกว่า... นะคะ...นะ”
‘ได้โปรดเถอะ พลีสสสส... ท่านประธานเจ้าขาท่านต้องเข้าใจคนหาเช้ากินค่ำด้วยนะคะ’
หญิงสาวร่ำร้องขอความเห็นใจจากเขาในใจถ่ายทอดผ่านสายตา คิรินเห็นอาการออดอ้อนเหมือนลูกแมวแล้วก็อยากจะบีบแก้มป่องๆนั่นสักครั้ง อยากจะดึงมากอดมาหอมสักหนแต่ก็ทำได้แค่ยิ้มอ่อน
“กลับก็ได้...แต่ต้องให้คุณหมอตรวจก่อนนะครับ ถ้าคุณหมออนุญาตก็ตามนั้น”
“โอเคค่ะ ตามหมอเลยค่ะ”
คิรินเลิกคิ้วสูงมองแทนคำถาม คีตาลดากระพริบตาปริบๆ ระลึกตัวได้ว่าเผลอสั่งเขาเข้าให้แล้ว หญิงสาวยิ้มแหยก่อนเอื้อมมือไปหมายกดอินเตอร์คอมฯ เพื่อแจ้งพยาบาลแต่ว่าคิรินคว้ามือเล็กของเธอมากุมไว้แล้วตัวเองเป็นฝ่ายกดอินเตอร์คอมฯ แจ้งความประสงค์แก่พยาบาลเสียเอง
คีตาลดารู้สึกวูบวาบทั้งหน้าตลอดทั้งตัว หญิงสาวค่อยๆดึงมือออกจากอุ้งมืออุ่นนั้นอย่างหวาดหวั่น หัวใจดวงน้อยทำงานหนักหน่วงอีกแล้ว ตอนนี้มันเต้นระรัวด้วยเจ้าตัวเกิดอาการหวามไหวกับการแสดงออกของท่านประธานใหญ่
เขาช่างอบอุ่นอ่อนโยนเหลือเกินในความรู้สึก แต่เมื่อดึงสติย้อนกลับมาดูโลกแห่งความจริง คีตาลดาก็ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าเพ้อฝันไปไกล เขาเป็นใคร เธอเป็นใครจงประมาณตัวเองให้ดี
----------------------------------
ฮ่าๆๆ น้องลืมตัวใช้ท่านประธานเลย แต่ไม่ว่าน้องจะลืมตัวหรือตั้งใจ ท่านประธานใหญ่ก็ยอมมมมม
“เคเคคะ คอนโดฯของลดาไม่ได้ไปทางนี้ค่ะ” คีตาลดารีบหันมาบอกคิรินทันทีที่เห็นว่าคนขับรถของเขาขับเลยทางแยกไปคอนโดมิเนียมของเธอ“ผมรู้”“เคเครู้ แล้วไงคะ หรือว่าคุณคนขับรถไม่รู้” คีตาลดาหันมาถามชินโยซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ เธอเห็นเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็นึกขัดใจ“คุณคะเดี๋ยวถึงจุดกลับรถข้างหน้าคุณก็ยูเทิร์นกลับนะคะ แล้ว...”“ขับตรงไปตามเดิมแหละชินโย” คิรินแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะทันพูดจบ หญิงสาวหันขวับมามองเขาแล้วเลิกคิ้วขณะถาม“เมื่อกี้นี้เคเคพูดว่าอะไรนะคะ”“ผมบอกให้ชินโยขับตรงไปไม่ต้องยูเทิร์น”“แต่มันเลยทางไปคอนโดฯลดาแล้วนะคะ ไม่กลับรถแล้วจะไปทางไหน”“แล้วใครบอกว่าจะไปคอนโดฯ คุณล่ะ”คำพูดแนวนี้ ซีนประมาณนี้เธอเคยเห็นในละครรักแทบจะทุกเรื่องแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอคีตาลดาขบฟันจ้องเขาพลางกระพริบตาปริบๆ หลังจากคิรินพูดยิ้มๆ เขาก็หันไปสนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของตัวเองไม่ได้หันมามองหน้าเธอสักนิด“คุณคะ ช่วยจอดรถตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะ” เมื่อเขาเอาแต่สนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของเขาไม่มีทีท่าสนใจเธอ คีตาลดาก็หันมาทางชินโย แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดเมื่อชินโยก็ทำท่าไม่รับรู้เหมือนเดิม“เค
เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอต้องทำอย่างไรกับชีวิตนับจากนี้ไป ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกความมืดมิด เธอต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบไม่คาดคิด ผู้ชายที่เธอรักและวาดหวังฝากชีวิตไว้กับเขา ท้ายสุดแล้วก็เป็นเพียงผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง เลวสุดใจแบบที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมองคนผิดพลาดได้มากขนาดนี้‘ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลยลดา ผมไม่เห็นว่าคุณจะเสียหายตรงไหนมีแต่ได้กับได้’‘คุณจะบอกว่าการที่ลดาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ลดาไม่เสียหายอย่างนั้นเหรอคะ’‘คุณคิดมากเกินไปลดา ผมเห็นแต่ว่าคุณจะมีแต่สนุกแล้วก็ได้เงิน’‘ทัช! ลดาเป็นแฟนคุณนะ คุณคิดแบบนี้ได้ยังไงคะ’‘คุณเลิกความคิดคร่ำครึหัวโบราณเสียทีได้ไหมลดา ผมเป็นแฟน เป็นผู้ชายแท้ๆผมยังรับได้แล้วคุณจะเรื่องมากให้มันวุ่นวายไปทำไมฮะ’หยุด! หยุดได้แล้ว! หยุดคิดถึงคนชั่วช้านั่นเสียที ยิ่งเธอคิดก็ยิ่งมีแต่เจ็บปวดรวดร้าว เธอจะปล่อยให้เรื่องราวเหล่านั้นมาบั่นทอนชีวิตเธอต่อไปอีกนานแค่ไหนกันพอแล้ว! พอเสียที อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองอีกต่อไปเลย เพียงเท่านี้หัวใจเธอก็เจ็บปวดร้าวลึกจวนเจียนจะขาดใจตายเสียให้ได้ นั่นสิ! เธอแทบจะแดดิ้นตายด้วยความเจ็บปวดครั้งแล้ว
“เคเคครับ ได้เบาะแสของผู้หญิงคนนั้นแล้วครับ”“เจอเธอที่ไหน”“เธอเป็นนักเปียโนใหม่เพิ่งมาเล่นที่ เค.เค.รอยัลเมื่อวานนี้ครับ”“สั่งการลงไป ให้เธอไปรายงานตัวที่ เค.เค. รอยัล คลับ ฉันจะไปรอเธอที่นั่น”“ครับเคเค”เมื่อสั่งการเสร็จท่านประธานก็เอนกายหนาพิงพนักเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่ทอดสายตาคมกริบผ่านผนังกระจกใสเบื้องหน้าไปยังทิวทัศน์ของเมืองกรุง ห้องทำงานของเขาเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูอันดับหนึ่งจึงมองเห็นทัศนียภาพไกลสุดหูสุดตาตัดขอบฟ้าใส หัวใจแกร่งของเขาวันนี้เหมือนจะเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติจนเจ้าตัวรู้สึกได้ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ตื่นตัวภายใน‘หึ! ฉันตามหาเธอมาเกือบเดือน ไม่คิดว่าจู่ๆเธอก็เดินเข้ามาหาฉันเอง’ริมฝีปากหยักสวยราวอิสตรียกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ข่าวที่ได้รับวันนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ดวงหน้าสวยหวานละมุนของคนในห้วงมโนนึกผุดพรายขึ้นกลางเวิ้งฟ้าเบื้องหน้า ชวนให้เขาคิดถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น‘ช่วยฉัน แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ’เขาพูดแล้วย่อมคำไหนคำนั้น เขารักษาคำพูดเสมอ“ฉันจัดการพวกที่ทำร้ายเธอวันนั้น แก้แค้นแทนเธอแล้ว” ประธานใหญ่ยก
คีตาลดารู้สึกประหลาดใจเมื่อผู้จัดการโรงแรมบอกให้เธอไปรายงานตัวกับท่านประธานใหญ่ที่ เค.เค. รอยัล คลับ เธอเป็นเพียงนักเล่นเปียโนพาร์ทไทม์ตัวเล็กๆธรรมดาคนหนึ่ง แต่เพราะอะไรถึงต้องรายงานตัวตรงต่อประธานใหญ่ของเค.เค. กรุ๊ป แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ความสงสัยมากอยู่ แต่เธอก็ได้แต่ทำตามคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง‘หึ! คำสั่งท่านประธาน มีหรือที่เธอจะหาญกล้า อย่าว่าแต่เธอเลย เป็นใครก็ไม่กล้าขัดด้วยกันทั้งนั้น’คีตาลดาหยุดความคิดตัวเองเพียงเท่านั้นเมื่อเธอมาถึงพนักงานต้อนรับของคลับก็พาเธอมายังห้องรับรองสุดหรูของที่นั่น พนักงานที่พาเธอมาส่งเคาะประตูห้องแล้วเปิดออกก่อนผายมือเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน คีตาลดาอดใจสั่นไม่ได้เมื่อเท้าเล็กๆก้าวเข้าไปในห้อง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าจนลึกสุดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง“นักเปียโนใหม่ที่ท่านเรียกพบมาแล้วครับ”พนักงานคนนั้นรายงานแล้วถอยกลับออกไป คีตาลดามองไปยังคนที่นั่งหันหลังให้เธอ ขนาดว่าพนักเก้าอี้ที่เขานั่งทั้งสูงและใหญ่แต่เธอก็ยังเห็นศีรษะของเขาโผล่พ้นพนักเก้าอี้กว่าครึ่งหัว เธอเดาโดยประมาณว่าเขาน่าจะสูงเกิน 190 เซนติเมตรน่าจะได้ เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าทายาทค
คีตาลดานั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เบื้องหน้าของเธอคือกระจกเงาบานใหญ่ ในห้องพักนักดนตรีของโรงแรมตอนนี้มีเธอเพียงคนเดียว หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกนิ่งดั่งคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ความคิดดิ่งลึกนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เธอจะก้าวออกมาจากห้องรับรองนั้น“คุณแน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหน้านี้”แปลก... น้ำเสียงนุ่มทุ้มต่ำลึกที่กระซิบข้างหลัง เธอช่างคุ้นหูเธอเหลือเกิน ตอนแรกที่เขาถามเธอไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถูกถามย้ำอีกครั้งในระยะประชิดตัวแบบนี้ เธอก็อดหวนคิดถึงฝันร้ายแสนหวามในค่ำคืนนั้นไม่ได้บ้าจริง! คิดแบบนั้นได้ยังไงกันนะลดา ท่านประธานจะเป็นผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ต่อให้เกิดเหตุในโรงแรมของเขาก็เถอะ แต่ทายาทคุปต์อนันต์อย่างเขาจะไม่เลือกกินขนาดลากใครที่ไหนขึ้นเตียงแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้“ท่านประธานถามแบบนี้ กำลังจะบอกว่าเคยเจอดิฉันมาก่อนหน้านี้เหรอคะ” เธอถามออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด หากใช่ล่ะ?“คุณอยู่ในสถานะที่ควรย้อนถามผมอย่างนั้นเหรอ”คำถามของเขาทำเอาใจเธอหล่นวูบ นั่นสินะ เธอเป็นใครถึงอาจหาญย้อนถามเขาไปแบบนั้น“ขอประทานโทษค่ะ ดิฉันล่วงเกินท่านแล้ว ดิฉัน
เมื่อได้นั่งไล่ปลายนิ้วไปตามคีย์เปียโนคีตาลดาก็ไม่คิดถึงสิ่งใดนอกจากส่งมอบเสียงเพลงแห่งความสุขให้แก่คนฟัง นานเท่านานที่เธอปล่อยความคิดจิตใจเคลียคลอไปกับเสียงเปียโน ความรู้สึกอิ่มอุ่นในหัวใจ ความสุขสดใสที่เธอถ่ายทอดผ่านปลายนิ้วไล่สัมผัสไปกับคีย์เปียโนนั้นทรงพลังตราตรึงในหัวใจคนฟังมานักต่อนัก วันนี้เป็นอีกวันที่เธอสร้างความประทับใจให้แก่แขกที่มารับประมานอาหารใน เค.เค.รอยัล คลับ แห่งนี้คีตาลดาโค้งคำนับรับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมหลังเสียงเพลงสุดท้ายของวันนี้สิ้นสุดลง หญิงสาวยิ้มกว้างยามกวาดสายตามองไปโดยรอบ หัวใจดวงน้อยกวัดแกว่งอย่างแปลกประหลาดเมื่อเห็นว่าโต๊ะหน้าเวทีไร้เงาของคิริน‘เขาไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ’ คีตาลดาปัดความคิดนั้นออกจากหัวแล้วค้อมกายโค้งคำนับบรรดาแขกในห้องอาหารนั้น อีกครั้งแล้วหันหลังกลับก้าวลงด้านหลังเวที แม้จะพยายามตัดความคิดเกี่ยวกับทายาทคุปต์อนันต์ออกไปแต่ก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ หากประธานใหญ่ไม่ชื่นชอบผลงานการแสดงของเธอแล้ว เธออาจถูกเลิกจ้างก็เป็นไปได้“วันนี้คุณยอดเยี่ยมมากครับคีตาลดา”“ผู้จัดการชมเกินไปแล้วค่ะ”แม้หัวใจดวงน้อยจะฟองฟู่กับคำชมของวีกิจผู้จัดการห้องอาหาร แต
เอี๊ยดดด!!คีตาลดาหัวทิ่มโขลกกับคอนโซลรถด้านหน้า เพราะจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีดำขับปาดตัดหน้าจนทัชกรเบรกรถจนตัวโก่ง แรงกระแทกทำเอาเธอถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราดของทัชกร“ไอ้ห่าเอ๊ย! ขับรถประสาอะไรวะ”คีตาลดาได้ยินทัชกรสบถด่าลั่นก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวลงไป หญิงสาวพยายามดึงสติหวังอาศัยช่วงจังหวะนั้นหลบหนีเอาตัวรอด แต่เธอรู้สึกมึนงงมาก รอบด้านพร่าเลือนมองอะไรไม่ชัดจึงพยายามใช้มือคลำหาที่จับเปิดประตูรถสะเปะสะปะ พอจะเปิดก็เปิดไม่ออกเพราะเป็นระบบล็อคอัตโนมัติด้านนอก ทัชกรที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับยืนตะลึงเมื่อพบว่ารถสปอร์ตที่ขับปาดหน้าตนคือใคร เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อนก่อนจะฝืนยิ้มเจื่อนทักทายจนตรงหน้า“คุณคิรินนั่นเอง ผมทัชกร”ผัวะ!หมัดหนักๆที่ซัดเข้าตรงโหนกแก้มซ้ายของเขาคือคำทักทายตอบ แรงอัดกระแทกแบบไม่ทันตั้งรับทำเอาทัชกรถึงกับถลาล้มหน้าคะมำ“คุณคิริน คุณชกหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง ผมไปทำอะไรให้คุณ”ผัวะ!หมัดที่สองตามมาติดๆแบบที่ทัชกรไม่มีโอกาสต่อต้าน ยิ่งเห็นแววเกรี้ยวกราดในดวงตาสีดำสนิทของคิรินแล้ว คนขลาดอย่างทัชกรก็หงอไม่กล้าต่อกรกลับ“หมัดแรกสั่งสอนท