แชร์

ตอนที่ 7 ฝันดีเหลือจะกล่าว

ก๊อกๆ ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์

“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา

“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”

“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ

“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วยคุณ” เขาบอกเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยน คีตาลดาหวั่นไหวเกินกว่าจะพูดตอบอะไรออกไปได้ หญิงสาวแทบอยากหยิกตัวเองเพราะคิดว่ากำลังฝัน แต่ก็กลัวใจว่าหากหยิกแล้วฝันดีๆแบบนี้จะหายวับไป

“อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”

“ค่ะ ลดา...เอ่อ...ดิฉันอยู่ได้ค่ะ ท่าน...เอ่อ เคเคไปจัดการธุระสำคัญเถอะค่ะ” ไม่รู้เป็นอะไรเธอถึงพูดผิดพูดถูกไปหมด เพราะประหม่ากับสายตาและรอยยิ้มอ่อนโยนของเขา หรือเพราะรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เขาพลาดนัดสำคัญ

“ต่อไปเรียกแทนตัวเองว่าลดานะ ผมชอบ”

คีตาลดากระพริบตาถี่ขึ้น เขาจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าคำพูดของเขาสร้างความหวั่นไหวให้เธอมากมายแค่ไหน

“คุณนอนพักเถอะนะ เสร็จธุระแล้วผมจะรีบมาหา” เขาบอกแล้วยิ้มอบอุ่นให้ มือแกร่งของเขายื่นมาหมายจะไล้ปลายนิ้วลงบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม แต่ก็ชะงักค้างก่อนดึงมือกลับไปสอดเข้าในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกจากห้องไป

คีตาลดามองตามแผ่นหลังกว้างพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ...เกือบไปแล้ว เธอเกือบขิตไปแล้วกับท่าทีอ่อนโยนของเขา ฝันไปแน่ๆ เธอต้องฝันไปแน่ๆคีตาลดา

เช้าวันรุ่งขึ้น...

คีตาลดามองตัวเลขค่ารักษาพยาบาลในมือแบบอึ้งๆ หญิงสาวกระพริบตาปริบๆแล้วเงยหน้ามองเจ้าหน้าที่การเงินที่นำใบแจ้งยอดค่ารักษามาให้แล้วยิ้มปุเลี่ยนก่อนถาม

“อันนี้คิดรวมทั้งหมดแล้วใช่ไหมคะ”

“ยอดนี้เป็นค่ารักษาที่คิดถึงปัจจุบันค่ะ ยังไม่ใช่ยอดทั้งหมด”

“แสดงว่ามีเพิ่มเติมจากนี้อีกเนาะ”

“ใช่ค่ะ”

คีตาลดากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ยอดนี้ยังไม่ใช่ยอดสุทธิ สมองน้อยๆรีบคำนวณเงินในบัญชีที่มีทันที

“บอกคุณหมอเลยค่ะว่าดิฉันหายแล้วต้องการกลับบ้าน ด่วน!”

แกร๊ก

คีตาลดามองขวับไปยังประตูห้องพักคนไข้ทันทีที่ได้ยินเสียงคล้ายมีคนเปิดประตู พอเห็นคนเข้ามาโดยไม่เคาะประตูห้อง หัวใจเธอก็แทบหยุดเต้น

เจ้าหน้าที่การเงินซึ่งหันไปมองพร้อมกันรีบไหว้ทักทายท่านประธานใหญ่อย่างนอบน้อมแล้วขยับถอยออกมาก้าวหนึ่งเปิดทางให้คิรินเดินเข้าไปหาคนเจ็บบนเตียง

“ได้ยินแว่วๆว่าคุณอยากกลับบ้านแล้ว”

คีตาลดาพยักหน้าหงึกหงัก หญิงสาวรีบยื่นกระดาษในมือส่งให้เขาแล้วใช้มือป้องปากกระซิบกระซาบบอกเขา

“แค่คืนเดียวก็แพงหูดับขนาดนี้ ลดาอยู่ต่อไม่ไหวหรอกค่ะ แค่นี้เงินเก็บลดาก็แทบหมดกระเป๋าแล้ว”

คิรินมองตัวเลขบนกระดาษแผ่นนั้นแล้วตวัดตามองคีตาลดาพร้อมกับอมยิ้มเอ็นดู

“คุณนอนพักต่อให้หายดีเถอะ เรื่องค่ารักษาผมจัดการเอง”

“ไม่ได้ค่ะ ลดาไม่อยากรบกวนเคเค แค่นี้ลดาก็เกรงใจจะแย่แล้ว”

“ผมเต็มใจ เงินแค่นี้ไม่ถึงครึ่งของอาหารหนึ่งมื้อที่ผมเคยกินหรอกน่า”

ฟังท่านประธานใหญ่พูดแล้วคีตาลดาแอบเบะปากด้วยความรู้สึกหมั่นไส้เล็กๆ คิรินเห็นเธอทำปากขมุบขมิบก็เลิกคิ้วสูงแล้วถาม

“แอบนินทาอะไรผมอยู่เหรอ”

คีตาลดาโบกไม้โบกมือว่อนส่ายหัวดิก

“เปล่านะคะลดาไม่ได้นินทา จริงๆนะสาบานได้”

หญิงสาวยกมือชูสองนิ้วประกอบคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือ ส่วนมืออีกข้างแอบไขว้สองนิ้วอยู่ข้างหลัง คิรินหรี่ตามองอย่างรู้ทัน แต่เขาทำเป็นไม่รู้ แล้วเปลี่ยนเรื่องหันกลับไปบอกเจ้าหน้าที่การเงินที่ยืนรออยู่

“ไปทำงานเถอะ เรื่องค่ารักษานี่เดี๋ยวผมจัดการเอง”

เจ้าหน้าที่การงานรับทราบแล้วเดินออกจากห้องไป คีตาลดาขยับจะท้วงแต่พอเห็นสายตาของคิรินเธอก็หุบปากฉับ

“เคเคออกค่ารักษาไปก่อนก็ได้ค่ะ แล้วก็หักจากค่าจ้างที่ลดาเล่นเปียโนได้เลยนะคะ”

พูดออกไปแล้วคีตาลดาก็เริ่มคำนวณในหัวทันที เธอต้องเล่นเปียโนกี่รอบนะถึงจะหักค่ารักษาใช้คืนเขาได้หมด แล้วเงินสำรองในบัญชีของเธอจะใช้ได้นานเท่าไรกัน

“คิดอะไรอยู่เหรอครับ”

“ก็คิดว่าเงินที่มีจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกกี่วัน อุ๊บ!” คีตาลดารีบตะปบปิดปากตัวเองเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดความคิดตัวเองออกไป พอสบสายตาพร่างพราวของท่านประธานใหญ่ที่สร้างความหวั่นไหวให้เธอคีตาลดาก็รีบเปลี่ยนเรื่อง

“ลดาว่าลดาหายดีแล้ว ลดาขอหมอกลับบ้านดีกว่า... นะคะ...นะ”

‘ได้โปรดเถอะ พลีสสสส... ท่านประธานเจ้าขาท่านต้องเข้าใจคนหาเช้ากินค่ำด้วยนะคะ’

หญิงสาวร่ำร้องขอความเห็นใจจากเขาในใจถ่ายทอดผ่านสายตา คิรินเห็นอาการออดอ้อนเหมือนลูกแมวแล้วก็อยากจะบีบแก้มป่องๆนั่นสักครั้ง อยากจะดึงมากอดมาหอมสักหนแต่ก็ทำได้แค่ยิ้มอ่อน

“กลับก็ได้...แต่ต้องให้คุณหมอตรวจก่อนนะครับ ถ้าคุณหมออนุญาตก็ตามนั้น”

“โอเคค่ะ ตามหมอเลยค่ะ”

คิรินเลิกคิ้วสูงมองแทนคำถาม คีตาลดากระพริบตาปริบๆ ระลึกตัวได้ว่าเผลอสั่งเขาเข้าให้แล้ว หญิงสาวยิ้มแหยก่อนเอื้อมมือไปหมายกดอินเตอร์คอมฯ เพื่อแจ้งพยาบาลแต่ว่าคิรินคว้ามือเล็กของเธอมากุมไว้แล้วตัวเองเป็นฝ่ายกดอินเตอร์คอมฯ แจ้งความประสงค์แก่พยาบาลเสียเอง

คีตาลดารู้สึกวูบวาบทั้งหน้าตลอดทั้งตัว หญิงสาวค่อยๆดึงมือออกจากอุ้งมืออุ่นนั้นอย่างหวาดหวั่น หัวใจดวงน้อยทำงานหนักหน่วงอีกแล้ว ตอนนี้มันเต้นระรัวด้วยเจ้าตัวเกิดอาการหวามไหวกับการแสดงออกของท่านประธานใหญ่

เขาช่างอบอุ่นอ่อนโยนเหลือเกินในความรู้สึก แต่เมื่อดึงสติย้อนกลับมาดูโลกแห่งความจริง คีตาลดาก็ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าเพ้อฝันไปไกล เขาเป็นใคร เธอเป็นใครจงประมาณตัวเองให้ดี

----------------------------------

ฮ่าๆๆ น้องลืมตัวใช้ท่านประธานเลย แต่ไม่ว่าน้องจะลืมตัวหรือตั้งใจ ท่านประธานใหญ่ก็ยอมมมมม

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status