Home / โรแมนติก / เมื่อฉันกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีคลั่งรัก / ตอนที่ 4 แน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกัน

Share

ตอนที่ 4 แน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกัน

คีตาลดานั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เบื้องหน้าของเธอคือกระจกเงาบานใหญ่ ในห้องพักนักดนตรีของโรงแรมตอนนี้มีเธอเพียงคนเดียว หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกนิ่งดั่งคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ความคิดดิ่งลึกนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เธอจะก้าวออกมาจากห้องรับรองนั้น

“คุณแน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหน้านี้”

แปลก... น้ำเสียงนุ่มทุ้มต่ำลึกที่กระซิบข้างหลัง เธอช่างคุ้นหูเธอเหลือเกิน ตอนแรกที่เขาถามเธอไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถูกถามย้ำอีกครั้งในระยะประชิดตัวแบบนี้ เธอก็อดหวนคิดถึงฝันร้ายแสนหวามในค่ำคืนนั้นไม่ได้

บ้าจริง! คิดแบบนั้นได้ยังไงกันนะลดา ท่านประธานจะเป็นผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ต่อให้เกิดเหตุในโรงแรมของเขาก็เถอะ แต่ทายาทคุปต์อนันต์อย่างเขาจะไม่เลือกกินขนาดลากใครที่ไหนขึ้นเตียงแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“ท่านประธานถามแบบนี้ กำลังจะบอกว่าเคยเจอดิฉันมาก่อนหน้านี้เหรอคะ” เธอถามออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด หากใช่ล่ะ?

“คุณอยู่ในสถานะที่ควรย้อนถามผมอย่างนั้นเหรอ”

คำถามของเขาทำเอาใจเธอหล่นวูบ นั่นสินะ เธอเป็นใครถึงอาจหาญย้อนถามเขาไปแบบนั้น

“ขอประทานโทษค่ะ ดิฉันล่วงเกินท่านแล้ว ดิฉันพูดไม่ทันคิด ดิฉัน...”

“พอเถอะ! ผมขี้เกียจฟังคำขอโทษคำแก้ตัว คุณไปได้แล้ว” น้ำเสียงของเขาฉุนเล็กน้อย คีตาลดาหันขวับมามองท่านประธานด้วยแววตาวาววับบ่งบอกความเป็นคนไม่ยอมคน แต่เพียงวูบเดียวประกายเรืองรองในดวงตากลมโตของเธอก็เปลี่ยนเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงบนิ่ง

“ขอบคุณสำหรับโอกาสที่มอบให้ ดิฉันไม่รบกวนท่านแล้ว สวัสดีค่ะ”

พอพูดจบคีตาลดาก็เปิดประตูห้องแล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้หันกลับไปมองว่าท่านประธานใหญ่ทายาทคุปต์อนันต์จะมองตามมาหรือว่าทำอะไรหลังจากนั้น สิ่งเดียวที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเธอก็คือ รีบทำภารกิจที่ตั้งใจให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด ก่อนที่เธอจะถูกเขาก็ไล่ออกเพราะเธอเป็นจุดด่างพร้อยที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเค.เค.รอยัลเสื่อมเสีย

‘เครียดเกินไปแล้ว ช่วงนี้เธอเครียดเกินไปแล้วลดา แบบนี้ไม่เป็นผลดีกับงานของเธอเลยนะ เธอจะเล่นเปียโนในสภาพจิตใจตึงเครียดแบบนี้ได้ยังไงกัน’

คีตาลดาสลัดศีรษะขับไล่ความตึงเครียด หญิงสาวเป่าลมออกจากปากแรงๆแล้วสูดอากาศเข้าปอดลึกๆปรับสภาพอารมณ์ให้มั่นคง อีกไม่ถึงชั่วโมงเธอต้องขึ้นเวทีเล่นเปียโนที่ห้องอาหารแล้ว ความสุขคือสิ่งที่เธอต้องส่งมอบให้ผู้คน ไม่ใช่ความตึงเครียดที่มีอยู่เต็มหัวเธอ

หญิงสาวปรับสภาพอารมณ์ตัวเองอยู่พักใหญ่ เมื่อรู้สึกมั่นคงก็พอดีกับสตาฟจัดคิวแสดงบนเวทีเข้ามาเตือนให้เธอออกไปรอเตรียมพร้อมขึ้นเวทีในอีกสิบนาที คีตาลดายิ้มให้กำลังใจตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินตามสตาฟคนนั้นออกไปรอด้านหลังเวที

เพียงอึดใจก็ถึงคิวเธอขึ้นแสดง พลันสายตาของเธอก็สบเข้ากับร่างสูงใหญ่ของทายาทคุปต์อนันต์ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องอาหารแห่งนั้น เขาตรงไปยังโต๊ะอาหารซึ่งอยู่ชิดติดขอบเวที หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อน สองเท้าเล็กๆออกอาการสั่นขณะเธอก้าวเดินไปยังเปียโนที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเวที

ช่างเขาเถิด... เขาจะมาประเมินผลงานการแสดงของเธอหรือว่าอย่างไรก็ช่างเขาเถิด ถือเสียว่าเขาคือแขกผู้มีเกียรติคนหนึ่ง เขาเป็นคนฟัง เธอเป็นคนบรรเลง ทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอ

ดวงตาคมกริบของคิรินจับจ้องมองคนบนเวทีตลอดเวลา ในหัวของเขามีแต่ความคิดเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ ยิ่งคิดถึงชายชั่วที่ทำร้ายเธอในวันนั้น ใจของเขาก็ยิ่งคุกรุ่น เขารู้สึกว่าที่จัดการสั่งสอนพวกมันยังน้อยไปกับสิ่งที่พวกมันทำกับเธอ และยังมีใครบางคนลอยนวลยังไม่ได้รับผลกรรมที่มันกระทำ

‘คีตาลดาผมจะปกป้องคุณเอง ใครก็ตามที่มันทำร้ายคุณผมจะเอาคืนให้สาสม’

คิรินผ่อนลมหายใจปัดความคิดร้อนลุ่มชวนคุกรุ่นใจออกไป เขาดึงความคิดกลับมาสนใจคนบนเวทีกับเสียงเพลงที่เธอบรรเลง ทั้งที่เป็นบทเพลงคุ้นหูซึ่งเคยฟังมานักต่อนัก แต่ท่วงทำนองที่คีตาลดาบรรเลงนั้นช่างลึกซึ้งตราตรึงหัวใจเกินคำบรรยาย

เขาควรคุยกับเธอถึงเรื่องราวค่ำคืนนั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยหรือควรเก็บงำเอาไว้แบบนี้ต่อไปดี

ทำไปทำมาเขาก็วนความคิดกลับมาเรื่องนี้อีกจนได้ ช่างน่าหัวเราะ มหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่แห่งตระกูลคุปต์อนันต์กลับลังเลเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เขาควรจะมาคิดอะไรมากมายอย่างนั้นเหรอ เพียงเขากระดิกนิ้วก็มีแต่คนพร้อมวิ่งเข้าหา แล้วทำไมกับเธอคนนี้ ‘คีตาลดา’ ผู้หญิงที่เขาครอบครองเธออย่างสมบูรณ์แล้ว เขาถึงไม่กล้าพอที่จะเปิดเผยตัวตนแล้วครอบครองเธอตลอดกาล

ไม่! เขาทำแบบนั้นไม่ได้ จากการประเมินคีตาลดาไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะใช้อำนาจบีบบังคับให้ทำตามใจได้ เขารู้ว่าใน    ทีท่านอบน้อมยอมจำนนเต็มไปด้วยความทระนงไม่ยอมให้ใครหยามศักดิศรีง่ายๆ

การใช้อำนาจเงินกับเธอมีแต่จะทำให้เธอหนีหายไปจากเขา ดังนั้นเขาควรใจเย็นให้มากพอ รอให้เธอคุ้นชินกับเขาอีกสักหน่อย แล้วค่อยๆเผยความจริง ค่อยๆตะล่อมต้อนเธอมาครอบครอง

ตื๊ดดดด...ตื๊ดดดด...

คิรินตวัดสายตามองสมาร์ทโฟนบนโต๊ะ เขารับสายทันทีโดยไม่รอให้ดังนาน หากไม่ใช่เรื่องด่วนชินโยไม่มีทางโทรมารบกวนเขาในเวลาแบบนี้แน่นอน

“เคเคครับ คุณนายใหญ่มา กำลังถามหาเคเคให้วุ่นเลยครับ”

คิรินเขาถอนหายใจ มารดามาหาเขาแบบไม่บอกกล่าวอย่างนี้ ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าฝีมือใคร

‘หงุดหงิดชะมัด’ นรียาถือว่ามีมารดาเขาให้ท้ายหล่อนถึงตามตอแยไม่เลิก คิดว่าลากมารดาเขามาที่นี่ได้แล้วจะได้ตามหวังเหรอ หึ! ไม่มีทาง

“รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง” เขาพูดเพียงเท่านั้นก็ตัดสายก่อนตวัดสายตามองคนบนเวที ภาพคีตาลดากำลังเพลิดเพลินกับการบรรเลงเสียงเพลงช่างสวยหวานในความรู้สึก ภาพนั้นทำให้แววคุกรุ่นในดวงตาของคิรินอ่อนโยนลง ริมฝีปากหยักสวยยิ้มเล็กๆก่อนเจ้าตัวจะตัดใจลุกขึ้นเดินออกไป นรียาทำให้เขาพลาดช่วงเวลาดีๆ เขาก็จะทำให้หล่อนพลาดหวังเช่นทุกครั้ง ในเมื่อพามารดามากดดันเขาก็เรื่องของหล่อน เขาไม่อยู่ที่นี่แล้วหล่อนจะทำอะไรได้

-----------------------------------

มัมมาขัดจังหวะลูกแล้วค่ะมัม ลูกกำลังคลั่งสาว มัมจะรู้ไหมน้า...

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status