หน้าหลัก / โรแมนติก / เมื่อฉันกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีคลั่งรัก / ตอนที่ 3 ผมไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลยเหรอ

แชร์

ตอนที่ 3 ผมไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลยเหรอ

คีตาลดารู้สึกประหลาดใจเมื่อผู้จัดการโรงแรมบอกให้เธอไปรายงานตัวกับท่านประธานใหญ่ที่ เค.เค. รอยัล คลับ เธอเป็นเพียงนักเล่นเปียโนพาร์ทไทม์ตัวเล็กๆธรรมดาคนหนึ่ง แต่เพราะอะไรถึงต้องรายงานตัวตรงต่อประธานใหญ่ของเค.เค. กรุ๊ป แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ความสงสัยมากอยู่ แต่เธอก็ได้แต่ทำตามคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง

‘หึ! คำสั่งท่านประธาน มีหรือที่เธอจะหาญกล้า อย่าว่าแต่เธอเลย เป็นใครก็ไม่กล้าขัดด้วยกันทั้งนั้น’

คีตาลดาหยุดความคิดตัวเองเพียงเท่านั้นเมื่อเธอมาถึงพนักงานต้อนรับของคลับก็พาเธอมายังห้องรับรองสุดหรูของที่นั่น พนักงานที่พาเธอมาส่งเคาะประตูห้องแล้วเปิดออกก่อนผายมือเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน คีตาลดาอดใจสั่นไม่ได้เมื่อเท้าเล็กๆก้าวเข้าไปในห้อง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าจนลึกสุดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง

“นักเปียโนใหม่ที่ท่านเรียกพบมาแล้วครับ”

พนักงานคนนั้นรายงานแล้วถอยกลับออกไป คีตาลดามองไปยังคนที่นั่งหันหลังให้เธอ ขนาดว่าพนักเก้าอี้ที่เขานั่งทั้งสูงและใหญ่แต่เธอก็ยังเห็นศีรษะของเขาโผล่พ้นพนักเก้าอี้กว่าครึ่งหัว เธอเดาโดยประมาณว่าเขาน่าจะสูงเกิน 190 เซนติเมตรน่าจะได้ เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าทายาทคุปต์อนันต์ ประธานใหญ่แห่งเค.เค. กรุ๊ป มีดีทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถ

‘อยากรู้จังว่าจะหล่อสมคำร่ำลือไหม’

คีตาลดาคิดแล้วยิ้มมุมปากเล็กๆกับตัวเอง ลอบมองคนหลังพนักเก้าอี้อย่างลุ้นๆ แล้วจู่ๆ เขาก็หมุนเก้าอี้กลับมา หญิงสาวถึงกับตื่นตะลึงลืมหายใจไปชั่วขณะเมื่อดวงตากลมโตของเธอสบประสานเข้ากับดวงตาคมกริบบนใบหน้าคมเข้มอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตาของเขาช่างทรงพลังอำนาจจนเธอรู้สึกราวสูญเสียการควบคุมตัวเอง

“จะจ้องผมอีกนานไหมครับ”

หญิงสาวสะดุ้งโหยง สติกลับมาอยู่กับตัวอีกครั้ง ตอนนี้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าตลอดทั้งตัว มือไม้พาลสั่นด้วยความตระหนกเมื่อรู้ตัวว่าเผลอไผลมองเขาจนเหมือนเป็นคนเสียมารยาท

“ขะ...ขอโทษค่ะท่านประธาน คือฉัน... ”

“นั่งลงสิ”

คีตาลดานั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย หญิงสาวหลุบตาต่ำลงเลี่ยงหลบสายตาคากล้าของคนร่างใหญ่ หัวใจดวงน้อยวันนี้ดูท่าจะไหวระริกเต้นผิดจังหวะจนเธอปั่นป่วนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

คิรินยิ้มมุมปากเล็กๆเมื่อเห็นว่าคนร่างเล็กตรงหน้าออกอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ภาพจำของเธอในความทรงจำของเขาตลอดเดือนที่ผ่านมาฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด หญิงสาวรูปร่างแบบบางแต่ทรวดทรงกลมกลึงกะทัดรัดที่เขาแนบคลอเคล้าตลอดค่ำคืนเร่าร้อนในวันนั้นยังแจ่มชัดในความทรงจำ

“ผมดูน่ากลัวมากเลยเหรอ”

คีตาลดาสะดุ้งวาบ เงยหน้ามองเขาอัตโนมัติพร้อมกับโบกไม้โบกมือว่อน

“ไม่นะคะ ฉันไม่ได้คิดหรือรู้สึกแบบนั้น” พูดออกไปแล้วก็ต้องกลั้นใจสบประสานสายตากับประธานใหญ่เพราะไม่กล้าหลบเลี่ยง

คิรินลากสายตาต่ำลงจ้องมองริมฝีปากอิ่มระเรื่อ เขาเห็นเธอเม้มปากแล้วดึงสายตาเบนไปทางอื่นก็รู้ตัวว่าเผลอไผลจ้องมองเธอจนเกินงาม

“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” เขาถามพร้อมกับจ้องมองรอคอยคำตอบ คีตาลดาส่ายหน้าดิกประกอบคำตอบ

“ไม่นะคะ นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้พบท่านค่ะ”

‘คุณจำผมไม่ได้จริงๆเหรอ’ คิรินรู้สึกหงุดหงิดลึกๆในใจ เขาไม่มีอะไรให้เธอจดจำเลยอย่างนั้นเหรอ เธอถึงลืมเขาได้สนิทใจแบบนี้

คีตาลดารู้สึกประหลาดใจ เธอรู้สึกว่าท่านประธานใหญ่เค.เค.กรุ๊ป จู่ๆ ดูจะหงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ

“ในประวัติที่ส่งมาระบุว่าคุณเปิดโรงเรียนสอนดนตรี แล้วทำไมถึงมาสมัครเป็นนักเปียโนที่นี่ล่ะ”

คีตาลดาผ่อนลมหายใจเบาๆก่อนดึงความคิดสติกลับมาก่อนตอบนิ่งเรียบ

“ดิฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียนนั่นแล้วค่ะ แต่ว่าด้วยเรื่องอะไรนั้นดิฉันขอไม่พูดถึงนะคะ ส่วนเรื่องที่ท่านถามว่าเพราะอะไรดิฉันถึงมาสมัครงานที่นี่ คำตอบเดียวก็คือ ดิฉันต้องการทำงานหาเงินเลี้ยงชีพค่ะ”

คีตาลดาตอบแล้วหลุบสายตาลงมองมือตัวเองที่กำลังบีบกันแน่นบนตัก เธอกำลังพยายามเก็บข่มอารมณ์ความรู้สึกเจ็บลึกในหัวใจของตัวเองเอาไว้อย่างที่สุด แม้จะทำใจมาบ้างแล้วเพราะรู้ตัวอยู่ว่าต้องมีคำถามและเธอต้องตอบเกี่ยวกับโรงเรียนสอนดนตรีที่เธอรักแต่ต้องก้าวออกมาด้วยความเจ็บปวดหัวใจนั่น แต่เธอก็ยอมรับว่าเอาเข้าจริงๆบาดแผลในหัวใจเธอก็ยังกลัดหนองจนเธอร้าวระบม

“หวังว่าท่านจะไม่หยิบยกเรื่องที่ดิฉันไม่อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงยกเลิกสอนที่โรงเรียนนั้นมาเป็นประเด็นปฏิเสธที่จะรับดิฉันเข้าทำงานที่นี่นะคะ” คีตาลดาทำใจกล้าถามเมื่อเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแล้วเห็นสีหน้าแววตาของเขานิ่งสนิทไม่ บ่งบอกว่าเขารู้สึกนึกคิดอย่างไร ถามออกไปแล้วก็กลั้นใจรอคอยคำตอบ เธอจะเสียงานที่นี่ไปไม่ได้! เสียไปไม่ได้จริงๆ

“คุณคิดว่าผมเป็นคนใจแคบขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ดิฉัน...”

“เรื่องบางเรื่องอาจจะลำบากใจที่จะพูดผมเข้าใจ” เขาพูดแล้วเว้นจังหวะอึดใจ คีตาลดาคล้ายจะผ่อนคลาย แต่พอฟังประโยคต่อมาหญิงสาวก็รู้สึกหนักอึ้งในอก

“เรื่องอะไรที่ผมต้องการรู้ ถึงคุณจะไม่พูด แต่ผมก็มีวิธีที่จะรู้จนได้นั่นแหละ”

คีตาลดายิ้มแห้ง ดวงตากลมโตไหวระริกด้วยความกังวล เหตุการณ์เลวร้ายวันนั้นทำให้เธอหายใจไม่ทั่วท้อง ถึงจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่หากประธานใหญ่แห่งเค.เค.กรุ๊ปรู้เข้า ภาพพจน์ของเธอจะติดลบไหมในสายตาเขาเธอก็ไม่อาจรู้ได้ เขาอาจจะคิดว่าการรับเธอซึ่งมีประวัติด่างพร้อยเข้าทำงาน ก็อาจทำให้เสียต่อภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจเขาก็ได้ใครจะรู้

คิรินพอจะรับรู้ได้ถึงความอึดอัดกังวลใจนั้น เขาหลุบตามองชื่อโรงเรียนสอนดนตรีที่ระบุในประวัติของเธอก่อนตวัดสายตากลับมามองคนตัวเล็กตรงหน้า

“เอาเป็นว่าผมไม่มีอะไรติดใจ เพียงแต่...ก่อนผมจะเซ็นอนุมัติรับคุณเข้าทำงาน ผมควรจะได้รู้ก่อนใช่ไหมว่าฝีมือคุณระดับไหน”

คีตาลดายิ้มกว้างได้มากกว่าเดิม หญิงสาวรีบตอบรับด้วยความยินดีก่อนลุกขึ้นเดินไปยังเปียโนที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเวทีด้านหนึ่งของห้องรับรอง คิรินมองตามร่างอรชรด้วยสายตาที่ยากคาดเดา ทุกก้าวย่างของเธอ ทุกการเคลื่อนไหว ทุกอริยาบถอยู่ในสายตาของเขา เขาจ้องมองเธออย่างคนกำลังใช้ความคิด พอเสียงบรรเลงเปียโนดังกังวาน ดวงตาคมทรงพลังอำนาจก็วาววับพราวระยับบ่งบอกความพึงพอใจ

-----------------------------------------

หลงเขาแหละดูออก ฮ่าๆๆ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนไรท์ไหมคะ บอกความในใจกันด้วยนะ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status