“เคเคครับ ได้เบาะแสของผู้หญิงคนนั้นแล้วครับ”
“เจอเธอที่ไหน”
“เธอเป็นนักเปียโนใหม่เพิ่งมาเล่นที่ เค.เค.รอยัลเมื่อวานนี้ครับ”
“สั่งการลงไป ให้เธอไปรายงานตัวที่ เค.เค. รอยัล คลับ ฉันจะไปรอเธอที่นั่น”
“ครับเคเค”
เมื่อสั่งการเสร็จท่านประธานก็เอนกายหนาพิงพนักเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่ทอดสายตาคมกริบผ่านผนังกระจกใสเบื้องหน้าไปยังทิวทัศน์ของเมืองกรุง ห้องทำงานของเขาเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูอันดับหนึ่งจึงมองเห็นทัศนียภาพไกลสุดหูสุดตาตัดขอบฟ้าใส หัวใจแกร่งของเขาวันนี้เหมือนจะเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติจนเจ้าตัวรู้สึกได้ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ตื่นตัวภายใน
‘หึ! ฉันตามหาเธอมาเกือบเดือน ไม่คิดว่าจู่ๆเธอก็เดินเข้ามาหาฉันเอง’
ริมฝีปากหยักสวยราวอิสตรียกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ข่าวที่ได้รับวันนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ดวงหน้าสวยหวานละมุนของคนในห้วงมโนนึกผุดพรายขึ้นกลางเวิ้งฟ้าเบื้องหน้า ชวนให้เขาคิดถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น
‘ช่วยฉัน แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ’
เขาพูดแล้วย่อมคำไหนคำนั้น เขารักษาคำพูดเสมอ
“ฉันจัดการพวกที่ทำร้ายเธอวันนั้น แก้แค้นแทนเธอแล้ว” ประธานใหญ่ยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมดุกร้าวเมื่อคิดถึงสิ่งที่พวกนั้นกระทำต่อเธอ ภาพที่เขาเห็นจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมในวันนั้น สาวน้อยถูกพาเข้าไปในห้องหนึ่งราวครึ่งชั่วโมงก่อนจะหนีออกมาแล้ววิ่งกระเซอะกระเซิงหาทางเอาตัวรอดก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องของเขา คิดถึงเรื่องนี้คราใดหัวใจเขาก็กระตุกวูบ หากประตูห้องเขาไม่ได้เปิดแง้มไว้โดยตั้งใจของใครบางคน ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรก็สุดคาดเดา
ภาพในความทรงจำตัดมายังเหตุการณ์ในเช้าวันใหม่หลังจากฤทธิ์ยาที่ครอบงำหมดสิ้นลง เช้าวันนั้นเขามองเจ้าของร่างอรชรที่นอนหลับพริ้มภายใต้ผ้าห่มอุ่นหนาด้วยความรู้สึกแทบจะบรรยายไม่ถูก ความรู้สึกหวงแหนและต้องการปกป้องผุดวาบขึ้นในอก เขาไม่เคยมีความรู้สึกนึกคิดแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน แต่กับเธอแม้ช่วงเวลาเร่าร้อนตลอดค่ำคืนที่ผ่านพ้นไปจะถูกครอบงำด้วยไฟราคะแห่งฤทธิ์ยากระตุ้นกำหนัด แต่เขารับรู้ได้ว่าทุกสัมผัสลึกซึ้งเติมเต็มไปด้วยความลึกล้ำบางอย่างซึมแทรกเข้ามาทุกช่วงวินาที
‘รอฉันนะสาวน้อย ฉันสัญญาฉันจะรับผิดชอบเธอ’
เขากระซิบบอกเธอเบาๆชิดใบหูก่อนบรรจงจูบลงกลางหน้าผากด้วยความรู้สึกลึกล้ำอิ่มอุ่นในอก หากไม่ใช่เพราะมีเรื่องต้องจัดการเร่งด่วน เขาคงไม่ปล่อยเธอทิ้งไว้ในห้องแบบนั้น หากรู้ว่าเธอจะหนีหายไปจนเขาต้องสืบเสาะหาร่วมเดือน เขาจะไม่ปล่อยให้เธอห่างไกลจากสายตาแน่นอน
“ฉันสัญญา...ใต้ปีกของฉัน จากนี้ไปจะไม่มีใครทำร้ายเธอได้อีก”
โชคดีที่เหตุการณ์คืนนั้นเกิดขึ้นในโรงแรมในเครือเค.เค. รอยัล จึงง่ายต่อการสืบเสาะและปิดข่าวให้ไม่แพร่งพรายออกไป แต่ถึงอย่างนั้นกว่าจะหาตัวเธอพบก็ผ่านไปร่วมเดือน
“เธอจะจำฉันได้ไหมสาวน้อย” ประธานใหญ่ดึงความคิดของตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน เขาคิดถึงช่วงเวลาที่จะได้เจอหน้าเธออีกครั้ง คิดแล้วหัวใจแกร่งก็วาบไหว เธอจะตกใจไหม หวาดกลัวเขาหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร เขาควรเปิดเผยตัวตนของเขาให้เธอรู้ในตอนนี้หรือประวิงเวลาไปก่อน ทุกอย่างเขาต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อให้มีช่องว่างระหว่างเขาและเธอให้น้อยที่สุด
ตลกสิ้นดี คนอย่างเขายิ่งใหญ่เกินกว่าจะเกรงกลัวใคร เพียงแค่เอ่ยนาม ‘คิริน คุปต์อนันต์’ ประธานใหญ่ เค.เค.กรุ๊ป ทายาทผู้สืบทอดฐานอำนาจของตระกูลคุปต์อนันต์ซึ่งมีอิทธิพลครอบคลุมทั้งธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ภัตตาคารหรู ใครๆต่างก็น้อมคำนับทั้งนั้น แต่เขากลับหวั่นเกรงต่อผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
คิรินตวัดสายตามองไปยังประตูห้องเมื่อได้ยินเสียงเคาะขัดจังหวะ เขาขยับนั่งตัวตรงก่อนหยิบแฟ้มขออนุมัติที่กองอยู่บนโต๊ะมาเปิดอ่านราวกำลังเคร่งเครียดอยู่กับงานตรงหน้า สองตากวาดมองตัวอักษรบนหน้ากระดาษอย่างรวดเร็วแล้วจรดปลายปากกาเซ็นชื่อขณะเงี่ยหูฟังเสียงเอะอะด้านหน้าประตูห้อง
“คุณรียาคะ เข้าไปไม่ได้นะคะ ท่านประธานสั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวน”
“หลีกไป! ฉันเป็นใครอย่าคิดมาขวางฉัน” เสียงเล็กตวาดขัดใจขณะมือผลักไหล่เลขานุการที่ขยับขวางหน้าให้พ้นทางก่อนพาตัวเองก้าวผ่านประตูห้องทำงานของประธานใหญ่แล้วกดปิดล็อคห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับปรับสีหน้าแล้วส่งเสียงหวานทักทายเจ้าของห้องอย่างสนิทสนม
“พี่คิรินคะ เที่ยงแล้วพักทานอาหารก่อนเถอะค่ะ”
คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นด้วยความไม่สบอารมณ์ ขณะเขาตวาดดุคนอาจหาญเข้ามารบกวนด้วยน้ำเสียงทรงพลังอำนาจ
“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหม ผมไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลาทำงาน”
“แต่ว่า...”
“จะกลับออกไปดีๆ หรือจะให้เรียกรปภ.”
นรียาชะงักกึก แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แต่ดวงตาคู่รีก็จับจ้องมองคนร่างสูงใหญ่อย่างดื้อรั้น
“ทำไมพี่คิรินต้องตั้งท่าขีดเส้นกั้นรียาแบบนี้ด้วยคะ รียาน่ารังเกียจมากนักหรือไงพี่ถึงผลักไสรียาแบบนี้”
“หนึ่ง... ”
“วันนี้รียาอุตส่าห์เข้าครัวทำอาหารกลางวันมาให้พี่โดยเฉพาะ ถ้าพี่ไม่ทานรียาก็ไม่กลับ”
“สอง...”
นรียาเม้มปากขัดใจ หัวใจดวงเล็กเต้นระรัว หล่อนทั้งหวาดกลัวและอยากเอาชนะในคราวเดียวกัน
“รียารู้ว่าพี่คิรินไม่พอใจ แต่พี่จะขัดใจคุณป้าเหรอคะ พี่เองก็รู้ว่าคุณป้าเห็นดีเห็นงามกับเรื่องของเรา”
“ไม่ไปใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ รียาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” นรียายังคงแสดงความดื้อรั้นเพราะคิดว่ามีมารดาของคิรินถือหาง
คิรินขบฟันกรอดก่อนปิดแฟ้มเอกสารแล้ววางกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดังจนนรียาสะดุ้งเฮือก ดวงตาคมดุกร้าวตวัดมองเธอแสดงออกถึงความไม่พึงพอใจแช่มชัด แต่นรียาก็ไม่สะทกสะท้าน
“คุณไม่ไปก็เรื่องของคุณ ผมไปเอง” จบคำคิรินก็หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้าวยาวๆเร็วๆตรงไปยังประตูห้องทำงาน นรียาแทบไหวตัวตามความคิดของคิรินไม่ทัน พอตั้งสติได้หญิงสาวก็รีบก้าวฉับๆตามไปทันที
“หยุด! ถ้าคุณขยับก้าวตามผมมาอีกเพียงก้าวเดียว ผมจับคุณโยนออกไปนอกบริษัทแน่ๆ”
นรียาชะงักฝ่าเท้าเกือบจะไม่ทัน เมื่อจู่ๆคิรินก็หันขวับมาตวาดดุใส่เธอต่อหน้าเลขานุการหน้าห้องแบบไม่ไว้หน้า
“อย่าคิดว่ามีคุณแม่ผมให้ท้ายแล้วจะมาทำอะไรตามใจคุณในที่ของผมได้ รู้ไว้ด้วยความอดทนของผมมีขีดจำกัด”
หล่อนเริ่มออกอาการหน้าเสีย แววตา กิริยา และคำพูดดุดันของเขาแสดงให้หล่อนรู้ว่าคิรินเริ่มโกรธจนแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่ เมื่อเห็นแบบนั้นนรียาจึงไม่ตอแยเขาอีก หล่อนได้แต่ยืนกำหมัดแน่นมองตามร่างสูงใหญ่ของคิรินเดินจากไปด้วยความคับแค้นใจ คอยดูเถอะ! หล่อนจะทำให้เขายอมสยบแทบเท้าหล่อนให้ได้ในสักวัน
---------------------------------
เปิดตัวละครรัวๆเลยค่า...ไรท์อาจเดินเรื่องเร็วนิดนึงนะคะ เพราะว่าพล็อตที่ร่างไว้ยาวมาก นักแสดงต่อคิวรอเข้าฉากอีกหลายคนเลย ฮ่าๆๆๆ
คีตาลดารู้สึกประหลาดใจเมื่อผู้จัดการโรงแรมบอกให้เธอไปรายงานตัวกับท่านประธานใหญ่ที่ เค.เค. รอยัล คลับ เธอเป็นเพียงนักเล่นเปียโนพาร์ทไทม์ตัวเล็กๆธรรมดาคนหนึ่ง แต่เพราะอะไรถึงต้องรายงานตัวตรงต่อประธานใหญ่ของเค.เค. กรุ๊ป แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ความสงสัยมากอยู่ แต่เธอก็ได้แต่ทำตามคำสั่งโดยไม่ขัดข้อง‘หึ! คำสั่งท่านประธาน มีหรือที่เธอจะหาญกล้า อย่าว่าแต่เธอเลย เป็นใครก็ไม่กล้าขัดด้วยกันทั้งนั้น’คีตาลดาหยุดความคิดตัวเองเพียงเท่านั้นเมื่อเธอมาถึงพนักงานต้อนรับของคลับก็พาเธอมายังห้องรับรองสุดหรูของที่นั่น พนักงานที่พาเธอมาส่งเคาะประตูห้องแล้วเปิดออกก่อนผายมือเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน คีตาลดาอดใจสั่นไม่ได้เมื่อเท้าเล็กๆก้าวเข้าไปในห้อง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าจนลึกสุดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง“นักเปียโนใหม่ที่ท่านเรียกพบมาแล้วครับ”พนักงานคนนั้นรายงานแล้วถอยกลับออกไป คีตาลดามองไปยังคนที่นั่งหันหลังให้เธอ ขนาดว่าพนักเก้าอี้ที่เขานั่งทั้งสูงและใหญ่แต่เธอก็ยังเห็นศีรษะของเขาโผล่พ้นพนักเก้าอี้กว่าครึ่งหัว เธอเดาโดยประมาณว่าเขาน่าจะสูงเกิน 190 เซนติเมตรน่าจะได้ เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าทายาทค
คีตาลดานั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เบื้องหน้าของเธอคือกระจกเงาบานใหญ่ ในห้องพักนักดนตรีของโรงแรมตอนนี้มีเธอเพียงคนเดียว หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกนิ่งดั่งคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ความคิดดิ่งลึกนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่เธอจะก้าวออกมาจากห้องรับรองนั้น“คุณแน่ใจนะว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหน้านี้”แปลก... น้ำเสียงนุ่มทุ้มต่ำลึกที่กระซิบข้างหลัง เธอช่างคุ้นหูเธอเหลือเกิน ตอนแรกที่เขาถามเธอไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถูกถามย้ำอีกครั้งในระยะประชิดตัวแบบนี้ เธอก็อดหวนคิดถึงฝันร้ายแสนหวามในค่ำคืนนั้นไม่ได้บ้าจริง! คิดแบบนั้นได้ยังไงกันนะลดา ท่านประธานจะเป็นผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ต่อให้เกิดเหตุในโรงแรมของเขาก็เถอะ แต่ทายาทคุปต์อนันต์อย่างเขาจะไม่เลือกกินขนาดลากใครที่ไหนขึ้นเตียงแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้“ท่านประธานถามแบบนี้ กำลังจะบอกว่าเคยเจอดิฉันมาก่อนหน้านี้เหรอคะ” เธอถามออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด หากใช่ล่ะ?“คุณอยู่ในสถานะที่ควรย้อนถามผมอย่างนั้นเหรอ”คำถามของเขาทำเอาใจเธอหล่นวูบ นั่นสินะ เธอเป็นใครถึงอาจหาญย้อนถามเขาไปแบบนั้น“ขอประทานโทษค่ะ ดิฉันล่วงเกินท่านแล้ว ดิฉัน
เมื่อได้นั่งไล่ปลายนิ้วไปตามคีย์เปียโนคีตาลดาก็ไม่คิดถึงสิ่งใดนอกจากส่งมอบเสียงเพลงแห่งความสุขให้แก่คนฟัง นานเท่านานที่เธอปล่อยความคิดจิตใจเคลียคลอไปกับเสียงเปียโน ความรู้สึกอิ่มอุ่นในหัวใจ ความสุขสดใสที่เธอถ่ายทอดผ่านปลายนิ้วไล่สัมผัสไปกับคีย์เปียโนนั้นทรงพลังตราตรึงในหัวใจคนฟังมานักต่อนัก วันนี้เป็นอีกวันที่เธอสร้างความประทับใจให้แก่แขกที่มารับประมานอาหารใน เค.เค.รอยัล คลับ แห่งนี้คีตาลดาโค้งคำนับรับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมหลังเสียงเพลงสุดท้ายของวันนี้สิ้นสุดลง หญิงสาวยิ้มกว้างยามกวาดสายตามองไปโดยรอบ หัวใจดวงน้อยกวัดแกว่งอย่างแปลกประหลาดเมื่อเห็นว่าโต๊ะหน้าเวทีไร้เงาของคิริน‘เขาไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ’ คีตาลดาปัดความคิดนั้นออกจากหัวแล้วค้อมกายโค้งคำนับบรรดาแขกในห้องอาหารนั้น อีกครั้งแล้วหันหลังกลับก้าวลงด้านหลังเวที แม้จะพยายามตัดความคิดเกี่ยวกับทายาทคุปต์อนันต์ออกไปแต่ก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ หากประธานใหญ่ไม่ชื่นชอบผลงานการแสดงของเธอแล้ว เธออาจถูกเลิกจ้างก็เป็นไปได้“วันนี้คุณยอดเยี่ยมมากครับคีตาลดา”“ผู้จัดการชมเกินไปแล้วค่ะ”แม้หัวใจดวงน้อยจะฟองฟู่กับคำชมของวีกิจผู้จัดการห้องอาหาร แต
เอี๊ยดดด!!คีตาลดาหัวทิ่มโขลกกับคอนโซลรถด้านหน้า เพราะจู่ๆก็มีรถสปอร์ตสีดำขับปาดตัดหน้าจนทัชกรเบรกรถจนตัวโก่ง แรงกระแทกทำเอาเธอถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้ถึงความเกรี้ยวกราดของทัชกร“ไอ้ห่าเอ๊ย! ขับรถประสาอะไรวะ”คีตาลดาได้ยินทัชกรสบถด่าลั่นก่อนที่เขาจะเปิดประตูก้าวลงไป หญิงสาวพยายามดึงสติหวังอาศัยช่วงจังหวะนั้นหลบหนีเอาตัวรอด แต่เธอรู้สึกมึนงงมาก รอบด้านพร่าเลือนมองอะไรไม่ชัดจึงพยายามใช้มือคลำหาที่จับเปิดประตูรถสะเปะสะปะ พอจะเปิดก็เปิดไม่ออกเพราะเป็นระบบล็อคอัตโนมัติด้านนอก ทัชกรที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงกับยืนตะลึงเมื่อพบว่ารถสปอร์ตที่ขับปาดหน้าตนคือใคร เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดเฝื่อนก่อนจะฝืนยิ้มเจื่อนทักทายจนตรงหน้า“คุณคิรินนั่นเอง ผมทัชกร”ผัวะ!หมัดหนักๆที่ซัดเข้าตรงโหนกแก้มซ้ายของเขาคือคำทักทายตอบ แรงอัดกระแทกแบบไม่ทันตั้งรับทำเอาทัชกรถึงกับถลาล้มหน้าคะมำ“คุณคิริน คุณชกหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง ผมไปทำอะไรให้คุณ”ผัวะ!หมัดที่สองตามมาติดๆแบบที่ทัชกรไม่มีโอกาสต่อต้าน ยิ่งเห็นแววเกรี้ยวกราดในดวงตาสีดำสนิทของคิรินแล้ว คนขลาดอย่างทัชกรก็หงอไม่กล้าต่อกรกลับ“หมัดแรกสั่งสอนท
ก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ คีตาลดาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มีคนเข้ามาแทรก แต่เหมือนท่านประธานใหญ่จะขัดอกขัดใจ เธอทันได้เห็นแววขุ่นเคืองวาววับในดวงตาคู่คมก่อนจะหายไปกลายเป็นนิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างดุเข้มทรงพลังอำนาจในความรู้สึกของคีตาลดา หญิงสาวลอบมองคนเพิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง แต่เห็นอีกฝ่ายสีหน้านิ่งสนิทไม่หวั่นเกรงใดๆ เธอก็เลิกห่วงใย อดนึกค่อนขอดในใจไม่ได้ว่าเจ้านายลูกน้องช่างเหมือนกันราวโคลนนิ่งกันมา“คุณนิธิยื่นคำขาดมาว่าถ้าเคเคไม่ไปเจรจาเรื่องลงทุนโครงการใหม่ภายในครึ่งชั่วโมง คุณนิธิจะยกเลิกความร่วมมือกับเคเคทุกโครงการครับ”“ตอบกลับไปว่าฉันจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมงแน่นอน” คิรินสั่งการอย่างไม่ต้องหยุดคิด ชินโยรับคำแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่ง พอประตูห้องปิดสนิทคิรินก็ดึงสายตากลับมามองคนบนเตียงเห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว คิรินยิ้มอ่อนเมื่อเห็นแววตาสีหน้ารู้สึกผิดของเธอ“อย่ากังวลไปเลยคีตาลดา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ เป็นผมเองที่เต็มใจและยินดีช่วยคุณให้พ้นอันตราย ต่อให้มีนัดที่สำคัญกว่านี้ผมก็ไม่เสียใจที่เลือกตามไปช่วย
“เคเคคะ คอนโดฯของลดาไม่ได้ไปทางนี้ค่ะ” คีตาลดารีบหันมาบอกคิรินทันทีที่เห็นว่าคนขับรถของเขาขับเลยทางแยกไปคอนโดมิเนียมของเธอ“ผมรู้”“เคเครู้ แล้วไงคะ หรือว่าคุณคนขับรถไม่รู้” คีตาลดาหันมาถามชินโยซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ เธอเห็นเขาทำทองไม่รู้ร้อนก็นึกขัดใจ“คุณคะเดี๋ยวถึงจุดกลับรถข้างหน้าคุณก็ยูเทิร์นกลับนะคะ แล้ว...”“ขับตรงไปตามเดิมแหละชินโย” คิรินแทรกขึ้นก่อนที่คีตาลดาจะทันพูดจบ หญิงสาวหันขวับมามองเขาแล้วเลิกคิ้วขณะถาม“เมื่อกี้นี้เคเคพูดว่าอะไรนะคะ”“ผมบอกให้ชินโยขับตรงไปไม่ต้องยูเทิร์น”“แต่มันเลยทางไปคอนโดฯลดาแล้วนะคะ ไม่กลับรถแล้วจะไปทางไหน”“แล้วใครบอกว่าจะไปคอนโดฯ คุณล่ะ”คำพูดแนวนี้ ซีนประมาณนี้เธอเคยเห็นในละครรักแทบจะทุกเรื่องแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอคีตาลดาขบฟันจ้องเขาพลางกระพริบตาปริบๆ หลังจากคิรินพูดยิ้มๆ เขาก็หันไปสนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของตัวเองไม่ได้หันมามองหน้าเธอสักนิด“คุณคะ ช่วยจอดรถตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะ” เมื่อเขาเอาแต่สนใจอ่านอะไรในสมาร์ทโฟนของเขาไม่มีทีท่าสนใจเธอ คีตาลดาก็หันมาทางชินโย แต่เธอก็ต้องหงุดหงิดเมื่อชินโยก็ทำท่าไม่รับรู้เหมือนเดิม“เค
เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอต้องทำอย่างไรกับชีวิตนับจากนี้ไป ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกความมืดมิด เธอต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบไม่คาดคิด ผู้ชายที่เธอรักและวาดหวังฝากชีวิตไว้กับเขา ท้ายสุดแล้วก็เป็นเพียงผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง เลวสุดใจแบบที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมองคนผิดพลาดได้มากขนาดนี้‘ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลยลดา ผมไม่เห็นว่าคุณจะเสียหายตรงไหนมีแต่ได้กับได้’‘คุณจะบอกว่าการที่ลดาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ลดาไม่เสียหายอย่างนั้นเหรอคะ’‘คุณคิดมากเกินไปลดา ผมเห็นแต่ว่าคุณจะมีแต่สนุกแล้วก็ได้เงิน’‘ทัช! ลดาเป็นแฟนคุณนะ คุณคิดแบบนี้ได้ยังไงคะ’‘คุณเลิกความคิดคร่ำครึหัวโบราณเสียทีได้ไหมลดา ผมเป็นแฟน เป็นผู้ชายแท้ๆผมยังรับได้แล้วคุณจะเรื่องมากให้มันวุ่นวายไปทำไมฮะ’หยุด! หยุดได้แล้ว! หยุดคิดถึงคนชั่วช้านั่นเสียที ยิ่งเธอคิดก็ยิ่งมีแต่เจ็บปวดรวดร้าว เธอจะปล่อยให้เรื่องราวเหล่านั้นมาบั่นทอนชีวิตเธอต่อไปอีกนานแค่ไหนกันพอแล้ว! พอเสียที อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองอีกต่อไปเลย เพียงเท่านี้หัวใจเธอก็เจ็บปวดร้าวลึกจวนเจียนจะขาดใจตายเสียให้ได้ นั่นสิ! เธอแทบจะแดดิ้นตายด้วยความเจ็บปวดครั้งแล้ว