แชร์

เมื่อฉันกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีคลั่งรัก
เมื่อฉันกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีคลั่งรัก
ผู้แต่ง: รินทร์วรส

ตอนที่ 1 หนีเสือปะจระเข้

เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอต้องทำอย่างไรกับชีวิตนับจากนี้ไป ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกความมืดมิด เธอต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบไม่คาดคิด ผู้ชายที่เธอรักและวาดหวังฝากชีวิตไว้กับเขา ท้ายสุดแล้วก็เป็นเพียงผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง เลวสุดใจแบบที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมองคนผิดพลาดได้มากขนาดนี้

‘ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลยลดา ผมไม่เห็นว่าคุณจะเสียหายตรงไหนมีแต่ได้กับได้’

‘คุณจะบอกว่าการที่ลดาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ลดาไม่เสียหายอย่างนั้นเหรอคะ’

‘คุณคิดมากเกินไปลดา ผมเห็นแต่ว่าคุณจะมีแต่สนุกแล้วก็ได้เงิน’

‘ทัช! ลดาเป็นแฟนคุณนะ คุณคิดแบบนี้ได้ยังไงคะ’

‘คุณเลิกความคิดคร่ำครึหัวโบราณเสียทีได้ไหมลดา ผมเป็นแฟน เป็นผู้ชายแท้ๆผมยังรับได้แล้วคุณจะเรื่องมากให้มันวุ่นวายไปทำไมฮะ’

หยุด! หยุดได้แล้ว! หยุดคิดถึงคนชั่วช้านั่นเสียที ยิ่งเธอคิดก็ยิ่งมีแต่เจ็บปวดรวดร้าว เธอจะปล่อยให้เรื่องราวเหล่านั้นมาบั่นทอนชีวิตเธอต่อไปอีกนานแค่ไหนกัน

พอแล้ว! พอเสียที อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองอีกต่อไปเลย เพียงเท่านี้หัวใจเธอก็เจ็บปวดร้าวลึกจวนเจียนจะขาดใจตายเสียให้ได้ นั่นสิ! เธอแทบจะแดดิ้นตายด้วยความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทำไมนะ? ทำไมเธอไม่ตายดับไปเสีย แม้เจ็บปวดเจียนจะขาดใจตายแต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังคงหายใจ

…หายใจทั้งที่ไม่อยากหายใจ

...หายใจราวกับตายทั้งเป็น

“หยุดเศร้าเสียใจ หยุดเครียดเสียทีเถอะลดา อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป เธอเองไม่ใช่เหรอที่บอกใครต่อใครว่าต่อให้ใครทำร้ายก็ไม่เท่าเราเก็บมันมาตอกย้ำทำร้ายเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลืมไปแล้วเหรอ คำพูดพวกนี้เธอลืมไปแล้วอย่างนั้นเหรอ”

คีตาลดาจ้องมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ เธอเห็นสภาพตัวเองแล้วก็ได้แต่เบะปากเยาะยิ้มด้วยความสังเวชตัวเอง นี่เหรอคีตาลดาหญิงสาวผู้แสนน่ารัก ร่าเริงสดใส ชีวิตมีแต่ดนตรีและเสียงเพลงสนุกสนาน ผู้หญิงที่ใครๆต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยรู้จักความทุกข์ น่าสมเพช! ดูสภาพของเธอตอนนี้สิ! มันดูไม่ได้เลยสักนิด ดวงตาที่เคยสุกสกาวราวดวงดาวนับพัน ตอนนี้ยิ่งกว่าดาวอับแสงในคืนเดือนมืดเสียอีก ดวงหน้าเกลี้ยงเกลาขาวนวลอมชมพูระเรื่อ ตอนนี้ซีดเผือดราวกับซากศพ ริมฝีปากอิ่มระเรื่อพริ้มเพราตอนนี้แตกระแหงแลดูซีดยิ่งกว่าซีด ยิ่งมองตัวเองเธอก็ยิ่งเจ็บปวด เธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ตกอยู่ในสภาพนี้

“ฮึก! ฮืออออ...ฮึก ฮึก ฮือออออ... พ่อจ๋า แม่จ๋า ลดาเจ็บเหลือเกิน เจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว พ่อจ๋าแม่จ๋าพ่อกับแม่อยู่ไหนกอดลดาหน่อย ช่วยลดาที ฮึก! ฮืออออ...” คีตาลดาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างไม่อาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ เจ็บเหลือเกิน ปวดหลือเกิน เจ็บและปวดจนไม่รู้ว่าจะออกจากความรู้สึกนี้ไปได้อย่างไร ยิ่งเก็บข่ม ยิ่งปัดป้อง เหตุการณ์วันวานก็ยิ่งฉายชัด คำพูด การกระทำ เสียงหัวเราะของชายชั่วนั่นยังคงก้องอยู่ในหัว

‘ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ออกไปนะไอ้ชั่ว อย่ามายุ่งกับฉัน’ คีตาลดาพยายามปัดป้องตัวเองจากการถูกคุกคาม แม้ว่าจะมองแทบไม่เห็นทางรอดแต่เธอก็ไม่ยอมให้มันย่ำยีเธอแน่ๆ

โพล๊ะ!

‘โอ๊ย! ระยำมึงกล้าตีหัวกูเหรอ’

คีตาลดาไม่สนใจฟังคำสบถใดๆของมัน เธอฉวยโอกาสในจังหวะที่มันผงะถอยออกไปเพราะถูกตีหัวด้วยโคมไฟนั้นรีบหนีออกมา แม้ว่าจะทุลักทุเลมากแค่ไหนแต่เธอก็พยายามพาตัวเองออกมาจากห้องนั้นจนได้ สองเท้าเล็กๆ พาร่างระหงวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงหวังไปตายเอาดาบหน้า ยิ่งได้ยินเสียงมันตะโกนสั่งลูกน้องดังโหวกเหวกไล่ตามหลังมา คีตาลดาก็ยิ่งเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน พิษยากระตุ้นกำหนัดที่ถูกกรอกเข้าปากกำลังเล่นงานเธอหนักหน่วง เธอต้องพยายามฝืนต้านอาการปั่นป่วนที่กำลังครอบงำ พยายามเพ่งมองไปยังทางข้างหน้า และวิ่งต่อให้ให้เร็วที่สุด แต่ดวงตาของเธอก็พร่าพรายจนมองทางไม่เป็นทาง ยิ่งเพ่งไปข้างหน้าก็เหมือนเส้นทางช่างคดเคี้ยว ยิ่งเพ่งให้เห็นชัดแต่ทางข้างหน้ายิ่งดูโหวงเหวงโคลงเคลงจนฉันแทบจะหยัดยืนไม่ไหว

‘ช่วยที! ใครก็ได้ช่วยฉันที’ เธอร้องตะโกนออกไปสุดเสียง แต่เหมือนเป็นเพียงเสียงกระซิบที่เล็ดลอดออกมาแผ่วเบา แม้จะรู้สึกสิ้นหวังแต่เศษเสี้ยวหนึ่งในห้วงความคิดก็ภาวนาขอให้ใครสักคนพาเธอรอดพ้นจากเงื้อมมือคนชั่ว

‘ว้าย!’ คีตาลดาหวีดด้วยความตกใจเมื่อร่างอ่อนระโหยของเธอเซถลาเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งบานประตูเปิดแง้มไว้ราวรอคอยใครสักคน หญิงสาวกึ่งตระหนกกึ่งดีใจ เหมือนฟ้าจะยังเมตตาให้เธอพอมีที่หลบซ่อน มือน้อยรีบปิดประตูห้องนั้นกดล็อคอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจ เธอรอดแล้ว! เธอรอดพ้นเงื้อมมือคนชั่วนั่นแล้ว!

‘ว้าย!’ คีตาลดาหวีดเสียงด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อหันกลับมาแล้วชนกับร่างสูงใหญ่อย่างจัง ดวงตาคู่สวยไหวระริกยามเจ้าตัวเบิกกว้างมองคนตรงหน้าผ่านความมืดสลัวด้วยความตระหนก

‘กรี๊...อุ๊บ!’

‘ชู่ว...อย่าขัดขืน ช่วยฉัน! แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ’ เพียงจบคำ เจ้าของเสียงกร้าวสั่นพร่านั้นก็บดจูบรุกเร้าหนักหน่วงแบบไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ตอบโต้ คีตาลดาได้แต่หวีดร้องก้องอกด้วยความหวาดกลัว หญิงสาวพยายาม    ดิ้นรนขัดขืนหัวใจดวงน้อยเต้นระรัว หยาดน้ำตาอุ่นใสไหลทะลักจากสองตาอย่างไม่อาจหักห้ามได้

หนีเสือปะจระเข้แท้ๆ รอดพ้นจากเงื้อมมือคนชั่วนั่น แต่กลับต้องมาสังเวยร่างกายให้กับผู้ชายที่เธอมองไม่เห็นแม้แต่หน้าว่าคือใคร ความมืดสลัวกับสติที่เลื่อนลอยทำให้ทุกอย่างพร่าพรายไปหมด ยิ่งถูกคนร่างหนาใหญ่คุกคามไม่เว้นช่วงจังหวะให้หนีรอด ร่างกายซึ่งร้อนลุ่มเพราะถูกครอบงำด้วย  ฤทธิ์ยาก็ยิ่งถูกกระตุ้นให้สติกระจัดกระเจิงจนเธอร่วงหล่นลงสู่ห้วงแห่งเพลิงกามาอันเร่าร้อน

“หยุดเถอะลดา! หยุดคิดเสียที ฉันรับมันไม่ไหวแล้ว” คีตาลดาฝืนดึงตัวเองออกจากภาพความฝันในค่ำคืนเลวร้าย วันนั้น นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเธอก็นับไม่ถ้วน ยิ่งพยายามฝืนดึงตัวเองออกมาก็เหมือนยิ่งจมดิ่งลงไปในห้วงมหาสมุทรสุดลึก ดำผุดดำว่ายปริ่มจะจมน้ำตายเสียให้ได้ แต่ท้ายสุดก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมานอนเกยหาดหายใจรวยรินก่อนจะลื่นไถลจมดิ่งลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า

“พอแล้ว...เจ็บปวดมากพอแล้ว ขอล่ะ…อย่าคิดถึงมันอีกเลยนะ” หญิงสาววอนขอพลางจ้องมองสภาพทรุดโทรมของตังเองในกระจก ดวงตาแข็งกร้าวเปลี่ยนแปรเป็นไหวระริก แววตาที่เคยเจิดจรัสกลับเต็มไปด้วยความร้าวระทม

“แค่เยื่อบางๆนั่น มันมีค่ามากกว่าชีวิตและลมหายใจของเธอเหรอลดา แค่วันนี้เธอยังมีชีวิต มีลมหายใจมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ” คีตาลดายิ้มอ่อนให้ตัวเอง ดวงตาคู่สวยกระพริบถี่ขับไล่หยาดน้ำตาที่ไหลรินจ้องมองตัวเองในกระจก ความคิดทุกอย่างหยุดลงชั่วขณะ ปล่อยให้ในห้วงความรู้สึกมีแต่ความว่างเปล่าอยู่แบบนั้นนิ่งนาน

----------------------------------

ไรท์ต้มมาม่าให้กินตั้งแต่เปิดเรื่องเลย อ่านแล้วถ้ายังรู้สึกไหวก็ไปต่อได้เลยนะคะ ไรท์สัญญาว่าไม่มีมาม่าทุกตอนแน่นอนค่ะ อ่านแล้วชอบใจก็เม้นท์ให้กำลังใจกันได้นะคะ แต่ถ้าไม่ชอบใจก็ขอให้ผ่านไป ไม่ต่อว่ารุนแรงต่อกันนะ ไรท์ใจบางมากๆ^^

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status