21 - กานต์แก้ว
กานต์แก้วเดินขึ้นเรือนตามเด็กสาวชื่อหลินไปนั่งรอที่โต๊ะรับแขก เขาใจเต้นเหมือนเดิมขณะที่นั่งรอดวงฤทัย ซึ่งเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เขารู้จักเธอสมัยยังอยู่มัธยมปลายชั้นปีที่สี่
เกือบสิบปีที่เขารอให้ดวงฤทัยเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในความรักที่เขามีให้กับเธอมาตลอด แม้ว่าช่วงที่เธอแต่งงานออกไปแล้วเขาเองก็ยังรอเพราะรู้ว่าเธอคงตั้งใจแต่งงานออกไปเพื่อหนีเงื้อมมือของพ่อ และพ่อเลี้ยงคนนั้นเองก็แก่มากแล้วทำให้เขาสบายใจว่าเธอคงแต่งงานได้ไม่นาน พ่อเลี้ยงนฤนารทคงต้องเสียชีวิตลงก่อนแน่นอน
แล้วสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ถูกต้อง แต่งงานเพียงหกปีพ่อเลี้ยงก็หัวใจวายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ จะว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวก็คงไม่ผิดนัก ที่ดีใจเมื่อเห็นผู้ชายแก่คนนั้นตายไป แล้วดวงฤทัยก็เป็นหม้าย
กานต์แก้วนั่งยิ้มคนเดียววาดฝันในอีกไม่นาน เขาจะขอดวงฤทัยแต่งงาน และเธอคงไม่อาจปฏิเสธได้อีกเพราะคุ้มเจ้าจอมอินต้องใช้เงินในการทำนุบำรุงค่อนข้างมาก แล้วฟาร์มสินธุก็ไม่ได้ทำกำไรอะไรให้มากมาย ยิ่งเธอเป็นหม้ายโอกาสแต่งงานใหม่กับคนที่มีชื่อเสียง คนมีเงินของเมืองก็ลดน้อยลง จนท้ายที่สุดดวงฤทัยจะต้องยอมแต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน
เสียงฝีเท้าเดินมาทำให้เขาเงยหน้ามองพร้อมลุกขึ้นเมื่อดวงฤทัยเดินพ้นเหลี่ยมมุมบ้าน เขาขยับเสื้อเชิ้ตตื่นเต้นอย่างที่เคยเป็นทุกครั้ง ใบหน้าอย่างคนจีนยิ้มกว้างให้หญิงสาวที่เขาใฝ่ฝันมานาน
“น้องดวง”
“สวัสดีค่ะพี่กานต์ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
ดวงฤทัยยกมือไหว้นอบน้อมให้พี่ชายของเพื่อนรักแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม สังเกตว่ากานต์แก้วท้วมขึ้นอีกแล้ว และเขาดูมีน้ำหนักมากกว่าเมื่อตอนวัยรุ่นมากโขจนเดี๋ยวนี้อ้วนสมบูรณ์
“พี่เอาของฝากมาให้จากเมืองจีน”
“อาทิตย์ก่อนแก้วก็เอามาให้แล้วนี่คะ”
ดวงฤทัยรับถุงที่กานต์แก้วยื่นมาให้เปิดดู ครั้งนี้เป็นผลไม้อบกรอบจำนวนมากและขนมแปลก ๆ จากประเทศจีน
“ก็พี่ไปอีกรอบ ไปดูโรงงานผลิตผ้าที่นำเข้ามาขายในไทย”
“อ้อ ค่ะ แล้วเป็นยังไงคะเรียบร้อยดีไหมคะ”
เธอวางถุงลงบนโต๊ะพยายามหาเรื่องชวนคุยแม้ว่าใจต้องการไล่ให้เขาไปให้พ้นเพราะใจของเธอยังแหลกเหลวเจ็บปวดจนไม่อยากพบเห็นหน้าใคร แต่ด้วยมารยาทที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เด็กทำให้เธอจำต้องยอมทนนั่งฟังสิ่งที่น่าเบื่ออย่างเรื่องว่าเขาไปเจอใครมาบ้าง ใหญ่โตแค่ไหนที่เมืองจีน
ดวงฤทัยฟังหูซ้ายทะลุหูขวาแม้ว่าตายังจับจ้องกานต์แก้ว แต่หัวใจกับล่องลอยออกไปนอกเรือน เข้าไปยังห้วงเวลาเจ็บปวดเมื่อเช้ายามเธอเห็นเขากับผู้หญิงคนอื่น และยิ่งเจ็บปวดหนักกว่าเดิมเมื่อเธอเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดเจน พราวพิลาศ
ใจเล็กบีบรัดรวดร้าวจนเธอร้องไห้ตลอดทางที่ขับรถกลับมายังคุ้ม ปิดประตูร้องไห้อยู่คนเดียว
ข้อตกลงว่าเธอต้องเป็นแฟนกับเขา คงไม่ได้รวมไปถึงว่าเขาต้องซื่อสัตย์ เป็นแฟนกับเธอคนเดียว เขาทำให้เธอเจ็บปวด
“ดวง ดวง!”
เสียงกานต์แก้วทำให้ดวงฤทัยได้สติกลับมายังปัจจุบัน เห็นกานต์แก้วมองด้วยความเป็นห่วง
“ดวงเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าซีดเซียว ดวงร้องไห้มาเหรอ”
“ไม่ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร พี่กานต์เล่าถึงไหนแล้วนะคะ”
“ดวงไม่สบายแน่เลย ไปหาหมอหรือยัง พี่พาไปไหม”
“ไม่ค่ะ ดวงแค่ปวดหัว”
“ถ้างั้นพี่ไม่กวนแล้วดีกว่า”
ดวงฤทัยรีบลุกขึ้นตามกานต์แก้วเมื่อเขาเอ่ยตัดสินใจกลับบ้าน เธอพาร่างอ่อนแรงตามไปส่งเขาตรงบันไดอย่างคนไร้วิญญาณ
“อ้อ ดวง”
ไม่ทันได้ลงบ้าน พี่ชายเพื่อนพลันชะงักหยุดหันกลับหลังมาจับมือเล็กบางยกขึ้นลูบหลังมืออ่อนโยนอย่างเป็นห่วง
“ถ้ามีอะไรบอกพี่ได้นะ พี่พร้อมที่จะช่วยเหลือดวงทุกอย่าง”
“ดวงไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะพี่กานต์”
“ดวงไม่ต้องเกรงใจพี่ ดวงก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับดวง พี่ยังรอดวงเสมอ เวลาเห็นดวงเป็นทุกข์ พี่เองก็ทุกข์ด้วย ถ้าดวงมีปัญหาพี่ยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือ”
“คงไม่ต้องลำบากให้คุณช่วย!! ผมดูแลคนของผมได้!!”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทางด้านหลังกานต์แก้ว น้ำเสียงกรุ่นโกรธขัดเคือง
“พี่เหนือ!!”
คนร่างเล็กรีบดึงมือออกมองลงไปเห็นเหนือหัวกำลังเดินขึ้นบันไดเรือนท่วงท่าเอาเรื่องพร้อมใบหน้ามืดคล้ำ
กานต์แก้วปล่อยมือเรียวบางอย่างไม่เต็มใจ ขมวดคิ้วหน้านิ่วสงสัยเมื่อเห็นชายหนุ่มรูปหล่อร่างสูงใหญ่เดินขึ้นเรือนมา ทั้งยังพูดจาแปลกประหลาด
“คุณพูดแบบนี้หมายความอย่างอะไร!?”
“ก็หมายความอย่างที่พูด ดวงเป็นคนของผม ผมดูแลคนของผมอย่างดีจนไม่ต้องให้คุณต้องมาเป็นห่วงแล้วย่องมาเจาะท้ายครัวของผมแบบนี้”
“พี่เหนือ!!”
“เหนือ?”
กานต์แก้วพึมพำทวนชื่อ เขามองหน้าของคนทั้งคู่สลับไปมา มองตามร่างสูงของคนชื่อเหนือที่เมื่อขึ้นไปถึงบนบ้านรีบตวัดลำแขนโอบดวงฤทัยเข้าหาต่อหน้าทันที พร้อมจ้องด้วยสายตาวาวโรจน์
“ครับ ผมชื่อเหนือหัว เมืองวงศ์สิงห์ ยินดีที่ได้รู้จักคุณกานต์แก้ว”
“คุณรู้จักผม?”
“ผมรู้จักทุกคนที่เกี่ยวข้องกับดวง อ้อ ไม่ส่งนะครับ ผมกับดวงมีเรื่องต้องคุยกันตามประสาคนรัก”
ดวงฤทัยเห็นใบหน้าพี่ชายเพื่อนรักซีดเผือดลงทันตาแล้วกลับมาแดงก่ำ ร่างเล็กสลัดดิ้นตัวออกแต่สู้แรงคนร่างใหญ่กว่าไม่ได้ มองตามหลังกานต์แก้วที่รีบร้อนหันหลังกลับลงเรือนไปทันทีด้วยความอับอาย
“ทำไม จะตามมันไปเหรอไง”
“พี่เหนือ! หยุดนะ! พี่มาทำไม”
“ก็มาตามดวงกลับบ้าน”
“กลับบ้าน? บ้านไหนไม่ทราบ บ้านดวงอยู่ที่นี่!!”
ดวงฤทัยสะบัดตัวจนดิ้นหลุดการเกาะกุมถอยห่างสามก้าวจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมอง ตาเธอแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แต่เธอยังสามารถจ้องตอบกลับด้วยตาวาวโรจน์เช่นกัน
“ไม่แล้ว ถ้าพ้นคืนนี้ บ้านของดวงคือบ้านของพี่”
“ปล่อยนะ!! คนเฮงซวย คนบ้า!! บอกให้ปล่อยยยย”
คนร่างเล็กดิ้นแรงบิดตัวเมื่อเหนือหัวตรงเข้าไปกระชากข้อมือเล็กเพื่อพาเดินลงบ้าน เหนือหัวพยายามควบคุมแรงของตัวเองที่มีมากกว่า แต่ทำได้ยากเย็น เพราะไฟในอกร้อนรุ่น อาการหึงหวงหน้ามืดเมื่อครู่ทำเขาเสียศูนย์เกือบพุ่งตัวไปอัดหน้าไอ้หมอนั่น
แม่หม้ายสาวยังไม่ให้ความร่วมมือ ดิ้นจนเขาทนไม่ไหว ย่อเข่าลงตวัดร่างเธอขึ้นบ่าเดินย่ำฝีเท้าแรงอย่างคนโกรธจัดลงบ้านตรงไปยังรถหรูที่จอดอยู่นอกรั้ว
เหนือหัวหน้าดำคล้ำทั้งดวงตาวาวโรจน์ จนแม้แต่แม่อุ๊ยคำและหลินยังเกรงกลัวไม่กล้าเข้าไปห้าม พวกเธอรู้ว่าคุณดวงฤทัยรู้จักผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างดี เพราะคุณดวงฤทัยไม่ได้เรียกให้พวกเธอเข้าไปช่วย มีเพียงใช้มือทุบหลังกว้างแข็งแรงด้วยอารมณ์โกรธเพียงเท่านั้น
“แม่อุ๊ย หลินว่าโทรเล่าให้คุณดวงใจฟังจะดีกว่า”
แม่อุ๊ยคำพยักหน้าเห็นด้วยหน้าตายังเหรอหราจากเหตุการณ์ตรงหน้า ตะแคงหูฟังเสียงคุณดวงที่โวยวายตลอดทางกระทั่งเงียบเสียงเมื่อประตูรถปิดลงและออกตัวลับหายไป
22 – หึงหน้ามืดเหนือหัวนั่งพิงพนักมือเท้าคางกับกระจกรถนั่งห่างจากดวงฤทัยพอสมควร เขาทบทวนความรู้สึกที่เพิ่งเกิดกับเขาที่คุ้มเจ้าจอมอิน ยามเห็นชายชื่อกานต์แก้วกุมมือของดวงฤทัยช่องท้องโหวงเหวงพร้อมไฟอัดแน่นในอกร้อนเสียยิ่งกว่าเคยเป็น เขาไม่เคยพบกับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน พยายามรับมือและควบคุมตัวเองอย่างที่สุดด้วยการนั่งให้ห่างจากดวงฤทัยเพราะอาการโมโหทำให้เขาฉุดเธอขึ้นรถมาด้วย ทั้งยังจับเธอพาดบ่าเดินลงบันไดบ้านท่ามกลางคนในคุ้ม และดูท่าว่าดวงฤทัยคงไม่ยอมหายโกรธโดยง่ายแต่เขาเองก็โกรธเช่นกัน เขาเฝ้ารอเธอมานาน และยังต้องรออีกสามเดือนภายใต้เงื่อนไขบ้าบอที่ดวงฤทัยสร้างขึ้นมา“ดวงเกลียดพี่เหนือ!”หน้าคมเข้มยังไม่หันไปมอง กรามขบแน่นมองตรงออกไปนอกหน้าต่าง เสียงนุ่มปนน้อยใจของดวงฤทัยไม่ทำให้เขาลดอารมณ์กรุ่นโกรธ“ได้ยินที่ดวงพูดหรือเปล่า ดวงเกลียดพี่เหนือ!”เขาเหลือบตามองแสงทัดที่นั่งเกร็งตัวขับรถ แล้วค่อยเหลือบตามองคนร่างเล็กด้านข้าง เธอพูดกับเขาแต่เจ้าตัวกลับมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดียวกันกับเขา“ไว้ไปพูดกันที่บ้าน”“ทำไม! พี่เหนืออายเหรอคะ”ครั้งนี้ดวงฤทัยสะบัดหน้ากลับมาหาเหนือหัว ดวงหน้างามแ
23 - nc“พี่เหนือ คิดดูสิคะ ถ้าเกิด เกิดเรามีอะไรกันขึ้นมามันคงไม่ค่อยดีเท่าไร”“ไม่ดียังไง”ดวงฤทัยหัวหมุนติ้วใช้ความคิด น้ำเสียงค่อยลดลงถ่วงเวลาขณะขยับร่างถอยฉากออกจากเตียงไปยังประตู“กะ ก็คนที่บ้านนี้จะรู้กันหมด แล้วข่าวลือแพร่ออกไป ละ แล้วคุณพราวจะรู้เรื่อง!!”มุมปากยังยักยิ้ม แม่หม้ายสาวไม่รู้ตัวสักนิดว่าพราวพิลาศไม่อาจเทียบเธอได้สักกะผีกเดียว ร่างแกร่งยังก้าวเข้าใกล้เชื่องข้าขณะที่เธอเองถอยหลัง“เกี่ยวอะไรกับพราวพิลาศ”“ก็พี่เป็นแฟนกับเขา!”“ฮึ แค่จูบเท่านั้นไม่ถือว่าเป็นแฟนกัน และมันไม่ได้เรื่อง”ดวงตาหวานซึ้งเหลือบมองประตูกะระยะว่าวิ่งหนี แต่เพียงเธอละสายตาออกจากเหนือหัว เขาพลันกระโจนเข้าหาอย่างรวดเร็วตุบ!!ร่างบางหลังกระแทกพื้นอย่างแรงนอนหงายโดยร่างของคนตัวโตคร่อมด้านบน มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กเธอไว้ชูเหนือศีรษะกดแน่นติดพื้น ใช้น้ำหนักตัวทับขาเรียวเล็กไว้จนไม่สามารถกระดุกกระดิกได้“ปล่อยนะ! พี่เหนือ! อย่านะ ดวงไม่ยอมนะ”“ไม่ยอม? แต่อีกเดี๋ยวดวงก็ยอม”ดวงหวานเอียงหลบริมฝีปากหนาที่ฉกลงอย่างรวดเร็วเฉียดฉิวไปไม่กี่นิ้ว ปากอุ่นร้อนพลาดเป้าแต่กลับตกอยู่พวงแก้มใส ขยับซุกไซ้ส่งลิ้นปาดล
24 – 18+ดวงฤทัยนั่งหน้าแดงซ่านยามมื้อเย็นในห้องทานอาหารของเรือนใหญ่พ่อเลี้ยงเหนือหัว เธอไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นสบตาเขาหรือใครสักคน เพราะอับอายและขัดเขินเรื่องเมื่อบ่ายร่างอรชรนั่งก้มหน้าตักข้าวเข้าปากเชื่องช้า ไม่ต้องการสนทนาใดใดทั้งสิ้น แต่อดรนทนไม่ได้เมื่อสัมผัสได้ว่าคนร่างโตนั่งอมยิ้ม“พี่เหนือยิ้มอย่างกับคนบ้า”“คนมีความสุขก็ต้องยิ้มเป็นธรรมดา”“ฮึ”“เติมข้าวอีกไหม”“ไม่แล้ว”“ทำไมรีบอิ่ม อยากเข้านอนแล้วเหรอ”“แค่ก ๆ”มือเล็กวางแก้วน้ำคว้ากระดาษอเนกประสงค์ด้านข้างโต๊ะขึ้นมาเช็ดน้ำรอบปาก“พี่เหนือพูดอะไรระวังปากด้วยสิคะ”“ระวังอะไร นี่บ้านพี่”“คนได้ยินเอาไปพูดผิด ๆ ถูก ๆ”“ไหนกัน ใครจะเอาไปพูด”“ก็ ก็ เอาเถอะ ดวงพูดไปคงไม่มีประโยชน์”“ฮึ อันที่จริงให้พูดไปเลยก็ดี จะได้รู้กันทั่วเมืองว่าแม่เลี้ยงหม้ายสินธุเป็นเมียพ่อเลี้ยงเหนือแล้ว”“พี่เหนือ! อย่านะ”“ก็ได้ รอสักหน่อยไปไหนด้วยกันบ่อย ๆ คนก็รู้กันเอง”ดวงฤทัยไร้ปัญญาเถียงคนดื้อรั้นเอาแต่ใจอย่างเหนือหัว จึงเลือกนิ่งเสียดีกว่า“เข้านอนเลยก็ได้นะ พี่เองก็เหนื่อยเหมือนกัน”“ไม่! ยังไม่ง่วงค่ะ เราไปนั่งเล่นที่ระเบียงก่อนแล้วกันค่ะ ดว
25 - ncร่างเล็กสะดุ้งตื่นเต็มตาทันที ยามร่างใหญ่โตสอดใส่เสียบเข้า มือใหญ่จับสะโพกเล็กไว้เต็มมือกำแน่นทั้งบังคับสะโพกเคลื่อนไหวตามแรงกระทุ้งสีหน้าคนร่างโตรวดร้าวยามมองท่อนเนื้อกลางลำตัวกลางหว่างขา ส่งแรงต่อเนื่องเสือกกายเข้าร่องรักของสาวใต้ร่างยามเช้าแม้ว่าทุกอย่างไม่เร่งรีบแต่กายแกร่งของเขากลับไม่เป็นเช่นนั้น ช่องสวาทตอดรัดแน่นจนเขาเองต้องหยุดชะงักหอบหายใจ“เดี๋ยวก่อน! พี่จะเสร็จ”มือแกร่งกำเนื้อนุ่มบนสะโพกแน่นข่มกลั้นอาการสะท้านไหวเสียววาบปลายหัว อาการต้องการหลั่งน้ำมาถึงเร็วกว่าที่คาดทั้งที่เมื่อคืนได้ปลดปล่อยออกไปแล้วทรวงอกกระเพื่อมแรงตามจังหวะชีพจร มือเล็กเอื้อมมือออกไปลูบแผ่นท้องแกร่งเสียงครางทุ้มลอดออกมา เหนือหัวเปิดเปลือกตาขึ้นจ้องเธอด้วยดวงตาฉายแรงปรารถนาแรงกล้า“พี่เหนือไม่ต้องออมแรงก็ได้ค่ะ ดวงไม่เป็นอะไร”“อา ดวง พี่จะทนไม่ไหว”เสียงทุ้มครางสั่นพร่า พึมพำบอกว่าเธอสวยมากขนาดไหนและทำให้เขาไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป ร่างสูงเอื้อมมือจับศีรษะเธอไว้ชะโงกกายเพื่อส่งแรงกระทุ้งลงอย่างแรง ดวงตาเจิดจ้าจ้องมองเธออย่างหวงแหน“พี่เหนือ อา อ่า”มือแกร่งจับเธอพลิกคว่ำคร่อมเธอไว้ด้วยต้นขา
26 - ncสาวร่างเล็กนั่งห้อยขาลงบนโต๊ะทำงานไม้สักสีทอง ดวงหน้างดงามหวานล้ำก้มศีรษะลงมองผมดกดำของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น หน้าเข้มแกร่งยังไม่ยอมละออกจากเนินเนื้อสาวหลังจากที่เขาถอดกางเกงบ็อกเซอร์โยนทิ้งไปมือเล็กเท้าแขนวางฝ่ามือบนโต๊ะใหญ่ ความเย็นจากพื้นไม้หน้าโต๊ะแทรกซึมขึ้นมาตรงกลางฝ่ามือผิดไปจากความร้อนเร่ากลางหว่างขา จมูกใหญ่ชนชิดเนินสวาทแหวกกลุ่มไรขนบางเบา“พะ พี่เหนือ ไปห้องนอน”ดวงฤทัยเอ่ยทักเสียงกระเส่า แม้ว่าเธอจะตะขิดตะขวงใจถ้าจะทำอะไรเลยเถิดในห้องทำงาน แต่ความตื่นเต้นแปลกใหม่ยังทำให้เธอเอนกายแอ่นเนินสาวให้เขาเชยชมอย่างถนัดถี่“อืม ไม่ต้องหรอก หวานจริง ๆ เลียได้ไม่เบื่อเลย”คำพูดกึ่งลามกแต่จริงใจแหบพร่าแนบชิดเนินสาว พาให้กายเธอสะท้านแอ่นรับแรงที่เริ่มเร่งจังหวะร่องทางรักแม้ชอกช้ำจากแรงพิศวาสที่คนร่างโตขยันทำรัก แต่พอได้ลิ้นหนาประโลมปลอบส่งให้ร่องสาวเปี่ยมน้ำหวาชื้นแฉะจมูกใหญ่ดุดันแหวกทางเชิญชมของหวานตรงหน้า ตวัดกลืนดูดซับ ขยับเลื่อนนิ้ว ซอกซอน ทำทุกทางที่ทำให้คนร่างเล็กอ่อนระทวยร้องครางร่างสูงคุกเข่ากับพื้น แนบหน้าชิด จับดันต้นขาเล็ก ขยับปลายนิ้วเลื่อนไถล ผ่
27 - ว่าที่แม่ยายกับลูกเขยดวงฤทัยลงจากรถของเหนือหัวหน้าคุ้มเจ้าจอมอินหลังจากนั้นผ่านไปอีกหลายวัน หน้าเง้างอนเพราะพ่อเลี้ยงหนุ่มกักเธอไว้ไม่ยอมมาส่ง แถมยังทำแบบนั้นซ้ำอีกจนกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต แต่จบท้ายเป็นต้องลงเอยบนเตียงทุกที“คุณด๋วงปิ๊กเฮือนแล้ว”เสียงแม่อุ๊ยคำตะโกนดีใจวิ่งอย่างหญิงชราออกมาพร้อมกับหลิน สีหน้าเป็นกังวลลูบเนื้อลูบตัว"คุณดวงไม่อยู่ แม่อุ๊ยเป็นห่วงมากค่ะเลยโทรไปหาคุณดวงใจ”“แล้วแม่ว่าอะไรบ้าง”ทั้งหมดพูดไปพรางเดินขึ้นเรือน“แม่จะไปว่าอะไรได้ ได้แต่นั่งรอลูกสาวอยู่ที่นี่”เสียงนุ่มของดวงใจดังลงมาจากบนเรือนก่อนที่ดวงหน้าหวานคล้ายกับเธอจะโผล่ชะโงกออกมา ดวงฤทัยถึงกับสะดุ้งสุดตัวอย่างเด็กที่ทำความผิด“แม่!!”“แน่ล่ะ นี่แม่เอง ดวงหายไปไหนมา ทำเอาทุกคนเป็นห่วง”สาวร่างเล็กเดินขึ้นเรือนกวักมือไล่ให้แม่อุ๊ยและหลินลงจากเรือนไปก่อน“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณแม่”เธอรีบเข้าไปใกล้จูงมือแม่ดวงใจไปนั่งที่โต๊ะรับแขกเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ยิ้มแห้งอย่างสำนึกผิด“ไม่มีอะไร! แต่จากที่แม่อุ๊ยเล่าให้ฟังมีคนอุ้มลูกสาวของแม่ลงจากเรือนไป นี่แม่รีบมาเลยตั้งแต่วันนั้น แต่ไร้วี่แวว ไร้ข่าวจนแม่เกือบจ
28 - ตาแก่ เจ้ายิ่งข่าวลือสะพัดไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเมื่อคนในบ้านของพ่อเลี้ยงเหนือหัวพูดคุยถึงดวงฤทัยว่ามักมาหาพ่อเลี้ยงในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เป็นประจำเกือบสองเดือนแล้วแม้ว่าบ้านชานเมืองของพ่อเลี้ยงเองอยู่ห่างไกลจากเมือง แต่คนในบ้านบางคนยังอาศัยและเติบโตขึ้นในพื้นที่ รู้จักพ่อเลี้ยงนฤนารทและแม่เลี้ยงดวงฤทัยดี เคยเห็นหน้าเห็นตายามทั้งคู่ออกงานอย่างสม่ำเสมอในยามที่พ่อเลี้ยงมีชีวิตอยู่“เจ้ายิ่งครับ ตอนนี้มีข่าวลือหนาหูกันเรื่องเจ้าเหนือหัว”ชายชราเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นแบบรูปเล่มไม่ใหญ่นักที่มักตีพิมพ์ออกมาในช่วงต้นเดือน บอกเล่าข่าวคราวประจำเดือนของเมืองรวมไปถึงธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีโฆษณามากไปเสียหน่อย เขาให้คนไปหามาเพราะอยากรู้ว่ามีข่าวเรื่องหลานชายของเขาบ้างหรือเปล่า ซึ่งในช่วงหลัง ๆ มานี้แทบไม่มีเลย“เรื่องอะไร?”มือเหี่ยวย่นปิดหนังสือพิมพ์เอนกายบนเก้าอี้หวายแบบเอนหลังได้ขาโค้งครึ่งวงกลมจนสามารถเอนกายเป็นเก้าอี้นอนได้ในคราวเดียวกัน“เจ้ามีแฟนแล้วครับ”“ฮะ!! ใครกัน ใครกัน”อารามตื่นเต้นทำให้ชายชราดีดตัวลุกขึ้นจ้องไปยังชายรับใช้คนสนิทที่เป็นดั่งเลขานุการส่วนต
29 - สัญญาบ้านหลังใหญ่อย่างคฤหาสน์ของพ่อเลี้ยงเมืองเหนือปรากฎตรงหน้าเจ้ายิ่ง ดูโอ่อ่าสมมหาเศรษฐีแต่ไร้ซึ่งรสนิยมด้วยสีสันและรูปทรงแบบสมัยใหม่ผสมผสานยุโรป ดั่งต้องการประกาศอวดความร่ำรวยที่ตนมีเจ้ายิ่งลงจากรถตรงชานบันไดกว้างใหญ่ยาวประมาณยี่สิบคนยืนต่อกันยังมีที่เหลือเฟือ ก้าวขึ้นบันไดหินแกรนิตนำเข้าจากอินเดีย“เชิญทางนี้ค่ะ”แม่บ้านแต่งตัวสมัยใหม่แต่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเชิญให้ชายชราเดินตามไปทางห้องนั่งเล่นของบ้านตกแต่งสไตล์ยุโปรตะวันตกโบราณด้วยผ้าม่านหนาหนักสีแดงเลือดหมูห้อยระย้าขลิบทอง และยังเก้าอี้สีเหลืองอีกจนเจ้ายิ่งมองแล้วเวียนนัยน์ตา“ประเดี๋ยวพ่อเลี้ยงจะมาค่ะ ท่านอยู่ในห้องทำงาน”“ขอบใจ”เสียงไว้ตัวของเจ้ายิ่งเอ่ยขึ้นมือกำไม้เท้าแน่น มองตรงไปข้างหน้าไม่วอกแวกเหลียวดูห้องที่ตกแต่งราคาแพงแต่ไร้รสนิยมจวบจนเวลาผ่านไปสักพักเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังมาตามโถงจึงทำให้เจ้ายิ่งเอี้ยวหน้าไปมอง เห็นชายหนุ่มสูงใหญ่หน้าตาดีเดินเข้ามา“สวัสดีครับเจ้ายิ่ง”เด็กหนุ่มกว่ายกมือไหว้อย่างรู้กาลเทศะพร้อมนั่งลงบนโซฟาใกล้กันตัวใหญ่ยาว มองหน้าเจ้ายิ่งแววตาสงสัย“สวัสดีพ่อเลี้ยงนฤเบศร์”“ท่านมาถึงบ้านผม
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ