37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ
“หนูดวง”
ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว
“คะ?”
“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”
“ค่ะ”
สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้น
บ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหาร
อาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก
“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”
ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ
“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”
“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”
“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”
“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”
ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงทุ้มและเสียงของจันทร์มาลาพูดคุยกันตลอดเวลา
“ครับ ไว้ใจไม่ได้ แต่ก็ต้องไว้ใจครับแม่ ถ้าจะโกงกินบ้างก็ช่างเถอะครับ มันไม่ได้มากมายเท่ากับที่เราขุดขึ้นมาได้”
“แล้วหุ้นส่วนอีกคนเขาว่ายังไงบ้าง”
“ก็ยังดีครับที่เขาจะคอยกันท่าไว้ให้ ผมคาดว่าคงลงทุนอีกไม่กี่ปีก็คงพอแล้วครับ”
“ดีลูก อ้อ แล้วจะกลับเมืองไทยเมื่อไร”
คราวนี้ดวงฤทัยอดใจไว้ไม่อยู่เงยหน้าขึ้นทันควันเอี้ยวหน้าหวานมองใบหน้าคมเข้มที่นิ่งเงียบไป ไม่เอ่ยตอบมารดา
“ผมอิ่มแล้วครับ”
“อ้าว อิ่มแล้วเหรอลูก ยังทานไม่เยอะเลย”
“พอแล้วครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ อยากพักผ่อน”
ร่างสูงขยับเลื่อนตัวออกห่างวงอาหารก่อนขยับคุกเข่าแล้วลุกขึ้นยืน เดินตรงไปยังห้องนอน
“หนูดวงไปดูพี่เขาสิ เขาคงเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ค่อยสะดวก ตรงนี้แม่จะเก็บเอง”
คนร่างน้อยวางช้อนลงเมื่อจันทร์มาลาเอ่ยเป็นเชิงอนุญาต เธอค่อยขยับถอยหลังคุกเข่าแล้วยืนขึ้นเดินตามร่างสูงที่หายลับเข้าห้องนอนไปก่อนหน้านี้แล้ว
แอ๊ดดด!! คลิก!
“ตามมาทำไม!”
น้ำเสียงห้วนสั้นปนหงุดหงิดเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังพยายามเอาผ้าคล้องแขนลง ดวงฤทัยไม่ตอบแต่กลับเดินเข้าไปใกล้อ้อมแขนขึ้นปลดผ้าคล้องลงมา
“พี่เหนือจะอาบน้ำใช่ไหมคะ”
เขายืนนิ่งขณะที่มือเล็กนวลใสจนเห็นเส้นเลือดช่วยปลดกระดุมหน้าเสื้อผ้าฝ้ายออกทีละเม็ด กลิ่นกายสาวหอมละมุนจนเลือดเริ่มสูบฉีด
มือน้อยค่อยปลดกระดุมจากรังผ้าเปิดออกจนเห็นแผ่นอกกว้าง จึงเดินอ้อมร่างสูงไปข้างหลังเลื่อนเสื้อออกจากแขนข้างดีก่อนแล้วค่อยดึงออกข้างที่บาดเจ็บ
เขายืนนิ่งชะงักงัน มือนุ่มกำลังเอื้อมลงปลดกระดุมกางเกงผ้ารูดซิปลงจนเขาต้องคว้ามือเธอไว้
“เดี๋ยว! พันผ้าเช็ดตัวก่อน”
ดวงฤทัยเงยหน้ามองอย่างสงสัย แต่เธอทำตามคำสั่ง เปิดตู้เสื้อผ้าในห้องหยิบผ้าเช็ดตัวซักแล้วผืนใหญ่นำมาพันกายของเหนือหัว จึงค่อยดึงกางเกงลงจากลำตัวกระทั่งเขายกเท้าออก จึงรวบใส่ตะกร้าหน้าห้องน้ำ
“แล้วกางเกงบ็อกเซอร์ละคะ”
เหนือหัวถลึงตาจ้องแรงไปยังสาวน้อยที่ถามออกมาอย่างใสซื่อ ถ้าขืนให้เธอถอดบ็อกเซอร์มีหวังมังกรน้อยดีดแข็งโด่ใส่หน้าเธอแน่
“เดี๋ยวพี่ถอดเอง”
จากนั้นจึงก้าวเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ดวงฤทัยยืนหน้าแดงก่ำขัดเขิน เพราะรู้ดีว่าเพราะอะไรเขาถึงห้ามไม่ให้เธอถอดกางเกงชั้นใน
เสียงน้ำในห้องน้ำดังขึ้นหลังจากนั้น ร่างเล็กหมุนตัวไปเตรียมเสื้อผ้าสำหรับใส่นอนง่าย ๆ ปกติเขามักไม่สวมอะไรนอนยกเว้นบ็อกเซอร์ตัวเดียว แต่อากาศบนเขาค่อนข้างเย็นในรุ่งเช้า ควรสวมเสื้อผ้านอนจะเหมาะกว่า
เธอเห็นประตูเปิดออกแล้วร่างสูงเปียกน้ำก็ก้าวออกมา เขาสลัดศีรษะไล่น้ำจนเธอต้องรีบหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเดินไปหา
“ดวงทำให้ค่ะ”
มือน้อยค่อยใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมเบามือช้า ๆ กระทั่งหมาด ด้วยตัวที่เล็กกว่าทำให้เธอต้องเงื้อมมือขึ้นสูง หน้าอกอวบอิ่มพุ่งขึ้นใกล้อกแกร่งห่างเพียงแค่นิดเดียว
เหนือหัวก้มศีรษะลงมองลอดผ้าเช็ดตัวลำแขนไปยังทรวงอกขยับไหวตามจังหวะออกแรงของดวงฤทัย เอ็นใหญ่ด้านล่างขยับตามทันทีแข็งจนปวดร้าว
“พอแล้ว!!”
มือเล็กชะงักหยุด ถอยหลังนำผ้าไปแขวนเรียบร้อยจึงกลับมาพร้อมเสื้อผ้า
ถ้าการถอดเสื้อผ้าก่อนอาบน้ำนั้นแสนทรมานแล้วล่ะก็ การสวมเสื้อผ้ายิ่งทรมานมากกว่า เมื่อร่างบอบบางของดวงฤทัยคุกเข่าลงด้านหน้า ก้มศีรษะให้เขาก้าวเข้าไปในขากางเกง ขณะที่เธอกำลังเลื่อนกางเกงขึ้นมา ใบหน้างามแหงนเงยจนสบตาเขาผ่านท่อนชายกายแกร่งผงาดง้ำ แม้แต่ผ้าเช็ดตัวเองก็ปิดไม่มิดนูนโป่งพอง
ดวงหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นแต่ไม่หยุดมือ เธอเลื่อนกางเกงนอนแบบยางยืดขึ้นจนสุดแล้วรับผ้าเช็ดตัวจากเขามาถือไว้ หยิบเสื้อผ้าฝ้ายสวมเข้าด้านแขนที่บาดเจ็บก่อน อ้อมไปด้านหลังจากนั้นแขนด้านดีของเหนือหัวก็สอดเข้าไปในแขนเสื้อ มือเล็กรีบกลัดกระดุมหน้ามือสั่นเล็กน้อย ไอร้อนจากอกแกร่งอยู่ใกล้จนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเหนือหัวเต้นแรง
“ดวงขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ชายร่างสูงยังเงียบค่อยนั่งลงบนเตียงมองสาวร่างเล็กเดินไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบของออกมาแล้วตั้งท่าเดินไปห้องน้ำเดียวกับเขา
“เดี๋ยวก่อน! ทำไมดวงอาบน้ำที่นี่”
ดวงฤทัยหยุดกึกหน้าห้องน้ำขณะที่กำลังเงื้อมมือจับลูกบิด เอี้ยวหน้ากลับไปมอง
“ก็ดวงนอนที่ห้องนี้นี่คะ”
เหนือหัวเกร็งร่างขึ้นทันทีหลังจากเสียงนุ่มอ่อนหวานตอบคำถาม ขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง หัวใจยิ่งเต้นแรงกว่าเดิม ตาคมเข้มหรี่เล็กลงมองร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไป
เขาจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไง!!
เสียงลมหายใจหนักหน่วงทำให้ดวงฤทัยรู้ว่าชายร่างสูงข้างกายเธอยังไม่หลับ
เธอขยับกายสาวเข้าไปหาอีก แม้ว่าจะนอนคนละผ้าห่มแต่ไออุ่นจากความร้อนของเหนือหัวแผ่กระจายมายังเธอจนรู้สึกได้ มือเล็กโอบตรงบั้นเอวใหญ่เปี่ยมมัดกล้าม
“พี่เหนือ”
“หยุดเลยดวง! เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ดวงควรกลับบ้านได้แล้ว”
“แต่ว่าพี่เหนือ ดวงรักพี่เหนือ”
“รักอย่างนั้นหรือ? ดวงแน่ใจหรือว่ารัก พี่ว่าดวงรักตัวเอง รักคุ้มบ้า ๆ นั่นมากกว่า”
“พี่เหนือ!”
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
บทนำความเนียนนุ่มของผืนผ้าซาตินสีเทาคงเทียบไม่ได้เลยกับความนุ่มเนียนของหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง มือใหญ่สีคล้ำวนเวียนลูบไล้ไปทั่วร่างอย่างไม่รู้เบื่อ ทั้งพรมจูบไปตามลาดไหล่สู่ร่องแผ่นหลังบอบบาง แวะชิมตรงเอวคอดเว้าก่อนเลยลงสะโพกผายเสียงครางพึมพำของคนร่างเล็กกว่ากระเส่าเร่าร้อนจนกายชายลุกโชน เหนือหัวยังคงบรรจงสำรวจกายสาวอันงดงามนวลลออเขาค่อยสุมไฟรักเพลิงปรารถนาทีละน้อยจนกระทั่งโหมแรง จึงเคลื่อนกายขึ้นด้านบนกอดก่ายร่างบางด้านหลัง ให้อกแกร่งสัมผัสความอ่อนนุ่มที่แสนอ่อนไหวจนสาวใต้ร่างร้องลั่นเสียงทุ้มเอ่ยเว้าวอนอ่อนหวาน แต่ด้านล่างกลับตรงข้ามเมื่อแรงปรารถนาพุ่งทะยานจนยากควบคุม เขาควบขับ กระหน่ำร่างเล็กไม่ผ่อนปรน กายสาวที่เขากอดไว้แน่นสั่นสะท้านเหงื่อของทั้งคู่ผลุดทั่วร่างท่ามกลางอากาศเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศ ร้อนวูบวาบช่องท้อง อาการใกล้สุขสมกำลังเกิดขึ้น เหนือหัวกดร่างเธอแน่นครางต่ำในลำคอ ชีพจรเต้นรัวหน้าแกร่งแดงก่ำ“ดวง!”เฮือก!!ดวงหน้าคมเข้มอย่างหนุ่มลูกเสี้ยวไทใหญ่ลืมตาขึ้นเบิกกว้าง ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงใหญ่หนานุ่มในโรงแรมแห่งใหม่ที่เขาเพิ่งเทคโอเวอร์มาจากชนชั้นสูงของเมืองนี้ฝัน!!
บทนำ 2บ้านหลังนี้หรือคุ้มเจ้าจอมอิน เดิมทีเป็นคุ้มเล็กหรือบ้านเล็กของเจ้าหลวงแห่งคุ้มเวียงอิน แต่เมื่อแม่ของเธอที่จากเดิมเป็นหญิงรับใช้ในบ้านคุ้มเวียงอิน เป็นแม่หญิงงามมากจนเกิดต้องตาเข้ากับคุณพ่อคือ ชุมแสง อินราชา ลูกชายเพียงคนเดียวของคุ้มเวียงอิน จึงได้ยกแม่ของเธอขึ้นเป็นภรรยาน้อย จากนั้นทั้งคุณยายและแม่ของเธอก็ได้มาอาศัยอยู่ที่เรือนเจ้าจอมอินแห่งนี้คุ้มเจ้าจอมอินเป็นเรือนไทยล้านนาเก่าแก่ สร้างจากไม้สักหลังไม่ใหญ่มากนักขนาดห้องนอนแค่สามห้องและมีโถงกลาง ลักษณะบ้านคล้ายบ้านแฝด แบ่งอีกฟากเป็นเรือนนอนและอีกฟากเรือนรับรอง ยกใต้ถุนสูงโดยส่วนใต้ถุนต่อเติมออกมาเป็นห้องครัวแบบสมัยใหม่ดวงฤทัยค่อยเปิดประตูไม้แบบขัดโบราณเข้าไปในห้องนอนเล็กเยื้องมาด้านหน้าบ้าน ความสะดวกสบายของห้องนี้คงจะมีเพียงอย่างเดียวคือเครื่องปรับอากาศ เพราะนอกนั้นเป็นเครื่องเรือนดั้งเดิมทั้งสิ้นรวมถึงเตียงไม้สี่เสาสาวร่างเล็กนั่งลงชันเข่ากับพื้นเรือนหน้ากระจกเครื่องแป้งโบราณ บานไม้สักสลักลวดลายดอกบัว มีลิ้นชักใส่ของกระจุกกระจิก แต่เพราะเก่าแก่สีไม้จึงได้ซีดเซียวลงบ้างตามกาลเวลา เธอใช้กระจกบานนี้มาเนิ่นนานจนเคยชิน และพบว
บทนำ 3ดวงฤทัยพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ไม่พ้น โคมขนาดย่อมในมือกำลังจะหล่นจากมือเพราะแรงกระแทก หากแต่มีมือแข็งแรงคู่หนึ่งช่วยจับประคองโคมผัดของเธอไว้ได้ทัน“หลบมาทางนี้ดีกว่า”เธอรีบเดินตามชายหนุ่มคนที่ช่วยประคองโคมของเธอไว้ได้ และตอนนี้เขาอุ้มโคมผัดแทนเธอพาเดินเลี่ยงออกไปด้านข้าง ดวงฤทัยรีบเร่งเท้าตามด้วยกลัวว่าโคมจะโดนขโมยจึงไม่ทันเรียกเพื่อน กระทั่งหลุดพ้นออกมาจากคลื่นมนุษย์เขาจึงได้หันกลับมา“ขอโคมคืนด้วยค่ะ”ดวงฤทัยรีบยื่นมือออกไปเพื่อดึงโคมกลับมาหากแต่มือแข็งแรงยังจับไว้แน่นเกิดการยื้อกันเล็กน้อย“ไม่เห็นได้ยินคำขอบคุณสักคำเลย”“ขอบคุณ”เสียงหวานกระชากตอบแต่ไม่แรงมากนัก แล้วดึงโคมผัดกลับมาเป็นของตัวเองจนได้ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่แม้ว่ากำลังยิ้มกว้างแต่ไม่ได้ทำให้ใบหน้าคมเข้มแกร่งดูอ่อนละมุนลงเลยดวงหน้าของคนร่างสูงคางเหลี่ยมคมเข้ม สีผิวคล้ำกว่าคนเมืองทั่วไปแม้ว่าดวงหน้าดูเป็นคนเหนือ แต่ความแปลกคงเป็นคิ้วเข้มเฉียงขึ้นและดวงตาคมกล้าบอกถึงความมุ่งมั่นและแข็งกร้าวกายชายสูงใหญ่ตึงแน่นจากเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกระดุมผ้าผ่าหน้าคอจีนแบบชุดถังจวง[1]ที่คนส่วนใหญ่สวมใส่กันในวันนี้ กางเกงยีนส์สีเข
1 – เหนือหัว ร่างสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปยืนนิ่งอยู่บนชานบ้านเรือนไทยหลังใหญ่อายุราวร้อยปี เก่าแก่และทรุดโทรม คุ้มเวียงอินในตอนนี้หลังจากที่ชุมแสง อินราชาลาโลกไปด้วยโรคหัวใจเฉียบพลัน ก็เหมือนดั่งกับบ้านขาดร่มโพธิ์ร่มไทรภรรยาและบรรดาลูกชายลูกสาวไร้ความสามารถหาเงินเข้าบ้านเนื่องจากการเลี้ยงดูแบบเก่าโบราณ เจ้ายศเจ้าอย่าง หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าเป็นพวกไม่ทำการทำงาน เก็บกินของเก่ามรดกตกทอดจนแทบไม่เหลือดวงตาคมกล้าเพ่งมองยังลานสนามหญ้ากว้างใหญ่ของคุ้มที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภาพในหัววางแผนไว้แล้วว่าจะปรับปรุงให้เป็นบูติกโฮเท็ลอย่างไรบ้าง“ป้อเลี้ยงเจ้า”เขาเอี้ยวหน้าคมแกร่งมองเลขานุการส่วนตัว สาวสวยหน้าตาดี ฉลาดหลักแหลมรู้ใจเขาทุกเรื่อง“ว่ามา”“เรื่องที่ให้ไปสืบมาเจ้า ได้ความว่าคุณดวงฤทัยตอนนี้เป็นหม้ายจริงแล้วเจ้า พ่อเลี้ยงนฤนาทเสียได้ยังไม่ถึงปีดี ทิ้งมรดกให้ไว้อย่างเดียวคือฟาร์มหม่อนไหมและดูเหมือนกิจการก็ไม่ดีเท่าไรนักเจ้า”หน้าเรียบเฉยเมื่อได้ฟังมีเพียงคิ้วเข้มด้านซ้ายเท่านั้นที่โก่งขึ้น จับใจความถ้อยคำภาษาพื้นเมืองแบบผิด ๆ ถูก ๆ ปนไทยกลางซึ่งถึงตอนนี้เขาเริ่มชินเสียแล้ว เลขานุการสาวสวยเป็น
2 – แม่เลี้ยงดวงฤทัย สินธุเจริญพาณิชเสียงทุ้มต่ำอย่างชายสูงวัยของผู้ใหญ่บ้านดังลอดมาถึงโถงทางเดินของบ้านยกสูง ซึ่งตอนนี้ดัดแปลงชั้นล่างเป็นห้องรับแขกและห้องทานอาหาร ดวงฤทัยพาร่างบอบบางในชุดกางเกงทำงานผ้าสีเข้มเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อน ซึ่งเป็นชุดที่เธอใส่ทำงานปกติที่หม่อนไหม ลงบันไดไม้สักลงสีทองเนื้อมัน“สวัสดีค่ะผู้ใหญ่พราน ไม่ทราบมาแต่เช้ามีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ”“คุณดวง”ผู้ใหญ่บ้านห้วยแตงลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นดวงฤทัยเดินลงมาจากบ้าน ก่อนนั่งลงอีกครั้งเมื่อเธอหย่อนร่างลงบนเก้าอี้ไม้มะค่าตัวยาวตรงข้ามกับผู้ใหญ่บ้าน“อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องด่วนอะไรหรอกครับ แต่ผมต้องเข้าเมืองไปประชุมผู้ใหญ่บ้านเลยแวะมาหาคุณดวงเสียก่อน เรื่องงานยี่เป็งปีนี้”“งานยี่เป็ง มีอะไรหรือเปล่าคะ?”“ปีนี้เป็นปีแรกที่คุณดวงได้เข้ามาดูแลฟาร์มหม่อนไหมสินธุ อาจไม่ทราบว่าทุกปีพ่อเลี้ยงนฤนารทจะเป็นพ่องานแห่โคมยี่เป็งร่วมกับทางจังหวัดครับ”“อ้อ ดวงก็นึกว่าเรื่องอะไรค่ะ ดวงไม่ทราบมาก่อนเหมือนกัน แล้วนี่ดวงต้องทำอะไรบ้างคะ”“ตามปกติพ่อเลี้ยงเขาจะจัดการเองทั้งหมดครับ แต่ปีนี้ผมคิดว่าอยากดึงกลับไปให้ทางหมู่บ้านทำเองจะดีกว่า แล้วใ
3 - เจ้ายิ่ง“เจ้ายิ่งครับ เจ้าเหนือหัวมาครับ”ชายชราวัยเกือบเจ็ดสิบแต่ยังแข็งแรงแทบกระเด้งตัวลุกออกจากเก้าอี้ไม้เพื่อลงไปต้อนรับหลานชายเพียงคนเดียว ที่ได้เจอหน้านับครั้งได้ตั้งแต่กลับมารู้จักกัน แต่ต้องชะงักตัวหยุดไว้ก่อนเพราะไม่งั้นจะดูเสียหน้าจนเกินงาม คิดได้ดังนั้นจึงนั่งลงตามเดิมรอจนหลานชายเดินมาหาแทนคนชรานั่งอมยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อนึกถึงหลานชายเพียงคนเดียว ทายาทสืบสายสกุล เหนือหัวเป็นคนร่างสูงใหญ่สมเป็นลูกหลานของตระกูลเมืองวงศ์สิงห์นับสืบเชื้อสายได้จากแม่ทัพหัวเมือง ผิวเข้มผิดไปจากคนเมืองเหนือ หากแต่ใบหน้ากลับมีเค้าของฝ่ายแม่ซึ่งเป็นขาวไทใหญ่รัฐฉานเหนือหัวเดินขึ้นบันไดเรือนคุ้มเจ้ายิ่งเมือง ซึ่งแทบจะเหลือเป็นคุ้มสุดท้ายที่ยังเหลือมีคนอาศัยอยู่ เพราะปัจจุบันถ้าไม่เป็นศูนย์อนุรักษ์ก็ขายให้กับพวกนายทุนเพื่อทำโรงแรม อย่างที่เขากำลังกว้านซื้ออยู่หลายคุ้มดวงตาคมกล้าสีนิลเพ่งมองชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มะค่าลงรัก[1]ทองตัวใหญ่กลางเรือน มือหนึ่งจับหัวไม้เท้าทำจากไม้สักฉลุลายปลายหัวเป็นเงินแท้ตั้งตรงลงบนพื้นเรือนไม้สักทั้งหลังเขาเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวถัดมาดวงตาคมกล้า
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ