บทพิเศษ
สามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
ตุบ ตุบ!
ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนา
ร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา
“ดวง ดวง”
ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวัน
แอ๊ดดด!!
ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว
“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”
“เอาขนมมาให้”
“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”
ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้
“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”
“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล้ว!!”
“นี่ โรตี”
“ใครสั่งใครสอนให้ซื้อโรตีมาฝากผู้หญิงตอนกลางดึกกัน”
“อ้าว ก็เผื่อดวงหิว ไม่งั้นก็เก็บไว้กินพรุ่งนี้เช้าก่อนไปเรียนก็ได้”
ดวงฤทัยยื่นมือออกไปรับ เหนือหัวได้ทีขณะที่ทำท่าส่งขนมให้กลับจับมือเล็กขึ้นมาจูบลงกลางฝ่ามือ สาวน้อยร่างบางตาโตชักมือกลับหน้าแดงก่ำ มองไปรอบ ๆ กลัวคนแถวบ้านมาเห็น โดยเฉพาะบ้านใหญ่ที่รั้วติดกัน
“นี่หยุดนะ!!”
“พี่คิดถึงดวง ดวงคิดถึงพี่ไหม”
“ไม่! กลับไปได้แล้ว”
เธอชักมือกลับมาได้ในที่สุด เบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนกำยำที่ขวางเธอไว้แต่แรก เอี้ยวหน้ากลับมามองหน้าคมเข้มที่ยืนยิ้มกว้าง
“พรุ่งนี้พี่จะมาใหม่นะ”
“ไม่ต้องมาแล้วคนบ้า!!”
ดวงฤทัยกลับมายืนในรั้วบ้านอีกรั้ง ร่างเล็กยืนพิงประตูรั้วใจเต้นโครมคราม ยิ้มมุมปาก ยกมือข้างที่เหนือหัวจูบขึ้นมามอง
“ก๊อก ก๊อก! ขึ้นบ้านนอนได้แล้วคนสวย อย่าลืมฝันถึงพี่นะ”
ร่างบางสะดุ้งเฮือก สะบัดหน้าแดงซ่านวิ่งขึ้นบันได ในมือยังหอบถุงโรตีอุ่นร้อนไว้แนบอก
ตุบ ตุบ!
“ดวง ดวง”
ดวงฤทัยแกล้งปิดไฟนอนนิ่ง ตะแคงตัวไปทางหน้าบ้านนอนฟังเสียงเหนือหัวที่โยนก้อนหินมายังผนังบ้าน เสียงทุ้มเริ่มดังขึ้นแต่เธอไม่สนใจ เมื่อวานนี้เขาทำเธอใจเต้นแรงจนเธอหวาดหวั่น
ตุบ ตุบ!
เสียงโยนก้อนหินดังขึ้นอีกสองครั้งก่อนเงียบไป สักพักดวงฤทัยจึงตัดสินใจแอ้มหน้าต่างออกดู
“ดวง ลงมาก่อนมีของจะให้”
เธอสะดุ้งหันไปด้านหลังดูประตูห้องนอน กลัวว่าคุณแม่จะได้ยิน แต่ที่โถงกลางยังเงียบ จึงตัดสินใจลงไปหาเขา ดวงฤทัยสัญญากลับตัวเองว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะลงมาเจอชายหนุ่มจอมตื้อ
แอ๊ดดดด!!
“มีอะไร อุ๊ย!”
ครั้งนี้เป็นเขาที่แทรกตัวเข้ามาในรั้วดันจนเธอหลบฉากไปใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างรั้วพ้นสายตาของคนในบ้าน ดันช่อดอกไม้ใหญ่ไปยังกลางหน้าอกหญิงสาว
“ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู ชอบไหม”
ดวงฤทัยก้มมองช่อดอกไม้ในมือช่อใหญ่และหนัก
“ไม่เห็นจะสวย!!”
“อะไรกัน นี่คัดพิเศษหายากนะ พี่เห็นแล้วคิดถึงน้องดวงทันที”
“ฮึ ไม่สวยหรอก แต่รับไปงั้นล่ะกลัวเสียน้ำใจ”
“อ่อ”
“กลับได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ ขอรางวัลก่อน”
“รางวัลอะไร?”
เหนือหัวได้ทีจับช่อดอกไม้ขึ้นจนเธอเอี้ยวตัวตามเลยตกอยู่ในอ้อมกอดของคนร่างสูงกว่า เขาโน้มหน้าลงมาหอมแก้มนวลเปล่งปลั่งนุ่มนิ่ม
ฟอดดดด!!
“ชื่นใจแล้ว คืนนี้ฝันถึงพี่นะคนสวย”
“บ้า!! พี่เหนือบ้า รีบกลับไปเลย”
ดวงฤทัยดันร่างแกร่งจนกระทั่งออกไปนอกรั้วแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดบ้านในมือถือช่อดอกไม้ใหญ่หนักไว้ หาเชือกงานฝีมือผูกปลายช่อจับแขวนคว่ำหัวไว้ริมผนังห้องที่เป็นไม้ อีกหน่อยช่อนี้จะเป็นช่อดอกไม้แห้งจะได้เก็บไว้ได้นาน ๆ
ตุบ ตุบ!!
เสียงโยนก้อนหินดังขึ้นในกลางดึกเหมือนเคยหลังจากที่เหนือหัวหายไปเกือบอาทิตย์ ดวงฤทัยแกล้งนอนนิ่ง หน้าง้ำงอ
เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ดีเอาเสียเลย เหนือหัวทำให้เธอนั่งคิดถึงเขาตลอดเวลา ทั้งในเวลาเรียนด้วยซ้ำ บางวันเธอถึงขนาดเผลอเรียกชื่อเขาตอนที่อยู่กับพี่กานต์พี่ชายของแก้วนภา
พอตกกลางคืนเธอยังฝันเห็นแต่หน้าเขาลอยไปมา และบางวันฝันก็เริ่มลามก เธอไม่ชอบมันอย่างยิ่ง
“ดวง ดวง พี่มีของจะให้”
เหมือนเดิม เขามักจะเอาของมาล่อแล้วให้เธอเปิดประตู แต่วันนี้เธอจะไม่ยอมทำตาม ดวงฤทัยยกมือปิดหูมุดผ้าห่ม แต่เสียงโยนก้อนหินยังดังไม่หยุดกระทั่งเธอสะดุ้งอีกครั้งเพราะเสียงมือเคาะหน้าต่าง
ดวงฤทัยรีบทะลึ่งตัวลุกพรวดลงจากเตียงตรงไปเปิดหน้าต่าง คนร่างสูงยืนอยู่บนกิ่งไม้ที่โน้มลงตรงหน้าต่างห้องเธอพอดี
“จะบ้าหรือไง!!”
พรวด!! ตุบ!!
ร่างบางถอยหลังกรูดเพราะตอนนี้เหนือหัวได้กระโดดลงมาในห้องเธอเสียแล้ว
“ก็ไม่เห็นตอบเลยกลัวว่าน้องดวงจะป่วย พี่ซื้อมาฝากจากพม่า”
เธอรีบยื่นมือออกมารับเมื่อเห็นเหนือหัวทำท่าจะโยนใส่ แต่เปล่าเลย หน้าคมเข้มยิ้มกว้างทำท่าแกล้งโยนแต่แท้จริงเขาเดินเข้ามาใกล้ยื่นของในมือลงบนฝ่ามือเล็ก
ดวงฤทัยมองกล่องกำมะหยี่เล็กแล้วเหลือบตามองชายหนุ่มอย่างสงสัย
“เปิดออกดูสิ”
แสงแวววาวของแหวนหยกเนื้อดีวางอยู่ในกล่อง ดวงฤทัยรีบปิดกล่องทันทียื่นตรงไปข้างหน้าส่งคืน
“ไม่อ่ะ มันมากเกินไป ดวงไม่รับ”
“ทำไมล่ะ พี่อยากให้ ลองใส่ดูไหม”
ดวงฤทัยส่ายหน้ารัวจนผมยาวสะบัดไปมา เธอจับมือใหญ่ขึ้นมาแล้ววางกล่องสีแดงลงกลางฝ่ามือใหญ่
“เอาไว้ก่อน ไว้ถ้าพี่เหนือสามารถทำให้ดวงชอบพี่ได้ วันนั้นค่อยให้ดวงแล้วกัน”
เขากำมือเธอพร้อมกับกล่องยิ้มกว้าง
“แต่ดวงชอบพี่แล้วนี่นา”
“ใครบอก!! คิดเองเออเอง กลับไปได้แล้วดึกแล้วดวงจะนอน”
“ถ้ายังไม่รับตอนนี้ก็ได้ แต่ว่า..”
ดวงฤทัยไม่ทันตั้งตัวร่างบางถูกคนร่างใหญ่สูงกว่าดึงจนตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่น ใบหน้าคมโน้มลง
“พี่ขอจูบแทนแล้วกัน”
“อย่านะ!! หยุด ..อื้อ อื้อ”
สาวน้อยวัยใสตกตะลึงเมื่อเธอเสียจูบแรกให้กับเหนือหัว แม้ว่าอ้อมแขนกำยำจะรัดแน่นแต่สัมผัสที่ริมฝีปากกลับอ่อนละมุนนุ่มนวล เขาค่อยประกบแผ่วเบาเชื่องช้าแล้วใช้มือประคองดวงหน้างามของดวงฤทัยไว้
จังหวะจุมพิตเริ่มทวีความร้อนแรงขึ้นเมื่อลิ้นสากสอดเข้าโพรงปากสำรวจเนิบนาบ แล้วจึงค่อยถอยออกจูบทีละนิดอีกครั้ง และอีกครั้ง
“อื้อพอแล้ว”
เหนือหัวซบหน้าลงหน้าผากดวงฤทัย ผ่อนจังหวะลมหายใจสงบสติอารมณ์แล้วค่อยคลายอ้อมแขน
“งั้นพี่จะเก็บแหวนไว้ก่อน รอวันที่ดวงพร้อมจะรับ”
ดวงฤทัยพูดไม่ออกแล้วตอนนี้ ได้แต่พยักหน้ารับซบหน้าลงกลางอก เสียงหัวใจเหนือหัวเต้นแรงเช่นเดียวกับเธอ ท่ามกลางแสงสลัวในห้องนอนที่มีเพียงแสงจากโคมไฟถนนสาดส่องเข้ามา
แล้วจากวันนั้นเขาก็มา ๆ หาย ๆ จนในที่สุดเหนือหัวก็ไม่กลับมาอีกเลยหลังจากเข้าเดือนที่สี่
หลังจากสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
“แสงทัด”
เสียงชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าสั่นเล็กน้อยอย่างที่แสงทัดเองไม่เคยได้ยินมาก่อน เขามองเหนือหัวที่เพิ่งมาจากประเทศไทย มาถึงโรงพยาบาลในเขตรัฐฉาน
“เกิดอะไรขึ้น”
เหนือหัวยังเอ่ยถามเมื่อมองไปโดยรอบและไม่มีใครยอมพูดอะไร จึงหันกลับไปถามแสงทัด เพื่อนและบอดี้การ์ดที่สนิทกับเขามาตั้งแต่เด็ก
“เจ้าศิรพงษ์เข้าไปในหมู่บ้านหลังเขาอย่างเคย แต่ว่า..”
“หลังเขาไหน ใช่เขาลูกที่อยู่ถัดเข้าไปเลยหมู่บ้าน ใช่หมู่บ้านที่ต้องเดินเท้าสามวันหรือเปล่า”
แสงทัดพยักหน้ารับ ก้มหน้านิ่งไม่อยากจะพูดต่อ เหนือหัวเดินเข้าไปหาใช้มือเขย่าไหล่ของแสงทัดอย่างแรง
“พูดสิ พูด!”
“เหนือ!!”
เสียงมารดาสั่นเครือยามมองลูกชายกำลังเขย่าร่างแสงทัดบังคับให้บอดี้การ์ดเล่าให้ฟัง
“เหนือฟังแม่นะ พ่อเขาอยากช่วยเหลือคน แล้วหมู่บ้านนั่นต้องการหมอ”
“แต่แม่ แม่ก็รู้ว่าไอ้หมู่บ้านนั่นมันไกลเกินไปที่พ่อจะไปเสี่ยง”
เหนือหัวปล่อยมือจากไหล่แสงทัดหันตัวกลับมายังมารดา น้ำเสียงทุ้มแฝงอารมณ์โกรธ
“แต่มันเป็นความฝันของพ่อ เป็นหน้าที่ของพ่อ เมื่ออาทิตย์ก่อนมีคนในหมู่บ้านเดินเท้าออกมาแล้วตรงไปยังพ่อ มีคนป่วยที่ต้องการหมอและพวกเขาไม่สามารถพาออกมาได้”
“แม่เลยปล่อยพ่อไปอย่างนั้นเหรอ!!”
“พ่อต้องไปนะเหนือ มันเป็นหน้าที่ เหนือเองก็รู้จักพ่อดีว่าเขามักช่วยเหลือคนเสมอก่อนตัวเอง”
“แล้วยังไงครับ จากนั้นพ่อก็ติดเชื้อไข้ป่ากระทั่งกลับออกมาไม่ทัน นี่ถ้าเราไม่ส่งคนเข้าไปรับพ่อ พ่อคงต้องออกมาทั้ง ๆ ที่ไม่มีลมหายใจ”
“เหนือ!!”
เหนือหัวสะบัดหน้าออกให้พ้นหน้างดงามของมารดา แม่ของเขาจันทร์มาลาเป็นคนไทใหญ่ของรัฐฉาน ส่วนพ่อของเขาเป็นแพทย์อาสา มักช่วยเหลือชาวบ้านตามหุบเขา กระทั่งอาสามารัฐฉานพร้อมหน่วยงานจึงได้เจอและรักกับมารดา แต่ปู่ของเขายอมรับไม่ได้แม้ว่าจันทร์มาลาจะสืบเชื้อสายเจ้าครองนครแต่นั่นมันก็นานหลายร้อยปีมาแล้ว ในปัจจุบันมารดาของเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา พ่อของเขาจึงหอบเมียจากมาตั้งรกรากยังรัฐฉาน
“ผมขอโทษครับแม่ ผมเครียดมากเกินไป แล้วหมอว่ายังไงบ้างครับ”
“ตอนนี้พวกหมอพยายามเต็มที่”
เหนือหัวสะท้านกาย คำว่าพยายามเต็มที่นั่นหมายความว่าเปอร์เซ็นการรอดชีวิตก็คงน้อยลง เขาเร่งรีบกลับจากเมืองไทยหลังจากที่แสงทัดส่งข่าว
เขามองเข้าไปในห้องไอซียูผ่านช่องกระจกหน้าต่าง สายระโยงระยางอยู่รอบตัวพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นเจ้าศิรพงษ์ เมืองวงศ์สิงห์พ่อของเขา ความวุ่นวายของงานพิธีศพ และการกลับไปหาปู่เพื่อแจ้งข่าวร้าย ปู่แทบทำใจไม่ได้จนเกือบล้ม ถึงแม้ว่าเขาไม่อยากจะใส่ใจแต่ยังไงผู้ชายคนนั้นก็เป็นปู่ เป็นเจ้ายิ่ง เมืองวงศ์สิงห์
กระทั่งจบเรื่อง สาวน้อยชื่อดวง หญิงสาวที่เขาพบในคืนวันยี่เป็ง สาวสวยคุ้มเจ้าจอมอินก็แต่งงานออกเรือนไปกับเศรษฐีของเมือง พ่อเลี้ยงนฤนารท สินธุเจริญพาณิช และวันนั้นก็เป็นวันที่เขาค้นพบว่าอาการอกหักมันเป็นยังไง
บทนำความเนียนนุ่มของผืนผ้าซาตินสีเทาคงเทียบไม่ได้เลยกับความนุ่มเนียนของหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง มือใหญ่สีคล้ำวนเวียนลูบไล้ไปทั่วร่างอย่างไม่รู้เบื่อ ทั้งพรมจูบไปตามลาดไหล่สู่ร่องแผ่นหลังบอบบาง แวะชิมตรงเอวคอดเว้าก่อนเลยลงสะโพกผายเสียงครางพึมพำของคนร่างเล็กกว่ากระเส่าเร่าร้อนจนกายชายลุกโชน เหนือหัวยังคงบรรจงสำรวจกายสาวอันงดงามนวลลออเขาค่อยสุมไฟรักเพลิงปรารถนาทีละน้อยจนกระทั่งโหมแรง จึงเคลื่อนกายขึ้นด้านบนกอดก่ายร่างบางด้านหลัง ให้อกแกร่งสัมผัสความอ่อนนุ่มที่แสนอ่อนไหวจนสาวใต้ร่างร้องลั่นเสียงทุ้มเอ่ยเว้าวอนอ่อนหวาน แต่ด้านล่างกลับตรงข้ามเมื่อแรงปรารถนาพุ่งทะยานจนยากควบคุม เขาควบขับ กระหน่ำร่างเล็กไม่ผ่อนปรน กายสาวที่เขากอดไว้แน่นสั่นสะท้านเหงื่อของทั้งคู่ผลุดทั่วร่างท่ามกลางอากาศเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศ ร้อนวูบวาบช่องท้อง อาการใกล้สุขสมกำลังเกิดขึ้น เหนือหัวกดร่างเธอแน่นครางต่ำในลำคอ ชีพจรเต้นรัวหน้าแกร่งแดงก่ำ“ดวง!”เฮือก!!ดวงหน้าคมเข้มอย่างหนุ่มลูกเสี้ยวไทใหญ่ลืมตาขึ้นเบิกกว้าง ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงใหญ่หนานุ่มในโรงแรมแห่งใหม่ที่เขาเพิ่งเทคโอเวอร์มาจากชนชั้นสูงของเมืองนี้ฝัน!!
บทนำ 2บ้านหลังนี้หรือคุ้มเจ้าจอมอิน เดิมทีเป็นคุ้มเล็กหรือบ้านเล็กของเจ้าหลวงแห่งคุ้มเวียงอิน แต่เมื่อแม่ของเธอที่จากเดิมเป็นหญิงรับใช้ในบ้านคุ้มเวียงอิน เป็นแม่หญิงงามมากจนเกิดต้องตาเข้ากับคุณพ่อคือ ชุมแสง อินราชา ลูกชายเพียงคนเดียวของคุ้มเวียงอิน จึงได้ยกแม่ของเธอขึ้นเป็นภรรยาน้อย จากนั้นทั้งคุณยายและแม่ของเธอก็ได้มาอาศัยอยู่ที่เรือนเจ้าจอมอินแห่งนี้คุ้มเจ้าจอมอินเป็นเรือนไทยล้านนาเก่าแก่ สร้างจากไม้สักหลังไม่ใหญ่มากนักขนาดห้องนอนแค่สามห้องและมีโถงกลาง ลักษณะบ้านคล้ายบ้านแฝด แบ่งอีกฟากเป็นเรือนนอนและอีกฟากเรือนรับรอง ยกใต้ถุนสูงโดยส่วนใต้ถุนต่อเติมออกมาเป็นห้องครัวแบบสมัยใหม่ดวงฤทัยค่อยเปิดประตูไม้แบบขัดโบราณเข้าไปในห้องนอนเล็กเยื้องมาด้านหน้าบ้าน ความสะดวกสบายของห้องนี้คงจะมีเพียงอย่างเดียวคือเครื่องปรับอากาศ เพราะนอกนั้นเป็นเครื่องเรือนดั้งเดิมทั้งสิ้นรวมถึงเตียงไม้สี่เสาสาวร่างเล็กนั่งลงชันเข่ากับพื้นเรือนหน้ากระจกเครื่องแป้งโบราณ บานไม้สักสลักลวดลายดอกบัว มีลิ้นชักใส่ของกระจุกกระจิก แต่เพราะเก่าแก่สีไม้จึงได้ซีดเซียวลงบ้างตามกาลเวลา เธอใช้กระจกบานนี้มาเนิ่นนานจนเคยชิน และพบว
บทนำ 3ดวงฤทัยพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ไม่พ้น โคมขนาดย่อมในมือกำลังจะหล่นจากมือเพราะแรงกระแทก หากแต่มีมือแข็งแรงคู่หนึ่งช่วยจับประคองโคมผัดของเธอไว้ได้ทัน“หลบมาทางนี้ดีกว่า”เธอรีบเดินตามชายหนุ่มคนที่ช่วยประคองโคมของเธอไว้ได้ และตอนนี้เขาอุ้มโคมผัดแทนเธอพาเดินเลี่ยงออกไปด้านข้าง ดวงฤทัยรีบเร่งเท้าตามด้วยกลัวว่าโคมจะโดนขโมยจึงไม่ทันเรียกเพื่อน กระทั่งหลุดพ้นออกมาจากคลื่นมนุษย์เขาจึงได้หันกลับมา“ขอโคมคืนด้วยค่ะ”ดวงฤทัยรีบยื่นมือออกไปเพื่อดึงโคมกลับมาหากแต่มือแข็งแรงยังจับไว้แน่นเกิดการยื้อกันเล็กน้อย“ไม่เห็นได้ยินคำขอบคุณสักคำเลย”“ขอบคุณ”เสียงหวานกระชากตอบแต่ไม่แรงมากนัก แล้วดึงโคมผัดกลับมาเป็นของตัวเองจนได้ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่แม้ว่ากำลังยิ้มกว้างแต่ไม่ได้ทำให้ใบหน้าคมเข้มแกร่งดูอ่อนละมุนลงเลยดวงหน้าของคนร่างสูงคางเหลี่ยมคมเข้ม สีผิวคล้ำกว่าคนเมืองทั่วไปแม้ว่าดวงหน้าดูเป็นคนเหนือ แต่ความแปลกคงเป็นคิ้วเข้มเฉียงขึ้นและดวงตาคมกล้าบอกถึงความมุ่งมั่นและแข็งกร้าวกายชายสูงใหญ่ตึงแน่นจากเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกระดุมผ้าผ่าหน้าคอจีนแบบชุดถังจวง[1]ที่คนส่วนใหญ่สวมใส่กันในวันนี้ กางเกงยีนส์สีเข
1 – เหนือหัว ร่างสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปยืนนิ่งอยู่บนชานบ้านเรือนไทยหลังใหญ่อายุราวร้อยปี เก่าแก่และทรุดโทรม คุ้มเวียงอินในตอนนี้หลังจากที่ชุมแสง อินราชาลาโลกไปด้วยโรคหัวใจเฉียบพลัน ก็เหมือนดั่งกับบ้านขาดร่มโพธิ์ร่มไทรภรรยาและบรรดาลูกชายลูกสาวไร้ความสามารถหาเงินเข้าบ้านเนื่องจากการเลี้ยงดูแบบเก่าโบราณ เจ้ายศเจ้าอย่าง หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าเป็นพวกไม่ทำการทำงาน เก็บกินของเก่ามรดกตกทอดจนแทบไม่เหลือดวงตาคมกล้าเพ่งมองยังลานสนามหญ้ากว้างใหญ่ของคุ้มที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภาพในหัววางแผนไว้แล้วว่าจะปรับปรุงให้เป็นบูติกโฮเท็ลอย่างไรบ้าง“ป้อเลี้ยงเจ้า”เขาเอี้ยวหน้าคมแกร่งมองเลขานุการส่วนตัว สาวสวยหน้าตาดี ฉลาดหลักแหลมรู้ใจเขาทุกเรื่อง“ว่ามา”“เรื่องที่ให้ไปสืบมาเจ้า ได้ความว่าคุณดวงฤทัยตอนนี้เป็นหม้ายจริงแล้วเจ้า พ่อเลี้ยงนฤนาทเสียได้ยังไม่ถึงปีดี ทิ้งมรดกให้ไว้อย่างเดียวคือฟาร์มหม่อนไหมและดูเหมือนกิจการก็ไม่ดีเท่าไรนักเจ้า”หน้าเรียบเฉยเมื่อได้ฟังมีเพียงคิ้วเข้มด้านซ้ายเท่านั้นที่โก่งขึ้น จับใจความถ้อยคำภาษาพื้นเมืองแบบผิด ๆ ถูก ๆ ปนไทยกลางซึ่งถึงตอนนี้เขาเริ่มชินเสียแล้ว เลขานุการสาวสวยเป็น
2 – แม่เลี้ยงดวงฤทัย สินธุเจริญพาณิชเสียงทุ้มต่ำอย่างชายสูงวัยของผู้ใหญ่บ้านดังลอดมาถึงโถงทางเดินของบ้านยกสูง ซึ่งตอนนี้ดัดแปลงชั้นล่างเป็นห้องรับแขกและห้องทานอาหาร ดวงฤทัยพาร่างบอบบางในชุดกางเกงทำงานผ้าสีเข้มเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อน ซึ่งเป็นชุดที่เธอใส่ทำงานปกติที่หม่อนไหม ลงบันไดไม้สักลงสีทองเนื้อมัน“สวัสดีค่ะผู้ใหญ่พราน ไม่ทราบมาแต่เช้ามีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ”“คุณดวง”ผู้ใหญ่บ้านห้วยแตงลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นดวงฤทัยเดินลงมาจากบ้าน ก่อนนั่งลงอีกครั้งเมื่อเธอหย่อนร่างลงบนเก้าอี้ไม้มะค่าตัวยาวตรงข้ามกับผู้ใหญ่บ้าน“อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องด่วนอะไรหรอกครับ แต่ผมต้องเข้าเมืองไปประชุมผู้ใหญ่บ้านเลยแวะมาหาคุณดวงเสียก่อน เรื่องงานยี่เป็งปีนี้”“งานยี่เป็ง มีอะไรหรือเปล่าคะ?”“ปีนี้เป็นปีแรกที่คุณดวงได้เข้ามาดูแลฟาร์มหม่อนไหมสินธุ อาจไม่ทราบว่าทุกปีพ่อเลี้ยงนฤนารทจะเป็นพ่องานแห่โคมยี่เป็งร่วมกับทางจังหวัดครับ”“อ้อ ดวงก็นึกว่าเรื่องอะไรค่ะ ดวงไม่ทราบมาก่อนเหมือนกัน แล้วนี่ดวงต้องทำอะไรบ้างคะ”“ตามปกติพ่อเลี้ยงเขาจะจัดการเองทั้งหมดครับ แต่ปีนี้ผมคิดว่าอยากดึงกลับไปให้ทางหมู่บ้านทำเองจะดีกว่า แล้วใ
3 - เจ้ายิ่ง“เจ้ายิ่งครับ เจ้าเหนือหัวมาครับ”ชายชราวัยเกือบเจ็ดสิบแต่ยังแข็งแรงแทบกระเด้งตัวลุกออกจากเก้าอี้ไม้เพื่อลงไปต้อนรับหลานชายเพียงคนเดียว ที่ได้เจอหน้านับครั้งได้ตั้งแต่กลับมารู้จักกัน แต่ต้องชะงักตัวหยุดไว้ก่อนเพราะไม่งั้นจะดูเสียหน้าจนเกินงาม คิดได้ดังนั้นจึงนั่งลงตามเดิมรอจนหลานชายเดินมาหาแทนคนชรานั่งอมยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อนึกถึงหลานชายเพียงคนเดียว ทายาทสืบสายสกุล เหนือหัวเป็นคนร่างสูงใหญ่สมเป็นลูกหลานของตระกูลเมืองวงศ์สิงห์นับสืบเชื้อสายได้จากแม่ทัพหัวเมือง ผิวเข้มผิดไปจากคนเมืองเหนือ หากแต่ใบหน้ากลับมีเค้าของฝ่ายแม่ซึ่งเป็นขาวไทใหญ่รัฐฉานเหนือหัวเดินขึ้นบันไดเรือนคุ้มเจ้ายิ่งเมือง ซึ่งแทบจะเหลือเป็นคุ้มสุดท้ายที่ยังเหลือมีคนอาศัยอยู่ เพราะปัจจุบันถ้าไม่เป็นศูนย์อนุรักษ์ก็ขายให้กับพวกนายทุนเพื่อทำโรงแรม อย่างที่เขากำลังกว้านซื้ออยู่หลายคุ้มดวงตาคมกล้าสีนิลเพ่งมองชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มะค่าลงรัก[1]ทองตัวใหญ่กลางเรือน มือหนึ่งจับหัวไม้เท้าทำจากไม้สักฉลุลายปลายหัวเป็นเงินแท้ตั้งตรงลงบนพื้นเรือนไม้สักทั้งหลังเขาเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวถัดมาดวงตาคมกล้า
4 - ตามแอบสืบยิ่งใกล้งานวันยี่เป็งยิ่งวุ่นวาย ดวงฤทัยเตรียมผ้าไหมจำนวนหนึ่งและแผ่นพับโฆษณาเพื่อเตรียมไปนำเสนอโรงแรมหลายที่ซึ่งเธอติดต่อไว้ล่วงหน้า แล้วยังช่วยชาวบ้านเตรียมทำโคมขนาดยักษ์รูปกระทงสูงราวสองเมตรที่จะยกขึ้นตั้งบนรถกระบะของผู้ใหญ่บ้าน โดยเมื่อถึงเวลางานเธอต้องขึ้นไปนั่งอยู่ข้างในด้วยชุดไทยล้านนา“ดวง ลูกจะเข้าเมืองวันไหนลูก”“เย็นนี้เลยค่ะคุณแม่ ไม่อยากให้ถึงค่ำนักคงออกสักราวบ่ายสี่โมง ไปถึงพระอาทิตย์คงยังไม่ตกดิน”“งั้นลูกเอาน้ำพริกหนุ่มกับผักสดติดไปสักหน่อยนะลูก ไปฝากแม่อุ๊ยคำ”“ค่ะ เออ คุณแม่คะ รอบนี้ดวงอาจไปนานหน่อยนะคะ ต้องไปคุยงานกับโรงแรมเรื่องขอเข้าร่วมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และอาจต้องไปสมาคมการท่องเที่ยวการโรงแรมของจังหวัดด้วยค่ะ”“อ้อ ไม่งั้นลูกเอาน้ำพริกไปฝากบ้านพ่อเลี้ยงนฤเบศร์ด้วยสิลูก”ดวงฤทัยส่ายหน้ายิ้มอ่อนให้แม่ดวงใจก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง“ลูกว่าอย่าดีกว่าค่ะคุณแม่ ยิ่งดวงกำลังจะขึ้นรถแห่ ทางบ้านสินธุคงไม่ยอม เผลอ ๆ จะมาอาลวาดถึงคุ้มเลยค่ะ”“ตามใจ งั้นลูกเก็บเสื้อผ้าเถอะจ๊ะ แม่ไม่กวนแล้ว”ดวงฤทัยเปิดกระเป๋าใบใหญ่เตรียมเสื้อผ้าสำหรับทำงาน และเผื่อชุดอ
5- ยี่เป็งเสียงเพลงพื้นเมืองชาวเหนือดังกังวาลไปตลอดทั้งสายบนถนนหลักสำคัญของเมือง บรรดานักท่องเที่ยวขึ้นเหนือมาเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ เพื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมบรรยากาศงานยี่เป็งแบบพื้นเมืองเหนือขณะที่รถของหมู่บ้านห้วยแตงและฟาร์มหม่อนไหมสินธุแล่นผ่านก่อให้เกิดเสียงฮือฮาตลอดทั้งสายเมื่อมองขึ้นไปยังบนรถประดับด้วยโคมทำจากผ้าและกระดาษสารูปดอกบัวสีขาว มีแม่หญิงงดงามยิ่งนั่งอยู่ตรงกลางส่งยิ้มไปโดยรอบรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นแต่มีน้ำมีนวล สวมใส่ชุดแม่หญิงล้านนาโบราณผูกอกสีแดงเลือดหมู นุ่งผ้าซิ่นสีแดงเข้มคาดเข็มขัดทอง มวยผมขึ้นสูงไม่ได้ประดับสิ่งใดนอกจากปิ่นโบราณทำจากทับทิมเข้าชุดกับสร้อยคอและรัดแขนฉลุลายประดับทับทิมสีแดงเช่นกัน แม้มองจากที่ไกลยังพอมองออกว่าเป็นชุดเครื่องประดับโบราณล้ำค่าเสียงผู้คนด้านล่างยังฮือฮาผิดไปจากสาวร่างเล็กบนรถประดับโคม ตอนนี้ดวงฤทัยแสบตาและคอแห้งแต่ยังต้องส่งยิ้มออกมาจนสุด เธอนั่งอยู่บนรถกระบะดัดแปลงตกแต่งโคมประทีปเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้ว เธอสู้อดทนทั้งจากอารมณ์หงุดหงิดเพราะความหิว และต้องละความหยิ่งทะนงทนนั่งให้คนทั่วเมืองยืนชมความงาม แต่ทั้งหมดที่เธอทำก็เพื่อฟาร์มห
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ