1 – เหนือหัว
ร่างสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปยืนนิ่งอยู่บนชานบ้านเรือนไทยหลังใหญ่อายุราวร้อยปี เก่าแก่และทรุดโทรม คุ้มเวียงอินในตอนนี้หลังจากที่ชุมแสง อินราชาลาโลกไปด้วยโรคหัวใจเฉียบพลัน ก็เหมือนดั่งกับบ้านขาดร่มโพธิ์ร่มไทร
ภรรยาและบรรดาลูกชายลูกสาวไร้ความสามารถหาเงินเข้าบ้านเนื่องจากการเลี้ยงดูแบบเก่าโบราณ เจ้ายศเจ้าอย่าง หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าเป็นพวกไม่ทำการทำงาน เก็บกินของเก่ามรดกตกทอดจนแทบไม่เหลือ
ดวงตาคมกล้าเพ่งมองยังลานสนามหญ้ากว้างใหญ่ของคุ้มที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภาพในหัววางแผนไว้แล้วว่าจะปรับปรุงให้เป็นบูติกโฮเท็ลอย่างไรบ้าง
“ป้อเลี้ยงเจ้า”
เขาเอี้ยวหน้าคมแกร่งมองเลขานุการส่วนตัว สาวสวยหน้าตาดี ฉลาดหลักแหลมรู้ใจเขาทุกเรื่อง
“ว่ามา”
“เรื่องที่ให้ไปสืบมาเจ้า ได้ความว่าคุณดวงฤทัยตอนนี้เป็นหม้ายจริงแล้วเจ้า พ่อเลี้ยงนฤนาทเสียได้ยังไม่ถึงปีดี ทิ้งมรดกให้ไว้อย่างเดียวคือฟาร์มหม่อนไหมและดูเหมือนกิจการก็ไม่ดีเท่าไรนักเจ้า”
หน้าเรียบเฉยเมื่อได้ฟังมีเพียงคิ้วเข้มด้านซ้ายเท่านั้นที่โก่งขึ้น จับใจความถ้อยคำภาษาพื้นเมืองแบบผิด ๆ ถูก ๆ ปนไทยกลางซึ่งถึงตอนนี้เขาเริ่มชินเสียแล้ว เลขานุการสาวสวยเป็นคนกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด เก่งมากความสามารถจนเขาต้องหอบหิ้วเธอไปด้วยทุกที่อย่างคนรู้ใจ
“ส่วนคุ้มเจ้าจอมอิน แยกโฉนดออกนานโขแล้วเจ้า เจ้าของคือคุณดวงใจแม่ของคุณดวงฤทัยน่ะเจ้า”
อริสรามือประสานไว้ด้านหน้าเรียบร้อย ลอบมองเจ้านายหนุ่มพ่อเลี้ยงเหนือหัว เมืองวงศ์สิงห์ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
“ต่อราคาลงถ้าไม่รวมคุ้มเจ้าจอมอิน แต่ถ้าทางนั้นโวยวายให้บอกไปว่า ฉันจะยอมจ่ายเพิ่มราคาให้สักเล็กน้อยถ้ารวมคุ้มนั้นมาด้วย”
“เจ้า”
เหนือหัวหันตัวไปด้านรั้วที่กั้นระหว่างกัน เขามองลอดยังฝั่งคุ้มเจ้าจอมอินที่สภาพเรือนไม่ทรุดโทรมเท่าที่นี่ บริเวณโดยรอบได้รับการทำนุบำรุงอยู่เสมอ และคล้ายมีคนอาศัยอยู่
ภาพดวงหน้าหวานงดงามกว่าหญิงใดที่เขาเคยได้พบพลันปรากฎขึ้นในมโนภาพ ไม่น่าเชื่อว่าคนหนุ่มแน่นในตอนนั้นที่คลั่งรักอย่างสุดตัวคงเป็นเขาเอง
สามเดือนที่เพียรพยายามตามตื้อไม่เลิกและดวงฤทัยในตอนเยาว์วัยเองก็ไม่อ่อนข้อให้ แม้มีโอกาสได้แตะต้องเนื้อตัวบ้างแต่ไม่มากเท่าไรยังทำให้เขาสะท้านกายจนถึงทุกวันนี้
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น พ่อของเขาซึ่งเป็นนายแพทย์อาสา อุทิศทั้งชีวิตเพื่อช่วยชาวบ้านตามหุบเขาชายแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน พ่อเป็นไข้ป่ากะทันหันจากการเดินเท้าเข้าไปในหมู่บ้านอันห่างไกล กว่าจะพาเขาออกมาจากหุบเขาได้ก็กินเวลาหลายวันจนในที่สุดท่านก็ได้เสียชีวิตลง
ความวุ่นวายหลังจากนั้นเมื่อปู่ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิตได้โผล่เข้ามา และทำท่าจะยกทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาอย่างไม่มีเกี่ยงงอน
กว่าเรื่องราวพอเข้าที่เข้าทางใช้เวลาร่วมหลายเดือน ทั้งปู่และเขาได้ตกลงกันอย่างสันติวิธี นั่นคือเขาจะยังไม่ยอมกลับมารับรู้สิ่งใดจนกว่าเขาจะอายุสามสิบห้าปี และปีนี้เขาสามสิบหกปีแล้ว อายุเกินจากข้อตกลงมาไม่น้อย แต่ในเมื่อเขายังเป็นต่อฉะนั้นปู่จึงทำได้เพียงบ่นน้อยอกน้อยใจ
แต่สาวน้อยของเขา ดวงฤทัย สาวร่างเล็กบอบบางผู้ซึ่งมีดวงหน้างดงามราวนางฟ้า เธอคงไม่อาจทนรอเขาได้ เพียงเขาจากไปได้หกเดือน กลับมาอีกครั้งดวงฤทัยก็เลือกแต่งงานไปแล้วกับมหาเศรษฐี พ่อเลี้ยงใหญ่ของเมืองอายุแก่คราวพ่อ
รอยยิ้มหยันผลุดมุมปาก เขาต้องการเห็นหน้าหวานของดวงฤทัยนักว่า แม่หม้ายสาวของพ่อเลี้ยงนฤนาทจะยังสะสวยงดงามอย่างที่เขาจำได้หรือไม่
ลำแขนกำยำรัดแน่นจนร่างบอบบางแอ่นหยัด ผ้าปูที่นอนเปียกชื้นจากเหงื่อชุ่มกาย มือเรียวเล็กจิกกุมผ้าไหมซาตินสีเทาเข้มใต้ร่างด้วยแรงอารมณ์จากคนร่างสูงด้านบนที่ส่งให้
ริมฝีปากหนาพรมไล้จูบทั่วร่างอ่อนนิ่มเลื่อนสู่เนินทรวงอวบอิ่ม ปากกระจับสีชมพูเผยออ้าเปล่งเสียงครางอ่อนหวาน มือไขว่คว้าเส้นผมดกหนากำแน่น
ร่างสูงใหญ่ด้านบนไม่ปราณีต่อร่างเล็กอรชรแม้แต่น้อย แรงรักเต็มอารมณ์จากจุมพิตพรมเลื่อนไล้ไถลลงเบื้องล่างสู่เนินเนื้อสาว เสียงหวานนุ่มกรีดร้อง แหงนเงยใบหน้าจนลำคอเหยียดโค้ง
“อือออ อ่า”
เฮือก!!!
ดวงฤทัยสะดุ้งตื่นเต็มตัวพร้อมเหงื่อโทรมกาย ไหล่เล็กสะท้านหอบหายใจขาดห้วง กระพริบตาถี่ก่อนพยุงกายขึ้นนั่งบนเตียงไม้สี่เสาโบราณที่มีผ้ามุ้งครอบลงมา
เธอเอี้ยวหน้าหวานไปทางนาฬิกาหัวเตียง ยามนี้หกนาฬิกาแล้วแต่ท้องฟ้ายังไม่เป็นใจ ไร้แสงสีทองดั่งเช่นทุกวัน เธอได้กลิ่นดินจากฝนหลงฤดูตกพรำในเดือนพฤศจิกายน
ฝัน!
ดวงฤทัยยกมือเล็กเรียวปัดปอยผมออกจากหน้าผากชื้นเหงื่อ ความฝันซ้ำเดิมหลายปี ฝันที่ไร้หน้าของคนร่างสูงใหญ่ แต่ไม่เคยชาชินกับมันเสียที และช่วงหลังมานี้เริ่มถี่ขึ้น
เธอตัดสินใจหย่อนเท้าลงจากเตียงลุกขึ้นยืน แล้วตลบมุ้งขึ้นไปเก็บด้านบน หลังจากนั้นจึงลงฝีเท้าแผ่วเบาด้วยความเคยชินบนพื้นไม้เนื้อแข็งขัดเงาอย่างดีไปยังหน้าต่างที่เปิดกว้างอยู่ ทอดสายไปยังหุบเขาเล็กที่ตั้งของฟาร์มหม่อนไหมสินธุ ซึ่งในตอนนี้มันเป็นของเธอโดยสมบูรณ์มาระยะหนึ่งแล้วนับตั้งแต่พ่อเลี้ยงนฤนารท สามีของเธอเสียชีวิตลง
แว่วได้ยินเสียงคนในบ้านตื่นแล้วจึงค่อยเผยรอยยิ้มอ่อนหวานอุ่นใจออกมา แม่ดวงใจของเธอสิ้นปีนี้จะอายุครบรอบห้าสิบปี ซึ่งเธอตั้งใจว่าจะจัดงานวันเกิดให้ใหญ่กว่าทุกปีเสียหน่อย
เสียงรถยนต์แล่นเข้ามายังลานบ้านทำให้เธอแปลกใจ ก้มลงมอง เห็นเป็นรถยนต์ของผู้ใหญ่บ้านจึงขมวดคิ้วย่นด้วยความแปลกใจ
ยังเช้ามากขนาดนี้ทั้งยังฝนตก ผู้ใหญ่บ้านคงมีเรื่องด่วน
ร่างเล็กผละออกจากหน้าต่างแล้วจัดแจงรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปรับแขก
2 – แม่เลี้ยงดวงฤทัย สินธุเจริญพาณิชเสียงทุ้มต่ำอย่างชายสูงวัยของผู้ใหญ่บ้านดังลอดมาถึงโถงทางเดินของบ้านยกสูง ซึ่งตอนนี้ดัดแปลงชั้นล่างเป็นห้องรับแขกและห้องทานอาหาร ดวงฤทัยพาร่างบอบบางในชุดกางเกงทำงานผ้าสีเข้มเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อน ซึ่งเป็นชุดที่เธอใส่ทำงานปกติที่หม่อนไหม ลงบันไดไม้สักลงสีทองเนื้อมัน“สวัสดีค่ะผู้ใหญ่พราน ไม่ทราบมาแต่เช้ามีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ”“คุณดวง”ผู้ใหญ่บ้านห้วยแตงลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นดวงฤทัยเดินลงมาจากบ้าน ก่อนนั่งลงอีกครั้งเมื่อเธอหย่อนร่างลงบนเก้าอี้ไม้มะค่าตัวยาวตรงข้ามกับผู้ใหญ่บ้าน“อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องด่วนอะไรหรอกครับ แต่ผมต้องเข้าเมืองไปประชุมผู้ใหญ่บ้านเลยแวะมาหาคุณดวงเสียก่อน เรื่องงานยี่เป็งปีนี้”“งานยี่เป็ง มีอะไรหรือเปล่าคะ?”“ปีนี้เป็นปีแรกที่คุณดวงได้เข้ามาดูแลฟาร์มหม่อนไหมสินธุ อาจไม่ทราบว่าทุกปีพ่อเลี้ยงนฤนารทจะเป็นพ่องานแห่โคมยี่เป็งร่วมกับทางจังหวัดครับ”“อ้อ ดวงก็นึกว่าเรื่องอะไรค่ะ ดวงไม่ทราบมาก่อนเหมือนกัน แล้วนี่ดวงต้องทำอะไรบ้างคะ”“ตามปกติพ่อเลี้ยงเขาจะจัดการเองทั้งหมดครับ แต่ปีนี้ผมคิดว่าอยากดึงกลับไปให้ทางหมู่บ้านทำเองจะดีกว่า แล้วใ
3 - เจ้ายิ่ง“เจ้ายิ่งครับ เจ้าเหนือหัวมาครับ”ชายชราวัยเกือบเจ็ดสิบแต่ยังแข็งแรงแทบกระเด้งตัวลุกออกจากเก้าอี้ไม้เพื่อลงไปต้อนรับหลานชายเพียงคนเดียว ที่ได้เจอหน้านับครั้งได้ตั้งแต่กลับมารู้จักกัน แต่ต้องชะงักตัวหยุดไว้ก่อนเพราะไม่งั้นจะดูเสียหน้าจนเกินงาม คิดได้ดังนั้นจึงนั่งลงตามเดิมรอจนหลานชายเดินมาหาแทนคนชรานั่งอมยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อนึกถึงหลานชายเพียงคนเดียว ทายาทสืบสายสกุล เหนือหัวเป็นคนร่างสูงใหญ่สมเป็นลูกหลานของตระกูลเมืองวงศ์สิงห์นับสืบเชื้อสายได้จากแม่ทัพหัวเมือง ผิวเข้มผิดไปจากคนเมืองเหนือ หากแต่ใบหน้ากลับมีเค้าของฝ่ายแม่ซึ่งเป็นขาวไทใหญ่รัฐฉานเหนือหัวเดินขึ้นบันไดเรือนคุ้มเจ้ายิ่งเมือง ซึ่งแทบจะเหลือเป็นคุ้มสุดท้ายที่ยังเหลือมีคนอาศัยอยู่ เพราะปัจจุบันถ้าไม่เป็นศูนย์อนุรักษ์ก็ขายให้กับพวกนายทุนเพื่อทำโรงแรม อย่างที่เขากำลังกว้านซื้ออยู่หลายคุ้มดวงตาคมกล้าสีนิลเพ่งมองชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มะค่าลงรัก[1]ทองตัวใหญ่กลางเรือน มือหนึ่งจับหัวไม้เท้าทำจากไม้สักฉลุลายปลายหัวเป็นเงินแท้ตั้งตรงลงบนพื้นเรือนไม้สักทั้งหลังเขาเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวถัดมาดวงตาคมกล้า
4 - ตามแอบสืบยิ่งใกล้งานวันยี่เป็งยิ่งวุ่นวาย ดวงฤทัยเตรียมผ้าไหมจำนวนหนึ่งและแผ่นพับโฆษณาเพื่อเตรียมไปนำเสนอโรงแรมหลายที่ซึ่งเธอติดต่อไว้ล่วงหน้า แล้วยังช่วยชาวบ้านเตรียมทำโคมขนาดยักษ์รูปกระทงสูงราวสองเมตรที่จะยกขึ้นตั้งบนรถกระบะของผู้ใหญ่บ้าน โดยเมื่อถึงเวลางานเธอต้องขึ้นไปนั่งอยู่ข้างในด้วยชุดไทยล้านนา“ดวง ลูกจะเข้าเมืองวันไหนลูก”“เย็นนี้เลยค่ะคุณแม่ ไม่อยากให้ถึงค่ำนักคงออกสักราวบ่ายสี่โมง ไปถึงพระอาทิตย์คงยังไม่ตกดิน”“งั้นลูกเอาน้ำพริกหนุ่มกับผักสดติดไปสักหน่อยนะลูก ไปฝากแม่อุ๊ยคำ”“ค่ะ เออ คุณแม่คะ รอบนี้ดวงอาจไปนานหน่อยนะคะ ต้องไปคุยงานกับโรงแรมเรื่องขอเข้าร่วมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และอาจต้องไปสมาคมการท่องเที่ยวการโรงแรมของจังหวัดด้วยค่ะ”“อ้อ ไม่งั้นลูกเอาน้ำพริกไปฝากบ้านพ่อเลี้ยงนฤเบศร์ด้วยสิลูก”ดวงฤทัยส่ายหน้ายิ้มอ่อนให้แม่ดวงใจก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง“ลูกว่าอย่าดีกว่าค่ะคุณแม่ ยิ่งดวงกำลังจะขึ้นรถแห่ ทางบ้านสินธุคงไม่ยอม เผลอ ๆ จะมาอาลวาดถึงคุ้มเลยค่ะ”“ตามใจ งั้นลูกเก็บเสื้อผ้าเถอะจ๊ะ แม่ไม่กวนแล้ว”ดวงฤทัยเปิดกระเป๋าใบใหญ่เตรียมเสื้อผ้าสำหรับทำงาน และเผื่อชุดอ
5- ยี่เป็งเสียงเพลงพื้นเมืองชาวเหนือดังกังวาลไปตลอดทั้งสายบนถนนหลักสำคัญของเมือง บรรดานักท่องเที่ยวขึ้นเหนือมาเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ เพื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมบรรยากาศงานยี่เป็งแบบพื้นเมืองเหนือขณะที่รถของหมู่บ้านห้วยแตงและฟาร์มหม่อนไหมสินธุแล่นผ่านก่อให้เกิดเสียงฮือฮาตลอดทั้งสายเมื่อมองขึ้นไปยังบนรถประดับด้วยโคมทำจากผ้าและกระดาษสารูปดอกบัวสีขาว มีแม่หญิงงดงามยิ่งนั่งอยู่ตรงกลางส่งยิ้มไปโดยรอบรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นแต่มีน้ำมีนวล สวมใส่ชุดแม่หญิงล้านนาโบราณผูกอกสีแดงเลือดหมู นุ่งผ้าซิ่นสีแดงเข้มคาดเข็มขัดทอง มวยผมขึ้นสูงไม่ได้ประดับสิ่งใดนอกจากปิ่นโบราณทำจากทับทิมเข้าชุดกับสร้อยคอและรัดแขนฉลุลายประดับทับทิมสีแดงเช่นกัน แม้มองจากที่ไกลยังพอมองออกว่าเป็นชุดเครื่องประดับโบราณล้ำค่าเสียงผู้คนด้านล่างยังฮือฮาผิดไปจากสาวร่างเล็กบนรถประดับโคม ตอนนี้ดวงฤทัยแสบตาและคอแห้งแต่ยังต้องส่งยิ้มออกมาจนสุด เธอนั่งอยู่บนรถกระบะดัดแปลงตกแต่งโคมประทีปเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้ว เธอสู้อดทนทั้งจากอารมณ์หงุดหงิดเพราะความหิว และต้องละความหยิ่งทะนงทนนั่งให้คนทั่วเมืองยืนชมความงาม แต่ทั้งหมดที่เธอทำก็เพื่อฟาร์มห
6 – ก็แค่กินข้าวต้นแขนเล็กถูกรวบด้วยมือสีเข้มแกร่งจนดวงฤทัยต้องก้มลงมอง เขาพาเดินไปช้า ๆ“นี่คุณปล่อยได้แล้ว”“หิวข้าวไม่ใช่หรือไง กำลังจะพาไปกินข้าว”“หยุดเลยนะ! ฉันไปเองได้ปล่อย!”คนร่างเล็กยื้อแขนไว้แต่ต้านทานแรงชายไม่ได้ เขายังพาเธอเดินเลาะออกไปกระทั่งถึงมุมมืดลานจอดรถ“นี่จะบ้าเหรอไง จะพาฉันไปไหน เด็กฉันรออยู่”ดวงฤทัยตกใจมองรถหรูที่มีคนรออยู่และเปิดประตูออกโดยเร็วเมื่อเขาพาเธอมาถึง มือแกร่งจับร่างเล็กของเธอยัดเข้าไปในรถแล้วก้มศีรษะลงมุดตามเข้ามาปัง!เธอรีบขยับตัวกระเถิบไปอีกข้างแต่เขายังดึงไว้แล้วยัดขวดน้ำใส่มือเธอ“ดื่มก่อนจะได้ไม่เป็นลม”ดวงฤทัยมองขวดน้ำในมือเหลือบสายตามองคนตรงหน้าอย่างเคลือบแคลงใจ แต่เพราะไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายชั่วโมงจึงยกขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหาย ตายังชำเลืองเห็นเขากำลังควานหาบางอย่างหยิบออกมายื่นให้เธอ“กินอันนี้ก่อน เดี๋ยวจะพาไปกินข้าว”ดวงตากลมโตหวานซึ้งมองลูกอมรสสตรอเบอรี่ยี่ห้อดังแกะถุงหุ้มพลาสติกออกแล้วบนนิ้วแกร่ง“ทำไม ไม่กล้าเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก ยังไม่คิดทำอะไรตอนนี้”มุมปากของคนร่างสูงยังยักขึ้นในมุมเดิมด้านซ้าย หลุบตามองลูกอมอีกครั้งก่อนตัดสินใจรับ
7 – คำท้าจากปีศาจหน้าหล่อดวงฤทัยเงยศีรษะขึ้นจากผ้าปูโต๊ะที่เธอจ้องมองมาสักพักแล้วเพื่อเรียกความกล้า ส่งน้ำเสียงราบเรียบด้วยตาคมวาววับ ไม่ปิดบังอารม์หงุดหงิดของตนแม้แต่น้อย“ตอนนี้เรายังชอบกันอยู่”“พ่อเลี้ยง มันเป็นไปไม่ได้หรอก อย่าทำเป็นพูดเหมือนละครน้ำเน่าเลยค่ะ เจ็ดปี...มันนานมาก คุณเองคงเจอผู้หญิงสวยมาเยอะ ทำไมถึงยังอยากกลับมายุ่งเกี่ยวกับฉันค่ะ”“เจ็ดปีมันนานน่ะใช่ แต่พอเราเจอกันอีกครั้ง ดวงเองก็รู้สึกใช่ไหม เหมือนกับว่าเราเองยังชอบกันอยู่”“ไม่! ฉันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น คุณน่ะคิดเอาเองคนเดียว เฮ้อ! เอาล่ะพูดไปก็เปล่าประโยชน์ เอาเป็นว่าไปส่งฉันกลับบ้าน แล้วเราก็ไม่ต้องเจอกันอีก”เสียงหวานรีบเอ่ยขึ้นอย่างร้อนตัว เหนือหัวพูดจี้ใจดำ ขืนอยู่ใกล้เขานานกว่านี้ นัยน์ตาคมกล้าคงมองเธอออกจนทะลุปรุโปร่ง มือเล็กยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกหางตาเห็นคนร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะแล้ว กำลังเดินอ้อมมาทางเธอ“งั้นกลับกันเลย”มือใหญ่ช่วยดึงเก้าอี้ออกเมื่อดวงฤทัยยืนขึ้นอย่างสุภาพบุรุษที่เธอไม่เห็นบ่อยนัก ประคองร่างเธอห่างเล็กน้อยพาออกจากห้องอาหาร“น้องดวง!!”ร่างแกร่งสูงใหญ่ชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มของชายค
8 – เจ็ดปีเหมือนไม่ได้ห่างกันเลยเหนือหัวเอ่ยขึ้น ยังนั่งนิ่งรวบร่างอรชรไว้แนบอก การเจรจาต่อรองอยู่ในสายเลือด เขารู้ว่าจะหย่อนหรือดึงให้ตึงตรงไหน แล้วเขาจะได้ผลลัพธ์อย่างที่เขาต้องการดวงหน้าหวานซึ้งก้มศีรษะลงหลุบตามองเพียงมองปากหนาตรงหน้าที่แม้อยู่ใกล้แต่ไม่ยอมขยับ หนุ่มร่างสูงรอให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะร่วมทดลองไปเขาหรือไม่พวงแก้มเธอสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นจนร้อนจัด ตัวเขามีกลิ่นไวน์แดงรสเข้มข้น กลิ่นโคโลญจน์ราคาแพง ปะปนคละเคล้ากลิ่นบุหรี่ และไม่น่าเชื่อว่าริมฝีปากของเหนือหัวกำลังเย้ายวนใจเธอด้วยสีแดงระเรื่อจากน้ำองุ่นรสแรงดูชุ่มฉ่ำ แรงเต้นของหัวใจตรงอกแกร่งใต้ฝ่ามือเธอโหมกระหน่ำขึ้นจนเธอเองรู้สึกได้ เขาตื่นเต้นไม่แพ้เธอเช่นกันใจดวงเล็กยอมรับถึงความต้องการส่วนลึกภายใน เธออยากรู้สัมผัสนุ่มของริมฝีปากหนายามบดเบียดคลึงเคล้น จะยังก่อให้เกิดประกายไฟมอดไหม้ดั่งเดิมหรือไม่ ระยะเวลายาวนานที่ห่างกันอาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปลมหายใจของเหนือหัวกระชั้นแรงเมื่อสาวในอ้อมแขนนิ่งอย่างยอมจำนน สัญญาณทางกายของสาวร่างเล็กทำให้เขารู้ว่าเธอยินยอมร่วมทดสอบจุมพิต อ้อมแขนกำยำกระหวัดรัดร่างอ้อนแอ้นกระชั
9 - ขอเป็นแฟนแต่โดนสาวเมินใส่ดวงฤทัยดับเครื่องรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ขับเคลื่อนสี่ล้อ สูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อมองอาคารโรงแรมขนาดใหญ่ตรงหน้า กึ่งรีสอร์ตสวยงามด้วยทรงไทยล้านนาประยุกต์หลังจากเมื่อคืนนี้ผ่านพ้นในเช้าวันนี้เธอค้นพบว่า โรงแรมแห่งนี้จะเป็นกำลังสำคัญและขุมทรัพย์ที่ช่วยต่อชีวิตหล่อเลี้ยงเธอไปได้อีกหลายปี ทำอย่างไรให้โรงแรมยอมรับฟาร์มหม่อนไหมสินธุเข้าร่วมโครงการใจคาดหวังว่าชื่อเสียงของพ่อเลี้ยงนฤนารทจะยังช่วยส่งเสริมผลักดันให้เธอทำสำเร็จด้วยชื่อ แม่เลี้ยงดวงฤทัย สินธุเจริญพาณิชย์มือเรียวเล็กงดงามตัดเป็นระเบียบไร้สีแต่งแต้มหยิบเอกสารเบาะข้างแล้วก้าวลงจากรถ ยืดร่างบอบบางในชุดผ้าซิ่นไหมยกลายดอกบัวชายผ้านุ่งสีน้ำเข้มเงินสลับลายขวางด้วยสีเทาอ่อนทั่วทั้งผืน ตัวเสื้อเชิ้ตขาวลูกไม้คอเหลี่ยมแขนตุ๊กตา มวยผมขึ้นสูงเหน็บด้วยดอกพุดซ้อนสีขาวดอกใหญ่ซึ่งปลูกอยู่ที่คุ้ม ส่งกลิ่นหอมกำจายรอบตัว“สวัสดีเจ้า ยินดีต้อนรับสู่แมนสรวงบูติกโฮเท็ลเจ้า”แม่เลี้ยงสาวยิ้มพองามให้พนักงานเปิดประตูในชุดไทยล้านนาสีม่วง แล้วพาร่างเดินผ่านตรงไปยังส่วนแผนกต้อนรับ“สวัสดีเจ้า วันนี้มีอะหยังหื้อรับใช้เจ้า”“สวัสด
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ