9 - ขอเป็นแฟนแต่โดนสาวเมินใส่
ดวงฤทัยดับเครื่องรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ขับเคลื่อนสี่ล้อ สูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อมองอาคารโรงแรมขนาดใหญ่ตรงหน้า กึ่งรีสอร์ตสวยงามด้วยทรงไทยล้านนาประยุกต์
หลังจากเมื่อคืนนี้ผ่านพ้นในเช้าวันนี้เธอค้นพบว่า โรงแรมแห่งนี้จะเป็นกำลังสำคัญและขุมทรัพย์ที่ช่วยต่อชีวิตหล่อเลี้ยงเธอไปได้อีกหลายปี ทำอย่างไรให้โรงแรมยอมรับฟาร์มหม่อนไหมสินธุเข้าร่วมโครงการ
ใจคาดหวังว่าชื่อเสียงของพ่อเลี้ยงนฤนารทจะยังช่วยส่งเสริมผลักดันให้เธอทำสำเร็จด้วยชื่อ แม่เลี้ยงดวงฤทัย สินธุเจริญพาณิชย์
มือเรียวเล็กงดงามตัดเป็นระเบียบไร้สีแต่งแต้มหยิบเอกสารเบาะข้างแล้วก้าวลงจากรถ ยืดร่างบอบบางในชุดผ้าซิ่นไหมยกลายดอกบัวชายผ้านุ่งสีน้ำเข้มเงินสลับลายขวางด้วยสีเทาอ่อนทั่วทั้งผืน ตัวเสื้อเชิ้ตขาวลูกไม้คอเหลี่ยมแขนตุ๊กตา มวยผมขึ้นสูงเหน็บด้วยดอกพุดซ้อนสีขาวดอกใหญ่ซึ่งปลูกอยู่ที่คุ้ม ส่งกลิ่นหอมกำจายรอบตัว
“สวัสดีเจ้า ยินดีต้อนรับสู่แมนสรวงบูติกโฮเท็ลเจ้า”
แม่เลี้ยงสาวยิ้มพองามให้พนักงานเปิดประตูในชุดไทยล้านนาสีม่วง แล้วพาร่างเดินผ่านตรงไปยังส่วนแผนกต้อนรับ
“สวัสดีเจ้า วันนี้มีอะหยังหื้อรับใช้เจ้า”
“สวัสดีค่ะ ดิฉันแม่เลี้ยงดวงฤทัย มีนัดกับผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ค่ะ”
“สักครู่นะเจ้า”
ระหว่างยืนรอพนักงานต่อสายโทรศัพท์ขึ้นไปยังแผนก จึงลอบสังเกตว่าโรงแรมได้ปรับปรุงใหม่เกือบทั้งหมด ของทุกชิ้นถูกเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นสไตล์ล้านนาประยุกต์หากแต่หรูหรา ตามโถงประดับด้วยศิลปะไม้สักและภาพวาดของนักเขียนชื่อดังของเมืองเหนือ
“แม่เลี้ยงเจ้า ต้องเข้าทางด้านหลังน่ะเจ้า หื้อเด็กนำไปเจ้า”
แม่เลี้ยงเอี้ยวตัวกลับไปพบเด็กสาวหน้าตาน่ารักสวมชุดล้านนายืนยิ้มอยู่ด้านหลังแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
“ยินดีเจ้า”
เด็กสาวท่าทางคล่องแคล่วเดินนำไปด้านหลัง เพื่อพาขึ้นลิฟต์พนักงานไปยังชั้นสามที่ตั้งสำนักงานของโรงแรม แก้มพนักงานสาวแดงปลั่งยิ้มขัดเขิน
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ คือ แม่เลี้ยงสวยจังเลยค่ะ”
ดวงฤทัยยิ้มตอบไม่เอ่ยอะไร ตอนนี้เธอเองตื่นเต้น นัดหมายเช้านี้สำคัญต่อเธอมาก เธอจะไม่ยอมเกิดความผิดพลาดจึงยืดกายขึ้นลอบสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกพลังใจ
ติ๊ง!!
เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงจุดหมาย ดวงฤทัยก้าวเท้าออกไปเพียงคนเดียวส่วนเด็กสาวยังยืนอยู่ในลิฟต์ตั้งท่ากดเลขชั้นเพื่อลงชั้นล่าง กำลังเอ่ยถามมีเสียงหนึ่งเรียกชื่อเธอเสียก่อน
“สวัสดีค่ะคุณดวงฤทัย”
ดวงฤทัยหันกลับไปเห็นสาวสวยรูปร่างดีสวมชุดทำงานทันสมัยทะมัดทะแมง อายุราวปลายยี่สิบ อายุมากกว่าเธอไม่มาก
“สวัสดีค่ะ”
“เชิญทางนี้ค่ะ ท่านรอคุณดวงฤทัยอยู่ค่ะ”
ท่าน?
ภายในใจนึกเอะใจสงสัยแต่ยังรักษาภาพลักษณ์ภายนอก สีหน้าเรียบเฉยเดินตามหญิงสาวไปตามโถงกระทั่งหยุดที่ประตูบานใหญ่ทำจากไม้จริงลวดลายจิตรกรรมพื้นถิ่น
ก๊อก ก๊อก!!
สาวคนดั่งกล่าวเคาะประตูสองครั้งก่อนเปิดประตู ผายมือให้เธอเข้าไปในห้อง แม้ว่าดวงฤทัยไม่ใคร่เต็มใจนักแต่ด้วยความสงสัยจึงยอมเดินเข้าไปในห้องที่ไร้คน กระทั่งเสียงปิดประตูด้านหลังดังขึ้น
“ดื่มกาแฟสักหน่อยไหม”
คนร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังขึ้น พ่อเลี้ยงหนือหัวสวมชุดสูททำงานสีเข้มไม่ผูกไท ยืนพิงกรอบประตูห้องชงกาแฟในมือถือแก้วกาแฟร้อน
“พ่อเลี้ยง! ฉันนัดผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ พวกเขาต้องเข้าใจอะไรผิดแน่!”
ดวงฤทัยยกมือขึ้นเตรียมผลักประตูออกไปพลันชะงัก สะบัดหน้าหวานกลับไปยังคนร่างสูงที่เดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงานแล้ว
“เป็นคุณใช่ไหมที่สั่งให้พาฉันขึ้นมา”
ดวงตากลมโตหวานซึ้งหรี่เอาเรื่อง ทันเห็นมุมปากหยักขึ้นเพียงชั่ววินาที ยิ่งพาให้ขุ่นเคือง
“นั่งก่อนสิ เราจะได้คุยธุรกิจกัน”
ใจหนึ่งต้องการหนีออกจากห้อง แต่อีกใจยังต้องการเข้าร่วมโครงการซึ่งเป็นทางรอดเดียวของหม่อนไหม มือบางกำแฟ้มเอกสารแน่นขึ้นชั่งใจ อย่างไรเสียโรงแรมนี้ก็เป็นของเขา ถ้าเธอทำให้เหนือหัวยอมรับข้อตกลงนี้ได้ สถานะของฟาร์มที่ร่อแร่จะดีขึ้นทันที
เหนือหัวนั่งนิ่งระหว่างรอการตัดสินใจของคนร่างเล็กกลางห้อง ใจเต้นระทึกเสี่ยงวัดดวงว่าเธอจะเลือกนั่งลงหรือหันหลังหนี แล้วค่อยลอบถอนหายใจเมื่อร่างอรชรในชุดทำงานเดินมายังโต๊ะตัวใหญ่ และนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ฟาร์มสินธุเป็นอย่างไรพี่รู้หมดแล้ว”
“คุณกำลังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวฉัน”
“มันจำเป็น รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อันที่จริงพี่ไม่ได้ต้องการอวดหรอกนะ แต่พี่รู้แทบทุกเรื่องของดวง”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็รู้ว่าฉันมาทำไม เข้าเรื่องเลยดีกว่า”
“อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับน้องดวง เอาอย่างนี้ เราควรเริ่มต้นกันด้วย.. เปลี่ยนคำสรรพนามเรียกพี่เสียใหม่”
เสียงทุ้มลากยาวขณะเอ่ยขึ้น ปากหนาคลี่ยิ้มกว้างกวนอารมณ์ มือแกร่งยังขยับยกแก้วกาแฟขึ้นจิบแต่ดวงตาคมไม่ละไปจากหน้าหวานงดงาม
“ถ้าอย่างนั้นพ่อเลี้ยงเหนือหัว อยากให้ฉันเรียกว่าอะไรดีคะ”
เสียงหวานนุ่มพูดลอดไรฟัน สังเกตมุมปากหนายักยิ้มผ่านแก้วกาแฟ
“เรียกพี่ว่าพี่เหนือ แล้วแทนตัวเองว่าดวง ง่าย ๆ แค่นั้น”
ร่างแกร่งโน้มกายวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ แล้วเอนกายกลับนั่งพิงพนัก วางมือประสานไว้ที่ตักขณะรอคนตรงหน้าเอ่ยชื่อเขาออกมา
“พี่เหนือ”
นัยน์ตาสีนิลหลับลงทันใด เสียงหวานนุ่มบางเบาหากแต่ทำเขาสั่นสะเทือนไปถึงภายใน เสียงนุ่มก่อเกิดความสั่นไหวบางอย่าง และเมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววแห่งความปรารถนาคงฉายชัดจนทำให้พวงแก้มของคนร่างเล็กแต้มสีแดงระเรื่อกระทั่งแดงซ่านจนถึงลำคอ
เหนือหัวแสร้งหยิบแฟ้มของดวงฤทัยขึ้นมาเปิดอ่านทั้งที่ตัวหนังสือทั้งหมดไม่เข้าสมองเลยแม้แต่น้อย
“ดะ ดวงต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทางโรงแรมของพี่เหนือจัดทัวร์เชิงอนุรักษ์ ดวงแบ่งสัดส่วนรายได้ออกมาแล้วว่าทางโรงแรมจะได้รับยี่สิบห้าเปอร์เซ็นจากการขายของที่ระลึก และห้าสิบเปอร์เซ็นจากค่าหัวนักท่องเที่ยวในแต่ละรอบเป็นรายบุคคล”
“ร้านที่เข้าร่วมเส้นทางอนุรักษ์ของพี่มีอยู่แล้วสิบร้าน ซึ่งพอดีสำหรับการพานักท่องเที่ยวไปชมในสองวัน ถ้าพี่เพิ่มของดวงเข้าอีกอาจทำให้ต้องเบียดกับร้านอื่น”
ดวงฤทัยนิ่งครุ่นคิด จริงอย่างที่เหนือหัวพูด เธอไม่ทันได้เตรียมคิดเรื่องนี้มาก่อน
“ถ้าอย่างนั้น ดวงจะให้ราคาขายของที่ระลึกเพิ่มจากยี่สิบห้าเปอร์เซ็นเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นเท่ากับราคาค่าทัวร์”
“ทำไมพี่ต้องแบ่งราคาค่าทัวร์ให้ดวง ในเมื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นส่วนที่โรงแรมต้องออก”
“เพราะว่าฟาร์มหม่อนไหมของดวงมีค่าพอและมีแรงดึงดูดทำให้นักท่องเที่ยวอยากเข้าร่วมท่องเที่ยว ดวงคาดว่าเมื่อผ่านไปสักพักฟาร์มจะทำชื่อเสียงให้กับทางโรงแรมมากกว่าด้วยซ้ำ”
คนร่างสูงลอบยิ้มเมื่อได้ฟังขณะยกกาแฟที่เริ่มเย็นแล้วขึ้นจิบก่อนจะวางลงเมื่อดวงฤทัยยังพูดต่ออย่างภาคภูมิใจ
“ดวงมีแผนสำหรับฟาร์มสินธุ และฟาร์มของดวงครบวงจรที่สุดในจังหวัด ตั้งแต่ปลูกจนถึงทอไหม เรียกได้ว่าต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งทำให้ทางโรงแรมไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน เวลา ไปหลายที่”
“แล้วถ้าพี่มีแผนอื่นที่ดีกว่านี้”
เหนือหัวเงยศีรษะขึ้นจากเอกสารแล้วโยนไปกลางโต๊ะ ดวงตาคมกล้าจ้องเธอตรง ๆ ไม่ปิดบังความรู้สึก
“แผน? แผนอะไรคะ”
เหนือหัวเท้าข้อศอกกับพนักเท้าแขนเอนกายฝั่งตัวในเบาะนุ่ม ยกมือขึ้นประสานใต้คางขณะที่ยังจ้องดวงฤทัยไม่วางตายามนึกถึงแผนสำหรับเธอเพียงคนเดียว
“ดวงไม่ต้องจ่ายเปอร์เซ็นเลย และดวงจะได้เป็นสถานที่เดียวของทัวร์ พี่จะนำลูกทัวร์ไปลงให้กับดวงที่เดียว ดวงคิดว่าไง”
“มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ ดวงว่าพี่เหนือคงมีแผนอื่นอีกสำหรับการแลกเปลี่ยนครั้งนี้”
เหนือหัวยิ้มกว้างลดมือลงวางบนตักตวัดขาขวาขึ้นไขว่ห้างด้วยมากเสือร้าย เขาชอบผู้หญิงพูดตรงเข้าประเด็น
“ง่ายขนาดนั้นเลยดวง เพียงยอมเป็นแฟนพี่สักระยะ”
“ว่ายังไงนะ!!”
แม้ว่าพอรู้อยู่บ้างว่าพ่อเลี้ยงต้องการอะไร แต่เมื่อได้ยินจากปากเขา เธอไม่อาจระงับอาการตกใจ ดวงเบิกโตตกตะลึง
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวร่างสูงลุกจากเก้าอี้ถึงตัวเธอแล้ว ยืนใช้สะโพกสอบพิงขอบโต๊ะ เท้าฝ่ามือลงข้างเดียวโน้มใบหน้าลงใกล้แต่ยังไม่มาก กลิ่นโคโลญจน์โรยรินบางเบา แล้วนิ่งขึงเมื่อมือแกร่งยกมือขึ้นแตะดอกพุดซ้อนบนศีรษะ
“พี่อยากคบกับดวง เป็นแฟนกัน ออกงานด้วยกัน ไปทานข้าว ไปเที่ยว ดูหนัง หรือนอนเล่นอยู่บ้านก็ได้ พี่ต้องการเป็นแฟนกับดวง”
ร่างสูงใหญ่โน้มหน้าลงหอมดอกพุดซ้อน อกแกร่งขยายเข้าลึกยามสูดกลิ่นหอมดอกพุดซ้อน ก่อนถอนหายใจออกพลางขยับตัวออกห่าง
“ไม่ ไม่ได้ เราเป็นแฟนกันไม่ได้”
ด้วยความแปลกใจจึงส่งเสียงค้านตะกุกตะกัก คราแรกที่ได้ยินดวงฤทัยยอมรับว่าเธอมองเขาในแง่ร้ายกว่านั้น คาดว่าเขาขอแลกเปลี่ยนเป็นกายสาวของเธอ แต่เมื่อคำว่า ‘ต้องการเป็นแฟน’ ซึมซับเข้าไป ใจเธอเผลอไผลเกือบเอ่ยตกลง
“ทำไมล่ะดวง ดวงไม่มีใคร”
“ดวงเป็นแม่หม้าย ดวง ดวงเป็นแม่เลี้ยงของสินธุเจริญพาณิช นั่นทำให้อะไร ๆ ไม่ง่ายอย่างที่พี่เหนือต้องการ”
“ดวงเป็นแม่เลี้ยงของสินธุเจริญพาณิชห่าเหวอะไรนั่น! ไม่สำคัญสำหรับพี่เลยสักนิด พี่ยังต้องการดวงเสมอมา และพี่ต้องได้สิ่งที่พี่ต้องการ”
เสียงทุ้มกดต่ำดุดันด้วยความโกรธเมื่อเธอเอ่ยนามสกุลสามีเก่า มือคว้ารวบต้นแขนเล็กให้ลุกยืน พลิกจนเธอตกอยู่ในอ้อมแขน ดึงร่างเล็กยกขึ้นวางบนโต๊ะแทรกกายแกร่งตรงกลางหว่างขาเรียวงาม
ดวงฤทัยเบิกตากว้างตกใจ ตั้งตัวไม่ทัน มือยกขึ้นวางทาบอกแกร่ง แล้วพลันอ่อนระทวยไปทั้งร่าง ยามเหนือหัวบดเบียดริมฝีปากหนาแกร่งร้อนหากแต่นุ่มอุ่นด้วยรสชาติกาแฟเข้มข้น หนักหน่วง รุนแรงเกินต้านทาน
10 - พี่เหนือเสียงเครื่องปรับอากาศเดินเงียบ เสียงสาบเสื้อเนื้อตัวบดเบียด เสียงทอดถอนลมหายใจ และกลิ่นดอกพุดซ้อนกำจายอบอวลอยู่รอบตัว เหนือหัวเกี่ยวกระหวัดร่างงดงามของดวงฤทัยเข้าสู่วงแขน เดินหน้าดันกระทั่งเธอเลื่อนตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงาน มืออุ่นจัดหยาบกร้านอย่างน่าประหลาดดึงรั้งชายซิ่นผ้าไหมขึ้นสูงเพื่อแทรกลำตัวแกร่งเข้ากลางหว่างขา ลูบไล้สัมผัสขาเรียวงามนิ่มนวลดั่งผ้าไหมดวงฤทัยมีรสชาตินุ่มละมุนด้วยกลีบปากกระจับที่เขาคอยเฝ้าฝันถึง อีกมือทาบแผ่นหลังอ่อนโค้งดันให้เนินทรวงสล้างแนบชิดอกแกร่ง โอบรัดแน่นด้วยไฟรักลุกโชนตรึงท้ายทอยเล็กคลึงแผ่วเบาดั่งปลอบประโลมทั้งที่ริมฝีปากกำลังเรียกร้องการสนองตอบ ไต่ระดับจนถึงขีดสุด บดบังคับเปิดปากอวบอิ่มสอดแทรกลิ้นล่วงล้ำเข้าสำรวจความอ่อนนุ่มด้านใน หวานล้ำและชุ่มชื้นจูบดุดันเร่งรัดร้อนแรงดียิ่งกว่าเมื่อคืน ภายในอกแกร่งอัดแน่นต้องการสาวในอ้อมแขนกระชับวงแขนจนร่างเล็กแนบสนิทไร้ช่องว่าง ความรู้สึกรุนแรงหนักหน่วงนี้จะสุดที่ตรงใดเขาไม่อาจคาดการณ์ได้ รับรู้เพียงเวลานี้เธอทำให้กายแกร่งขับแน่นแทบระเบิดผิวเนื้อเนียนนุ่มดั่งทารกใต้มือใหญ่อุ่นร้อน ลูบไล้แผ่วเบาเชื่องช
11 – พี่ชายคนละแม่เสียงรถยนต์เลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถแต่เช้าทำให้ดวงฤทัยเองแปลกใจ เธอเพิ่งแต่งตัวเสร็จหลังจากนอนตื่นสายในวันนี้ในรอบหลายปี พาร่างบอบบางเดินออกมาจากห้องนอนจนถึงโถงกลางก็พบกับพี่พฤกษ์เข้าพอดี“ดวง”“สวัสดีค่ะพี่พฤกษ์ นั่งก่อนสิคะ”ดวงฤทัยเดินนำพฤกษ์ถึงเก้าอี้รับแขกที่ตั้งอยู่โถงทางเดินใต้หลังคาอีกฟากของบ้าน เธอไม่เจอพี่ชายต่างมารดามานานเกือบปีหลังจากที่เขามางานศพพ่อเลี้ยง สภาพตอนนั้นกับตอนนี้ผิดกันจนลิบลับพฤกษ์ อินราชา ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองดูย่ำแย่ขนาดนี้แม้ว่าหน้าตาเขายังหล่อเหมือนเดิมก็ตาม เสื้อผ้าที่สวมใส่เลือกใส่อย่างลวกๆ ไม่เข้าชุดกันทั้งมีรอยยับ ผมที่เคยตัดสั้นเรียบร้อยยาวเลยต้นคอ แต่ที่แย่กว่านั้นคงเป็นน้ำหนักที่ดูลดลงมากอาจร่วมเกือบสิบกิโลกรัม“พี่พฤกษ์ป่วยหรือเปล่าคะ พี่พฤกษ์ดูเหมือน ...”“ผอมลงใช่ไหม พี่ไม่ได้ป่วยหรอก แต่ไม่ค่อยมีเวลากินเท่าไร พี่มานี่มีเรื่องอยากจะขอร้องดวง”“ขอร้องดวง?”“ใช่ เกี่ยวกับคุ้มเจ้าจอมอิน”“คุ้มเจ้าจอมอิน?”ดวงฤทัยยังทวนคำเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ และการที่เธอทำเช่นนั้นคงทำให้พฤกษ์อารมณ์เสีย เพราะใบหน้าหล่อเหลาผู้ดีออกอาการฉุนเฉียว“พ
12 – เข้าถ้ำเสือดวงฤทัยมองสองข้างทางขณะที่แสงทัดกำลังนำเธอไปหาพ่อเลี้ยงหนุ่ม คิ้วคันศรขมวดเล็กน้อยด้วยความกังวลเพราะบอดี้การ์ดขับรถคันใหญ่ออกนอกตัวเมืองมาได้สักพักแล้ว“ฉันขอถามหน่อยนะคะ พ่อเลี้ยงให้พาไปพบที่ไหน”แสงทัดมองกระจกหลังแวบหนึ่งก่อนมองทางตรงหน้าต่อ ร่องรอยกังวลใจชัดเจนทำให้รู้ว่าเหนือหัวไม่ได้บอกแม่เลี้ยง“ไปที่บ้านพ่อเลี้ยงครับ”“บ้าน?”“คุณดวงไม่ต้องกังวลใจครับ บ้านอยู่ห่างจากเมืองเกือบสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น”สิบกิโลเมตร!! คราวนี้เธอเริ่มเห็นสองข้างทางที่บ้านเรือนเริ่มห่างกันเป็นระยะ จากนั้นรถเลี้ยวลงจากถนนใหญ่เข้าสู่ถนนสายเล็กกว่ามุ่งตรงไปยังเชิงเขาข้างหน้า แล่นไปได้ราวห้าร้อยจึงถึงรั้วใหญ่ทึบบ้านของพ่อเลี้ยงเหนือหัวเป็นดั่งบ้านเศรษฐีคนเหนือ สร้างจากไม้สักทั้งหลัง ทรงบ้านแฝดขนาดใหญ่ เสาบ้านเป็นไม้ท่อนเดียวลำใหญ่สูง หลังคาทรงจั่วตกแต่งกาแล แต่ที่ไม่เหมือนคนทั่วไปคงเป็นขนาดของบ้าน มีลานน้ำพุตรงกลางลาน แสงทัดนำไปจอดใกล้ทางขึ้นบันไดคนร่างเล็กลงจากรถอย่างหวั่นใจ แหงนดวงหน้าหวานขึ้นชั้นบนที่เปิดไฟสว่างไสว แล้วจึงสังเกตเห็นเหนือหัวยืนอยู่ตรงระเบียงมือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง
13 – ดวงจะขออะไรพี่ยอมหมดแล้วในเมื่อตัดสินใจเดินหน้าเธอไม่ควรคิดอื่นใดอีกแล้ว ร่างเล็กวางแก้วไวน์ลุกขึ้นไปหาร่างสูงใหญ่ที่นั่งรอคอยตรงเก้าอี้ตัวใหญ่ฝั่งตรงข้าม เขาจับมือเธอไว้แล้วตวัดจนร่างบางล้มลงบนตักรัดเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนี“สามเดือนมันนานเกินไป พี่รอไม่ไหว”มืออุ่นร้อนตรึงท้ายทอยเธอโน้มศีรษะลงประกบจูบเว้าวอนปนพูดด้วยเสียงกระเส่า“อืม ข้อแรก พี่ตกลง และพี่จะลดเปอร์เซ็นรายได้ในส่วนของพี่ลง”เหนือหัวจรดปากหนาลงปากกระจับอีกครั้งเมื่อพูดจบ แทะเล็มทีละนิดโดยรอบด้วยลิ้นสากแล้ววกเข้าโพรงปากดูดกลืนลิ้นเล็กซับเสียงหวานนุ่มที่ประท้วงขึ้น“อืม หวาน ข้อที่สอง อืม มันเกี่ยวกับข้อที่สาม อา”เสียงทุ้มหยุดไปเมื่อลิ้นเล็กเริ่มตอบสนองตวัดเกี่ยวกระหวัดเขาไว้ ไฟปรารถนาลุกโชนหนักกว่าเดิมส่งให้เขาบีบรอบเอวเธอแน่นขึ้น“ถ้าไม่ขายคุ้มให้พี่ พี่จะไม่รอสามเดือน อืม ดวง”คนร่างเล็กรับรู้อำนาจที่เหนือกว่าและใช้มันอย่างเต็มที่ โอบกอดโอบรอบท้ายทอยเบียดหน้าอกอวบอิ่มเข้าหาร่างแกร่งร้อน แหงนเงยดวงตารับแรงบดขยี้ของเหนือหัวไม่เกี่ยงงอนซ้ำตอบสนองเท่าที่เธอจะทำได้ เลื่อนมือเล็กลงมากลางอกเหนือหัวลูบวนเวียนจงใจเลียนแบบที่
14 – หลวงพ่อเจ้าขาเหนือหัวคล้อยร่างลงประกบปากสาวช่างเจรจา เมื่อคืนกลับมาเจอสาวน้อยนอนหลับสนิททิ้งเขาไว้ให้นอนตาค้าง“อืม เห็นไหม อืม ไม่เห็นเป็นไรเลย อืมม”“อื้อ พะ พี่เหนือหยุดก่อน”“อืม อีกนิดนะ ขออีกนิด ให้เจ้านั่นทำความรู้จักน้องสาวเสียหน่อย”ดวงฤทัยตาโตมือยันหน้าอกแต่กลายเป็นคว้าเอายอดหัวนมของเหนือหัวไว้จนชายหนุ่มด้านบนครางเบา“ถ้าขืนซนจะโดนดีเอานะน้องดวง อยู่เฉย ๆ ให้น้องชายพี่ทำความรู้จักน้องสาวของดวงสะดีดี”“อื้อ อื้อ”มือเล็กกำเนื้อหน้าอกแน่นยามร่างสูงดันกายแกร่งชิดกายสาว แม้มีกางเกงขาสั้นที่เธอหยิบมาใส่จากในตู้เมื่อคืนขวางกั้นไว้ แต่ท่อนเนื้อลุกชันอุ่นจัดจนแผ่ไอร้อนบนกายสาว ลำแขนกำยำสอดใต้ลำตัวอ่อนนุ่มเลื่อนมือลงไปใต้สะโพกเล็กผายทาบตรึงไว้ไม่ยอมให้ขยับหนีปากหนาดูดกลืนซับเสียงครางหวานแหลม ลิ้นตวัดเกี่ยวจนดวงฤทัยไม่อาจหลีกพ้นยินยอมให้เขาชิมรสชาติในโพรงปากเธอจนทั่วอกแกร่งใต้ฝ่ามือเล็กทำให้เธอรับรู้ถึงแรงรัวถี่ของหัวใจคนด้านบน เหนือหัวเลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง ความทรมานแสนหวานที่เขาจงใจทำมันยังดำเนินต่อไปบดเคล้นแก่นกายแข็งถูไถเนินอ่อนนุ่มซอกหลืบแห่งอิสตรี ขยับคลึงวนเนื้อสาวจนคว
15 – แก้วนภา“คุณดวงเจ้า! คุณดวง”เสียงเรียกของหลินจากนอกห้อง ดวงฤทัยจึงกราบลาพระพุทธรูป อีกครั้งก่อนลุกเปิดประตูเดินออกไป“มีอะไรหลิน”“คุณแก้วมาเจ้า”รอยยิ้มหวานค่อยปรากฏบนใบหน้าเมื่อรับรู้ว่าเพื่อนรักมาหา มองเลยไปด้านหลังเห็นเพื่อนรักนั่งรออยู่ตรงโต๊ะรับแขกชานเรือน แก้วนภานั่งยิ้มกวักมือเรียก“มาไม่เห็นบอกกันเลย นี่คนที่บ้านเห็นรถดวงนะเลยรีบบอกแก้ว”“ก็เราไม่อยากรบกวนแก้ว มาไม่นานเดี๋ยวก็ต้องไปแล้ว”“อ้าว ไปไหน”“ไปธุระ ไม่มีอะไรหรอก แล้วนี่มามีอะไรหรือเปล่า”แก้วนภาปล่อยมือเพื่อนดึงถุงขนมด้านข้างตัวออกมายื่นให้“พี่กานต์ฝากมาให้ เขาเพิ่งกลับมาจากจีนเลยซื้อขนมมาเยอะแยะเลย”ดวงฤทัยเปิดถุงออกดูก่อนยิ้มอ่อน เป็นพวกผลไม้แช่อิ่มอย่างที่เธอชอบทาน“ฝากขอบคุณพี่กานต์ด้วยนะแก้ว”“อ้อ แล้วคุ้มนั้นเขาทำอะไรกัน ดูท่าปรับปรุงสะเยอะเลย”“พี่พฤกษ์เขาขายไปแล้วน่ะ”“ฮะ!! ขายไปแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้น”ดวงฤทัยวางขนมลงบนโต๊ะมองออกไปยังฝั่งคุ้มข้างเคียง“ดวงไม่แน่ใจ พี่พฤกษ์เล่าไม่ละเอียด บอกแต่ว่าติดหนี้ เจ้าหนี้ตามทวงถึงบ้าน”“โฮ้!! ต้องเยอะมากแน่เลย ราคาคุ้มไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ แล้วนี่ใครมาซื้อ”“พ่อเ
16- บ้านพ่อเลี้ยงติ๊ง!!เหมือนเสียงเตือนลิฟต์ดังขัดจังหวะช่วยทำให้สถานการณ์พูดคุยที่เริ่มน่าอึดอัดสำหรับแสงทัดหมดไป เขาเดินนำออกไปก่อนแล้วผายมือให้แม่เลี้ยง“เชิญครับ พ่อเลี้ยงรออยู่แล้วที่ห้องเดิมครับ”แม่เลี้ยงสาวพยักหน้าขอบคุณ เดินตรงไปทางห้องของพ่อเลี้ยง แสงทัดเหลือบตามองอริสรา เลขานุการสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องเหนือหัวพอดีพรางยิ้มช่วยเปิดประตูให้แม่เลี้ยง เขาและอิสราต่างยิ้มให้กันอย่างมีเล่ห์นัย ทั้งเขาและเธออาจกำลังได้เจ้านายสาวคนใหม่เร็ว ๆ นี้คลิก!!ดวงฤทัยก้าวเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ของเหนือหัว เห็นเขายังนั่งอ่านเอกสารอย่างตั้งใจจึงไม่อยากรบกวน เดินเลี่ยงไปนั่งรอที่โซฟารับแขกสังเกตห้องทำงานกว้างและอบอุ่นจากการตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ม่านหนาหนักสีครีมอ่อนด้านหลังเปิดไว้จึงทำให้ห้องทั้งห้องสว่างเสียงกระดาษที่ถูกพลิกหน้าจากมือเหนือหัวเว้นจังหวะเป็นระยะ เธอสังเกตเสี้ยวหน้ายามเขาก้มมองเอกสารบนโต๊ะ ข่าวลือที่คนเมืองเล่าลือกันเป็นความจริง พ่อของเหนือหัว เจ้าศิรพงษ์ แต่งงานกับคนรัฐฉาน จันทร์มาลา ชื่อของแม่เหนือหัวตามที่แสงทัดเพิ่งบอกมาเขามีเค้าโครงหน้าเหลี่ยมเหมือนคนไทใหญ่ คิ้วกระบี
17 - ncคลิก!!เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น ตาที่แต่เดิมกลมโตรีบหลับตาปี๋นอนนิ่ง แว่วเสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินไปทางห้องแต่งตัวด้านข้าง รู้สึกดั่งได้ต่อชีวิตจึงผ่อนลมหายใจออกมา พลิกตัวตะแคงไปอีกข้างเพื่อไม่ให้เขาเห็นว่าเธอแกล้งหลับมือเล็กเกาะกุมมือตัวเองทั้งสองข้างไว้ตรงหน้าอก สัมผัสหัวใจถี่รัวเต้นตุ่ม ๆ ต่อม ๆ พยายามควบคุมการหายใจแต่มันช่างยากเย็น เวลาผ่านไปสักพักใหญ่จึงรู้สึกถึงการยุบตัวจากเตียงด้านหลังแล้วนิ่งเงียบไปดวงฤทัยลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดคลายอาการตึงเครียดลงผ่อนร่าง ทิ้งเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เธอจึงค่อยพลิกตัวกลับไปดู“ยังไม่หลับเหรอ”คนร่างเล็กสะดุ้งโหย่งเมื่อหันกลับไปเจอหน้าเข้มนอนตะแคงตัวมาทางเธอ หน้าคมเข้มยิ้มจนมองเห็นฟันขาวท่ามกลางความมืด“หะ หลับแล้วค่ะ”“หลับแล้วทำไมยังตอบพี่ได้”เสียงเขยื้อนตัวถัดฟูกเข้ามาใกล้ของคนร่างใหญ่ ทำให้เธอขยับหนีแต่ถูกตรึงไว้ด้วยมือแกร่งที่รั้งเอวคอดไว้พอดี ดึงร่างเล็กเข้าไปหา“พี่อยากจูบดวง พี่ขอจูบดวงได้ไหม”“จะ จูบอย่างเดียวนะ”เหนือหัวไม่ตอบคำถามแต่ดึงเธอเข้าไปใกล้จนชิด มือใหญ่ปัดปอยผมให้พ้นดวงหน้ารูปไข่ แม้ว่าภายในห้องนอนจะมืดแต่เขายังมอง
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ