6 – ก็แค่กินข้าว
ต้นแขนเล็กถูกรวบด้วยมือสีเข้มแกร่งจนดวงฤทัยต้องก้มลงมอง เขาพาเดินไปช้า ๆ
“นี่คุณปล่อยได้แล้ว”
“หิวข้าวไม่ใช่หรือไง กำลังจะพาไปกินข้าว”
“หยุดเลยนะ! ฉันไปเองได้ปล่อย!”
คนร่างเล็กยื้อแขนไว้แต่ต้านทานแรงชายไม่ได้ เขายังพาเธอเดินเลาะออกไปกระทั่งถึงมุมมืดลานจอดรถ
“นี่จะบ้าเหรอไง จะพาฉันไปไหน เด็กฉันรออยู่”
ดวงฤทัยตกใจมองรถหรูที่มีคนรออยู่และเปิดประตูออกโดยเร็วเมื่อเขาพาเธอมาถึง มือแกร่งจับร่างเล็กของเธอยัดเข้าไปในรถแล้วก้มศีรษะลงมุดตามเข้ามา
ปัง!
เธอรีบขยับตัวกระเถิบไปอีกข้างแต่เขายังดึงไว้แล้วยัดขวดน้ำใส่มือเธอ
“ดื่มก่อนจะได้ไม่เป็นลม”
ดวงฤทัยมองขวดน้ำในมือเหลือบสายตามองคนตรงหน้าอย่างเคลือบแคลงใจ แต่เพราะไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายชั่วโมงจึงยกขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหาย ตายังชำเลืองเห็นเขากำลังควานหาบางอย่างหยิบออกมายื่นให้เธอ
“กินอันนี้ก่อน เดี๋ยวจะพาไปกินข้าว”
ดวงตากลมโตหวานซึ้งมองลูกอมรสสตรอเบอรี่ยี่ห้อดังแกะถุงหุ้มพลาสติกออกแล้วบนนิ้วแกร่ง
“ทำไม ไม่กล้าเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก ยังไม่คิดทำอะไรตอนนี้”
มุมปากของคนร่างสูงยังยักขึ้นในมุมเดิมด้านซ้าย หลุบตามองลูกอมอีกครั้งก่อนตัดสินใจรับไว้เอาเข้าปากแล้วพบว่าอาการวิงเวียนเมื่อสักครู่จางลงไปมากทันที
“จะทรมานตัวเองไปทำไม นี่กินข้าวมื้อสุดท้ายกี่โมง”
“บ่ายโมง”
เสียงหวานนุ่มเอ่ยตอบแผ่วเบารีบเสมองนอกตัวรถ ซึ่งกำลังเลี้ยวเข้าโรงแรมชื่อดังที่เธอนัดคุยธุระพรุ่งนี้
“พามาที่นี่ทำไม”
“พูดไม่มีหางเสียงเลยน้องดวง”
“ไม่จำเป็นต้องพูดมีหางเสียง แล้วอย่ามาเรียกฉันว่าน้องดวง”
แว่วเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอมาจากเบาะคนขับ เหนือหัวจึงใช้เท้ากระทุ้งไปหนึ่งครั้ง
“คุณยังไม่ได้ตอบเลยว่าพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“พามากินข้าว ลงเถอะ”
แม่เลี้ยงสาวมองหน้าคมเข้มอย่างไม่ไว้ใจแต่ยินยอมลงจากรถ ใจคิดเพียงว่านอกรถคงปลอดภัยกว่า รีบลอบสูดลมหายใจเอาไอเย็นทันทีหลังจากที่โดนรังสีไอร้อนของคนร่างสูงปกคลุมไว้มาเป็นเวลาหนึ่ง
โรงแรมหรูระดับห้าดาวในค่ำคืนนี้ประดับตกแต่งอย่างคนเมืองในยี่เป็ง โคมไฟทำมือจำนวนมากสีสันสดใสแขวนอยู่ตามจุดต่าง ๆ เป็นริ้วยาวตลอดทางเดินเข้า
เหนือหัวเดินนำหน้าพาขึ้นโถงหน้าทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ในใจพลันนึกเสียดายถ้าพรุ่งนี้เธอต้องทิ้งนัดสำคัญเพราะไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเขา
ร่างอรชรในชุดล้านนาเต็มยศเดินตามร่างสูงใหญ่กระทั่งเข้าไปในสั่วนของห้องอาหาร พานั่งหลบฉากด้านใน แล้วเรียกพนักงานมารับอาหาร
“น้องดวงทานอะไรดี หรือง่าย ๆ อย่างสลัด ไม่หนักท้อง”
สายตาหวั่นเกรงคนรู้จักยังกวาดตามองภายในห้องอาหารลอบถอนหายใจก่อนพยักหน้ารับเห็นด้วยอย่างหน้าบึ้ง
“คุณไม่ควรพาฉันออกมาข้างนอก ว่ากันตามตรงคุณไม่ควรทำว่ารู้จักฉันตั้งแต่แรก”
“ทำไม?”
สีหน้าคมเข้มจ้องตอบด้วยดวงตาสงสัย แต่ดวงฤทัยหยุดพูดเสียก่อนเมื่อบริกรเดินเข้ามาเสิร์ฟไวน์แดงสองแก้ว
“ก็เพราะเมืองนี้มันเล็กน่ะสิ แล้วฉันเพิ่งเป็นหม้าย”
“ดวงไม่ได้เพิ่งเป็นหม้าย พ่อเลี้ยงน่ะ ตายมาเกือบปีแล้ว”
ตากวางใสหรี่ลงหาเรื่องขณะมองคนตรงหน้ายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์ แล้วเพ่งพิจารณาชายร่างโต เขาเหมือนเดิมแทบทุกอย่างยกเว้นร่างหนาขึ้นและกร้าวกระด้างจนคล้ายดุดัน เสียงทุ้มต่ำหนักแน่นอย่างคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และสิ่งนี้แล่ะคือสิ่งที่ทำให้เธอหวั่นใจ
ค่ำนี้เขาสวมชุดคล้ายวันที่เจอกันครั้งแรก เสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนกระดุมหน้ายาว กางเกงยีนส์สีเข้ม ผมยังดำมันดกหนาราวขนอีกา ไม่สิ! ผู้ชายตรงหน้าไม่อาจเปรียบเทียบกับสัตว์ชนิดใดได้นอกจากเสือร้าย
ผมดำยาวระต้นคอใส่น้ำมันหวีเรียบเสยไปด้านหลังเน้นศีรษะได้รูป ริมฝีปากบนหนาแต่ดูแล้วไม่ขัดตาซ้ำส่งให้หน้าแกร่งยิ่งดูเป็นชายชาตรี
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไมใบหน้าเขาถึงได้ดูแปลกไปจากคนทั่วไป นั่นเพราะเขามีเชื้อสายของคนไทใหญ่รัฐฉานของมารดา
“ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ คุณไม่ควรมายุ่งกับฉัน แต่เอะ! คุณรู้เรื่องของฉันได้ยังไง? คุณให้คนสืบเรื่องของฉันเหรอ!!”
“สืบมานิดหน่อย แต่ให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อพี่อยากยุ่งกับดวง ยุ่งมาก ๆ ด้วย”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะพ่อเลี้ยง!”
เสียงแหลมนุ่มพูดลอดไรฟัน มือคว้าแก้วไวน์ขึ้นดื่มระงับอารมณ์โมโหปะทุขึ้นกะทันหันทุกครั้งที่มีเขาอยู่ใกล้ ไม่ว่าเมื่อเจ็ดปีก่อนหรือเดี๋ยวนี้ เหนือหัวยังมีอิทธิพลต่อเธอไม่เปลี่ยน
“อาหารมาแล้ว ทานก่อนจะได้ไม่โมโหหิว”
ดวงฤทัยตวัดตาคมใส่ก่อนเบี่ยงกายหลบจานใหญ่ที่พนักงานนำมาวางไว้ตรงหน้า สลัดอโวคาโดปลาแซลมอนย่างเสิร์ฟมาพร้อมน้ำสลัดญี่ปุ่น เป็นสลัดของโปรดเธอ หน้างามจึงนิ่วหน้าเหลือบมองเขาอย่างตั้งคำถาม
เขารู้ได้ยังไง!! นี่สืบถึงขนาดรู้ว่าเธอกินอะไร!
แต่ในเมื่อร่างสูงตรงหน้ายังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มโดยไม่ละสายตาไปจากเธอ จึงทำให้เธอตัดสินใจรีบทานอาหารตรงหน้าให้เสร็จเรื่องแล้วกลับบ้าน หลังจากนั้นเธอกับเขาจะไม่ได้เจอกันอีก
ผิดไปจากคนตรงข้าม มือแกร่งยกไวน์ขึ้นจิบเรื่อย ๆ ระหว่างรอ ทั้งเฝ้าจับจ้องมองไม่วางตา กวาดไล้นัยน์ตาสีนิลไปบนเรือนร่างอรชรในชุดไทยล้านนาโบราณ ผ้าไหมสีแดงรัดหน้าอกอวบดันจนเนินทรวงโผล่พ้นรำไร แสงไฟสีเหลืองนวลของห้องอาหารยิ่งจับให้เธอนวลกระจ่างนัยน์ตาพร่าพราย จนเขาต้องยกไวน์ขึ้นดื่มอีกเพื่อระงับอาการกายแกร่งชูชัน
ดวงหน้างามเย้ายวนด้วยความสาวเต็มวัย ปากกระจับเชิดขึ้นยามเธอเปล่งเสียงตวาดแหลม มือยกแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วแสร้งมองไปทางอื่นลดเพดานความร้อนในกายลง จึงเห็นบอดี้การ์ดแสงทัดยืนอยู่ห่างออกไปกำลังทำหน้าตาเบิกบานผิดปกติจนเขานึกหมั่นไส้
“ฉันยอมรับว่าเราเคยชอบพอกัน”
จู่ ๆ แม่เลี้ยงสาวฝั่งตรงข้ามก็เอ่ยพูดเรื่องเก่าขึ้นมาจนเขาหันกลับไปมองด้วยความประหลาดใจ จับจ้องดวงหน้างดงามมีสีแดงระเรื่อขึ้นบางเบา มือเล็กเรียวดั่งลำเทียนรวบช้อน ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนเกือบหมดในคราวเดียว ตาคมดุจเหยี่ยวจับจ้องปฏิกิริยาของกายสาวที่แสดงออก แก้มแดงปลั่งกว่าเดิมเมื่อเติมแอลกอฮอล์ลงท้อง
“แต่นั่นมันนานมาแล้วพ่อเลี้ยง เจ็ดปี แล้วมันเป็นความสัมพันธ์ระยะสั้น ไม่น่าจะถึงสามเดือน”
7 – คำท้าจากปีศาจหน้าหล่อดวงฤทัยเงยศีรษะขึ้นจากผ้าปูโต๊ะที่เธอจ้องมองมาสักพักแล้วเพื่อเรียกความกล้า ส่งน้ำเสียงราบเรียบด้วยตาคมวาววับ ไม่ปิดบังอารม์หงุดหงิดของตนแม้แต่น้อย“ตอนนี้เรายังชอบกันอยู่”“พ่อเลี้ยง มันเป็นไปไม่ได้หรอก อย่าทำเป็นพูดเหมือนละครน้ำเน่าเลยค่ะ เจ็ดปี...มันนานมาก คุณเองคงเจอผู้หญิงสวยมาเยอะ ทำไมถึงยังอยากกลับมายุ่งเกี่ยวกับฉันค่ะ”“เจ็ดปีมันนานน่ะใช่ แต่พอเราเจอกันอีกครั้ง ดวงเองก็รู้สึกใช่ไหม เหมือนกับว่าเราเองยังชอบกันอยู่”“ไม่! ฉันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น คุณน่ะคิดเอาเองคนเดียว เฮ้อ! เอาล่ะพูดไปก็เปล่าประโยชน์ เอาเป็นว่าไปส่งฉันกลับบ้าน แล้วเราก็ไม่ต้องเจอกันอีก”เสียงหวานรีบเอ่ยขึ้นอย่างร้อนตัว เหนือหัวพูดจี้ใจดำ ขืนอยู่ใกล้เขานานกว่านี้ นัยน์ตาคมกล้าคงมองเธอออกจนทะลุปรุโปร่ง มือเล็กยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกหางตาเห็นคนร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะแล้ว กำลังเดินอ้อมมาทางเธอ“งั้นกลับกันเลย”มือใหญ่ช่วยดึงเก้าอี้ออกเมื่อดวงฤทัยยืนขึ้นอย่างสุภาพบุรุษที่เธอไม่เห็นบ่อยนัก ประคองร่างเธอห่างเล็กน้อยพาออกจากห้องอาหาร“น้องดวง!!”ร่างแกร่งสูงใหญ่ชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มของชายค
8 – เจ็ดปีเหมือนไม่ได้ห่างกันเลยเหนือหัวเอ่ยขึ้น ยังนั่งนิ่งรวบร่างอรชรไว้แนบอก การเจรจาต่อรองอยู่ในสายเลือด เขารู้ว่าจะหย่อนหรือดึงให้ตึงตรงไหน แล้วเขาจะได้ผลลัพธ์อย่างที่เขาต้องการดวงหน้าหวานซึ้งก้มศีรษะลงหลุบตามองเพียงมองปากหนาตรงหน้าที่แม้อยู่ใกล้แต่ไม่ยอมขยับ หนุ่มร่างสูงรอให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะร่วมทดลองไปเขาหรือไม่พวงแก้มเธอสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นจนร้อนจัด ตัวเขามีกลิ่นไวน์แดงรสเข้มข้น กลิ่นโคโลญจน์ราคาแพง ปะปนคละเคล้ากลิ่นบุหรี่ และไม่น่าเชื่อว่าริมฝีปากของเหนือหัวกำลังเย้ายวนใจเธอด้วยสีแดงระเรื่อจากน้ำองุ่นรสแรงดูชุ่มฉ่ำ แรงเต้นของหัวใจตรงอกแกร่งใต้ฝ่ามือเธอโหมกระหน่ำขึ้นจนเธอเองรู้สึกได้ เขาตื่นเต้นไม่แพ้เธอเช่นกันใจดวงเล็กยอมรับถึงความต้องการส่วนลึกภายใน เธออยากรู้สัมผัสนุ่มของริมฝีปากหนายามบดเบียดคลึงเคล้น จะยังก่อให้เกิดประกายไฟมอดไหม้ดั่งเดิมหรือไม่ ระยะเวลายาวนานที่ห่างกันอาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปลมหายใจของเหนือหัวกระชั้นแรงเมื่อสาวในอ้อมแขนนิ่งอย่างยอมจำนน สัญญาณทางกายของสาวร่างเล็กทำให้เขารู้ว่าเธอยินยอมร่วมทดสอบจุมพิต อ้อมแขนกำยำกระหวัดรัดร่างอ้อนแอ้นกระชั
9 - ขอเป็นแฟนแต่โดนสาวเมินใส่ดวงฤทัยดับเครื่องรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ขับเคลื่อนสี่ล้อ สูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อมองอาคารโรงแรมขนาดใหญ่ตรงหน้า กึ่งรีสอร์ตสวยงามด้วยทรงไทยล้านนาประยุกต์หลังจากเมื่อคืนนี้ผ่านพ้นในเช้าวันนี้เธอค้นพบว่า โรงแรมแห่งนี้จะเป็นกำลังสำคัญและขุมทรัพย์ที่ช่วยต่อชีวิตหล่อเลี้ยงเธอไปได้อีกหลายปี ทำอย่างไรให้โรงแรมยอมรับฟาร์มหม่อนไหมสินธุเข้าร่วมโครงการใจคาดหวังว่าชื่อเสียงของพ่อเลี้ยงนฤนารทจะยังช่วยส่งเสริมผลักดันให้เธอทำสำเร็จด้วยชื่อ แม่เลี้ยงดวงฤทัย สินธุเจริญพาณิชย์มือเรียวเล็กงดงามตัดเป็นระเบียบไร้สีแต่งแต้มหยิบเอกสารเบาะข้างแล้วก้าวลงจากรถ ยืดร่างบอบบางในชุดผ้าซิ่นไหมยกลายดอกบัวชายผ้านุ่งสีน้ำเข้มเงินสลับลายขวางด้วยสีเทาอ่อนทั่วทั้งผืน ตัวเสื้อเชิ้ตขาวลูกไม้คอเหลี่ยมแขนตุ๊กตา มวยผมขึ้นสูงเหน็บด้วยดอกพุดซ้อนสีขาวดอกใหญ่ซึ่งปลูกอยู่ที่คุ้ม ส่งกลิ่นหอมกำจายรอบตัว“สวัสดีเจ้า ยินดีต้อนรับสู่แมนสรวงบูติกโฮเท็ลเจ้า”แม่เลี้ยงสาวยิ้มพองามให้พนักงานเปิดประตูในชุดไทยล้านนาสีม่วง แล้วพาร่างเดินผ่านตรงไปยังส่วนแผนกต้อนรับ“สวัสดีเจ้า วันนี้มีอะหยังหื้อรับใช้เจ้า”“สวัสด
10 - พี่เหนือเสียงเครื่องปรับอากาศเดินเงียบ เสียงสาบเสื้อเนื้อตัวบดเบียด เสียงทอดถอนลมหายใจ และกลิ่นดอกพุดซ้อนกำจายอบอวลอยู่รอบตัว เหนือหัวเกี่ยวกระหวัดร่างงดงามของดวงฤทัยเข้าสู่วงแขน เดินหน้าดันกระทั่งเธอเลื่อนตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงาน มืออุ่นจัดหยาบกร้านอย่างน่าประหลาดดึงรั้งชายซิ่นผ้าไหมขึ้นสูงเพื่อแทรกลำตัวแกร่งเข้ากลางหว่างขา ลูบไล้สัมผัสขาเรียวงามนิ่มนวลดั่งผ้าไหมดวงฤทัยมีรสชาตินุ่มละมุนด้วยกลีบปากกระจับที่เขาคอยเฝ้าฝันถึง อีกมือทาบแผ่นหลังอ่อนโค้งดันให้เนินทรวงสล้างแนบชิดอกแกร่ง โอบรัดแน่นด้วยไฟรักลุกโชนตรึงท้ายทอยเล็กคลึงแผ่วเบาดั่งปลอบประโลมทั้งที่ริมฝีปากกำลังเรียกร้องการสนองตอบ ไต่ระดับจนถึงขีดสุด บดบังคับเปิดปากอวบอิ่มสอดแทรกลิ้นล่วงล้ำเข้าสำรวจความอ่อนนุ่มด้านใน หวานล้ำและชุ่มชื้นจูบดุดันเร่งรัดร้อนแรงดียิ่งกว่าเมื่อคืน ภายในอกแกร่งอัดแน่นต้องการสาวในอ้อมแขนกระชับวงแขนจนร่างเล็กแนบสนิทไร้ช่องว่าง ความรู้สึกรุนแรงหนักหน่วงนี้จะสุดที่ตรงใดเขาไม่อาจคาดการณ์ได้ รับรู้เพียงเวลานี้เธอทำให้กายแกร่งขับแน่นแทบระเบิดผิวเนื้อเนียนนุ่มดั่งทารกใต้มือใหญ่อุ่นร้อน ลูบไล้แผ่วเบาเชื่องช
11 – พี่ชายคนละแม่เสียงรถยนต์เลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถแต่เช้าทำให้ดวงฤทัยเองแปลกใจ เธอเพิ่งแต่งตัวเสร็จหลังจากนอนตื่นสายในวันนี้ในรอบหลายปี พาร่างบอบบางเดินออกมาจากห้องนอนจนถึงโถงกลางก็พบกับพี่พฤกษ์เข้าพอดี“ดวง”“สวัสดีค่ะพี่พฤกษ์ นั่งก่อนสิคะ”ดวงฤทัยเดินนำพฤกษ์ถึงเก้าอี้รับแขกที่ตั้งอยู่โถงทางเดินใต้หลังคาอีกฟากของบ้าน เธอไม่เจอพี่ชายต่างมารดามานานเกือบปีหลังจากที่เขามางานศพพ่อเลี้ยง สภาพตอนนั้นกับตอนนี้ผิดกันจนลิบลับพฤกษ์ อินราชา ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองดูย่ำแย่ขนาดนี้แม้ว่าหน้าตาเขายังหล่อเหมือนเดิมก็ตาม เสื้อผ้าที่สวมใส่เลือกใส่อย่างลวกๆ ไม่เข้าชุดกันทั้งมีรอยยับ ผมที่เคยตัดสั้นเรียบร้อยยาวเลยต้นคอ แต่ที่แย่กว่านั้นคงเป็นน้ำหนักที่ดูลดลงมากอาจร่วมเกือบสิบกิโลกรัม“พี่พฤกษ์ป่วยหรือเปล่าคะ พี่พฤกษ์ดูเหมือน ...”“ผอมลงใช่ไหม พี่ไม่ได้ป่วยหรอก แต่ไม่ค่อยมีเวลากินเท่าไร พี่มานี่มีเรื่องอยากจะขอร้องดวง”“ขอร้องดวง?”“ใช่ เกี่ยวกับคุ้มเจ้าจอมอิน”“คุ้มเจ้าจอมอิน?”ดวงฤทัยยังทวนคำเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ และการที่เธอทำเช่นนั้นคงทำให้พฤกษ์อารมณ์เสีย เพราะใบหน้าหล่อเหลาผู้ดีออกอาการฉุนเฉียว“พ
12 – เข้าถ้ำเสือดวงฤทัยมองสองข้างทางขณะที่แสงทัดกำลังนำเธอไปหาพ่อเลี้ยงหนุ่ม คิ้วคันศรขมวดเล็กน้อยด้วยความกังวลเพราะบอดี้การ์ดขับรถคันใหญ่ออกนอกตัวเมืองมาได้สักพักแล้ว“ฉันขอถามหน่อยนะคะ พ่อเลี้ยงให้พาไปพบที่ไหน”แสงทัดมองกระจกหลังแวบหนึ่งก่อนมองทางตรงหน้าต่อ ร่องรอยกังวลใจชัดเจนทำให้รู้ว่าเหนือหัวไม่ได้บอกแม่เลี้ยง“ไปที่บ้านพ่อเลี้ยงครับ”“บ้าน?”“คุณดวงไม่ต้องกังวลใจครับ บ้านอยู่ห่างจากเมืองเกือบสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น”สิบกิโลเมตร!! คราวนี้เธอเริ่มเห็นสองข้างทางที่บ้านเรือนเริ่มห่างกันเป็นระยะ จากนั้นรถเลี้ยวลงจากถนนใหญ่เข้าสู่ถนนสายเล็กกว่ามุ่งตรงไปยังเชิงเขาข้างหน้า แล่นไปได้ราวห้าร้อยจึงถึงรั้วใหญ่ทึบบ้านของพ่อเลี้ยงเหนือหัวเป็นดั่งบ้านเศรษฐีคนเหนือ สร้างจากไม้สักทั้งหลัง ทรงบ้านแฝดขนาดใหญ่ เสาบ้านเป็นไม้ท่อนเดียวลำใหญ่สูง หลังคาทรงจั่วตกแต่งกาแล แต่ที่ไม่เหมือนคนทั่วไปคงเป็นขนาดของบ้าน มีลานน้ำพุตรงกลางลาน แสงทัดนำไปจอดใกล้ทางขึ้นบันไดคนร่างเล็กลงจากรถอย่างหวั่นใจ แหงนดวงหน้าหวานขึ้นชั้นบนที่เปิดไฟสว่างไสว แล้วจึงสังเกตเห็นเหนือหัวยืนอยู่ตรงระเบียงมือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง
13 – ดวงจะขออะไรพี่ยอมหมดแล้วในเมื่อตัดสินใจเดินหน้าเธอไม่ควรคิดอื่นใดอีกแล้ว ร่างเล็กวางแก้วไวน์ลุกขึ้นไปหาร่างสูงใหญ่ที่นั่งรอคอยตรงเก้าอี้ตัวใหญ่ฝั่งตรงข้าม เขาจับมือเธอไว้แล้วตวัดจนร่างบางล้มลงบนตักรัดเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนี“สามเดือนมันนานเกินไป พี่รอไม่ไหว”มืออุ่นร้อนตรึงท้ายทอยเธอโน้มศีรษะลงประกบจูบเว้าวอนปนพูดด้วยเสียงกระเส่า“อืม ข้อแรก พี่ตกลง และพี่จะลดเปอร์เซ็นรายได้ในส่วนของพี่ลง”เหนือหัวจรดปากหนาลงปากกระจับอีกครั้งเมื่อพูดจบ แทะเล็มทีละนิดโดยรอบด้วยลิ้นสากแล้ววกเข้าโพรงปากดูดกลืนลิ้นเล็กซับเสียงหวานนุ่มที่ประท้วงขึ้น“อืม หวาน ข้อที่สอง อืม มันเกี่ยวกับข้อที่สาม อา”เสียงทุ้มหยุดไปเมื่อลิ้นเล็กเริ่มตอบสนองตวัดเกี่ยวกระหวัดเขาไว้ ไฟปรารถนาลุกโชนหนักกว่าเดิมส่งให้เขาบีบรอบเอวเธอแน่นขึ้น“ถ้าไม่ขายคุ้มให้พี่ พี่จะไม่รอสามเดือน อืม ดวง”คนร่างเล็กรับรู้อำนาจที่เหนือกว่าและใช้มันอย่างเต็มที่ โอบกอดโอบรอบท้ายทอยเบียดหน้าอกอวบอิ่มเข้าหาร่างแกร่งร้อน แหงนเงยดวงตารับแรงบดขยี้ของเหนือหัวไม่เกี่ยงงอนซ้ำตอบสนองเท่าที่เธอจะทำได้ เลื่อนมือเล็กลงมากลางอกเหนือหัวลูบวนเวียนจงใจเลียนแบบที่
14 – หลวงพ่อเจ้าขาเหนือหัวคล้อยร่างลงประกบปากสาวช่างเจรจา เมื่อคืนกลับมาเจอสาวน้อยนอนหลับสนิททิ้งเขาไว้ให้นอนตาค้าง“อืม เห็นไหม อืม ไม่เห็นเป็นไรเลย อืมม”“อื้อ พะ พี่เหนือหยุดก่อน”“อืม อีกนิดนะ ขออีกนิด ให้เจ้านั่นทำความรู้จักน้องสาวเสียหน่อย”ดวงฤทัยตาโตมือยันหน้าอกแต่กลายเป็นคว้าเอายอดหัวนมของเหนือหัวไว้จนชายหนุ่มด้านบนครางเบา“ถ้าขืนซนจะโดนดีเอานะน้องดวง อยู่เฉย ๆ ให้น้องชายพี่ทำความรู้จักน้องสาวของดวงสะดีดี”“อื้อ อื้อ”มือเล็กกำเนื้อหน้าอกแน่นยามร่างสูงดันกายแกร่งชิดกายสาว แม้มีกางเกงขาสั้นที่เธอหยิบมาใส่จากในตู้เมื่อคืนขวางกั้นไว้ แต่ท่อนเนื้อลุกชันอุ่นจัดจนแผ่ไอร้อนบนกายสาว ลำแขนกำยำสอดใต้ลำตัวอ่อนนุ่มเลื่อนมือลงไปใต้สะโพกเล็กผายทาบตรึงไว้ไม่ยอมให้ขยับหนีปากหนาดูดกลืนซับเสียงครางหวานแหลม ลิ้นตวัดเกี่ยวจนดวงฤทัยไม่อาจหลีกพ้นยินยอมให้เขาชิมรสชาติในโพรงปากเธอจนทั่วอกแกร่งใต้ฝ่ามือเล็กทำให้เธอรับรู้ถึงแรงรัวถี่ของหัวใจคนด้านบน เหนือหัวเลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง ความทรมานแสนหวานที่เขาจงใจทำมันยังดำเนินต่อไปบดเคล้นแก่นกายแข็งถูไถเนินอ่อนนุ่มซอกหลืบแห่งอิสตรี ขยับคลึงวนเนื้อสาวจนคว
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ