27 - ว่าที่แม่ยายกับลูกเขย
ดวงฤทัยลงจากรถของเหนือหัวหน้าคุ้มเจ้าจอมอินหลังจากนั้นผ่านไปอีกหลายวัน หน้าเง้างอนเพราะพ่อเลี้ยงหนุ่มกักเธอไว้ไม่ยอมมาส่ง แถมยังทำแบบนั้นซ้ำอีกจนกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต แต่จบท้ายเป็นต้องลงเอยบนเตียงทุกที
“คุณด๋วงปิ๊กเฮือนแล้ว”
เสียงแม่อุ๊ยคำตะโกนดีใจวิ่งอย่างหญิงชราออกมาพร้อมกับหลิน สีหน้าเป็นกังวลลูบเนื้อลูบตัว
"คุณดวงไม่อยู่ แม่อุ๊ยเป็นห่วงมากค่ะเลยโทรไปหาคุณดวงใจ”
“แล้วแม่ว่าอะไรบ้าง”
ทั้งหมดพูดไปพรางเดินขึ้นเรือน
“แม่จะไปว่าอะไรได้ ได้แต่นั่งรอลูกสาวอยู่ที่นี่”
เสียงนุ่มของดวงใจดังลงมาจากบนเรือนก่อนที่ดวงหน้าหวานคล้ายกับเธอจะโผล่ชะโงกออกมา ดวงฤทัยถึงกับสะดุ้งสุดตัวอย่างเด็กที่ทำความผิด
“แม่!!”
“แน่ล่ะ นี่แม่เอง ดวงหายไปไหนมา ทำเอาทุกคนเป็นห่วง”
สาวร่างเล็กเดินขึ้นเรือนกวักมือไล่ให้แม่อุ๊ยและหลินลงจากเรือนไปก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณแม่”
เธอรีบเข้าไปใกล้จูงมือแม่ดวงใจไปนั่งที่โต๊ะรับแขกเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ยิ้มแห้งอย่างสำนึกผิด
“ไม่มีอะไร! แต่จากที่แม่อุ๊ยเล่าให้ฟังมีคนอุ้มลูกสาวของแม่ลงจากเรือนไป นี่แม่รีบมาเลยตั้งแต่วันนั้น แต่ไร้วี่แวว ไร้ข่าวจนแม่เกือบจะไปแจ้งความ”
ดวงฤทัยก้มหน้านิ่งสำนึกผิด มือเธอเย็นเยียบ ตอนนี้เรื่องแดงขึ้นมาแล้วเธอจะบอกแม่ดีหรือเปล่าว่าได้ตกลงอะไรไว้กับพ่อเลี้ยง
“กานต์บอกว่าคนนั้นชื่อเหนือหัว”
“คะ!”
คนเป็นแม่อาบน้ำร้อนมาก่อน เธอเลี้ยงลูกสาวมาตั้งแต่เด็ก รู้จักดวงฤทัยดีเสียยิ่งกว่าตัวหญิงสาวรู้จักตัวเองเสียอีก
“ลูกเคยบอกแม่ว่า เหนือหัวเป็นเจ้าของโรงแรมที่ส่งนักท่องเที่ยวมาให้เรา เลยทำให้แม่ไม่ไปแจ้งความ รอฟังความจากลูกเสียก่อน”
“คือว่า คือว่า”
“ถ้าเขาทำให้ลูกของแม่เสียหาย แม่ก็จำเป็นต้องไปพูดกับเจ้ายิ่ง”
“แม่คะ แม่ ไปกันใหญ่แล้วนะคะ ลูกอายุยี่สิบห้าปีแล้วนะคะ และยังเป็นหม้าย ถ้าเขาทำให้ลูกเสียหาย ลูกไม่มีอะไรให้เสียหายแล้วนะคะแม่!!”
ดวงใจนั่งเงียบมองหน้าลูกสาว ใบหน้าเธอเรียบเฉยแต่ภายในครุ่นคิดหนักหน่วง ตั้งแต่ดวงฤทัยเป็นสาวได้ตกลงใจแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อเพื่อหลบเลี่ยงบ้านใหญ่ แลกกับคุ้มเจ้าจอมอิน เธอได้แต่ปล่อยให้ลูกสาวต้องยอมทน ยอมเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อเธอ
“ดวง ทั้งหมดอาจเป็นความผิดของแม่ ถ้าลูกกับเขารักกัน ชอบพอกัน แม่ก็ไม่อาจขัดขวางได้ และยิ่งเป็นความสุขของลูก แม่จะยิ่งยินดี”
ลูกสาวแสนดีขยับเข้าไปใกล้กุมมือแม่ไว้ลูบปลอบใจเบา ๆ
“แม่ค่ะ ลูกกับเขา พี่เหนือเคยรู้จักกันมาก่อน”
เธอสังเกตแววตาแปลกประหลาดใจของแม่เมื่อเธอเอ่ยขึ้น
“แม่จำคนที่ชอบมาเรียกลูกตอนกลางคืนดึก ๆ ได้ไหมคะ เมื่อเจ็ดปีก่อน จนแม่ต้องออกมาว่า”
ดวงใจพยักหน้ารับหงึก ๆ ก่อนจะตาโต
“ใช่ค่ะ คนนั่นล่ะค่ะ เขาขอลูกเป็นแฟน ซึ่งลูกตอบตกลงไปแล้ว แม่ไม่ว่าอะไรดวงใช่ไหมคะ”
ดวงใจส่ายหน้า ในหัวยังคิดคำพูดไม่ออกเพราะเธอเองก็เพิ่งจะคิดถึงคน ๆ นี้ไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนว่าอยากให้ลูกสาวเธอมีความสุขเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อน
“แต่การคบกันก็ไม่แน่ไม่นอนนะคะ ฉะนั้นคุณแม่เองก็อย่าคาดหวังว่าเราจะลงเอยด้วยดี”
เธอรีบเอ่ยบอกมารดากลัวว่าท่านจะมีความหวังขึ้นมา อีกอย่างเป็นการเตือนตัวเองในใจ เหนือหัวถึงแม้ว่าเป็นผู้ชายเข้มแข็งแน่วแน่เอาจริงเอาจัง รู้ใจตัวเองเป็นอย่างดีว่าต้องการสิ่งใดและมุ่งมั่นที่จะได้ดั่งต้องการ แต่ความต้องการย่อมมีวันจืดจาง เธอเข้าใจเรื่องนั้นดีอย่างที่พ่อของเธอเคยเป็นมาก่อน
“เย็นนี้ชวนเขามาทานข้าวที่บ้านเราสิลูก แม่จะเป็นคนตัดสินเองว่าควรจะคาดหวังหรือไม่”
สาวร่างเล็กชะงักไปนิดก่อนจะยิ้มอ่อน
“หนูไม่แน่ใจว่าเขาจะว่างหรือเปล่านะคะ”
“ลองดูสิลูก บอกเขาว่าแม่อยากทานข้าวด้วยสักมื้อ”
ดวงฤทัยพยักหน้ารับช้า ๆ ดวงหน้างามไม่แน่ใจเท่าไร แต่เธอก็จะลองดูว่าเขาจะมาไหม
“คุณดวงคะ คุณดวง มากันแล้วค่ะ”
ดวงฤทัยรีบเดินแกมวิ่งออกมายังชานเรือนด้วยความเร็วอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน มองรถหรูจอดลงยังลานบ้านขนาดเล็กใต้ต้นคูณ ร่างสูงลงจากรถด้วยชุดสูทเรียบร้อยสีเข้มผูกไท แม้สีหน้าเรียบนิ่งแต่มีแววประหม่าเล็กน้อย เขาเดินมาตามทางพื้นคอนกรีตที่มีต้นทองอุไรสีเหลืองอร่ามออกดอกตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวที่สีสดใสเป็นพิเศษ
หน้าเข้มเงยขึ้นมองมาบนเรือนเห็นสาวร่างเล็กเปลี่ยนชุดใส่ผ้าซิ่นผ้าฝ้ายสีเหลืองคาดส้มอ่อน เสื้อคอเหลี่ยมสีครีมปล่อยชายระบายลูกไม้เกล้ารวบผมเสียบด้วยปิ่นเหมือนเคย
เรือนหลังนี้ไม่สูงมากนักเหมือนเรือนของเขา ใต้ถุนบ้านเตี้ยแต่ต่อเติมทำเป็นครัวหลักและเขาเห็นหญิงชรากับเด็กสาวคนเดิมยืนรออยู่ตรงใต้ถุนข้างบันได มองมาทางเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เสียงเต้นหัวใจโครมครามในอกขณะที่ถอดรองเท้าเดินขึ้นบ้านจนถึงร่างของดวงฤทัย สาวร่างเล็กที่ยืนรอรับเขาอยู่ดวงหน้าแก้มแดงปลั่ง เขายิ้มให้เธออ่อนโยนลงเตรียมยกมือขึ้นปัดลูกผมแต่พลันหางตาเห็นหญิงสาวอีกคนละม้ายคล้ายคลึงดวงฤทัยแต่แก่กว่าเข้าวัยกลางคน จึงละมือออกมา
“สวัสดีครับ ผมเหนือหัว”
“ไหว้พระเถอะจ๊ะ มาเถอะ เด็ก ๆ ตั้งกับข้าวแล้ว ไปทานกันเลย”
ดวงใจเดินนำไปยังโต๊ะทานอาหารของเรือนแบบเตี้ยฝั่งบ้านแฝดด้านตะวันตกข้างบนเติ๋นยกพื้น
ตรงกลางเป็นกับข้าวเหนือน้ำพริกหนุ่มผักสด แกงง่าย ๆ สองสามอย่างเท่านั้น เขาก้าวขึ้นดึงกางเกงเล็กน้อยก่อนนั่งขัดสมาธิกับพื้นเรือนไม้
“เราทานง่าย ๆ หวังว่าพ่อเลี้ยงจะไม่รังเกียจ”
“ไม่เลยครับ ผมเป็นคนทานง่าย อะไรก็ทานได้ครับ”
“ดีค่ะ ทานเลยค่ะ”
เหนือหัวเหลือบมองดวงฤทัยที่รินน้ำใส่แก้ว รอจนคุณดวงใจเริ่มตักอาหารเขาจึงเริ่มจับช้อนขึ้นมาตักกับข้าวให้ดวงฤทัยก่อน
“ดวงตักเองได้ พี่เหนือทานเถอะค่ะ”
เขายิ้มเล็กน้อยไม่พูดอะไร อาหารรสมือของคนบ้านนี้อร่อยจนเขาทานไปอีกหลายคำ
“เห็นดวงเล่าให้ฟังว่าพ่อเลี้ยงเพิ่งกลับมาซื้อโรงแรม ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงเคยอยู่ที่ไหนมาก่อนคะ”
“แม่!”
ดวงใจไม่ได้หันไปมองลูกสาวที่ส่งเสียงเล็ก ๆ ห้ามปรามกับมองตรงไปยังคนร่างใหญ่ที่วางตัวได้เหมาะสม เขาฟังนิ่งไม่ได้ดูมีท่าทีตกใจทั้งยังยิ้มน้อย ๆ ให้อีกด้วย
“ผมมาจากรัฐฉาน ที่จริงผมเกิดที่ไทยนี้แล่ะครับ แต่หลังจากเกิดได้ไม่นานพ่อกับแม่ก็พากลับรัฐฉานแล้วโตที่นั่น จะมาเมืองไทยบ้างก็บางครั้ง ปีหนึ่งไม่กี่หน”
ดวงฤทัยเอียงหน้ามองอย่างอยากรู้เหมือนกัน เขาไม่เคยเล่าให้เธอฟังเรื่องครอบครัวที่บ้านมาก่อน
“แล้วอยู่โน้นทำอะไร ทำไมถึงได้ร่ำรวยมีเงินทองมาซื้อโรงแรมตั้งมากมาย”
“ไม่มากหรอกครับคุณน้า แค่สามแห่งเท่านั้น คุณพ่อผมเป็นแพทย์อาสา ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้านธรรมดา ไม่ได้มีอะไร ครอบครัวของเราก็ธรรมดาเรียบง่ายเหมือนที่นี่ แต่พอดีผมได้รู้จักคน ๆ หนึ่งทำให้ร่วมลงทุนเหมืองพลอย จึงพอมีกำไรเหลือมาทำธุรกิจอื่นบ้างก็เท่านั้นครับ”
ดวงใจพยักหน้ารับพออกพอใจ พ่อเลี้ยงเล่าตรงไปตรงมาฟังแล้วไม่มีตุกติก
“อ้อ อีกเรื่อง น้าอยากรู้ อย่าหาว่าน้าสอดรู้สอดเห็นเลยนะ เมื่อเจ็ดปีก่อน เป็นคุณใช่ไหมที่มาติดพันลูกดวง”
เหนือหัวเบือนหน้าไปมองดวงฤทัยที่ก้มหน้านิ่งแล้วคราวนี้ก่อนเอี้ยวหน้ากลับไปยังหญิงสูงวัยกว่าแล้วยิ้มน้อย ๆ
“ครับ ผมเอง”
“แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงหายไป”
“ตอนนั้นที่บ้านมีเรื่องครับคุณน้า คุณพ่อเข้าไปอาสาช่วยเหลือเหมือนเคยแต่ติดไข้ป่าไม่สามารถออกมาได้ เพราะหมู่บ้านกันดาลไม่มีทางให้รถเข้าออกนอกจากเดินเท้า กว่าจะพาท่านออกมาได้กินเวลาเกือบอาทิตย์ แต่ไม่ทันกาลอยู่ดีครับ หมอไม่สามารถยื้อชีวิตคุณพ่อไว้ได้”
สาวร่างเล็กหันกลับไปมองแปลกประหลาดใจ เธอเพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกันจึงเอื้อมมือใต้โต๊ะไปบีบต้นขาเขาจนชายหนุ่มต้องเหลียวมามอง แม้ว่าไม่มีความเสียใจปรากฎบนใบหน้าแต่ดวงตาคมกล้าหม่นลงไปจากเดิม
“น้าเสียใจด้วยนะ น้าไม่ทราบมาก่อนเลยถามออกไป แล้วเจ้ายิ่งเขาว่าอย่างไรบ้าง”
เหนือหัวสะบัดหน้าเงยขึ้นมองตรง ๆ ดวงตาคมกริบกระด้างเล็กน้อยและพลันหายไปในพริบตา แต่ไม่พ้นการสังเกตของคนสูงวัยกว่า
“เจ้ายิ่งไม่ว่าอย่างไรครับ เราไม่ค่อยได้เจอกัน”
เสียงเข้มพื้นเสียงแข็งเล็กน้อยทำให้ดวงใจสะกิดในใจว่าสองปู่หลานคงไม่ถูกกันเท่าไร แต่ด้วยเหตุผลใดคงต้องรอดูต่อไป
“ทานข้าวเถอะจ๊ะ น้าไม่กวนแล้ว ประเดี๋ยวมีผลไม้ล้างปาก ที่บ้านไม่ค่อยทำของหวาน ชอบทานเป็นผลไม้สดมากกว่า”
“ไม่กวนหรอกครับคุณน้า ถามมาได้เลยครับ”
เหนือหัวรู้สึกตัวว่าคงแสดงกิริยาแข็งกระด้างออกไป ทุกครั้งที่นึกถึงปู่เขามักเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง และยิ่งการตายของพ่อยิ่งทำให้เขาไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนบ้านนั้น ถ้าไม่เป็นเพราะปู่ไม่ยอมรับแม่ พ่อของเขาคงไม่ไปอยู่รัฐฉาน
เอี้ยวหน้าเข้มไปมองสาวร่างน้อยด้านข้าง เอี้ยวหน้ามาทางเขาพอดี ดวงหน้างดงามส่งยิ้มอ่อนหวานให้เขาจนหัวใจที่เฉยชาเมื่อสักครู่หายไป ดวงตาคมกล้าอ่อนแสงลงเมื่อหัวใจชุ่มชื้นจากคนข้าง ๆ
28 - ตาแก่ เจ้ายิ่งข่าวลือสะพัดไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเมื่อคนในบ้านของพ่อเลี้ยงเหนือหัวพูดคุยถึงดวงฤทัยว่ามักมาหาพ่อเลี้ยงในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เป็นประจำเกือบสองเดือนแล้วแม้ว่าบ้านชานเมืองของพ่อเลี้ยงเองอยู่ห่างไกลจากเมือง แต่คนในบ้านบางคนยังอาศัยและเติบโตขึ้นในพื้นที่ รู้จักพ่อเลี้ยงนฤนารทและแม่เลี้ยงดวงฤทัยดี เคยเห็นหน้าเห็นตายามทั้งคู่ออกงานอย่างสม่ำเสมอในยามที่พ่อเลี้ยงมีชีวิตอยู่“เจ้ายิ่งครับ ตอนนี้มีข่าวลือหนาหูกันเรื่องเจ้าเหนือหัว”ชายชราเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นแบบรูปเล่มไม่ใหญ่นักที่มักตีพิมพ์ออกมาในช่วงต้นเดือน บอกเล่าข่าวคราวประจำเดือนของเมืองรวมไปถึงธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีโฆษณามากไปเสียหน่อย เขาให้คนไปหามาเพราะอยากรู้ว่ามีข่าวเรื่องหลานชายของเขาบ้างหรือเปล่า ซึ่งในช่วงหลัง ๆ มานี้แทบไม่มีเลย“เรื่องอะไร?”มือเหี่ยวย่นปิดหนังสือพิมพ์เอนกายบนเก้าอี้หวายแบบเอนหลังได้ขาโค้งครึ่งวงกลมจนสามารถเอนกายเป็นเก้าอี้นอนได้ในคราวเดียวกัน“เจ้ามีแฟนแล้วครับ”“ฮะ!! ใครกัน ใครกัน”อารามตื่นเต้นทำให้ชายชราดีดตัวลุกขึ้นจ้องไปยังชายรับใช้คนสนิทที่เป็นดั่งเลขานุการส่วนต
29 - สัญญาบ้านหลังใหญ่อย่างคฤหาสน์ของพ่อเลี้ยงเมืองเหนือปรากฎตรงหน้าเจ้ายิ่ง ดูโอ่อ่าสมมหาเศรษฐีแต่ไร้ซึ่งรสนิยมด้วยสีสันและรูปทรงแบบสมัยใหม่ผสมผสานยุโรป ดั่งต้องการประกาศอวดความร่ำรวยที่ตนมีเจ้ายิ่งลงจากรถตรงชานบันไดกว้างใหญ่ยาวประมาณยี่สิบคนยืนต่อกันยังมีที่เหลือเฟือ ก้าวขึ้นบันไดหินแกรนิตนำเข้าจากอินเดีย“เชิญทางนี้ค่ะ”แม่บ้านแต่งตัวสมัยใหม่แต่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเชิญให้ชายชราเดินตามไปทางห้องนั่งเล่นของบ้านตกแต่งสไตล์ยุโปรตะวันตกโบราณด้วยผ้าม่านหนาหนักสีแดงเลือดหมูห้อยระย้าขลิบทอง และยังเก้าอี้สีเหลืองอีกจนเจ้ายิ่งมองแล้วเวียนนัยน์ตา“ประเดี๋ยวพ่อเลี้ยงจะมาค่ะ ท่านอยู่ในห้องทำงาน”“ขอบใจ”เสียงไว้ตัวของเจ้ายิ่งเอ่ยขึ้นมือกำไม้เท้าแน่น มองตรงไปข้างหน้าไม่วอกแวกเหลียวดูห้องที่ตกแต่งราคาแพงแต่ไร้รสนิยมจวบจนเวลาผ่านไปสักพักเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังมาตามโถงจึงทำให้เจ้ายิ่งเอี้ยวหน้าไปมอง เห็นชายหนุ่มสูงใหญ่หน้าตาดีเดินเข้ามา“สวัสดีครับเจ้ายิ่ง”เด็กหนุ่มกว่ายกมือไหว้อย่างรู้กาลเทศะพร้อมนั่งลงบนโซฟาใกล้กันตัวใหญ่ยาว มองหน้าเจ้ายิ่งแววตาสงสัย“สวัสดีพ่อเลี้ยงนฤเบศร์”“ท่านมาถึงบ้านผม
30 – ดวงใจของเหนือหัวอกแกร่งกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะหายใจถี่รัวหลังจากล้มตัวลงนอนข้าง แผ่นหลังบอบบางชื้นเหงื่อยังสั่นสะเทือนจากแรงอารมณ์ยามสุขสมเหนือหัวตะแคงตัวเอื้อมมือลูบแผ่นหลังใช้ข้อนิ้วไล้ไปตามร่องโน้มหน้าลงพรมจูบลาดไหล่ วันนี้ดวงฤทัยแปลกใจจนเขาเองรู้สึกได้ มีบางอย่างรบกวนจิตใจของหญิงสาวร่างเล็ก แม้ว่าเธอตอบสนองไฟพิศวาสร้อนแรงดั่งเช่นเคย หากแต่ดวงตากลมโตจดจ้องเขาอย่างโหยหา“เป็นอะไรไปคนดี”หน้างามนอนหันหน้าไปอีกด้านคว่ำตัวจากท่าเดิมเมื่อครั้งสุดท้ายที่คนร่างโตจัดแจงให้เธอทำตามเพื่อรับแรงกระแทกโหมกระหน่ำอย่างตามใจ เธอนอนลืมตามองไปยังพื้นห้อง เสื้อผ้าถูกโยนขว้างลงพื้นเกลื่อนกราด“เปล่าคะ”“ไหน หันมานี่สิ”มือใหญ่จับไหล่เธอพลิกตัวกลับมาหา เขาสังเกตจดจ้องเธอด้วยตาคมกริบเสาะลึกลงไปข้างในจิตใจ“เปล่าจริง ๆ ค่ะพี่เหนือ”เสียงหวานปฏิเสธไม่ยอมสบตาหากแต่ใช้ฝ่ามือเล็กลูบแผ่นอกเล่น นิ้วเล็กชอนไชเข้ากลุ่มไรขนบางเบาตรงหน้าอก“วันนี้ดวงแปลกไป มีเรื่องกังวลใจอะไรบอกพี่สิ เรื่องที่ฟาร์มหรือเปล่า”เธอมุดหน้าซบอกแกร่งส่ายหน้าน้อย ๆ เป็นเชิงปฏิเสธ“ดวงอาจจะเหนื่อยมากไปหน่อยค่ะ”“แล้วทำไมไม่พักอยู
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่
33- เป็นของพี่เหนือ“ว่าไงนะ!”“ครับ เมื่อคืนนี้เจ้าเหนือหัวอาละวาดกลางงานแสดงสินค้าจังหวัด ลงไปต่อยจนคลุกฝุ่นตลบกับพ่อเลี้ยงนฤเบศร์เรื่องแย่งคุณดวงฤทัย เห็นว่าเจ้าเหนือหัวอาการหนักพอดูครับ”ป้าบ!!เจ้ายิ่งตีเข่าใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน“นั่นปะไร ข้าว่าแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนไม่ดี”“ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดน่ะสิครับ คุณดวงแกไปเอาน้ำเย็นสาดไปบนหลังเจ้าเหนือด้วยครับ แล้วแสงทัดก็มาลากเจ้าเหนือออกไป”“ถึงยังไงก็ไม่ดี นี่เหนือหัวหลานชายฉันเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”“คงไม่เท่าไรครับ นี่ผมส่งยาไปให้ที่บ้านใหญ่แล้ว แต่เห็นว่าเจ้าเหนือไม่กลับไปบ้านชานเมืองมาร่วมสองอาทิตย์ เห็นว่าโกรธกันกับคุณดวง เด็กที่เรือนยังเล่าอีกว่าครั้งล่าสุดคือวันที่เจ้าเหนือมาหาคุณท่านให้ช่วยไปสู่ขอนั่น เป็นวันเดียวกับที่เห็นคุณดวงร้องไห้ขับรถออกจากบ้านไปครับ และเธอก็ไม่มาที่เรือนอีกเลย”เจ้ายิ่งชะงักไปเมื่อได้ยิน เด็กสาวคนนั้นทะเลาะกับเหนือหัวแต่เหตุไฉนถึงเป็นฝ่ายร้องไห้ออกไป แทนที่จะเป็นเหนือหัวอกหัก“ผมว่าเจ้ายิ่งอาจเข้าใจผิดก็เป็นได้นะครับ ดูแล้วคุณดวงเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน ถ้าจะเ
32 - ออกอาการอยากใช้แรง“อ้าว ๆ ระวังหน่อยสิ ค่อย ๆ ยก”ดวงใจรีบร้องบอกคนงานขณะกำลังยกลังไม้บรรจุผ้าไหมเตรียมเข้าไปร่วมงานในจังหวัดช่วงเย็น แหงนหน้ามองไปทางห้องนอนของลูกสาวพลางถอนหายใจตัวเธอเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาว สองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ดวงฤทัยออกจากบ้านไปหลังจากนฤเบศร์มาหาด้วยใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่พอกลับมาอีกครั้งดวงตาแดงก่ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอปล่อยให้ลูกสาวอยู่คนเดียวใช้เวลาทบทวนความคิดความรู้สึกอยู่สองสามวัน จึงเอ่ยปากถาม แต่ดวงฤทัยยังไม่ยอมพูด บอกเพียงแค่ว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย“คุณด๋วงใจเจ้า หื้อเอาอันนี้ด้วยแม่นก๊ะ”เธอหันหน้ากลับไปทางคนงานหญิงในฟาร์มมองผ้าซิ่นราคาแพงทำจากไหมย้อมสีธรรมชาติทอประณีตยกลายดอกบัวริมปลาย“ใช่ ๆ ผืนนี้สำคัญมาก ระวังด้วยนะ”“เจ้า”ดวงใจมองไปข้างบนบ้านอีกครั้งขมวดคิ้วกังวลใจ จนเห็นร่างบางลงจากเรือนแม้ว่าหน้าตาหมองคล้ำแต่ดูดีกว่าหลายวันก่อน“มาแล้ว เข้าเมืองเลยหรือเปล่าลูก”“ค่ะแม่”น้ำเสียงอ่อนระโหยเดินพาร่าอ่อนแรงไปยังรถกระบะคันเดิมที่ใช้ประจำ ยืนรอกระทั่งคนงานยกของขึ้นรถจนเสร็จ“แล้วใครจะช่วยลูกขนลงจากรถ”“มีคนในง
31 – รักพี่ไหมคนดี 18+กว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบเกือบค่ำเพราะต้องแวะเอาของที่โรงแรม พ่อเลี้ยงเหนือหัวเดินย่ำไปบนชานเรือนแอบย่องเข้าไปในห้อง มองหญิงสาวหลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนยังอยู่ในชุดเดิมเตียงยุบตัวลงเมื่อร่างใหญ่นั่งขอบเตียงขยับไปใกล้ ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขารู้ว่าเธอหลับสนิทจริง ๆ จึงเอนกายลงนอนข้าง ๆ โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วใช้หน้าซุกลงไป“อื้อ พี่เหนือกลับมาแล้ว”เสียงงัวเงียแหบนิด ๆ ฟังแล้วเหนือหัวรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจ เขาโน้มหน้าลงจูบปากกระจับอ่อนหวานเป็นพักกว่าจะยอมปล่อย“หิวไหมคะ”“ยัง หิวอย่างอื่นมากกว่า”“อื้อ เดี๋ยวเถอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ดวงหิวแล้วนะ”“เพิ่งตื่นแท้ ๆ ทำไมถึงหิวแล้ว”เหนือหัวยังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่อุ่นล้วงเข้าไปในเสื้อกอบกุมทรวงอกอิ่มคลึงเบา ๆ จนกายสาวอ่อนระทวย“พี่เหนือ!”“ก่อนนะ แล้วค่อยกินข้าว พี่อยากแล้ว”ความเร็วในการถอดเสื้อของเหนือหัวรวดเร็วจนเธอแปลกประหลาดใจ เขาดึงเสื้อเธอออกจากตัวตามด้วยกางเกงไม่เว้นจังหวะแม้แต่น้อย“พี่เหนือ รีบเหรอคะ”“ใช่ พี่รีบ พี่รอไม่ไหวแล้วดวง อยากเข้าแย่แล้ว เห็นไหม”เหนือหัวจับมือของดวงฤทัยขึ้นมาจับกายแกร่งแข็งชัน ครางลึกในลำคอ