เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมา
ชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเอง
ความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุม
เจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท้อน ใบหน้าสวยที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยความสดใส บัดนี้กลับถูกความเศร้าและความทุกข์ระทมครอบงำ ความแค้นในใจซ้อนทับกับความรักที่เธอยังมีให้พ่อ...ความรักที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขาให้พ้นจากวิกฤตนี้ แต่ทว่าความเกลียดชังต่อการตัดสินใจของเขาก็ประทับอยู่ในใจเช่นกัน พ่อเลือกที่จะนำเธอมาใช้เพื่อชดใช้หนี้เหมือนสินค้าชิ้นหนึ่งโดยไร้ทางเลือก
และเมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับธนา หัวใจของเจนก็เหมือนถูกฉีกออก ราวกับว่านี่คือบททดสอบที่จะเปลี่ยนแปลงเธอไปตลอดกาล...
พ่อ: (สายตาหม่นหมอง น้ำเสียงสั่นไหว) "พ่อ...พ่อขอโทษนะเจน พ่อทำให้ลูกต้องมาเจออะไรแบบนี้...พ่อมันแย่เอง ที่พ่ายแพ้ให้กับการพนันจนไม่มีอะไรเหลือ แต่...มันไม่มีทางออกแล้วจริงๆ"
เจน: (น้ำเสียงตัดพ้อ น้ำตาคลอ) "พ่อ...พ่อรู้ตัวบ้างไหมว่าพ่อทำอะไรอยู่? พ่อกำลังจะส่งหนูไปอยู่กับคนแปลกหน้า แค่เพราะหนี้พนันเนี่ยนะ? พ่อคิดบ้างไหมว่า...หนูรู้สึกยังไง?"
พ่อ: (ก้มหน้า ลมหายใจหนัก) "พ่อรู้...พ่อคิดทุกคืนทุกวัน มันทำให้พ่อแทบขาดใจ แต่พ่อ...พ่อไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ ถ้าต้องสูญเสียลูกไป...พ่อก็คงไม่มีแรงหายใจต่อไปแล้ว..."
เจน: (กัดฟัน พยายามควบคุมน้ำตา) "แต่สิ่งที่พ่อทำ มันก็เหมือนพ่อส่งหนูไปให้คนอื่นไปเหยียบย่ำ หนูเป็นลูกสาวของพ่อนะคะ พ่อควรจะปกป้องหนู ไม่ใช่ทำแบบนี้"
พ่อ: (น้ำตาไหล ยอมรับในความอ่อนแอ) "พ่อมันคนอ่อนแอ...ไม่มีอะไรเหลือให้หนูพึ่งพิงอีกแล้ว ถ้าพ่อไม่ทำ...พวกนั้นมันคงเอาชีวิตพ่อไปจริงๆ ลูกอาจเกลียดพ่อไปชั่วชีวิต แต่พ่อหวังว่า...ซักวันหนึ่ง ลูกจะเข้าใจว่าพ่อไม่มีทางเลือกจริงๆ"
เจน: (น้ำเสียงเศร้าปนความแค้นใจ) "หนูอยากจะเข้าใจนะพ่อ...แต่พ่อรู้ไหมว่าเจ็บแค่ไหน? ที่ต้องเสียความฝันและชีวิตทั้งหมดของตัวเองเพราะความผิดพลาดของคนที่หนูรักและเคารพที่สุดในโลก"
พ่อ: (จับมือลูกสาวแน่น สายตาเศร้า) "ถ้าพ่อสามารถแลกชีวิตตัวเองเพื่อให้ลูกได้เป็นอิสระ...พ่อคงทำไปนานแล้ว ลูกเชื่อพ่อนะ เจน...พ่อจะหาเงินคืนมาให้และพาหนูกลับมา...แค่ให้เวลา..."
เจน: (ค่อยๆ ดึงมือออก น้ำตาไหลอาบแก้ม) "มันคงสายไปแล้วล่ะค่ะพ่อ...หนูจะจำทุกคำพูดของพ่อ แต่หนูก็จะไม่ลืมความเจ็บปวดนี้ไปจนตาย"
เจนรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะพังทลายลงรอบตัวเธอ ขณะที่เธอก้าวออกจากบ้าน ความกดดันในใจเหมือนจะทำให้เธอหายใจไม่ออก สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเธอต้องหนีจากชะตากรรมที่มืดมนนี้ ก่อนที่จะถูกจับตัวไปที่คาสิโนที่พ่อเคยตกอยู่ในวังวนของมัน
ในคืนที่มืดมิด เจนพบกับพิธานเพื่อนชายคนสนิทที่เธอเคยสนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเธอ แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงเพื่อนที่เธอพึ่งพาได้ในยามวิกฤต “หนีไปด้วยกันเถอะ” พิธานพูดเสียงกระซิบ ขณะเขากำลังมองหาทางออกที่ปลอดภัย “เราจะหาทางแก้ไขทุกอย่างเอง”
เจนพยักหน้า ขณะที่ทั้งคู่เริ่มวิ่งไปตามถนนที่คุ้นเคย แต่ความคุ้นเคยกลับดูแตกต่างออกไปในเวลานี้ ความรู้สึกของการเป็นนักโทษที่หนีออกจากการควบคุมทำให้เธอต้องมองหาที่ปลอดภัยตลอดเวลา พวกเขาก้าวเท้าไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของเจนเต้นแรงจนแทบจะได้ยินเสียงตัวเอง
“พี่พิธาน... ถ้าพ่อรู้เรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้น?” เจนถามอย่างตื่นเต้น ความวิตกกังวลเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ
“ไม่ต้องห่วง” พิธานตอบเสียงมั่นใจ
ในขณะที่พวกเขาวิ่งเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เสียงรถยนต์และเสียงคนที่อยู่ห่างออกไปค่อย ๆ จางหาย เจนรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวกำลังหยุดนิ่ง พวกเขาหยุดอยู่กลางความมืด เสียงลมหายใจหนักหน่วงทำให้เจนรู้สึกถึงความตึงเครียดที่กัดกินจิตใจ
“ไปที่ไหนต่อ?” เธอถาม ขณะที่เสียงหัวใจของเธอยังคงดังในหู
“ไปที่บ้านของพี่ก่อน” พิธานพูด “ที่นั่นเราจะวางแผนว่าจะทำยังไงต่อไป”
ฐากูลคือชายคนที่ติดพนันก้อนโตและพยายามเอาลูกสาวมาขัดดอก ในช่วงแรก เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จนกระทั่งเมื่อฐากูลออกไปจากห้อง เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานและสะดุดตากับภาพของหญิงสาวที่วางอยู่บนโต๊ะ ภาพเธอคนนั้นช่างเหมือนเธอคนที่เขารักในอดีตอย่างกับฝาแฝด ความคล้ายคลึงที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวในความทรงจำที่เจ็บปวด นึกถึงเวลาที่เคยมีความสุขด้วยกัน ก่อนที่จะต้องพรากจากกันไป เขาจดจ้องภาพของหญิงสาวในมืออย่างไม่วางตา ดวงตาของเธอสะท้อนความบริสุทธิ์ที่เขาเคยเห็นในคนรักของเขา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนไฟที่ลุกโชนในใจ
“ทำไมเธอถึงเหมือนกับเธอคนนั้นได้ขนาดนี้ อย่างกับฝาแฝด?” เขาคิดในใจ ขณะที่ความรู้สึกต่างๆ เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความคิด เขาไม่เคยลืมคนรักที่จากไป แต่ตอนนี้กลับมีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในชีวิต เขารู้ว่าเขาต้องการให้เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่เพียงเพราะความงดงาม แต่ยังเป็นการเติมเต็มความว่างเปล่าที่หลงเหลืออยู่
“เธอต้องเป็นของฉัน”
เสียงในใจของเขาดังขึ้น เขาต้องการที่จะได้ครอบครองความรักที่สูญเสียไป และหญิงสาวคนนี้อาจเป็นทางออกที่เขาต้องการ เขาเริ่มวางแผนที่จะแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความรักใหม่กับเธอ
“ไม่ว่าจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไป”
เขาสั่งเสียงหนัก เมื่อภาพของเธอและคนรักเก่าผสมผสานกันในความคิด เขาตั้งใจแน่วแน่
“พาเธอมาที่นี่ให้เร็วที่สุด” เขาสั่งเสียงหนัก
“ครับ! แต่ว่า…” ลูกน้องตอบ “เธออาจจะไม่ยอมง่ายๆ”
เขายิ้มเยาะ ขณะที่ความรุนแรงในใจเริ่มเพิ่มพูน “ไม่เป็นไร ถ้าเธอไม่ยอม ฉันก็จะทำให้เธอยอม”
เสียงคำสั่งของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และความมืดที่รายล้อมอยู่รอบตัวทำให้ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวาขึ้น เขารู้ว่านี่อาจจะเป็นการเริ่มต้นของบางสิ่งที่อันตราย แต่ความปรารถนาในตัวเธอทำให้เขาหยุดไม่ได้
“เตรียมทีมให้พร้อม เราจะออกไปตามล่าเธอ” เขาพูดอย่างเด็ดขาด ก่อนที่จะหันไปมองที่รูปอีกครั้ง ใบหน้าของหญิงสาวดูงดงามและบริสุทธิ์ ราวกับว่าความสะอาดนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการแย่งชิงมาให้ได้
ในคืนที่มืดมิดนี้ เขาจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ครอบครองเธอ...
“นี่อาจจะเป็นโชคชะตาที่ฉันรอคอย” เขาคิดในใจ ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ความมุ่งมั่นของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง และในยามนี้ ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งเขาได้
การตามล่าเริ่มขึ้นแล้ว...
……………………..
ในค่ำคืนที่แสนเงียบสงบ เสียงของเครื่องบินที่บินสูงเหนือท้องฟ้าสดใสสาดส่องลงมา เขาก้าวลงจากเครื่องบินในชุดดำสนิท สายตาแสดงถึงความเด็ดขาดและเต็มไปด้วยอำนาจ ที่นั่งอยู่ในห้องพักหรูหราในกรุงเทพฯ เป็นสถานที่ที่เขาไม่ค่อยเข้ามาเยือน แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป
เมื่อลูกน้องเห็นเขาเดินเข้ามา พวกเขาต่างรู้สึกถึงความตื่นตระหนกในใจ ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เพราะเขาไม่เคยออกมาทำงานเองแบบนี้ ในอดีตเขาเคยใช้การสั่งการผ่านลูกน้องอยู่เสมอ แต่การมาที่เมืองไทยในครั้งนี้เพื่อ “รับ” ผู้หญิงคนหนึ่งทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเข้มงวดที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา
“ทุกอย่างต้องเรียบร้อย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยอำนาจ “ฉันไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาด”
“ครับนาย” ลูกน้องพยักหน้า ยังคงรู้สึกหวั่นเกรง แม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวปกติ แต่ภายในใจเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อเขารู้ว่านายของเขาไม่เคยมีความอดทนต่อความล้มเหลว
เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เมื่อหลายปีก่อนที่เขาก็มาที่นี่เพื่อรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ตอนนั้นเธอมีเสน่ห์ที่แตกต่าง เธอทำให้เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสอีกครั้ง ตอนนี้เขาตั้งใจจะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นซ้ำรอย
“จัดการเรื่องข้อมูลของเธอให้เรียบร้อย” เขาสั่ง พร้อมส่งสายตามองไปยังลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “เราจะไม่มีการกลับตัว”
คำพูดของเขาดังหนักแน่น และทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเข้มข้นยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ในใจของเขา
“เมื่อเราเจอเธอ อย่าทำให้เธอตกใจ” เขาเตือน “แต่ต้องทำให้เธอเข้าใจว่าไม่มีทางหนี”
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงปรารถนา เขาจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้ตัวเธอมา... และสิ่งที่เขาต้อง
ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืดไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้ธนาเดินเ
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย
เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร
“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ” คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนักมาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ “เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ” น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง"มาร์ค…" ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหวเมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงีย
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ธนานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคาสิโน มองออกไปที่วิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเครื่องเล่นพนันและเสียงหัวเราะของผู้คนดังอยู่ไกลๆ แต่ภายในใจเขากลับเงียบเหงาเหมือนความว่างเปล่าของชีวิต เรื่องราวในอดีตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำของเขาหลายปีก่อน เมื่อชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ธนาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า ธนาวิ่งพรวดเข้าไปในซอยเล็กๆ ของย่านมืดในปรารีส ความเจ็บแสบจากบาดแผลที่โดนเฉือนเริ่มแล่นลึก เลือดไหลซึมจากบาดแผลหลายจุด เปื้อนเสื้อผ้าจนแดงฉาน ธนาไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่สะท้านต่อความเจ็บปวด มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อในขณะที่เขาเริ่มทรุดตัวลงข้างกำแพง ด้วยแรงที่กำลังจะหมดลง เสียงฝีเท้าคนหนึ่งใกล้เข้ามา ธนาหันไปมอง เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใย “คุณ...คุณเป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเธอสั่นแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวคนนั้นชื่อ มีนา เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเคยเห็นตอนวิ่งหนีเข้ามาในย่านนี้มีนาไม่รอให้เขาตอบ