เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมา
ชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเอง
ความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุม
เจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท้อน ใบหน้าสวยที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยความสดใส บัดนี้กลับถูกความเศร้าและความทุกข์ระทมครอบงำ ความแค้นในใจซ้อนทับกับความรักที่เธอยังมีให้พ่อ...ความรักที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขาให้พ้นจากวิกฤตนี้ แต่ทว่าความเกลียดชังต่อการตัดสินใจของเขาก็ประทับอยู่ในใจเช่นกัน พ่อเลือกที่จะนำเธอมาใช้เพื่อชดใช้หนี้เหมือนสินค้าชิ้นหนึ่งโดยไร้ทางเลือก
และเมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับธนา หัวใจของเจนก็เหมือนถูกฉีกออก ราวกับว่านี่คือบททดสอบที่จะเปลี่ยนแปลงเธอไปตลอดกาล...
พ่อ: (สายตาหม่นหมอง น้ำเสียงสั่นไหว) "พ่อ...พ่อขอโทษนะเจน พ่อทำให้ลูกต้องมาเจออะไรแบบนี้...พ่อมันแย่เอง ที่พ่ายแพ้ให้กับการพนันจนไม่มีอะไรเหลือ แต่...มันไม่มีทางออกแล้วจริงๆ"
เจน: (น้ำเสียงตัดพ้อ น้ำตาคลอ) "พ่อ...พ่อรู้ตัวบ้างไหมว่าพ่อทำอะไรอยู่? พ่อกำลังจะส่งหนูไปอยู่กับคนแปลกหน้า แค่เพราะหนี้พนันเนี่ยนะ? พ่อคิดบ้างไหมว่า...หนูรู้สึกยังไง?"
พ่อ: (ก้มหน้า ลมหายใจหนัก) "พ่อรู้...พ่อคิดทุกคืนทุกวัน มันทำให้พ่อแทบขาดใจ แต่พ่อ...พ่อไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ ถ้าต้องสูญเสียลูกไป...พ่อก็คงไม่มีแรงหายใจต่อไปแล้ว..."
เจน: (กัดฟัน พยายามควบคุมน้ำตา) "แต่สิ่งที่พ่อทำ มันก็เหมือนพ่อส่งหนูไปให้คนอื่นไปเหยียบย่ำ หนูเป็นลูกสาวของพ่อนะคะ พ่อควรจะปกป้องหนู ไม่ใช่ทำแบบนี้"
พ่อ: (น้ำตาไหล ยอมรับในความอ่อนแอ) "พ่อมันคนอ่อนแอ...ไม่มีอะไรเหลือให้หนูพึ่งพิงอีกแล้ว ถ้าพ่อไม่ทำ...พวกนั้นมันคงเอาชีวิตพ่อไปจริงๆ ลูกอาจเกลียดพ่อไปชั่วชีวิต แต่พ่อหวังว่า...ซักวันหนึ่ง ลูกจะเข้าใจว่าพ่อไม่มีทางเลือกจริงๆ"
เจน: (น้ำเสียงเศร้าปนความแค้นใจ) "หนูอยากจะเข้าใจนะพ่อ...แต่พ่อรู้ไหมว่าเจ็บแค่ไหน? ที่ต้องเสียความฝันและชีวิตทั้งหมดของตัวเองเพราะความผิดพลาดของคนที่หนูรักและเคารพที่สุดในโลก"
พ่อ: (จับมือลูกสาวแน่น สายตาเศร้า) "ถ้าพ่อสามารถแลกชีวิตตัวเองเพื่อให้ลูกได้เป็นอิสระ...พ่อคงทำไปนานแล้ว ลูกเชื่อพ่อนะ เจน...พ่อจะหาเงินคืนมาให้และพาหนูกลับมา...แค่ให้เวลา..."
เจน: (ค่อยๆ ดึงมือออก น้ำตาไหลอาบแก้ม) "มันคงสายไปแล้วล่ะค่ะพ่อ...หนูจะจำทุกคำพูดของพ่อ แต่หนูก็จะไม่ลืมความเจ็บปวดนี้ไปจนตาย"
เจนรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะพังทลายลงรอบตัวเธอ ขณะที่เธอก้าวออกจากบ้าน ความกดดันในใจเหมือนจะทำให้เธอหายใจไม่ออก สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเธอต้องหนีจากชะตากรรมที่มืดมนนี้ ก่อนที่จะถูกจับตัวไปที่คาสิโนที่พ่อเคยตกอยู่ในวังวนของมัน
ในคืนที่มืดมิด เจนพบกับพิธานเพื่อนชายคนสนิทที่เธอเคยสนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเธอ แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงเพื่อนที่เธอพึ่งพาได้ในยามวิกฤต “หนีไปด้วยกันเถอะ” พิธานพูดเสียงกระซิบ ขณะเขากำลังมองหาทางออกที่ปลอดภัย “เราจะหาทางแก้ไขทุกอย่างเอง”
เจนพยักหน้า ขณะที่ทั้งคู่เริ่มวิ่งไปตามถนนที่คุ้นเคย แต่ความคุ้นเคยกลับดูแตกต่างออกไปในเวลานี้ ความรู้สึกของการเป็นนักโทษที่หนีออกจากการควบคุมทำให้เธอต้องมองหาที่ปลอดภัยตลอดเวลา พวกเขาก้าวเท้าไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของเจนเต้นแรงจนแทบจะได้ยินเสียงตัวเอง
“พี่พิธาน... ถ้าพ่อรู้เรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้น?” เจนถามอย่างตื่นเต้น ความวิตกกังวลเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ
“ไม่ต้องห่วง” พิธานตอบเสียงมั่นใจ
ในขณะที่พวกเขาวิ่งเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เสียงรถยนต์และเสียงคนที่อยู่ห่างออกไปค่อย ๆ จางหาย เจนรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวกำลังหยุดนิ่ง พวกเขาหยุดอยู่กลางความมืด เสียงลมหายใจหนักหน่วงทำให้เจนรู้สึกถึงความตึงเครียดที่กัดกินจิตใจ
“ไปที่ไหนต่อ?” เธอถาม ขณะที่เสียงหัวใจของเธอยังคงดังในหู
“ไปที่บ้านของพี่ก่อน” พิธานพูด “ที่นั่นเราจะวางแผนว่าจะทำยังไงต่อไป”
ฐากูลคือชายคนที่ติดพนันก้อนโตและพยายามเอาลูกสาวมาขัดดอก ในช่วงแรก เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จนกระทั่งเมื่อฐากูลออกไปจากห้อง เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานและสะดุดตากับภาพของหญิงสาวที่วางอยู่บนโต๊ะ ภาพเธอคนนั้นช่างเหมือนเธอคนที่เขารักในอดีตอย่างกับฝาแฝด ความคล้ายคลึงที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวในความทรงจำที่เจ็บปวด นึกถึงเวลาที่เคยมีความสุขด้วยกัน ก่อนที่จะต้องพรากจากกันไป เขาจดจ้องภาพของหญิงสาวในมืออย่างไม่วางตา ดวงตาของเธอสะท้อนความบริสุทธิ์ที่เขาเคยเห็นในคนรักของเขา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนไฟที่ลุกโชนในใจ
“ทำไมเธอถึงเหมือนกับเธอคนนั้นได้ขนาดนี้ อย่างกับฝาแฝด?” เขาคิดในใจ ขณะที่ความรู้สึกต่างๆ เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความคิด เขาไม่เคยลืมคนรักที่จากไป แต่ตอนนี้กลับมีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในชีวิต เขารู้ว่าเขาต้องการให้เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่เพียงเพราะความงดงาม แต่ยังเป็นการเติมเต็มความว่างเปล่าที่หลงเหลืออยู่
“เธอต้องเป็นของฉัน”
เสียงในใจของเขาดังขึ้น เขาต้องการที่จะได้ครอบครองความรักที่สูญเสียไป และหญิงสาวคนนี้อาจเป็นทางออกที่เขาต้องการ เขาเริ่มวางแผนที่จะแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความรักใหม่กับเธอ
“ไม่ว่าจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไป”
เขาสั่งเสียงหนัก เมื่อภาพของเธอและคนรักเก่าผสมผสานกันในความคิด เขาตั้งใจแน่วแน่
“พาเธอมาที่นี่ให้เร็วที่สุด” เขาสั่งเสียงหนัก
“ครับ! แต่ว่า…” ลูกน้องตอบ “เธออาจจะไม่ยอมง่ายๆ”
เขายิ้มเยาะ ขณะที่ความรุนแรงในใจเริ่มเพิ่มพูน “ไม่เป็นไร ถ้าเธอไม่ยอม ฉันก็จะทำให้เธอยอม”
เสียงคำสั่งของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และความมืดที่รายล้อมอยู่รอบตัวทำให้ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวาขึ้น เขารู้ว่านี่อาจจะเป็นการเริ่มต้นของบางสิ่งที่อันตราย แต่ความปรารถนาในตัวเธอทำให้เขาหยุดไม่ได้
“เตรียมทีมให้พร้อม เราจะออกไปตามล่าเธอ” เขาพูดอย่างเด็ดขาด ก่อนที่จะหันไปมองที่รูปอีกครั้ง ใบหน้าของหญิงสาวดูงดงามและบริสุทธิ์ ราวกับว่าความสะอาดนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการแย่งชิงมาให้ได้
ในคืนที่มืดมิดนี้ เขาจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ครอบครองเธอ...
“นี่อาจจะเป็นโชคชะตาที่ฉันรอคอย” เขาคิดในใจ ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ความมุ่งมั่นของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง และในยามนี้ ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งเขาได้
การตามล่าเริ่มขึ้นแล้ว...
……………………..
ในค่ำคืนที่แสนเงียบสงบ เสียงของเครื่องบินที่บินสูงเหนือท้องฟ้าสดใสสาดส่องลงมา เขาก้าวลงจากเครื่องบินในชุดดำสนิท สายตาแสดงถึงความเด็ดขาดและเต็มไปด้วยอำนาจ ที่นั่งอยู่ในห้องพักหรูหราในกรุงเทพฯ เป็นสถานที่ที่เขาไม่ค่อยเข้ามาเยือน แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป
เมื่อลูกน้องเห็นเขาเดินเข้ามา พวกเขาต่างรู้สึกถึงความตื่นตระหนกในใจ ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เพราะเขาไม่เคยออกมาทำงานเองแบบนี้ ในอดีตเขาเคยใช้การสั่งการผ่านลูกน้องอยู่เสมอ แต่การมาที่เมืองไทยในครั้งนี้เพื่อ “รับ” ผู้หญิงคนหนึ่งทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเข้มงวดที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา
“ทุกอย่างต้องเรียบร้อย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยอำนาจ “ฉันไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาด”
“ครับนาย” ลูกน้องพยักหน้า ยังคงรู้สึกหวั่นเกรง แม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวปกติ แต่ภายในใจเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อเขารู้ว่านายของเขาไม่เคยมีความอดทนต่อความล้มเหลว
เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เมื่อหลายปีก่อนที่เขาก็มาที่นี่เพื่อรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ตอนนั้นเธอมีเสน่ห์ที่แตกต่าง เธอทำให้เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสอีกครั้ง ตอนนี้เขาตั้งใจจะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นซ้ำรอย
“จัดการเรื่องข้อมูลของเธอให้เรียบร้อย” เขาสั่ง พร้อมส่งสายตามองไปยังลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “เราจะไม่มีการกลับตัว”
คำพูดของเขาดังหนักแน่น และทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเข้มข้นยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ในใจของเขา
“เมื่อเราเจอเธอ อย่าทำให้เธอตกใจ” เขาเตือน “แต่ต้องทำให้เธอเข้าใจว่าไม่มีทางหนี”
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงปรารถนา เขาจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้ตัวเธอมา... และสิ่งที่เขาต้อง
ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืดไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้ธนาเดินเ
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย
เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร
“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ” คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนักมาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ “เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ” น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง"มาร์ค…" ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหวเมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงีย
เจนรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังละลายไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนของเขา ขณะที่นอนราบอยู่บนเตียงกว้างที่หรูหรา สัมผัสของริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของธนาทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวอย่างประหลาด เสียงกระซิบของเขาที่ว่า “เธอเป็นของฉันแล้ว ยอมรับเถอะ” ฟังดูเหมือนคำสั่งมากกว่าคำถาม แต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการที่แท้จริง“ไม่…” เจนพยายามห้ามตัวเองจากการตอบรับความรู้สึกนี้ แต่คำพูดนั้นกลับจางหายไปเมื่อธนาก้มลงจูบเธออีกครั้ง ราวกับว่าเขารู้ว่าเธอจะไม่สามารถต้านทานเขาได้อีกต่อไป จูบของเขาอัดแน่นไปด้วยความร้อนแรงและความหลงใหลที่ไม่อาจปฏิเสธเธอรู้สึกถึงการดึงดูดที่ลึกซึ้งในจูบของเขา และเมื่อเขาใช้ลิ้นค่อยๆ เปิดปากของเธอ มันเหมือนกับการปลดปล่อยความรู้สึกที่เธอพยายามจะเก็บซ่อนไว้ เจนเริ่มรู้สึกสับสนกับอารมณ์ของตัวเอง ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร และทำไมเธอถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่ออยู่ใกล้เขา“ยอมรับสิ เจน…” เขากระซิบอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มละมุนในขณะที่เขาเลื่อนมือไปตามเรียวแขนของเธอ “เธอรู้ดีว่าใจเธอเรียกร้องให้มาที่นี่กับฉัน”การมองตาของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกมัดตรึงอยู่กับที่ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและอำนาจ และเ
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ