“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ”
คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนัก
มาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”
ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ
“เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ”
น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง
"มาร์ค…"
ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหว
เมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงียบสงบ แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างมาเผยให้เห็นภาพเงาของเจนที่หลับใหลในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ขณะที่ริมฝีปากของเธอยังคงมีร่องรอยของจูบอันเร่าร้อนที่เขาให้ไป
“เด็กบ้านี่ จูบกันอยู่ดีๆ หลับไปเฉยเลย?”
เขาคิดในใจ รู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน แต่ความรู้สึกตื่นตัวในตัวเขากลับไม่ยอมปล่อยให้เขานิ่งเฉยได้ เขายังคงระลึกถึงความหวานของจูบเมื่อคืน อารมณ์ร้อนที่เต็มเปี่ยมในขณะที่เขาค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปในปากของเธอ ค้นหาความหวานที่เขาหลงใหล แต่กลับกลายเป็นว่าเจนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาต้องอดทนต่อความรู้สึกที่ปั่นป่วนในใจ
ธนาก้มลงมองเธออีกครั้ง รู้สึกถึงความน่ารักที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรง เขาไม่ได้แค่ต้องการให้เธออยู่ในอ้อมกอด แต่ยังต้องการที่จะเข้าใจเธอให้มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านอยู่ในตัว
“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะปล่อยให้ตัวเองอ่อนไหวเกินไป” เขากระซิบกับตัวเอง พยายามเบี่ยงเบนความคิดและความรู้สึกออกไป แต่มันยากเหลือเกินในเมื่อเจนอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ธนาเฝ้าคิดว่าเขาต้องการเจนในแบบที่สมยอม ต้องการให้เธอรู้สึกเต็มใจที่จะเข้ามาหาเขาในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและความใกล้ชิด เขารู้ว่าการทำให้เธอรักเขาอย่างจริงจังจะต้องใช้เวลาและความอดทน แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความปรารถนาที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงในใจ
ในคืนที่เขานอนกอดเธออยู่ เขารู้ดีว่าถึงแม้เธอจะหลับสนิท แต่เขาต้องทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและสบายใจในอ้อมแขนของเขา จูบที่แผ่วเบาและสัมผัสที่นุ่มนวลอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเชื่อใจในตัวเขา แต่ภายในใจของเขากลับมีความต้องการที่จะให้เธอเข้ามาใกล้ชิดและยอมรับเขาอย่างเต็มใจ
“ฉันต้องการเธอแบบที่เธอต้องการฉัน” เขาพึมพำขณะมองใบหน้าที่งดงามของเจน
เขาอดขำไม่ได้เมื่อเห็นเธอหลับกลางอากาศ แทบจะเรียกได้ว่าเธอเป็นม้าพยศที่ยอมแพ้ให้เขาได้อย่างง่ายดาย แต่การที่เธอหลับไปทำให้ธนาต้องอดใจ โดยไม่กล้าทำอะไรในตอนนี้ ถึงแม้ในใจจะลอยไปไกลและเต็มไปด้วยความปรารถนา ความอยากได้อยากมี แต่เขารู้ว่ามันเป็นเวลาแห่งความอดทน
กลางดึกที่ความเงียบสงบเข้าครอบงำ เขาอดใจไม่อยู่ หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เขาค่อยๆ ก้มลงไปจูบที่เรียวปากอิ่มของเธอ แค่เพียงจูบเบาๆ เพื่อสำรวจรสชาติหวานล้ำ แต่เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลนั้น ก็ทำให้หัวใจเขากระตุกในความรู้สึกที่มีต่อเธอ
ร่างขาวโพลนของเจนบิดตัวเร่า ๆ ในอ้อมแขนของเขา แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่ถูกปลุกเร้า และธนารู้สึกถึงอารมณ์ที่ปั่นป่วนขึ้นในตัวเขา เขาเคยมีประสบการณ์มากมาย แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเจนกลับทำให้เขาทรมานอย่างสุดซึ้ง
เขาต้องตัดใจอดกลั้นหลายต่อหลายรอบ ไม่ได้นอนทั้งคืน เสียงครางกระเส่าจากเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนกับไฟที่ลุกโชนอยู่ในตัว แต่เขาก็ยังคงพยายามรักษาความสงบ ใจเขากำลังต่อสู้ระหว่างความต้องการและความถูกต้อง ซึ่งมันยากเหลือเกินในขณะที่เธอนอนอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้
“เมื่อคืนนี้...มันช่างยากเย็น” เขาพึมพำกับตัวเอง
เจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาในร่างเปลือยเปล่า ความรู้สึกมึนงงและสับสนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เธอพยายามประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเธออยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร
“เมื่อคืนมันยังไงนะ?” เจนคิดในใจ มือเล็ก ๆ ของเธอแตะผ้าปูเตียงที่นุ่มนวล ลมหายใจของเธอเริ่มเร็วขึ้นเมื่อความจริงเริ่มเข้ามาในหัว นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? เธอจำได้ว่าตัวเองหลับในอ้อมกอดของเขา แต่เหตุการณ์ที่ตามมาหลังจากนั้นกลับไม่ชัดเจน
“ทำไมฉันถึงเปลือย?” เธอพึมพำด้วยความตกใจ สายตาของเธอจ้องมองไปยังพื้นที่รอบข้าง หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก นึกถึงความรู้สึกที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ ความร้อนจากเรือนร่างของเขายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ
“ฉันเสร็จเขาแล้วเหรอเนี่ย?” คำถามนี้แล่นเข้ามาในใจ พร้อมกับความรู้สึกวิตกกังวล และความสับสนที่สลับกันมาเป็นระลอก เธอไม่สามารถเชื่อได้ว่ามันเกิดขึ้น และในช่วงเวลาอันบอบบางนี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกวางไว้ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
มือของเธอเริ่มสั่น ขณะที่เธอพยายามตั้งสติ ทำไมเธอถึงไม่จำอะไรได้เลย? เสียงที่ดังจากห้องข้างนอกทำให้เธอรู้สึกว่าต้องรีบจัดการกับตัวเองก่อนที่เขาจะกลับมา เธอเริ่มนึกถึงวิธีที่จะอธิบายหรือแก้ไขสถานการณ์นี้ แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะยากเหลือเกินในขณะนี้
แต่ไม่ทันที่เจนจะทำอะไรร่างใหญ่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนทับด้วยเสื้อกั๊กสุดเนี๊ยบก็ก้าวเข้ามาในห้อง มือถือแก้วกาแฟหอมๆ ที่ยังมีไอน้ำลอยอยู่ เขายืนพิงขอบประตูในท่าทางที่ทำให้รู้สึกถึงความสง่างามที่แฝงไว้ในความเข้มแข็ง ดวงตาคมจ้องมาที่เธอด้วยความสนใจ
“ไอ้บ้า! ทำอะไรฉันเนี่ย!” เจนตะโกนด้วยเสียงสั่น เธอกว้างหมอนหลายใบใส่เขาอย่างไม่ลังเล โดยที่ยังไม่ทันคิดว่าเธอยืนอยู่ในสภาพไหน
ธนาแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัว เขาวางแก้วกาแฟลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวยาวๆ เข้ามาหาเธอ เสียงเล็กของเจนยังคงด่าเขาไปมาอย่างโกรธจัด แต่ความโกรธนั้นกลับทำให้เขายิ้มในใจ เขารู้ว่าความดื้อรั้นของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดเขาอย่างมาก
“อย่ายุ่ง!” เจนพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ธนาคว้าข้อมือเล็กๆ ของเธอไว้แน่น จนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากร่างใหญ่ของเขา
“เดี๋ยวก่อน” เขากล่าวเสียงเข้ม ดวงตาของเขาไหววูบด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ขณะที่เขาจับคางเล็กๆ ของเจนไว้มั่น “เมื่อคืนนี้…” เขาไม่ทันได้พูดจบ เพราะแล้วเขาก็กดจูบลงไปอย่างกระหาย
จูบที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความปรารถนา อดทนมาทั้งคืน ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายออกมาเป็นสัมผัสที่ร้อนแรงในขณะที่เขาจูบเธอ จูบที่ไม่เพียงแค่ต้องการคำตอบ แต่ยังเต็มไปด้วยความรุนแรงที่เขาหมายมั่นที่จะครอบครองเธอ
เจนรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะเมื่อได้ยินประโยคที่เต็มไปด้วยความหมายของเขา “ใช่ เธอเป็นของฉันแล้ว” เสียงของธนาเหมือนจะกระซิบแผ่วเบา แต่กลับดังชัดในหูของเธอ จิตใจเธอสั่นสะท้านระหว่างความรู้สึกสับสนและความดึงดูดที่ยากจะต้านทาน
“อะไรนะ?” เธอถามเสียงเบา สับสนกับสิ่งที่เขาพูด เธอรู้ดีว่าเขาอาจจะหมายถึงการเป็นเจ้าของในทางอารมณ์ แต่คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกกักขังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
“เธอได้อยู่ในอ้อมแขนของฉันแล้ว เจน” ธนากล่าว พร้อมกับยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ใบหน้าของเขายังคงอยู่ใกล้ จนเธอสามารถมองเห็นแสงในดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยอารมณ์
ความรู้สึกของเจนตีกันอย่างรุนแรงในใจ ความต้องการจะผลักเขาออกไปพร้อมกับความรู้สึกดึงดูดที่มีต่อเขา เธอไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้—ถูกมองว่าเป็นของเขาแบบนี้
“ไม่… ฉันไม่ใช่ของใคร” เธอตอบเสียงแผ่ว แต่ความมั่นใจในคำพูดกลับไม่มีอยู่จริง ในใจเธอกลับเต็มไปด้วยความกลัวและความอยากรู้อยากเห็น
ธนายิ้มกว้างขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกายระยิบระยับ “แต่ตอนนี้เธออยู่กับฉันแล้ว และมันคือสิ่งที่ฉันต้องการ” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ จูบที่ตามมาเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้
เจนพยายามผลักเขาออก แต่มือของเขากลับจับข้อมือเธอแน่นขึ้น สายตาของเขาเป็นประกายด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าทุกอย่างในโลกนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว และเธอไม่อาจหลีกหนีจากความเป็นจริงนี้ได้
“ปล่อยฉัน!” เธอตะโกน แต่คำพูดนั้นกลับถูกกลบด้วยเสียงจูบและการตอบรับที่เต็มไปด้วยความรักและความต้องการจากเขา
“ไม่ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ธนากล่าวอย่างหนักแน่น เสียงของเขาทำให้เจนรู้สึกอ่อนแรง ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาท่วมท้นได้
ในที่สุด เธอก็รู้สึกถึงการปล่อยวาง—เธออาจจะถูกล่อลวงไปในโลกของเขา ซึ่งเธอไม่สามารถย้อนกลับได้อีกต่อไป เธอเริ่มรับรู้ถึงความเชื่อมโยงที่มีต่อเขา ทั้งความกลัวและความต้องการที่ยากจะอธิบาย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในเวทีที่ถูกกำหนดโดยเขาเพียงคนเดียว
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ธนานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคาสิโน มองออกไปที่วิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเครื่องเล่นพนันและเสียงหัวเราะของผู้คนดังอยู่ไกลๆ แต่ภายในใจเขากลับเงียบเหงาเหมือนความว่างเปล่าของชีวิต เรื่องราวในอดีตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำของเขาหลายปีก่อน เมื่อชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ธนาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า ธนาวิ่งพรวดเข้าไปในซอยเล็กๆ ของย่านมืดในปรารีส ความเจ็บแสบจากบาดแผลที่โดนเฉือนเริ่มแล่นลึก เลือดไหลซึมจากบาดแผลหลายจุด เปื้อนเสื้อผ้าจนแดงฉาน ธนาไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่สะท้านต่อความเจ็บปวด มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อในขณะที่เขาเริ่มทรุดตัวลงข้างกำแพง ด้วยแรงที่กำลังจะหมดลง เสียงฝีเท้าคนหนึ่งใกล้เข้ามา ธนาหันไปมอง เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใย “คุณ...คุณเป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเธอสั่นแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวคนนั้นชื่อ มีนา เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเคยเห็นตอนวิ่งหนีเข้ามาในย่านนี้มีนาไม่รอให้เขาตอบ
เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมาชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเองความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุมเจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท
ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืดไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้ธนาเดินเ
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย
เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร