“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ”
คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนัก
มาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”
ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ
“เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ”
น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง
"มาร์ค…"
ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหว
เมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงียบสงบ แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างมาเผยให้เห็นภาพเงาของเจนที่หลับใหลในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ขณะที่ริมฝีปากของเธอยังคงมีร่องรอยของจูบอันเร่าร้อนที่เขาให้ไป
“เด็กบ้านี่ จูบกันอยู่ดีๆ หลับไปเฉยเลย?”
เขาคิดในใจ รู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน แต่ความรู้สึกตื่นตัวในตัวเขากลับไม่ยอมปล่อยให้เขานิ่งเฉยได้ เขายังคงระลึกถึงความหวานของจูบเมื่อคืน อารมณ์ร้อนที่เต็มเปี่ยมในขณะที่เขาค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปในปากของเธอ ค้นหาความหวานที่เขาหลงใหล แต่กลับกลายเป็นว่าเจนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาต้องอดทนต่อความรู้สึกที่ปั่นป่วนในใจ
ธนาก้มลงมองเธออีกครั้ง รู้สึกถึงความน่ารักที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรง เขาไม่ได้แค่ต้องการให้เธออยู่ในอ้อมกอด แต่ยังต้องการที่จะเข้าใจเธอให้มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านอยู่ในตัว
“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะปล่อยให้ตัวเองอ่อนไหวเกินไป” เขากระซิบกับตัวเอง พยายามเบี่ยงเบนความคิดและความรู้สึกออกไป แต่มันยากเหลือเกินในเมื่อเจนอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ธนาเฝ้าคิดว่าเขาต้องการเจนในแบบที่สมยอม ต้องการให้เธอรู้สึกเต็มใจที่จะเข้ามาหาเขาในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและความใกล้ชิด เขารู้ว่าการทำให้เธอรักเขาอย่างจริงจังจะต้องใช้เวลาและความอดทน แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความปรารถนาที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงในใจ
ในคืนที่เขานอนกอดเธออยู่ เขารู้ดีว่าถึงแม้เธอจะหลับสนิท แต่เขาต้องทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและสบายใจในอ้อมแขนของเขา จูบที่แผ่วเบาและสัมผัสที่นุ่มนวลอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเชื่อใจในตัวเขา แต่ภายในใจของเขากลับมีความต้องการที่จะให้เธอเข้ามาใกล้ชิดและยอมรับเขาอย่างเต็มใจ
“ฉันต้องการเธอแบบที่เธอต้องการฉัน” เขาพึมพำขณะมองใบหน้าที่งดงามของเจน
เขาอดขำไม่ได้เมื่อเห็นเธอหลับกลางอากาศ แทบจะเรียกได้ว่าเธอเป็นม้าพยศที่ยอมแพ้ให้เขาได้อย่างง่ายดาย แต่การที่เธอหลับไปทำให้ธนาต้องอดใจ โดยไม่กล้าทำอะไรในตอนนี้ ถึงแม้ในใจจะลอยไปไกลและเต็มไปด้วยความปรารถนา ความอยากได้อยากมี แต่เขารู้ว่ามันเป็นเวลาแห่งความอดทน
กลางดึกที่ความเงียบสงบเข้าครอบงำ เขาอดใจไม่อยู่ หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เขาค่อยๆ ก้มลงไปจูบที่เรียวปากอิ่มของเธอ แค่เพียงจูบเบาๆ เพื่อสำรวจรสชาติหวานล้ำ แต่เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลนั้น ก็ทำให้หัวใจเขากระตุกในความรู้สึกที่มีต่อเธอ
ร่างขาวโพลนของเจนบิดตัวเร่า ๆ ในอ้อมแขนของเขา แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่ถูกปลุกเร้า และธนารู้สึกถึงอารมณ์ที่ปั่นป่วนขึ้นในตัวเขา เขาเคยมีประสบการณ์มากมาย แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเจนกลับทำให้เขาทรมานอย่างสุดซึ้ง
เขาต้องตัดใจอดกลั้นหลายต่อหลายรอบ ไม่ได้นอนทั้งคืน เสียงครางกระเส่าจากเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนกับไฟที่ลุกโชนอยู่ในตัว แต่เขาก็ยังคงพยายามรักษาความสงบ ใจเขากำลังต่อสู้ระหว่างความต้องการและความถูกต้อง ซึ่งมันยากเหลือเกินในขณะที่เธอนอนอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้
“เมื่อคืนนี้...มันช่างยากเย็น” เขาพึมพำกับตัวเอง
เจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาในร่างเปลือยเปล่า ความรู้สึกมึนงงและสับสนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เธอพยายามประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเธออยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร
“เมื่อคืนมันยังไงนะ?” เจนคิดในใจ มือเล็ก ๆ ของเธอแตะผ้าปูเตียงที่นุ่มนวล ลมหายใจของเธอเริ่มเร็วขึ้นเมื่อความจริงเริ่มเข้ามาในหัว นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? เธอจำได้ว่าตัวเองหลับในอ้อมกอดของเขา แต่เหตุการณ์ที่ตามมาหลังจากนั้นกลับไม่ชัดเจน
“ทำไมฉันถึงเปลือย?” เธอพึมพำด้วยความตกใจ สายตาของเธอจ้องมองไปยังพื้นที่รอบข้าง หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก นึกถึงความรู้สึกที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ ความร้อนจากเรือนร่างของเขายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ
“ฉันเสร็จเขาแล้วเหรอเนี่ย?” คำถามนี้แล่นเข้ามาในใจ พร้อมกับความรู้สึกวิตกกังวล และความสับสนที่สลับกันมาเป็นระลอก เธอไม่สามารถเชื่อได้ว่ามันเกิดขึ้น และในช่วงเวลาอันบอบบางนี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกวางไว้ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
มือของเธอเริ่มสั่น ขณะที่เธอพยายามตั้งสติ ทำไมเธอถึงไม่จำอะไรได้เลย? เสียงที่ดังจากห้องข้างนอกทำให้เธอรู้สึกว่าต้องรีบจัดการกับตัวเองก่อนที่เขาจะกลับมา เธอเริ่มนึกถึงวิธีที่จะอธิบายหรือแก้ไขสถานการณ์นี้ แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะยากเหลือเกินในขณะนี้
แต่ไม่ทันที่เจนจะทำอะไรร่างใหญ่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนทับด้วยเสื้อกั๊กสุดเนี๊ยบก็ก้าวเข้ามาในห้อง มือถือแก้วกาแฟหอมๆ ที่ยังมีไอน้ำลอยอยู่ เขายืนพิงขอบประตูในท่าทางที่ทำให้รู้สึกถึงความสง่างามที่แฝงไว้ในความเข้มแข็ง ดวงตาคมจ้องมาที่เธอด้วยความสนใจ
“ไอ้บ้า! ทำอะไรฉันเนี่ย!” เจนตะโกนด้วยเสียงสั่น เธอกว้างหมอนหลายใบใส่เขาอย่างไม่ลังเล โดยที่ยังไม่ทันคิดว่าเธอยืนอยู่ในสภาพไหน
ธนาแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัว เขาวางแก้วกาแฟลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวยาวๆ เข้ามาหาเธอ เสียงเล็กของเจนยังคงด่าเขาไปมาอย่างโกรธจัด แต่ความโกรธนั้นกลับทำให้เขายิ้มในใจ เขารู้ว่าความดื้อรั้นของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดเขาอย่างมาก
“อย่ายุ่ง!” เจนพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ธนาคว้าข้อมือเล็กๆ ของเธอไว้แน่น จนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากร่างใหญ่ของเขา
“เดี๋ยวก่อน” เขากล่าวเสียงเข้ม ดวงตาของเขาไหววูบด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ขณะที่เขาจับคางเล็กๆ ของเจนไว้มั่น “เมื่อคืนนี้…” เขาไม่ทันได้พูดจบ เพราะแล้วเขาก็กดจูบลงไปอย่างกระหาย
จูบที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความปรารถนา อดทนมาทั้งคืน ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายออกมาเป็นสัมผัสที่ร้อนแรงในขณะที่เขาจูบเธอ จูบที่ไม่เพียงแค่ต้องการคำตอบ แต่ยังเต็มไปด้วยความรุนแรงที่เขาหมายมั่นที่จะครอบครองเธอ
เจนรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะเมื่อได้ยินประโยคที่เต็มไปด้วยความหมายของเขา “ใช่ เธอเป็นของฉันแล้ว” เสียงของธนาเหมือนจะกระซิบแผ่วเบา แต่กลับดังชัดในหูของเธอ จิตใจเธอสั่นสะท้านระหว่างความรู้สึกสับสนและความดึงดูดที่ยากจะต้านทาน
“อะไรนะ?” เธอถามเสียงเบา สับสนกับสิ่งที่เขาพูด เธอรู้ดีว่าเขาอาจจะหมายถึงการเป็นเจ้าของในทางอารมณ์ แต่คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกกักขังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
“เธอได้อยู่ในอ้อมแขนของฉันแล้ว เจน” ธนากล่าว พร้อมกับยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ใบหน้าของเขายังคงอยู่ใกล้ จนเธอสามารถมองเห็นแสงในดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยอารมณ์
ความรู้สึกของเจนตีกันอย่างรุนแรงในใจ ความต้องการจะผลักเขาออกไปพร้อมกับความรู้สึกดึงดูดที่มีต่อเขา เธอไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้—ถูกมองว่าเป็นของเขาแบบนี้
“ไม่… ฉันไม่ใช่ของใคร” เธอตอบเสียงแผ่ว แต่ความมั่นใจในคำพูดกลับไม่มีอยู่จริง ในใจเธอกลับเต็มไปด้วยความกลัวและความอยากรู้อยากเห็น
ธนายิ้มกว้างขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกายระยิบระยับ “แต่ตอนนี้เธออยู่กับฉันแล้ว และมันคือสิ่งที่ฉันต้องการ” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ จูบที่ตามมาเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้
เจนพยายามผลักเขาออก แต่มือของเขากลับจับข้อมือเธอแน่นขึ้น สายตาของเขาเป็นประกายด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าทุกอย่างในโลกนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว และเธอไม่อาจหลีกหนีจากความเป็นจริงนี้ได้
“ปล่อยฉัน!” เธอตะโกน แต่คำพูดนั้นกลับถูกกลบด้วยเสียงจูบและการตอบรับที่เต็มไปด้วยความรักและความต้องการจากเขา
“ไม่ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ธนากล่าวอย่างหนักแน่น เสียงของเขาทำให้เจนรู้สึกอ่อนแรง ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาท่วมท้นได้
ในที่สุด เธอก็รู้สึกถึงการปล่อยวาง—เธออาจจะถูกล่อลวงไปในโลกของเขา ซึ่งเธอไม่สามารถย้อนกลับได้อีกต่อไป เธอเริ่มรับรู้ถึงความเชื่อมโยงที่มีต่อเขา ทั้งความกลัวและความต้องการที่ยากจะอธิบาย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในเวทีที่ถูกกำหนดโดยเขาเพียงคนเดียว
เจนรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังละลายไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนของเขา ขณะที่นอนราบอยู่บนเตียงกว้างที่หรูหรา สัมผัสของริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของธนาทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวอย่างประหลาด เสียงกระซิบของเขาที่ว่า “เธอเป็นของฉันแล้ว ยอมรับเถอะ” ฟังดูเหมือนคำสั่งมากกว่าคำถาม แต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการที่แท้จริง“ไม่…” เจนพยายามห้ามตัวเองจากการตอบรับความรู้สึกนี้ แต่คำพูดนั้นกลับจางหายไปเมื่อธนาก้มลงจูบเธออีกครั้ง ราวกับว่าเขารู้ว่าเธอจะไม่สามารถต้านทานเขาได้อีกต่อไป จูบของเขาอัดแน่นไปด้วยความร้อนแรงและความหลงใหลที่ไม่อาจปฏิเสธเธอรู้สึกถึงการดึงดูดที่ลึกซึ้งในจูบของเขา และเมื่อเขาใช้ลิ้นค่อยๆ เปิดปากของเธอ มันเหมือนกับการปลดปล่อยความรู้สึกที่เธอพยายามจะเก็บซ่อนไว้ เจนเริ่มรู้สึกสับสนกับอารมณ์ของตัวเอง ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร และทำไมเธอถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่ออยู่ใกล้เขา“ยอมรับสิ เจน…” เขากระซิบอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มละมุนในขณะที่เขาเลื่อนมือไปตามเรียวแขนของเธอ “เธอรู้ดีว่าใจเธอเรียกร้องให้มาที่นี่กับฉัน”การมองตาของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกมัดตรึงอยู่กับที่ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและอำนาจ และเ
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ