เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้
เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่
เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย"
"งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก
"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"
ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก
ตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน
เมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้อง เสียงฝีเท้าเบาๆ ของเธอดึงความสนใจของคนที่นั่งอยู่กลางโถงกว้าง ธนานั่งอยู่บนโซฟาหรู ตัวเขาเอนพิงพนักอย่างสบาย มือหนึ่งวางอยู่บนแป้นพิมพ์ของแลปท็อปบนตัก อีกมือถือน้ำกาแฟดำแก้วใส ร่างสูงในชุดสูทเรียบหรูที่ดูสมบูรณ์แบบ ทับด้วยเสื้อกั๊กสีน้ำเงินเข้ม เพิ่มความเคร่งขรึมด้วยการพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นถึงข้อศอก
ดวงตาคมของเขาเงยขึ้นมองเธอเพียงนิดเดียว ก่อนจะกลับไปที่หน้าจอเหมือนไม่ใส่ใจ แต่เสียงทุ้มนุ่มของเขาก็ดังขึ้น
"ตื่นแล้วเหรอ?"
เจนหยุดยืนนิ่งอยู่ที่ปลายเท้าของเขา แค่สายตาที่เหมือนจะเจาะลึกทะลุใจของธนา ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนยังไม่พ้นอำนาจของเขาเสียที
"ไม่อยากออกไปข้างนอกแล้วรึไง?" ธนากล่าวอย่างเรียบๆ แต่ปลายเสียงเจือความหยันเล็กน้อย ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธอจะเปลี่ยนใจ
เจนเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงที่พยายามให้มั่นคง "ฉันแค่...เปลี่ยนใจ อยากอยู่บ้านมากกว่า"
ธนายิ้มมุมปาก ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอ แต่แววตาเหมือนคนที่รู้ทันทุกอย่าง
"ก็ดี... จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนชุดใหม่อีกสิบรอบ"
คำพูดของเขาทำให้เจนหน้าแดงจัด เธอหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะเบาๆ ของธนา ที่สะท้อนอยู่ในโถงกว้าง ราวกับเขาชนะสงครามเล็กๆ อีกครั้งในเช้าวันนี้
เจนที่กำลังเดินเลี่ยงเข้าไปในครัวชะงักเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆ ของธนาดังตามหลังมา
"เจน...มานี่"
เสียงนั้นไม่ได้ดังนัก แต่กลับเต็มไปด้วยน้ำหนักที่ทำให้เธอหยุดฝีเท้าโดยไม่ทันคิด เจนหันมามองเขาด้วยสายตาที่มีทั้งความลังเลและไม่พอใจ แต่ธนาเพียงเอนตัวพิงโซฟาอย่างผ่อนคลาย ร่างสูงใหญ่ยังคงดูน่าเกรงขามแม้ในอิริยาบถสบายๆ
"มาทำไม?" เธอถามเสียงเบา รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล
ธนาไม่ตอบทันที เขาวางแลปท็อปลงบนโต๊ะข้างตัว ก่อนจะตบมือลงบนเบาะโซฟาข้างๆ เขา "มานั่งนี่ก่อน"
"ฉันมีงานต้องทำ" เจนตอบทันที แต่เสียงของเธอฟังดูไม่หนักแน่นอย่างที่ตั้งใจไว้
"เจน..." เสียงเรียกของเขาเน้นย้ำมากขึ้น คราวนี้สายตาคมกริบจ้องเธออย่างตรงไปตรงมา ไม่ปล่อยให้เธอหาข้ออ้างได้อีก
เจนถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆ เขา แม้จะพยายามเว้นระยะ แต่ธนากลับเอื้อมมือมาคว้าเอวเธอให้ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม
"เมื่อคืนเหนื่อยเหรอ?" เขาถามพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ดูเหมือนคนเหนือกว่า
เจนเบือนหน้าหนี พลางพยายามปัดมือเขาออก "ธนา! จะทำอะไรอีก!"
"ก็แค่อยากดูว่าเธอยังโกรธอยู่รึเปล่า" ธนาพูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขากลับมีประกายเจ้าเล่ห์
เจนหันมามองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง "คุณมัน..."
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ธนากลับโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนเธอแทบหยุดหายใจ "ฉันเป็นอะไร...หืม?"
คำถามนั้นทำให้เจนเงียบไปทันที ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้จนเธอรับรู้ถึงไออุ่นของลมหายใจ แต่ก่อนที่เธอจะทันโต้ตอบ ธนากลับหัวเราะเบาๆ แล้วผละออก
"ไปเถอะ ฉันจะทำงาน" เขาพูดเหมือนล้อเลียน แต่แววตาของเขากลับทิ้งบางอย่างไว้ในใจเจนที่ทำให้เธอเดินกลับไปด้วยความรู้สึกสับสนยิ่งกว่าเดิม
เจนยืนนิ่งมองธนาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ ที่ดูเหมือนคนมีแผนอะไรในใจ ดวงตาเธอวาววับอย่างท้าทาย
"ฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ ไหนๆ คุณก็อนุญาตแล้ว ฉันจะออกไปข้างนอก...คนเดียว" น้ำเสียงของเธอยั่วเย้า ราวกับจงใจยั่วอารมณ์เขา
ธนาหยุดพิมพ์งานทันที ดวงตาคมกริบตวัดมองเธอราวกับเหยี่ยวที่กำลังจับจ้องเหยื่อ รอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากหายไปแทบจะทันที "คนเดียว?"
"ใช่ค่ะ คนเดียว" เจนตอบกลับอย่างมั่นใจ ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปทางประตูโดยไม่รอฟังอะไรจากเขาอีก
"เจน" ธนาเรียกชื่อเธอเสียงเข้ม แต่น้ำเสียงนั้นไม่ได้หยุดยั้งเธอเลย
"อะไรอีกล่ะคะ? หรือคุณจะเปลี่ยนใจไม่อนุญาต?" เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ดวงตาเปล่งประกายความพยศ ริมฝีปากยกยิ้มเยาะเบาๆ
ธนาไม่ตอบ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวเข้าไปหาเธอด้วยท่าทางสง่างามและดุดันในคราวเดียว เจนถอยหลังเล็กน้อย แต่แววตาของเธอยังไม่ยอมแพ้
"ฉันบอกว่าจะไป แล้วก็จะไป!" เธอเอ่ยอย่างชัดเจน ท้าทายเขาในทุกคำพูด
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวต่อ ธนาก็ยื่นมือมาคว้าแขนเธอไว้แล้วดึงร่างบางเข้ามาแนบชิด เจนตาเบิกกว้าง ก่อนที่เขาจะก้มลงประกบจูบเธอทันที
จูบของธนาทั้งร้อนแรงและแน่วแน่ ราวกับจะทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่มีวันปล่อยให้เธอหลุดไปไหนได้ง่ายๆ เจนพยายามผลักเขาออก แต่ยิ่งดิ้น ธนาก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น
เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก เธอทั้งหอบและโกรธจัด "คุณทำแบบนี้ทำไม!"
ธนายิ้มมุมปาก ราวกับคนที่ชนะอีกครั้ง "เพราะฉันไม่อยากให้เธอไปไหนโดยไม่มีฉัน... เข้าใจไหม?"
เจนสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนเขาอย่างแรง ดวงตาวาวโรจน์ "คุณมันเผด็จการที่สุด!"
"ก็แล้วจะทำไมล่ะ?" เขาตอบกลับอย่างหน้าตาย ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม "ยังอยากออกไปอยู่ไหมล่ะ? หรือจะอยู่เถียงกับฉันต่อ?"
เจนกัดฟันแน่น ความหงุดหงิดพุ่งถึงขีดสุด แต่เธอรู้ดีว่าธนาไม่มีทางยอมให้เธอชนะได้ง่ายๆ สุดท้าย เธอเพียงสะบัดหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป
เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาดังไล่หลังมาอีกครั้ง ทิ้งให้เธอต้องคิดหาทางแก้เกมส์ครั้งหน้าอย่างเผ็ดร้อนกว่าเดิม
เจนเดินออกมาจากห้องด้วยชุดที่เลือกแล้วอย่างมั่นใจ เสื้อรัดรูปแขนยาวสีดำแบบบอดี้สูทที่คว้านหลังลึกจนเห็นผิวขาวเนียนเกือบถึงเอว เข้าคู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้นและรองเท้าผ้าใบ เธอยืนเด่นอยู่กลางโถง เหมือนจะประกาศชัยชนะในเกมยั่วเย้าครั้งนี้
ธนาเงยหน้าขึ้นจากแลปท็อปทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักจะนิ่งเรียบกลับเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป เขาหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย สายตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธอ
"จะออกไปทั้งชุดนี้?" เสียงทุ้มของเขาเอ่ยขึ้นช้าๆ แต่หนักแน่น
เจนยักไหล่อย่างไม่แยแส "ใช่ค่ะ ทำไม? หรือคุณจะบอกว่าชุดนี้ก็ไม่ผ่านอีก?"
ธนายืดตัวลุกขึ้นจากโซฟา ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้เธออย่างเงียบเชียบและทรงพลัง เจนยืนมองเขาอย่างท้าทาย ดวงตาวาววับด้วยความดื้อรั้น
"เจน" เขาเรียกชื่อเธอเสียงต่ำ สายตาจับจ้องที่แผ่นหลังขาวเนียนที่คว้านลึกจนทำให้เขากำมือแน่น
"มีอะไรอีกคะ? หรือคุณจะห้ามฉันไม่ให้ออกไปอีกล่ะ?" เจนถามเสียงเยาะ พร้อมยืนไขว้ขาเล็กน้อยราวกับจะยั่วให้เขาหงุดหงิด
แต่แทนที่ธนาจะโต้เถียง เขากลับดึงตัวเธอเข้ามาอย่างรวดเร็ว แขนแข็งแรงของเขาโอบรอบเอวเธอแน่นจนเจนเบิกตากว้าง
"เจน เธออยากให้ฉันห้ามขนาดนั้นเลยเหรอ?" เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหู ก่อนจะก้มลงจูบเธออีกครั้ง
คราวนี้จูบของเขาร้อนแรงและเร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม เจนพยายามผลักเขาออก แต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก
"ธนา! พอได้แล้ว!" เธอร้องเสียงแหลมเมื่อเขายอมถอนริมฝีปากออก แต่ยังคงกอดเธอไว้แน่น
"ฉันจะปล่อยเธอออกไปข้างนอกได้ยังไง ในเมื่อเธอดูดีขนาดนี้?" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
เจนจ้องหน้าเขาอย่างโมโห แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจอสายตาเอาจริงเอาจังของเขา
"ถ้าจะไปก็ได้... แต่ฉันไปด้วย" ธนาประกาศกร้าว ก่อนจะลากมือเธอไปทางประตูโดยไม่ฟังคำคัดค้าน
เจนได้แต่กัดฟันแน่น ดวงตาเป็นประกายวาวอย่างไม่ยอมแพ้ ครั้งหน้าเธอจะหาทางเอาคืนให้เจ็บกว่านี้!
ธนายืนสง่าภายในลิฟต์ มือข้างหนึ่งถือสูทพาดไว้ที่ไหล่ อีกข้างกุมมือเจนแน่นจนเธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเขาอย่างขุ่นเคืองเล็กน้อย แต่ธนาไม่สนใจ สีหน้าของเขาดูสงบ แต่สายตาคมที่มองเธอนั้นแฝงไปด้วยอารมณ์หลากหลาย
เธอสวมชุดที่เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนจนทำให้เขาหายใจแรงขึ้นทุกครั้งที่เผลอเหลือบมอง เสื้อรัดรูปเน้นทรวงอกที่ล้นเต็มตึงจนแทบไม่อาจละสายตาได้ เอวคอดกิ่ว ขาเรียวยาวได้รูปที่โผล่พ้นกางเกงยีนส์ขาสั้นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ
เจนรับรู้ถึงสายตาของเขา แต่เธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ยืนยิ้มยั่วเบาๆ เหมือนจงใจจะทำให้เขาระเบิด
"คุณจะบีบมือฉันแน่นไปไหนคะ? หรือกลัวฉันจะหนี?" เธอพูดพลางเหลือบมองมือใหญ่ที่กุมมือเธอไว้
"ไม่ต้องหนี" ธนาตอบเสียงทุ้มต่ำ ดวงตายังจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ "แค่ดูแล... เธอในชุดนี้ ทำฉันไม่ไว้ใจใครข้างนอก"
"ฉันไม่ใช่เด็กนะคะ" เจนเถียงกลับ ดวงตาท้าทาย "แล้วชุดนี้ก็ไม่ได้โป๊เลย ใส่แบบนี้คนอื่นยังใส่กันได้"
ธนายิ้มมุมปากนิดๆ แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้ทำให้เธอสบายใจเลย "คนอื่นฉันไม่สน แต่เธอเป็นของฉัน เจน... ฉันไม่มีวันให้ใครมองเธอแบบที่ฉันมอง"
เจนชะงักไปเล็กน้อย ใจที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับเต้นรัวขึ้นอีก แต่เธอรีบทำตัวนิ่งและเบือนหน้าหนี "คุณนี่มัน... เผด็จการชะมัด!"
เขากระตุกมือเธอเบาๆ ให้หันกลับมามอง ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นของเขาแตะผิวแก้มเธอ
"ถ้าเผด็จการแล้วเธอจะทำยังไง?" เขาถามพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เจนจ้องหน้าเขาเขม็ง แต่ใจลึกๆ ก็หวั่นไหวกับความใกล้ชิดนี้ เธอตัดสินใจเงียบและหันหน้าหนีอีกครั้ง
ติ้ง!
เสียงลิฟต์เปิดออก แต่ธนาไม่ขยับแม้แต่น้อย ยังคงยืนนิ่งในตำแหน่งเดิม เจนต้องดึงมือเขาเบาๆ เพื่อเตือน
"ถึงแล้วค่ะ จะยืนกอดลิฟต์ไว้ทั้งวันหรือยังไง?" เธอพูดประชด
ธนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้าวออกจากลิฟต์ พร้อมมือที่กุมเธอแน่นขึ้นกว่าเดิมราวกับย้ำเตือนว่า ต่อให้เธอจะออกไปข้างนอก เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอพ้นสายตาได้เลย
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เจนเจอชายสองคนในชุดสูทเรียบหรู ท่าทางดูดีมีฐานะ คนหนึ่งคือริชาร์ด หนุ่มตะวันตกหน้าคม ทรงผมเนี้ยบ อีกคนคือคอลิน ชายหนุ่มผิวเข้มท่าทางอบอุ่นแต่มากไปด้วยออร่าความอันตราย
ทั้งคู่ยืนอยู่ด้านหน้าลิฟต์ พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่บ่งบอกว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใคร
"โอ้โห ธนา นี่หรือ 'นกน้อย' ที่นายขังไว้บนหอคอย?" ริชาร์ดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดขบขัน พลางเลิกคิ้วอย่างสนใจ
คอลินหัวเราะเบาๆ เสริมทันที "นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอนกน้อยของนายตัวเป็นๆ สวยสมคำร่ำลือจริงๆ นะ แต่ไม่คิดว่านายจะพาเธอลงมาข้างล่างได้"
ธนาไม่ได้ตอบคำพูดแซวของเพื่อน แต่สายตาคมของเขากวาดมองสองชายตรงหน้าด้วยความไม่พอใจที่พวกเขามองเจนมากเกินไป
"เลิกเล่นกันได้แล้ว" ธนาเอ่ยเสียงเรียบ แต่ดวงตาเป็นประกายเอาจริง เขาขยับมือดึงเจนเข้ามาชิดตัว พลางยกแขนขึ้นโอบเอวบางของเธอ และออกแรงเบาๆ ให้เธอแอบอยู่ข้างหลังเขา
"จะไม่แนะนำหน่อยเหรอ? หรือยังอยากเก็บไว้เป็นความลับ?" ริชาร์ดถามอีกครั้ง ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
ธนาหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงความสงบของน้ำเสียง "ไม่จำเป็น เธอไม่ต้องรู้จักพวกนาย"
เจนแอบชะเง้อมองจากข้างหลังธนา สายตาของริชาร์ดและคอลินจับจ้องมาที่เธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาดูเหมือนจะอ่านใจธนาออกทุกอย่าง
"เธอไม่ใช่แค่นกน้อยแล้วสินะ" คอลินพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่มีนัย
ริชาร์ดพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"เจน สวัสดีครับ" คอลินยิ้มกว้าง ยื่นมือมา แต่ธนาดึงเธอไปยืนข้างหลังอีกครั้ง
"มือว่างไว้เถอะคอลิน ไม่ต้องยุ่งกับเธอ" ธนาตอบนิ่งๆ
"นายหวงแบบนี้ เราขอไปด้วยได้ไหม? จะได้ช่วยดูแล" ริชาร์ดถามพลางเลิกคิ้วแซว
"ไม่มีที่ให้พวกนายในรถ"
ธนาพูดจบ เพียงยกคิ้วอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะพาเจนเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
"ธนา หวงขนาดนี้ เดี๋ยวเธอก็บินหนีไปจริงๆ หรอก!" เสียงริชาร์ดตะโกนไล่หลังมา
ธนาไม่ได้ตอบ แต่ก้าวเดินต่อไปโดยไม่ปล่อยมือจากเจนแม้แต่วินาทีเดียว ดวงตาคมของเขาหันมามองเธอขณะเดิน "อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยเธอหนีได้ง่ายๆ ล่ะ เจน"
เสียงของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง แต่เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร สวนกลับด้วยน้ำเสียงท้าทาย "ฉันไม่ใช่นกน้อยที่คุณจะขังไว้ได้ตลอดไปหรอกค่ะ"
ธนายิ้มมุมปาก ยิ้มที่บ่งบอกว่าเขาไม่ยอมให้เธอหลุดพ้นจากเขาได้ง่ายๆ แน่นอน
"ก็หวงไง จำไว้ด้วย" เขาตอบนิ่งๆ แต่สายตาแสดงความจริงจังจนเธอเถียงไม่ออก
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ธนานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคาสิโน มองออกไปที่วิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเครื่องเล่นพนันและเสียงหัวเราะของผู้คนดังอยู่ไกลๆ แต่ภายในใจเขากลับเงียบเหงาเหมือนความว่างเปล่าของชีวิต เรื่องราวในอดีตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำของเขาหลายปีก่อน เมื่อชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ธนาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า ธนาวิ่งพรวดเข้าไปในซอยเล็กๆ ของย่านมืดในปรารีส ความเจ็บแสบจากบาดแผลที่โดนเฉือนเริ่มแล่นลึก เลือดไหลซึมจากบาดแผลหลายจุด เปื้อนเสื้อผ้าจนแดงฉาน ธนาไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่สะท้านต่อความเจ็บปวด มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อในขณะที่เขาเริ่มทรุดตัวลงข้างกำแพง ด้วยแรงที่กำลังจะหมดลง เสียงฝีเท้าคนหนึ่งใกล้เข้ามา ธนาหันไปมอง เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใย “คุณ...คุณเป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเธอสั่นแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวคนนั้นชื่อ มีนา เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเคยเห็นตอนวิ่งหนีเข้ามาในย่านนี้มีนาไม่รอให้เขาตอบ
เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมาชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเองความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุมเจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท
ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืดไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้ธนาเดินเ
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ