เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไร
บรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อ
เธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้
"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"
เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเยือกเย็นของธนา ใจเธอเต้นแรงด้วยความโกรธและความกลัวที่ปนเปกัน เธอเงยหน้ามองเขา กล้าๆ กลัวๆ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับไม่แผ่วเบา
"คุณคิดว่าฉันจะยอมเป็นของคุณง่ายๆ หรือไง?" เสียงของเธอสั่นแต่หนักแน่น แววตาแฝงความกล้าหาญ แม้หัวใจจะเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
ธนาหยุดชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะอย่างเบาๆ ดวงตาคมเฉียบของเขาจ้องตรงไปยังเธอ รอยยิ้มบางปรากฏที่มุมปาก แต่กลับเยือกเย็นจนเธอขนลุก
"ไม่กลัวเลยใช่ไหม?" เขากระซิบถามใกล้ๆ อย่างท้าทาย พลางเอียงหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่หนักแน่นนั้น เจนพยายามถอยหลัง แต่เก้าอี้กลับกั้นเธอไว้ เธอจึงได้แต่นั่งนิ่งข่มใจอย่างสุดความสามารถ
“ถ้าคิดจะต่อต้าน ก็ลองดูสิ” ธนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดและเต็มไปด้วยอำนาจ “แต่จำไว้… คนรอบตัวเธอจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ”
เจนกำหมัดแน่น สายตาสั่นระริก แต่เธอก็ยังไม่ยอมลดราวาศอก ดวงตาฉายแววโกรธขึ้งและแข็งกร้าว
"ทำกับฉันยังไม่พอ ต้องขู่คนอื่นด้วยเหรอ?" เธอพ่นคำพูดอย่างแหลมคม แววตาฉายความโกรธจัด แต่ก็ยังมีร่องรอยของความกลัวซ่อนอยู่
ธนาไม่พูดอะไรอีก แต่จ้องเธอนิ่งด้วยสายตาที่เยือกเย็น ราวกับจะทดสอบว่าเธอจะทนได้อีกนานแค่ไหน
ธนาไม่รอช้า เขากระชากเจนให้ลงมานั่งบนตักกว้างของเขาอย่างไม่ปรานี เสียงอุทานของเธอดังขึ้นเบาๆ ด้วยความตกใจ แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอตั้งตัวได้ทัน วงแขนแกร่งโอบรัดรอบเอวของเธอแน่น ประหนึ่งว่าเธอเป็นนักโทษที่ไม่มีวันหลุดพ้นจากพันธนาการนี้
เจนเริ่มดิ้น พยายามจะลุกหนีจากตักเขา ทว่าธนากลับยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้น เสียงเข้มขู่เบาๆ ข้างหู “นั่งนิ่งๆ ไม่งั้นเธอจะได้รู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง”
คำพูดนั้นทำให้เธอตัวชะงัก มองเขาด้วยสายตาโกรธแค้นที่เต็มไปด้วยความอึดอัด แต่เธอก็ไม่กล้าขัดขืนต่ออีก ธนาใช้ปลายนิ้วไล้แก้มเธออย่างช้าๆ ขณะมองปากสวยที่เม้มแน่นอย่างดื้อดึง
ธนาหัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อตัวเจนพยายามดิ้นขัดขืน อารมณ์ของเธอราวกับม้าพยศที่พร้อมจะหนีห่าง แต่เขากลับกระชับวงแขนกว้าง รัดแน่นขึ้นทุกครั้งที่เธอพยายามดิ้นจนไม่มีทางหนี สายตาคมกริบของเขาจับจ้องที่ใบหน้าของเธอ สลับกับริมฝีปากสีอ่อนที่สั่นไหวด้วยความโกรธ
“นั่งนิ่งๆ” เขากระซิบด้วยเสียงเข้ม ข่มขู่เบาๆ “ไม่อย่างนั้น… เธอจะได้เจออะไรที่มากกว่านี้”
เจนหยุดดิ้นชั่วครู่ สายตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบของเขา ด้วยความรู้สึกสับสนระคนกลัว และในที่สุดเธอก็ยอมผ่อนแรงลง ปล่อยตัวเองให้อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างไร้หนทาง
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที เสียงหัวใจของเขาที่เต้นอย่างมั่นคง และความอบอุ่นจากวงแขนที่รัดแน่นก็ค่อยๆ กล่อมเธอให้สงบลง เจนที่เหนื่อยล้าจากการต่อต้านเผลอเอนศีรษะลงบนอกกว้างของเขาโดยไม่รู้ตัว เปลือกตาค่อยๆ ปิดลงด้วยความอ่อนล้า สุดท้ายก็ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของเขาอย่างเงียบสงบ
ธนาก้มลงมองใบหน้าของเจนในยามหลับ แสงไฟสลัวบนเครื่องบินส่วนตัวช่วยขับเน้นให้ใบหน้าอ่อนหวานของเธอยิ่งดูสงบไร้การป้องกัน ท่าทางดื้อรั้นและต่อต้านที่เขาเห็นก่อนหน้านี้เลือนหาย เหลือเพียงความอ่อนโยนและบอบบางในอ้อมแขน ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มบางอย่างยากจะเข้าใจ
เมื่อเครื่องบินแตะพื้นจอด ธนาอุ้มร่างเล็กลงจากเครื่องอย่างระมัดระวัง แผ่นอกกว้างสัมผัสความอบอุ่นของเธออยู่ใกล้ ร่างของเธอซบแนบกับอกของเขา ราวกับเธอไว้ใจทั้งๆ ที่อยู่ในภวังค์ฝัน เขาก้าวลงสู่บันไดเครื่องบินและเดินตรงไปยังรถที่จอดรออยู่ไม่ห่าง
ลูกน้องต่างพากันหลบสายตา ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใดเมื่อเห็นเขาประคองเธอด้วยความระมัดระวังเช่นนั้น เมื่อมาถึงรถ เขาจัดการวางเธอเบาๆ ลงบนเบาะหลัง และตัวเขาเองก็นั่งลงข้างๆ พลางมองเธอด้วยแววตาเข้มลึกล้ำที่ใครก็มองไม่ออกว่ามันเป็นเพียงความปรารถนาหรือบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น
เจนงัวเงียตื่นขึ้นมา เมื่อรถคันหรูแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าประตูคาสิโนอันโอ่อ่าหรูหรา เจนมองไปที่อาคารนั้นด้วยความตระหนก ใจเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ สายตาจับจ้องไปยังแสงไฟนีออนที่สว่างจ้าตัดกับความมืดของค่ำคืน ราวกับเป็นป้ายบอกทางสู่โลกใหม่ที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน โลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและอันตรายที่ซ่อนอยู่ในความหรูหรานั้น
ประตูรถถูกเปิดโดยลูกน้องในชุดสูทดำ เจนลอบกลืนน้ำลาย ขณะที่เธอก้าวลงจากรถด้วยหัวใจที่สั่นระรัว เธอถูกพามาถึงที่นี่โดยไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ เหมือนกับถูกตรึงไว้ด้วยสายตาและคำขู่ของชายผู้ที่อำนาจครอบครองชีวิตของเธอในขณะนี้
ธนานั่งอยู่ในรถที่มีฟิล์มดำสนิท ไม่ละสายตาจากเธอแม้แต่วินาทีเดียว เขาส่งสายตาดุดันแต่แฝงด้วยแววพึงพอใจ ยิ้มบางๆ ที่มุมปากเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกถึงอารมณ์ข้างใน เขามองเห็นเจนที่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าขาวซีด ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวและความหวาดหวั่น แต่ก็มีแสงเล็กๆ ของความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ เขารู้ดีว่านี่คือผู้หญิงที่เขาต้องการครอบครอง และจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งชิงไปจากเขา
ลูกน้องพาเธอเดินขึ้นบันไดเข้าสู่คาสิโน ที่นี่ทั้งใหญ่โตและหรูหรา ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยผู้คนในชุดสูทและชุดราตรีหรู พวกเขาต่างดื่มด่ำอยู่ในโลกของแสงสีและเสียงดนตรี แต่สำหรับเจน ที่นี่คือกรงขังที่หรูหรา เธอรู้สึกเหมือนเป็นนกน้อยที่ถูกลากมาสู่กรงทองคำนี้โดยปราศจากทางออก
“ขอต้อนรับสู่โลกของฉัน” เสียงของธนาดังขึ้นข้างหลังเธออย่างเยือกเย็น ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ มือแกร่งของเขาจับเบาๆ ที่หลังของเธอ แต่เจนรู้สึกเหมือนถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวน
“จำไว้ ว่าต่อจากนี้ไป เธอไม่มีทางหนีไปไหนได้” เขากระซิบเสียงต่ำใกล้หูของเธอ พลางส่งยิ้มที่มีทั้งความเผด็จการและความพึงพอใจ
เจนกัดริมฝีปากแน่น ข่มน้ำตาที่อยากจะไหลริน เธอรู้แล้วว่าต่อจากนี้ ชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และแม้ว่าเธอจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ในส่วนลึกของใจ เธอก็รู้ว่านี่คือการเผชิญหน้าที่เธอไม่มีวันหลีกเลี่ยงได้
ธนากุมมือเล็กของเจนไว้แน่น ราวกับจะประกาศให้รู้ว่าเธออยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขาแล้ว ร่างสูงใหญ่พาเธอก้าวเดินไปตามทางเดินของคาสิโน โดยมีสายตาจากผู้คนรอบข้างจับจ้องด้วยความสงสัย บางคนกระซิบกระซาบ บ้างก็หันมองตามหลังเขาไปจนลับตา ท่าทางทรงอำนาจของธนา ผสานกับความสวยสงบที่แฝงความดื้อรั้นในดวงตาของเจน กลายเป็นภาพที่ดึงดูดสายตาของทุกคนในคาสิโน
เจนพยายามขืนมือออกจากการกุมที่แข็งแรงนั้น แต่แรงเธอก็ไม่อาจเทียบกับเขาได้ ธนาก้มลงมองเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เหมือนจะเตือนให้เธอรู้ว่า การดิ้นรนใดๆ ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาตัดสินใจไปแล้วได้
เขาก้มลงมองเจน ดวงตาคมกริบฉายแววอ่อนโยนเพียงชั่วขณะ แต่กลับมีความเด็ดขาดที่ยากจะปฏิเสธ สายตาที่สะท้อนถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
"ฉันเตือนแล้วนะ ว่าไม่ให้ดื้อกับฉัน"
เสียงเขาต่ำลึกแต่แฝงด้วยคำเตือน ราวกับว่าคำพูดของเขาเป็นกฎที่ไม่อาจฝ่าฝืน
เจนเม้มปากแน่น เธอรู้ดีว่าความพยายามที่จะขัดขืนอาจจะนำไปสู่บางอย่างที่เธอไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ความดื้อรั้นในใจถูกกดดันจนเกือบหมดสิ้น แต่ยังเหลือเงาของการต่อต้านอยู่เพียงเล็กน้อย มือใหญ่ที่กุมมือเธอไว้ทำให้เธอตระหนักได้ว่าหนีไปไหนไม่พ้น
ธนามองเธอนิ่ง ราวกับกำลังสำรวจทุกเสี้ยวอารมณ์ในดวงตาคู่นั้น
"ถ้าเธอยังคิดจะดื้ออีก ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้เธออยู่ในโอวาท"
เขายิ้มเล็กๆ ด้วยความมั่นใจในอำนาจของตัวเอง ก่อนจะกระชับมือของเธอแน่นขึ้น ให้เธอรู้ว่าเธอจะปลอดภัย แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเขา
ธนาพาเจนเดินผ่านโถงทางเดินหรูหราของคาสิโน ดวงตาของเธอเบิกกว้าง มองภาพรอบข้างที่ตกแต่งอย่างอลังการ เสียงพึมพำและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจากผู้คนรอบข้างต่างจับจ้องมาที่พวกเขา—โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดธรรมดาที่ถูกพาขึ้นมายังชั้นบนสุดของคาสิโนสุดหรูแห่งนี้
เมื่อมาถึงหน้าห้องชุดที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ธนาหยุดลงครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาสบตากับเธอด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและคำสั่งที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
“ตั้งแต่ตอนนี้ เธอจะอยู่ในความดูแลของฉัน” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม แต่ชัดเจน
เขาเปิดประตูออก ภายในห้องกว้างขวางตกแต่งอย่างวิจิตรหรูหรา แต่มีกลิ่นอายของความเป็นส่วนตัวที่ห่างไกลจากโลกภายนอก เจนรู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดปนด้วยความตื่นเต้น เธอเผลอก้าวถอยหลัง แต่ธนาก็จับมือเธอไว้ ไม่ให้เธอหนีไปไหน
"อย่าคิดจะหนีอีก"
เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มเยาะน้อยๆ มือของเขายังไม่ปล่อยจากมือเธอ ราวกับต้องการให้เธอเข้าใจว่าที่นี่คือที่ของเธอจากนี้ไป
เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร
“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ” คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนักมาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ “เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ” น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง"มาร์ค…" ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหวเมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงีย
เจนรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังละลายไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนของเขา ขณะที่นอนราบอยู่บนเตียงกว้างที่หรูหรา สัมผัสของริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของธนาทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวอย่างประหลาด เสียงกระซิบของเขาที่ว่า “เธอเป็นของฉันแล้ว ยอมรับเถอะ” ฟังดูเหมือนคำสั่งมากกว่าคำถาม แต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการที่แท้จริง“ไม่…” เจนพยายามห้ามตัวเองจากการตอบรับความรู้สึกนี้ แต่คำพูดนั้นกลับจางหายไปเมื่อธนาก้มลงจูบเธออีกครั้ง ราวกับว่าเขารู้ว่าเธอจะไม่สามารถต้านทานเขาได้อีกต่อไป จูบของเขาอัดแน่นไปด้วยความร้อนแรงและความหลงใหลที่ไม่อาจปฏิเสธเธอรู้สึกถึงการดึงดูดที่ลึกซึ้งในจูบของเขา และเมื่อเขาใช้ลิ้นค่อยๆ เปิดปากของเธอ มันเหมือนกับการปลดปล่อยความรู้สึกที่เธอพยายามจะเก็บซ่อนไว้ เจนเริ่มรู้สึกสับสนกับอารมณ์ของตัวเอง ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร และทำไมเธอถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่ออยู่ใกล้เขา“ยอมรับสิ เจน…” เขากระซิบอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มละมุนในขณะที่เขาเลื่อนมือไปตามเรียวแขนของเธอ “เธอรู้ดีว่าใจเธอเรียกร้องให้มาที่นี่กับฉัน”การมองตาของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกมัดตรึงอยู่กับที่ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและอำนาจ และเ
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ