ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”
ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”
ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้
ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืด
ไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้
ธนาเดินเข้ามาใกล้ แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความดุดัน “ถ้าเธอยอมไปกับฉันดีๆ ทุกคนอาจจะอันตรายถึงชีวิต” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความคุกคามและความจริงจัง
เจนสั่นสะท้าน เธอรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ความรู้สึกอึดอัดกัดกินหัวใจของเธอ น้ำตายังคงนองหน้าในขณะที่เธอพยายามควบคุมตัวเอง “ไม่! ฉันจะไม่ไปกับคุณ!” เธอตอบอย่างกล้าหาญ แต่รู้ว่ามันไม่ใช่การเลือกที่ง่าย
พิธานพยายามลุกขึ้น แต่ลูกน้องของธนาเตะเข้าไปที่ท้องของเขาอย่างแรง ทำให้เขาหงายหลังลงกับพื้น เสียงกรีดร้องของเจนทำให้ธนาหันไปมองเธออย่างดุดัน “อย่าพยายามเข้ามาใกล้!”
พิธานพยายามบอกให้เจนหนีไป แต่เสียงของเขากลับถูกปิดด้วยเสียงขู่ของธนา “ถ้าเธอไม่ยอมไปกับฉัน เขาจะต้องได้รับโทษ” เขาบอกอย่างเย็นชา ขณะที่ลูกน้องเริ่มซ้อมพิธานอย่างไร้ความปราณี
“อย่าทำร้ายเขา!” เจนตะโกนอย่างสิ้นหวัง น้ำเสียงของเธอสะท้อนถึงความเจ็บปวดและความรักที่เธอมีต่อเพื่อน แต่ทุกอย่างกลับทำให้ธนาไม่สนใจ
ลูกน้องเริ่มลงมือเตะและต่อยพิธานซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขานอนอยู่กับพื้นเลือดอาบเต็มตัว พิธานพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ถูกลูกน้องเตะอย่างไม่ไว้หน้า “อย่าคิดว่าจะหนีไปได้!” หนึ่งในลูกน้องหัวเราะเยาะ
เจนรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกบีบแน่น เธอวิ่งเข้าไปหาพิธาน “ไม่! อย่าทำเขา!” แต่ธนาเอื้อมมือไปจับแขนเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอเข้าไปใกล้
ธนาไม่ตอบ เขาหันไปมองพิธานที่กำลังถูกซ้อมอย่างไร้ความปราณี ก่อนจะหันกลับมาที่เจน “นั่นคือคำตอบสุดท้ายหรือ? ถ้าเธอไม่ไปดีๆ ฉันจะไม่รับประกันว่าเขาจะรอด”
ในที่สุดความกลัวและความรักต่อเพื่อนของเธอก็ทำให้เจนต้องยอม เธอเงียบไปและเดินขึ้นรถอย่างง่ายดาย น้ำตาของเธอไหลอาบหน้า ขณะที่เธอรู้สึกถึงความพ่ายแพ้และความเจ็บปวดที่กัดกินหัวใจ
ธนาหันไปมองลูกน้องของเขา “ปล่อยเขาไป” เขาสั่งเสียงต่ำ ก่อนที่จะหันกลับไปที่เจน เขารู้ว่าเขาได้สิ่งที่ต้องการ แต่ไม่รู้เลยว่าความรักและความเจ็บปวดที่เธอมีจะนำพาทั้งคู่ไปไหนในอนาคต
ขณะที่รถเคลื่อนตัวออกไป ท่ามกลางความมืดของคืน เจนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบได้พังทลายลง เธอต้องอยู่กับผู้ชายที่เธอเกลียดและหวาดกลัว แต่เธอรู้ว่าตอนนี้เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก และเพื่อไม่ให้ใครต้องตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไป...
ในความมืดมิดของรถ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มและบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ธนาหันไปมองเจนด้วยดวงตาอันดุร้าย เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้เธอ หายใจเข้าออกช้าๆ ก่อนจะพูดเสียงต่ำและดุดัน
“หยุดร้องไห้!”
เสียงของธนาดังขึ้นอย่างดุดัน สายตาของเขาจับจ้องไปที่เจน ดวงตาของเขาดูแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยอำนาจ
“เธอเป็นของฉัน ห้ามร้องไห้ให้ผู้ชายคนไหนอีก”
น้ำตาของเจนไหลอาบแก้ม เธอพยายามตั้งสติ แต่ความรู้สึกท่วมท้นของความกลัวทำให้เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ฉันไม่ต้องการ…” เสียงของเธอสั่นเทา ไม่สามารถยอมรับความจริงที่เธอเผชิญอยู่
ธนาทำให้เธอรู้สึกกลัวมากขึ้นเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้
“ฟังนะ เจน จากนี้ไป ฉันคือนายของเธอ ทำตามที่ฉันสั่ง” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและเด็ดขาด เขายิ้มเยาะน้อย ๆ
“ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง จะมีผลที่ตามมาที่เธอไม่สามารถจินตนาการได้”
เจนรู้สึกถึงความอึดอัดและท่วมท้น เธออยากต่อต้าน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือก ทุกอย่างรอบตัวเธอดูมืดมนและไม่มีทางออก ชีวิตของพิธานอยู่ในมือของชายคนนี้ และเธอไม่สามารถทำให้เขาโกรธได้
“ทำไม…” เธอถามเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความสิ้นหวังในใจ “ทำไมถึงต้องทำแบบนี้?”
“เพราะฉันต้องการเธอ” ธนาตอบอย่างตรงไปตรงมา “และฉันจะไม่ยอมให้ใครมาขวางทางฉันได้” เขายิ้มอย่างเย็นชา ขณะที่มือของเขายกขึ้นไปสัมผัสแก้มของเธอด้วยความหยาบกระด้าง “นี่คือชีวิตของเธอตอนนี้”
“ถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่ง… ” เขาเว้นวรรคชั่วครู่ สายตาเขาจ้องลึกไปในดวงตาของเจนอย่างดุดัน “ทุกคนรอบตัวเธอ—พ่อของเธอ, เพื่อนชายของเธอ... จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่ไม่อาจคาดคิดได้”
เสียงของเขาเข้มข้นและเต็มไปด้วยความจริงจัง ทำให้เจนรู้สึกเหมือนน้ำแข็งไหลเย็นในกระแสเลือด เธอพยายามหายใจให้ได้ แต่ความกลัวที่จิกกัดใจทำให้เธอไม่อาจหลบตาออกจากเขาได้
“เธอเข้าใจไหม?” ธนาใช้มือจับข้อมือของเจนอย่างแรง เขาใช้แรงกดดันในสัมผัสของเขาให้เธอรู้สึกถึงความจริงจังของคำขู่ “ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะทำให้พวกเขาทุกคนต้องทนทุกข์”
เจนกัดฟันแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ใช่แค่คำขู่ธรรมดา แต่เป็นความจริงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
“บอกว่าให้หยุดร้องไห้ซะที” เสียงของเขาดุดัน
เจนรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แล่นผ่านร่างกาย เธอไม่สามารถเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้มาจากชายที่อยู่ตรงหน้า เธอพยายามจะสู้กลับ แต่คำพูดของเขาทำให้เธอสั่นคลอน และในตอนนั้นเองที่ธนาก้าวเข้ามาใกล้
เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเธอ แต่เมื่อเจนปัดมือเขาออกด้วยความเกลียดชัง ธนาก็รู้สึกถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นในใจ เขาไม่ยอมให้เธอหนีจากเขาได้ง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงดึงเธอเข้ามาใกล้ จูบเธออย่างรุนแรง
“นี่มันจูบแรกของฉัน ไอ้บ้า!” เจนคิดในใจ ขณะที่ความรู้สึกสับสนรุมเร้า จูบนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความต้องการ ในขณะเดียวกันก็เป็นการประกาศอำนาจที่เขาไม่มีวันยอมให้เธอหลีกหนี
แต่รสจูบนั้นกลับทำให้บางอย่างในหัวใจของธนาเบ่งบาน หวานล้ำเหลือเกิน เขารู้สึกถึงความไร้เดียงสาที่ซ่อนอยู่ในตัวเจน จากสัมผัสที่เธอมอบให้ การต่อต้านและความตื่นตระหนกที่เธอแสดงออกกลับทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าที่เขาคาดคิด
ธนาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าจูบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการครอบครอง แต่ยังเป็นการค้นพบความปรารถนาที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เขาพยายามเปิดปากของเจนแทรกลิ้นไปในปากสวยๆ แต่ความร้อนแรงที่อยู่ในตัวเขากลับทำให้การกระทำนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อน ริมฝีปากของเขาแนบแน่นกับของเธอในขณะที่เขาค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปในปากของเธออย่างช้าๆ ราวกับกำลังสำรวจโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวานและความลึกลับ
ลิ้นของเขาเคลื่อนไหวไปมาอย่างอ่อนโยนแต่ก็มีความดุดัน เขาไม่เพียงแต่ค้นหาความหวานที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ แต่ยังรู้สึกถึงความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสาที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ทุกสัมผัสมีพลังดึงดูด ทำให้เขาไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เขาจูบเธอด้วยความหลงใหล ประดุจดังเป็นการจูบที่เขารอคอยมานาน
เจนรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวจางหายไป เหลือเพียงเขาและเธอในห้วงเวลาอันแสนหวาน ความหวาดกลัวที่เคยมีเริ่มเบาบางลงเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในจูบของเขา ลมหายใจของเขาที่ร้อนระอุและเสียงหัวใจที่เต้นรัวทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจของเธอ
“อืม…” เสียงครางที่หลุดออกมาจากปากของเจนยิ่งกระตุ้นให้ธนาเบ่งบานด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาดึงเธอเข้ามาใกล้กว่าเดิม หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ลึกซึ้ง ขณะที่จูบของเขายังคงเป็นการบอกเล่าความรู้สึกที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้
“เจน…” เขากระซิบเรียกชื่อเธอในขณะจูบ ราวกับว่าเธอคือทุกสิ่งที่เขาใฝ่หา เสียงของเขาแฝงไปด้วยความอบอุ่นและการปกป้อง สัมผัสของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็มีความต้องการที่ลึกซึ้งซึ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
น้ำตาของเจนยังคงไหลอาบแก้ม แต่ความหวานจากจูบนี้กลับทำให้เธอเริ่มสงสัยว่าการจูบนี้จะหมายถึงอะไร มันทำให้เธอรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งอย่างไม่คาดคิด ในช่วงเวลานั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนหมุนรอบเขาและเธอ ในขณะที่ธนายังคงกอดเธอแน่น ราวกับว่านี่คือการครอบครองที่เขาต้องการให้เป็นจริง
“จำไว้ ว่าเธอเป็นของฉัน” เขาพูดเสียงต่ำ พร้อมกับสัมผัสที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเธอ ทำให้หัวใจของเจนเต็มไปด้วยความหวานผสมผสานกับความร้อนแรงที่ยังคงเผาไหม้อยู่ภายใน...
ธนาผละจากจูบ ร่างกายของเขายังคงหอบหายใจอย่างหนัก เสียงของเขากดต่ำเมื่อพูดใกล้ปากสวยของเจน “อยู่เฉย ๆ ไม่งั้นฉันทำอะไรเธอไม่รู้ด้วยนะ” คำพูดนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่ทั้งดุดันและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เขารู้ว่ามันคือการข่มขู่ แต่ก็มีแฝงไปด้วยความปรารถนา
ทันทีที่เขาพูดจบ ธนาก็ดึงเธอเข้ามาแนบชิดกับอกกว้างของเขา กอดเธอแน่นจนรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่แข็งแรง แม้ว่าเจนจะต่อต้านในใจ แต่ร่างกายของเขากลับทำให้เธอรู้สึกไม่มีทางเลือก น้ำตาของเธอยังคงไหลไม่หยุด ราวกับว่ามันเป็นเครื่องหมายของความไร้ความสามารถในการต่อสู้กับสถานการณ์นี้
“ปล่อยฉัน…” เจนพูดเสียงสั่นเครือ แต่ธนาไม่ได้ปล่อย เธอรู้ดีว่าตนเองไม่มีทางหนีจากร่างใหญ่โตที่ล้อมรอบไปด้วยอำนาจและความดุดันนี้ได้
“ไม่” เขาตอบกลับเสียงหนักแน่น “ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ” รู้สึกถึงความรู้สึกที่ก่อตัวในใจ เขายังไม่แน่ใจว่าตนเองต้องการอะไรจากเธอ แต่เขารู้ว่าความรู้สึกนี้มันมากเกินกว่าจะละเลย
เจนดิ้นรนเพียงเล็กน้อย แต่ธนากลับกอดแน่นขึ้น ราวกับว่าเขาต้องการปกป้องเธอจากทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้น แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความสับสน และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองต้องการทำร้ายเธอหรือแค่ต้องการให้เธออยู่กับเขา
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย
เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร
“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ” คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนักมาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ “เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ” น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง"มาร์ค…" ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหวเมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงีย
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ธนานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคาสิโน มองออกไปที่วิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเครื่องเล่นพนันและเสียงหัวเราะของผู้คนดังอยู่ไกลๆ แต่ภายในใจเขากลับเงียบเหงาเหมือนความว่างเปล่าของชีวิต เรื่องราวในอดีตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำของเขาหลายปีก่อน เมื่อชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ธนาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า ธนาวิ่งพรวดเข้าไปในซอยเล็กๆ ของย่านมืดในปรารีส ความเจ็บแสบจากบาดแผลที่โดนเฉือนเริ่มแล่นลึก เลือดไหลซึมจากบาดแผลหลายจุด เปื้อนเสื้อผ้าจนแดงฉาน ธนาไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่สะท้านต่อความเจ็บปวด มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อในขณะที่เขาเริ่มทรุดตัวลงข้างกำแพง ด้วยแรงที่กำลังจะหมดลง เสียงฝีเท้าคนหนึ่งใกล้เข้ามา ธนาหันไปมอง เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใย “คุณ...คุณเป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเธอสั่นแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวคนนั้นชื่อ มีนา เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเคยเห็นตอนวิ่งหนีเข้ามาในย่านนี้มีนาไม่รอให้เขาตอบ
เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมาชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเองความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุมเจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท