เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์
โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก
ในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร้อมให้บริการทุกเมื่อ หัวใจสำคัญของห้องคือเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่ตั้งอยู่ในห้องนอน มีผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตาและหมอนหนุนที่มีความนุ่มนวล ราวกับเชิญชวนให้เธอผ่อนคลาย
ที่หน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปเห็นวิวของคาสิโนที่สว่างไสวในยามค่ำคืน แสงไฟจากคาสิโนทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา เสียงเพลงจากด้านล่างพัดมาเบาๆ ทำให้เจนรู้สึกถึงความตื่นเต้นที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนแห่งความโชคดีนี้ เมื่อเจนถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
“มีแค่ห้องนอนเดียวเหรอ? แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหน?”
น้ำเสียงของเธอดูเหมือนจะเจือด้วยความวิตกกังวล ธนาเงยหน้าขึ้นจากการสำรวจห้อง และหันมาสบตากับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“ก็นอนกับฉันน่ะสิ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความลังเล ราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เจนรู้สึกถึงแรงกดดันจากคำตอบนั้น ใจของเธอเต้นแรง เธอไม่แน่ใจว่าจะตอบกลับยังไงดี แต่คำพูดนั้นทำให้รู้สึกได้ถึงอากาศที่เริ่มหนาวเย็นขึ้นในห้องที่หรูหรานี้ ความรู้สึกระหว่างเธอกับธนาที่ตึงเครียดนั้นยิ่งเพิ่มขึ้น
“นี่มันบ้าไปแล้ว!ที่ตั้งกว้างดันทำห้องนอนแค่ห้องเดียว” เจนอุทานออกมา ความวิตกกังวลทำให้เธอพูดโดยไม่ทันคิด “จะให้ฉันนอนบนเตียงเดียวกับคุณได้ยังไง?”
ธนายิ้มอย่างขี้เล่น เขาเดินเข้าหาเธอช้าๆ “ทำไมล่ะ? ห้องมันมีแค่ห้องเดียว ถ้าฉันมีทางเลือก ฉันก็ยินดีที่ให้เธอนอนที่นี่” เขาพูดขณะเดินเข้ามาใกล้ จนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ร้อนแรงของเขา
เจนรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอจะหยุดเต้น ความคิดที่ว่าต้องนอนร่วมกับชายที่น่ากลัวแต่ดึงดูดใจอย่างธนา ทำให้เธอตื่นเต้นและวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน
“ถ้าฉันไม่ยอมล่ะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะแสดงถึงความมั่นใจ แต่กลับแฝงไปด้วยความกลัวที่อยู่ในใจ
ธนาหยุดเดินและหันมามองเธอด้วยแววตาที่ดุจดังไฟ “ถ้าเธอไม่ยอม ฉันก็อาจจะมีวิธีให้เธอเปลี่ยนใจ” เขาพูดเสียงทุ้มต่ำ ทำให้เจนรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้
“คุณจะทำอะไร?” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน ความสงสัยและความกลัวเริ่มปะทุขึ้นในใจ
“แค่รู้ไว้ว่าฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ” ธนาพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจ ในใจของเขากลับรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น
ในค่ำคืนที่มืดมิดและเต็มไปด้วยความตึงเครียดนี้ เจนรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในเกมที่มีเดิมพันสูง และเธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ตื่นเต้นนี้จะพาเธอไปถึงจุดไหน
“ถ้าเธอไม่ดื้อ ยอมดีๆ ปีเดียวฉันจะยกหนี้ให้และปล่อยเธอกับพ่อเธอไป” ธนาพูดออกมาอย่างหนักแน่น เสียงของเขาแฝงไปด้วยความจริงจังและมีน้ำหนักที่ทำให้เจนต้องคิดตาม
เจนหยุดชะงัก ความคิดนั้นทำให้ใจของเธอเต้นแรง เธอรู้ว่าหนี้ที่พ่อติดอยู่กับธนานั้นเป็นเรื่องใหญ่ และการได้ยินข้อเสนอแบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว “คุณหมายความว่าไง?” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย
“ง่ายๆ แค่ยอมทำตามที่ฉันสั่ง เป็นเพื่อนร่วมเตียงของฉัน และเมื่อครบปี เธอและพ่อจะมีอิสระ” ธนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “ไม่ต้องหนี ไม่ต้องดื้อ ฉันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นสำหรับเธอ”
“แต่… ฉันจะต้องอยู่ที่นี่กับคุณ? อยู่ในที่ที่คุณเป็นคนกำหนด?” น้ำเสียงของเจนเต็มไปด้วยความลังเล เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองจะรับมือกับความกดดันนี้ได้หรือไม่
“ใช่” เขาตอบอย่างชัดเจน และแววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความดุร้าย “แค่ลองคิดดูสิ ถ้าสิ่งที่ฉันเสนอให้คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอและพ่อ”
เจนคิดไปถึงอนาคตของเธอและพ่อ เธอรู้ว่าการยอมรับข้อเสนอของธนาอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เธอก็รู้สึกไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง
“ถ้าฉันตกลง… ฉันจะต้องทำอะไรบ้าง?” เธอถามกลับไป
“แค่ทำให้ฉันพอใจ ”
ธนาตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูราบเรียบ แต่เจนกลับรู้สึกถึงความจริงจังที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา
ในใจของเจนตอนนี้กำลังสับสนระหว่างความกลัวและความหวัง เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี แต่รู้เพียงว่า หากเธอไม่ยอมรับข้อเสนอของเขา โอกาสที่จะได้กลับไปสู่ชีวิตปกติอาจจะสูญหายไปตลอดกาล
“ไปอาบน้ำซะ” เขาสั่งเสียงเข้ม สายตาแน่วแน่ไม่ยอมให้ปฏิเสธ
เจนชะงักเล็กน้อย รู้สึกถึงแรงกดดันที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา เธอกำลังจะเถียงออกไป แต่เห็นสายตาคมที่จ้องมองมาราวกับจะตัดสินทุกคำที่เธอจะพูด เธอจึงเงียบและพยักหน้าเบาๆ ยอมทำตามอย่างไม่มีทางเลือก
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างช้าๆ พลางหันกลับมามองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนปิดประตู เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางดุดันแต่ดูสงบ มองตามหลังเธอไปด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความตั้งใจบางอย่าง
ในขณะที่น้ำจากฝักบัวเย็นไหลลงบนร่างกาย เจนรู้สึกว่าความกดดันในห้องนั้นยังคงอยู่ แม้จะพยายามทำใจให้สงบ เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าการตกลงครั้งนี้จะนำพาเธอไปสู่เส้นทางที่ไม่อาจหันหลังกลับ
ธนานั่งอยู่ปลายเตียงในห้องที่มีแสงไฟสลัวส่องผ่านผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียงสีน้ำเงินเข้มแซมลายทองให้บรรยากาศหรูหรา เผยให้เห็นแผงอกกว้างแข็งแรงที่ตัดกับเงามืดรอบตัว เขามองตรงไปที่เจน ร่างบางที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยขาสั่น
“มานี่” เขาเรียกเสียงต่ำแผ่วแต่ทรงอำนาจ
เจนหยุดชะงัก น้ำเสียงนั้นทำให้เธอรู้สึกถึงแรงกดดันที่แผ่ซ่าน เธอพยายามหาคำพูดที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ "ฉะ...ฉันไปนอนข้างนอกก็ได้ค่ะ"
ดวงตาคมของเขาแฝงความไม่พอใจ ส่งสายตาดุดันมาที่เธอ “นี่เริ่มพยศอีกแล้วใช่ไหม?” เขาพูดช้าๆ ทว่าเข้มเด็ดขาด “ฉันสั่งเธอว่าไง?”
เจนรู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังขัดขืน แต่ความรู้สึกว้าวุ่นและความกลัวนั้นมันล้นอยู่ในใจเธอ “ขะ…ขอโทษค่ะ” เธอเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ตามที่เขาสั่ง ใจเต้นแรงทุกก้าวที่เดินเข้าไปใกล้เขา
ทันทีที่เจนเดินเข้ามาใกล้ ธนาก็เอื้อมมือมากระชากร่างบางเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว มือใหญ่ของเขาโอบรอบเอวเล็กแล้วดึงเธอมานั่งลงบนต้นขาแข็งแรงของเขา ราวกับจะย้ำให้เธอรู้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของเธอนั้นอยู่ภายใต้อำนาจของเขาโดยสิ้นเชิง
เจนตกใจ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงซ่านด้วยความอับอาย เธอพยายามจะขยับตัวออกแต่ก็โดนวงแขนแข็งแกร่งของเขารั้งไว้แน่น สัมผัสนั้นอบอุ่นและหนักหน่วงจนเธอไม่สามารถขัดขืนได้ ธนาเอียงหน้าเข้าใกล้ กระซิบเสียงต่ำแต่แฝงความดุดันข้างหู
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามดื้อ” เสียงของเขาเข้มและทรงพลัง เจนเงียบไปด้วยความรู้สึกว้าวุ่นในใจ เธอรับรู้ได้ถึงจังหวะเต้นของหัวใจที่ถี่กระชั้นของเขาผ่านสัมผัสใกล้ชิดนั้น
“ใครดื้อกัน…” เสียงเธอแผ่วเบา หลุดออกมาราวกับเป็นคำท้าทาย แต่คำพูดนั้นกลับยิ่งทำให้ธนายิ้มอย่างพอใจ เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นจนเจนต้องเงยหน้ามอง ใบหน้าของเธอแดงซ่านด้วยความเขินอายและหัวใจที่เต้นแรง
สำหรับเขา เธอดูทั้งน่ารักและน่าหลงใหลจนอดใจไม่ไหว ธนาไม่รีรอ ดึงเธอเข้ามาใกล้กว่าเดิมและกดจูบลงบนริมฝีปากของเธออย่างเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความต้องการ ความหวานของจูบค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความลึกซึ้งและร้อนแรงขึ้นทุกวินาที เขาครอบครองทุกส่วนของเธอในจูบนี้ ทำให้เจนรู้สึกราวกับหลอมละลายอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งนั้น
จูบนี้เป็นจูบที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และยิ่งเธอดิ้นรนเท่าไหร่ ธนายิ่งต้องการย้ำเตือนให้เธอรู้ว่า ตอนนี้เธออยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์
เจนพยายามผลักเขาออกจากจูบ แต่ธนากลับยิ่งรุกหนักกว่าเดิม เขากดจูบลงมาแนบแน่น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆ แทรกผ่านริมฝีปากของเธอ บังคับให้เธอเปิดรับจูบของเขาอย่างเต็มที่ ลิ้นของเขาสำรวจอย่างไม่รีบร้อน แต่มุ่งมั่น ราวกับกำลังค้นหาความหวานที่ซ่อนอยู่ภายในทุกซอกทุกมุม
ความร้อนแรงและเรียกร้องจากจูบนั้นทำให้เจนหัวใจเต้นแรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ เธอพยายามที่จะผลักเขาออก แต่แรงนั้นกลับค่อยๆ ลดลง เมื่อสัมผัสที่เขามอบให้ดึงเธอลงสู่ห้วงแห่งความหวั่นไหวที่ยากจะต่อต้าน
ธนาผ่อนร่างสวยของเจนลงเบาๆ บนเตียงอันนุ่ม ร่างเธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับผ้าปูเตียง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและกังวล ยกมือขึ้นผลักที่อกกว้างของเขาเล็กน้อย พลางหอบหายใจ แต่ธนาเพียงยิ้มเล็กน้อย ก้มลงมองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยน
“ทำไมต้องกลัวขนาดนั้น” เสียงกระซิบแผ่วเบาของเขาก้องอยู่ข้างหู สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้เจนรู้สึกหวั่นไหว ขนลุกซู่ด้วยความประหม่าและความรู้สึกที่เธอไม่คุ้นเคย ดวงตาของเขามองลึกเข้ามาราวกับจะทำให้เธอหลอมละลาย
“แค่ปีเดียว” ธนากระซิบเบาๆ มองเธอด้วยสายตาหวานซึ้ง จากนั้นเขาก้มลงจูบเธออย่างอ่อนหวาน ทว่าแฝงไปด้วยความเชี่ยวชาญที่ทำให้เจนไม่สามารถถอนตัวจากเสน่ห์นั้นได้ หัวใจที่เต้นรัวของเธอยิ่งทำให้เขายิ่งพอใจ ราวกับเด็กน้อยที่ค่อยๆ ถูกล่อหลอกให้หลงเข้าไปในโลกที่เขาเป็นคนสร้างขึ้น
“คุณให้ฉันทำงานใช้หนี้แทนได้ไหม? หนักขนาดไหนฉันก็จะทำ” คำพูดที่แสนท้าทายของเจนยังคงดังก้องอยู่ในใจของธนา ใบหน้าที่คล้ายมีนาแต่แววตาดื้อรั้นและท่าทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายทำให้เขานึกถึงคนละด้านกันไปโดยสิ้นเชิง จนเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มนั้นทำให้ลูกน้องในห้องประชุมต่างหันมามองกันตาปริบๆ ก่อนจะหลบสายตาออกไป เพราะไม่ค่อยได้เห็นบอสของพวกเขายิ้มในเวลางานบ่อยนักมาร์ค มือขวาคนสนิทที่รู้จักนิสัยบอสของตัวเองดี เหลือบมองด้วยท่าทางขี้เล่น พลางกระซิบข้างหูบอสด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “บอส…ไม่ใช่ว่าหลงของเล่นใหม่นะครับ?”ธนาเหลือบตากลับมาให้สายตาดุดัน แต่มาร์คก็ยังกล้ากล่าวต่อ “เด็กนั่นหน้าเหมือนคุณมีนามากนะครับบอส ” น้ำเสียงหยอกล้อของเขาเต็มไปด้วยความนึกสนุกที่หาโอกาสแหย่เจ้านายตัวเอง"มาร์ค…" ธนาเอ่ยเสียงเรียบแต่เฉียบขาด พยายามซ่อนรอยยิ้มที่เริ่มจะเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ในหัวก็อดนึกถึงภาพเจนที่ยืนเถียงใส่เขาด้วยความท้าทายไม่ได้ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างละอายใจในตัวเอง แต่มาร์คที่ถอยไปยืนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอย่างไม่หวั่นไหวเมื่อคืนนี้ธนาต้องอดกลั้นขนาดไหน ในห้องที่เงีย
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ธนานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคาสิโน มองออกไปที่วิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเครื่องเล่นพนันและเสียงหัวเราะของผู้คนดังอยู่ไกลๆ แต่ภายในใจเขากลับเงียบเหงาเหมือนความว่างเปล่าของชีวิต เรื่องราวในอดีตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำของเขาหลายปีก่อน เมื่อชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ธนาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า ธนาวิ่งพรวดเข้าไปในซอยเล็กๆ ของย่านมืดในปรารีส ความเจ็บแสบจากบาดแผลที่โดนเฉือนเริ่มแล่นลึก เลือดไหลซึมจากบาดแผลหลายจุด เปื้อนเสื้อผ้าจนแดงฉาน ธนาไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่สะท้านต่อความเจ็บปวด มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อในขณะที่เขาเริ่มทรุดตัวลงข้างกำแพง ด้วยแรงที่กำลังจะหมดลง เสียงฝีเท้าคนหนึ่งใกล้เข้ามา ธนาหันไปมอง เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใย “คุณ...คุณเป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเธอสั่นแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวคนนั้นชื่อ มีนา เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเคยเห็นตอนวิ่งหนีเข้ามาในย่านนี้มีนาไม่รอให้เขาตอบ
เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมาชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเองความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุมเจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท
ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืดไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้ธนาเดินเ
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย