ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
เขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูง
ธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน
“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที
“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”
ลูกน้องรีบตอบ “ครับบอส แต่… วัดอาม่ามีคนมากมาย อาจจะทำให้ยากในการตามหาเธอ”
“ไม่ต้องห่วง! สั่งให้คนของเราทุกคนไปที่นั่น!” เขากล่าวเสียงแข็ง “ให้ใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ๆ เฝ้าติดตามเธอ และให้รายงานกลับมาเมื่อเจอ”
“เข้าใจครับบอส!” ลูกน้องรีบตอบ ก่อนจะเดินออกไปตามคำสั่ง ธนายืนมองออกไปนอกตึกสูง รู้สึกถึงความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในใจ เขารู้ดีว่าเจนมีนิสัยที่ไม่ค่อยยอมอยู่ในกรอบ และความคิดที่เธออาจจะหนีออกไปจากเขาทำให้เขารู้สึกขุ่นเคืองใจมากขึ้น
ก๊อกๆ
เมื่อคอลินก้าวเข้ามาในห้องกว้าง ด้วยมาดนิ่งและความหล่อเหลาอย่างเฉียบคมจนทำให้สาวๆ หลายคนที่เห็นต่างหันมองตามด้วยความสนใจ เขาเคาะประตูเบาๆ ที่เปิดค้างไว้ พลางยิ้มบางๆ
“Well, well, well, บอสใหญ่ หาดูยากจริงๆ นะเนี่ย เห็นชัดเลยว่าโดนเด็กสาวปั่นหัวเข้าแล้ว”
คอลินหัวเราะเบาๆ เดินไปที่มุมห้อง รินบรั่นดีอีกแก้วยื่นให้ธนาอย่างไม่รีบร้อน ขณะเขายกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม พลางเดินมาดึงเก้าอี้ลงนั่งตรงข้าม ร่างใหญ่ไม่แพ้ธนานั่งไขว่ห้าง มองธนาอย่างเจ้าเล่ห์
ธนาหันมารับแก้วจากมือเพื่อน พร้อมดึงเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ เขาพูดเสียงเรียบ
“งานทางนั้นเรียบร้อยไหม?”
คอลินหัวเราะในลำคอ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ต้องถามด้วยเหรอ? ฉันเป็นคนจัดการเองนะ มีอะไรไม่เรียบร้อยบ้าง?”
เขาเอ่ยพลางยิ้มมีเลศนัย ก่อนจะยกบรั่นดีขึ้นดื่มอีกครั้ง
“ว่าแต่ข่าวลือนี่หนาหูเลยนะบอส…ช่วงนี้ทั้งวันวิ่งขึ้นไปแต่ชั้นบนสุดเลยนะ”
คอลินมองธนาอย่างรู้ทัน ใบหน้าเปื้อนยิ้มเต็มไปด้วยความขบขัน
“อยากเห็นหน้าจังเลย เด็กสาวแบบไหนที่ปั่นหัวบอสใหญ่ของเรา” คอลินพูดพร้อมยิ้มและยื่นแก้วเข้ามาชนกับแก้วในมือของธนาเบาๆ
“แกร๊ง!” เสียงแก้วชนกันดังขึ้นอีกครั้งในห้องทำงานกว้างขวาง เสียงสะท้อนกลับไปกลับมาท่ามกลางความเงียบที่เข้ามาแทนที่ ธนามองไปที่คอลินที่นั่งอยู่ตรงข้าม เขาเห็นเพื่อนสนิทยังคงยิ้มอย่างมีเลสนัย ไม่ใช่แค่สนุกกับสถานการณ์นี้ แต่กำลังเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงในตัวเขาอย่างตั้งใจ
“ดูเหมือนว่าเธอจะมีผลกระทบกับคุณพอสมควรนะบอส” คอลินกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงที่มีอารมณ์ขัน แต่ธนารู้ดีว่ามันมีความจริงอยู่ในคำพูดนั้น
เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้นในห้องทำงาน ทำให้ธนาหันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนที่ลูกน้องคนหนึ่งจะวิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนก “บอสครับ! คุณเจนหายไปจากวัดที่เธอไป!”
คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ธนารู้สึกเหมือนถูกตีด้วยน้ำแข็ง เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “หายไปไหน?” น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว หัวใจเต้นแรงในอก รู้สึกถึงความวิตกกังวลพุ่งทะยานขึ้นทันที
“รายงานว่าเธอถูกเห็นออกจากวัด แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหน!” ลูกน้องตอบเสียงสั่น แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“บะ บอส ครับ พะ พวกเรา”
“เงียบ!” ธนาตะโกนใส่ลูกน้องอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพูดสั่งเสียงเฉียบขาด
“ให้ทุกคนออกตามหาเธอเดี๋ยวนี้! ให้ทุกคนลงไปตรวจสอบพื้นที่รอบๆ วัดและสอบถามผู้คน”
“ครับบอส!” ลูกน้องพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบออกไปทำตามคำสั่ง
ธนาหันกลับมามองคอลิน “ถ้าเธออยู่ในอันตรายล่ะก็...” น้ำเสียงของเขาสั่นไหว เขารู้สึกถึงความเครียดที่เพิ่มขึ้นในอากาศ
เมื่อธนาและคอลินเดินออกจากห้อง ทำให้บรรยากาศในอาคารคาสิโนเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวังของลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทั้งสองคนเคลื่อนไหวอย่างมั่นใจ ดวงตาของธนาแสดงออกถึงความหนักแน่น ในขณะที่คอลินตามติดอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย แต่ก็มีความสนใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในขณะที่เดินไปยังทางออก ธนารู้สึกถึงความไม่สบายใจที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในอก ราวกับว่าสิ่งที่เขาได้ยินหรือสัมผัสอยู่ตลอดเวลานั้นกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงของผู้คนที่พูดคุยกันในบรรยากาศคึกคักของคาสิโนนั้นกลับทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยความกดดัน
ทันใดนั้น เสียงใสๆ ของเจนก็ดังขึ้นจากมุมหนึ่งของอาคาร “คุณกำลังจะไปไหนคะ?” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความสงสัยและสดใส แต่เมื่อได้ยินมันกลับทำให้ธนาเกิดอาการชะงัก ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยความโกรธและความกังวลในคราวเดียวกัน
“เจน…” เขาหันไปตามเสียง รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายในใจของตัวเอง สีหน้าเคร่งเครียดของเขาปรากฏชัดขึ้น ขณะที่คอลินมองกลับไปยังเจนด้วยความสนใจ
เจนยืนอยู่ตรงนั้น ความมีชีวิตชีวาของเธอถูกตัดกับความหนักแน่นในอากาศ
ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดนี้ ธนารู้สึกถึงความโกรธที่ค่อยๆ ก่อตัวในอก เขายืนอยู่ที่นั่น ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความดุร้ายและไม่พอใจ ราวกับมีแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นในใจเขา ร่างสูงใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวอย่างมั่นคง เมื่อเดินตรงไปยังเจนที่ยืนอยู่โดยไม่รู้ตัว
“เจน!” เสียงของเขาหนักแน่นและเข้มข้น ดังก้องไปทั่วห้องอย่างดุดัน ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เธอราวกับจะสะกดจิตให้อยู่เฉยๆ แม้เสียงของเขาจะเต็มไปด้วยอำนาจ แต่ความรู้สึกภายในของเขากลับเต็มไปด้วยความกังวลและความไม่สบายใจ
เจนรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศ ราวกับว่าเธอกำลังยืนอยู่กลางพายุ ธนาก้าวเข้าไปใกล้ และในชั่วพริบตา เขากระชากแขนเธออย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างเล็กๆ ของเธอปลิวตามแรงดึง ดวงตาของเจนเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าธนาจะมาทำเช่นนี้
“เธอจะทำอะไร!?” เสียงของเธอสั่นเครือ ขณะที่ถูกดึงเข้าหาธนาอย่างแรง แขนของเธอรู้สึกเหมือนถูกล็อกไว้ในกำมือที่แน่นหนา ในขณะที่เขาจับแขนเธอไว้แน่น ธนามองไปที่เธอด้วยความโกรธที่ยังไม่หมดไป และในใจของเขาเองก็เต็มไปด้วยความลังเล
“หุบปาก!” ธนาตะคอกกลับ เสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจจนทำให้บรรยากาศรอบๆ เงียบลงราวกับมีอะไรมาหยุดความเคลื่อนไหว ธนารู้สึกถึงความหายใจที่หนักแน่นของตัวเอง เขาหยุดกึกเมื่อเห็นสีหน้าของเจนที่เต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ
“อย่าเล่นกับไฟเลยนะเจน” เขาพูดเสียงต่ำ แต่แฝงไปด้วยความดุเดือด น้ำเสียงของเขาทำให้เจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกบดขยี้อยู่ภายใต้แรงกดดันที่เขาแผ่ซ่านออกมา ราวกับว่าเขาเป็นสายฟ้าที่กำลังจะเกิดพายุ ฝนแห่งความโกรธและความผิดหวัง เขาหันกลับมาตวัดอุ้มเจนขึ้นในอ้อมแขน
ร่างสูงใหญ่ของธนาเดินอุ้มเจนออกจากห้องอย่างดุดัน ความโกรธในใจเขาระเบิดออกมาเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า ทุกคนรอบข้างรู้สึกถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากความรุนแรงนี้ ราวกับว่าอากาศรอบตัวกลายเป็นหนาวเย็นขึ้นอย่างกะทันหัน
“คุณเจน!” เสียงของลูกน้องคนหนึ่งดังขึ้น แต่ธนาไม่สนใจ เขาเดินผ่านทุกคนไปอย่างมั่นใจ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด ดวงตาสีเข้มแสดงถึงความโกรธและความกังวลที่ซ่อนอยู่ในใจ เขาไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นได้
เจนที่ถูกอุ้มรู้สึกถึงความตึงเครียดในอ้อมแขนของเขา ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและดุดันนี้ แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยกลับเกิดขึ้นในใจของเธอ ความเจ็บปวดจากการถูกจับอยู่ในวงล้อมของเขาเหมือนจะยิ่งทำให้เธอตื่นตัว
“ทำไมคุณถึงไม่ไว้ใจฉัน?” เธอถามเสียงสั่น เธอพยายามจะตั้งสติ แต่ในใจก็มีแต่ความสับสนและกลัว ความโกรธที่แผ่ซ่านออกจากเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดดัน
“เพราะเธอทำตัวเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักคิด!” เขาตอบเสียงเข้ม ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความโกรธ มันไม่ใช่แค่ความหึงหวง แต่เป็นความรู้สึกที่มาจากการพยายามปกป้องและควบคุมสถานการณ์ให้ได้ในแบบที่เขาต้องการ
เมื่อถึงชั้นบนสุด เขาก็เปิดประตูห้องด้วยแรงกระแทก มันเหมือนกับการเปิดประตูเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความเครียดและความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ธนาวางเจนลงบนพื้น แต่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ร่างสูงใหญ่ของเขาบดบังทุกสิ่งรอบตัว
“เธอไม่มีทางไปไหนทั้งนั้น!” เขาพูดด้วยเสียงที่ก้องกังวานในห้องที่เงียบงัน เจนสัมผัสได้ถึงความโกรธที่พุ่งพลังอยู่ในตัวเขา รู้สึกเหมือนเขากำลังขังเธอไว้ในกรงทองที่เขาสร้างขึ้นด้วยมือของเขาเอง
“คุณ…” เจนพยายามห้ามใจไม่ให้ตัวเองกลัว แต่ความกดดันที่เขาส่งมาเป็นเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ที่ทับถมอยู่ในใจเธอ
“ฉันทำอะไรผิด?” เสียงของเจนสั่นสะท้านเมื่อธนา วางเธอลงบนพื้นห้อง ความรู้สึกของความสับสนและวิตกกังวลท่วมท้นอยู่ในใจของเธอ ราวกับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงความฝันอันเลวร้ายที่เธอไม่สามารถควบคุมได้
ในขณะที่เธอพยายามที่จะตั้งสติให้กับตัวเอง ธนายืนอยู่ตรงหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาแผ่รังสีของความโกรธและความกดดัน ทำให้บรรยากาศรอบตัวหนาแน่นจนหายใจไม่ออก ดวงตาของเขายังวูบไหวด้วยอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมา แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามของเจน
“ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น?” เจนถามอีกครั้ง เสียงของเธอแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเข้มแข็ง เธอรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมที่เธอได้รับ ความคิดว่าตนเองไม่ได้ทำผิดอะไรกลับยิ่งกระตุ้นให้เธอมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา
ธนานิ่งไปชั่วขณะ เขารู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศ และความรู้สึกผิดที่ท่วมท้นใจ เขามองลงไปที่เธอ ใบหน้าของเขาเริ่มคลายความตึงเครียดเล็กน้อย แต่ความโกรธที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้เขาไม่สามารถแสดงออกได้
“ฉันแค่ออกไปเที่ยวแล้วกลับมา ทำไมมาดุฉันขนาดนี้?” เสียงเจนสั่นเครือ น้ำตาเริ่มคลออยู่ที่ขอบตา สองแก้มของเธอมีรอยน้ำตาที่อาบไปด้วยความน้อยใจ ธนารู้สึกถึงแรงกระแทกของคำพูดเธอ มันทำให้เขาแทบจะไม่สามารถหายใจได้
“ก็คุณอนุญาตเอง...” เสียงเธอแผ่วเบาสะอื้น น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเศร้าทำให้ธนาใจไหววูบ เขาไม่สามารถทนเห็นเธออยู่ในสภาพนี้ได้อีกต่อไป
เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด รู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างเล็ก ๆ ของเธอที่นั่งอยู่บนตัก เขาใช้มือกอดเธอแน่น รู้สึกเหมือนกับกำลังปกป้องเธอจากทุกสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด
“ฉันขอโทษ”
เขาพูดเสียงต่ำ และกดจูบเบา ๆ ที่ผมของเธอ
“ฉันแค่เป็นห่วงนิดหน่อย”
ธนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก เขามองเจนที่นั่งอยู่บนตัก มองดวงตาของเธอที่ยังมีน้ำตา
“อย่าร้องเลยนะเด็กดื้อ ฉันขอโทษแล้วไง”
ธนาพูดเสียงเบา เขาใช้มือของเขาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาบนแก้มของเจนด้วยความระมัดระวัง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แม้จะมีความเข้มงวดอยู่ในตัว แต่ในช่วงเวลานี้เขากลับเผยให้เห็นอีกด้านที่อ่อนโยนของเขา
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ