ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป
เมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา
"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อน
จูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัด
เจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ
เมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ
"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติ
เจนมองเขาด้วยดวงตาที่มีทั้งความโมโหและความหวั่นไหว เธอพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อตอบโต้ "คุณไม่มีสิทธิ์มาหวงแบบนี้ ฉันไม่ใช่สมบัติของคุณ"
ธนายิ้มยั่ว "แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเมื่อกี้" เขาพูดขณะใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ ที่ยังบวมเจ่อจากจูบของเขา
เจนรีบผลักมือเขาออก "คุณมันเอาแต่ใจ!"
"และเธอก็รู้ว่าฉันจะเอาแต่ใจมากกว่านี้ ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
พูดจบก็ก้มลงประกบจูบเธออีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นการจูบที่เต็มไปด้วยความอยากและความต้องการที่ไม่อาจซ่อนเร้น
เจนที่ยังคงรู้สึกอึดอัดใจจากการกระทำของเขาในตอนแรก กลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอเริ่มยอมรับการจูบของเขา เธอไม่สามารถปฏิเสธได้อีกแล้ว เมื่อลิ้นร้อนของธนาค่อยๆ สอดแทรกเข้ามาในปากของเธอและเริ่มลูบไล้ เธอตอบรับอย่างช้าๆ ปากของเธอเคลื่อนไหวตามจังหวะที่เขาต้องการ มือของเขาจับต้นคอเธอแน่นขึ้น เสียงครางต่ำในลำคอของเขาแสดงถึงความพอใจ
ธนาไม่สามารถปิดบังความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในตัวเองได้เมื่อรู้ว่าเธอตอบรับการจูบครั้งนี้ เขาครางในลำคอเบาๆ และกระชับตัวเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น
"ดีมาก เจน... แบบนี้ฉันชอบ" ธนาพูดเสียงต่ำ เมื่อลิ้นของเขาและของเธอพันกันอย่างไม่รีบร้อน เขาครางอีกครั้งราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าความพอใจของเขาไม่อาจควบคุมได้
เจนรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่รุนแรงจากเขา แต่มันก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงไปกับเขา เธอเองก็ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการตอบสนองได้เหมือนกัน
ธนาผละออกจากจูบอย่างช้าๆ สายตาของเขายังคงจดจ่อกับเจน ก่อนที่มือหนาของเขาจะยกขึ้นดึงเธอให้ซบลงที่อกกว้างของเขา ปลอบประโลมเธออย่างอ่อนโยน ซึ่งตรงข้ามกับความร้อนแรงที่เพิ่งผ่านมา
"พอก่อน..." เขาพูดเสียงต่ำ ดึงเธอเข้ามาใกล้ ราวกับจะคอยปกป้องไม่ให้เธอหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา "เดี๋ยวอดใจไม่ไหว ไม่ได้ไปไหนกันพอดี "
เจนรู้สึกถึงแรงกอดที่อบอุ่นและหนักแน่นของเขา และถึงแม้จะยังมีความรู้สึกต่อต้านในใจ แต่ความอบอุ่นจากธนาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยในแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน
เธอซบหน้าลงกับอกของเขาในขณะที่ยามนี้ธนาเองก็ไม่พูดอะไรเพิ่มเติม แค่ให้เวลาเธอหายใจและค่อยๆ ปรับตัว
"อย่าทำตัวน่ารำคาญนักเลย" เขาพูดเบาๆ กดจูบลงบนมวยผมของเธออย่างอ่อนโยน แต่ก็ยังมีแววตาที่ดูเป็นเจ้าของอยู่ในนั้น
เจนพยายามบังคับให้ตัวเองสงบ แต่ความรู้สึกที่อัดแน่นในใจกลับยิ่งรุนแรงขึ้นกับการกระทำของเขา
ธนาเดินตามเจนเข้ามาในตลาดซากาเรลล่าอย่างเสียไม่ได้ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงอึกทึก คนเดินขวักไขว่ และกลิ่นหอมหลากหลายลอยมากระทบประสาทสัมผัสทุกทิศทาง ไม่ใช่ที่ที่เขาคุ้นเคยเลย แต่เธอกลับดูสนุกสนานเหมือนเด็กน้อยในสวนสนุก
“นี่น่ะเหรอที่เธออยากมา” ธนาถามพลางถอนหายใจเบาๆ ในใจคิดว่าแทนที่เธอจะร้องขอไปยังร้านเพชรหรือแบรนด์เนมหรูๆ เหมือนที่ผู้หญิงทั่วไปเขาทำกัน แต่สิ่งที่เจนเลือกกลับทำให้เขาประหลาดใจ
“ใช่สิ ฉันชอบนะ บรรยากาศแบบนี้มันมีเสน่ห์ดีออก” เจนหันมายิ้มให้เขา รอยยิ้มสดใสนั่นทำเอาเขาเผลอหยุดมองไปชั่วครู่
ธนาส่ายหน้าเบาๆ แต่ไม่พูดอะไร เขายกมือใหญ่กุมมือเธอไว้แน่นเมื่อคนในตลาดเดินเบียดมาใกล้ ใช้ร่างสูงใหญ่บังเธอไว้ทุกครั้งที่เห็นคนเดินเฉียดเข้ามา เขาไม่เคยชอบความวุ่นวาย แต่ถ้าเป็นเธอ เขายอมให้มันกลายเป็นข้อยกเว้น
“คุณทำหน้าเหมือนกำลังจะไปรบเลย” เจนแหย่เขาแล้วหัวเราะ รอยยิ้มสดใสนั่นดึงดูดสายตาคนรอบข้างจนหลายคนเหลียวมอง ธนามองเธอแวบหนึ่งก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“ฉันแค่ไม่อยากให้เธอโดนชน อย่าปล่อยมือฉันล่ะ”
เจนหัวเราะเบาๆ แต่ก็ยอมจับมือเขาไว้แน่น เดินไปหยุดที่ร้านขนมร้านหนึ่ง เธอหยิบขนมสัปปะรดออกมาแล้วยื่นให้เขา “ลองดูสิ นี่แหละรสชาติของมาเก๊าตามที่เขาบอกในเน๊ต”
ธนารับขนมมาถือไว้ มองเธออย่างลังเล แต่เมื่อกัดเข้าไปคำแรก รสหวานหอมที่แทรกความกรอบเบาๆ ก็ทำให้เขาอดพยักหน้าไม่ได้ “อร่อยเหมือนที่เธอพูดจริงๆ”
“ก็บอกแล้วไง” เธอยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั่นทำให้เขารู้สึกแปลก มันเหมือนเขาได้เห็นด้านที่บริสุทธิ์ที่สุดของเธอ ด้านที่ไม่มีคำว่าเพชรพลอยหรือกระเป๋าแบรนด์เนมเข้ามาเกี่ยวข้อง
พวกเขาเดินลึกเข้าไปในตลาด เจนหยุดชิมอาหารหลายอย่าง ทั้งลูกชิ้นปลาทอด ขนมอบต่างๆ และไม่ลืมที่จะลากเขาให้ลองทุกอย่าง เธอหัวเราะสดใสเมื่อเห็นเขาทำหน้าแปลกใจเวลาลองอาหารแปลกใหม่ ธนาไม่ได้พูดอะไรนอกจากยอมเดินตามใจเธอไป
ระหว่างที่เธอก้มมองสินค้าในร้านขายของที่ระลึก ธนากลับแอบมองเธอแทน บรรยากาศรอบตัวช่างแตกต่างจากทุกสิ่งที่เขาเคยชิน แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจกลับชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เขาจับมือเธอแน่นขึ้นเมื่อเห็นคนเดินเบียดเข้ามาอีกครั้ง “อย่าลืมนะ ว่าฉันอยู่ตรงนี้”
เจนเงยหน้ามองเขา รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความอบอุ่น “รู้แล้วค่ะ คุณธนา”
เสียงรอบข้างยังคงวุ่นวาย แต่ในสายตาของธนา เจนคือความสงบสุขเดียวในวันที่แสนวุ่นวายนี้
เจนหลับสนิทพิงเบาะรถ ดวงหน้าเนียนใสที่ตอนนี้ไร้เครื่องสำอางยิ่งดูน่ามองในแสงไฟจากถนนยามค่ำคืน ธนาหันไปมองเธอ รอยยิ้มบางๆ เผลอปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“คงเหนื่อยล่ะสิ เจ้าดื้อ” เขาพึมพำเบาๆ ส่ายหน้าอย่างเอ็นดู แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกอุ่นวาบเมื่อเห็นเธออยู่ในสภาพที่ไร้การป้องกันแบบนี้
มือใหญ่ยื่นไปแตะแก้มของเธอเบาๆ นิ้วหัวแม่มือไล้ไปตามผิวแก้มที่นุ่มนิ่ม รอยยิ้มขี้เล่นแฝงความหวงแหนปรากฏบนใบหน้าคม “ให้ตายเถอะ... ใครอนุญาตให้หลับน่ารักขนาดนี้ห๊ะ?”
ธนาเอนตัวเข้ามาใกล้ ก่อนจะยกเธอขึ้นในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย ร่างเล็กที่ตอนนี้ดูเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยทำให้เขาต้องหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ ขณะที่เดินผ่านล็อบบี้โรงแรม รู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่มองมา
“มองอะไรกัน?” ธนาพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่กลับกอดเธอแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้ใบหน้าของเจนซุกอยู่กับแผงอกกว้างของเขาแนบแน่นขึ้น
เมื่อถึงห้องพักส่วนตัวบนชั้นสูงสุดของคาสิโน ธนาวางเธอลงบนโซฟานุ่มอย่างระวัง ห่มผ้าให้เธอ แล้วนั่งลงข้างๆ จ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาอ่อนโยน
“เธอนี่นะ น่ารักจนอยากหยิกให้ตื่นจริงๆ” เขาพูดเบาๆ พลางโน้มตัวลงไปใกล้ กดจมูกแตะแก้มเธอเบาๆ เหมือนการลงโทษน้อยๆ ที่เธอปล่อยให้ตัวเองน่ารักเกินเหตุ
เมื่อเจนขยับตัวนิดหน่อยเหมือนจะตื่น ธนากลับหัวเราะหึๆ ในลำคอ ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ หนึ่งครั้ง “หลับไปเถอะ ฉันยอมแพ้แล้ววันนี้”
เขาขยับตัวลงนั่งพิงโซฟา มือใหญ่ยื่นไปลูบผมของเธอเบาๆ ไม่ละสายตาออกจากใบหน้าที่ตอนนี้ดูสงบน่ารักที่สุดในโลกสำหรับเขา
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
แสงไฟระยิบระยับในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งในมาเก๊า เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเสี่ยงโชค ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา คาสิโนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เล่นพนัน แต่ยังเป็นอาณาจักรของธนา เจ้าพ่อคาสิโนวัย 40 ปี ผู้มีอำนาจและเงินทองมากมายธนานั่งอยู่ที่โต๊ะบาคาร่าพร้อมกับผู้คนมากมายที่ล้อมรอบเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ทุกอย่างดูราวกับเป็นการแสดงละคร ทุกคนต้องการเพียงการตอบแทนจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือความสนใจ ความรู้สึกของเขาเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสี“มา! วางเดิมพัน!” เสียงเรียกของเจ้ามือดังขึ้น ธนาไม่แสดงอาการสนใจ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้หรูในชุดสูทที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องไปที่ไพ่ที่กำลังถูกเปิดในมือนั้น ความสงบและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่รอบข้าง“เจ้าพ่อ! มาเล่นกับพวกเราหน่อย!” เสียงของนักพนันคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา ธนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการอะไรจากเขาการที่เขาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนัน แต่เป็นการแสดงอำนาจของ
ธนานั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของคาสิโน มองออกไปที่วิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเครื่องเล่นพนันและเสียงหัวเราะของผู้คนดังอยู่ไกลๆ แต่ภายในใจเขากลับเงียบเหงาเหมือนความว่างเปล่าของชีวิต เรื่องราวในอดีตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำของเขาหลายปีก่อน เมื่อชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ธนาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการถูกตามล่า ธนาวิ่งพรวดเข้าไปในซอยเล็กๆ ของย่านมืดในปรารีส ความเจ็บแสบจากบาดแผลที่โดนเฉือนเริ่มแล่นลึก เลือดไหลซึมจากบาดแผลหลายจุด เปื้อนเสื้อผ้าจนแดงฉาน ธนาไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่สะท้านต่อความเจ็บปวด มีเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูที่พร้อมจะปลิดชีพเขาได้ทุกเมื่อในขณะที่เขาเริ่มทรุดตัวลงข้างกำแพง ด้วยแรงที่กำลังจะหมดลง เสียงฝีเท้าคนหนึ่งใกล้เข้ามา ธนาหันไปมอง เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใย “คุณ...คุณเป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเธอสั่นแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวคนนั้นชื่อ มีนา เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเคยเห็นตอนวิ่งหนีเข้ามาในย่านนี้มีนาไม่รอให้เขาตอบ
เสียงลมหายใจของเจนหนักอึ้ง ขณะที่เธอก้าวเข้าไปในคาสิโนอันโอ่อ่า ที่ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนที่แสนหรูหราแต่ซ่อนแฝงด้วยอันตราย เจนเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อผู้เคยเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง หัวหน้าครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกอย่างทะนุถนอมดุจไข่ในหิน แต่เขาตกเป็นเหยื่อของผีพนัน ที่ดึงชีวิตของเขาลงสู่เหวลึก จนแม้แต่วิญญาณก็ยากจะปีนกลับมาชีวิตที่เจนเคยรู้จักเต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ บ้านหรูหรา รถยนต์คันโก้ และการศึกษาที่ดีที่สุด แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตาเมื่อตัวเลขหนี้สะสมทับถมจากการพนัน บีบคั้นให้พ่อของเธอเลือกทางเดินที่ยากเกินกว่าจะนึกถึง ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วยังไม่พอ พ่อผู้ซึ่งเธอรักและเทิดทูนถึงกับต้องก้มหัวเข้ามาขอ "ขัดดอก" ด้วยสิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดในชีวิต—ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเองความเจ็บปวดและสิ้นหวังในดวงตาพ่อยังคงติดตรึงในหัวใจเจน ขณะที่เธอจำยอมต้องเข้ามาเป็น "นางบำเรอ" ให้กับเจ้าของคาสิโนอย่างธนา ผู้ชายที่เธอเคยได้ยินถึงความเย็นชาและไร้หัวใจ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของหนี้ แต่เป็นการพาตัวเองไปในที่ที่เธอไม่มีทางควบคุมเจนยืนตรงหน้ากระจก มองเห็นตัวเองในภาพสะท
ในคืนที่อากาศหนาวเย็นและมืดมิด ธนานั่งอยู่ในรถฟิล์มดำสนิท ใบหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความโกรธ เมื่อลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานข่าวที่ไม่สู้ดีนัก “เธอหนีไปกับผู้ชายคนนึงครับ!”ความร้อนในกายของเขาเพิ่มขึ้นทันที เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน เขายิ้มเยาะ ก่อนที่จะตะโกนสั่งเสียงเข้ม “ไปตามหาพวกเขา! อย่าปล่อยให้หนีไปได้!”ลูกน้องรีบพยักหน้า และธนาก็เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นของการล่าที่เขาไม่อยากทำ แต่ในเมื่อความต้องการที่จะได้ตัวเจนมาครองอยู่ในใจ เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ไม่ช้าลูกน้องกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่า “พวกเขาเจอกันแล้วครับ!” พร้อมกับลากชายคนหนึ่งที่อาจจะเป็นพิธาน เพื่อนชายของเจนเข้ามาในมุมมืดไม่นานลูกน้องกลับมาพร้อมกับพิธานที่ถูกจับมาด้วยแรงดึงที่รุนแรง ชายหนุ่มถูกลากเข้ามาในสถานที่ที่มืดมิด เลือดไหลซึมจากแผลที่ใบหน้าและร่างกาย เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้และมองไปยังเจนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“นี่คือคนที่เธอเลือก?” ธนาถามเสียงเย็น เยาะเย้ยในความเจ็บปวดของพิธานขณะเดินเข้ามาใกล้ เจนได้แต่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตาไหลนองหน้า ไม่สามารถทำอะไรได้ธนาเดินเ
เจนนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูภายในเครื่องบินส่วนตัวของธนา สายตาเธอจับจ้องไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด ไฟที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบดูเหมือนจะแทนความหวังที่ค่อยๆ ห่างออกไป ใจเธอสั่นระรัว ไม่รู้ว่าชะตากรรมที่รออยู่ปลายทางจะเป็นเช่นไรบรรยากาศภายในเครื่องบินเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มเป็นจังหวะ แต่ความเงียบนี้กลับทำให้เจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางหนีอย่างน่ากลัว ใกล้เธอ ธนานั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโดยสาร มองเธอด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเผด็จการ มือของเขาวางอยู่บนที่เท้าแขนอย่างสง่างาม แต่เจนรู้ดีว่าภายใต้ความสงบสุขนั้นแฝงไว้ด้วยอำนาจและความเด็ดขาดที่พร้อมจะครอบครองเธอทุกเมื่อเธอหลบสายตาลงต่ำ พยายามไม่สบตากับเขา แต่ความเงียบระหว่างพวกเขาทำให้ทุกอณูของความรู้สึกกลายเป็นสายใยที่ตึงเครียดรอบตัว เจนกัดริมฝีปากแน่นข่มความหวาดกลัว แต่ไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ธนาก็เอนตัวเข้ามาใกล้ ราวกับจะบอกให้เธอรู้ว่าไม่มีทางหลบหนีได้"เธอจะไปไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขากระซิบเสียงทุ้มเยือกเย็นใกล้หู ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "ชีวิตของเธอต่อจากนี้เป็นของฉัน"เจนสะบัดตัวอย่างแรง เบือนหน้าจากสายตาเย
เมื่อธนาพาเจนเข้ามาในห้องชุดสุดหรู เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปในอาณาจักรส่วนตัวที่ใหญ่ยิ่งกว่าที่คิดไว้ แต่ความกว้างขวางนั้นกลับไม่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย กลับกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ความรู้สึกแรกที่ประสบคือความอลังการของการตกแต่งที่มีสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกเปิดกว้าง มีไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ ส่องสว่างอย่างอ่อนโยน เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและน่าหลงใหล ผนังของห้องถูกตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่มีลวดลายสวยงาม ดูมีเอกลักษณ์โซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง มีผ้าห่มเนื้อหนานุ่มสีเบจคลุมอยู่ บนโต๊ะกาแฟเป็นกระจกใสที่สะท้อนภาพด้านบน ทำให้ห้องดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกอย่างดูเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความอบอุ่น ที่มุมหนึ่งมีโต๊ะอาหารไม้ยาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเก้าอี้หุ้มหนังที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ชวนให้นึกถึงการรับประทานอาหารในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกในห้องมีบาร์เครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในมุมที่มีแสงไฟสลัวๆ กระจกที่เต็มไปด้วยขวดเครื่องดื่มนำเข้าที่สวยงาม ข้างๆ มีเครื่องชงกาแฟหรูหราที่พร
ค่ำคืนนี้บรรยากาศในคาสิโนหรูหราตระการตายิ่งกว่าทุกคืน แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านคริสตัลระย้าบนเพดาน เสียงเพลงแจ๊ซบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาของแขกผู้มาเยือน แต่ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที เมื่อ เจน ก้าวเข้ามาเธอสวมชุดราตรีสีดำยาวที่เข้ารูป เผยให้เห็นสัดส่วนงดงามอย่างไร้ที่ติ ชายกระโปรงผ่าขึ้นสูงแสดงเรียวขาสวยสง่า ในขณะที่สายเดี่ยวบางเฉียบประดับด้วยเพชรเล็กๆ ทำให้เธอดูทั้งเซ็กซี่และสง่างาม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ โชว์ต้นคอขาวเนียน ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเมคอัพที่ดูเรียบหรู ดวงตาคมหวานเปล่งประกายเจิดจรัสทุกสายตาหันมองเธอ รวมถึงสายตาของธนาเขายืนอยู่ที่โต๊ะ VIP มุมห้อง พร้อมกับคอลินและริชาร์ด และหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ซึ่งยังคงพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอีกต่อไปธนาเบือนสายตาจากเธอคนนั้นทันทีที่เห็นเจนก้าวเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ราวกับราชินีที่ก้าวสู่สนามรบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ “เด็กดื้อนี่…จะเล่นเกมส์อะไรกันอีก”เจนเดินตรงไปยังบาร์ หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ พลางหันมามองธนา สายตาเธอยั่วเย้าและเย็นชาในเวลาเดียวกัน ก่อนจ
บรรยากาศในห้องคาสิโนส่วนตัวของธนาอบอวลไปด้วยกลิ่นซิการ์จางๆ และเสียงหัวเราะต่ำๆ ของกลุ่มชายหนุ่มโต๊ะโป๊กเกอร์กลางห้องหรูหรา โต๊ะนั้นล้อมรอบไปด้วยเพื่อนสนิทของเขา คอลิน ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่มีสายตาเจิดจ้าแบบนักล่า และริชาร์ด นักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่มีท่าทางสุขุมราวกับนักการทูตแต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศดูยิ่งดิบเถื่อนขึ้น คือร่างของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนตักของธนา ใบหน้าสวยคมของเธอประดับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย ขณะที่มือบางกำลังแตะแก้วไวน์ในมือเขา ท่าทางยั่วยวนอย่างจงใจเสียงหัวเราะของคอลินดังขึ้นเมื่อไพ่ถูกแจก เขาชี้ไปที่ธนาและพูดติดตลก “เฮ้ ธนา นายมีทั้งไพ่ดี ทั้งสาวสวยอยู่บนตัก จะไม่โกงพวกเราแน่นะ?”ธนายิ้มบางๆ หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้าๆ “ฉันไม่จำเป็นต้องโกง นายก็รู้” สายตาคมเข้มของเขาฉายแววที่บอกว่า เขาเป็นคนควบคุมทุกอย่างในห้องนี้คอลินผู้มีเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใครนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาทอประกายด้วยความสุขุมแต่เจ้าเล่ห์ ขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ดูยากจะอ่านออกเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพับแขนขึ้นเล็กน
ทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออก ธนาก้าวนำเจนเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ต้องการให้ใครมีเวลาสังเกตหรือมองมากเกินไป ลูกน้องของเขาปิดประตูเบาๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปเมื่อกระจกกั้นระหว่างส่วนคนขับและเบาะหลังเลื่อนขึ้น เจนยังไม่ทันได้พูดอะไร ธนาก็เอื้อมมือดึงเอวบางของเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กเซมาปะทะกับอกกว้างของเขา"ธนา! คุณจะทำอะไร—" เสียงของเธอถูกกลืนหายไปทันทีที่เขาประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขาทำให้เธอตกใจ มือเล็กดันอกเขาเพื่อพยายามผลักออก แต่ธนาไม่เปิดโอกาสให้เธอหนี เขาใช้มืออีกข้างประคองต้นคอของเธอไว้แน่น บังคับให้เธอยอมเปิดปาก และทันทีที่เธออ่อนแรงลง ลิ้นร้อนของเขาก็แทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดเจนพยายามหันหน้าหนี แต่การจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรง มือที่ผลักเขาในตอนแรกกลับกลายเป็นจิกที่เสื้อของเขาแน่น เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนแรงของเขาที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจเมื่อเขาถอนจูบออก ดวงตาคมของธนาก็มองเธออย่างพอใจ ริมฝีปากของเขายังแต้มยิ้มมุมปากเล็กๆ"นี่คือการลงโทษ ที่เธอแต่งตัวแบบนั้นออกมาให้คนอื่นมอง" เขาพูดเสียงต่ำ หายใจยังไม่เป็นปกติเจนมองเขาด้วยดวงตา
เช้าวันใหม่ในห้องสวีท แสงแรกของวันเล็ดลอดผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาในห้อง เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อวานเธอตั้งใจจะออกไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาด เพราะหลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาหลายวัน สุดท้ายธนาเองก็อนุญาตให้เธอออกไปได้ แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด"ชุดนี้มันสั้นไป" ธนากล่าวเสียงเข้ม ขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองขาเรียวยาวของเธอ เจนถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับเดรสยาวที่คิดว่าน่าจะดูเรียบร้อยพอ ธนากลับส่ายหัว "หลวมเกินไป ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย""งั้นชุดนี้ล่ะคะ?" เจนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ขณะที่สวมชุดตัวใหม่ที่ดูพอดีตัว แต่ธนากลับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ จับเธอหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนจะยิ้มมุมปาก"ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่กับฉันก็พอ"ยังไม่ทันที่เจนจะโต้ตอบ ร่างสูงก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มไปที่ห้องนอน ทิ้งเธอไว้ในอ้อมแขนราวกับจะบอกให้รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกตลอดคืนธนาไม่ปล่อยให้เธอได้หลับสนิทแม้แต่นิดเดียว เธอพยายามต่อรอง แต่ทุกสัมผัส ทุกคำกระซิบของเขา ทำให้เธอเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเมื่อเจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกม
ธนานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของคาสิโน เมื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งในวงการคาสิโนเริ่มเข้ามา เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ช่วยส่วนตัว เสียงเคาะประตูเบาๆ และมาร์คเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล“บอส เรามีปัญหาใหญ่แล้ว” มาร์คพูดเสียงต่ำ “ข่าวลือเรื่องการขัดแย้งระหว่างเราและกลุ่มคู่แข่งเริ่มแพร่กระจาย พวกเขากำลังพยายามหาทางทำลายชื่อเสียงของเรา”ธนาลุกขึ้นยืน สายตาคมกริบมองออกไปที่เมืองที่สาดส่องแสงระยิบระยับด้านล่าง เขารู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความพยายามที่จะทำลายเขามันเกินไป“มีหลักฐานอะไรที่สามารถพิสูจน์ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือไหม?” เขาถามเสียงเรียบ “หรือพวกเขามีแผนการอะไรที่เรายังไม่รู้?”“ยังไม่มีใครแน่ใจ แต่มีการพูดถึงการเข้ามาของกลุ่มมาเฟียที่พยายามแย่งตลาดนี้ไปจากเรา พวกเขาอาจจะวางแผนบางอย่างเพื่อสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของเรา” มาร์คตอบอย่างวิตก“ให้คนของเราตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ธนาสั่งอย่างเด็ดขาด “ถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายเราง่ายๆ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังจับตามองอยู่”ธนานั่งสงบอย่างน่าเกรงขามในห้องทำงานสูงสุดของคาส
“เจน...มานี่” ธนาเอ่ยเรียก น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ ไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่เสี้ยววินาที เจนชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น เธอรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้และไม่ควรคิดจะหนี เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงธนายืนรออย่างนิ่งสง่า สายตาคมกริบเหมือนจะอ่านทุกความคิดของเธอ เจนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา ราวกับถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาที่ทั้งเยือกเย็นและเร่าร้อน เธอรู้ดีว่าการเข้าไปใกล้เขาเป็นเหมือนเดินเข้าสู่ไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ แต่เธอก็ยอม...เจนที่หน้าบึ้งตึง ก้าวเข้ามาอย่างขัดใจ แต่สายตาคมกริบของธนาจับจ้องไม่วาง เธอนั่งลงห่างจากเขา พยายามคงระยะไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง แต่ธนาเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธ“มาใกล้กว่านี้ เจน” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มทุ้มแต่เต็มไปด้วยอำนาจ เจนขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แต่ธนาไม่ได้ละสายตาไปจากเธอ “ใกล้กว่านี้” เขาย้ำอีกครั้ง สายตาคมเจาะลึกเข้ามาเหมือนต้องการสื่อว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้เจนใจเต้นแรง ขยับตัวเข้าไปทีละนิด จนรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากเขาที่เข้มข้นขึ้นทุกขณะ
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหนี ก็แค่ถ้าฉันจะหนี… มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องวางแผนให้ดี” เธอคิด พยายามมองหาทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกหนักอึ้งที่จับต้องได้จากสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้“เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ฉันไปง่ายๆ” ธนาเป็นคนที่มีอำนาจ และเธอก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในอุ้งมือของเขา เธอเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน และรู้ดีว่าความตื่นตระหนกจะไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“แต่ถ้าฉันแค่ทำตัวให้ดี? ฉันอาจจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง” เจนคิดต่อ มันไม่ใช่การหนีที่เธอควรทำ แต่การทำให้ธนาไว้วางใจเธออาจเป็นวิธีที่ดีกว่า ความสามารถในการเข้าถึงเขา และความเข้าใจในจิตใจของเขาจะเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์นี้“ลองเริ่มต้นใหม่ดูก่อน” เธอพูดกับตัวเอง ในขณะนั้นภาพของธนาโผล่ขึ้นมาในหัว เขาอาจจะดูดุ แต่ลึกๆ แล้วเธอก็เห็นความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ในสายตาของเขา “อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าฉันเข้าใจเขาให้มากขึ้น”เจนเริ่มวางแผน จดบันทึกในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากเขา เธอจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำให้เขาเห็นถึงความสามารถและความตั้งใจของเธอ ไม่ใช่แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาต้องควบคุม“ถ้า
ไม่น่าหลงกลเด็กแสบนั่นเลย ธนาคิดในใจ ขณะเดินวนไปวนมาในห้องทำงาน รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเจน เขาจะรู้สึกถึงอาการตึงเครียดในอก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเขาพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าไปในเกมที่เจนเล่นอยู่ เกมที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย ความคิดถึงสิ่งที่เจนทำให้เขาหลงใหล สร้างความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งความเร่าร้อนและความสงสัยที่ผลักดันให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชักจูงธนาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่วิวของเมืองมาเก๊าที่พลุกพล่าน เขารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมเจน แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาไม่อาจหนีได้ เขายิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอและสายตาที่เปล่งประกาย มีบางอย่างในตัวเธอที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน“เจนอยู่ไหน?” ธนาถามเสียงเข้มอีกครั้ง ความกังวลเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น“อยู่ที่วัดอาม่า (A-Ma Temple) ครับบอส” ลูกน้องตอบทันที“วัดอาม่า?” ธนาถามเสียงต่ำ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินชื่อสถานที่นั้น “ให้คนไปตามเธอกลับมาที่คาสิโนเดี๋ยวนี้!”ลูกน้องรี
เจนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บแปล๊บที่ท่วมท้นร่าง เธอรู้สึกถึงความระบมไปทั่วตัว ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกลากไปตามพื้น “ไอ้บ้าเอ๊ย…” คิดในใจอย่างหัวเสีย ขณะที่พยายามลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ความทรงจำของค่ำคืนก่อนกลับมาในทันที ทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงเมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับธนาที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังคงหลับอยู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบอยากจะถีบเขาออกไปจากเตียง “มันไม่ยุติธรรมเลย” เจนคิดในใจ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสร่างของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“ตื่นแล้วเหรอ?” ธนาถามเสียงใส พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกถึงความเย้ายวน “มันเจ็บนะ!” เจนพูดเสียงแข็ง ขณะพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเธอ เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เจ็บเหรอ?” เขายิ้มอย่างยั่วยวน “เพราะเธอสมยอมเองนี่นา”เจนยังคงเป็นม้าพยศที่ไม่ยอมให้ใครควบคุม ในขณะที่เขาใกล้เข้ามา ความรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เจนไม่ต้องการให้เขามีอำนาจเหนือเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่เพิ่มขึ้นในใจได้“ฉันไม่ใช่ของ