สามีไม่รักนางไม่มีทางจะทน หย่าออกไปใช้เงินแก้ปัญหา ความรักของบุรุษนางก็จะซื้อ
View Moreตอนที่ 32 จ่ายสองเท่า “ท่านพ่อมาถึงแล้วหรือขอรับ” เผยลู่พลันชะงัก ทว่าชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปากอย่างสุภาพแล้วพูดขึ้น “นายน้อยเวยช่างให้เกียรติข้ายิ่ง เรื่องนี้...หรือที่ทำให้พวกท่านดูครื้นเครงยิ่ง” ผู้รับตำแหน่งนายน้อยพูดตอบ “ก็มีเด็กบ้าคนหนึ่งอยากเป็น ท่านพ่อ ขึ้นมา” เผยลู่ชำเลืองไปยังตงหยางก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ก็ควรต้องเป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ” คุนเล่อคลี่พัดโบกพูดแย้งขึ้น “นายหญิงเว้นข้าสักคนเถิด” เฉียวเวยเวยเช็ดน้ำตาเล็ดที่หางตาแล้วพูดตอบ “เคยเรียกเช่นไรก็เรียกเช่นนั้นเถิด เว้นเพียงฉีซาต้องเป็นนายน้อยเวยซาของข้าก็พอ” ขณะนั้นเสี่ยวเอ๋อก็นำมาอาหารเข้ามา เฉียวเวยเวยพลันนึกบางอย่างได้จึงถามขึ้น “อ่า...เผยลู่เจ้าใช้วิธีการใดหรือ เหตุใดตระกูลอังถึงยอมขายเรือนให้กับเจ้า” เผยลู่ที่ยิ้มปากรอยยิ้มนั้นแฝงความชั่วร้ายอยู่บ้าง “เมื่อก่อนไม่ว่าจะข้าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรผู้เฒ่าอังก็ยินยอมเสียทีทว่าข้าหาได้มีกลวิธีลึกล้ำอันใดขอรับ...เพียงเรียนรู้จากนายหญิงแล้วนำไปปรับใช้..
ตอนที่ 31 ท่านพ่อ ท่านแม่แม้จะอยู่ที่นี่มาเกือบจะครบปีแต่เฉียวเวยเวยก็ยังไม่ชินกับพิธีรีตองของคนในยุคโบราณเท่าไรนัก แต่กระนั้นนางก็พยายามปรับตัวตอนนี้อยู่ในวัยสดใส ทำสิ่งใดล้วนน่าเอ็นดู หากเมื่อวันเวลาล่วงเลยยังคงเป็นเช่นนี้อาจจะเป็นหญิงชราหยาบกระด้างเป็นได้ แม่นมฝูนางก็ส่งกลับตระกูลไปเยี่ยมบุตรหลานเพราะกลัวว่าคนแก่จะรับพฤติกรรมนางไม่ไหวตอนนี้ในจวนไม่มีสตรีอาวุโสสักคนพิธีการที่จัดจะไม่ขายหน้าผู้คนหลอกหรือ ขายหน้าก็ใช่ว่าจะสำคัญแต่ทำให้สะใภ้ใหม่คับข้องใจมันทำให้รู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก ขณะที่กำลังกลุ้มใจอยู่นั้น ชิงชิงก็เข้ามารายงานว่ามีคนมาจากวัง “รีบไปเชิญพวกเขาเข้ามา” พูดเสร็จนางก็รีบออกไปต้อนรับทันที เมื่อเหล่ามามาทั้งสี่คนเห็นเฉียวเวยเวยก็ต่างรีบทำความเคารพอย่างนอบน้อม “คารวะนายหญิงเวย พระชายาถังเสวียนรุ่ยได้ยินข่าวว่านายหญิงเวยกำลังจะแต่งสะใภ้ของตระกูล จึงได้สั่งให้พวกข้ามาคอยรับใช้นายหญิงเผื่อมีสิ่งใดขาดเหลือจะได้ช่วยจัดการ” เฉียวเวยเวยเผยปากดวงตาเป็นประกาย “ขอบพระทัยพระชายา พระองค์ช่างเมตตาหม่อมฉันเหลือเกิน”
ตอนที่ 30 เปลี่ยนสถานะ ตงหยางปัดความรู้สึกค้างคาใจออก ตั้งใจจะไปตรวจรับสมุนไพรใหม่ ๆ ที่โรงหมอทว่าเมื่อลงจากรถม้าสายตาก็เหลือบมองไปยังหอเวยไฉ เขาจึงหันปลายเท้าปรับเปลี่ยนทิศทาง เด็กหนุ่มยังไม่ทันก้าวเท้าเข้ามาในร้านเสี่ยวเอ๋อก็รีบออกมาต้อนรับทันที “คุณชายท่านมาหาท่านจางผิงหรือขอรับ” ตงหยางพยักหน้า เสี่ยวเอ๋ออีกคนก็เข้ามาสอบถาม “คุณชายท่านจะรับเครื่องดื่มของว่างอะไรดีขอรับ ข้าจะจัดเตรียมให้” ตงหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดคำอาจหาญออกไป “เอาที่ขายดีที่สุดในร้านมาล่ะกัน” “ได้เลยขอรับ ข้าจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยขอรับ” “คุณชายขอรับ ท่านจางผิงเชิญท่านเข้าไปในห้องรับรองขอรับ” เสี่ยวเอ๋อในร้านต่างกระตือรือร้นที่จะเอาใจตงหยาง เพราะนอกจากเด็กหนุ่มจะเป็นคุณชายของนายหญิง ตงหยางยังเป็นนายที่ใส่บ่าวไพร่ยิ่ง แม้กระทั่งคนในครอบครัวเจ็บไข้ ตงหยางก็ช่วยจัดยาให้พวกเขาอย่างใส่ใจทำให้พวกเขาล้วนซาบซึ้ง จางผิงเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะเอ่ยทักทายตงหยาง “ตงหยางเจ้ามาพอดี ข้ากำลังคิด
ตอนที่ 29 ความสัมพันธ์ซับซ้อนสิ่งที่ควรพูดก็ควรต้องพูดเมิ่งฮูหยินกล่าวขอบคุณฉีซาด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง หวังฮูหยินกล่าวยกย่องฉีซาเป็นดั่งเทวดาเทพเซียนเมื่อกระแสทิศทางเป็นเช่นนั้น ทุกคนก็ต่างพูดยกย่อสรรเสริญกันคนละประโยคสองประโยค แม้บรรยากาศจะแช่มชื่นขึ้นกระนั้นสถานการณ์งานเลี้ยงไม่อาจจะจัดต่อ หวังฮูหยินจัดการให้เมิ่งซูซูพักในจวนเสียก่อน เฉียวเวยเวยขอตัวกลับ เมื่อขึ้นรถม้าสีหน้าที่ประครองเอาไว้ก็พลันหลุดออก สีหน้าและแววตาของเฉียวเวยเวย สลับซับซ้อนมากกว่าปกตินางพูดเพียงประโยคเดียว “ฉีซา ข้ามีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับเจ้า”น้ำเสียงของหญิงสาวจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ฉีซาคาดเดาว่านางอาจจะรู้สึกหึงหวงหรือเสียหน้าที่ตนเองไปแตะต้องเนื้อตัวสตรีคนอื่น ทว่าเขาเป็นหมอเรื่องเช่นนี้ไม่อาจจะหลีกเลี่ยง และอีกอย่างด้วยนิสัยใจคอช่างเปิดเผยชัดเจนของนายหญิง นางต้องบอกกล่าวมิใช่เก็บไว้ เด็กหนุ่มพลันรู้สึกคับข้องใจอยากจะเอ่ยถาม ณ ตรงนั้น ให้ได้ ตงหยางแอบลอบมองทั้งฉีซาและนายหญิงพลางไม่เข้าใจเหตุการณ์ จำได้ว่าตัวเขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์แต่เหมือนจะไม่เข้าใจอะไรเลย บนรถม้าไม่มีเสียงพูด
ตอนที่ 28 โปรดรอสักครู่ งานเลี้ยงชมบุปผา ณ จวนหวังกั๋วกง กลิ่นอายฤดูหนาวเริ่มปกคลุมเข้ามา อากาศเย็นผสมกับกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้ ไม่ได้ทำให้เมิ่งซูซูรู้สึกสดชื่นแม้แต่น้อย นางได้เพียงกลิ่นของใบไม้แห้งคละฟุ้งอย่างไร้ชีวิตชีวา “ทำสีหน้าให้ดีหน่อย” เสียงมารดาเลี้ยงเค้นเอ่ยกระซิบข้างหู ทำให้นางทำให้พลันได้สติ ตอนนี้จะให้อีกฝ่ายรู้ความในใจไม่ได้ แม้ที่ผ่านมานางอยากจะปลิดชีพตนเองก็ไม่สามารถทำได้เพราะมีบ่าวไพร่ควบคุมอยู่ตลอดเวลา “เด็กคนนี้พอเติบโตขึ้นงดงามไม่น้อย เจ้าเข้ามาใกล้ ๆ ซิ” หวังฮูหยินเอ่ยพูดขึ้น ทำให้เมิ่งซูซูต้องปฏิบัติตาม นางปรายสายตาดูหวังฮูหยินผู้นี้ แม้จะมีอายุเพียงถึงสามสิบปลายๆ ทว่าใบหน้าคงอ่อนเยาว์ผิวพรรณยังคงเปล่งปลั่ง ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยน ทว่ามันกลับทำให้นางรู้สึกครั่นคร้ามอีกฝ่ายขึ้นมา สตรีคนนี้เหตุใดต้องหาภรรยารองให้สามีตนเอง ไม่ได้มีเพียงแค่เมิ่งซูซูเท่านั้นที่หวังฮูหยินพินิจพิจารณา วันนี้เหล่า ฮูหยินที่มีบุตรสาวก็ล้วนแต่พามาให้นางดูตัวทั้งนั้น ด้วยฐานะของหวังกั๋วกงใครเล่าจะไม่อยากพึงบารมี บิดาของเมิ่งซูซูก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกันเสี
ตอนที่ 27 แสร้งเยินยอ เมื่อคนไปแล้วตงฉงก็หันมาพูดจาหว่านล้อม อี้เหนียงห้า“อนุที่รัก ไม่ใช่ว่าข้าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เจ้าคิดดูหากเราสามารถกล่อมให้นายหญิงเวยรับหยางเอ๋อร์เป็นบุตรธรรมเจ้าเองก็ย่อมพลอยมีหน้ามีตาไปด้วย” ในขณะที่ผู้เป็นสามีพูด อี้เหนียงห้ากลับก้มหน้าไม่พูดไม่จา นางกำลังอดกลั้นไม่อยากจะเสวนาพูดจาให้มากความ บุรุษผู้นี้สมองเต็มไปด้วยสมองหมูคิดได้อย่างไรว่านายหญิงเวยจะยอมจุนเจือครอบครัวผู้อื่น ตงฉงเห็นว่าอี้เหนียงห้าไม่โต้ตอบในใจก็เต็มไปด้วยความโมโห ด่ากราดอีกฝ่ายในใจ สตรีงี่เง่า ทว่าตอนนี้ไม่อาจจะพูดรุนแรงได้ จึงเค้นประโยคประนีประนอมออกมา“หากเจ้าไม่ยินยอม ข้าก็ไม่คาดคั้น ที่ผ่านมาเป็นข้าเองที่ผิดต่อเจ้ากับลูก ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว แต่ละคืนข้าไม่อาจจะข่มตานอนหลับได้ง่าย หยางเอ๋อร์ที่อยู่ในฐานะเช่นนั้นจะเดินทางไปเส้นใดต่อ...ข้าคิดหาหนทางอยากทำคุณไถ่โทษ คำพูดเมื่อสักครู่ข้าก็เพียงคิดเผื่อครอบครัวหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ” เมื่อพูดเสร็จ ตงฉงก็หันกายออกไปไม่ใช่เพราะสำนึกผิดจริง ทว่าเขาไม่อาจจะเสแสร้งต่อไปได้อีกต่างหาก มัวมามารีบเดินเข้ามาเอามือแตะที่เข่าอี้เ
ตอนที่ 26 ความหวังดีจากใจจริงๆ นะรุ่งอรุณยามเช้าต้นฤดูหนาวอากาศเริ่มเย็นเยือก กระนั้นตงหยางกับฉีซาก็ยังคงตื่นแต่เช้าไปโรงหมอเช่นเคย ขณะที่พวกเขาเดินผ่านศาลาดอกเหมย ที่ตอนนี้ดอกเหมยฮว่าเริ่มเบ่งบานไม่หวาดหวั่นต่อความเหน็บหนาว เสียงกังหันในบึงหมุนรับสายลมเย็นเยือก ตงหยางยืนเหม่อมองกังหันตัวนั้นในยุคโบราณเช่นนี้ ก็มีกังหันบำบัดน้ำเสียแล้ว?ตงหยางเห็นอีกฝ่ายหยุดเดินก็หันมาเรียก“พี่ฉี หนาวจะแย่แล้วรีบไปกันเถอะขอรับ” ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเก็บนำมาคิด ฉีซารีบเร่งฝีเท้าตามตงหยางขึ้นรถม้าไป เมื่อขึ้นรถม้านั่งเรียบร้อย ตงหยางถูมือไปมาแล้วพูดขึ้น“พี่ฉี วันนี้ข้าจะกลับไปเยี่ยมอี้เหนียงท่านจะไปด้วยหรือไม่”ฉีซาเคยรับปากอีกฝ่ายเอาไว้ จึงพยักหน้าตอบรับ“ท่านดูนี้ ตอนนี้ข้ามีเงินอยู่ 7 ตำลึงแล้ว คงพอจะซื้อปิ่นปักผมกับผ้านวมให้อี้เหนียงได้” วันก่อนที่นายหญิงเวยได้รับราชโองการจึงตกรางวัลให้กับทุกคนในคฤหาสน์ฉีซาก็ได้รับเช่นกัน จึงพูดขึ้น“ข้าเองก็จะซื้อให้มารดากับน้องสาวเช่นกัน วันนี้ข้าจะไปซื้อพร้อมเจ้าด้วย” เมื่อรถม้ามาถึงโรงหมอเวยทั้งสองก็รีบเข้าไปทานอาหารเช้าแล้วทำหน้าที่ของต
ตอนที่ 25 ของเล่นเย็นวันนั้นเผยลู่ไม่ได้สั่งสอนเฉียวเวยเวยอีก เขาปล่อยให้นางนอนหลับสนิทจนกระทั่งรุ่งเช้า เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม“ท่านคงจะเมื่อยแขนแย่” เฉียวเวยเวยพูดขึ้น นางรู้สึกว่าการนอนกอดกันไม่ใช่ท่านอนที่ดีนัก มันค่อนข้างจะไม่สบายตัว“ข้านึกว่าเจ้าจะชอบ สตรีล้วนไม่ใช่ชอบตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของคนรักมิใช่หรือ” เฉียวเวยเวยกระพริบตา ๆ ถี่ขึ้นแล้วถาม“ข้อมูลนี้ ท่านได้มาจากที่ใด” เผยลู่ยิ้ม พูดต่อ“ไม่ใช่ล้วนอยู่ในนิยายที่เจ้าอ่านหรืออย่างไร” เฉียวเวยเวยยิ้มหัวเราะเบา ๆ “ท่านอ่านเรื่องไหนข้าจะแนะนำเรื่องใหม่ให้ดีหรือไม่”“สิ่งที่เจ้าสนใจข้าก็แค่อยากรู้ หาได้สนใจ” เผยลู่บอกปัด เนื้อหาในนิยายแทบไม่มีเหตุมีผล ยิ่งอ่านยิ่งแปลกใจเหตุใดหญิงสาวถึงได้ชื่นชอบนักเฉียวเวยเวยบิดกายอย่างเกียจคร้าน เมื่อคืนเป็นหนึ่งคืนที่สงบสุขตอนนี้เหมือนจะมีพลังไม่น้อย กำลังจะเย้าแหย่ชายหนุ่มก็ตระหนักได้ว่าคนผู้นี้ไปกระตุ้นอารมณ์ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้นางหิวข้าวจะต้องกินข้าวก่อน เมื่อปรายสายตาออกไปนางก็เห็นสิ่งหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ “ท่านทำเสร็จแ
ตอนที่ 24 พักดื่มชาและของว่างเฉียวเวยเวยรู้สึกหมดเรี่ยวแรงนอนหลับสนิทจนกระทั่งยามเฉิน เมื่อลืมตาขึ้นมาก็ไม่เจอเผยลู่นอนอยู่ข้างกาย ชายหนุ่มคงไปออกกำลังกาย คิดถึงยามค่ำคืนที่ผ่านมาทำให้นางรู้สึกอิ่มเอิบใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข วัยรุ่นช่างร้อนแรง คิดไม่ผิดที่เดินทางสายนี้ นางกำลังจะบิดขยับกายก็รู้สึกปวดเมื่อยระบบไปทั้งตัวอ่า..หากจำไม่ผิดข้าเองก็พึ่งจะอายุสิบแปด เหตุใดถึงสิ้นสภาพขนาดนี้ มันจะต้องร่ำสุราเคล้าบุรุษสามวันสามคืนสิ ขณะที่คิดช่วงเอวก็ปวดจี๊ดขึ้นอีกมาตอกย้ำ โอ้ย!! คงต้องออกกำลังกายจริงจังเสียแล้ว บุรุษในเรือนยังมีเหลืออีกหลายคนข้าไม่ยอมขาดทุนหรอกนะเฉียวเวยเวยไม่อยากจะนอนต่อแล้ว นางจะบอบบางแบบนี้ไม่ได้ มือน้อย ๆ ใช้มือปิดปากหาวหวอๆ พร้อมกับเรียกคนเข้ามา “เผยลู่ ไม่อยู่หรือ” ครั้งนี้นางจึงถาม“ท่านเผยออกไปตรวจรับสินค้าเจ้าค่ะ เมื่อเช้าท่านเผยก็สั่งเอาไว้หากท่านตื่นขึ้นมาก็ให้แจ้งนายหญิงด้วยเจ้าค่ะ” เฉียวเวยเวยเอามือถูจมูกเบาๆเฮ้อ!! ข้าหาใช่เด็ก เรื่องเล็กน้อยแท้ ๆ นางจัดการดื่มน้ำแกงคุ้มกำเนิด นางโจ๊กหมูที่จางผิงเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็สั่งให้ม่านม่าน
เฉียวเวยเวย นักธุรกิจสาวใหญ่ที่ประสบความสำเร็จทุกด้าน ใช้เงินแก้ปัญหารับเลี้ยงเด็กกำพร้าสร้างครอบครัวและไม่ลืมที่จะสร้างบุญสร้างกุศลไปด้วยนางตายตอนอายุ 45 ปี ยังใช้ชีวิตไม่คุ้มกับที่มีเงินวิญญาณล่องลอยไปเกิดใหม่ เป็นฮูหยินเอกจวนเสนาบดีของแคว้นเหลียง สามีกลับไม่รัก นางไม่มีทางที่จะทนเงินก็มี อายุยังน้อย ยังเสพสุขได้อีกหลายปีใด ๆ สรรพสิ่งล้วนหามาได้ด้วยเงินชาตินี้นางจะใช้เงินที่มีให้คุ้มความรักของบุรุษนางก็จะซื้อตอนที่ 1 ชีวิตใหม่ เฉียวเวยเวย แกล้งนอนหลับฟังเสียงพูดคุยของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าบ่าวข้างนอก แม้คนเหล่านั้นจะพยายามกระซิบคุยกันนางก็พอจับใจความได้ว่า เจ้าของร่างเดิมหมดสติตอนนี้ฟื้นขึ้นมาความจริงที่นางได้เป็นเจ้าของร่างนี้เสียแล้ว แน่ แน่ ต้องใช่แน่ๆ นางมาเกิดใหม่ในยุคโบราณ จากการอ่านนิยายเกิดใหม่ทะลุมิติ มาหลายเรื่อง ในยุคโบราณแบบนี้ความสามารถในตลาดหุ้น ตลาดคริปโต จะเอามาใช้ทำอะไรได้ จะสร้างความประทับใจจากอะไรได้ ฝีมือทำกับข้าวไม่มี หมอก็ไม่ใช่ พืชสมุนไพรสักอย่างก็ไม่รู้ ...
Comments