เหอซีซวนสลบไปเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ไม่รู้ว่าที่ทนไม่ไหวคือพิษบาดแผลทางกายหรือบาดแผลทางใจ ที่โดนบรรพบุรุษต้มตุ๋นเสียจนเปื่อย
นับว่าตั้งแต่เกิดจนตาย จนเกิดใหม่อีกครั้ง นี่เป็นการโดนหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของซุปตาร์คนดัง บัดนี้เขาถูกบรรพบุรุษหลอกจับมายัดใส่ร่างของคนที่มีชื่อว่าเหอซีซวน ที่เป็นเกอรูปงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงในแคว้นเว่ย ผู้ที่มีความงามเป็นเลิศ แต่ชะตากรรมนั้นน่าอนาถเหลือเกิน
ไหนบอกว่าชีวิตเขาดีไง ท่านตา
เกอคืออะไร เกอก็คือ เพศที่มีลักษณะภายนอกคล้ายเพศชาย แต่อ่อนแอและนุ่มนวลราวกับผู้หญิง เกอนั้นเป็นเพศพิเศษที่มีจำนวนน้อยนิด โดยทั่วไปนั้น เกอมักจะมีรูปโฉมงดงามเหนือคนทั่วไป มักถูกเหยียดหยามดูถูกอยู่เสมอ
ที่สำคัญคือ เกอท้องได้ เขาท้องได้
ที่ตาแก่นั่นดีใจที่เขาเป็นเกย์ก็เพราะเหตุนี้สินะ
ถึงจะรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดใหม่กลายเป็นผู้ชายที่สามารถตั้งท้องได้ แต่ลึกๆ แล้ว ซีก็ยินดีไม่น้อย อย่างน้อยเขาก็สามารถที่จะมีทายาทที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง ความลับที่ไม่มีใครรู้ก็คือ ซุปตาร์คนดังรักเด็กมาก เขาเคยมีความคิดที่จะนำเด็กมาเลี้ยงอุปการะแต่ด้วยกระแสสังคม ทำให้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ เขาทำเพียงแค่ส่งเสียรายเดือนให้กับเด็กในมูลนิธิหลายชีวิต การมีลูกได้เองนั้นเป็นเรื่องน่ายินดี เขาอยากเลี้ยงดูเด็กสักคนให้เติบใหญ่กลายเป็นคนดี มีความสุข เป็นทรัพยากรที่ดีของประเทศชาติ แล้วอีกอย่างเขางดงามถึงเพียงนี้ หากมีลูก หน้าตาต้องดีแหงๆ
ซีที่กำลังหลับใหลอยู่ ทบทวนถึงความทรงจำของร่างเดิมพร้อมกับวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันไปด้วย เขาพบว่าในเรื่องราวในหัว มันช่างแตกต่างจากที่เคยรับรู้ในประวัติศาสตร์ แม้ทุกอย่างรอบกายจะดูเหมือนว่าเขาอยู่ในยุคจีนโบราณ แต่หลายอย่างก็แตกต่างออกไป
นี่คงเป็นโลกในมิติคู่ขนานสินะ
น่าเสียดายที่เขาชิงมาเกิดในร่างนี้เสียก่อน เขายังมีคำถามมากมายอยากจะถามท่านบรรพบุรุษเหลือเกิน
ปิ้ง!!
เพียงแค่คิด เขาก็กลับมาที่มิติส่วนตัวของตระกูลหลิวอีกครั้ง เขาพบว่าหลิวหงชิงกำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่โต๊ะมุกที่ศาลาริมบ่อบัวอย่างสบายอารมณ์ ตาแก่แย้มยิ้มมาให้เขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“มิติส่วนตัวนี้คือ มิติที่เชื่อมโยงกับเจ้า เจ้าสามารถเข้ามาที่นี่ได้ทุกครั้ง เพียงแค่นึกถึง เป็นเช่นไร มันวิเศษมาก ใช่หรือไม่”
วิเศษ วิเศษจริงๆ
วิเศษกับผีล่ะสิ
ฟังดูดี เหมือนกับว่าให้ของวิเศษเหนือธรรมชาติกับเขา แต่แท้จริงไม่รู้ว่าต้องแลกมาด้วยอะไร
มิจฉาชีพเวลาหลอกคนแล้ว มันมีสีหน้าเช่นนี้เองสินะ
“ตาแก่ ท่านหลอกข้า”
“เจ้าเรียกข้าให้ดีๆ หน่อยเถิด เจ้าเด็กน้อย บัดนี้ข้าให้เจ้าไปเกิดใหม่ในร่างของเหอซีซวนที่ขาดใจตายไปแล้ว เจ้ายังต้องการอะไรอีก”
“ก็ต้องการสิ ไหนท่านบอกว่าข้าจะได้มีชีวิตที่ดี มีความสุขสบาย เป็นคุณชายนอนบนกองเงินกองทอง วันๆ นั่งชี้นิ้วสั่ง มีคนรักคอยตามเอาใจ”
“เหรอ ข้าเคยบอกเจ้าเช่นนั้นเหรอ” หลิวหงชิงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยิ่งทำให้ทายาทคนสุดท้ายถึงกับตีหน้ายักษ์
“ตาแก่มิจฉาชีพ”
“เอาล่ะๆ เจ้าฟังข้าก่อน ที่ข้าบอกว่าเจ้าจะได้ทรัพย์สมบัติเงินทองของตระกูลหลิว ได้พลังวิเศษและมีคนรักที่ดีก็ย่อมเป็นเช่นนั้น”
“ท่านไม่ต้องมาหลอกข้า ข้าได้รับความทรงจำมาแล้ว ร่างนี้คือ เหอซีซวน ถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลสามีเพราะโดนใส่ร้ายว่าคบชู้ ชื่อเสียงป่นปี้ แถมครอบครัวเดิมยังยึดสมบัติเอาไว้หมด สินเดิมก็โดนสามีเก่าปล้นกลับไป มาถึงตระกูลหลิวก็กลายเป็นตระกูลร้างไปแล้ว ยังไม่รวมที่กำลังบาดเจ็บสาหัส ท่านจะให้ข้าคิดยังไง”
หลิวหงชิงเกาแก้ม ยิ้มแหย
“ไม่เอา ไม่เอาแล้วโว้ย ยกเลิกๆ ถ้าอยากได้ทายาทมากนัก ก็ส่งผมกลับไปร่างเดิม ร่างของซี อภิวัฒน์”
หลิวหงชิงวาดมือเป็นวงกลม เผยให้เห็นภาพจากมิติเดิมที่เขาจากมา เวลานี้เป็นงานฌาปนกิจศพของตัวเขาเอง มีผู้คนเข้าร่วมงานอย่างแน่นขนัด บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ผู้คนที่ทั้งสนิทและไม่สนิทต่างเดินเรียงแถวกันมาวางดอกไม้จันทน์
ควันพวยพุ่งออกจากเมรุ ทำเอาเจ้าของร่างถึงกับปวดใจ
“แหะๆ ร่างของเจ้าถูกตึกทับจนเละ แถมเวลานี้ยังถูกเผาไปแล้ว ตอนนี้ทุกมิติเหลือเพียงร่างของเหอซีซวนผู้เดียวที่มีเชื้อสายตระกูลหลิว ถึงแม้จะ เอ่อ สะบักสะบอมนิดหน่อย”
นี่ท่านเรียกคนที่ถูกแทงกลางอก ว่าสะบักสะบอมนิดหน่อยเหรอ
ชายหนุ่มน้ำตาตกใน เมื่อสุดท้ายทางรอดเดียวของเขาคือต้องกลับไปใช้ชีวิตในร่างของเหอซีซวนผู้น่าสงสารผู้นั้น หลิวหงชิงเห็นหลานชายซึมลง ก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับลูบหัวแผ่วเบา
“หลานชายตัวน้อยเอ๋ย บัดนี้เมื่อโชคชะตาพัดพาให้เจ้าได้มาอยู่ในร่างของเหอซีซวน ก็จงใช้ชีวิตในร่างนั้นไปเถิด ข้ารู้ว่าหนทางรอบกายนั้นดูมืดมน แต่ข้าสัญญา ตราบใดที่เจ้ายังมีมิติของตระกูลหลิวอยู่ ข้าจะช่วยเจ้าสุดกำลัง เจ้าจะต้องมีชีวิตที่ดีและมีทายาทได้ ภายในสามปีแน่นอน”
คำสัญญาอันหนักแน่นของบรรพบุรุษราวกับพันธนาการ แสงสว่างสีทองเปล่งประกายขึ้นมาบนฝ่ามือของตาแก่ ก่อนจะซึมเข้าไปในร่างของซีคล้ายกับเป็นคำสัตย์สาบานที่มอบให้ ความรู้สึกอุ่นวาบซึมเข้าสู่จิตใจ คนที่ใช้ชีวิตลำพังโดยไม่มีพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่คอยอยู่เคียงข้าง รู้สึกว่าความโดดเดี่ยวที่ผ่านมานั้นได้รับการเยียวยาทีละนิด
แม้จะดูเหมือนมิจฉาชีพ แต่มีบรรพบุรุษเป็นหลิวหงชิงก็ไม่แย่สักเท่าไหร่
“ท่านตา” เขาปรับคำพูดเรียกอีกฝ่ายให้ดูดีมากขึ้น ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ท่านบอกว่าที่นี่เป็นมิติส่วนตัวของข้า ข้าสามารถหาประโยชน์อะไรกับมันได้หรือไม่ บัดนี้ข้าไร้ทรัพย์สินเงินทอง ถูกสามีทอดทิ้ง ข้าต้องใช้ประโยชน์จากมิติแห่งนี้ให้มากที่สุด”“นั่นย่อมได้”เหอซีซวนเผยยิ้มกว้าง รู้สึกพอใจกับท่าทีของหลิวหงชิงไม่น้อย เขาจึงเริ่มตะล่อมต่อ“เช่นนั้น ที่นี่มีของวิเศษหรือทรัพย์สมบัติอะไร ที่ข้าสามารถนำไปใช้ข้างนอกได้หรือไม่ ตอนนี้ข้าบาดเจ็บหนัก ข้าขอน้ำทิพย์ หรือน้ำสีทองที่มีคุณสมบัติเยียวยารักษาจากท่านได้หรือไม่” เหอซีซวนส่งยิ้มการค้าให้กับท่านตา เห็นเขาเป็นแบบนี้เขาคือแฟนนิยายจีนโบราณตัวยง แถมยังมีหลายครั้งที่เขาได้รับบทนำในซีรีส์ทะลุมิติ เขารู้หมดแหละ พวกตัวเอก ต่อให้มันจะไปเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ตัวประกอบ หรือตัวเอกก็ตาม ย่อมได้บัฟพลังพิเศษแบบที่เอาชนะคนได้ทั้งโลก เขาคาดว่าที่นี่ก็คงไม่แตกต่างกัน“น้ำทิพย์ น้ำทิพย์อะไร ที่นี่ไม่มีน้ำทิพย์ที่ช่วยรักษาได้หรอก”เหอซีซวนทั้งตั้งท่ารับความช่วยเหลือ ถึงกับไหล่ทรุดลงไปทันที“เช่นนั้น ท่านก็ย่อมมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์”“ไม่มี”“ไม่มีน้ำวิเศษอะไ
เหอซีซวนลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมธรรมดาที่มีของตกแต่งน้อยชิ้น ยามนี้ความเจ็บปวดทุเลาลงไป อาการโดยรวมก็ดีขึ้นมา เขาฟื้นกลับมาได้และยังปกติก็คงเป็นเพราะโชคชะตาส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็ต้องยกความดีความชอบให้กับบ่าวชายคนนั้นที่คงไปตามหาหมอฝีมือดีในเหิงเยว่มารักษาเจ้านายอย่างเขา จนรอดตายมาได้หารู้ไม่ว่า เหอซีซวนตัวจริงนั้นตายตั้งแต่ถูกลงดาบแทงทะลุหัวใจ ที่นอนตาลอยอยู่ตอนนี้ มันคือซีจากโลกอื่นต่างหากแม้จะตื่นมาแล้ว แต่ภาพบรรพบุรุษยืนถือพู่เขย่าไปมาแล้วตะโกนร้องเชียร์เขายังติดตาอยู่ เกิดมาเขาเพิ่งเคยเห็นคนแก่มายืนเชียร์ให้คนหนุ่มแบบเขา มุ่งหน้าล่าท้าผัวขนาดนี้ ดูท่าคืนนี้คงหลอนจนนอนฝันร้ายเป็นแน่เหอซีซวนค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นมา มองไปรอบกาย บาดแผลกลางอกเจ็บแปลบขึ้นมาแต่เขาไม่อาจนอนซมต่อไปได้อีกแล้ว เขาไม่แน่ใจว่าที่แห่งนี้เป็นที่ไหน แต่คงเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่บ่าวชายอย่างไอ้ใบ้เป็นผู้จัดหา ยามนี้เขาอยู่ตามลำพัง เป็นเวลาดีที่เขาจะได้ทบทวนเรื่องราวในอดีตของเจ้าของร่างเดิมร่างนี้ชื่อว่า เหอซีซวน เป็นบุตรเกอคนเดียวของคหบดีชื่อดังผู้ร่ำรวยอย่างเหอชาง น่าเสียดายมารดาแซ่หลิวมาด่วนจากไปเสียก่อน เขาจ
เหอซีซวนนั้นทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เขามักจะปรับทุกข์กับสหายสนิทที่เป็นถึงบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการ เธอมีนามว่า เซี่ยอ้ายเหม่ย เธอเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวานน่ารัก มักจะรับฟังเหอซีซวนด้วยความใจเย็น คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ หลายครั้งที่สหายผู้นี้มักจะตามติดเขาไปยังเรือนตระกูลถานด้วยกัน ดูเหมือนว่ามารดาของถานตงหยางจะชื่นชอบสหายคนนี้ของเขาไม่น้อยเขาเคยคิดว่ามันคือความปรารถนาดี ทว่าทุกอย่างมันกลับเป็นเพียงการหลอกลวงจากนั้นไม่นาน เหอชางบิดาของเขาก็ประสบอุบัติเหตุเรือล่มจนเสียชีวิต เหอซีซวนรู้สึกราวกับว่าชีวิตนั้นไร้หลักยึดอีกต่อไป ยิ่งเวลานี้ สามีมีหน้าที่การงานก้าวหน้าก็มักจะหาข้ออ้างว่างานยุ่ง พวกเขายิ่งห่างเหิน แม้แต่ในเวลาที่เหอซีซวนอ่อนแอที่สุด สามีก็ยังหมางเมินน่าสงสารที่เหอซีซวนคนนี้หน้ามืดตาบอด มองไม่เห็นความจริงตรงหน้า เขาพยายามทำความเข้าใจกับทุกคน เก็บความเจ็บปวดชอกช้ำไว้กับตัว หลังจากที่บิดาจากไป เขาก็แทบจะไม่มีสิทธิ์อะไรในบ้านตระกูลเหออีกต่อไป คนบ้านตระกูลเหอก็ถูกฮูหยินรองและน้องชายต่างมารดาของเขายึดครองไปหมดสิ้น ซ้ำยังไม่แบ่งสมบัติอะไรให้กับเขาแม้แต่ชิ้นเดียว“หึ ฮูหยินถาน ท่านเป็น
เหอซีซวนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเจ็บแค้นและโศกเศร้าของร่างเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่ ช่างน่าเศร้าที่คนผู้มีรักที่แสนจริงใจ จะถูกหลอกลวงและหักหลังได้เจ็บปวดเช่นนี้“ตระกูลเหอ ตระกูลถาน เซี่ยอ้ายเหม่ย พวกแกทำให้เหอซีซวนต้องตายสินะ”พวกแกจะต้องชดใช้กับความชั่วที่ทำลงไป“คุณชาย คุณชายฟื้นแล้ว ขอบคุณสวรรค์” เสียงเอะอะดังขึ้น ก่อนที่ชายชราผู้หนึ่งจะวิ่งเข้ามาที่เขาด้วยท่าทางแตกตื่น ชายชราท่าทางใจดีนั้นยิ้มกว้าง เมื่อเห็นหน้าทายาทตระกูลหลิว เขาทำท่าเหมือนอยากจะสัมผัสร่างกายของชายหนุ่มอยู่หลายครั้งแต่ก็ทำตัวไม่ถูก จนเหอซีซวนอดไม่ได้ที่จะรำคาญจึงจับมืออีกฝ่ายมาจับมือเขาเองจากนั้นก็มีคนอีกหลายคนวิ่งตามมาที่ห้อง ด้วยท่าทีร้อนรน“ท่านปู่ ท่านระวังหน่อยสิขอรับ หากท่านหน้ามืดจนล้มหัวฟาดพื้น พวกข้าจะทำยังไง” ชายหนุ่มท่าทางทะมัดทะแมงวัยใกล้เคียงกับเขา เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับประคองชายชราอย่างห่วงใย“ท่านพี่ ไม่ต้องห่วงท่านปู่หรอก ท่านดูจะแข็งแรงกว่าพวกเราด้วยซ้ำ ไปเป็นห่วงคุณชายคนนั้นเถอะ คุณชายผู้นี้เพิ่งฟื้นขึ้นมาไม่นานกลับขยับตัวไม่หยุด หากบาดแผลฉีกขาด จะทำอย่างไร” ผู้ที่เอ่ยเป็นชายเกอที่มือซ้ายจูงลูก มือขว
ไอ้ใบ้ในความทรงจำเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำ ท่าทางเซื่องซึมเชื่องช้า ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง มอมแมม เขารับมันมาเลี้ยงด้วยความสงสาร เห็นว่าสติไม่ดีและไม่มีที่ไป หลังจากรักษาให้อาการดีขึ้นก็นำตัวไปฝากให้พ่อบ้าน มอบหมายงานเป็นบ่าวในจวน ไอ้ใบ้นั้นไร้ชื่อแซ่ ไร้ที่มาที่ไป พวกเขาจึงเรียกมันแค่ชื่อว่าไอ้ใบ้อย่างไม่ใส่ใจนัก หน้าที่ประจำของมันก็ดูแลคอกม้าและช่วยบ่าวชายแบกหามเป็นครั้งคราว เพราะแม้สติปัญญาจะด้อย แต่ร่างกายของมันกลับแข็งแรงบึกบึนเหนือมนุษย์เวลานี้ไอ้ใบ้ต่างออกไป มันดูสะอาดสะอ้าน แววตาฉลาดเฉลียว กิริยาท่าทางสง่างาม ต่างจากบ่าวชายไร้การศึกษาทั่วไป ที่สำคัญคือ มันไม่ได้เป็นใบ้แล้ว มันพูดได้“ข้าก็คือบ่าวของท่านอย่างไรเล่า”“แต่เจ้าพูดได้แล้ว”“ย่อมเป็นเช่นนั้น ตอนที่ข้าต่อสู้กับคนของคุณหนูเซี่ย ข้าโดนพวกมันเอาไม้ฟาดเข้าที่หัว จู่ๆ ความทรงจำที่เคยลืมเลือนไปก็กลับคืนมา”“เจ้าจำได้แล้วหรือว่าตนเองเป็นใคร ดียิ่ง ต่อไปเจ้าก็จะได้กลับไปหาครอบครัว ลูกเมียคงรอเจ้าอยู่นานแล้ว” เหอซีซวนเอ่ยด้วยสีหน้ายินดี ทว่าไอ้ใบ้กลับยกยิ้มอ่อนราวกับบัณฑิต ก่อนจะเอ่ยตอบกลับมา“ข้าไม่มีลูกเมีย อยู่ตัวคนเดียว บัดน
วันเวลาผ่านไปไม่นาน อาการบาดเจ็บของเหอซีซวนก็เริ่มดีขึ้นโดยมีจางหย่งคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิดทุกฝีก้าว ได้มีคนหน้าตาดีเหมือนดาราตัวท็อปคอยตามประคบประหงมอยู่ไม่ห่าง ก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย เสียอย่างเดียวก็คือบ่าวคนนี้แม้จะใส่ใจเขามากแต่บางคราก็ทำตัวห่างเหิน เหอซีซวนที่ปักหลักจะคว้าเขามาเป็นสามียิงมุกจีบไปเท่าไหร่ก็ถูกปัดทิ้งสถานเดียวอะไรกัน ใบหน้างดงามปานเทพเช่นนี้ เกิดใหม่อีกทีก็ยังนกเหรอเนี่ยไม่จริง ไม่จริ๊งเมื่ออาการเริ่มดีขึ้น วันนี้จางหย่งก็พยุงคุณชายเหอคนงามออกไปเดินดูเรือนตระกูลหลิว เขาพบว่าที่แห่งนี้นั้นเหมือนกับมิติส่วนตัวของเขาที่หลิวหงชิงอาศัยอยู่ แตกต่างเพียงแค่ ที่แห่งนี้ไม่มีข้าวของล้ำค่าประดับประดาเท่าที่ควร เรือนตระกูลหลิวนั้นกว้างใหญ่ไม่น้อย เทียบกับจวนตระกูลเหอนับว่ามีพื้นที่กว้างกว่าเสียอีก แม้จะแบ่งพื้นที่ไปทำโรงเตี๊ยมก็นับว่ากว้างใหญ่ เกินกว่าจะให้คนแก่เพียงผู้เดียวคอยดูแล จากที่กวาดตาดู เขาก็ต้องยอมรับว่าตู้เฉิงนั้นดูแลเรือนแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากประตูหน้าเรือนตระกูลหลิวที่ดูรกร้างราวกับเรือนร้างแล้ว ส่วนอื่นก็สะอาดสะอ้านน่าอยู่ นับว่าบรรพบุรุษเขาใช้งานคนไม่ผิด
ท่านหมอเจียงผู้นี้นับว่าเป็นคนเก่งกาจ เขาทำการฝังเข็มไม่นาน อาการปวดท้องของเหอซีซวนก็ดีขึ้น ความเจ็บปวดทรมานมลายหายไป ก่อนจะเขียนใบสั่งยาให้กับคนในบ้าน นำไปต้มให้กับคุณชายของบ้านดื่ม“ท่านหมอ คุณชายเป็นอะไรหรือ”ท่านหมอมีสีหน้าหนักใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย“เฮ้อ ข้าก็พูดยากนะ ดูเหมือนว่าร่างกายของคุณชายผู้นี้จะมีหยินมากเกินไป ร่างกายไร้สมดุลราวกับพลังปราณถูกสูบออกไปหมด ถึงจะหายปวดแล้วแต่อาการที่แท้จริงก็ยังไม่สู้ดี ข้าขอถามอะไรบางอย่างกับคุณชายได้หรือไม่”“ได้ท่านหมอ”“ท่านเคยถูกวางยาพิษที่ทำให้เป็นหมันใช่หรือไม่”!!!คราวนี้ทุกคนในเรือนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ไม่อยากจะคิดเลยว่าคุณชายเหอผู้นี้พบเจออะไรมาบ้างที่เมืองหลวง ก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่ การลงมือฆ่าฟันนับว่าร้ายแรง แต่การวางยาให้เป็นหมันนับว่าอำมหิตไม่น้อยส่วนเหอซีซวนนั้น วิญญาณหลุดจากร่างไปแล้วตายห่า ที่เขามาเกิดที่นี่ก็เพื่อมาทำภารกิจผลิตทายาท แต่ตอนนี้เขาเป็นหมันแล้วจะให้ทำยังไงหรือว่าเขาจะต้องไปจิ้มผู้หญิงที่ไหน ไม่เอานะ เขาขอกัดลิ้นกลั้นใจตายดีกว่าเปลี่ยนขั้ว“ร่างกายของท่านตอนนี้ ยังไม่ได้เป็นหมันหรอกคุณชาย เพียงแต่ตอนนี้มด
หลังจากรักษาตัวอยู่พักใหญ่ เหอซีซวนหรือยามนี้เปลี่ยนชื่อเป็นหลิวซีซวนก็อาการดีขึ้นตามลำดับ น่าเจ็บใจเหลือเกินที่แม้เขาจะถูกเขี่ยทิ้งมาไกลถึงเหิงเยว่ แต่พวกตระกูลถานก็ยังคงทำร้ายเขาได้อย่าให้ข้าได้กลับไปเหยียบเมืองหลวงนะ เพราะสิ่งแรกที่ข้าจะเหยียบก็คือหน้าเจ้า ถานตงหยาง“เหตุใดท่านทำหน้าตาน่ากลัวเช่นนั้น” จางหย่งที่พยุงหลิวซีซวนมาตลอดทาง มองเจ้านายด้วยสีหน้าหวาดระแวง ไม่รู้ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้น หลายครั้งที่นายผู้นี้มักจะมีความคิดประหลาดราวกับมาจากคนละโลก“ท่านจะวางแผนฆ่าผู้ใด”“ไม่ได้วางแผน แต่ถ้ากลับเมืองหลวงได้เมื่อไหร่ ข้าได้ฆ่าคนแน่ๆ น่าเสียดายที่เกิดเป็นเกอนั้นบอบบาง แม้แต่แรงจะฆ่าไก่สักตัวยังไม่มี พละกำลังไม่ต่างจากอิสตรีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะหญิงก็ไม่ใช่ ชายก็ไม่เชิง เช่นนี้ใช่หรือไม่ผู้คนจึงได้รังเกียจเกอนักหนา”“หากเป็นท่านผู้เป็นเกอรูปงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ย่อมไม่มีผู้ใดรังเกียจได้ลง”หลิวซีซวนเบ้ปากคว่ำกับคำพูดเอาใจของจางหย่งไม่รังเกียจหรือ ตอนเขาเดินทางออกจากเมืองหลวงด้วยรถม้า มีผู้คนก่นด่าสาปแช่งตลอดทางด้วยซ้ำ“มีแต่คนหัวโบราณบางกลุ่มเท่านั้นที่รังเกียจเกอ ยามนี้บ้า
ห้าปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในเมืองหลวงเมื่อห้าปีก่อน จวนตระกูลหลิวก็ปิดเงียบมาตลอด ฮ่องเต้เฉินเฟยหลงนั้นเหนื่อยใจไม่น้อยที่อุตส่าห์พาตัวทายาทตระกูลหลิวกลับมาอยู่ในเมืองหลวง แต่อีกฝ่ายก็ยังคงมีนิสัยเหมือนกับต้นตระกูล นั่นคือเกลียดความวุ่นวาย สิ่งที่หลิวซีซวนขอพระราชทานเป็นรางวัลจากเขาคือ การที่เขาสามารถอยู่เฉยๆ ได้ และปฏิเสธการเข้าพบคนจากราชสำนักหรือใครหน้าไหนก็ตามเขาจะต้องการอะไรอีกเล่า ในเมื่อยามนี้ได้สามีแล้ว เงินทองก็มีจนไม่รู้จะใช้ยังไงหมด ทรัพย์สมบัติในคลังสมบัติตระกูลหลิวก็ถูกเก็บไว้อย่างดีที่บ้านตระกูลหลิวที่เหิงเยว่โดยมีท่านตาตู้เฉิงเป็นผู้ดูแลด้านตู้เจาและตู้ลี่จูนั้นหลังจากเริ่มกิจการของตัวเอง ยามนี้ก็กลายเป็นร้านค้าชื่อดังที่มีหลายสาขา การงานการเงินมั่นคง ส่วนบุตรชายอย่างอาจ้านก็กำลังเตรียมสอบเข้าโรงเรียนหมอตามที่ตั้งใจไว้ หลิวซีซวนภูมิใจไม่น้อยที่คนข้างกายเขากำลังไปได้ดีกันทุกคน“กรี๊ดดดด อ๊ากกกกกกก”ยามนี้เสียงกรีดร้องกลับดังออกมาจากจวนตระกูลหลิวในเมืองหลวง บ่าวไพร่พากันวิ่งวุ่น ยามนี้สองจวนทุบกำแพงเข้าหากันจนกลายเป็นจวนขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นการเสริมบารมีให้หลิวซีซวนแ
“เจ้ารู้ข่าวของถานตงหยางแล้วใช่หรือไม่”“ตอนนั้น ข้าเห็นเขาจากในภาพนิมิตแล้ว สุดท้ายคนผู้นั้นก็ถูกฆ่าตายอย่างไร้ค่ายิ่งนัก”“แล้วเจ้า..ไม่เสียใจหรือ” เซวียนจางหย่งนั้นเป็นบุรุษใจกว้าง เขารู้ดีว่าเขากำลังแต่งให้กับคนงามที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว เขาตระหนักอยู่เสมอว่า แม้หลิวซีซวนจะเลิกรากับอีกฝ่ายไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เยื่อใย อย่างไรก็คนที่เคยอยู่กินกันมาหลายปี“ไม่หรอก เขาสมควรตายจริงๆ คนเช่นนั้นอย่างไรก็คิดไม่ได้ วันข้างหน้าย่อมต้องก่อการเลวร้ายอีกแน่ นับว่าความแค้นระหว่างข้าและเขาได้จบสิ้นในชาตินี้อย่างสมบูรณ์แล้ว” หลิวซีซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เรียกรอยยิ้มจากบุรุษรูปงามได้ไม่น้อยตัดเวรกันได้แล้วก็ดีชายหนุ่มก้าวเข้ามา ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้าสู่อ้อมกอดแนบชิดทั้งสองร่างจากทางด้านหลัง แก้มนวลขึ้นสีเล็กน้อยทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่ผ่านมาเหอซีซวนนั้นเป็นคนซุกซนชอบเรื่องสนุกสนาน แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็ซึมลงไปถนัดตาจนน่าเป็นห่วง เขานึกไปว่าอีกฝ่ายเสียอกเสียใจเรื่องอดีตสามีเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังมีบางเรื่องรบกวนจิตใจเกอคนงามอยู่“แล้วเมื่อกี้ เจ้ากำลั
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเมืองหลวง ก็ถึงเวลาแห่งการฟื้นฟู โชคดีที่นอกจากจัตุรัสกลางเมืองแล้ว ไม่มีสิ่งใดพังทลาย ทว่าก็มีชาวบ้านโดนลูกหลงจนบาดเจ็บเป็นจำนวนไม่น้อย จนฮ่องเต้ต้องประกาศเรียกตัวหมอตามเมืองต่างๆ ให้เร่งเข้ามาช่วยรักษาอาการให้ปลอดภัยสิ่งที่ทำให้ผู้คนนึกทึ่งในช่วงเวลาวิกฤตก็คือ องค์ชายห้าจอมเสเพลนั้น แท้จริงแล้วเป็นเจ้าของที่แท้จริงของห้องอาหารส่องดาว พระองค์นำอาหารจากห้องอาหารมาเปิดโรงทานแจกจ่ายให้กับผู้คนอย่างไม่รอช้า เหล่าองค์ชายคนอื่นก็ไม่น้อยหน้า เมื่อได้เวลาแสดงความสามารถก็ต่างพากันช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันอย่างเต็มกำลังสถานการณ์ในเมืองจึงกลับมาสู่สภาพปกติดังเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือกลุ่มขุนนางชั่ว งานนี้ความผิดประจักษ์เห็นต่อหน้า จวิ้นอ๋องกำเริบเสิบสาน ตั้งใจชิงบัลลังก์ถึงขั้นกล้าลงมือกับประชาชนโดยมีขุนนางหลายคนหนุนหลัง ฮ่องเต้แต่ไหนแต่ไรประนีประนอม ใจอ่อนให้จวิ้นอ๋องที่มีอำนาจฝั่งมารดาถ่วงดุลอยู่ไม่น้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายตายไปแล้ว เขาก็ไม่คิดจะยั้งมือกับพวกขุนนางทั้งหมดที่ร่วมก่อการในครั้งนี้หนึ่งในนั้นก็คือ เสนาบดีเซี่ยโม่โฉว วันนั้นเลี่ยงชิงและเลี่ยงหรงใ
“หลานรัก” เสียงเพรียกดังขึ้นมาแต่ไกล เขาหลับตาลง ก่อนจะพบว่าตนเองมาโผล่อยู่ในมิติส่วนตัวของตนอีกครั้งในที่นี้นั้นสงบเงียบและปลอดโปร่ง ต่างจากโลกแห่งความจริงที่เขากำลังเผชิญ ท่านตาหลิวหงชิงกำลังจิบชาร้อนด้วยท่าทางผ่อนคลาย ก่อนจะหันมายิ้มให้เขา“ท่านตา เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“ข้ารู้แล้ว เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา”“แต่ท่านตา ผู้คนกำลังจะตาย ข้าเองก็จะไม่ไหวแล้ว”“ชู่ หลานรัก ทำใจให้สบาย ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่า วันนี้เจ้าต้องมีสติให้มาก” หลิวหงชิงยกยิ้มอ่อนโยนให้กับหลานคนเดียว ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว ท่านตา แต่ข้าจัดการพวกมันไม่ได้ ข้าช่วยใครไม่ได้เลย”“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าทำดีแล้ว เด็กดี ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อให้มีชีวิตที่ดี ได้สร้างครอบครัวดั่งที่ใจปรารถนา ข้าไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ้าต้องรับศึกหนักเช่นนี้” ชายชราปลอบหลานชาย ก่อนจะเอ่ยต่อ“เวลาที่ผ่านมา ข้าติดอยู่ในมิติส่วนตัวนี้มานานเกินไปเหลือเกิน ยามนี้เหอซีซวนได้รับการปลดปล่อยแล้ว ตัวข้าที่เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยววิญญาณก็ควรถึงเวลาต้องไปแล้วเช่นกัน”“ท่านตา ท่านจะไปไหน ท่านไปแล้ว ข้าจะอยู่กับใคร” “เจ้าก็อยู่กับสามี
เขาจะทำอะไรได้ ยามนี้แค่ทรงตัวยืนอยู่ แล้วตั้งรับดาบที่เข้ามารอบทิศก็ลำบากมากแล้ว และก่อนที่เขาพลาดท่าก็มีใครบางคน ปรี่มาช่วยเขาเสียก่อน“คุณชายหลี่” ใช่แล้ว คือพ่อหนุ่มดวงมหาโชคคนดีคนเดิมนั่นเอง ดูจากฝีไม้ลายมือ เขาก็พอจะดูออกว่าคนผู้นี้นั้นไม่สันทัดเรื่องการใช้กำลังเท่าไหร่นัก ไม่แปลกใจที่ได้ทำงานสายผู้ตรวจการมากกว่าจะไปทางทหาร แบบเซวียนจางหย่ง“หลิวซีซวน เจ้าระวังตัวด้วย”“สามีข้าเป็นอย่างไรบ้าง”หลี่เฉียงฮุยถึงกับหันกลับมามองเขา ด้วยสายตาเหลือเชื่อ“เจ้าห่วงชีวิตสหายข้ามากกว่าชีวิตตนเองอีกหรือ รีบเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ข้าเองก็ไม่รู้จะช่วยเจ้าต้านไว้ได้มากเพียงใด”“คุณชายหลี่ ท่านช่วยหยุดโจวเฟิง มันจะจุดเทียนอีกครั้ง ค่ายกลชิงดวงจะกลับมาทำงานได้ใหม่” หลี่เฉียงฮุยมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที เขาสองคนถูกรุมล้อมรอบด้าน จนแทบจะเอาตัวไม่รอดเช่นนี้ จะทำอะไรได้“งั้นเอาเช่นนี้ก็แล้วกัน” หลี่เฉียงฮุยถือคติว่า อะไรทำได้ก็ให้ทำไปก่อน เขาดึงมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ออกมา ก่อนจะปาไปทางโจวเฟิงหวังปลิดชีพถึงจะปลิดชีพไม่ได้ แต่ทำลายสมาธิมันได้ก็ยังดีแต่ใครจะไปคาดคิดในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีดสั้นพ
หลิวซีซวนค่อยๆ ลุกขึ้นมาช้าๆ ด้วยแรงแค้นที่แน่นอก หากคนตกใจสามารถยกโอ่งหนีไฟไหม้ได้ คนที่กำลังโกรธก็น่าจะยกภูเขาได้ไม่ต่างกัน โดยที่ไม่มีใครคาดฝัน เกอคนงามร่างบางที่เมื่อครู่ยังซวนเซ กลับเดินไปยกแท่นพิธีที่หักครึ่งแล้วทุ่มไปทางโจวเฟิงอย่างไม่ออมมือตู้ม!!!โจวเฟิงนั้นแม้บาดเจ็บอยู่ แต่ประสาทสัมผัสยังคงเฉียบคม เขาจึงกระโดดหลบแท่นหินขนาดใหญ่ได้อย่างหวุดหวิด“นี่เจ้า”“หมาลอบกัด เจ้าแอบซ่อนอยู่ข้างกายข้าและจางหย่งมาตลอด” หลิวซีซวนตวาดดังลั่น เสียงสั่นด้วยความโมโห“แล้วอย่างไร บุรุษผู้นี้มันโง่เอง มันกล้าบุกเข้ามาสอบสวนข้าเพียงลำพัง ทั้งที่รู้ว่าข้านั้นเป็นหลวงจีนที่มีวิชาอาคม สุดท้ายมันก็ถูกข้าใช้วิชาสับเปลี่ยนวิญญาณ และปล่อยให้มันตายไปกับร่างเดิมของข้าในคุก ฮ่าๆๆ”“เจ้ามันสารเลว เพราะเจ้า ผู้คนถึงได้เดือดร้อน เจ้าไม่ได้ต้องการช่วยจวิ้นอ๋องให้ครองบัลลังก์ เจ้าก็แค่ต้องการละเลงเลือดทาแผ่นดินก็เท่านั้น เจ้ามันปีศาจชัดๆ ไม่ต้องพูดมาก เจ้าจะเป็นใครก็ช่าง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดไปได้แน่ กล้าทำร้ายคนของข้า เช่นนั้นเจ้าก็จงรับผลกรรม” หลิวซีซวนหยิบดาบขึ้นมาถือไว้พร้อมกับกระชับไว้แน่น พร้อมที่จะโ
ไต้ซือไป๋ในร่างของโจวเฟิงล้วงเข้าไปในปกเสื้อ ดึงเทียนทำพิธีสีแดงแท่งใหม่มาถือไว้อย่างหมายมาด เวลาเหลืออีกไม่มากนัก หากว่าเทียนเล่มเก่าดับ เช่นนั้นเขาก็จะจุดแท่งใหม่ด้วยตัวเองถึงอย่างไร เขาก็ต้องทำภารกิจวันนี้ให้สำเร็จให้ได้เขาควบม้ามุ่งหน้าเข้าไปใจกลางเมือง ถึงแม้เทียนจะดับ แต่หากเขาสามารถจุดเทียนสำรองนี้ได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วยามโดยที่เหยื่อบูชายัญทั้งสี่ทิศยังคงอยู่ที่เดิม ค่ายกลก็ยังกลับมาทำงานได้อีกครั้งไม่แน่ว่าป่านนี้ คนที่บุกไปทำลายพิธีอาจจะโดนทัณฑ์สวรรค์ผ่าร่างจนตายไปแล้วก็ได้โจวเฟิงมองออกไปไกลยังใจกลางเมือง ก็เห็นเมฆก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีอัสนีฟาดลงมาที่กลางเมืองจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนแผ่นดินสะเทือนเปรี้ยง!!สายฟ้าฟาดลงมากลางแท่นพิธีที่จัตุรัสกลางเมืองเก้าครั้งติดกันไม่หยุด วันนี้ที่เมืองหลวงนั้นเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เดี๋ยวมืดครึ้มเดี๋ยวสว่าง จู่ๆ ท้องฟ้านั้นกลับส่งสายฟ้าฟาดลงมา ท่ามกลางการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย“แฮ่กๆๆ รอดจริงๆ ด้วย” หลิวซีซวนที่ร่ายรำอยู่นาน สุดท้ายเขาก็สามารถเอาตัวรอดจากทัณฑ์สวรรค์ได้ เขามองไปรอบกายก็พบว่าจัตุรัสกลางเมืองนั้นเละ ไม่เหลือชิ้น
ในขณะพวกเขายังสู้กันต่อ แต่หลิวซีซวนกำลังตัวสั่นอยู่กลางพิธี ดวงตาสีทองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าแตกตื่นนี่เราลืมอะไรไปรึเปล่าอ๋อ เราลืมไปใช่หรือไม่ว่าหลังจากทำลายค่ายกลชิงดวงแล้ว จะได้รับทัณฑ์สวรรค์เป็นสายฟ้าฟาดเวรเอ๊ย กูจะโดนฟ้าผ่าอีกแล้วเหรอวะเนี่ย ครั้งที่แล้วโดนไปยังเกือบตายสักพัก เขากลับได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาจากภายใน เป็นเสียงของท่านตาที่คงอดทนไม่ไหว จึงแอบมาบอกเขา“ค่ายกลเทวาร่ายรำ” เขามองท้องฟ้าที่เริ่มมีเมฆตั้งเค้าอีกรอบด้วยความสยอง เวลานี้จำเป็นต้องงัดวิชาทุกวิชาของตระกูลหลิวออกมาเพื่อปกป้องตนเองเสียก่อน เทวาร่ายรำก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำเพื่อสร้างเกราะกำบังกายให้กับตนเองจะรออะไรล่ะ ร่ายรำไปเลยสิจ๊ะหลิวซีซวนขยับร่างกายไปพร้อมกับบริกรรมคาถาไปด้วย เขาต้องเรียกสติตนเองตลอดเวลาเพราะหาไม่แล้วอาจจะเผลอก่นด่าสวรรค์ไปแล้วหลายรอบ รอบกายของเกอคนงามเปล่งประกายสีทอง ราวกับแผ่ออกมาเพื่อเป็นเกราะกำบังภัย ตัวของเขาสั่นเทิ้มไม่หยุด กล้ามเนื้อถูกเคี่ยวกรำอย่างหนัก จนเริ่มรับพลังมหาศาลที่ไหลเวียนในกายไม่ไหว เขาไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ แต่เขาจะไม่ยอมโดนฟ้าผ่าตายอีกหนแน่ๆที่หน้าประตูเม
เซวียนจางหย่งถึงกับมีสีหน้ามืดครึ้ม ทัพของจวิ้นอ๋องและแม่ทัพหวงจะมีอะไรให้น่ากังวล ต่อให้พวกเขาบุกเข้ามาเวลานี้ ก็ไม่แน่ว่าจะมีชัยเหนือคนที่เหลือสิ่งที่น่ากลัวคือ ทัพของหยวนหลี่เฉียงต่างหาก คนผู้นั้นเด็ดขาดโหดเหี้ยม ไม่เคยแพ้ให้กับผู้ใด ไม่เคยมีใครคิดระแวงว่าเขาจะย้ายฝั่งไปสนับสนุนจวิ้นอ๋อง“ข้านี่โชคดีเหลือเกินที่เลือกออกเดินทางไปศึกษาวิชากับพวกหลวงจีนและนักพรตตามเมืองต่างๆ จึงได้รู้จักหลวงจีนที่เชี่ยวชาญวิชานอกรีตอย่างหาตัวจับได้ยาก เขาเก่งถึงขนาดที่สามารถสับเปลี่ยนดวงวิญญาณของตนเองกับผู้อื่นได้ เช่นนี้ข้าคงไม่เหลืออะไรให้กังวล แม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ยังต้องยอมสยบให้กับข้า หึหึ” จวิ้นอ๋องเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับมองสงครามกลางเมืองที่กำลังห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด แม้ว่ายามนี้จะมีกองกำลังน้อยกว่าแต่กลับได้เปรียบกว่าทหารหาญและราชองครักษ์ในที่นี้ เซวียนจางหย่งต้องต่อสู้ไปพร้อมกับเฝ้าสังเกตอาการของคนรักที่อยู่กลางแท่นพิธีเพียงลำพังหลิวซีซวนหวนคิดถึงท่านตา ถึงว่าเมื่อคืนถึงคอยกำชับให้เราตั้งสติ เพราะจะเกิดเรื่องแบบนี้นี่เอง ครั้งก่อนเขาเป็นผู้ที่ทำลายพิธีชิงดวงของหลี่เฉียงฮุยเพียงผู้เดียว ครา