ซีรู้สึกราวกับกำลังถูกล่อลวงด้วยแรงดึงดูดมหาศาล เขาค่อยๆ เดินไปยังผลงานที่วางอยู่ที่มุมห้องเพียงลำพัง ก่อนจะยืนมองหยกชิ้นนั้นราวกับว่ามันมีชีวิต
“คุณซีสนใจหยกชิ้นนี้เหรอครับ นี่คือหยกหงส์แดงครับ เป็นหยกล้ำค่า คาดว่าน่าจะเป็นหยกประจำตระกูลครับ” ชายชราผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา ก่อนจะช่วยอธิบายผลงานให้ดาราดังได้ฟัง
“หยกชิ้นนี้ เป็นของยุคไหนเหรอครับ” คนที่ไม่สนใจศิลปะเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกสนใจกับของชิ้นนี้อย่างน่าประหลาด
“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ มีนักวิชาการวิเคราะห์กันไว้หลากหลาย แต่อีกด้านมีชื่อสกุลหลิวสลักไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของตระกูลหลิวครับ แต่ตระกูลนี้ลึกลับมากพวกเราไม่มีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับตระกูลนี้สักเท่าไหร่ ดูเหมือนจะเป็นตระกูลที่ไร้ทายาท สิ้นตระกูลไปแล้ว”
ไม่มีทายาทแล้วเหรอ
หืม ไม่จริง แล้วทำไมแม่ของเขาก่อนตายถึงได้บอกกับเขาว่า แท้จริงเธอมาจากตระกูลหลิว
เขานี่ไงคือ ทายาทตระกูลหลิว และดูเหมือนจะเป็นทายาทเพียงคนเดียวเสียด้วย
“อะแฮ่ม ผมขอจับได้มั้ย” เขาเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ ทว่าผู้ดูแลที่มาให้ความรู้กลับมองเขาด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนจะหยิบวัตถุโบราณด้วยมือเปล่าแล้วยื่นมาที่เขาอย่างง่ายๆ
ทันทีที่ได้สัมผัส เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่าง รับรู้ได้ว่ารอบกายนั้นสั่นสะเทือนอย่างน่าสยอง แต่เขากลับถูกดึงดูดไว้ด้วยหยกชิ้นนี้ ไม่อาจขยับหนีไปไหนได้เลย
นี่มัน..แผ่นดินไหว
เขามองรอบกายเห็นผู้คนต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างจ้าละหวั่น กลุ่มชนชั้นสูง ผู้ดี คนดังที่มาร่วมงานที่แต่งตัวมาอย่างเต็มยศ เมื่อถึงช่วงวิกฤต ต่างไม่มีใครไว้ตัว พวกเขาต่างวิ่งหาทางเอาตัวรอดอย่างรวดเร็วจนแทบจะเหยียบกันตายไร้ท่าทางสง่างามเช่นตอนแรก
แต่ซีกลับไม่อาจไปไหนได้ ไม่สิ ส่วนลึกในใจเขาไม่ต้องการที่จะไปเองต่างหาก
เขาเงยหน้ามองผู้ดูแลที่อยู่ในชุดสูทผู้นี้อีกครั้งคล้ายกับต้องการถามคำถามบางอย่าง แต่กลับนึกไม่ออก ผู้ดูแลชราผมยาวสีดอกเลายกยิ้มเอ็นดู ท่ามกลางเหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางกรุง ก่อนที่อาคารพิพิธภัณฑ์จะถล่มลงมาทับร่างของเขา
จากนั้นโลกรอบตัวก็กลายเป็นความมืดมิด
เฮือก!!
เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่สถานที่แห่งหนึ่งที่ประดับประดาตามสไตล์จีนโบราณแบบที่เขาเพิ่งเดินชมมาเมื่อครู่ รอบกายเต็มไปด้วยแสงสว่างไสว ลมเย็นสบายพัดผ่านร่าง แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่แปลกถิ่น แต่เขาสัมผัสได้ว่าเวลานี้เขาปลอดภัยแล้ว
“นี่เราตายไปแล้ว หรือว่ายังไม่ตาย มันคืออะไรกันแน่วะเนี่ย”
เขากะพริบตาถี่ ก่อนจะมองไปที่มือขวาของตนที่กำหยกโบราณชิ้นนั้นไว้แน่น
“นี่มันหยกหงส์แดงนี่หว่า นี่เราหยิบมันติดมือมาถึงที่นี่เลยเหรอ แล้วนี่มันที่ไหนกันแน่วะเนี่ย ใครมาเล่นตลกกับเราวะ”
ซียังสงวนท่าที เผื่อกรณีที่เขากำลังถูกอำในรายการกลั่นแกล้งชื่อดังที่ชอบแกล้งดาราด้วยมุกประหลาดๆ เขาลุกขึ้นมามองไปรอบๆ ก็พบว่าที่นี่คือเรือนแบบจีนโบราณที่ดูหรูหราไม่น้อย พระเอกหนุ่มได้ยินเสียงโวยวายโต้เถียงดังออกมาจากข้างนอกจึงค่อยๆ เดินตามเสียงไปเรื่อยๆ ก่อนจะพบกับชายชราผมสีดอกเลายาวถึงกลางหลังอยู่ในชุดฮั่นฝูหรูหราแบบจีนโบราณ กำลังยืนคุยกับตัวเองอยู่
“ไอหยา แบบนี้แย่แล้ว แย่แล้ว”
“แล้วจะทำยังไง ทำยังไง”
“ต้องรักษาชีวิต ต้องมีทายาท”
เดี๋ยวนะ ตาแก่นี่มันคนที่เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ที่เอาหยกมาให้เรานี่หว่า แล้วพูดคนเดียวแบบนี้ สติดีอยู่รึเปล่า
“เป็นบ้ารึเปล่าเนี่ย” ซีพึมพำเบาๆ แต่ตาแก่กลับหันขวับมาทันที
“สามหาว ข้าไม่ได้บ้า”
อ้าว ได้ยินด้วยเหรอ
“เอ่อ ครับ แล้วคุณเป็นใครครับ ผมอยู่ที่ไหนกันแน่”
ชายชรายืดหลังตรงด้วยท่าทางองอาจ ก่อนจะเอ่ยออกไปอย่างภาคภูมิใจ
“ที่นี่คือมิติส่วนตัวของตระกูลหลิว ข้ามีชื่อว่าหลิวหงชิง เป็นบรรพบุรุษของเจ้าอย่างไรล่ะ เจ้าหลานชายตัวน้อย”
“ผมไม่ใช่..”
“อย่ามาปฏิเสธ ข้ารู้ดีกว่าตัวเจ้าด้วยซ้ำ รีบเข้ามากราบท่านตาเสียสิ”
ซีมองคนตรงหน้าราวกับมองคนบ้า เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าคนผู้นี้มาแอบอ้างว่าเป็นคนของตระกูลหลิวไปทำไม หรือว่าคิดจะมาหาผลประโยชน์กับเขา
“ไม่ต้องมามองหน้าข้าเช่นนี้ เจ้าควรจะคุกเข่าคำนับท่านตาและขอบคุณเสีย ที่ข้าช่วยเจ้าเอาไว้ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่พิพิธภัณฑ์”
“ท่านกำลังบอกว่าผมยังไม่ตาย” ดาราดังมีสายตาเป็นประกายขึ้นมา
“ตายแล้ว”
เอ้า ตาแก่นี่
ซีถอนหายใจยาว ตากลมที่เป็นประกายฉายแววสลดลงมา เขาเป็นห่วงบริษัท เป็นห่วงแฟนคลับ ป่านนี้คงวุ่นวายกันไปหมดแล้ว ส่วนเพื่อนฝูงญาติพี่น้องหรือคนรักล้วนไม่มีเขาจึงไม่มีห่วงในเรื่องนั้น
ไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกดีใจหรือเศร้าใจกันแน่ ที่แม้แต่จะตายยังไร้ความผูกพันกับใคร น่าเสียดายที่ชีวิตครั้งก่อนโดดเดี่ยวเกิน หากได้กลับไปหรือย้อนเวลากลับไปแก้ไข เขาก็อยากจะรักษาเพื่อนและคนรอบกาย มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับคนรักดีๆ สักคน
เสียดายที่เวลามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว
“เวลานี้เจ้าตายไปแล้ว แต่หากเจ้ายังคะนึงถึงชีวิตที่ล่วงผ่านไปแล้ว ข้าช่วยเจ้าได้นะ”
“ ...” ซีมองตาแก่ที่กำลังหว่านล้อมเขา ด้วยท่าทางราวกับกำลังหลอกเด็ก
นี่คิดว่าเขาอายุเท่าไหร่กันแน่
“ไอ้หลานชาย ได้พบกันครั้งนี้ นับว่าสวรรค์เข้าข้างตระกูลหลิวแล้ว ข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าปรารถนา”’
“เดี๋ยวก่อนนะตาแก่ ผมไม่รู้จักคุณ เราไม่รู้จักกัน ทำไมผมต้องมาทำตามที่คุณพูดด้วย” ซีเท้าเอว วีนใส่ชายชราอย่างไม่ยินยอมนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย กูจะบ้า กูจะบ้า“ไม่ทำก็ตาย จะเอายังไงล่ะ อีกอย่างเรียกข้าให้ดีๆ หน่อย ข้าคือบรรพบุรุษของเจ้านะ เป็นทวดของทวดของทวดของแม่เจ้า”“ตาแก่!!” อย่าคิดว่าซีจะยอมง่ายๆ ใครก็ไม่รู้ แต่งตัวประหลาด ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ แม้จะดูใจดีแต่เหมือนจะมีจุดประสงค์แอบแฝงตาคนนี้ต้องหวังอะไรจากเขาแน่ๆชายชราถอนหายใจยาว ใจหนึ่งก็อยากจะดีดกะโหลกหลานชายรูปงามผู้นี้ อีกใจก็นึกเมตตา ดูเหมือนชีวิตที่ผ่านมา จะสร้างบาดแผลให้กับเขาไม่น้อย“เรียกข้าว่าท่านตาเสียเถอะ เจ้าเป็นหลานของข้า แล้วข้าก็หวังดีกับเจ้า หยกในมือนั่นเป็นของเจ้าแล้ว จากนี้ เจ้าคือคนของตระกูลหลิวเต็มตัว”“ผมไม่ใช่คนจากตระกูลหลิว ผมคือซี อภิวัฒน์ เป็นดาราขวัญใจมหาชนสามสมัยซ้อน”“จะกี่สมัยก็ช่าง เพราะคงไม่มีสมัยหน้าอีกแล้ว ไอ้หลานชาย เจ้าตายแล้ว ตายจากเหตุการณ์ตึกถล่ม” ซีมีสีหน้าสับสน ก่อนจะค่อยๆ สลดลงอย่างจำยอม เขาเริ่มตระหนักได้แล้วว่าตนเองได้ตายจากโลกเดิมมาแล้ว อะไรที่เคยคิด เคยกระทำ เคยยึดถือล้วนไม่มี เส
สามปีกับการหาสามีและมีลูกเหรอ เขาไม่รู้หรอกว่าจะมีลูกได้ยังไง แต่โอกาสในการได้ใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง มันก็หอมหวานเกินต้านทานเอาวะ ไหนๆ ก็ตายไปแล้ว ยังไงเขาก็ไม่มีที่ไป ได้ไปเกิดเป็นคุณชายตระกูลหลิวที่มีเงินทองกองเป็นภูเขา ชีวิตคงไม่ต้องทำอะไร นอกจากนั่งกินนอนกิน ไม่ต้องหยิบจับอะไร ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ไปกองถ่าย ไม่ต้องไปซ้อมละครเวที ไม่ต้องออกอีเวนท์ นั่งๆ นอนๆ เที่ยวเล่น แล้วก็รอให้ว่าที่สามีลอยมาหา ในเมื่อท่านตาบอกว่าจะช่วยเขาหาสามี เช่นนั้นก็ย่อมไม่ใช่ปัญหานับว่าเป็นชีวิตที่ไม่เลวเหมือนกัน“ท่านตา ผมยินยอมที่จะไปเกิดใหม่ครับ” เขาเอ่ยกับหลิวหงชิงด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมกับมองตาอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่ ชั่วขณะเขารู้สึกราวกับเห็นแววตาหลุกหลิกของอีกฝ่าย ราวกับมีเรื่องบางอย่างแอบซ่อนเอาไว้ ก่อนที่หยกหงส์แดงในมือจะเรืองแสงสว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะกลับมามืดอีกครั้งกรั่บ กรั่บ กรั่บซีเริ่มได้สติอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่มิติส่วนตัวของหลิวหงชิงอีกต่อไป กลิ่นป่าไม้และต้นสนลอยมาแตะจมูก ลมหนาวพัดผ่านกายให้สั่นสะท้าน สัมผัสแรกที่เขาสัมผัสได้คือ เขากำลัง
เหอซีซวนสลบไปเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ไม่รู้ว่าที่ทนไม่ไหวคือพิษบาดแผลทางกายหรือบาดแผลทางใจ ที่โดนบรรพบุรุษต้มตุ๋นเสียจนเปื่อยนับว่าตั้งแต่เกิดจนตาย จนเกิดใหม่อีกครั้ง นี่เป็นการโดนหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของซุปตาร์คนดัง บัดนี้เขาถูกบรรพบุรุษหลอกจับมายัดใส่ร่างของคนที่มีชื่อว่าเหอซีซวน ที่เป็นเกอรูปงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงในแคว้นเว่ย ผู้ที่มีความงามเป็นเลิศ แต่ชะตากรรมนั้นน่าอนาถเหลือเกินไหนบอกว่าชีวิตเขาดีไง ท่านตาเกอคืออะไร เกอก็คือ เพศที่มีลักษณะภายนอกคล้ายเพศชาย แต่อ่อนแอและนุ่มนวลราวกับผู้หญิง เกอนั้นเป็นเพศพิเศษที่มีจำนวนน้อยนิด โดยทั่วไปนั้น เกอมักจะมีรูปโฉมงดงามเหนือคนทั่วไป มักถูกเหยียดหยามดูถูกอยู่เสมอที่สำคัญคือ เกอท้องได้ เขาท้องได้ที่ตาแก่นั่นดีใจที่เขาเป็นเกย์ก็เพราะเหตุนี้สินะถึงจะรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดใหม่กลายเป็นผู้ชายที่สามารถตั้งท้องได้ แต่ลึกๆ แล้ว ซีก็ยินดีไม่น้อย อย่างน้อยเขาก็สามารถที่จะมีทายาทที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง ความลับที่ไม่มีใครรู้ก็คือ ซุปตาร์คนดังรักเด็กมาก เขาเคยมีความคิดที่จะนำเด็กมาเลี้ยงอุปการะแต่ด้วยกระแสสังคม ทำให้ยังไม่ได้เริ
“ท่านตา” เขาปรับคำพูดเรียกอีกฝ่ายให้ดูดีมากขึ้น ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ท่านบอกว่าที่นี่เป็นมิติส่วนตัวของข้า ข้าสามารถหาประโยชน์อะไรกับมันได้หรือไม่ บัดนี้ข้าไร้ทรัพย์สินเงินทอง ถูกสามีทอดทิ้ง ข้าต้องใช้ประโยชน์จากมิติแห่งนี้ให้มากที่สุด”“นั่นย่อมได้”เหอซีซวนเผยยิ้มกว้าง รู้สึกพอใจกับท่าทีของหลิวหงชิงไม่น้อย เขาจึงเริ่มตะล่อมต่อ“เช่นนั้น ที่นี่มีของวิเศษหรือทรัพย์สมบัติอะไร ที่ข้าสามารถนำไปใช้ข้างนอกได้หรือไม่ ตอนนี้ข้าบาดเจ็บหนัก ข้าขอน้ำทิพย์ หรือน้ำสีทองที่มีคุณสมบัติเยียวยารักษาจากท่านได้หรือไม่” เหอซีซวนส่งยิ้มการค้าให้กับท่านตา เห็นเขาเป็นแบบนี้เขาคือแฟนนิยายจีนโบราณตัวยง แถมยังมีหลายครั้งที่เขาได้รับบทนำในซีรีส์ทะลุมิติ เขารู้หมดแหละ พวกตัวเอก ต่อให้มันจะไปเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ตัวประกอบ หรือตัวเอกก็ตาม ย่อมได้บัฟพลังพิเศษแบบที่เอาชนะคนได้ทั้งโลก เขาคาดว่าที่นี่ก็คงไม่แตกต่างกัน“น้ำทิพย์ น้ำทิพย์อะไร ที่นี่ไม่มีน้ำทิพย์ที่ช่วยรักษาได้หรอก”เหอซีซวนทั้งตั้งท่ารับความช่วยเหลือ ถึงกับไหล่ทรุดลงไปทันที“เช่นนั้น ท่านก็ย่อมมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์”“ไม่มี”“ไม่มีน้ำวิเศษอะไ
เหอซีซวนลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมธรรมดาที่มีของตกแต่งน้อยชิ้น ยามนี้ความเจ็บปวดทุเลาลงไป อาการโดยรวมก็ดีขึ้นมา เขาฟื้นกลับมาได้และยังปกติก็คงเป็นเพราะโชคชะตาส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็ต้องยกความดีความชอบให้กับบ่าวชายคนนั้นที่คงไปตามหาหมอฝีมือดีในเหิงเยว่มารักษาเจ้านายอย่างเขา จนรอดตายมาได้หารู้ไม่ว่า เหอซีซวนตัวจริงนั้นตายตั้งแต่ถูกลงดาบแทงทะลุหัวใจ ที่นอนตาลอยอยู่ตอนนี้ มันคือซีจากโลกอื่นต่างหากแม้จะตื่นมาแล้ว แต่ภาพบรรพบุรุษยืนถือพู่เขย่าไปมาแล้วตะโกนร้องเชียร์เขายังติดตาอยู่ เกิดมาเขาเพิ่งเคยเห็นคนแก่มายืนเชียร์ให้คนหนุ่มแบบเขา มุ่งหน้าล่าท้าผัวขนาดนี้ ดูท่าคืนนี้คงหลอนจนนอนฝันร้ายเป็นแน่เหอซีซวนค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นมา มองไปรอบกาย บาดแผลกลางอกเจ็บแปลบขึ้นมาแต่เขาไม่อาจนอนซมต่อไปได้อีกแล้ว เขาไม่แน่ใจว่าที่แห่งนี้เป็นที่ไหน แต่คงเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่บ่าวชายอย่างไอ้ใบ้เป็นผู้จัดหา ยามนี้เขาอยู่ตามลำพัง เป็นเวลาดีที่เขาจะได้ทบทวนเรื่องราวในอดีตของเจ้าของร่างเดิมร่างนี้ชื่อว่า เหอซีซวน เป็นบุตรเกอคนเดียวของคหบดีชื่อดังผู้ร่ำรวยอย่างเหอชาง น่าเสียดายมารดาแซ่หลิวมาด่วนจากไปเสียก่อน เขาจ
เหอซีซวนนั้นทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เขามักจะปรับทุกข์กับสหายสนิทที่เป็นถึงบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการ เธอมีนามว่า เซี่ยอ้ายเหม่ย เธอเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวานน่ารัก มักจะรับฟังเหอซีซวนด้วยความใจเย็น คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ หลายครั้งที่สหายผู้นี้มักจะตามติดเขาไปยังเรือนตระกูลถานด้วยกัน ดูเหมือนว่ามารดาของถานตงหยางจะชื่นชอบสหายคนนี้ของเขาไม่น้อยเขาเคยคิดว่ามันคือความปรารถนาดี ทว่าทุกอย่างมันกลับเป็นเพียงการหลอกลวงจากนั้นไม่นาน เหอชางบิดาของเขาก็ประสบอุบัติเหตุเรือล่มจนเสียชีวิต เหอซีซวนรู้สึกราวกับว่าชีวิตนั้นไร้หลักยึดอีกต่อไป ยิ่งเวลานี้ สามีมีหน้าที่การงานก้าวหน้าก็มักจะหาข้ออ้างว่างานยุ่ง พวกเขายิ่งห่างเหิน แม้แต่ในเวลาที่เหอซีซวนอ่อนแอที่สุด สามีก็ยังหมางเมินน่าสงสารที่เหอซีซวนคนนี้หน้ามืดตาบอด มองไม่เห็นความจริงตรงหน้า เขาพยายามทำความเข้าใจกับทุกคน เก็บความเจ็บปวดชอกช้ำไว้กับตัว หลังจากที่บิดาจากไป เขาก็แทบจะไม่มีสิทธิ์อะไรในบ้านตระกูลเหออีกต่อไป คนบ้านตระกูลเหอก็ถูกฮูหยินรองและน้องชายต่างมารดาของเขายึดครองไปหมดสิ้น ซ้ำยังไม่แบ่งสมบัติอะไรให้กับเขาแม้แต่ชิ้นเดียว“หึ ฮูหยินถาน ท่านเป็น
เหอซีซวนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเจ็บแค้นและโศกเศร้าของร่างเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่ ช่างน่าเศร้าที่คนผู้มีรักที่แสนจริงใจ จะถูกหลอกลวงและหักหลังได้เจ็บปวดเช่นนี้“ตระกูลเหอ ตระกูลถาน เซี่ยอ้ายเหม่ย พวกแกทำให้เหอซีซวนต้องตายสินะ”พวกแกจะต้องชดใช้กับความชั่วที่ทำลงไป“คุณชาย คุณชายฟื้นแล้ว ขอบคุณสวรรค์” เสียงเอะอะดังขึ้น ก่อนที่ชายชราผู้หนึ่งจะวิ่งเข้ามาที่เขาด้วยท่าทางแตกตื่น ชายชราท่าทางใจดีนั้นยิ้มกว้าง เมื่อเห็นหน้าทายาทตระกูลหลิว เขาทำท่าเหมือนอยากจะสัมผัสร่างกายของชายหนุ่มอยู่หลายครั้งแต่ก็ทำตัวไม่ถูก จนเหอซีซวนอดไม่ได้ที่จะรำคาญจึงจับมืออีกฝ่ายมาจับมือเขาเองจากนั้นก็มีคนอีกหลายคนวิ่งตามมาที่ห้อง ด้วยท่าทีร้อนรน“ท่านปู่ ท่านระวังหน่อยสิขอรับ หากท่านหน้ามืดจนล้มหัวฟาดพื้น พวกข้าจะทำยังไง” ชายหนุ่มท่าทางทะมัดทะแมงวัยใกล้เคียงกับเขา เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับประคองชายชราอย่างห่วงใย“ท่านพี่ ไม่ต้องห่วงท่านปู่หรอก ท่านดูจะแข็งแรงกว่าพวกเราด้วยซ้ำ ไปเป็นห่วงคุณชายคนนั้นเถอะ คุณชายผู้นี้เพิ่งฟื้นขึ้นมาไม่นานกลับขยับตัวไม่หยุด หากบาดแผลฉีกขาด จะทำอย่างไร” ผู้ที่เอ่ยเป็นชายเกอที่มือซ้ายจูงลูก มือขว
ไอ้ใบ้ในความทรงจำเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำ ท่าทางเซื่องซึมเชื่องช้า ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง มอมแมม เขารับมันมาเลี้ยงด้วยความสงสาร เห็นว่าสติไม่ดีและไม่มีที่ไป หลังจากรักษาให้อาการดีขึ้นก็นำตัวไปฝากให้พ่อบ้าน มอบหมายงานเป็นบ่าวในจวน ไอ้ใบ้นั้นไร้ชื่อแซ่ ไร้ที่มาที่ไป พวกเขาจึงเรียกมันแค่ชื่อว่าไอ้ใบ้อย่างไม่ใส่ใจนัก หน้าที่ประจำของมันก็ดูแลคอกม้าและช่วยบ่าวชายแบกหามเป็นครั้งคราว เพราะแม้สติปัญญาจะด้อย แต่ร่างกายของมันกลับแข็งแรงบึกบึนเหนือมนุษย์เวลานี้ไอ้ใบ้ต่างออกไป มันดูสะอาดสะอ้าน แววตาฉลาดเฉลียว กิริยาท่าทางสง่างาม ต่างจากบ่าวชายไร้การศึกษาทั่วไป ที่สำคัญคือ มันไม่ได้เป็นใบ้แล้ว มันพูดได้“ข้าก็คือบ่าวของท่านอย่างไรเล่า”“แต่เจ้าพูดได้แล้ว”“ย่อมเป็นเช่นนั้น ตอนที่ข้าต่อสู้กับคนของคุณหนูเซี่ย ข้าโดนพวกมันเอาไม้ฟาดเข้าที่หัว จู่ๆ ความทรงจำที่เคยลืมเลือนไปก็กลับคืนมา”“เจ้าจำได้แล้วหรือว่าตนเองเป็นใคร ดียิ่ง ต่อไปเจ้าก็จะได้กลับไปหาครอบครัว ลูกเมียคงรอเจ้าอยู่นานแล้ว” เหอซีซวนเอ่ยด้วยสีหน้ายินดี ทว่าไอ้ใบ้กลับยกยิ้มอ่อนราวกับบัณฑิต ก่อนจะเอ่ยตอบกลับมา“ข้าไม่มีลูกเมีย อยู่ตัวคนเดียว บัดน
ห้าปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในเมืองหลวงเมื่อห้าปีก่อน จวนตระกูลหลิวก็ปิดเงียบมาตลอด ฮ่องเต้เฉินเฟยหลงนั้นเหนื่อยใจไม่น้อยที่อุตส่าห์พาตัวทายาทตระกูลหลิวกลับมาอยู่ในเมืองหลวง แต่อีกฝ่ายก็ยังคงมีนิสัยเหมือนกับต้นตระกูล นั่นคือเกลียดความวุ่นวาย สิ่งที่หลิวซีซวนขอพระราชทานเป็นรางวัลจากเขาคือ การที่เขาสามารถอยู่เฉยๆ ได้ และปฏิเสธการเข้าพบคนจากราชสำนักหรือใครหน้าไหนก็ตามเขาจะต้องการอะไรอีกเล่า ในเมื่อยามนี้ได้สามีแล้ว เงินทองก็มีจนไม่รู้จะใช้ยังไงหมด ทรัพย์สมบัติในคลังสมบัติตระกูลหลิวก็ถูกเก็บไว้อย่างดีที่บ้านตระกูลหลิวที่เหิงเยว่โดยมีท่านตาตู้เฉิงเป็นผู้ดูแลด้านตู้เจาและตู้ลี่จูนั้นหลังจากเริ่มกิจการของตัวเอง ยามนี้ก็กลายเป็นร้านค้าชื่อดังที่มีหลายสาขา การงานการเงินมั่นคง ส่วนบุตรชายอย่างอาจ้านก็กำลังเตรียมสอบเข้าโรงเรียนหมอตามที่ตั้งใจไว้ หลิวซีซวนภูมิใจไม่น้อยที่คนข้างกายเขากำลังไปได้ดีกันทุกคน“กรี๊ดดดด อ๊ากกกกกกก”ยามนี้เสียงกรีดร้องกลับดังออกมาจากจวนตระกูลหลิวในเมืองหลวง บ่าวไพร่พากันวิ่งวุ่น ยามนี้สองจวนทุบกำแพงเข้าหากันจนกลายเป็นจวนขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นการเสริมบารมีให้หลิวซีซวนแ
“เจ้ารู้ข่าวของถานตงหยางแล้วใช่หรือไม่”“ตอนนั้น ข้าเห็นเขาจากในภาพนิมิตแล้ว สุดท้ายคนผู้นั้นก็ถูกฆ่าตายอย่างไร้ค่ายิ่งนัก”“แล้วเจ้า..ไม่เสียใจหรือ” เซวียนจางหย่งนั้นเป็นบุรุษใจกว้าง เขารู้ดีว่าเขากำลังแต่งให้กับคนงามที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว เขาตระหนักอยู่เสมอว่า แม้หลิวซีซวนจะเลิกรากับอีกฝ่ายไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เยื่อใย อย่างไรก็คนที่เคยอยู่กินกันมาหลายปี“ไม่หรอก เขาสมควรตายจริงๆ คนเช่นนั้นอย่างไรก็คิดไม่ได้ วันข้างหน้าย่อมต้องก่อการเลวร้ายอีกแน่ นับว่าความแค้นระหว่างข้าและเขาได้จบสิ้นในชาตินี้อย่างสมบูรณ์แล้ว” หลิวซีซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เรียกรอยยิ้มจากบุรุษรูปงามได้ไม่น้อยตัดเวรกันได้แล้วก็ดีชายหนุ่มก้าวเข้ามา ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้าสู่อ้อมกอดแนบชิดทั้งสองร่างจากทางด้านหลัง แก้มนวลขึ้นสีเล็กน้อยทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่ผ่านมาเหอซีซวนนั้นเป็นคนซุกซนชอบเรื่องสนุกสนาน แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็ซึมลงไปถนัดตาจนน่าเป็นห่วง เขานึกไปว่าอีกฝ่ายเสียอกเสียใจเรื่องอดีตสามีเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังมีบางเรื่องรบกวนจิตใจเกอคนงามอยู่“แล้วเมื่อกี้ เจ้ากำลั
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเมืองหลวง ก็ถึงเวลาแห่งการฟื้นฟู โชคดีที่นอกจากจัตุรัสกลางเมืองแล้ว ไม่มีสิ่งใดพังทลาย ทว่าก็มีชาวบ้านโดนลูกหลงจนบาดเจ็บเป็นจำนวนไม่น้อย จนฮ่องเต้ต้องประกาศเรียกตัวหมอตามเมืองต่างๆ ให้เร่งเข้ามาช่วยรักษาอาการให้ปลอดภัยสิ่งที่ทำให้ผู้คนนึกทึ่งในช่วงเวลาวิกฤตก็คือ องค์ชายห้าจอมเสเพลนั้น แท้จริงแล้วเป็นเจ้าของที่แท้จริงของห้องอาหารส่องดาว พระองค์นำอาหารจากห้องอาหารมาเปิดโรงทานแจกจ่ายให้กับผู้คนอย่างไม่รอช้า เหล่าองค์ชายคนอื่นก็ไม่น้อยหน้า เมื่อได้เวลาแสดงความสามารถก็ต่างพากันช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันอย่างเต็มกำลังสถานการณ์ในเมืองจึงกลับมาสู่สภาพปกติดังเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือกลุ่มขุนนางชั่ว งานนี้ความผิดประจักษ์เห็นต่อหน้า จวิ้นอ๋องกำเริบเสิบสาน ตั้งใจชิงบัลลังก์ถึงขั้นกล้าลงมือกับประชาชนโดยมีขุนนางหลายคนหนุนหลัง ฮ่องเต้แต่ไหนแต่ไรประนีประนอม ใจอ่อนให้จวิ้นอ๋องที่มีอำนาจฝั่งมารดาถ่วงดุลอยู่ไม่น้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายตายไปแล้ว เขาก็ไม่คิดจะยั้งมือกับพวกขุนนางทั้งหมดที่ร่วมก่อการในครั้งนี้หนึ่งในนั้นก็คือ เสนาบดีเซี่ยโม่โฉว วันนั้นเลี่ยงชิงและเลี่ยงหรงใ
“หลานรัก” เสียงเพรียกดังขึ้นมาแต่ไกล เขาหลับตาลง ก่อนจะพบว่าตนเองมาโผล่อยู่ในมิติส่วนตัวของตนอีกครั้งในที่นี้นั้นสงบเงียบและปลอดโปร่ง ต่างจากโลกแห่งความจริงที่เขากำลังเผชิญ ท่านตาหลิวหงชิงกำลังจิบชาร้อนด้วยท่าทางผ่อนคลาย ก่อนจะหันมายิ้มให้เขา“ท่านตา เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“ข้ารู้แล้ว เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา”“แต่ท่านตา ผู้คนกำลังจะตาย ข้าเองก็จะไม่ไหวแล้ว”“ชู่ หลานรัก ทำใจให้สบาย ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่า วันนี้เจ้าต้องมีสติให้มาก” หลิวหงชิงยกยิ้มอ่อนโยนให้กับหลานคนเดียว ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว ท่านตา แต่ข้าจัดการพวกมันไม่ได้ ข้าช่วยใครไม่ได้เลย”“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าทำดีแล้ว เด็กดี ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อให้มีชีวิตที่ดี ได้สร้างครอบครัวดั่งที่ใจปรารถนา ข้าไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ้าต้องรับศึกหนักเช่นนี้” ชายชราปลอบหลานชาย ก่อนจะเอ่ยต่อ“เวลาที่ผ่านมา ข้าติดอยู่ในมิติส่วนตัวนี้มานานเกินไปเหลือเกิน ยามนี้เหอซีซวนได้รับการปลดปล่อยแล้ว ตัวข้าที่เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยววิญญาณก็ควรถึงเวลาต้องไปแล้วเช่นกัน”“ท่านตา ท่านจะไปไหน ท่านไปแล้ว ข้าจะอยู่กับใคร” “เจ้าก็อยู่กับสามี
เขาจะทำอะไรได้ ยามนี้แค่ทรงตัวยืนอยู่ แล้วตั้งรับดาบที่เข้ามารอบทิศก็ลำบากมากแล้ว และก่อนที่เขาพลาดท่าก็มีใครบางคน ปรี่มาช่วยเขาเสียก่อน“คุณชายหลี่” ใช่แล้ว คือพ่อหนุ่มดวงมหาโชคคนดีคนเดิมนั่นเอง ดูจากฝีไม้ลายมือ เขาก็พอจะดูออกว่าคนผู้นี้นั้นไม่สันทัดเรื่องการใช้กำลังเท่าไหร่นัก ไม่แปลกใจที่ได้ทำงานสายผู้ตรวจการมากกว่าจะไปทางทหาร แบบเซวียนจางหย่ง“หลิวซีซวน เจ้าระวังตัวด้วย”“สามีข้าเป็นอย่างไรบ้าง”หลี่เฉียงฮุยถึงกับหันกลับมามองเขา ด้วยสายตาเหลือเชื่อ“เจ้าห่วงชีวิตสหายข้ามากกว่าชีวิตตนเองอีกหรือ รีบเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ข้าเองก็ไม่รู้จะช่วยเจ้าต้านไว้ได้มากเพียงใด”“คุณชายหลี่ ท่านช่วยหยุดโจวเฟิง มันจะจุดเทียนอีกครั้ง ค่ายกลชิงดวงจะกลับมาทำงานได้ใหม่” หลี่เฉียงฮุยมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที เขาสองคนถูกรุมล้อมรอบด้าน จนแทบจะเอาตัวไม่รอดเช่นนี้ จะทำอะไรได้“งั้นเอาเช่นนี้ก็แล้วกัน” หลี่เฉียงฮุยถือคติว่า อะไรทำได้ก็ให้ทำไปก่อน เขาดึงมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ออกมา ก่อนจะปาไปทางโจวเฟิงหวังปลิดชีพถึงจะปลิดชีพไม่ได้ แต่ทำลายสมาธิมันได้ก็ยังดีแต่ใครจะไปคาดคิดในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีดสั้นพ
หลิวซีซวนค่อยๆ ลุกขึ้นมาช้าๆ ด้วยแรงแค้นที่แน่นอก หากคนตกใจสามารถยกโอ่งหนีไฟไหม้ได้ คนที่กำลังโกรธก็น่าจะยกภูเขาได้ไม่ต่างกัน โดยที่ไม่มีใครคาดฝัน เกอคนงามร่างบางที่เมื่อครู่ยังซวนเซ กลับเดินไปยกแท่นพิธีที่หักครึ่งแล้วทุ่มไปทางโจวเฟิงอย่างไม่ออมมือตู้ม!!!โจวเฟิงนั้นแม้บาดเจ็บอยู่ แต่ประสาทสัมผัสยังคงเฉียบคม เขาจึงกระโดดหลบแท่นหินขนาดใหญ่ได้อย่างหวุดหวิด“นี่เจ้า”“หมาลอบกัด เจ้าแอบซ่อนอยู่ข้างกายข้าและจางหย่งมาตลอด” หลิวซีซวนตวาดดังลั่น เสียงสั่นด้วยความโมโห“แล้วอย่างไร บุรุษผู้นี้มันโง่เอง มันกล้าบุกเข้ามาสอบสวนข้าเพียงลำพัง ทั้งที่รู้ว่าข้านั้นเป็นหลวงจีนที่มีวิชาอาคม สุดท้ายมันก็ถูกข้าใช้วิชาสับเปลี่ยนวิญญาณ และปล่อยให้มันตายไปกับร่างเดิมของข้าในคุก ฮ่าๆๆ”“เจ้ามันสารเลว เพราะเจ้า ผู้คนถึงได้เดือดร้อน เจ้าไม่ได้ต้องการช่วยจวิ้นอ๋องให้ครองบัลลังก์ เจ้าก็แค่ต้องการละเลงเลือดทาแผ่นดินก็เท่านั้น เจ้ามันปีศาจชัดๆ ไม่ต้องพูดมาก เจ้าจะเป็นใครก็ช่าง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดไปได้แน่ กล้าทำร้ายคนของข้า เช่นนั้นเจ้าก็จงรับผลกรรม” หลิวซีซวนหยิบดาบขึ้นมาถือไว้พร้อมกับกระชับไว้แน่น พร้อมที่จะโ
ไต้ซือไป๋ในร่างของโจวเฟิงล้วงเข้าไปในปกเสื้อ ดึงเทียนทำพิธีสีแดงแท่งใหม่มาถือไว้อย่างหมายมาด เวลาเหลืออีกไม่มากนัก หากว่าเทียนเล่มเก่าดับ เช่นนั้นเขาก็จะจุดแท่งใหม่ด้วยตัวเองถึงอย่างไร เขาก็ต้องทำภารกิจวันนี้ให้สำเร็จให้ได้เขาควบม้ามุ่งหน้าเข้าไปใจกลางเมือง ถึงแม้เทียนจะดับ แต่หากเขาสามารถจุดเทียนสำรองนี้ได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วยามโดยที่เหยื่อบูชายัญทั้งสี่ทิศยังคงอยู่ที่เดิม ค่ายกลก็ยังกลับมาทำงานได้อีกครั้งไม่แน่ว่าป่านนี้ คนที่บุกไปทำลายพิธีอาจจะโดนทัณฑ์สวรรค์ผ่าร่างจนตายไปแล้วก็ได้โจวเฟิงมองออกไปไกลยังใจกลางเมือง ก็เห็นเมฆก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีอัสนีฟาดลงมาที่กลางเมืองจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนแผ่นดินสะเทือนเปรี้ยง!!สายฟ้าฟาดลงมากลางแท่นพิธีที่จัตุรัสกลางเมืองเก้าครั้งติดกันไม่หยุด วันนี้ที่เมืองหลวงนั้นเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เดี๋ยวมืดครึ้มเดี๋ยวสว่าง จู่ๆ ท้องฟ้านั้นกลับส่งสายฟ้าฟาดลงมา ท่ามกลางการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย“แฮ่กๆๆ รอดจริงๆ ด้วย” หลิวซีซวนที่ร่ายรำอยู่นาน สุดท้ายเขาก็สามารถเอาตัวรอดจากทัณฑ์สวรรค์ได้ เขามองไปรอบกายก็พบว่าจัตุรัสกลางเมืองนั้นเละ ไม่เหลือชิ้น
ในขณะพวกเขายังสู้กันต่อ แต่หลิวซีซวนกำลังตัวสั่นอยู่กลางพิธี ดวงตาสีทองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าแตกตื่นนี่เราลืมอะไรไปรึเปล่าอ๋อ เราลืมไปใช่หรือไม่ว่าหลังจากทำลายค่ายกลชิงดวงแล้ว จะได้รับทัณฑ์สวรรค์เป็นสายฟ้าฟาดเวรเอ๊ย กูจะโดนฟ้าผ่าอีกแล้วเหรอวะเนี่ย ครั้งที่แล้วโดนไปยังเกือบตายสักพัก เขากลับได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาจากภายใน เป็นเสียงของท่านตาที่คงอดทนไม่ไหว จึงแอบมาบอกเขา“ค่ายกลเทวาร่ายรำ” เขามองท้องฟ้าที่เริ่มมีเมฆตั้งเค้าอีกรอบด้วยความสยอง เวลานี้จำเป็นต้องงัดวิชาทุกวิชาของตระกูลหลิวออกมาเพื่อปกป้องตนเองเสียก่อน เทวาร่ายรำก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำเพื่อสร้างเกราะกำบังกายให้กับตนเองจะรออะไรล่ะ ร่ายรำไปเลยสิจ๊ะหลิวซีซวนขยับร่างกายไปพร้อมกับบริกรรมคาถาไปด้วย เขาต้องเรียกสติตนเองตลอดเวลาเพราะหาไม่แล้วอาจจะเผลอก่นด่าสวรรค์ไปแล้วหลายรอบ รอบกายของเกอคนงามเปล่งประกายสีทอง ราวกับแผ่ออกมาเพื่อเป็นเกราะกำบังภัย ตัวของเขาสั่นเทิ้มไม่หยุด กล้ามเนื้อถูกเคี่ยวกรำอย่างหนัก จนเริ่มรับพลังมหาศาลที่ไหลเวียนในกายไม่ไหว เขาไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ แต่เขาจะไม่ยอมโดนฟ้าผ่าตายอีกหนแน่ๆที่หน้าประตูเม
เซวียนจางหย่งถึงกับมีสีหน้ามืดครึ้ม ทัพของจวิ้นอ๋องและแม่ทัพหวงจะมีอะไรให้น่ากังวล ต่อให้พวกเขาบุกเข้ามาเวลานี้ ก็ไม่แน่ว่าจะมีชัยเหนือคนที่เหลือสิ่งที่น่ากลัวคือ ทัพของหยวนหลี่เฉียงต่างหาก คนผู้นั้นเด็ดขาดโหดเหี้ยม ไม่เคยแพ้ให้กับผู้ใด ไม่เคยมีใครคิดระแวงว่าเขาจะย้ายฝั่งไปสนับสนุนจวิ้นอ๋อง“ข้านี่โชคดีเหลือเกินที่เลือกออกเดินทางไปศึกษาวิชากับพวกหลวงจีนและนักพรตตามเมืองต่างๆ จึงได้รู้จักหลวงจีนที่เชี่ยวชาญวิชานอกรีตอย่างหาตัวจับได้ยาก เขาเก่งถึงขนาดที่สามารถสับเปลี่ยนดวงวิญญาณของตนเองกับผู้อื่นได้ เช่นนี้ข้าคงไม่เหลืออะไรให้กังวล แม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ยังต้องยอมสยบให้กับข้า หึหึ” จวิ้นอ๋องเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับมองสงครามกลางเมืองที่กำลังห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด แม้ว่ายามนี้จะมีกองกำลังน้อยกว่าแต่กลับได้เปรียบกว่าทหารหาญและราชองครักษ์ในที่นี้ เซวียนจางหย่งต้องต่อสู้ไปพร้อมกับเฝ้าสังเกตอาการของคนรักที่อยู่กลางแท่นพิธีเพียงลำพังหลิวซีซวนหวนคิดถึงท่านตา ถึงว่าเมื่อคืนถึงคอยกำชับให้เราตั้งสติ เพราะจะเกิดเรื่องแบบนี้นี่เอง ครั้งก่อนเขาเป็นผู้ที่ทำลายพิธีชิงดวงของหลี่เฉียงฮุยเพียงผู้เดียว ครา