แชร์

บทที่ 9  

ไป๋ซือหวงหัวเราะเสียงเย็นสองที ยกมือขึ้นแล้วโยนกล่องอาหารไปที่แม่ครัวที่ผัดอาหาร “ในเมื่อเป็นของดี งั้นข้าก็จะให้สุนัขรับใช้อย่างเจ้ากิน!”

อาหารเหลือดังกล่าวลอยกระจัดกระจายไปทั่ว แม่ครัวตกใจจนอ้าปากค้าง ทำให้เศษอาหารตกใส่ปากไปทันที

กลิ่นเหม็นเน่าของน้ำจากเศษอาหารทำให้นางรู้สึกอยากอาเจียน ทั้งยังถูกกล่องอาหารครอบหัว ล้มลงกับพื้นแล้วพยายามอาเจียนออกมาอย่างสุดชีวิต

“ช่วยด้วย! ฮูหยินทำร้ายคนแล้ว!”

ข้ารับใช้วิ่งวุ่นกันจ้าละหวั่น ไป๋ซือหวงจับคนที่โยนใบผักใส่นางและแม่ครัวที่ล้มอยู่ขึ้นมาเหมือนจับลูกเจี๊ยบก็ไม่ปาน

“ข้าคงจะให้เกียรติพวกเจ้าเกินไปแล้วสินะ ถึงได้กล้าดูหมิ่นเจ้านายเช่นนี้!”

ทั้งสองรู้สึกถึงแรงบีบที่รุนแรง พยายามดิ้นรนแต่กลับไร้ประโยชน์

ไป๋ซือหวงลากพวกเขาไปถึงถังขยะที่เก็บเศษอาหาร และน้ำของเศษอาหารที่เหลือ

ด้านบนยังมีน้ำแข็งสีดำเทาเกาะอยู่

ทั้งสองคนดูเหมือนรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ตะโกนออกมาด้วยความกลัว “ฮูหยิน บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ! บ่าวผิดไปแล้วจริงๆ!”

“ฮูหยิน...”

เสียงของพวกนางยังไม่ทันจบ หัวก็ถูกกดลงในถังเศษอาหาร น้ำแข็งถูกหัวของพวกนางโขกลงไปจนแตก กลิ่นเหม็นพุ่งเข้าปะทะใบหน้าทันที

เหมือนตกลงไปในส้วม

เศษอาหารทั้งเปียกทั้งแห้งทะลักเข้าปากและจมูกของพวกนาง

ไป๋ซือหวงรู้สึกสะอิดสะเอียน กดลงไปเพียงครู่เดียวก็ปล่อยมือ

แม่ครัวทั้งสองพยายามดึงหัวของตัวเองออกมา น้ำเศษอาหารเปียกไปทั่วทั้งตัว ใบผักเน่าเต็มหัว นั่งหมดแรงบนพื้น

พวกนางทั้งสองเหม่อลอยเหมือนคนโง่ มองดวงตาจิ้งจอกของไป๋ซือหวงที่มองเตือน ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว ไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ

คนรอบข้างยืนหลบรวมกันเป็นกลุ่ม กลัวว่าจะโดนร่างแหไปด้วย

พวกเขาได้ยินว่าฮูหยินเปลี่ยนไปเป็นคนที่น่ากลัวมาก แต่ไม่คิดว่าจะน่ากลัวถึงเพียงนี้!

ไป๋ซือหวงมองไปรอบๆ บนโต๊ะใหญ่มีทั้งเนื้อไก่เป็ดปลา กุ้งหอยของหายากเพียบพร้อม

“นั่นให้ผู้ใดกิน”

ข้ารับใช้ตัวสั่น ตอบกลับไป “ให้ ให้อนุเหลียนกับท่านแม่ทัพกินเจ้าค่ะ”

ไป๋ซือหวงนึกถึงอาหารเหลือของนาง แล้วดูอาหารหรูหราเหล่านั้นอีกครั้ง

ชายชั่วหญิงเลวคู่นี้ช่างน่าสะอิดสะเอียนเสียจริง

“เก็บไว้ให้ข้า ก่อนข้ากลับมา ผู้ใดแตะต้องข้าจะตีผู้นั้น!”

พูดจบ นางก็มองพวกเขาอย่างเย็นชา แล้วหันหลังจากไป

แม่ครัวพยักหน้า แล้วมองหน้ากันไปมา

อีกสองคนที่เหม็นเน่าบนพื้นยังคงคร่ำครวญ อยู่ในสภาพที่เละเทะ

ออกจากครัวใหญ่ ไป๋ซือหวงตรงไปที่เรือนเหลียนฮวาด้วยโทสะที่มากล้น นางอยากดูว่าดอกบัวขาวน้อยนางนั้นได้รับการปฏิบัติที่ดีเพียงใด

อีกอย่าง วันนี้ถ้าหากไม่ยอมเอาถ่านดี ๆ หลายพันชั่งออกมาให้ นางจะตบปากให้เบี้ยวเลย!

จากความทรงจำที่เลือนรางของเจ้าของร่างเดิม ในที่สุดนางก็มองเห็นเรือนที่หรูหราหลังนั้น

เสาไม้จันทน์แกะสลักลายด้วยความประณีต กระเบื้องแดงอิฐเขียว ดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

คิดถึงเรือนของตัวเองที่แม้จะใหญ่ แต่กลับเก่าและทรุดโทรม เกือบจะเหมือนกับค่ายที่พักพิงของผู้ลี้ภัย

ไป๋ซือหวงยิ่งมีโทสะมากกว่าเดิม

เมื่อข้ารับใช้ที่เรือนเห็นใบหน้าดุร้ายของนาง ก็กลัวจนไม่กล้าเข้ามาขวาง

ไป๋ซือหวงเดินมาถึงหน้าห้องของไป๋หว่านเหลียนอย่างไม่มีอุปสรรคใด ระหว่างทางบ่าวไพร่ต่างก็หลีกทาง เกรงว่าจะโดนทำร้าย

เซียงซิ่งสวมชุดผ้าไหมหนาๆ เพิ่งจะถือยามาจากครัวเล็ก เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ก็ขบกัดฟันจนแทบจะแตกร้าว

“ใครให้พวกเจ้าปล่อยนางเข้ามา! อยากให้อนุเหลียนถูกฆ่าหรือไรกัน?”

นางตะโกนตำหนิด้วยเสียงที่เย็นชา แต่กลับไม่มีผู้ใดขานรับ

ไป๋ซือหวงหยุดเดิน มองไปที่นาง นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

นางก็คือน้องสาวของสาวใช้ที่ถูกตีตาย เซียงซิ่ง

เมื่อรู้สึกถึงสายตาของไป๋ซือหวง เซียงซิ่งที่ถูกความเกลียดชังครอบงำ พูดออกมาโดยไม่คิดก่อน “รีบไสหัวออกไป ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า!”

เพราะนังแพศยาคนนี้ พี่สาวของนางถึงถูกตีจนตาย!

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดกับผู้ใด?” น้ำเสียงของไป๋ซือหวงเยือกเย็นขึ้นมากกว่าเดิม

“แน่นอนว่าข้ารู้ กำลังพูดกับนังป่าเถื่อนอย่างเจ้าไงเล่า หากไม่ใช่เพราะเจ้า พี่สาวของข้าก็คงยังมีชีวิตที่ดีอยู่”

พูดจบ นางก็เหมือนคนบ้า เอายาบำรุงที่กำลังร้อน ๆ ในมือสาดใส่ไป๋ซือหวง

ไอน้ำกับความหนาวปะทะกัน เกิดหมอกขาว

หากยาร้อนดังกล่าวสาดใส่หน้า ไม่ตายก็หลังถลอก

นางรู้สึกได้ใจอย่างยิ่ง แต่กลับเห็นว่าไป๋ซือหวงหลบได้อย่างง่ายดาย ยาร้อนราดบนหิมะ เกิดเสียงซ่าขึ้นมา

สายตาของไป๋ซือหวงมองไปยังผ้าไหมที่เซียงซิ่งสวมอยู่ มุมปากยกยิ้มเยาะขึ้นมา

เจ้าของร่างเดิมเป็นถึงแม่ทัพฮูหยิน บุตรีสายตรงของท่านอ๋อง มีฐานันดรที่สูงส่งถึงสองอย่าง แต่กลับแต่งตัวสู้สาวใช้ของอนุภรรยาไม่ได้

ช่างน่าสมเพชเสียจริง

“เซียงซิ่งทำร้ายผู้เป็นนาย ทั้งยังขโมยเสื้อผ้าของผู้เป็นนายมาใส่ พวกเจ้าไปถอดเสื้อคลุมของนางออก ให้คุกเข่าอยู่บนพื้นหนึ่งชั่วยาม เพื่อเป็นการลงโทษ”

ไป๋ซือหวงขยับริมฝีปากแดงพูดออกมาเสียงเบา แล้วชี้คนที่ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัวที่มุมมุมหนึ่ง

เซียงซิ่งหาได้สนใจไม่ “คนอย่างเจ้ายังคิดจะสั่งการคนในเรือนเหลียนฮวาอีกหรือ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นฮูหยินจริงๆ หรือ?”

ไป๋ซือหวงหาได้โกรธไม่ แต่กลับหัวเราะออกมาเสียงเบา “ดูเหมือนพวกเจ้าจะลืมชะตากรรมของดอกบัวขาวไปแล้ว เช่นนั้นจะให้ข้าจะสาธิตให้ดูอีกครั้งดีหรือไม่?”

นางมองคนเหล่านั้นอย่างเย็นชา ข้ารับใช้เหล่านั้นก็พลันหวาดกลัว หากพวกเขาถูกทุบตีก็จะไม่มีผู้ใดสงสาร

ด้วยเหตุนี้จึงรีบพุ่งเข้าไป “ขอโทษด้วย พี่เซียงซิ่ง!”

พูดจบ ก็เริ่มถอดเสื้อของนางออก

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status