แชร์

บทที่ 17

"พวกเราอยู่ในตงโยวของแผ่นดินใหญ่เฉินอวี่ กับแคว้นหนานฮวง ซีปั๋ว เป่ยยวน สามแคว้นที่เหลือ"

"เป่ยยวนมีกำลังแคว้นแข็งแกร่งที่สุด ส่วนอีกสามแคว้นเท่าเทียมกัน ผู้ใดก็เอาชนะผู้ใดไม่ได้"

"กษัตริย์เป่ยหยวนโหดร้าย ชอบรุกรานแคว้นอื่น ๆ เป็นที่สุด เป็นศัตรูกับทุกแคว้น เมื่อหลายสิบปีก่อนเกือบจะทำลายตงโยวของเรา โชคดีที่มีอิทธิพลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ทำให้พวกเขาไม่กล้ารุกรานตงโยว"

"อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นตงโยวก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้วน่ะสิ มีพันธมิตรหรือไม่?"

ไป๋ซือหวงพูดเรื่องใหญ่ของแคว้น แต่ในใจกลับสนใจเรื่องของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการที่คอยค้ำจุนแคว้นขึ้นมา

"แน่นอนว่ามี ซีปั๋วกับพวกเราเป็นพันธมิตรกัน พวกเขายังส่งองค์หญิงมาแต่งงาน ก็คือพระชายาซูในปัจจุบัน"

"ส่วนหนานฮวงนั้น เป็นสถานที่ที่คนพูดถึงค่อนข้างน้อย บ่าวเองก็ไม่ค่อยรู้จักสักเท่าใด"

ไป๋ซือหวงพยักหน้า ในหัวมีภาพโดยรวมของโลกใบนี้ผุดขึ้นมาบ้างแล้ว

จู่ ๆ นางก็พลันคิดอะไรบางอย่าง จึงไถ่ถามเรื่องครอบครัวขึ้นมา "แล้วเซียวป๋อฉิงล่ะ เหตุใดไม่เคยเห็นเขาออกรบ? แล้วเขาเป็นแม่ทัพได้อย่างไรกัน?"

พูดถึงแม่ทัพ ใบหน้าของกว่าอีเปี่ยมไปด้วยความเคารพ เขาตบต้นขาใหญ่ของตัวเอง

"ท่านแม่ทัพเซียวเป็นตระกูลที่ซื่อสัตย์! อดีตแม่ทัพเซียวกับอดีตเซียวฮูหยินเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เก่งกาจไร้พ่าย ปกป้องตงโยวมาหลายสิบปี!"

"แต่...ในการออกรบขนาดเล็กครั้งหนึ่ง พวกเขากลับพ่ายแพ้ทั้งหมด ตอนนั้นท่านแม่ทัพยังเด็ก ไม่มีบิดามารดา ถูกคนรังแกจนเติบโตขึ้นมา"

"ต่อมาฮ่องเต้ก็ได้ให้ตำแหน่งแม่ทัพเพื่อปลอบโยนลูกหลานของวีรบุรุษ เพราะเหตุนี้ ผู้คนเลยพากันดูถูกเขา คิดว่าเขาอาศัยร่มเงาของบารมีชื่อเสียงพ่อแม่"

"แต่ตอนนี้สงครามสงบแล้ว แม่ทัพหาทางสร้างผลงานไม่ได้ ความปรารถนาของเขาจึงเป็นการฟื้นฟูเกียรติยศของตระกูลเซียว"

"ส่วนบ่าวนั้น เป็นคนที่แม่ทัพเจอตอนที่ปราบโจรในชนบท ซึ่งท่านลุงฝูก็เป็นคนที่พาบ่าวติดตามท่านแม่ทัพ แม่ทัพเป็นคนยุติธรรม ไม่เคยรังแกผู้ใด เป็นบุรุษที่ดีที่สุดที่บ่าวเคยพบ"

กว่าอีพูดอย่างตื่นเต้น กำมือแนบหน้าด้วยความชื่นชมที่เปี่ยมล้น

ไป๋ซือหวงไม่เห็นด้วย ผู้ชายคนนั้นอาจจะซื่อตรงก็จริง แต่เขากลับไม่มีทางไถ่โทษที่เคยทำกับเจ้าของร่างเดิมได้

"เมื่อครู่เจ้าบอกว่าฮ่องเต้สนับสนุนชายชั่วคนนั้น เช่นนั้นก็หมายความว่าพระองค์ให้ความสำคัญกับเขามากใช่หรือไม่?"

พูดจบ กว่าอีกลับมีสีหน้าที่คิดหนัก

"ตรงกันข้าม แม้ว่าฮ่องเต้ประทานตำแหน่งนี้ให้ แต่กลับไม่ให้โอกาสพัฒนา มีตำแหน่งสูงส่ง แต่เหมือนทำให้นายท่านถูกย่างบนเตาไฟ"

"จริงๆ แล้ว ท่านแม่ทัพรู้ว่าฮ่องเต้ไม่จริงใจต่อตัวเอง แต่ตอนนี้เขาต้องการบันไดขั้นนี้ เผื่อว่าในภายภาคหน้าจะมีโอกาสอะไรบ้าง" กว่าอีแสดงสีหน้าที่ที่กลัดกลุ้มขึ้นมา

"ข้ารู้แล้ว วันนี้ขอบใจเจ้ามาก"

ไป๋ซือหวงแย้มยิ้มบาง พร้อมทั้งครุ่นคิดบางสิ่งในใจ

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม หลังจากฮ่องเต้ให้นางกับเซียวป๋อฉิงแต่งงานกัน ก็ยังแอบพบนางเป็นการส่วนตัว

เขาให้น้ำตาลหลอกนาง ให้นางเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเซียวป๋อฉิง เจ้าของร่างเดิมโง่เขลาจริง ทุกครั้งที่พบฮ่องเต้ก็มักพูดจากันไม่รู้เรื่อง

ฮ่องเต้ก็เลยไม่สนใจเรื่องนี้อีก

แล้วภาพแปลก ๆ ก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัวของไป๋ซือหวง หนึ่งเดือนก่อนที่เจ้าของร่างเดิมจะแต่งงานกับเซียวป๋อฉิง การพบฮ่องเต้ครั้งสุดท้าย เขามองท้องของเจ้าของร่างเดิม แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

หรือเป็นเพราะว่า เขารู้เรื่องที่เจ้าของร่างเดิมตั้งครรภ์?

หากเขารู้แล้วยังให้เจ้าของร่างเดิมแต่งงานกับเซียวป๋อฉิง เช่นนั้นก็หมายความว่าอยากจะให้เขารู้สึกรังเกียจอย่างที่สุด

แผนนี้ช่างลึกซึ้งเสียจริง...

ดูเหมือนว่า เขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเซียวป๋อฉิงเท่าใด

ถึงขั้นที่ทั้งรังเกียจทั้งยังต้องใช้ประโยชน์

ต่อหน้าอย่างหนึ่ง ลับหลังอย่างหนึ่ง

หลังจากได้เสวนา ไป๋ซือหวงก็เชิญกว่าอีกินข้าวอย่างใจดี

จากนั้นนางกับเสี่ยวหลางก็มองดูจานบนโต๊ะที่มันเรียงกันสูงขึ้นเรื่อยๆ

"ฮูหยินท่านทำอาหารอร่อยเกินไปแล้วขอรับ! พรุ่งนี้บ่าวมาอีกได้หรือไม่!"

กว่าอีจับท้องที่พองโตขึ้นมา ก่อนจะเรอออกมาเสียงดังลั่น

"พรุ่งนี้ข้ามีธุระ..."

ไป๋ซือหวงรีบปฏิเสธโดยเร็ว หากให้เขามาอีกสักสองสามครั้ง เกรงว่านางกับเสี่ยวหลางคงต้องไปเป็นขอทานแล้ว

หลังจากกว่าอีจากไป เวลาก็ล่วงเลยมาถึงกลางคืน เสี่ยวหลางยังเล็ก จึงหลับสนิทไปแล้ว

ไป๋ซือหวงนอนอยู่บนเตียง แต่ในหัวกลับมากไปด้วยความคิด

สองสามวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ยังไม่มีโอกาสไปซื้อยามารักษาใบหน้า

อีกสองสามวันนางจะถือโอกาสออกไปเดินเล่น นอกจากซื้อยาแล้ว ยังจะไปซื้อของกินให้เสี่ยวหลางด้วย

คิดไปคิดมา นางก็หลับลึกสู่ห้วงแห่งความฝัน

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status