แชร์

บทที่ 16

ทั้งสองเรือนนั้นเหม็นโฉ่ แต่เรือนซีอู๋ที่ได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็วโดยกว่าอีนั้น เปลี่ยนเป็นใหม่เอี่ยมอ่องแล้ว

เสี่ยวหลางมองเรือนที่กว้างใหญ่ตรงหน้า รู้สึกไม่กล้าเดินเข้าไปเล็กน้อย

ไป๋ซือหวงจับมือเล็กอ้วนของเขา ยิ้มอย่างสบายใจ "ไปกัน ต่อจากนี้นี่จะเป็นเรือนใหม่ของเราแล้ว"

ดวงตาสีฟ้าของเสี่ยวหลางส่องประกาย เขาพยักหน้า

ที่ใดมีแม่ ที่นั่นก็คือบ้าน

ภายในห้อง ถ่านไฟชั้นดีแผ่ความอบอุ่นและให้แสงสว่าง แม่ลูกสองคนมุดตัวเข้าไปนอนอยู่ในผ้าห่มผืนหนาหลังจากอาบน้ำจนหอมฉุยแล้ว

ฉากกั้นลมและมุ้งล้วนแต่สวยสดงดงาม ของตกแต่งก็มีอยู่ครบครัน

ไป๋ซือหวงนอนอยู่บนเตียง ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัว

ตอนนี้ยังไม่สามารถแยกทางได้ชั่วคราว หากต้องการอยู่รอดในจวนแห่งนี้ต่อไป ก็ต้องมั่นใจก่อนว่าคนในเรือนเชื่อถือได้ ไม่ให้ไป๋หว่านเหลียนยื่นมือสกปรกเข้ามายุ่งเกี่ยวได้

ดูเหมือนว่านางยังต้องหาคนที่รู้ใจและไว้ใจได้มาเป็นผู้ช่วยถึงจะดี

ราตรีนี้ นอนหลับสบาย

……

เที่ยงวันถัดมา เซียวป๋อฉิงฝันว่าตนเองไปห้องน้ำอีกครั้ง ทำให้เขาพลันตกใจตื่นขึ้นมา

สิ่งที่รับกับใบหน้าก็คือแสงแดดจ้าที่ส่องเข้ามา แต่ใบหน้าของเขากลับซีดเหมือนกระดาษ รีบลุกขึ้นจากเตียง สวมเสื้อผ้าลวกๆ แล้วไปค่ายทหาร

ช่วงนี้มีมักมีหมาป่าปรากฏตัวแถบชานเมืองหลวง วันก่อนฮ่องเต้ได้กล่าวอย่างเข้มงวดในที่ประชุมราชสำนัก ให้เขาไปค่ายทหารแล้วพาทหารนำนวนหนึ่งออกไปจับหมาป่าวันนี้

เวลานี้แล้ว แม้แต่หมาป่าก็คงจะกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว!

คงไม่พ้นโดนฮ่องเต้ตำหนิอีกเป็นแน่

ในค่ายทหาร ทหารทั้งหลายรอคอยมาทั้งเช้า ในที่สุดก็เห็นเงาที่ดูทุลักทุเลนั้น

"ที่แท้ท่านแม่ทัพก็ยังรู้ว่าต้องมาสินะ พวกเรานึกว่าท่านติดอยู่ในอ้อมอกภรรยาไม่ยอมออกมาแล้ว!"

ทหารเก่าแก่คนหนึ่งพูดเสียดสี

คนอื่นก็พากันสนับสนุน "ใช่แล้ว แม่ทัพหนุ่มไม่รู้จักวินัยเอาเสียเลย"

"หรือว่าหมาป่านั่นยังจะรอเขาอยู่อีก"

"ดูสิ กางเกงยังใส่ไม่เรียบร้อยเลย"

เซียวป๋อฉิงฟังเสียงเย้ยหยันที่ไร้ซึ่งการปิดบังก็รู้สึกโกรธในใจ แต่เรื่องนี้เขาก็เป็นคนผิดจริง

"ข้าจะไปขอรับโทษจากฮ่องเต้ในภายหลัง ขอให้ทุกท่านรีบไปจับหมาป่ากับข้าก่อน"

ทุกคนเห็นว่าเขามีท่าทีที่ไม่เลว จึงยอมรับอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไร

กลุ่มคนกุลีกุจอไปยังที่ที่หมาป่าปรากฏตัว แต่ค้นหาทั้งวัน หาจนพระอาทิตย์ตกดิน ก็ยังไม่พบแม้แต่ขนหมาป่าด้วยซ้ำไป

เซียวป๋อฉิงกำลังกลัดกลุ้ม เหล่าทหารก็เริ่มบ่นขึ้นมาอีก

"หากมาเร็วกว่านี้ หมาป่าคงไม่หนีไปหมด"

"ต้องขอบคุณท่านแม่ทัพเซียวแล้ว คราวหลังหากไปรบเราก็ไปสายบ้าง"

เสียงประชดประชันเหล่านั้น เซียวป๋อฉิงไม่ได้เก็บมาใส่ใจแต่อย่างใด

เขาเพียงแค่สงสัยว่าหมาป่าหนีไปแล้วหรือถูกจับไปกันแน่?

หากว่าออกมาทำร้ายคนอีกจะทำอย่างไรดี

ในขณะเดียวกัน ที่ก้นบึ้งของคูเมือง

วังน้ำแข็งที่ไอเย็นแผ่กระจาย โครงสร้างสลับซับซ้อน ทั้งยังโปร่งแสงตั้งตระหง่าน

กำแพงน้ำแข็งหนาและไม่มีร่องรอยของการละลาย อีกทั้งภายในวังน้ำแข็งก็ยังกันไม่ให้น้ำไหลเข้า

ป้ายที่ทำจากน้ำแข็งมีตัวอักษรสามตัวที่แข็งแรงและทรงพลังว่า วังหานเชี่ยว

เงาร่างสีม่วงเข้มพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างกายเขาแผ่ความเย็นที่อุณหภูมิต่ำเสียยิ่งกว่าน้ำในแม่น้ำ

มั่วเฉินซางเดินไปยังส่วนลึกของวังน้ำแข็ง มองดูภาพตรงหน้า ดวงตาที่ชั่วร้ายดั่งหมึกยิ่งยากจะหยั่งถึงมากกว่าเดิม

หมาป่าที่ดุร้ายทั้งสิบกว่าตัวถูกขังเอาไว้ในกรง พวกมันพยายามออกแรงพุ่งชนอย่างเต็มที่ ต้องการออกจากพันธนาการ

เขี้ยวดุร้ายหยดน้ำลายสีเขียว ดวงตาส่องแสงสีแดงสด

สายตาเขากวาดผ่านพวกมันอย่างรวดเร็ว แววตาแฝงไว้ด้วยความเศร้า

ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือพวกมันได้

ด้านนอกกรงขัง เผ่าอสูรครึ่งคนครึ่งหมาป่าหลายตัวกำลังร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

"เกิดอะไรขึ้น? พวกเขากินยาแล้วไม่ใช่หรือ?"

เขาเอ่ยถามด้วยเสียงที่เยือกเย็น

เงาขององครักษ์ในชุดสีดำรีบคุกเข่า "เรียนนายท่าน เป็นเพราะสายเลือดของพวกเขาระเบิดรุนแรงเกินไป ยาที่เราทำเพื่อสยบสายเลือดใช้ไม่ได้ผลขอรับ"

เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของผู้ร่วมเผ่าพันธุ์ มั่วเฉินซางอดกลั้นไม่ไหว ก้าวไปข้างหน้า ฝ่ามือกลายเป็นกรงเล็บ ปล่อยพลังภายในที่น่าสะพรึงกลัวออกมา สยบทั้งสองคนที่กำลังจะกลายเป็นสัตว์

พวกเขาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเปลี่ยนแปลงบิดเบี้ยวภายใต้การระเบิดของสายเลือดและพลังภายใน บางครั้งเป็นหมาป่าบางครั้งเป็นคน

"นายท่าน ข้าจะรับแทนท่านสักครู่ก็แล้วกันขอรับ แม้แต่สายเลือดของท่านก็กำลังจะระเบิดแล้ว"

"ในร่างกายท่านยังมีพิษอยู่ หากระเบิดออกมาก็จะไม่สามารถควบคุมได้อีก แล้วก็จะกลายเป็นสัตว์เช่นกัน!"

เสี่ยวปารีบเดินขึ้นหน้า ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

เขามองหมาป่าที่ป่าคลั่งเหล่านั้น หัวใจก็ยิ่งเศร้าหมอง

พวกนั้นล้วนแต่เป็นคนของเผ่าหมาป่าสีเงินของพวกเขา ล้วนเป็นพวกจิ้งจอกแดงจากเป่ยยวน จับพวกเขามาเพื่อทำยาหลีซิน

ทำให้พวกเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ กลายเป็นสัตว์ร้าย

"พวกเขาเริ่มกลายเป็นสัตว์ ข้าพยายามสยบเอาไว้ อาจจะพอมีโอกาสช่วยเหลือได้บ้าง แต่หากแม้แต่ข้าก็ละทิ้งพวกเขา พวกเขาก็จะไม่มีทางรอดอย่างแท้จริง"

ริมฝีปากแดงบางของมั่วเฉินซางขยับเบา ๆ พลังภายในหลั่งไหลออกมาจากฝ่ามือ เลือดลมพลุ่งพล่านแปรปรวน แรงลมรอบตัวทำให้ผมยาวสีเงินของเขาปลิวไสว ทำให้ใบหน้าที่เยือกเย็นของเขายิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม

ร่างกายอนุมานพลังอันเย็นเยียบ แสดงถึงความไม่ย่อท้อ

"ไม่ต้องห่วงข้า กลับไปที่เผ่าแล้วไปหาแม่เฒ่าหยินฮวา ให้นางรีบทำยาถอนพิษ ไม่เช่นนั้นสายเลือดของพวกเขาจะระเบิดอีกครั้ง แล้วกลายเป็นสัตว์ร้าย"

เสี่ยวปามีสีหน้าคิดหนัก มองผู้เป็นนายท่านด้วยความเคารพ "ขอรับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"

พูดจบ เขาก็หมุนกายออกจากวังหานเชี่ยวไปอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้ ที่จวนแม่ทัพฝู่กั๋ว ภายในเรือนซีอู๋

ไป๋ซือหวงนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้อย่างสบายใจ ฟังกว่าอีบรรยายถึงสภาพที่น่าสังเวชของดอกบัวขาวเมื่อคืน

"ฮูหยิน ได้ยินว่าตอนที่นางถูกลากออกไปทำความสะอาด บนพื้นก็..." ใบหน้าของชายร่างใหญ่อย่างกว่าอีเต็มไปด้วยความสะอิดสะเอียน

"หยุด!"

ไป๋ซือหวงรีบห้าม ไม่ว่าจะพูดอย่างไรต่อไป นางก็คงไม่มีแม้กะจิตกะใจจะกินของหวานต่อไปแล้ว

เสี่ยวหลางเชื่อฟังอย่างยิ่ง ยิ่งได้ฟังแม่บอกว่าอาบแดดจะทำให้สูงขึ้น ตอนนี้ก็ยังคงปิดตา แล้วยืนอยู่ใต้แสงแดดไม่ขยับ

ไป๋ซือหวงมองเด็กน้อยที่น่ารัก ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนฝันไป

จู่ ๆ นางก็พลันมาโผล่ที่โลกนี้ แปลกประหลาดยิ่งนัก

มองชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ตรงหน้า นางคิดอะไรขึ้นได้บางอย่าง "กว่าอี ช่วยบอกข้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแคว้นเรากับแคว้นอื่นหน่อยสิ"

ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมแค่พูดถึงตงโยวอย่างคลุมเครือเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่านางอยู่ในแคว้นที่เรียกว่าตงโยว

"ได้ขอรับ!"

กว่าอีแม้จะสงสัยว่าเหตุใดฮูหยินถึงถามเรื่องนี้ แต่พอนึกถึงเรื่องที่ว่านางเพิ่งฟื้นจากความโง่เขลา ก็ถือว่าอธิบายได้

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status