ทั้งสองเรือนนั้นเหม็นโฉ่ แต่เรือนซีอู๋ที่ได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็วโดยกว่าอีนั้น เปลี่ยนเป็นใหม่เอี่ยมอ่องแล้วเสี่ยวหลางมองเรือนที่กว้างใหญ่ตรงหน้า รู้สึกไม่กล้าเดินเข้าไปเล็กน้อยไป๋ซือหวงจับมือเล็กอ้วนของเขา ยิ้มอย่างสบายใจ "ไปกัน ต่อจากนี้นี่จะเป็นเรือนใหม่ของเราแล้ว"ดวงตาสีฟ้าของเสี่ยวหลางส่องประกาย เขาพยักหน้าที่ใดมีแม่ ที่นั่นก็คือบ้านภายในห้อง ถ่านไฟชั้นดีแผ่ความอบอุ่นและให้แสงสว่าง แม่ลูกสองคนมุดตัวเข้าไปนอนอยู่ในผ้าห่มผืนหนาหลังจากอาบน้ำจนหอมฉุยแล้วฉากกั้นลมและมุ้งล้วนแต่สวยสดงดงาม ของตกแต่งก็มีอยู่ครบครันไป๋ซือหวงนอนอยู่บนเตียง ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวตอนนี้ยังไม่สามารถแยกทางได้ชั่วคราว หากต้องการอยู่รอดในจวนแห่งนี้ต่อไป ก็ต้องมั่นใจก่อนว่าคนในเรือนเชื่อถือได้ ไม่ให้ไป๋หว่านเหลียนยื่นมือสกปรกเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ดูเหมือนว่านางยังต้องหาคนที่รู้ใจและไว้ใจได้มาเป็นผู้ช่วยถึงจะดีราตรีนี้ นอนหลับสบาย……เที่ยงวันถัดมา เซียวป๋อฉิงฝันว่าตนเองไปห้องน้ำอีกครั้ง ทำให้เขาพลันตกใจตื่นขึ้นมาสิ่งที่รับกับใบหน้าก็คือแสงแดดจ้าที่ส่องเข้ามา แต่ใบหน้าของเขากลับซีดเหมื
"พวกเราอยู่ในตงโยวของแผ่นดินใหญ่เฉินอวี่ กับแคว้นหนานฮวง ซีปั๋ว เป่ยยวน สามแคว้นที่เหลือ""เป่ยยวนมีกำลังแคว้นแข็งแกร่งที่สุด ส่วนอีกสามแคว้นเท่าเทียมกัน ผู้ใดก็เอาชนะผู้ใดไม่ได้""กษัตริย์เป่ยหยวนโหดร้าย ชอบรุกรานแคว้นอื่น ๆ เป็นที่สุด เป็นศัตรูกับทุกแคว้น เมื่อหลายสิบปีก่อนเกือบจะทำลายตงโยวของเรา โชคดีที่มีอิทธิพลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ทำให้พวกเขาไม่กล้ารุกรานตงโยว""อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นตงโยวก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้วน่ะสิ มีพันธมิตรหรือไม่?"ไป๋ซือหวงพูดเรื่องใหญ่ของแคว้น แต่ในใจกลับสนใจเรื่องของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการที่คอยค้ำจุนแคว้นขึ้นมา"แน่นอนว่ามี ซีปั๋วกับพวกเราเป็นพันธมิตรกัน พวกเขายังส่งองค์หญิงมาแต่งงาน ก็คือพระชายาซูในปัจจุบัน""ส่วนหนานฮวงนั้น เป็นสถานที่ที่คนพูดถึงค่อนข้างน้อย บ่าวเองก็ไม่ค่อยรู้จักสักเท่าใด"ไป๋ซือหวงพยักหน้า ในหัวมีภาพโดยรวมของโลกใบนี้ผุดขึ้นมาบ้างแล้วจู่ ๆ นางก็พลันคิดอะไรบางอย่าง จึงไถ่ถามเรื่องครอบครัวขึ้นมา "แล้วเซียวป๋อฉิงล่ะ เหตุใดไม่เคยเห็นเขาออกรบ? แล้วเขาเป็นแม่ทัพได้อย่างไรกัน?"พูดถึงแม่ทัพ ใบหน้าของกว่าอีเปี่ยมไปด
เวลานี้เป็นช่วงต้นฤดูวสันต์ของเดือนสามไป๋ซือหวงมายังโลกนี้ก็ได้ครึ่งเดือนแล้วนางสวมชุดกระโปรงผ้าบางพลิ้วสีแดง ปิดด้วยผ้าคลุมหน้า หนีออกจากรูสุนัขลอดของเรือนชีอู๋ วางแผนจะไปซื้อวัตถุดิบยาสักเล็กน้อยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก มาถึงถนนฉางอันอันรุ่งเรืองมีผู้คนและร้านค้ามากมายบนถนน เสียงร้องเร่ขายไม่ขาดสายสำหรับนางที่เป็นผู้ข้ามภพ มันเหมือนกับได้เข้าไปในอุทยานต้ากวน ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็แปลกใหม่เช่นนั้นนางเดินเข้าออกตามร้านแต่ละร้านไม่หยุด ในไม่ช้าก็ซื้อสมุนไพรที่จำเป็นและเสื้อผ้าของเสี่ยวหลางจนครบ เมื่อนางผ่านแผงขายน้ำชา เสียงพูดคุยของชาวบ้านก็ได้ดึงดูดความสนใจของนาง"สวรรค์มีตา ตราบใดที่ตงโยวยังมีท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ชีวิตความเป็นอยู่ของเราก็จะค่อยๆ ดีขึ้น"“ได้ยินมาว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการอายุยี่สิบสองปีแล้ว และไม่เคยทรงอภิเษกสมรสด้วย? เมียข้าเอาแต่พูดว่าจะแนะนำพระชายาให้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการอยู่ตลอด!”“อย่าพูดไปเรื่อย ผู้สูงศักดิ์อย่างท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ เกรงว่ามีเพียงองค์หญิงใหญ่โหรวซูเท่านั้นที่จะเทียบเคียงท่านได้”ไป๋ซือหวงฟังเรื่องซุบซิบสักพัก ทำให้ก็ยิ่งสงสัย
ไป๋ซือหวงกำหมัดแน่น ผ้าคลุมหน้าสีแดงปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งของนาง ดวงตาจิ้งจอกเย้ายวนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่านางได้เห็นเสือที่มีบาดแผลมากมายผ่านฝูงชนในเมื่อครู่นี้ ไม่เพียงแต่มีบาดแผลใหม่ แต่เท้าซ้ายของมันก็ยังพิการเล็กน้อยเช่นกันสัตว์ในกรงใหญ่เหล่านั้นต่างก็ได้รับบาดเจ็บทั้งมากและน้อยคนเหล่านี้ใช้สัตว์เป็นเครื่องมือในการหาเงินก็มากพอแล้ว แต่ก็ยังข่มเหงพวกมันแบบนี้ ไร้สำนึกจริงๆ!ไป๋ซือหวงไม่สนใจชายที่กรีดร้องด้านข้าง นางเดินตรงไปหาเสือแล้วลูบหัวของมันเบาๆเมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ต่างก็ถอยกลับ โดยคิดว่าสตรีผู้นี้ต้องเสียสติแล้วเป็นแน่ นางจะต้องถูกกัดตายในไม่ช้าแม้แต่เฉียนซานก็ถอยหลังไปสองสามก้าว ไม่กล้าเข้าใกล้หญิงสาวคนนี้กล้าเกินไปแล้ว สัตว์ป่าตัวนี้เพิ่งถูกจับมาจากภูเขาไม่นานมานี้ ไม่ได้รับการฝึกฝนเลย ไม่เช่นนั้นมันจะต้องมาถูกเฆี่ยนตีหรือ?เขารีบเตือนว่า "แม่นาง เจ้ารีบไปเสีย มันเป็นสัตว์ป่า มันไม่เข้าใจคำพูดเจ้า!"เฉียนซานเร่งเร้าอย่างกังวล แต่วินาทีต่อมา ม่านตาของเขาก็ขยายกว้างขึ้นทุกคนก็ตกใจเช่นกันเห็นว่าเสือที่ดุร้ายไม่เพียงไม่กัดคนเท่านั้น แต่ยังถูมือของไป๋ซือหวงอย่างเชื่อ
นางย่อตัวลง ใช้หน้าผากแนบกับหัวของมันอย่างอ่อนโยนมั่วเฉินซางเห็นภาพที่นางสนิทสนมกับหมาป่าเยี่ยงนี้ พลังสายเลือดที่แต่เดิมพุ่งพล่านในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ สงบลงหลังจากนั้น ไป๋ซือหวงก็แหวกขนของหมาป่าสีเทาออกอีกครั้ง หลังจากตรวจสอบบาดแผลแล้ว สีหน้าของนางก็ดิ่งลงบนตัวของหมาป่าสีเทาถึงกับมีบาดแผลทั้งเล็กและใหญ่มากมาย ปะปนเต็มเกือบทั้งตัว และทั้งหมดก็อักเสบ มีหนองเต็มไปหมดดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้มันจะถูกเฆี่ยนตีหนักเกินไป ทั้งยังไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจนนำไปสู่การติดเชื้อนางระงับความโกรธสุดกำลัง เข้าสู่มิติด้วยขบวนความคิด หยิบผ้าพันแผลที่เหลือในก่อนหน้านี้ ยาฆ่าเชื้อและยาลดไข้ออกมาสำหรับคนรอบข้าง ดูเหมือนนางแค่ล้วงเอาของออกจากแขนเสื้อ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเมื่อน้ำยาฆ่าเชื้อสัมผัสกับบาดแผล หมาป่าสีเทาที่เกือบจะสลบก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เสียงครวญครางและเสียงสะอื้นก็ดังไปถึงหูของทุกคน จนเสี่ยวปารู้สึกทนดูไม่ไหวอีกต่อไป“แม่นาง ปล่อยให้มันตายอย่างสงบเถอะ จะตายแหล่มิตายแหล่แบบนี้มันทรมานเหลือเกิน”หญิงสาวผู้นี้มีรูปโฉมงามเช่นนี้ ไฉนถึงโหดร้ายเยี่ยงนี้ได้ไป๋ซือหวงแสร้งทำ
“ใช่ๆ ๆ แม่นางพูดถูก เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้คือข้าไม่ได้ใช้วิธีที่ดีในการฝึก รับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องเยี่ยงนี้ในอนาคต”ดวงตาของเฉียนซานเป็นประกาย พยักหน้าอย่างจริงใจพลางกล่าวยืนยัน“ในเมื่อแม่นางโปรดปรานสัตว์มากและรู้วิธีฝึกและรักษาสัตว์ จะยินยอมอยู่แสดงในคณะละครสัตว์ของข้าหรือไม่?”“หากแม่นางมาอยู่ด้วยล่ะก็ ในแง่ของค่าตอบแทนสามารถมั่นใจได้ ข้า เฉียนซาน รับรองจะไม่ปฏิบัติไม่ดีต่อเจ้าอย่างแน่นอน”ดวงตาจิ้งจอกของไป๋ซือหวงกลอกไปมา เป็นเรื่องจริงที่ว่าตอนนี้นางขาดแคลนเงินจริงๆรายได้ต่อเดือนของนางมีจำกัด ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูลูกในอนาคต นางยังจำต้องมีอาชีพการงานตัวนางในภพที่แล้ว ก็เป็นการดูแลรักษาสัตว์ นับว่าเป็นการกลับไปสู่อาชีพเดิมนอกจากนี้ แม้ว่ามิติของนางจะทรงพลัง แต่ก็ต้องใช้แต้มอ้ายซินเพื่อแลกสิ่งของต่างๆ หากนางสามารถช่วยสัตว์ในคณะละครสัตว์ได้มากกว่านี้ ก็จะมีหนทางที่จะได้รับแต้มอ้ายซินได้รับแต้มอ้ายซินและสามารถสร้างรายได้ได้ แล้วทำไมจะไม่ทำเล่า?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ นางก็แสร้งทำเป็นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง "ได้ แต่บ้านข้ามีงานยุ่ง ดังนั้นมาได้ทุกๆ ห้าวันต่อหน
เรือนชีอู๋ไป๋ซือหวงที่ทำเงินได้มากมาย กลับมาพร้อมข้าวของมากมาย ทันทีที่นางวางของลง นางก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ของเสี่ยวหลางที่อยู่ไม่ไกลนางตามเสียงไปอย่างเร็วพลัน เห็นเพียงเสี่ยวหลางนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในสภาพที่น่าสังเวช โดยมีลุงฝูนอนอยู่ข้างๆ เขาเมื่อเสี่ยวหลางเห็นนางกลับมา น้ำตาของเขาก็เริ่มไหลพรั่งพรูออกมา“ฮือๆ ๆ ท่านแม่ ท่านรีบใช้วิชาช่วยท่านปู่ฝูด้วย ข้าตกลงมาจากต้นไม้ เพื่อช่วยข้า ขาของเขาถึงได้กระแทก ฮือๆ ๆ…”ดวงตาสีฟ้าของเสี่ยวหลางกลายเป็นสีแดงจากการร้องไห้ ร่างเล็กๆ ของเขาสั่นเทาไป๋ซือหวงรีบกล่าวด้วยความเป็นห่วง "ลุงฝู ขาของท่านเจ็บตรงไหนงั้นหรือ?"ลุงฝูเป็นบ่าวรับใช้เก่าของตระกูลเซียว เป็นพ่อบ้านของจวนแม่ทัพแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้มงวดกับงานในจวนแม่ทัพ แต่ก็ไม่มีใครในจวนกล้าที่จะละเลย แม้แต่ไป๋หว่านเหลียนก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อหน้าเขาเนื่องจากสุขภาพไม่ดีของเขา เซียวป๋อฉิงยังมอบบ้านพักส่วนตัวแก่เขา ตั้งอยู่ในพื้นใกล้เคียง ในความทรงจำ ตอนที่เจ้าของร่างเดิมเซ่อโง่เง่านั้น ลุงฝูดูแลนางเป็นอย่างดีคิดว่าเป็นเพราะนางไม่อยู่ ปู่หลานสองคนเล่นด้วยกันจนเกิดเรื่องขึ้น“ฮูห
เมื่อก่อนขาของเขาเหมือนท่อนไม้ที่ไร้ความรู้สึก ดังนั้นจึงส่งผลให้เขาต้องเดินลากขาเดียวอย่างลำบากเขาลืมไปนานแล้วว่าการได้สัมผัสพื้นมันรู้สึกอย่างไร ตอนนี้เขาถึงกับได้รับประสบการณ์อีกครั้งแล้ว!ลุงฝูรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย กระทั่งดิ้นรนอยากที่จะลุกขึ้น แม้จะเจ็บแต่เขาก็ยังอยากจะสัมผัสได้ถึงไป๋ซือหวงรีบพยุงเขา กล่าวกำชับอย่างอดทน "ลุงฝู ขาของท่านยังต้องฝังเข็มอีกสองหรือสามครั้ง ถึงจะกลับมาเดินเหินได้ตามปกติ"ลุงฝูมีสีหน้าดีใจ มองนางด้วยสีหน้าตื่นเต้น "หมายความว่า ข้ายังเดินได้ปกติหรือ?"ไป๋ซือหวงพยักหน้า "เมื่อถึงเวลาฝังเข็มครั้งต่อไป ข้าจะให้เสี่ยวหลางบอกท่าน พักนี้ท่านควรให้ความสำคัญกับการพักผ่อนบนเตียงให้มาก"“และอย่ากินอาหารรสเผ็ดหรือเย็น อย่าเกิดโทสะ”“โอ้! บ่าวทราบแล้ว ขอบคุณฮูหยินขอรับ!”ลุงฝูตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ชั่วขณะ จนเรียกตัวเองว่าบ่าวด้วยซ้ำหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็ฟื้นจากความประหลาดใจที่ตกลงมาจากสวรรค์ และในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างท่วมท้นเขาลังเล “ฮูหยิน ท่าน…”ไป๋ซือหวงรู้ถึงความสงสัยของเขา ไม่ได้อธิบาย เพียงแค่ขอร้อง "ลุงฝู เรื่องท