แชร์

บทที่ 11  

ไป๋ซือหวงมองพลางเลิกคิ้ว พูดถึงสุนัข สุนัขก็มา

“ท่านแม่ทัพยังไม่บ้วนปากตอนเช้าหรือไร ปากถึงได้เหม็นเช่นนี้ ท่านใช้ตาข้างไหนเห็นว่าข้ารังแกข้ารับใช้?”

ไป๋ซือหวงตอบโต้กลับอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ชายชั่วเช่นนี้ด่าหนึ่งประโยคก็สะใจหนึ่งประโยค

เซียวป๋อฉิงกำหมัดแน่น เส้นเลือดนูนขึ้นมาบนหน้าผากปูด “บังอาจ ใครก็ได้ ใช้กฎตระกูล แม่ทัพอย่างข้าจะสั่งสอนหญิงเจ้าเล่ห์นางนี้เอง!”

ไป๋หว่านเหลียนแสร้งทำเป็นเข้าไปห้าม “ท่านแม่ทัพ อย่าโกรธไปเลยเจ้าค่ะ พี่หญิงนางไม่ได้ตั้งใจ”

“น้องหญิงพูดถูก อย่าโกรธไปเลย ไม่อย่างนั้นหากเหมือนน้องหญิงที่ยังสาวแต่กลับมีริ้วรอยก็คงไม่ดี” ไป๋ซือหวงยิ้มที่ปากแต่ไปไม่ถึงตา

ไป๋หว่านเหลียนตกใจจนรีบส่องกระจก จะมีริ้วรอยจริง ๆ หรือ?

ซึ่งในตอนนี้ คนสนิทของไป๋หว่านเหลียนจำนวนหนึ่งรีบเอาไม้มา อยากให้แม่ทัพตีไป๋ซือหวงให้ตายไปเสียโดยเร็ว

เซียวป๋อฉิงรับท่อนไม้ดังกล่าวมา ยกมือขึ้นหมายจะตีไป๋ซือหวง ไป๋ซือหวงก็ไม่หลบ

ในตอนนั้นเอง ข้ารับใช้คนหนึ่งพลันวิ่งมา รายงานอย่างเร่งด่วน “แย่แล้วขอรับท่านแม่ทัพ! องครักษ์กว่าสลบไปแล้ว ท่านรีบไปดูเถิดขอรับ”

เซียวป๋อฉิงมองใบหน้าท้าทายของไป๋ซือหวง ก็ต้องวางไม้ลง อดกลั้นโทสะวิ่งออกไป

รอกว่าอีฟื้นแล้วค่อยจัดการสตรีผู้นี้ก็ไม่สาย!

“เรียกหมอประจำจวนมา!”

“ขอรับ!”

ข้ารับใช้ต่างก็วิ่งตามออกไปติด ๆ

ไป๋ซือหวงหวนนึกถึงยามที่กว่าอีเคยให้แผ่นแป้งกับเสี่ยวหลางตอนหิว นับว่าเป็นคนดี จึงไปดูด้วยเช่นกัน

ไป๋หว่านเหลียนลากร่างกายที่เจ็บป่วยเดินกะเผลกตามไป นางจะไม่อยู่ตอนข้ารับใช้มีปัญหาได้อย่างไร?

เช่นนั้นภาพลักษณ์ของนางจะเสีย

ไม่นาน กลุ่มคนก็มาถึงที่พักของกว่าอี

ที่แห่งนี้เหมือนเกิดไฟไหม้ กลุ่มควันที่หนาทึบทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา

เซียวป๋อฉิงพาคนบุกเข้าไปภายใน จึงเห็นร่างที่ใหญ่โตของกว่าอีที่นอนอยู่บนพื้น

“เร็ว หมอประจำจวน ตรวจชีพจร!”

เขากระตุ้นอย่างเร่งรีบ

หมอประจำจวนรับคำสั่ง

ไป๋ซือหวงฉวยโอกาสที่คนวุ่นวายเพื่อเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นควันหนาจากเตาถ่านและหน้าต่างที่ปิดสนิท ก็มีสัญญาณเตือนดังขึ้นมาในหัว

หรือว่าเป็นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์?

ไม่มีเวลาให้นางได้คิดมาก ไปเปิดหน้าต่างทุกบาน แล้วถัดจากนั้นก็เทน้ำเย็นลงในเตาถ่าน

เสียงซ่าดังขึ้นมา ดึงดูดความสนใจของเซียวป๋อฉิง

เขามองไป๋ซือหวงอย่างระแวดระวัง “หญิงเจ้าเล่ห์ เจ้าจะทำอะไร? เจ้าจะทำให้กว่าอีหนาวตายหรือ?”

“ข้าไม่พูดกับคนโง่”

ไป๋ซือหวงพูดอย่างเย็นชา แล้วส่งสัญญาณให้หมอประจำเรือนที่กำลังจับชีพจรลุกขึ้น นางจึงเห็นใบหน้าของกว่าอีที่เริ่มเป็นสีม่วง

“รอเจ้าจับชีพจรเสร็จ คนก็คงตายพอดี”

“พวกเจ้า ยกกว่าอีไปข้างนอกที่ไม่มีควัน ยิ่งไกลยิ่งดี”

นางชี้ไปยังข้ารับใช้ที่ร่างกายกำยำแข็งแรงจำนวนหนึ่ง ข้ารับใช้ต่างก็มองเซียวป๋อฉิงไปมาด้วยความลังเล

“หญิงเจ้าเล่ห์ เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม หากกว่าอีเป็นอะไรไป ข้าจะเอาชีวิตเจ้า!”

พูดจบ เขากำลังจะบีบคอของไป๋ซือหวง แต่กลับถูกสายตาที่เย็นชาของนางทำให้หยุดชะงัก “ถ้าไม่อยากให้เขาตาย ก็ทำตามที่ข้าพูด!”

เซียวป๋อฉิงหน้าดำคร่ำเครียด แต่เมื่อเห็นท่าทางที่ดูมั่นใจของนาง ก็ลังเลเล็กน้อย หรือนางจะรู้วิธีทำให้กว่าอีฟื้น?

จะอย่างไรก็แค่ยกคนเท่านั้น ไม่มีอะไรเสียหาย

“ทำตามที่นางบอก”

เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม

ข้ารับใช้ถูกไป๋ซือหวงใช้อำนาจใส่ก็ชะงักงัน เมื่อเห็นว่าแม้แต่แม่ทัพก็ยังทำตาม ก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ยิ่งนานวันฮูหยินก็ยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

ข้ารับใช้หลายคนพยายามออกแรงยกกว่าอีที่หนักเกือบสองร้อยจิน เอาเขาไปวางไว้ที่พื้นหิมะ

เพิ่งจะวางคนลง ทุกคนก็เห็นไป๋ซือหวงที่เดินไป ก้มตัวลงแล้วเริ่มกดหน้าอกเขาอย่างแรง

ตอนนี้ ไป๋หว่านเหลียนที่กลัวควันและยืนรอข้างนอกอยู่ตลอดก็กรีดร้องขึ้นมา

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status