แชร์

บทที่ 7

รัตติกาลนอกหน้าต่างมืดมิดดุจน้ำหมึก

ความหนาวเย็นแทรกผ่านรอยแตกบนหน้าต่างเข้ามาข้างใน

ไป๋ซือหวงรีบอุ้มเสี่ยวหลางไปที่เตียง แล้วห่มผ้าห่มผืนบางที่มีอยู่เพียงผืนเดียวให้

มองดูใบหน้ายามนอนหลับที่น่ารักของเขาแล้ว นางก็ค่อยๆ นอนหลับไป

เมื่อยาหมดฤทธิ์ลง เจ้าก้อนน้อยบนเตียงก็หนาวจนตื่นขึ้นมา

เขาลืมดวงตาสีฟ้ามองผู้เป็นแม่ที่นอนหลับอยู่ข้างกายอย่างทำอะไรไม่ถูก

ก่อนหน้านี้เขาเจ็บเหมือนกำลังจะตาย แต่พอท่านแม่ร่ายคาถา เขาก็หลับไป ตอนนี้ร่างกายไม่เจ็บปวดอีกแล้ว

ท่านแม่เป็นเทพเซียนจริงๆ งั้นหรือ?

งั้นเขา...ก็ไม่ใช่ปีศาจน่ะสิ?

เขายังไม่รู้เลยว่าควรอยู่ร่วมกับท่านแม่ที่เป็นเทพเซียนอย่างไรดี

คิดไปคิดมา เขาก็ยื่นมือออกมากอดแขนมารดาอย่างระมัดระวัง แล้วนอนหลับไปด้วยความง่วงงุนอีกครั้ง

ไป๋ซือหวงถูกลมหนาวพัดโกรกจนตื่นขึ้นมา นางพลิกตัวลงจากเตียงอย่างเงียบเชียบ มองดูสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมนั่นแล้วก็ถอนหายใจออกมา

นางเดินมาถึงหน้ากระจก มองดูใบหน้าชวนสะพรึงบนนั้นแล้วก็ผลักกระจกออกไปเบาๆ

อัปลักษณ์เกินไป นางทนดูต่อไปไม่ไหว

พอคิดถึงว่าชาติที่แล้วนางเป็นถึงอัจฉริยะโฉมงาม พอมาอยู่โลกนี้กลับตกต่ำจนไม่อาจต่ำกว่านี้ได้อีกแล้ว

ในความทรงจำ เหมือนว่าเจ้าของร่างเดิมจะเป็นอีสุกอีใสจึงเสียโฉม

คนโบราณเชื่อถือสนิทใจ แต่นางเรียนหมอมาตั้งแต่เล็กจึงรู้ว่าโรคอีสุกอีใสไม่ได้ทำให้เสียโฉม!

เรื่องนี้จะต้องมีสาเหตุอื่นอีกแน่นอน

หลังนางทะลุมิติมา จำได้ว่าร่างกายของเจ้าของร่างเดิมเต็มไปด้วยบาดแผลโชกเลือด แต่ตอนนี้กลับหายดีอย่างน่าอัศจรรย์ กลไกทางกายภาพของร่างนี้ไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ?

นางคิดพลางเข้าไปในมิติ ตัดใจใช้แต้มอ้ายซินสองร้อยแต้มเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด

หลังจากเครื่องสแกนแล้ว ผลการตรวจก็ออกมาอย่างรวดเร็ว

ค่าที่แสดงล้วนอยู่ในขอบเขตของคนธรรมดาทั่วไป แต่บนใบหน้ากลับมีสารพิษที่ทำให้เสียโฉม!

ไป๋ซือหวงอ่านรายงานนั้นด้วยสายตาเย็นชา

เจ้าของร่างเดิมเสียโฉมมาตั้งแต่เด็ก นอกจากคนในครอบครัวก็ไม่เคยใกล้ชิดกับคนนอกมาก่อน

หรือจะเป็นคนในครอบครัวที่อยากทำร้ายนาง?

หรือจะเป็นไป๋หว่านเหลียน?

ที่แท้ก็มีเล่ห์กลตั้งแต่อายุน้อยแค่นั้นแล้ว

ไป๋ซือหวงไม่อยากอัปลักษณ์ต่อไปแบบนี้จึงเปิดศูนย์ควบคุมขึ้นมา ตั้งใจว่าจะแลกยาที่สามารถรักษาโฉมได้ แต่กลับพบว่านางยังไม่สามารถซื้อได้สักอย่าง

แต้มอ้ายซินของนางเหลืออยู่แค่ไม่กี่ร้อยแล้ว

เนื่องจากมีนิสัยชอบตรวจสอบประวัติการทำรายการบัตรเครดิต นางจึงตรวจดูประวัติการแลกแต้มอ้ายซินของตัวเองแล้วก็ต้องตกใจ

บรรทัดแรกระบุไว้อย่างชัดเจนว่า

[เกิดใหม่และฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็งแรงเหมือนเดิม]

ใช้แต้มอ้ายซินของนางไปทั้งหมดหนึ่งหมื่นแต้ม

ไม่แปลกเลยที่รอยแผลและร่างกายที่บอบช้ำขนาดนั้นสามารถหายดีได้ ที่แท้ก็เป็นพลังของแต้มอ้ายซินนี่เอง!

ไป๋ซือหวงครุ่นคิดแววตาลุ่มลึก เห็นทีนางคงต้องออกจากจวนไปซื้อสมุนไพรเสียแล้ว แต่เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือต้องมีเงิน และมีชีวิตรอดต่อไป

นางใคร่ครวญพลางออกไปจากมิติ

เห็นว่าเสี่ยวหลางตื่นแล้ว ดวงหน้าน้อยๆ เป็นสีชมพูระเรื่อ คิดว่าคงหายดีแล้ว

“เสี่ยวหลาง ตอนนี้เชื่อแล้วใช่ไหมว่าแม่เป็นเทพเซียน?”

นางแสร้งทำเป็นเพิ่งตื่นนอนแล้วเอ่ยเย้า

แม้ว่าในใจเสี่ยวหลางจะเชื่อไปแล้ว แต่ก็ยังเอียงคอคิดอยู่นานสองนาน แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “ข้าเป็นลูกท่าน งั้นข้าก็เป็นลูกของเทพเซียนด้วยน่ะสิ?”

เห็นความคาดหวังบนใบหน้าเขาแล้ว ไป๋ซือหวงก็พูดโกหกโดยที่หน้าไม่เปลี่ยนสี “แน่นอนสิ ดวงตาสีฟ้าของเจ้าก็คือสัญลักษณ์ของสายเลือดเทพ ล้ำค่ากว่าเด็กๆ ที่รังแกเจ้าพวกนั้นมากนัก”

“นี่คืออะไรหรือ?”

เขายื่นมือน้อยๆ ออกมาชี้ไปที่พลาสเตอร์แสนน่ารักบนข้อมือพลางถามอย่างสงสัย

“อันนี้หรือ ก็คือร่องรอยหลังจากร่ายอาคมก่อนหน้านี้ยังไงล่ะ”

“อ้อๆ”

เสี่ยวหลางเชื่อด้วยท่าทางอึ้งๆ ดวงตาสีฟ้าจ้องมองอย่างไร้เดียงสาพลางพยักหน้าหงึกหงัก ไป๋ซือหวงเห็นท่าทางอย่างนั้นก็รู้สึกคันไม้คันมือยุบยิบ

นางเอื้อมมือไปหมายจะลูบศีรษะเสี่ยวหลาง แต่ยังไม่ทันแตะถูกเขา เสี่ยวหลางก็หดคอหนีโดยสัญชาตญาณ

แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีนักจึงยื่นศีรษะน้อยๆ นั้นไปแตะฝ่ามือนางอย่างเงียบๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status