เกริ่น
หลังแต่งงานเขาก็ปล่อยให้เธออยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยที่เขาเองก็มีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างกาย แต่จู่ๆ เขาก็กลับมาพร้อมกลับทวงสิทธิ์ความเป็นสามีและประกาศว่าจะมีทายาทกับเธอ...
ตั้งแต่พ่อของเอิงเอยเสียหญิงสาวก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจการดูแลของแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอมาตลอดซ้ำยังโดนกดขี่จากพี่สาวลูกติดของแม่เลี้ยงของเธอและนี่ก็เป็นอีกครั้งที่บ้านเธอจะต้องล้มละลายเพราะฝีมือการผลาญเงินของสองแม่ลูกนั่นทำให้เธอต้องโดนแม่เลี้ยงบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อเธอที่เคยหมั้นหมายกันไว้คนที่อายุห่างกับเธอเป็นสิบกว่าปีทั้งที่เธอไม่เคยเห็นหน้าเธอจำเป็นต้องแต่งเพื่อที่จะมีค่าสินสอดมาใช้หนี้ที่บ้านของเธอ
เมื่อแต่งงานกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเขาก็พาเธอมาอยู่ที่คอนโดของเขาและตั้งแต่นั้นมาเป็นเดือนแล้วเธอก็ไม่เคยเจอกับเขาอีกเลยเธอเข้าใจดีว่าชายหนุ่มก็คงจะโดนบังคับมาเหมือนกันแต่ก็ดีสำหรับเธอไปอีกอย่างที่ทั้งพ้นจากการปกครองของแม่เลี้ยงใจร้ายแถมอยู่ที่คอนโดที่นี่คนเดียวอย่างมีความสุขอีกต่างหาก
แต่แล้ววันดีคืนดีจู่ๆเขาบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่พร้อมขอมาใช้สิทธิ์ความเป็นสามีและยืนยันว่าจะทำให้เธอมีทายาทให้เขาให้ได้เพราะคนเป็นพ่อของชายหนุ่มสั่งมาว่าหากไม่มีทายาทภายในสิ้นปีสมบัติทั้งหมดที่เขาจะได้จะตกเป็นของหญิงสาวแต่เพียงผู้เดียวทีนี้หญิงสาวจะทำยังไงต่อไปดีกับเรื่องวุ่นวายต่างๆที่เธอจะต้องเจอติดตามกันได้ในเรื่องเลยนะคะ
เริ่มเรื่อง
22.00 น.
คอนโดXXX
เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วที่หญิงสาวยังนั่งหางานในเว็บไซต์อยู่เธอพึ่งเรียนจบดีไซน์เนอร์มาหมาดๆหญิงสาวกำลังมองหางานที่เหมาะกับความสามารถของตัวเองอยู่เพราะตนนี้เงินเก็บของเธอก็เริ่มที่จะร่อยหรอลงทุกที
ยังดีที่ยังมีที่อยู่ฟรีเป็นคอนโดของสามีตามนิตินัยอยู่เธอต้องแต่งงานกับเขาเพราะสัญญาที่ทั้งพ่อและเธอกับพ่อของเขาหมั้นหมายกันไว้ว่าจะให้ลูกชายและลูกสาวแต่งงานกันหญิงสาวต้องเข้าพิธีแต่งงานกับชายหนุ่มที่อายุห่างกับเธอเป็นสิบปีทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้าเพราะถูกแม่เลี้ยงของเธอบังคับเพื่อที่จะเอาสินสอดค่าตัวเธอมาใช้หนี้ที่บ้านกำลังจะล้มละลาย
หลังจากที่เธอแต่งงานแล้วแม่เลี้ยงของเธอก็ไม่ได้สนใจใยดีเธอเลยแถมค่าสินสอดทั้งหมดก็เอาไปด้วยเธอเองไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรเมื่อเห็นว่าบ้านของเธอที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กๆไม่โดนยึดก็พอใจแล้ว
หญิงสาวแต่งงานก่อนที่จะเรียนจบประมาณสองเดือนหลังจากแต่งงานแล้วชายหนุ่มก็ให้เธอย้ายมาอยู่ที่คอนโดของเขาและหลังจากคืนวันแต่งงานวันนั้นจนถึงวันนี้เธอเองก็ไม่เห็นหน้าเขาอีกเลยเธอเข้าใจว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอเท่าไรนักเพราะดูจากการที่เขาเจอเธอครั้งแรกตอนที่ไปลองชุดแต่งงานเขาแทบที่จะไม่มองหน้าและพูดคุยกับเธอด้วยซ้ำที่เขาต้องมาเจอเธอก็เพราะแอนเดรียสพ่อของชายหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อเธอบังคับมา
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีอิสระมากขึ้นในเมื่อทั้งแม่เลี้ยงและไอรดาพี่สาวลูกติดของแม่เลี้ยงไม่ได้มายุ่งกับเธออีกเพราะได้เงินก้อนโตไปสมใจและคนที่เป็นสามีตามนิตินัยของเธอก็ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายอะไรกับเธอเช่นกันทำให้เธออยู่ที่คอนโดนี้ได้อย่างสบายใจ
แต่สิ่งที่เธอต้องโฟกัสตอนนี้ก็คือเธอต้องหางานทำเพื่อที่จะเลี้ยงตัวเองให้ได้เธอไม่คิดจะปริปากเอ่ยบอกใครด้วยซ้ำทั้งที่ลุงแอนเดรียสของเธอบอกว่าถ้าติดขัดเรื่องอะไรก็โทรหาเขาได้ทันทีเธอเองไม่มีหน้าไปขอความช่วยเหลือกับเขาแล้วเพราะแม่เลี้ยงของเธอเรียกเงินค่าสินสอดมากมายจนเธอก็อดเกรงใจเขาไม่ได้เหมือนกัน
Rrrr
“สวัสดีค่าเอิงเอยพูดค่ะ”
หญิงสาวเห็นมือถือดังขึ้นเมื่อหยิบขึ้นเธอไม่ค่อยคุ้นกับเบอนี้สักเท่าไรแต่ก็ลองกดรับดู
“น้องเอยนี่พี่จ๋าเองนะคะ...พอดีวันจันทร์หน้าพี่มีงานเดินแบบให้เราทำสนใจไหมจ๊ะ”
“สนใจค่ะ...เอยรับค่ะ”
“เอยงานนี้เป็นงานที่ใหญ่มากถ้าเอยได้เดินงานนี้รับรองเอยมีคิวงานเดินแบบยาวแน่ๆ”
“จริงเหรอคะ..ขอบคุณพี่จ๋ามากนะคะที่นึกถึงเอยอยู่ตลอดเลยขอบคุณจริงๆค่ะ”
“จ้า...คนที่รับผิดชอบงานอย่างเอยพี่พร้อมป้อนงานเสมอจะ..โอเคตามนั้นนะส่วนเรื่องรายละเอียดเดี๋ยวพี่ส่งให้ทางเมลนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะพี่จ๋า”
หลังจากวางสายจากจ๊ะจ๋าโมเดลลิ่งที่เธอเคยร่วมงานด้วยเมื่อครั้งที่หารายได้เสริมระหว่างเรียนเธอก็กระโดดโลดเต้นอยู่ในห้องทันทีเพราะยังโชคดีที่ตอนนี้มีโชคช่วยให้เธอพอมีงานพิเศษบ้างคืนนี้หญิงสาวรู้สึกว่านอนหลับสบายเป็นพิเศษเพราะเธอพอจะมีงานเข้ามาบ้างแล้ว
ถึงแม้แต่ละงานมันจะได้เงินไม่เยอะเพราะเธอไม่ได้เป็นนางแบบดังแต่ทุกครั้งที่อยู่บนเวทีเธอก็จะทำเต็มที่เสมอและภูมิใจตัวเองอย่างมากที่สามารถใช้ความสามารถที่มีอยู่ของเธอหาเงินใช้โดยที่ไม่ต้องแบมือขอใคร
เช้าวันต่อมา
“ทำไมมาช้าจังล่ะแก”
พีนัสเพื่อนสาวของเอิงเอยยืนหน้าหงิกงอรอเอิงเอยอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเพราะเอิงเอยมาเลยเวลานัดเกินมาเกือบชั่วโมง
“ก็รถมันติดนี่นาแกจะบ่นอะไนเนี่ยไปๆเข้าไปข้างในกันเถอะ”
พีนัสเป็นคนที่นัดเอิงเอยออกมาข้างนอกเองเพราะตั้งแต่เรียนจบก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลยสองสาวเดินเข้ามาหาอะไรทานกันในร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดังในห้างนี้โดยพีนัสเป็นคนเอ่ยปากที่จะเลี้ยงเอิงเอยเองเพราะรู้อยู่ว่าสถานะทางการเงินของเพื่อนตอนนี้เป็นยังไง
เธอรู้สึกสงสารในโชคชะตาของเพื่อนสาวเธอจริงที่เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยแม่ก็ดันมาเสียตั้งแต่ยังเด็กส่วนพ่อก็มีเมียใหม่เป็นแม่เลี้ยงใจร้ายคอยกดขี่หญิงสาวอยู่อีกขนาดแต่งงานกับคนรวยคนเป็นสามีก็ยังไม่สนใจอีกเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นผ่านมันมาได้ยังไง
“นี่แกกินเยอะๆเลยดูซิเนี่ยผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว...วันๆได้กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่าเนี่ยย”
พีนัสยื่นจานอาหารไปทางฝั่งของเพื่อนสาวเธอจนเต็มไปหมดเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอซูบผอมไปมากจนผิดหูผิดตาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ฉันกินเยอะไม่ได้หรอกแกตอนนี้ฉันต้องรักษาหุ่นเพราะวันจันทร์นี้พี่จ๋าให้ฉันไปเดินแบบ”
“กินเข้าไปเถอะน่าอ้วนกว่านี้นิดนึงคงไม่เป็นอะไรหรอก”
ทั้งสองสาวนั่งทานอาหารกันอยู่สักพักพลันสายตาของพีนัสก็หันไปเจอกับคนที่น่าจะรู้จัก
“แกนั่นสามีแกหรือเปล่า...แล้วเค้ามากับใครอะ”
พีนัสเพ่งไปยังชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่งเลยลองหันมาถามเพื่อนสาวของเธอดูว่าใช่สามีของเพื่อนเธอหรือเปล่าเพราะตอนนี้เขากำลังนั่งทานอาหารอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่น่าจะเป็นนางแบบชื่อดังเลยหละ
“อ๋อ..อืมใช่”
เอิงเอยหันไปมองชายหญิงคู่นั้นอยู่ครู่หนึ่งก็หันกลับมานั่งทานต่อเพราะเธอไม่อยากสนใจอยู่แล้วในเมื่อตัวชายหนุ่มเองยังไม่สนใจเธอเลยทำไมเธอต้องสนใจเขาด้วยแต่เห็นแบบนี้มันก็รู้สึกหน่วงๆอยู่เหมือนกันที่ขนาดเขาแต่งงานกับเธอออกหน้าออกตาแล้วยังมาทานข้าวกับหญิงอื่นซึ่งน่าจะเกรงใจเธอบ้างถ้าคนอื่นเห็นจะว่ายังไง
“เฮ้ย...เค้าทำแบบนี้ได้ไงไอ้ที่ไม่มาดูแลแกฉันพอเข้าใจนะเว้ยว่าแกสองคนไม่ได้รู้จักกันและรักมาก่อนแต่งแต่นี่เล่นควงหญิงอื่นมาทานข้าวข้างนอกนี่มันหยามแกเกินไปแล้วนะ”
พีนัสเห็นว่าสามีของเพื่อนเธอทำกับหญิงสาวเกินไปแบบนี้มันเหมือนไม่ให้เกียรติคนเป็นภรรยาเลยและทั้งคู่ก็ต่างมีหน้ามีตาทางสังคมแล้วคนอื่นเห็นเค้าจะคิดกันยังไง
“ช่างเค้าเถอะแกยังไงฉันกับเค้าก็ไม่ได้เต็มใจแต่งงานกันอยู่แล้วแค่แม่เลี้ยงฉันไปขูดรีดเอาค่าสินสอดจากบ้านเค้าแค่นี้ฉันก็เกรงใจเค้าจะแย่แล้ว”
หญิงสาวพยายามพูดกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอโอเคถึงแม้มันจะเป็นการหลอกตัวเองของเธอไปด้วยก็ตาม
“อืมมๆแกโอเคก็ดีแล้วแต่ถ้าแกไม่สบายใจแกมาอยู่กับฉันก็ได้นะ...”
“เอ่าน่า..ถ้าฉันไม่ไหวฉันบอกแกเป็นคนแรกอยู่แล้วน่า”
เอิงเอยพูดให้เพื่อนเธอสบายใจอีกเช่นเคยคนอย่างเธอหรือจะขอร้องให้ใครช่วยง่ายๆขนาดตอนที่พ่อหญิงสาวเสียใหม่ๆเลี้ยงเธอไม่ให้เงินมาเรียนเธอยังไปรับจ้างหลังเลิกเรียนสารพัดเพื่อที่จะมีเงินมาเรียนเลย
สามวันต่อมาRrrrrr“ค่ะพี่จ๋า”“เอยอยู่ไหนแล้วจ๊ะ”“ตอนนี้เอยอยู่ที่หน้าโรงแรมแล้วค่ะ...กำลังจะขึ้นไปค่ะ”“งั้นเจอกันที่ห้องแต่งตัวเลยนะ”“ค่ะพี่จ๋า”หญิงสาวรีบวิ่งไปขึ้นลิฟท์ของโรงแรมเพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องแต่งตัวทันที“รอด้วยครับ”อัคนีได้รับเชิญให้มาดูงานแฟชั่นโชว์ในวันนี้เมื่อเขาเข้ามาในโรงแรมเห็นว่าลิฟท์ที่จะขึ้นกำลังจะปิดเขาเลยส่งเสียงเพื่อบอกให้คนด้านในกดปุ่มเปิดรอเขาไว้ก่อนเอิงเอยได้ยินเสียงของผู้ชายด้านนอกบอกให้เธอรอก่อนเธอจึงเอื้อมมือกดปุ่มลิฟท์ให้เปิดไว้อย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าคนที่อยู่ด้านนอกน่าจะรีบเหมือนกัน“เอ่อ..พี่หมอ”หญิงสาวถึงกับหน้าเหวอเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในลิฟท์เป็นใครและก็ยังต้องหลบสายตาเขาอีกเพราะตอนนี้เขากำลังควงแขนมากับนางแบบที่เธอเห็นว่าเขานั่งทานข้าวด้วยกันวันนั้น“คุณมาทำอะไรที่นี่”ชายหนุ่มถามหญิงสาวคนที่เป็นภรรยาทางนิตินัยของเขาด้วยความเย็นชาเพราะเขาไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่“คือเอยรับงานเดินแบบที่นี่ไว้น่ะค่ะ”หญิงสาวตอบชายหนุ่มตามความจริงพร้อมหลบสายตาลงต่ำเมื่อคุยกับเขาเพราะเกรงใจหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยอีกอย่างเธอไม่ได้อยากจะมองเท่าไรนัก“ไม่ยักร
“ผมก็ไม่ได้อยากมาที่นี่นักหรอกแค่มีธุระที่จะต้องมาเคลียกับคุณก็เท่านั้น”“....”เอิงเอยทำหน้างงกับคำพูดของชายหนุ่มเข้าไปใหญ่เพราะเธอเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาพูดใส่เธอมันคือเรื่องอะไรแล้วจะมาเคลียอะไรกับเธอ“หยุดทำหน้าใสซื่อได้แล้วคงจะใช้มารยาแบบนี้สินะ...คุณพ่อผมถึงกับจะยกทุกอย่างให้คุณน่ะ”อัคนีกัดฟันกรอดพร้อมเค้นเสียงพูดกับหญิงสาวในใจเขาเองคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่พ่อของเขาบังคับเขานั้นต้องเกิดมาจากหญิงสาวเป็นแน่แต่เธอก็ยังกล้าที่จะทำหน้าใสซื่อไม่รู้ไม่เห็นได้แนบเนียนทำให้เขาโมโหยิ่งขึ้นไปอีก“คะ..!!.พี่หมอหมายถึงอะไรคะเอยไม่เข้าใจ...พี่หมอคงจะเมามากไว้เราค่อยคุยกันทีหลังจะดีกว่าค่ะ..เอยขอตัวนะคะ”เอิงเอยเองเริ่มไม่โอเคกับคำพูดของชายหนุ่มที่เอาแต่ดูถูกแถมยังดูเหมือนจ้องที่จะกัดเธออยู่ตลอดเวลาเธอเห็นว่าชายหนุ่มยังเมาอยู่ถ้าเขายังใช้อารมณ์คุยกับเธอวันนี้ยังไงก็คงไม่รู้เรื่องเธอจึงบอกกับเขาว่าค่อยคุยกันวันหลังพร้อมกับเตรียมที่จะเดินออกไปข้างนอกคิดว่าวันนี้เธอคงต้องไปอาศัยห้องของเพื่อนเธอนอนก่อนแล้วหละ“คุณจะไปไหนผมยังพูดธุระไม่เสร็จ”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวที่เขาต้องการคุยด้วย
หลังจากวันนั้น 1 อาทิตย์เอิงเอยใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดของชายหนุ่มเหมือนเช่นเคยแต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าชายหนุ่มจะมาอยู่ที่นี่กับเธอตามที่เขาพูดในวันนั้นซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสบายใจมาเป็นอาทิตย์หญิงสาวคิดว่าวันนั้นเขาคงจะแค่แกล้งขู่เธอเล่นๆเท่านั้นคนอย่างเขาไม่ชอบหน้าเธอขนาดนั้นคงจะไม่อยากมาอยู่กับเธอสักเท่าไรRrrrrrrr17.00 น.“ค่ะคุณแม่”เอิงเอยทำกับข้าวอยู่ในครัวได้สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าเป็นเบอของใครโชว์ขึ้นมาเธอเองไม่ได้อยากจะรับเลยสักนิดแต่คิดไปคิดมาโดยนิสัยของแม่เลี้ยงเธอแล้วถ้าเธอยังดึงดันที่จะไม่รับอยู่แบบนั้นแม่เลี้ยงใจยักษ์ของเธอคงโทรจิกเธอไม่หยุดเป็นแน่“เอยต้องช่วยแม่ด้วยนะลูกตอนนี้เจ้าหนี้มันจะเอาชีวิตแม่ถ้าแม่ไม่เอาเงินไปให้มันสามแสนภายในคืนนี้...ฮือๆๆๆ”“อะไรนะคะ”เมื่อเอิงเอยได้ยินที่แม่เลี้ยงเธอเอ่ยขึ้นมาเมื่อเธอกดรับสายเธอถึงกับใช้มือกุมขมับทันทีเธอรู้ได้โดยทันทีว่าน้ำเสียงที่แม่เลี้ยงของเธอพูดดีด้วยแบบนี้จะต้องมีเรื่องให้เธอช่วยแน่นอนซึ่งมันก็เป็นแบบที่เธอคิดจริงๆ“แล้วเงินสินสอดของเอยหมดแล้วเหรอคะคุณแม่”หญิงสาวถามถึงเงินสิ
Rrrrrrrr“เบอใครกัน”อัคนีกำลังที่จะขึ้นรถกลับไปที่บ้านของเขาจู่ๆก็มีเบอแปลกโทรเข้ามาคราแรกเขาเองจะไม่รับสายแต่ในใจคิดว่าคนที่โทรมาอาจจะมีธุระด่วนก็ได้“สวัสดีครับผมอัคนีพูดครับ”“สวัสดีค่ะ...คือดิฉันขอไม่ประสงค์ออกนามนะคะแต่ที่จะโทรมาบอกเพราะว่าหวังดีน่ะค่ะ...ฉันรู้มาว่าภรรยาของคุณกำลังเอาเงินที่คุณให้ไปถลุงเล่นในบ่อนการพนันที่XXXเห็นหน้าใสซื่อก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะคะแค่นี้แหละค่ะที่จะโทรมาบอก”เมื่อปลายสายวางไปอัคนีเองถึงกับทำหน้างงทันทีว่าผู้หญิงที่โทรมาต้องการอะไรเขาเองพยายามโทรกลับไปอยู่หลายครั้งก็ไม่ติดเขาเองก็ไม่ได้อยากจะคิดว่าเอิงเอยร้อนรนโทรมาหาเขาเพราะอยากจะได้เงินไปเล่นการพนันหรอกนะแต่อีกใจก็คิดว่าไปดูให้มันรู้กันเลยเพราะตอนนี้เขาเองก็ว่างอยู่แล้วเขาเลยเปลี่ยนเส้นทางการขับรถกลับบ้านไปที่บ่อนการพนันที่ผู้หญิงปริศนาโทรมาบอกทันที“หึสมน้ำหน้าคนอย่างแกจะไม่มีวันได้ดีไปกว่าฉันหรอกนังเอิงเอย”ไอรดานั่งยิ้มกริ่มสะใจที่ปั่นหัวอัคนีได้เธอได้รู้เรื่องที่เอิงเอยยืมเงินอัคนีมาให้แม่ของเธอด้วยความที่ไม่ชอบเอิงเอยอยู่แล้วเธอจึงคิดแผนใส่ร้ายนี้ออกมาอย่างรวดเร็วเพราะต้องการที่จะทำลายชีวิต
“งั้นกลับดีๆนะคะคุณนนท์ขอบคุณมากค่ะ”หลังจากที่ธนนท์เดินออกไปแล้วเอิงเอยก็เดินเอาของไปเก็บโดยที่ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่ยืนทำหน้ายักษ์ใส่เธออยู่“มีผู้ชายมาหาถึงห้องนี่ถ้าผมไม่อยู่นี่คงจะถึงไหนต่อไหนกันแล้วล่ะมั้ง”อัคนีไม่ชอบอาการที่หญิงสาวทำเป็นเมินเขาแทนที่จะบอกกับเขาว่าใครมาหาและมาเพื่ออะไรยิ่งเธอทำเหมือนเขาเป็นหัวหลักหัวตอเขาเองยิ่งโมโหกับการกระทำของเธอ“เฮ้อออ...คุณนนท์เค้าก็แค่เอาเสื้อมาคืนเอยค่ะ”เอิงเอยพยายามใจเย็นพูดกับเขาคราแรกคิดว่าจะไม่ต่อล้อต่อถียงกับเขาแล้วเชียว“หึ!!!..เอาเสื้อมาคืนคงไปถอดไว้มั่วเลยล่ะสิเลยต้องให้ผู้ชายตามเอามาคืนให้”เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มคนนั้นเอาเสื้อมาคืนเธอตอนนี้ในหัวของเขาก็คิดไปไกลแล้วว่าหญิงสาวกับไอ้หน้าอ่อนคนนั้นไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วทำให้เขาอดที่จะค่อนขอดไม่ได้เพราะเขาก็ไม่อยากให้ใครมาหยามเขาเหมือนกันเพียะ“หยุดดูถูกเอยสักทีค่ะพี่หมอ...ถ้าคิดว่าเอยไม่ดีเอยก็หย่ากันไปเถอะค่ะ”หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าไปที่ห้องนอนของตัวเองอยู่แล้วแต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ชายหนุ่มดูถูกเธอจนทนไม่ไหวเธอจึงถึงขนาดฟิวส์ขาดเดินมาตบเขาอย่างแรงเพื่อให้รู้ว่าเอก็มีศักดิ์ศรีใครจะ
เมื่อประชุมเรียบร้อยแล้วอัคนีมาเชคงานอื่นต่ออีกนิดหน่อยแต่เขาเองก็ไม่เป็นอันทำงานเพราะในใจของเขานั้นนึกถึงแต่หญิงสาวว่าเธอตื่นมาแล้วจะเป็นยังไง“เย็นนี้คุณจะทานอะไรไหมเดี๋ยวผมซื้อกลับไป”ชายหนุ่มส่งข้อความหาหญิงสาวทางไลน์เพราะในใจยังระอายในความผิดของตัวเองจึงไม่กล้าที่จะโทรคุยกับเธอสักเท่าไรนักเขารอเธอตอบอยู่สักพักแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวจะตอบกลับมาชายหนุ่มจึงทิ้งงานแล้วรีบขับรถกลับมาหาเธอที่คอนโดทันทีแต่ก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้ออาหารกลับไปด้วยเผื่อว่าหญิงสาวยังไม่มีอะไรทานร้านอาหารXXX“นี่เธอนั่นมันสองแม่ลูกอมรากับไอรดาที่มากู้เงินเธอบ่อยๆนี่..แต่งตัวดีกินของแพงเชียวนะ”“ใช่แล้วเธอกู้ทุกเดือนเลยนะไม่รู้เอาเงินไปทำอะไรหมดเห็นว่าค่าสินสอดของลูกเลี้ยงที่ชื่อหนูเอยสองคนนี้ก็เอามาหมดเลยนะเห็นว่าบ้านก็ยังไม่ได้ไปไถ่คืนเลย”“จริงเหรอเธอ...ฉันเห็นเข้าบ่อนกันประจำเลยนะล่าสุดนี่เห็นเค้าอวดว่าลูกเลี้ยงเขาน่ะมีเงินแถมหนี้พนันทั้งหมดก็ให้ลูกเลี้ยงไปจ่ายอีกด้วย”“นี่คนลูกสาวก็เห็นใช้แต่ของแบรนด์เนมวันๆก็ไม่เห็นจะทำงานอะไรแถมยังได้ข่าวว่าไปเป็นเมียน้อยเสี่ยที่มีเงินอีกด้วยนะ”“ก็อย่างนี้แหละน้อคนมัน
21.00น.“อื้มมม....เอ่อพี่หมอเดี๋ยวเอยไปนอนที่โซฟาก็ได้ค่ะ”เอิงเอยรู้สึกว่าเตียงของเธอมันยวบลงเธอจึงตื่นขึ้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังทิ้งตัวลงนอนเธอเองจึงจะลุกขึ้นไปนอนที่โซฟาแทนเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะนอนไม่สบาย“ไม่ต้องนอนด้วยกันนี่แหละ”อัคนีเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะลุกหนีเขาออกไปจึงเอื้อมมือรั้งเธอมานอนกอดที่เตียงพร้อมปิดไฟนอนหน้าตาเฉยเอิงเอยเองรู้สึกงงกับการกระทำของเขาอยู่เหมือนกันเพราะมันแปลกจนเธอก็คิดไม่ออกว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่กันแน่เธอเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอซึ่งเขาก็มีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเธออยู่แล้วเช้าวันต่อมา“คุณพ่อเรียกเราสองคนมามีอะไรเหรอครับ”แอนเดรียสพ่อของชายหนุ่มโทรหาเขาตั้งแต่เช้าบอกว่ามีธุระให้มาคุยกันที่บ้านทั้งตัวเขาและหญิงสาวด้วย“ทริปฮันนีมูน”เมื่อแอนเดรียสเห็นทั้งสองเดินเข้ามาพร้อมกันแล้วจึงยื่นทริปฮันนีมูนที่ฝรั่งเศสเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ให้กับทั้งคู่“นี่เหรอครับธุระสำคัญของคุณพ่อ...ผมคงไปไม่ได้ครับเพราะงานที่ค้างอยู่ยังกองเต็มอยู่เลย”อัคนีจำต้องกรอกตามองบนที่ให้เขารีบมาด่วนเพราะธุระเรื่องนี้เองเหรอเอิงเอยเห็นสีหน้าชายหนุ่มไม่พอใจก
“อื้ม...”เอิงเอยล้มตัวลงนอนได้ชายหนุ่มก็หันมาประกบจูบหญิงสาวทันทีโดยที่เธอเองไม่ทันตั้งตัวหญิงสาวเองนึกตำหนิเขาในใจไหนเขาบอกกับเธอว่าจะนอนไงไหนเป็นมาตักตวงความสุขที่ตัวเธออีกแล้วล่ะ“อื้อ..พี่หมออ..อื้มม...อื้อ”หญิงสาวร้องครางตามจังหวะบทรักของชายหนุ่มที่ถาโถมเข้ามาในตัวของเธอครั้งนี้เขาอ่อนโยนกับเธอมากแตกต่างจากครั้งแรกทำให้หญิงสาวรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“อื้มมม..เอยย”“อ้ะ..อร้ายยย”ชายหนุ่มพรมจูบหญิงสาวไปทั่วทั้งตัวพร้อมขบเม้มเล่นกับยอดปทุมถันของเธอจนหญิงสาวต้องร้องออกมาเพราะความเสียวตอนนี้ห้องนอนของพวกเขาร้อนไปด้วยไฟรักของทั้งคู่กว่าชายหนุ่มจะปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระก็เกือบเช้าชายหนุ่มตักตวงความสุขจากร่างกายหญิงสาวโดยที่ไม่มีหมดแรงทั้งยังปล่อยสายธารขาวขุ่นไว้ในตัวหญิงสาวทุกหยาดหยดด้วยความหวังว่ายังไงเธอก็ต้องตั้งท้องมีทายาทในเร็วๆนี้แน่นอนเช้าวันต่อมา“เที่ยวให้สนุกนะแกเดี๋ยวฉันออกไปสัมภาษณ์งานก่อน...บายยย”พีนัสโทรคุยกับเอิงเอยแทบจะทุกวันทั้งสองจึงรับรู้การเคลื่อนไหวของกันและกันตลอดวันนี้ก็เช่นกันก่อนที่เอิงเอยจะขึ้นเครื่องไปฮันนีมูนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์หญิงสาวเองก็ขออวยพรให้เพื่อ