เกริ่น
หลังแต่งงานเขาก็ปล่อยให้เธออยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยที่เขาเองก็มีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างกาย แต่จู่ๆ เขาก็กลับมาพร้อมกลับทวงสิทธิ์ความเป็นสามีและประกาศว่าจะมีทายาทกับเธอ...
ตั้งแต่พ่อของเอิงเอยเสียหญิงสาวก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจการดูแลของแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอมาตลอดซ้ำยังโดนกดขี่จากพี่สาวลูกติดของแม่เลี้ยงของเธอและนี่ก็เป็นอีกครั้งที่บ้านเธอจะต้องล้มละลายเพราะฝีมือการผลาญเงินของสองแม่ลูกนั่นทำให้เธอต้องโดนแม่เลี้ยงบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อเธอที่เคยหมั้นหมายกันไว้คนที่อายุห่างกับเธอเป็นสิบกว่าปีทั้งที่เธอไม่เคยเห็นหน้าเธอจำเป็นต้องแต่งเพื่อที่จะมีค่าสินสอดมาใช้หนี้ที่บ้านของเธอ
เมื่อแต่งงานกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเขาก็พาเธอมาอยู่ที่คอนโดของเขาและตั้งแต่นั้นมาเป็นเดือนแล้วเธอก็ไม่เคยเจอกับเขาอีกเลยเธอเข้าใจดีว่าชายหนุ่มก็คงจะโดนบังคับมาเหมือนกันแต่ก็ดีสำหรับเธอไปอีกอย่างที่ทั้งพ้นจากการปกครองของแม่เลี้ยงใจร้ายแถมอยู่ที่คอนโดที่นี่คนเดียวอย่างมีความสุขอีกต่างหาก
แต่แล้ววันดีคืนดีจู่ๆเขาบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่พร้อมขอมาใช้สิทธิ์ความเป็นสามีและยืนยันว่าจะทำให้เธอมีทายาทให้เขาให้ได้เพราะคนเป็นพ่อของชายหนุ่มสั่งมาว่าหากไม่มีทายาทภายในสิ้นปีสมบัติทั้งหมดที่เขาจะได้จะตกเป็นของหญิงสาวแต่เพียงผู้เดียวทีนี้หญิงสาวจะทำยังไงต่อไปดีกับเรื่องวุ่นวายต่างๆที่เธอจะต้องเจอติดตามกันได้ในเรื่องเลยนะคะ
เริ่มเรื่อง
22.00 น.
คอนโดXXX
เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วที่หญิงสาวยังนั่งหางานในเว็บไซต์อยู่เธอพึ่งเรียนจบดีไซน์เนอร์มาหมาดๆหญิงสาวกำลังมองหางานที่เหมาะกับความสามารถของตัวเองอยู่เพราะตนนี้เงินเก็บของเธอก็เริ่มที่จะร่อยหรอลงทุกที
ยังดีที่ยังมีที่อยู่ฟรีเป็นคอนโดของสามีตามนิตินัยอยู่เธอต้องแต่งงานกับเขาเพราะสัญญาที่ทั้งพ่อและเธอกับพ่อของเขาหมั้นหมายกันไว้ว่าจะให้ลูกชายและลูกสาวแต่งงานกันหญิงสาวต้องเข้าพิธีแต่งงานกับชายหนุ่มที่อายุห่างกับเธอเป็นสิบปีทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้าเพราะถูกแม่เลี้ยงของเธอบังคับเพื่อที่จะเอาสินสอดค่าตัวเธอมาใช้หนี้ที่บ้านกำลังจะล้มละลาย
หลังจากที่เธอแต่งงานแล้วแม่เลี้ยงของเธอก็ไม่ได้สนใจใยดีเธอเลยแถมค่าสินสอดทั้งหมดก็เอาไปด้วยเธอเองไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรเมื่อเห็นว่าบ้านของเธอที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กๆไม่โดนยึดก็พอใจแล้ว
หญิงสาวแต่งงานก่อนที่จะเรียนจบประมาณสองเดือนหลังจากแต่งงานแล้วชายหนุ่มก็ให้เธอย้ายมาอยู่ที่คอนโดของเขาและหลังจากคืนวันแต่งงานวันนั้นจนถึงวันนี้เธอเองก็ไม่เห็นหน้าเขาอีกเลยเธอเข้าใจว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอเท่าไรนักเพราะดูจากการที่เขาเจอเธอครั้งแรกตอนที่ไปลองชุดแต่งงานเขาแทบที่จะไม่มองหน้าและพูดคุยกับเธอด้วยซ้ำที่เขาต้องมาเจอเธอก็เพราะแอนเดรียสพ่อของชายหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อเธอบังคับมา
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีอิสระมากขึ้นในเมื่อทั้งแม่เลี้ยงและไอรดาพี่สาวลูกติดของแม่เลี้ยงไม่ได้มายุ่งกับเธออีกเพราะได้เงินก้อนโตไปสมใจและคนที่เป็นสามีตามนิตินัยของเธอก็ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายอะไรกับเธอเช่นกันทำให้เธออยู่ที่คอนโดนี้ได้อย่างสบายใจ
แต่สิ่งที่เธอต้องโฟกัสตอนนี้ก็คือเธอต้องหางานทำเพื่อที่จะเลี้ยงตัวเองให้ได้เธอไม่คิดจะปริปากเอ่ยบอกใครด้วยซ้ำทั้งที่ลุงแอนเดรียสของเธอบอกว่าถ้าติดขัดเรื่องอะไรก็โทรหาเขาได้ทันทีเธอเองไม่มีหน้าไปขอความช่วยเหลือกับเขาแล้วเพราะแม่เลี้ยงของเธอเรียกเงินค่าสินสอดมากมายจนเธอก็อดเกรงใจเขาไม่ได้เหมือนกัน
Rrrr
“สวัสดีค่าเอิงเอยพูดค่ะ”
หญิงสาวเห็นมือถือดังขึ้นเมื่อหยิบขึ้นเธอไม่ค่อยคุ้นกับเบอนี้สักเท่าไรแต่ก็ลองกดรับดู
“น้องเอยนี่พี่จ๋าเองนะคะ...พอดีวันจันทร์หน้าพี่มีงานเดินแบบให้เราทำสนใจไหมจ๊ะ”
“สนใจค่ะ...เอยรับค่ะ”
“เอยงานนี้เป็นงานที่ใหญ่มากถ้าเอยได้เดินงานนี้รับรองเอยมีคิวงานเดินแบบยาวแน่ๆ”
“จริงเหรอคะ..ขอบคุณพี่จ๋ามากนะคะที่นึกถึงเอยอยู่ตลอดเลยขอบคุณจริงๆค่ะ”
“จ้า...คนที่รับผิดชอบงานอย่างเอยพี่พร้อมป้อนงานเสมอจะ..โอเคตามนั้นนะส่วนเรื่องรายละเอียดเดี๋ยวพี่ส่งให้ทางเมลนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะพี่จ๋า”
หลังจากวางสายจากจ๊ะจ๋าโมเดลลิ่งที่เธอเคยร่วมงานด้วยเมื่อครั้งที่หารายได้เสริมระหว่างเรียนเธอก็กระโดดโลดเต้นอยู่ในห้องทันทีเพราะยังโชคดีที่ตอนนี้มีโชคช่วยให้เธอพอมีงานพิเศษบ้างคืนนี้หญิงสาวรู้สึกว่านอนหลับสบายเป็นพิเศษเพราะเธอพอจะมีงานเข้ามาบ้างแล้ว
ถึงแม้แต่ละงานมันจะได้เงินไม่เยอะเพราะเธอไม่ได้เป็นนางแบบดังแต่ทุกครั้งที่อยู่บนเวทีเธอก็จะทำเต็มที่เสมอและภูมิใจตัวเองอย่างมากที่สามารถใช้ความสามารถที่มีอยู่ของเธอหาเงินใช้โดยที่ไม่ต้องแบมือขอใคร
เช้าวันต่อมา
“ทำไมมาช้าจังล่ะแก”
พีนัสเพื่อนสาวของเอิงเอยยืนหน้าหงิกงอรอเอิงเอยอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเพราะเอิงเอยมาเลยเวลานัดเกินมาเกือบชั่วโมง
“ก็รถมันติดนี่นาแกจะบ่นอะไนเนี่ยไปๆเข้าไปข้างในกันเถอะ”
พีนัสเป็นคนที่นัดเอิงเอยออกมาข้างนอกเองเพราะตั้งแต่เรียนจบก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลยสองสาวเดินเข้ามาหาอะไรทานกันในร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดังในห้างนี้โดยพีนัสเป็นคนเอ่ยปากที่จะเลี้ยงเอิงเอยเองเพราะรู้อยู่ว่าสถานะทางการเงินของเพื่อนตอนนี้เป็นยังไง
เธอรู้สึกสงสารในโชคชะตาของเพื่อนสาวเธอจริงที่เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยแม่ก็ดันมาเสียตั้งแต่ยังเด็กส่วนพ่อก็มีเมียใหม่เป็นแม่เลี้ยงใจร้ายคอยกดขี่หญิงสาวอยู่อีกขนาดแต่งงานกับคนรวยคนเป็นสามีก็ยังไม่สนใจอีกเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นผ่านมันมาได้ยังไง
“นี่แกกินเยอะๆเลยดูซิเนี่ยผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว...วันๆได้กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่าเนี่ยย”
พีนัสยื่นจานอาหารไปทางฝั่งของเพื่อนสาวเธอจนเต็มไปหมดเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอซูบผอมไปมากจนผิดหูผิดตาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ฉันกินเยอะไม่ได้หรอกแกตอนนี้ฉันต้องรักษาหุ่นเพราะวันจันทร์นี้พี่จ๋าให้ฉันไปเดินแบบ”
“กินเข้าไปเถอะน่าอ้วนกว่านี้นิดนึงคงไม่เป็นอะไรหรอก”
ทั้งสองสาวนั่งทานอาหารกันอยู่สักพักพลันสายตาของพีนัสก็หันไปเจอกับคนที่น่าจะรู้จัก
“แกนั่นสามีแกหรือเปล่า...แล้วเค้ามากับใครอะ”
พีนัสเพ่งไปยังชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่งเลยลองหันมาถามเพื่อนสาวของเธอดูว่าใช่สามีของเพื่อนเธอหรือเปล่าเพราะตอนนี้เขากำลังนั่งทานอาหารอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่น่าจะเป็นนางแบบชื่อดังเลยหละ
“อ๋อ..อืมใช่”
เอิงเอยหันไปมองชายหญิงคู่นั้นอยู่ครู่หนึ่งก็หันกลับมานั่งทานต่อเพราะเธอไม่อยากสนใจอยู่แล้วในเมื่อตัวชายหนุ่มเองยังไม่สนใจเธอเลยทำไมเธอต้องสนใจเขาด้วยแต่เห็นแบบนี้มันก็รู้สึกหน่วงๆอยู่เหมือนกันที่ขนาดเขาแต่งงานกับเธอออกหน้าออกตาแล้วยังมาทานข้าวกับหญิงอื่นซึ่งน่าจะเกรงใจเธอบ้างถ้าคนอื่นเห็นจะว่ายังไง
“เฮ้ย...เค้าทำแบบนี้ได้ไงไอ้ที่ไม่มาดูแลแกฉันพอเข้าใจนะเว้ยว่าแกสองคนไม่ได้รู้จักกันและรักมาก่อนแต่งแต่นี่เล่นควงหญิงอื่นมาทานข้าวข้างนอกนี่มันหยามแกเกินไปแล้วนะ”
พีนัสเห็นว่าสามีของเพื่อนเธอทำกับหญิงสาวเกินไปแบบนี้มันเหมือนไม่ให้เกียรติคนเป็นภรรยาเลยและทั้งคู่ก็ต่างมีหน้ามีตาทางสังคมแล้วคนอื่นเห็นเค้าจะคิดกันยังไง
“ช่างเค้าเถอะแกยังไงฉันกับเค้าก็ไม่ได้เต็มใจแต่งงานกันอยู่แล้วแค่แม่เลี้ยงฉันไปขูดรีดเอาค่าสินสอดจากบ้านเค้าแค่นี้ฉันก็เกรงใจเค้าจะแย่แล้ว”
หญิงสาวพยายามพูดกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอโอเคถึงแม้มันจะเป็นการหลอกตัวเองของเธอไปด้วยก็ตาม
“อืมมๆแกโอเคก็ดีแล้วแต่ถ้าแกไม่สบายใจแกมาอยู่กับฉันก็ได้นะ...”
“เอ่าน่า..ถ้าฉันไม่ไหวฉันบอกแกเป็นคนแรกอยู่แล้วน่า”
เอิงเอยพูดให้เพื่อนเธอสบายใจอีกเช่นเคยคนอย่างเธอหรือจะขอร้องให้ใครช่วยง่ายๆขนาดตอนที่พ่อหญิงสาวเสียใหม่ๆเลี้ยงเธอไม่ให้เงินมาเรียนเธอยังไปรับจ้างหลังเลิกเรียนสารพัดเพื่อที่จะมีเงินมาเรียนเลย
สามวันต่อมาRrrrrr“ค่ะพี่จ๋า”“เอยอยู่ไหนแล้วจ๊ะ”“ตอนนี้เอยอยู่ที่หน้าโรงแรมแล้วค่ะ...กำลังจะขึ้นไปค่ะ”“งั้นเจอกันที่ห้องแต่งตัวเลยนะ”“ค่ะพี่จ๋า”หญิงสาวรีบวิ่งไปขึ้นลิฟท์ของโรงแรมเพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องแต่งตัวทันที“รอด้วยครับ”อัคนีได้รับเชิญให้มาดูงานแฟชั่นโชว์ในวันนี้เมื่อเขาเข้ามาในโรงแรมเห็นว่าลิฟท์ที่จะขึ้นกำลังจะปิดเขาเลยส่งเสียงเพื่อบอกให้คนด้านในกดปุ่มเปิดรอเขาไว้ก่อนเอิงเอยได้ยินเสียงของผู้ชายด้านนอกบอกให้เธอรอก่อนเธอจึงเอื้อมมือกดปุ่มลิฟท์ให้เปิดไว้อย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าคนที่อยู่ด้านนอกน่าจะรีบเหมือนกัน“เอ่อ..พี่หมอ”หญิงสาวถึงกับหน้าเหวอเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในลิฟท์เป็นใครและก็ยังต้องหลบสายตาเขาอีกเพราะตอนนี้เขากำลังควงแขนมากับนางแบบที่เธอเห็นว่าเขานั่งทานข้าวด้วยกันวันนั้น“คุณมาทำอะไรที่นี่”ชายหนุ่มถามหญิงสาวคนที่เป็นภรรยาทางนิตินัยของเขาด้วยความเย็นชาเพราะเขาไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่“คือเอยรับงานเดินแบบที่นี่ไว้น่ะค่ะ”หญิงสาวตอบชายหนุ่มตามความจริงพร้อมหลบสายตาลงต่ำเมื่อคุยกับเขาเพราะเกรงใจหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยอีกอย่างเธอไม่ได้อยากจะมองเท่าไรนัก“ไม่ยักร
“ผมก็ไม่ได้อยากมาที่นี่นักหรอกแค่มีธุระที่จะต้องมาเคลียกับคุณก็เท่านั้น”“....”เอิงเอยทำหน้างงกับคำพูดของชายหนุ่มเข้าไปใหญ่เพราะเธอเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาพูดใส่เธอมันคือเรื่องอะไรแล้วจะมาเคลียอะไรกับเธอ“หยุดทำหน้าใสซื่อได้แล้วคงจะใช้มารยาแบบนี้สินะ...คุณพ่อผมถึงกับจะยกทุกอย่างให้คุณน่ะ”อัคนีกัดฟันกรอดพร้อมเค้นเสียงพูดกับหญิงสาวในใจเขาเองคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่พ่อของเขาบังคับเขานั้นต้องเกิดมาจากหญิงสาวเป็นแน่แต่เธอก็ยังกล้าที่จะทำหน้าใสซื่อไม่รู้ไม่เห็นได้แนบเนียนทำให้เขาโมโหยิ่งขึ้นไปอีก“คะ..!!.พี่หมอหมายถึงอะไรคะเอยไม่เข้าใจ...พี่หมอคงจะเมามากไว้เราค่อยคุยกันทีหลังจะดีกว่าค่ะ..เอยขอตัวนะคะ”เอิงเอยเองเริ่มไม่โอเคกับคำพูดของชายหนุ่มที่เอาแต่ดูถูกแถมยังดูเหมือนจ้องที่จะกัดเธออยู่ตลอดเวลาเธอเห็นว่าชายหนุ่มยังเมาอยู่ถ้าเขายังใช้อารมณ์คุยกับเธอวันนี้ยังไงก็คงไม่รู้เรื่องเธอจึงบอกกับเขาว่าค่อยคุยกันวันหลังพร้อมกับเตรียมที่จะเดินออกไปข้างนอกคิดว่าวันนี้เธอคงต้องไปอาศัยห้องของเพื่อนเธอนอนก่อนแล้วหละ“คุณจะไปไหนผมยังพูดธุระไม่เสร็จ”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวที่เขาต้องการคุยด้วย
หลังจากวันนั้น 1 อาทิตย์เอิงเอยใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดของชายหนุ่มเหมือนเช่นเคยแต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าชายหนุ่มจะมาอยู่ที่นี่กับเธอตามที่เขาพูดในวันนั้นซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสบายใจมาเป็นอาทิตย์หญิงสาวคิดว่าวันนั้นเขาคงจะแค่แกล้งขู่เธอเล่นๆเท่านั้นคนอย่างเขาไม่ชอบหน้าเธอขนาดนั้นคงจะไม่อยากมาอยู่กับเธอสักเท่าไรRrrrrrrr17.00 น.“ค่ะคุณแม่”เอิงเอยทำกับข้าวอยู่ในครัวได้สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าเป็นเบอของใครโชว์ขึ้นมาเธอเองไม่ได้อยากจะรับเลยสักนิดแต่คิดไปคิดมาโดยนิสัยของแม่เลี้ยงเธอแล้วถ้าเธอยังดึงดันที่จะไม่รับอยู่แบบนั้นแม่เลี้ยงใจยักษ์ของเธอคงโทรจิกเธอไม่หยุดเป็นแน่“เอยต้องช่วยแม่ด้วยนะลูกตอนนี้เจ้าหนี้มันจะเอาชีวิตแม่ถ้าแม่ไม่เอาเงินไปให้มันสามแสนภายในคืนนี้...ฮือๆๆๆ”“อะไรนะคะ”เมื่อเอิงเอยได้ยินที่แม่เลี้ยงเธอเอ่ยขึ้นมาเมื่อเธอกดรับสายเธอถึงกับใช้มือกุมขมับทันทีเธอรู้ได้โดยทันทีว่าน้ำเสียงที่แม่เลี้ยงของเธอพูดดีด้วยแบบนี้จะต้องมีเรื่องให้เธอช่วยแน่นอนซึ่งมันก็เป็นแบบที่เธอคิดจริงๆ“แล้วเงินสินสอดของเอยหมดแล้วเหรอคะคุณแม่”หญิงสาวถามถึงเงินสิ
Rrrrrrrr“เบอใครกัน”อัคนีกำลังที่จะขึ้นรถกลับไปที่บ้านของเขาจู่ๆก็มีเบอแปลกโทรเข้ามาคราแรกเขาเองจะไม่รับสายแต่ในใจคิดว่าคนที่โทรมาอาจจะมีธุระด่วนก็ได้“สวัสดีครับผมอัคนีพูดครับ”“สวัสดีค่ะ...คือดิฉันขอไม่ประสงค์ออกนามนะคะแต่ที่จะโทรมาบอกเพราะว่าหวังดีน่ะค่ะ...ฉันรู้มาว่าภรรยาของคุณกำลังเอาเงินที่คุณให้ไปถลุงเล่นในบ่อนการพนันที่XXXเห็นหน้าใสซื่อก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะคะแค่นี้แหละค่ะที่จะโทรมาบอก”เมื่อปลายสายวางไปอัคนีเองถึงกับทำหน้างงทันทีว่าผู้หญิงที่โทรมาต้องการอะไรเขาเองพยายามโทรกลับไปอยู่หลายครั้งก็ไม่ติดเขาเองก็ไม่ได้อยากจะคิดว่าเอิงเอยร้อนรนโทรมาหาเขาเพราะอยากจะได้เงินไปเล่นการพนันหรอกนะแต่อีกใจก็คิดว่าไปดูให้มันรู้กันเลยเพราะตอนนี้เขาเองก็ว่างอยู่แล้วเขาเลยเปลี่ยนเส้นทางการขับรถกลับบ้านไปที่บ่อนการพนันที่ผู้หญิงปริศนาโทรมาบอกทันที“หึสมน้ำหน้าคนอย่างแกจะไม่มีวันได้ดีไปกว่าฉันหรอกนังเอิงเอย”ไอรดานั่งยิ้มกริ่มสะใจที่ปั่นหัวอัคนีได้เธอได้รู้เรื่องที่เอิงเอยยืมเงินอัคนีมาให้แม่ของเธอด้วยความที่ไม่ชอบเอิงเอยอยู่แล้วเธอจึงคิดแผนใส่ร้ายนี้ออกมาอย่างรวดเร็วเพราะต้องการที่จะทำลายชีวิต
“งั้นกลับดีๆนะคะคุณนนท์ขอบคุณมากค่ะ”หลังจากที่ธนนท์เดินออกไปแล้วเอิงเอยก็เดินเอาของไปเก็บโดยที่ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่ยืนทำหน้ายักษ์ใส่เธออยู่“มีผู้ชายมาหาถึงห้องนี่ถ้าผมไม่อยู่นี่คงจะถึงไหนต่อไหนกันแล้วล่ะมั้ง”อัคนีไม่ชอบอาการที่หญิงสาวทำเป็นเมินเขาแทนที่จะบอกกับเขาว่าใครมาหาและมาเพื่ออะไรยิ่งเธอทำเหมือนเขาเป็นหัวหลักหัวตอเขาเองยิ่งโมโหกับการกระทำของเธอ“เฮ้อออ...คุณนนท์เค้าก็แค่เอาเสื้อมาคืนเอยค่ะ”เอิงเอยพยายามใจเย็นพูดกับเขาคราแรกคิดว่าจะไม่ต่อล้อต่อถียงกับเขาแล้วเชียว“หึ!!!..เอาเสื้อมาคืนคงไปถอดไว้มั่วเลยล่ะสิเลยต้องให้ผู้ชายตามเอามาคืนให้”เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มคนนั้นเอาเสื้อมาคืนเธอตอนนี้ในหัวของเขาก็คิดไปไกลแล้วว่าหญิงสาวกับไอ้หน้าอ่อนคนนั้นไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วทำให้เขาอดที่จะค่อนขอดไม่ได้เพราะเขาก็ไม่อยากให้ใครมาหยามเขาเหมือนกันเพียะ“หยุดดูถูกเอยสักทีค่ะพี่หมอ...ถ้าคิดว่าเอยไม่ดีเอยก็หย่ากันไปเถอะค่ะ”หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าไปที่ห้องนอนของตัวเองอยู่แล้วแต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ชายหนุ่มดูถูกเธอจนทนไม่ไหวเธอจึงถึงขนาดฟิวส์ขาดเดินมาตบเขาอย่างแรงเพื่อให้รู้ว่าเอก็มีศักดิ์ศรีใครจะ
เมื่อประชุมเรียบร้อยแล้วอัคนีมาเชคงานอื่นต่ออีกนิดหน่อยแต่เขาเองก็ไม่เป็นอันทำงานเพราะในใจของเขานั้นนึกถึงแต่หญิงสาวว่าเธอตื่นมาแล้วจะเป็นยังไง“เย็นนี้คุณจะทานอะไรไหมเดี๋ยวผมซื้อกลับไป”ชายหนุ่มส่งข้อความหาหญิงสาวทางไลน์เพราะในใจยังระอายในความผิดของตัวเองจึงไม่กล้าที่จะโทรคุยกับเธอสักเท่าไรนักเขารอเธอตอบอยู่สักพักแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวจะตอบกลับมาชายหนุ่มจึงทิ้งงานแล้วรีบขับรถกลับมาหาเธอที่คอนโดทันทีแต่ก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้ออาหารกลับไปด้วยเผื่อว่าหญิงสาวยังไม่มีอะไรทานร้านอาหารXXX“นี่เธอนั่นมันสองแม่ลูกอมรากับไอรดาที่มากู้เงินเธอบ่อยๆนี่..แต่งตัวดีกินของแพงเชียวนะ”“ใช่แล้วเธอกู้ทุกเดือนเลยนะไม่รู้เอาเงินไปทำอะไรหมดเห็นว่าค่าสินสอดของลูกเลี้ยงที่ชื่อหนูเอยสองคนนี้ก็เอามาหมดเลยนะเห็นว่าบ้านก็ยังไม่ได้ไปไถ่คืนเลย”“จริงเหรอเธอ...ฉันเห็นเข้าบ่อนกันประจำเลยนะล่าสุดนี่เห็นเค้าอวดว่าลูกเลี้ยงเขาน่ะมีเงินแถมหนี้พนันทั้งหมดก็ให้ลูกเลี้ยงไปจ่ายอีกด้วย”“นี่คนลูกสาวก็เห็นใช้แต่ของแบรนด์เนมวันๆก็ไม่เห็นจะทำงานอะไรแถมยังได้ข่าวว่าไปเป็นเมียน้อยเสี่ยที่มีเงินอีกด้วยนะ”“ก็อย่างนี้แหละน้อคนมัน
21.00น.“อื้มมม....เอ่อพี่หมอเดี๋ยวเอยไปนอนที่โซฟาก็ได้ค่ะ”เอิงเอยรู้สึกว่าเตียงของเธอมันยวบลงเธอจึงตื่นขึ้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังทิ้งตัวลงนอนเธอเองจึงจะลุกขึ้นไปนอนที่โซฟาแทนเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะนอนไม่สบาย“ไม่ต้องนอนด้วยกันนี่แหละ”อัคนีเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะลุกหนีเขาออกไปจึงเอื้อมมือรั้งเธอมานอนกอดที่เตียงพร้อมปิดไฟนอนหน้าตาเฉยเอิงเอยเองรู้สึกงงกับการกระทำของเขาอยู่เหมือนกันเพราะมันแปลกจนเธอก็คิดไม่ออกว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่กันแน่เธอเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอซึ่งเขาก็มีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเธออยู่แล้วเช้าวันต่อมา“คุณพ่อเรียกเราสองคนมามีอะไรเหรอครับ”แอนเดรียสพ่อของชายหนุ่มโทรหาเขาตั้งแต่เช้าบอกว่ามีธุระให้มาคุยกันที่บ้านทั้งตัวเขาและหญิงสาวด้วย“ทริปฮันนีมูน”เมื่อแอนเดรียสเห็นทั้งสองเดินเข้ามาพร้อมกันแล้วจึงยื่นทริปฮันนีมูนที่ฝรั่งเศสเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ให้กับทั้งคู่“นี่เหรอครับธุระสำคัญของคุณพ่อ...ผมคงไปไม่ได้ครับเพราะงานที่ค้างอยู่ยังกองเต็มอยู่เลย”อัคนีจำต้องกรอกตามองบนที่ให้เขารีบมาด่วนเพราะธุระเรื่องนี้เองเหรอเอิงเอยเห็นสีหน้าชายหนุ่มไม่พอใจก
“อื้ม...”เอิงเอยล้มตัวลงนอนได้ชายหนุ่มก็หันมาประกบจูบหญิงสาวทันทีโดยที่เธอเองไม่ทันตั้งตัวหญิงสาวเองนึกตำหนิเขาในใจไหนเขาบอกกับเธอว่าจะนอนไงไหนเป็นมาตักตวงความสุขที่ตัวเธออีกแล้วล่ะ“อื้อ..พี่หมออ..อื้มม...อื้อ”หญิงสาวร้องครางตามจังหวะบทรักของชายหนุ่มที่ถาโถมเข้ามาในตัวของเธอครั้งนี้เขาอ่อนโยนกับเธอมากแตกต่างจากครั้งแรกทำให้หญิงสาวรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“อื้มมม..เอยย”“อ้ะ..อร้ายยย”ชายหนุ่มพรมจูบหญิงสาวไปทั่วทั้งตัวพร้อมขบเม้มเล่นกับยอดปทุมถันของเธอจนหญิงสาวต้องร้องออกมาเพราะความเสียวตอนนี้ห้องนอนของพวกเขาร้อนไปด้วยไฟรักของทั้งคู่กว่าชายหนุ่มจะปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระก็เกือบเช้าชายหนุ่มตักตวงความสุขจากร่างกายหญิงสาวโดยที่ไม่มีหมดแรงทั้งยังปล่อยสายธารขาวขุ่นไว้ในตัวหญิงสาวทุกหยาดหยดด้วยความหวังว่ายังไงเธอก็ต้องตั้งท้องมีทายาทในเร็วๆนี้แน่นอนเช้าวันต่อมา“เที่ยวให้สนุกนะแกเดี๋ยวฉันออกไปสัมภาษณ์งานก่อน...บายยย”พีนัสโทรคุยกับเอิงเอยแทบจะทุกวันทั้งสองจึงรับรู้การเคลื่อนไหวของกันและกันตลอดวันนี้ก็เช่นกันก่อนที่เอิงเอยจะขึ้นเครื่องไปฮันนีมูนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์หญิงสาวเองก็ขออวยพรให้เพื่อ
“สองคนนั้นแค่เข้าใจผิดกันเท่านั้นเองพี่ว่าเดี๋ยวพวกเค้าก็คงเคลียกันได้และคงจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้แน่นอน”“หมายความว่ายังไงคะพี่หมอ”พีนัสยังคงทำหน้างงกับคำพูดของคนเจ้าเล่ห์เมื่อคืนชายหนุ่มเองได้ฟังความจริงจากปากธนนท์หมดแล้วว่าที่พีนัสคิดว่าธนนท์นอกใจก็เพราะว่าชายหนุ่มคุยไลน์กับหญิงสาวคนอื่นและนัดเจอกันอย่างลับๆอันที่จริงหญิงสาวคนในแชทเป็นเจ้าของร้านแหวนเพชรที่ธนนท์สั่งทำมาเพื่อเซอร์ไพรซ์หญิงสาวเพื่อที่ธนนท์จะขอพีนัสแต่งงานเขาจึงต้องคุยกับหญิงสาวและนัดเจอกันอย่างลับๆก็เท่านั้นเองแต่พีนัสมาเปิดเจอข้อความที่ธนนท์นัดเจอกับหญิงสาวเจ้าของร้านเพชรเสียก่อนทำให้พีนัสโกรธธนนท์และหนีออกมาโดยที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องอีกด้านพีนัสกับธนนท์...“อร้ายยยยย...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”“เดี๋ยวๆที่รักฟังผมก่อน”“ไม่ฟังปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น้า...”พีนัสพอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ก็กรีดร้องโวยวายจะหนีธนนท์อยู่ท่าเดียวทำเอาชายหนุ่มแทบจะรวบตัวไว้ไม่ทัน“อย่ามาแตะตัวฉันไปหาผู้หญิงที่คุณนัดเจอด้วยโน่น...ปล่อย”หญิงสาวยังดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มทั้งที่เธอรู้ตัวว่ายังไงก็สู้แรงของเขาไม่ไหวอยู่แล้วแต่ตอนนี้แม้แต่หน้าชายห
“เอยก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคงต้องรอให้เจ้าตัวมาถึงที่นี่ก่อนแล้วเอยก็คงจะได้คุยแบบละเอียดอีกที”“อืม...ถ้าพีนัสมานอนกับเอยงั้นคืนนี้พี่ก็อดนอนกอดเอยน่ะสิแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย”ชายหนุ่มทำหน้างอนหญิงสาวเล็กน้อยที่คืนนี้เขาจะไม่ได้นอนกอดเธอเหมือนเช่นเคย“ก็แค่คืนเดียวนี่คะ...ไม่สงสารเพื่อนเอยหรือไงคะ”“พี่ก็เห็นใจพีนัสนะเอย...แต่พี่ก็อยากนอนกอดเอยนี่นา...”ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนหญิงสาวพร้อมกับซุกลงนอนที่ตักของเธอ“นะคะ...คืนเดียวเองนะคะพี่หมอยังไงเราก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่คะ”“เฮ้อ...โอเคๆ...”กว่าชายหนุ่มจะเลิกทำหน้าบูดได้เล่นเอาหญิงสาวก็พูดหว่านล้อมอยู่หลายรอบหญิงสาวเองก็ไม่เข้าใจว่าสามีเธอจะติดอะไรเธอนักหนา22.00 น.หลังจากที่พีนัสมาถึงที่คอนโดของและเข้าไปในห้องกับภรรยาเขาเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจำต้องหอบผ้าห่มสำรองในตู้มาห่อมนอนที่โซฟาด้านนอกชายหนุ่มนอนพลิกไปพลิกมาเพราะเขาไม่ได้นอนกอดร่างหอมๆของภรรยาของเขาทำให้ชายหนุ่มเองนอนไม่หลับ“ต้องใช้วิธีนี้สินะ”ชายหนุ่มนอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปมาได้สักพักก็ยังข่มตานอนหลับลงไม่ได้จู่ๆเขาก็คิดวิธีการที่จะได้กลับมานอนกอดหญิงสาวในคืนนี้ดังเดิมออกเ
“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”ชายหนุ่มพูดพร้อมหอมไปที่แก้มคนเป็นภรรยาหนึ่งทีแบบฟอดใหญ่ๆพร้อมวางหญิงสาวลงที่ตียงนอนแล้วเขาจึงเดินไปจัดแจงหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวหญิงสาวแทนที่จะให้เธออาบน้ำเพราะตอนนี้เขายังรู้สึกว่าหญิงสาวยังอ่อนแออยู่ถ้าขืนให้เออาบน้ำเธออาจจะไม่สบายเพิ่มเอาได้“ยิ้มอะไรเหรอเอย”ชายหนุ่มที่กำลังนั่งเช็ดตัวให้ภรรยาของเขาอยู่เมื่อมองหน้าหญิงสาวทีไรก็เห็นเธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ทุกทีเขาจึงเอ่ยถามเพื่อที่อยากจะรู้ว่าตอนนี้ภรรยาเขาคิดอะไรอยู่“เอยไม่คิดว่าเราสองคนจะมีวันนี้ไงคะ...วันที่พีหมอจะรักและดูแลเอยดีขนาดนี้”“เมื่อก่อนเอยคงจะมองพี่ไม่ดีมากเลยสินะ...พี่เองก็ไม่คิดว่าคนที่พีมีอคติด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักจะทำให้พี่รักได้มากมายขนาดนี้”ชายหนุ่มตอบพร้อมสวมกอดหญิงสาวเอาไว้พร้อมลูบหัวเธออย่างเอ็นดูเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้กับหญิงสาวได้เหมือนกันแต่วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดคราแรกเลยสักนิด“ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตกันอีกแล้วนะอะไรไม่ดีก็ให้มันผ่านไปเรากำลังจะมีเจ้าตัวน้อยด้วยกันต่อไปนี้พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลเอยและลูกให้ดีที่สุดขอแค่เอยเชื
“หึ..ฉลาดนี่ที่จำฉันได้ก็เพราะว่าฉันเกลียดแกไง...เกลียดที่แกมีชีวิตที่ดีกว่าฉัน...เกลียดทุกอย่างที่เป็นแก”ไอรดามองเอิงเอยด้วยแววตาที่เชือดเฉือนและเกลียดชังพร้อมพูดเน้นคำทุกคำที่เกลียดหญิงสาวให้ได้ฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ“โอ้ยยย...”“คนอย่างแกมันไม่สมควรที่จะได้ดีกว่าฉันรู้เอาไว้ด้วย”ไอรดากระชากผมหญิงสาวที่โดนมัดอยู่จนหญิงสาวต้องแหงนหน้าขึ้นเพราะแรงกระชากพร้อมตวาดใส่หญิงสาวอย่างเกลียดชัง“นายน้อยครับเดี๋ยวพวกผมจะกระจายไปรอบๆโกดังแต่เท่าที่สังเกตแล้วผมว่าพวกมันน่าจะมีไม่เยอะเท่าไรแถมยังเหมือนเป็นโจรกระจอกอีกด้วยเพราะระบบป้องกันยังไม่ดีเท่าไรดูจากการที่ไม่มีคนมาเฝ้าที่ต้นทาง”“ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกันงั้นฉันจะเข้าไปก่อนถ้าฉันต้องการความช่วยเหลือฉันจะส่งสัญญาณไป”“โอเคครับ”อัคนีและลูกน้องฝีมือดีของพ่อเขาอีกสี่ห้าคนเดินทางมาถึงจุดนัดหมายในข้อความที่ส่งมาเรียบร้อยแล้วเมื่อดูราดราวว่ากลุ่มคนพวกที่จับหญิงสาวมาน่าจะไม่ใช่พวกมืออาชีพสักเท่าไรทำให้ชายหนุ่มโล่งใจไปอีกเปราะเขาคิดว่างานนี้คงจะไม่ยาก“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะถ้าอยากได้เงินก็มาเอาไป”อัคนีเดินดุ่มๆเข้ามาที่ในโกดังโดยที่เขาสังเกตได้ว่าพว
ไอรดาคับแค้นใจอย่างมากที่ชีวิตของเธอตกต่ำกว่าเอิงเอยทั้งที่เมื่อก่อนเธอเหนือกว่าทุกอย่างยิ่งเห็นเอิงเอยมีความสุขมากเท่าไรเธอเองก็ยิ่งเกลียดหญิงสาวมากเท่านั้นในเมื่อเธอไม่มีความสุขคนอย่างเอิงเอยก็อย่าหวังว่าจะมีความสุขเลยเธอคิดในใจตอนนี้ความคับแค้นมันจุกอยู่ในอกเธอต้องยอมเป็นเมียเสี่ยแก่ๆที่รุ่นราวคราวพ่อของเธอก็เพราะเงินแถมยังต้องอดทนให้ชายแก่ตบตีอีกต่างหากเพียงเพราะว่าเงินคำเดียวตอนนี้เธอคิดแผนที่จะหาทางออกได้แล้วในเมื่อสายตาเธอเห็นว่าสามีของเอิงเอยดูจะรักเอิงเอยมากเป็นพิเศษแล้วถ้าเมียหายไปทั้งคนให้เอาอะไรมาแลกก็น่าจะยอมอีกด้วยถ้าเธอเรียกเงินจากชายหนุ่มได้เธอก็คงจะไม่ต้องทนอยู่กับชายแก่คราวพ่อนี่อีกต่อไปหลายวันต่อมา“วันนี้พี่น่าจะกลับดึกนะเอยไม่ต้องทำอาหารเผื่อพี่นะ”“ค่ะพี่หมอ...”ชายหนุ่มบอกกับคนเป็นภรรยาที่ยืนผูกเนคไทให้กับเขาอยู่วันนี้เขาผูกเนคไทสีที่หญิงสาวเลือกให้เพราะอยากรู้สึกว่ามีภรรยาตัวเองอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาเพราะว่าวันนี้หญิงสาวไม่ได้ตามเขาไปด้วยนั่นเองวันนี้ชายหนุ่มต้องไปดูงานหลายที่เขากลัวว่าถ้าเธอตามเขาไปแล้วจะเหนื่อยไม่อย่างนั้นเขาคงหิ้วเธอไปอีกเช่นเคยเป็นแน่จุ้บ“พี
“อืมม...พี่ก็หิวนะแต่เดี๋ยวพี่รอทานตอนเที่ยงก็ได้”“ก็ดีค่ะพี่หมอทานอาหารให้ตรงเวลาดีกว่านะคะ..”เอิงเอยนั่งอ่านหนังสือในห้องของอัคนีพร้อมเดินเล่นไปมาเพราะว่าไม่มีอะไรทำเธอขอชาหนุ่มช่วยงานแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอทำเธอต้องหาอะไรทำแก้เซ็งไปเรื่อยเช่นอ่านหนังสือบางครั้งเธอก็หิ้วเอาไหมพรมมานั่งถักเล่นไปเรื่อยๆก๊อกๆๆๆๆ“คุณเอยคะมีขนมจากคุณน้ำเมยส่งมาให้ค่ะ”“ขอบคุณค่ะคุณวิ”เอิงเอยเดินไปรับกล่องขนมจากวิภาวีเลขาของชายหนุ่มเธอเองหลังจากที่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เธอก็ยังติดต่อกับน้ำเมยอยู่ตลอดถึงแม้ว่าน้ำเมยจะไม่ค่อยมีเวลาคุยกับเธอก็เถอะนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอบ่นให้พี่สาวเธอฟังว่าอยากทานขนมฝีมือของน้ำเมยอีกทำให้วันนี้เธอก็ได้ทานสมใจแล้ว“คุณน้ำเมยส่งขนมมาให้อีกแล้วเหรอเอย”อัคนีเห็นวิภาวีส่งกล่องให้เอิงเอยเขาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นน้ำเมยที่ส่งขนมมาให้เอิงเอยและเขาอีกเป็นแน่“ใช่ค่ะ...พี่หมอทานไหมคะเดี๋ยวเอยใส่จานให้”เอิงเอยเห็นสีหน้าของชายหนุ่มก็รู้ว่าเขาอยากทานขนมในกล่องเพียงใดเพราะครั้งก่อนเจ้าตัวเล่นทานเกือบหมดภายในครั้งเดียวแถมเอ่ยปากชมไม่หยุดว่าอร่อยแบบที่ไม่เคยทานแถมฝีมือแบบนี้สู้กับเชฟตามโ
อัคนีทำหน้าตาสงสัยเพราะว่าก่อนที่เธอจะหนีเขามาเธอไม่ได้เรียกเขาแบบนี้สรรพนามที่เธอเรียกเขามันแปลกไปทำให้เขาเริ่มแปลกใจมากขึ้น“เอ่อ..คุณมาทำอะไรที่นี่”เอิงเอยรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ไม่สงสัย“เมียพี่หนีทั้งคนพี่ก็ต้องมาตามสิ”ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเขายังรู้สึกไม่พอใจหญิงสาวอยู่เหมือนกันที่หนีเขามาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว(อันที่จริงถ้าบอกก็คงไม่เรียกว่าหนีสินะ)เขาคิดในใจ“ไม่ได้หนีแค่ไม่อยากอยู่ด้วยแล้วคุณก็กลับไปได้แล้ว”เอิงเอยรู้สึกหน่วงที่หัวใจแปลกๆกับคำที่เขาใช้เรียกเธอหญิงสาวไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้เธอนานกว่านนี้เพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าหัวใจของเธอนั้นมันจะยอมอ่อนให้กับเขาอีกเพราะตอนนี้เธอกำลังจะใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้เกือบจะดีแล้วเธอจึงต้องรีบเอ่ยปากไล่เขากลับ“ทำไมเอย...ทำไมต้องหนีพี่มาด้วยถึงเอยจะจำพี่ไม่ได้แต่ว่ามันก็มีทางรักษายังไงพี่ก็จะพาเอยกลับไปกับพี่ให้ได้”อัคนีเอ่ยกับหญิงสาวเสียงแข็งพร้อมเข้าไปกอดหญิงสาวไว้อย่างแนบแน่นเพราะรู้สึกไม่พอใจที่หญิงสาวเอาแต่ไล่เขาในขณะที่เขาคิดถึงเธออย่างสุดหัวใจและอยากจะพาเธอกลับไปอยู่ด้วย“ปล่อยเอยเดี๋ยวนี้นะทำไมเป็นคน
“ขนมหวานไหมคะ...ขนมฝีมือพี่น้ำเมยอร่อยๆเลยค่า”“ตะโกนแบบนั้นเดี๋ยวก็เจ็บคอหมดหรอกเอย”เอิงเอยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วร้องขายขนมหวานไม่ขาดปากจนน้ำเมยเองต้องปรามเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเจ็บคอเสียก่อนที่ขนมจะขายหมดตั้งแต่เอิงเอยย้ายมาอยู่ที่นี่และชีวิตของเธอก็ขลุกอยู่กับการทำขนมหวานและการพูดคุยกับน้ำเมยอีกอย่างคนที่นี่ก็ใจดีมาทักทายคนมาอยู่ใหม่อย่างเธอไม่ขาดสายทำให้ตอนนี้หญิงสาวดูสดใสขึ้นอย่างมากภาพของสองสาวที่สวยกันทั้งคู่มายืนขายขนมในตอนเช้าทุกวันเป็นที่เลื่องลือของผู้คนแถบนั้นอย่างมากทำให้ผู้คนต่างมาซื้อขนมของเธอไม่ขาดสายเพราะขนมที่อร่อยด้วยและแม่ค้าก็ยังน่ามองอีกต่างหาก1 อาทิตย์ต่อมา 18.00 น.“เอย”อัคนีนั่งดื่มอยู่ที่คอยโดของเขามือเขาเองนั่งเลื่อนหน้ามือถือไปมาดูรูปของหญิงสาวและตัวเขาเองที่เคยถ่ายด้วยกันจู่ๆอีเมลของนักสืบที่เขาจ้างมาตามหาตัวหญิงสาวก็เด้งขึ้นมาปรากฎรูปของหญิงสาวและพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงอีกครั้งอย่างมีความหวังชายหนุ่มรีบวางแก้วน้ำเมาในมือลงพร้อมเตรียมตัวออกไปหาเธอตามที่นักสืบส่งพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวมาให้ทันทีเช้าวันต่อมา“อย่าคิดว่าจะหนีพี่พ้นเลยเอย
ตอนนี้เขาทรุดนั่งลงกับพื้นท่าคุกเข่ามือของเขากำจดหมายแน่นน้ำตาลูกผู้ชายของเขาไหลพรั่งพรูมาอย่างหยุดไม่ได้ตอนนี้หัวใจเขาสลายเขาเข้าใจว่าหญิงสาวทำแบบนี้เพื่ออะไรในเมื่อเขาทำดีกับเธอทุกอย่างแต่เธอกลับไม่เห็นค่าอะไรเลย“ทำแบบนี้กับพี่ทำไม...เอยพี่รักเอย...เอยหนีพี่ไปทำไม...”หลังจากนั่งฟูมฟายอยู่ได้พักใหญ่ชายหนุ่มก็ขับรถออกจากคอนโดเพื่อไปที่บาร์เขาคิดว่าบางทีความเมามันอาจทำให้เขาลืมเรื่องนี้ได้ชั่วพักชั่วครู่ก็ยังดีตัวเขาเองรู้ดีว่าแอลกอฮอล์มันไม่ได้ดีต่อสุขภาพกายของเขาแต่สุขภาพใจของเขาตอนนี้ต้องการมันเยียวยาอย่างมาก“น้องเอามาอีกขวด”อัคนีตอนนี้เริ่มเมาไม่ได้สติเขาเรียกหาแต่เครื่องดื่มมึนเมาหวังว่ามันจะทำให้ลืมเรื่องวันนี้ได้แต่ยิ่งดื่มเหมือนเรื่องราวมันยิ่งวนซ้ำกลับมาให้เขาได้คิดยิ่งคิดก็ยิ่งต้องดื่ม“พอได้แล้วมั้ง”ภูผาได้รับสายจากแอนเดรียสว่าให้มาดูชายหนุ่มที่บาร์ที่นี่เพราะแอนเดรียสรู้ว่ายังไงลูกชายของเขาก็ต้องกำลังหาอะไรย้อมใจแน่นอนเมื่อภูผามาถึงก็เห็นเพื่อนของเขาเล่นกระดกทีเดียวหมดแก้วแล้วหมดแก้วอีกจนตอนนี้เขาถึงต้องกับยกมือห้ามไม่ให้ชายหนุ่มดื่มต่อ“ปล่อย...ฉันจะดื่ม”อัคนีพูดด้วย