“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”
ชายหนุ่มพูดพร้อมหอมไปที่แก้มคนเป็นภรรยาหนึ่งทีแบบฟอดใหญ่ๆพร้อมวางหญิงสาวลงที่ตียงนอนแล้วเขาจึงเดินไปจัดแจงหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวหญิงสาวแทนที่จะให้เธออาบน้ำเพราะตอนนี้เขายังรู้สึกว่าหญิงสาวยังอ่อนแออยู่ถ้าขืนให้เออาบน้ำเธออาจจะไม่สบายเพิ่มเอาได้
“ยิ้มอะไรเหรอเอย”
ชายหนุ่มที่กำลังนั่งเช็ดตัวให้ภรรยาของเขาอยู่เมื่อมองหน้าหญิงสาวทีไรก็เห็นเธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ทุกทีเขาจึงเอ่ยถามเพื่อที่อยากจะรู้ว่าตอนนี้ภรรยาเขาคิดอะไรอยู่
“เอยไม่คิดว่าเราสองคนจะมีวันนี้ไงคะ...วันที่พีหมอจะรักและดูแลเอยดีขนาดนี้”
“เมื่อก่อนเอยคงจะมองพี่ไม่ดีมากเลยสินะ...พี่เองก็ไม่คิดว่าคนที่พีมีอคติด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักจะทำให้พี่รักได้มากมายขนาดนี้”
ชายหนุ่มตอบพร้อมสวมกอดหญิงสาวเอาไว้พร้อมลูบหัวเธออย่างเอ็นดูเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้กับหญิงสาวได้เหมือนกันแต่วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดคราแรกเลยสักนิด
“ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตกันอีกแล้วนะอะไรไม่ดีก็ให้มันผ่านไปเรากำลังจะมีเจ้าตัวน้อยด้วยกันต่อไปนี้พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลเอยและลูกให้ดีที่สุดขอแค่เอยเชื่อใจพี่เท่านั้น”
“ขอบคุณนะคะพี่หมอ”
หญิงสาวกระชับกอดชายหนุ่มแน่นขึ้นเพราะตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอมีความสุขเหลือเกินมันเหมือนฝันที่เธอคิดว่ามันไม่มีวันเป็นจริงแต่มันคือเรื่องจริงที่เธออยู่กับมันในตอนนี้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างมากที่อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มเธอไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรแต่ตอนนี้เธอขอเก็บความสุขให้มากที่สุดก็พอใจแล้วต่อไปนี้เธอเองก็กำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียทีสินะ
หลายวันต่อมา
ห้างสรรพสินค้า
“อืมพี่หมอคะเอยว่าเอยเห็นพีนัสเดินไปทางด้านโน้นค่ะ...เดี๋ยวเอยมานะคะ”
วันนี้เป็นวันหยุดอัคนีจึงพาเอิงเอยมาเลือกซื้อของใช้ในห้างสรรพสินค้าหญิงสาวเดินมาได้สักพักก็สังเกตุเห็นผู้หญิงคนนึงเดินอยู่กับผู้ชายอีกคนท่าทางคุ้นๆแม้เธอจะมองผู้หญิงคนนั้นจากด้านหลังแต่เธอเองก็คิดว่าน่าจะเดาถูกว่าคนที่กำลังเดินจูงมือกับผู้ชายอยู่คือเพื่อนของเธอแน่นอน
“ให้พี่ไปด้วยไหมเอย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะเอยแค่อยากจะไปดูให้แน่ใจเท่านั้นค่ะว่าใช่ยัยพีนัสจริงหรือเปล่า”
หญิงสาวพูดกับสามีของเธอแต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ชายหญิงคู่นั้นกำลังเดินกุมมือกันอยู่พร้อมรีบเดินตามสองคนนั้นไปทันที
“พีนัส...คุณนนท์”
เอิงเอยเดินเข้าไปใกล้ๆชายหญิงทั้งสองคราแรกเธอกะว่าจะเดินเข้าไปทักแต่เมื่อเห็นทั้งสองหวานกันโดนไม่สนใจคนรอบข้างเธอเลยขอไม่เข้าไปยุ่งดีกว่าแต่หญิงสาวกะว่าจะไม่เก็บความสงสัยว่าสองคนนี้ไปมีสัมพันธ์กันตั้งแต่ตอนไหนยังไงวันนี้เธอก็จะต้องโทรถามเพื่อนเธอให้รู้เรื่องให้ได้แต่ตอนนี้เธอแค่ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะหวานของทั้งสองคนเท่านั้นเอง
“เจอพีนัสแล้วเหรอเอย..ทำไมกลับมาไวจัง”
อัคนียืนเลือกผักสดอยู่ที่แผนกของสดเมื่อเห็นว่าภรรยาของเขากลับมาอย่างรวดเร็วก็นึกแปลกใจว่าทำไมเจอเพื่อนทั้งทีถึงอยู่คุยกันแค่แปปเดียว
“เจอค่ะแต่ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะยัยพีนัสเท่าไร”
“ทำไมล่ะเอย”
“ก็เพื่อนเอยน่าจะมากับคนรักน่ะค่ะ”
“อ๋อพี่เข้าใจแล้ว...”
อัคนีถึงกับอมยิ้มพร้อมเข้าใจทันทีว่าทำไมหญิงสาวถึงได้กลับมาเร็วนักเขาคิดว่าหญิงสาวทำถูกแล้วที่ไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะเวลาหวานของใครเพราะถ้าเป็นเขาเองก็คงจะหมดอารมณ์น่าดูเมื่อมีคนมายุ่งตอนที่เขากำลังสวีทกับหญิงสาวอยู่
เมื่อเลือกซื้อของเรียบร้อยแล้วอัคนีจึงพาหญิงสาวกลับทันทีเพราะเขาเองไม่อยากให้หญิงสาวเดินเยอะเท่าไรนักเพราะกลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งเพราะอยู่ข้างนอกนานทำให้เอิงเอยรู้สึกเซ็งอยู่ไม่น้อยที่มาข้างนอกได้แปปเดียวก็ต้องกลับอีกแล้วเพราะความเป็นห่วงเธอเกินเหตุของชายหนุ่มอย่างเดียวเลยแต่กระนั้นหญิงสาวก้ตองทำตามเขาอยู่ดีเพราะถ้าเธอนึกขัดขืนคนเป็นสามีของเธอก็จะหยิบยกเรื่องผลเสียของการเดินมากหรือมลพิษข้างนอกให้เธอฟังอีกเป็นแน่
คอนโดXXX
21.00 น.
RRrrrrrr
“ว่าไงพีนัสฉันกำลังจะโทรหาแกอยู่พอดีเลยวันนี้ฉันเห็นแกเดินจูงมือกับคุณนนท์อยู่ที่ห้างด้วยแหละมันยังไงไหนเล่ามาให้ฉันฟังด่วนเลย”
เอิงเอยที่กำลังเตรียมตัวจะเข้านอนเมื่อเห็นว่าเป็นพีนัสโทรมาเธอก็กดรับสายทันทีพร้อมตั้งคำถามให้กับเพื่อนสาวเธอทันทีด้วยความที่คาใจตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว
“ฮึกๆๆ..ฮือๆๆ...เอยยยย..ฮือๆๆ”
“เดี๋ยวๆใจเย็นๆนี่แกเป็นอะไร”
เอิงเอยยังไม่ทันได้คำตอบอะไรจากพีนัสก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวร้องให้สะอึกสะอื้นมาก่อนทำเอาเธอรู้สึกใจเสียที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเธอ
“คุณนนท์เค้านอกใจฉันอะแก...เดี๋ยวฉันขอไปหาแกที่คอนโดนะเอย”
“โอเคแกแล้วค่อยมาคุยกันใจเย็นๆก่อน”
หลังจากที่เอิงเอยวางสายจากพีนัสแล้วหญิงสาวก็มีสีหน้าที่เป็นกังวลทันทีไม่รู้ว่าเพื่อนสาวของเธอมีปัญหาอะไรกับธนนท์แต่คิดว่าอีกสักพักคงได้รู้ตอนนี้เธอภาวนาว่าอย่าให้มันเป็นเรื่องร้ายแรงอะไรเลยเพราะอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เพื่อนสาวเธอคิดไปก็ได้
“พี่หมอคะคือว่าวันนี้พีนัสน่าจะมานอนกับเอยค่ะ....เพื่อนเอยน่าจะอยู่ในอาการที่อกหัก”
เอิงเอยบอกกับสามีของเธอด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวลเพราะตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงควารู้สึกของเพื่อนเธอเหลือเกินเธอเข้าใจเลยว่าอาการอกหักมันเป็นอย่างไรเพราะเธอเคยผ่านมันมาแล้ว
“หืม...อกหักไหนเมื่อกลางวันเอยยังบอกว่าพีนัสเค้าหวานกับแฟนอยู่เลยล่ะ”
ชายหนุ่มรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย
“เอยก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคงต้องรอให้เจ้าตัวมาถึงที่นี่ก่อนแล้วเอยก็คงจะได้คุยแบบละเอียดอีกที”“อืม...ถ้าพีนัสมานอนกับเอยงั้นคืนนี้พี่ก็อดนอนกอดเอยน่ะสิแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย”ชายหนุ่มทำหน้างอนหญิงสาวเล็กน้อยที่คืนนี้เขาจะไม่ได้นอนกอดเธอเหมือนเช่นเคย“ก็แค่คืนเดียวนี่คะ...ไม่สงสารเพื่อนเอยหรือไงคะ”“พี่ก็เห็นใจพีนัสนะเอย...แต่พี่ก็อยากนอนกอดเอยนี่นา...”ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนหญิงสาวพร้อมกับซุกลงนอนที่ตักของเธอ“นะคะ...คืนเดียวเองนะคะพี่หมอยังไงเราก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่คะ”“เฮ้อ...โอเคๆ...”กว่าชายหนุ่มจะเลิกทำหน้าบูดได้เล่นเอาหญิงสาวก็พูดหว่านล้อมอยู่หลายรอบหญิงสาวเองก็ไม่เข้าใจว่าสามีเธอจะติดอะไรเธอนักหนา22.00 น.หลังจากที่พีนัสมาถึงที่คอนโดของและเข้าไปในห้องกับภรรยาเขาเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจำต้องหอบผ้าห่มสำรองในตู้มาห่อมนอนที่โซฟาด้านนอกชายหนุ่มนอนพลิกไปพลิกมาเพราะเขาไม่ได้นอนกอดร่างหอมๆของภรรยาของเขาทำให้ชายหนุ่มเองนอนไม่หลับ“ต้องใช้วิธีนี้สินะ”ชายหนุ่มนอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปมาได้สักพักก็ยังข่มตานอนหลับลงไม่ได้จู่ๆเขาก็คิดวิธีการที่จะได้กลับมานอนกอดหญิงสาวในคืนนี้ดังเดิมออกเ
“สองคนนั้นแค่เข้าใจผิดกันเท่านั้นเองพี่ว่าเดี๋ยวพวกเค้าก็คงเคลียกันได้และคงจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้แน่นอน”“หมายความว่ายังไงคะพี่หมอ”พีนัสยังคงทำหน้างงกับคำพูดของคนเจ้าเล่ห์เมื่อคืนชายหนุ่มเองได้ฟังความจริงจากปากธนนท์หมดแล้วว่าที่พีนัสคิดว่าธนนท์นอกใจก็เพราะว่าชายหนุ่มคุยไลน์กับหญิงสาวคนอื่นและนัดเจอกันอย่างลับๆอันที่จริงหญิงสาวคนในแชทเป็นเจ้าของร้านแหวนเพชรที่ธนนท์สั่งทำมาเพื่อเซอร์ไพรซ์หญิงสาวเพื่อที่ธนนท์จะขอพีนัสแต่งงานเขาจึงต้องคุยกับหญิงสาวและนัดเจอกันอย่างลับๆก็เท่านั้นเองแต่พีนัสมาเปิดเจอข้อความที่ธนนท์นัดเจอกับหญิงสาวเจ้าของร้านเพชรเสียก่อนทำให้พีนัสโกรธธนนท์และหนีออกมาโดยที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องอีกด้านพีนัสกับธนนท์...“อร้ายยยยย...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”“เดี๋ยวๆที่รักฟังผมก่อน”“ไม่ฟังปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น้า...”พีนัสพอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ก็กรีดร้องโวยวายจะหนีธนนท์อยู่ท่าเดียวทำเอาชายหนุ่มแทบจะรวบตัวไว้ไม่ทัน“อย่ามาแตะตัวฉันไปหาผู้หญิงที่คุณนัดเจอด้วยโน่น...ปล่อย”หญิงสาวยังดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มทั้งที่เธอรู้ตัวว่ายังไงก็สู้แรงของเขาไม่ไหวอยู่แล้วแต่ตอนนี้แม้แต่หน้าชายห
เกริ่นหลังแต่งงานเขาก็ปล่อยให้เธออยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยที่เขาเองก็มีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างกาย แต่จู่ๆ เขาก็กลับมาพร้อมกลับทวงสิทธิ์ความเป็นสามีและประกาศว่าจะมีทายาทกับเธอ...ตั้งแต่พ่อของเอิงเอยเสียหญิงสาวก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจการดูแลของแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอมาตลอดซ้ำยังโดนกดขี่จากพี่สาวลูกติดของแม่เลี้ยงของเธอและนี่ก็เป็นอีกครั้งที่บ้านเธอจะต้องล้มละลายเพราะฝีมือการผลาญเงินของสองแม่ลูกนั่นทำให้เธอต้องโดนแม่เลี้ยงบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อเธอที่เคยหมั้นหมายกันไว้คนที่อายุห่างกับเธอเป็นสิบกว่าปีทั้งที่เธอไม่เคยเห็นหน้าเธอจำเป็นต้องแต่งเพื่อที่จะมีค่าสินสอดมาใช้หนี้ที่บ้านของเธอเมื่อแต่งงานกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเขาก็พาเธอมาอยู่ที่คอนโดของเขาและตั้งแต่นั้นมาเป็นเดือนแล้วเธอก็ไม่เคยเจอกับเขาอีกเลยเธอเข้าใจดีว่าชายหนุ่มก็คงจะโดนบังคับมาเหมือนกันแต่ก็ดีสำหรับเธอไปอีกอย่างที่ทั้งพ้นจากการปกครองของแม่เลี้ยงใจร้ายแถมอยู่ที่คอนโดที่นี่คนเดียวอย่างมีความสุขอีกต่างหากแต่แล้ววันดีคืนดีจู่ๆเขาบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่พร้อมขอมาใช้สิทธิ์ความเป็นสามีและยืนยันว่าจะทำให้เธอมีทายาทให้เขาให้ได้เพรา
สามวันต่อมาRrrrrr“ค่ะพี่จ๋า”“เอยอยู่ไหนแล้วจ๊ะ”“ตอนนี้เอยอยู่ที่หน้าโรงแรมแล้วค่ะ...กำลังจะขึ้นไปค่ะ”“งั้นเจอกันที่ห้องแต่งตัวเลยนะ”“ค่ะพี่จ๋า”หญิงสาวรีบวิ่งไปขึ้นลิฟท์ของโรงแรมเพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องแต่งตัวทันที“รอด้วยครับ”อัคนีได้รับเชิญให้มาดูงานแฟชั่นโชว์ในวันนี้เมื่อเขาเข้ามาในโรงแรมเห็นว่าลิฟท์ที่จะขึ้นกำลังจะปิดเขาเลยส่งเสียงเพื่อบอกให้คนด้านในกดปุ่มเปิดรอเขาไว้ก่อนเอิงเอยได้ยินเสียงของผู้ชายด้านนอกบอกให้เธอรอก่อนเธอจึงเอื้อมมือกดปุ่มลิฟท์ให้เปิดไว้อย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าคนที่อยู่ด้านนอกน่าจะรีบเหมือนกัน“เอ่อ..พี่หมอ”หญิงสาวถึงกับหน้าเหวอเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในลิฟท์เป็นใครและก็ยังต้องหลบสายตาเขาอีกเพราะตอนนี้เขากำลังควงแขนมากับนางแบบที่เธอเห็นว่าเขานั่งทานข้าวด้วยกันวันนั้น“คุณมาทำอะไรที่นี่”ชายหนุ่มถามหญิงสาวคนที่เป็นภรรยาทางนิตินัยของเขาด้วยความเย็นชาเพราะเขาไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่“คือเอยรับงานเดินแบบที่นี่ไว้น่ะค่ะ”หญิงสาวตอบชายหนุ่มตามความจริงพร้อมหลบสายตาลงต่ำเมื่อคุยกับเขาเพราะเกรงใจหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยอีกอย่างเธอไม่ได้อยากจะมองเท่าไรนัก“ไม่ยักร
“ผมก็ไม่ได้อยากมาที่นี่นักหรอกแค่มีธุระที่จะต้องมาเคลียกับคุณก็เท่านั้น”“....”เอิงเอยทำหน้างงกับคำพูดของชายหนุ่มเข้าไปใหญ่เพราะเธอเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาพูดใส่เธอมันคือเรื่องอะไรแล้วจะมาเคลียอะไรกับเธอ“หยุดทำหน้าใสซื่อได้แล้วคงจะใช้มารยาแบบนี้สินะ...คุณพ่อผมถึงกับจะยกทุกอย่างให้คุณน่ะ”อัคนีกัดฟันกรอดพร้อมเค้นเสียงพูดกับหญิงสาวในใจเขาเองคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่พ่อของเขาบังคับเขานั้นต้องเกิดมาจากหญิงสาวเป็นแน่แต่เธอก็ยังกล้าที่จะทำหน้าใสซื่อไม่รู้ไม่เห็นได้แนบเนียนทำให้เขาโมโหยิ่งขึ้นไปอีก“คะ..!!.พี่หมอหมายถึงอะไรคะเอยไม่เข้าใจ...พี่หมอคงจะเมามากไว้เราค่อยคุยกันทีหลังจะดีกว่าค่ะ..เอยขอตัวนะคะ”เอิงเอยเองเริ่มไม่โอเคกับคำพูดของชายหนุ่มที่เอาแต่ดูถูกแถมยังดูเหมือนจ้องที่จะกัดเธออยู่ตลอดเวลาเธอเห็นว่าชายหนุ่มยังเมาอยู่ถ้าเขายังใช้อารมณ์คุยกับเธอวันนี้ยังไงก็คงไม่รู้เรื่องเธอจึงบอกกับเขาว่าค่อยคุยกันวันหลังพร้อมกับเตรียมที่จะเดินออกไปข้างนอกคิดว่าวันนี้เธอคงต้องไปอาศัยห้องของเพื่อนเธอนอนก่อนแล้วหละ“คุณจะไปไหนผมยังพูดธุระไม่เสร็จ”เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวที่เขาต้องการคุยด้วย
หลังจากวันนั้น 1 อาทิตย์เอิงเอยใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดของชายหนุ่มเหมือนเช่นเคยแต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าชายหนุ่มจะมาอยู่ที่นี่กับเธอตามที่เขาพูดในวันนั้นซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสบายใจมาเป็นอาทิตย์หญิงสาวคิดว่าวันนั้นเขาคงจะแค่แกล้งขู่เธอเล่นๆเท่านั้นคนอย่างเขาไม่ชอบหน้าเธอขนาดนั้นคงจะไม่อยากมาอยู่กับเธอสักเท่าไรRrrrrrrr17.00 น.“ค่ะคุณแม่”เอิงเอยทำกับข้าวอยู่ในครัวได้สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าเป็นเบอของใครโชว์ขึ้นมาเธอเองไม่ได้อยากจะรับเลยสักนิดแต่คิดไปคิดมาโดยนิสัยของแม่เลี้ยงเธอแล้วถ้าเธอยังดึงดันที่จะไม่รับอยู่แบบนั้นแม่เลี้ยงใจยักษ์ของเธอคงโทรจิกเธอไม่หยุดเป็นแน่“เอยต้องช่วยแม่ด้วยนะลูกตอนนี้เจ้าหนี้มันจะเอาชีวิตแม่ถ้าแม่ไม่เอาเงินไปให้มันสามแสนภายในคืนนี้...ฮือๆๆๆ”“อะไรนะคะ”เมื่อเอิงเอยได้ยินที่แม่เลี้ยงเธอเอ่ยขึ้นมาเมื่อเธอกดรับสายเธอถึงกับใช้มือกุมขมับทันทีเธอรู้ได้โดยทันทีว่าน้ำเสียงที่แม่เลี้ยงของเธอพูดดีด้วยแบบนี้จะต้องมีเรื่องให้เธอช่วยแน่นอนซึ่งมันก็เป็นแบบที่เธอคิดจริงๆ“แล้วเงินสินสอดของเอยหมดแล้วเหรอคะคุณแม่”หญิงสาวถามถึงเงินสิ
Rrrrrrrr“เบอใครกัน”อัคนีกำลังที่จะขึ้นรถกลับไปที่บ้านของเขาจู่ๆก็มีเบอแปลกโทรเข้ามาคราแรกเขาเองจะไม่รับสายแต่ในใจคิดว่าคนที่โทรมาอาจจะมีธุระด่วนก็ได้“สวัสดีครับผมอัคนีพูดครับ”“สวัสดีค่ะ...คือดิฉันขอไม่ประสงค์ออกนามนะคะแต่ที่จะโทรมาบอกเพราะว่าหวังดีน่ะค่ะ...ฉันรู้มาว่าภรรยาของคุณกำลังเอาเงินที่คุณให้ไปถลุงเล่นในบ่อนการพนันที่XXXเห็นหน้าใสซื่อก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะคะแค่นี้แหละค่ะที่จะโทรมาบอก”เมื่อปลายสายวางไปอัคนีเองถึงกับทำหน้างงทันทีว่าผู้หญิงที่โทรมาต้องการอะไรเขาเองพยายามโทรกลับไปอยู่หลายครั้งก็ไม่ติดเขาเองก็ไม่ได้อยากจะคิดว่าเอิงเอยร้อนรนโทรมาหาเขาเพราะอยากจะได้เงินไปเล่นการพนันหรอกนะแต่อีกใจก็คิดว่าไปดูให้มันรู้กันเลยเพราะตอนนี้เขาเองก็ว่างอยู่แล้วเขาเลยเปลี่ยนเส้นทางการขับรถกลับบ้านไปที่บ่อนการพนันที่ผู้หญิงปริศนาโทรมาบอกทันที“หึสมน้ำหน้าคนอย่างแกจะไม่มีวันได้ดีไปกว่าฉันหรอกนังเอิงเอย”ไอรดานั่งยิ้มกริ่มสะใจที่ปั่นหัวอัคนีได้เธอได้รู้เรื่องที่เอิงเอยยืมเงินอัคนีมาให้แม่ของเธอด้วยความที่ไม่ชอบเอิงเอยอยู่แล้วเธอจึงคิดแผนใส่ร้ายนี้ออกมาอย่างรวดเร็วเพราะต้องการที่จะทำลายชีวิต
“งั้นกลับดีๆนะคะคุณนนท์ขอบคุณมากค่ะ”หลังจากที่ธนนท์เดินออกไปแล้วเอิงเอยก็เดินเอาของไปเก็บโดยที่ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่ยืนทำหน้ายักษ์ใส่เธออยู่“มีผู้ชายมาหาถึงห้องนี่ถ้าผมไม่อยู่นี่คงจะถึงไหนต่อไหนกันแล้วล่ะมั้ง”อัคนีไม่ชอบอาการที่หญิงสาวทำเป็นเมินเขาแทนที่จะบอกกับเขาว่าใครมาหาและมาเพื่ออะไรยิ่งเธอทำเหมือนเขาเป็นหัวหลักหัวตอเขาเองยิ่งโมโหกับการกระทำของเธอ“เฮ้อออ...คุณนนท์เค้าก็แค่เอาเสื้อมาคืนเอยค่ะ”เอิงเอยพยายามใจเย็นพูดกับเขาคราแรกคิดว่าจะไม่ต่อล้อต่อถียงกับเขาแล้วเชียว“หึ!!!..เอาเสื้อมาคืนคงไปถอดไว้มั่วเลยล่ะสิเลยต้องให้ผู้ชายตามเอามาคืนให้”เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มคนนั้นเอาเสื้อมาคืนเธอตอนนี้ในหัวของเขาก็คิดไปไกลแล้วว่าหญิงสาวกับไอ้หน้าอ่อนคนนั้นไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วทำให้เขาอดที่จะค่อนขอดไม่ได้เพราะเขาก็ไม่อยากให้ใครมาหยามเขาเหมือนกันเพียะ“หยุดดูถูกเอยสักทีค่ะพี่หมอ...ถ้าคิดว่าเอยไม่ดีเอยก็หย่ากันไปเถอะค่ะ”หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าไปที่ห้องนอนของตัวเองอยู่แล้วแต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ชายหนุ่มดูถูกเธอจนทนไม่ไหวเธอจึงถึงขนาดฟิวส์ขาดเดินมาตบเขาอย่างแรงเพื่อให้รู้ว่าเอก็มีศักดิ์ศรีใครจะ