“ขนมหวานไหมคะ...ขนมฝีมือพี่น้ำเมยอร่อยๆเลยค่า”
“ตะโกนแบบนั้นเดี๋ยวก็เจ็บคอหมดหรอกเอย”
เอิงเอยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วร้องขายขนมหวานไม่ขาดปากจนน้ำเมยเองต้องปรามเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเจ็บคอเสียก่อนที่ขนมจะขายหมด
ตั้งแต่เอิงเอยย้ายมาอยู่ที่นี่และชีวิตของเธอก็ขลุกอยู่กับการทำขนมหวานและการพูดคุยกับน้ำเมยอีกอย่างคนที่นี่ก็ใจดีมาทักทายคนมาอยู่ใหม่อย่างเธอไม่ขาดสายทำให้ตอนนี้หญิงสาวดูสดใสขึ้นอย่างมาก
ภาพของสองสาวที่สวยกันทั้งคู่มายืนขายขนมในตอนเช้าทุกวันเป็นที่เลื่องลือของผู้คนแถบนั้นอย่างมากทำให้ผู้คนต่างมาซื้อขนมของเธอไม่ขาดสายเพราะขนมที่อร่อยด้วยและแม่ค้าก็ยังน่ามองอีกต่างหาก
1 อาทิตย์ต่อมา
18.00 น.
“เอย”
อัคนีนั่งดื่มอยู่ที่คอยโดของเขามือเขาเองนั่งเลื่อนหน้ามือถือไปมาดูรูปของหญิงสาวและตัวเขาเองที่เคยถ่ายด้วยกันจู่ๆอีเมลของนักสืบที่เขาจ้างมาตามหาตัวหญิงสาวก็เด้งขึ้นมาปรากฎรูปของหญิงสาวและพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงอีกครั้งอย่างมีความหวังชายหนุ่มรีบวางแก้วน้ำเมาในมือลงพร้อมเตรียมตัวออกไปหาเธอตามที่นักสืบส่งพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวมาให้ทันที
เช้าวันต่อมา
“อย่าคิดว่าจะหนีพี่พ้นเลยเอย”
อัคนีขับรถมาที่ปายเองโดยที่ไม่ได้พักทั้งคืนเพราะใจของเขาตอนนี้มันจดจ่ออยู่ที่นี่ที่เดียวเขาไม่ยอมพักกว่าจะมาถึงที่นี่ก็เกือบเช้าเขาเฝ้าดูหญิงสาวอันเป็นที่รักมาขายขนมกับหญิงสาวอีกคนตั้งแต่เริ่มตั้งร้านจนตอนนี้ขนมเริ่มหมดไปอย่างรวดเร็วเพราะคนซื้อไม่ขาดสายใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มของหญิงสาวที่ยืนยิ้มให้ลูกค้าอยู่ตอนนี้เป็นรอยยิ้มที่เขาเฝ้าคิดถึงมันอยู่ทุกวันคืนในที่สุดวันนี้เขาก็จะได้มันคืนมาเสียทีชายหนุ่มคิดในใจ
เมื่อเขาเห็นหญิงสาวกลับเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้วเขาจึงขับรถออกจากที่ตรงนั้นเพื่อหาโรงแรมใกล้ๆแถวนี้นอนพักเพื่อเอาแรงเพราะเขายังต้องมีเรื่องที่จะคุยกับหญิงสาวอยู่หลายเรื่อง
18.00 น.
“เฮ้อเสร็จเสียทีเนอะพี่น้ำเมยพรุ่งนี้เราต้องขายดีอีกแน่ๆขนมที่พี่น้ำเมยทำอร่อยที่สุดเลย”
หลังจากที่ทั้งน้ำเมยและเอิงเอยขายของเสร็จแล้วทั้งสองก็มาเตรียมวัตถุดิบสำหรับการขายของวันต่อไปกว่าจะเสร็จก็เย็นเสียแล้วเพราะความต้องการซื้อของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นทุกวันเมื่อทำงานแล้วมันเห็นเงินทั้งสองเลยไม่รู้สึกเหนื่อยกันเลยสักนิดกลับสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ทำด้วยโดยเฉพาะเอิงเอยการทำงานมันทำให้เธอจดจ่ออยู่กับงานมากกว่าการคิดถึงเรื่องอื่นที่เธอไม่ได้อยากนึกถึงสักเท่าไร
“ปากหวานอีกแล้วนะเราฝนจะตกแล้วรีบเข้าบ้านเร็วเดี๋ยวของตรงนี้พี่เก็บเอง”
“จริงๆด้วยฟ้ามืดเลยสงสัยตกหนักแน่เลยค่ะงั้นเอยกลับก่อนนะคะ”
น้ำเมยเห็นว่าเหลือเก็บของอีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วอีกอย่างฟ้าตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วยเพราะดูท่าว่าฝนจะตกหนักเธอจึงบอกให้เอิงเอยกลับไปที่บ้านก่อนเพราะเข้าใจว่าหญิงสาวต้องไปเตรียมปิดบ้านไหนจะเก็บของผ้าผ่อนที่ตากเอาไว้อีกน้ำเมยเองก็อยู่ตัวคนเดียวเหมือนกันเธอเข้าใจดี
แปะๆๆ ซ่า
เอิงเอยวิ่งยังไม่ทันถึงบ้านฝนก็เริ่มเทกระหน่ำลงมาอย่างแรงดีที่บ้านของเธอและบ้านของน้ำเมยอยู่ใกล้ๆกันทำให้หญิงสาวยังไม่ทันได้เปียกสักเท่าไร
เมื่อเอิงเอยวิ่งมาถึงที่บ้านสิ่งแรกที่เธอรีบพุงเข้าปัดการคือรวบผ้าที่อยู่ในราวตากผ้าหลังบ้านเก็บมาทันทีเมื่อจัดการกับผ้าผ่อนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงไปอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายที่มีแต่เหงื่อแทบทั้งวันเพราะการทำงาน
“หืมม...กุญแจบ้าน”
หญิงสาวพึ่งนึกได้ว่าเมื่อตอนที่เข้าบ้านมาเธอเองไม่ได้ไขกุญแจเข้ามาด้วยความที่ใจจดใจจ่ออยู่กับการจัดการเก็บผ้าที่หลังบ้านทำให้เธอลืมเสียสนิทว่าตอนที่เข้าบ้านมาบ้านเธอเองยังเปิดอยู่ซึ่งเมื่อเช้าเธอจำได้ว่าเธอปิดและล็อคกุญแจที่ประตูบ้านเรียบร้อยแล้วนี่นา
“หรือว่า...ขโมย...”
เอิงเอยรีบใส่เสื้อผ้าและรีบเดินออกมาสำรวจรอบๆบ้านเพราะเธอเองคิดว่าขโมยอาจจะเข้ามาในบ้านของเธอซึ่งข้าวของที่นี่ก็ค่อนข้างที่จะมีราคาเธอเองเลยต้องทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าบ้านที่ดีไม่อย่างนั้นเธอคงเสียใจแย่ที่เป็นคนดูแลบ้านให้กับคนที่มีบุญคุณต่อเธอได้ไม่ดี
ครืนนนนเปรี้ยยงงงงงง
“ว้ายยยย”
ตอนนี้หญิงสาวทั้งกลัวโจรทั้งกลัวเสียงลมฟ้าลมฝนแต่เธอก็จำต้องเดินสำรวจรอบๆบ้านของเธอก่อนเพื่อให้แน่ใจมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด
“ก็ไม่เห็นมีอะไรหายนี่นา...”
หญิงสาวถึงกับยืนเท้าเอวทำหน้าครุ่นคิดเพราะเธอเดินรอบๆบ้านและตรวจทานทุกอย่างดีแล้วพบว่ามันไม่ได้มีรอยรื้อค้นหรือมีอะไรหายไปแม้แต่น้อย
“หรือเราอาจจะลืมล็อคบ้านจริงๆ...ทำไมเป็นคนแบบนี้นะเอิงเอย”
หญิงสาวยังยืนชั่งใจว่าเธอเป็นคนลืมล็อคบ้านจริงๆหรือเปล่าแต่หลักฐานมันก็เห็นอยู่ว่าตอนที่เธอเข้ามาบ้านมันเปิดอยู่ทำให้หญิงสาวโทษตัวเองยกใหญ่ที่คิดว่าตัวเองดูแลบ้านดีแล้วแต่กลับเปิดบ้านทิ้งไว้เสียอย่างนั้น
หญิงสาวเดินกลับมาที่ห้องของเธอโดยในหัวของเธอก็ยังมีคำถามอยู่แต่เธอเองก็พยายามที่จะสลัดความคิดออกไปพร้อมหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพราะเธอไม่อยากนอนอยู่เฉยๆเพราะการที่หญิงสาวอ่านหนังสือมันทำให้ลืมฟังเสียงลมฟ้าลมฝนได้อยู่เหมือนกัน
พรึ่บบบบ
“เฮ้อ..มาดับอะไรตอนนี้เนี่ย...”
เอิงเอยนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสอไปได้สักพักปรากฎว่าไฟที่บ้านของเธอจู่ๆก็ดับกะทันหันยังดีที่หญิงสาวมีไฟฉายอยู่ที่หัวเตียงเธอจึงรีบใช้มือควานหาแล้วหยิบมาเปิดทันทีเพราะเธอไม่ค่อยชอบความมืดสักเท่าไรโดยเฉพาะคืนที่ฝนเทกระหน่ำลงมาแบบนี้
“อร้ายยยย...ผีหลอกกกก”
เมื่อหญิงสาวกดเปิดไฟฉายได้ก็เห็นเป็นร่างของผู้ชายยืนอยู่ที่ตรงหน้าเธออย่างกระชั้นชิดหญิงสาวมองแวบเดียวก็หลับตาปี๋พร้อมร้องตะโกนออกมาด้วยความกลัว
“พี่เองเอย..พี่เอง”
อัคนีต้องรีบจับตัวหญิงสาวให้ได้สติว่าเขาไม่ใช่ผีก่อนที่เธอจะโวยวายไปมากกว่านี้
“พี่หมอ!!!”
เอิงเอยจำได้ทันทีว่าเสียงที่เธอได้ยินอยู่นี้เป็นเสียงของใครเธอจึงหยุดโวยวายพร้อมกับส่องไฟไปที่หน้าของชายหนุ่มเธอเองจึงอุทานชื่อเขาออกมาหญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะตามมาเจอเธอที่นี่
“เมื่อกี้เอยเรียกพี่ว่ายังไงนะ”
อัคนีทำหน้าตาสงสัยเพราะว่าก่อนที่เธอจะหนีเขามาเธอไม่ได้เรียกเขาแบบนี้สรรพนามที่เธอเรียกเขามันแปลกไปทำให้เขาเริ่มแปลกใจมากขึ้น“เอ่อ..คุณมาทำอะไรที่นี่”เอิงเอยรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ไม่สงสัย“เมียพี่หนีทั้งคนพี่ก็ต้องมาตามสิ”ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเขายังรู้สึกไม่พอใจหญิงสาวอยู่เหมือนกันที่หนีเขามาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว(อันที่จริงถ้าบอกก็คงไม่เรียกว่าหนีสินะ)เขาคิดในใจ“ไม่ได้หนีแค่ไม่อยากอยู่ด้วยแล้วคุณก็กลับไปได้แล้ว”เอิงเอยรู้สึกหน่วงที่หัวใจแปลกๆกับคำที่เขาใช้เรียกเธอหญิงสาวไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้เธอนานกว่านนี้เพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าหัวใจของเธอนั้นมันจะยอมอ่อนให้กับเขาอีกเพราะตอนนี้เธอกำลังจะใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้เกือบจะดีแล้วเธอจึงต้องรีบเอ่ยปากไล่เขากลับ“ทำไมเอย...ทำไมต้องหนีพี่มาด้วยถึงเอยจะจำพี่ไม่ได้แต่ว่ามันก็มีทางรักษายังไงพี่ก็จะพาเอยกลับไปกับพี่ให้ได้”อัคนีเอ่ยกับหญิงสาวเสียงแข็งพร้อมเข้าไปกอดหญิงสาวไว้อย่างแนบแน่นเพราะรู้สึกไม่พอใจที่หญิงสาวเอาแต่ไล่เขาในขณะที่เขาคิดถึงเธออย่างสุดหัวใจและอยากจะพาเธอกลับไปอยู่ด้วย“ปล่อยเอยเดี๋ยวนี้นะทำไมเป็นคน
“อืมม...พี่ก็หิวนะแต่เดี๋ยวพี่รอทานตอนเที่ยงก็ได้”“ก็ดีค่ะพี่หมอทานอาหารให้ตรงเวลาดีกว่านะคะ..”เอิงเอยนั่งอ่านหนังสือในห้องของอัคนีพร้อมเดินเล่นไปมาเพราะว่าไม่มีอะไรทำเธอขอชาหนุ่มช่วยงานแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอทำเธอต้องหาอะไรทำแก้เซ็งไปเรื่อยเช่นอ่านหนังสือบางครั้งเธอก็หิ้วเอาไหมพรมมานั่งถักเล่นไปเรื่อยๆก๊อกๆๆๆๆ“คุณเอยคะมีขนมจากคุณน้ำเมยส่งมาให้ค่ะ”“ขอบคุณค่ะคุณวิ”เอิงเอยเดินไปรับกล่องขนมจากวิภาวีเลขาของชายหนุ่มเธอเองหลังจากที่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เธอก็ยังติดต่อกับน้ำเมยอยู่ตลอดถึงแม้ว่าน้ำเมยจะไม่ค่อยมีเวลาคุยกับเธอก็เถอะนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอบ่นให้พี่สาวเธอฟังว่าอยากทานขนมฝีมือของน้ำเมยอีกทำให้วันนี้เธอก็ได้ทานสมใจแล้ว“คุณน้ำเมยส่งขนมมาให้อีกแล้วเหรอเอย”อัคนีเห็นวิภาวีส่งกล่องให้เอิงเอยเขาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นน้ำเมยที่ส่งขนมมาให้เอิงเอยและเขาอีกเป็นแน่“ใช่ค่ะ...พี่หมอทานไหมคะเดี๋ยวเอยใส่จานให้”เอิงเอยเห็นสีหน้าของชายหนุ่มก็รู้ว่าเขาอยากทานขนมในกล่องเพียงใดเพราะครั้งก่อนเจ้าตัวเล่นทานเกือบหมดภายในครั้งเดียวแถมเอ่ยปากชมไม่หยุดว่าอร่อยแบบที่ไม่เคยทานแถมฝีมือแบบนี้สู้กับเชฟตามโ
ไอรดาคับแค้นใจอย่างมากที่ชีวิตของเธอตกต่ำกว่าเอิงเอยทั้งที่เมื่อก่อนเธอเหนือกว่าทุกอย่างยิ่งเห็นเอิงเอยมีความสุขมากเท่าไรเธอเองก็ยิ่งเกลียดหญิงสาวมากเท่านั้นในเมื่อเธอไม่มีความสุขคนอย่างเอิงเอยก็อย่าหวังว่าจะมีความสุขเลยเธอคิดในใจตอนนี้ความคับแค้นมันจุกอยู่ในอกเธอต้องยอมเป็นเมียเสี่ยแก่ๆที่รุ่นราวคราวพ่อของเธอก็เพราะเงินแถมยังต้องอดทนให้ชายแก่ตบตีอีกต่างหากเพียงเพราะว่าเงินคำเดียวตอนนี้เธอคิดแผนที่จะหาทางออกได้แล้วในเมื่อสายตาเธอเห็นว่าสามีของเอิงเอยดูจะรักเอิงเอยมากเป็นพิเศษแล้วถ้าเมียหายไปทั้งคนให้เอาอะไรมาแลกก็น่าจะยอมอีกด้วยถ้าเธอเรียกเงินจากชายหนุ่มได้เธอก็คงจะไม่ต้องทนอยู่กับชายแก่คราวพ่อนี่อีกต่อไปหลายวันต่อมา“วันนี้พี่น่าจะกลับดึกนะเอยไม่ต้องทำอาหารเผื่อพี่นะ”“ค่ะพี่หมอ...”ชายหนุ่มบอกกับคนเป็นภรรยาที่ยืนผูกเนคไทให้กับเขาอยู่วันนี้เขาผูกเนคไทสีที่หญิงสาวเลือกให้เพราะอยากรู้สึกว่ามีภรรยาตัวเองอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาเพราะว่าวันนี้หญิงสาวไม่ได้ตามเขาไปด้วยนั่นเองวันนี้ชายหนุ่มต้องไปดูงานหลายที่เขากลัวว่าถ้าเธอตามเขาไปแล้วจะเหนื่อยไม่อย่างนั้นเขาคงหิ้วเธอไปอีกเช่นเคยเป็นแน่จุ้บ“พี
“หึ..ฉลาดนี่ที่จำฉันได้ก็เพราะว่าฉันเกลียดแกไง...เกลียดที่แกมีชีวิตที่ดีกว่าฉัน...เกลียดทุกอย่างที่เป็นแก”ไอรดามองเอิงเอยด้วยแววตาที่เชือดเฉือนและเกลียดชังพร้อมพูดเน้นคำทุกคำที่เกลียดหญิงสาวให้ได้ฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ“โอ้ยยย...”“คนอย่างแกมันไม่สมควรที่จะได้ดีกว่าฉันรู้เอาไว้ด้วย”ไอรดากระชากผมหญิงสาวที่โดนมัดอยู่จนหญิงสาวต้องแหงนหน้าขึ้นเพราะแรงกระชากพร้อมตวาดใส่หญิงสาวอย่างเกลียดชัง“นายน้อยครับเดี๋ยวพวกผมจะกระจายไปรอบๆโกดังแต่เท่าที่สังเกตแล้วผมว่าพวกมันน่าจะมีไม่เยอะเท่าไรแถมยังเหมือนเป็นโจรกระจอกอีกด้วยเพราะระบบป้องกันยังไม่ดีเท่าไรดูจากการที่ไม่มีคนมาเฝ้าที่ต้นทาง”“ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกันงั้นฉันจะเข้าไปก่อนถ้าฉันต้องการความช่วยเหลือฉันจะส่งสัญญาณไป”“โอเคครับ”อัคนีและลูกน้องฝีมือดีของพ่อเขาอีกสี่ห้าคนเดินทางมาถึงจุดนัดหมายในข้อความที่ส่งมาเรียบร้อยแล้วเมื่อดูราดราวว่ากลุ่มคนพวกที่จับหญิงสาวมาน่าจะไม่ใช่พวกมืออาชีพสักเท่าไรทำให้ชายหนุ่มโล่งใจไปอีกเปราะเขาคิดว่างานนี้คงจะไม่ยาก“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะถ้าอยากได้เงินก็มาเอาไป”อัคนีเดินดุ่มๆเข้ามาที่ในโกดังโดยที่เขาสังเกตได้ว่าพว
“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”ชายหนุ่มพูดพร้อมหอมไปที่แก้มคนเป็นภรรยาหนึ่งทีแบบฟอดใหญ่ๆพร้อมวางหญิงสาวลงที่ตียงนอนแล้วเขาจึงเดินไปจัดแจงหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวหญิงสาวแทนที่จะให้เธออาบน้ำเพราะตอนนี้เขายังรู้สึกว่าหญิงสาวยังอ่อนแออยู่ถ้าขืนให้เออาบน้ำเธออาจจะไม่สบายเพิ่มเอาได้“ยิ้มอะไรเหรอเอย”ชายหนุ่มที่กำลังนั่งเช็ดตัวให้ภรรยาของเขาอยู่เมื่อมองหน้าหญิงสาวทีไรก็เห็นเธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ทุกทีเขาจึงเอ่ยถามเพื่อที่อยากจะรู้ว่าตอนนี้ภรรยาเขาคิดอะไรอยู่“เอยไม่คิดว่าเราสองคนจะมีวันนี้ไงคะ...วันที่พีหมอจะรักและดูแลเอยดีขนาดนี้”“เมื่อก่อนเอยคงจะมองพี่ไม่ดีมากเลยสินะ...พี่เองก็ไม่คิดว่าคนที่พีมีอคติด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักจะทำให้พี่รักได้มากมายขนาดนี้”ชายหนุ่มตอบพร้อมสวมกอดหญิงสาวเอาไว้พร้อมลูบหัวเธออย่างเอ็นดูเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้กับหญิงสาวได้เหมือนกันแต่วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดคราแรกเลยสักนิด“ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตกันอีกแล้วนะอะไรไม่ดีก็ให้มันผ่านไปเรากำลังจะมีเจ้าตัวน้อยด้วยกันต่อไปนี้พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลเอยและลูกให้ดีที่สุดขอแค่เอยเชื
“เอยก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคงต้องรอให้เจ้าตัวมาถึงที่นี่ก่อนแล้วเอยก็คงจะได้คุยแบบละเอียดอีกที”“อืม...ถ้าพีนัสมานอนกับเอยงั้นคืนนี้พี่ก็อดนอนกอดเอยน่ะสิแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย”ชายหนุ่มทำหน้างอนหญิงสาวเล็กน้อยที่คืนนี้เขาจะไม่ได้นอนกอดเธอเหมือนเช่นเคย“ก็แค่คืนเดียวนี่คะ...ไม่สงสารเพื่อนเอยหรือไงคะ”“พี่ก็เห็นใจพีนัสนะเอย...แต่พี่ก็อยากนอนกอดเอยนี่นา...”ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนหญิงสาวพร้อมกับซุกลงนอนที่ตักของเธอ“นะคะ...คืนเดียวเองนะคะพี่หมอยังไงเราก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่คะ”“เฮ้อ...โอเคๆ...”กว่าชายหนุ่มจะเลิกทำหน้าบูดได้เล่นเอาหญิงสาวก็พูดหว่านล้อมอยู่หลายรอบหญิงสาวเองก็ไม่เข้าใจว่าสามีเธอจะติดอะไรเธอนักหนา22.00 น.หลังจากที่พีนัสมาถึงที่คอนโดของและเข้าไปในห้องกับภรรยาเขาเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจำต้องหอบผ้าห่มสำรองในตู้มาห่อมนอนที่โซฟาด้านนอกชายหนุ่มนอนพลิกไปพลิกมาเพราะเขาไม่ได้นอนกอดร่างหอมๆของภรรยาของเขาทำให้ชายหนุ่มเองนอนไม่หลับ“ต้องใช้วิธีนี้สินะ”ชายหนุ่มนอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปมาได้สักพักก็ยังข่มตานอนหลับลงไม่ได้จู่ๆเขาก็คิดวิธีการที่จะได้กลับมานอนกอดหญิงสาวในคืนนี้ดังเดิมออกเ
“สองคนนั้นแค่เข้าใจผิดกันเท่านั้นเองพี่ว่าเดี๋ยวพวกเค้าก็คงเคลียกันได้และคงจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้แน่นอน”“หมายความว่ายังไงคะพี่หมอ”พีนัสยังคงทำหน้างงกับคำพูดของคนเจ้าเล่ห์เมื่อคืนชายหนุ่มเองได้ฟังความจริงจากปากธนนท์หมดแล้วว่าที่พีนัสคิดว่าธนนท์นอกใจก็เพราะว่าชายหนุ่มคุยไลน์กับหญิงสาวคนอื่นและนัดเจอกันอย่างลับๆอันที่จริงหญิงสาวคนในแชทเป็นเจ้าของร้านแหวนเพชรที่ธนนท์สั่งทำมาเพื่อเซอร์ไพรซ์หญิงสาวเพื่อที่ธนนท์จะขอพีนัสแต่งงานเขาจึงต้องคุยกับหญิงสาวและนัดเจอกันอย่างลับๆก็เท่านั้นเองแต่พีนัสมาเปิดเจอข้อความที่ธนนท์นัดเจอกับหญิงสาวเจ้าของร้านเพชรเสียก่อนทำให้พีนัสโกรธธนนท์และหนีออกมาโดยที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องอีกด้านพีนัสกับธนนท์...“อร้ายยยยย...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”“เดี๋ยวๆที่รักฟังผมก่อน”“ไม่ฟังปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น้า...”พีนัสพอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ก็กรีดร้องโวยวายจะหนีธนนท์อยู่ท่าเดียวทำเอาชายหนุ่มแทบจะรวบตัวไว้ไม่ทัน“อย่ามาแตะตัวฉันไปหาผู้หญิงที่คุณนัดเจอด้วยโน่น...ปล่อย”หญิงสาวยังดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มทั้งที่เธอรู้ตัวว่ายังไงก็สู้แรงของเขาไม่ไหวอยู่แล้วแต่ตอนนี้แม้แต่หน้าชายห
เกริ่นหลังแต่งงานเขาก็ปล่อยให้เธออยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยที่เขาเองก็มีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างกาย แต่จู่ๆ เขาก็กลับมาพร้อมกลับทวงสิทธิ์ความเป็นสามีและประกาศว่าจะมีทายาทกับเธอ...ตั้งแต่พ่อของเอิงเอยเสียหญิงสาวก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจการดูแลของแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอมาตลอดซ้ำยังโดนกดขี่จากพี่สาวลูกติดของแม่เลี้ยงของเธอและนี่ก็เป็นอีกครั้งที่บ้านเธอจะต้องล้มละลายเพราะฝีมือการผลาญเงินของสองแม่ลูกนั่นทำให้เธอต้องโดนแม่เลี้ยงบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อเธอที่เคยหมั้นหมายกันไว้คนที่อายุห่างกับเธอเป็นสิบกว่าปีทั้งที่เธอไม่เคยเห็นหน้าเธอจำเป็นต้องแต่งเพื่อที่จะมีค่าสินสอดมาใช้หนี้ที่บ้านของเธอเมื่อแต่งงานกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเขาก็พาเธอมาอยู่ที่คอนโดของเขาและตั้งแต่นั้นมาเป็นเดือนแล้วเธอก็ไม่เคยเจอกับเขาอีกเลยเธอเข้าใจดีว่าชายหนุ่มก็คงจะโดนบังคับมาเหมือนกันแต่ก็ดีสำหรับเธอไปอีกอย่างที่ทั้งพ้นจากการปกครองของแม่เลี้ยงใจร้ายแถมอยู่ที่คอนโดที่นี่คนเดียวอย่างมีความสุขอีกต่างหากแต่แล้ววันดีคืนดีจู่ๆเขาบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่พร้อมขอมาใช้สิทธิ์ความเป็นสามีและยืนยันว่าจะทำให้เธอมีทายาทให้เขาให้ได้เพรา