Share

ตอนที่23 ตามจนเจอ

“ขนมหวานไหมคะ...ขนมฝีมือพี่น้ำเมยอร่อยๆเลยค่า”

“ตะโกนแบบนั้นเดี๋ยวก็เจ็บคอหมดหรอกเอย”

เอิงเอยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วร้องขายขนมหวานไม่ขาดปากจนน้ำเมยเองต้องปรามเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเจ็บคอเสียก่อนที่ขนมจะขายหมด

ตั้งแต่เอิงเอยย้ายมาอยู่ที่นี่และชีวิตของเธอก็ขลุกอยู่กับการทำขนมหวานและการพูดคุยกับน้ำเมยอีกอย่างคนที่นี่ก็ใจดีมาทักทายคนมาอยู่ใหม่อย่างเธอไม่ขาดสายทำให้ตอนนี้หญิงสาวดูสดใสขึ้นอย่างมาก

ภาพของสองสาวที่สวยกันทั้งคู่มายืนขายขนมในตอนเช้าทุกวันเป็นที่เลื่องลือของผู้คนแถบนั้นอย่างมากทำให้ผู้คนต่างมาซื้อขนมของเธอไม่ขาดสายเพราะขนมที่อร่อยด้วยและแม่ค้าก็ยังน่ามองอีกต่างหาก

1 อาทิตย์ต่อมา

 18.00 น.

“เอย”

อัคนีนั่งดื่มอยู่ที่คอยโดของเขามือเขาเองนั่งเลื่อนหน้ามือถือไปมาดูรูปของหญิงสาวและตัวเขาเองที่เคยถ่ายด้วยกันจู่ๆอีเมลของนักสืบที่เขาจ้างมาตามหาตัวหญิงสาวก็เด้งขึ้นมาปรากฎรูปของหญิงสาวและพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงอีกครั้งอย่างมีความหวังชายหนุ่มรีบวางแก้วน้ำเมาในมือลงพร้อมเตรียมตัวออกไปหาเธอตามที่นักสืบส่งพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวมาให้ทันที

เช้าวันต่อมา

“อย่าคิดว่าจะหนีพี่พ้นเลยเอย”

อัคนีขับรถมาที่ปายเองโดยที่ไม่ได้พักทั้งคืนเพราะใจของเขาตอนนี้มันจดจ่ออยู่ที่นี่ที่เดียวเขาไม่ยอมพักกว่าจะมาถึงที่นี่ก็เกือบเช้าเขาเฝ้าดูหญิงสาวอันเป็นที่รักมาขายขนมกับหญิงสาวอีกคนตั้งแต่เริ่มตั้งร้านจนตอนนี้ขนมเริ่มหมดไปอย่างรวดเร็วเพราะคนซื้อไม่ขาดสายใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มของหญิงสาวที่ยืนยิ้มให้ลูกค้าอยู่ตอนนี้เป็นรอยยิ้มที่เขาเฝ้าคิดถึงมันอยู่ทุกวันคืนในที่สุดวันนี้เขาก็จะได้มันคืนมาเสียทีชายหนุ่มคิดในใจ

เมื่อเขาเห็นหญิงสาวกลับเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้วเขาจึงขับรถออกจากที่ตรงนั้นเพื่อหาโรงแรมใกล้ๆแถวนี้นอนพักเพื่อเอาแรงเพราะเขายังต้องมีเรื่องที่จะคุยกับหญิงสาวอยู่หลายเรื่อง

18.00 น.

“เฮ้อเสร็จเสียทีเนอะพี่น้ำเมยพรุ่งนี้เราต้องขายดีอีกแน่ๆขนมที่พี่น้ำเมยทำอร่อยที่สุดเลย”

หลังจากที่ทั้งน้ำเมยและเอิงเอยขายของเสร็จแล้วทั้งสองก็มาเตรียมวัตถุดิบสำหรับการขายของวันต่อไปกว่าจะเสร็จก็เย็นเสียแล้วเพราะความต้องการซื้อของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นทุกวันเมื่อทำงานแล้วมันเห็นเงินทั้งสองเลยไม่รู้สึกเหนื่อยกันเลยสักนิดกลับสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ทำด้วยโดยเฉพาะเอิงเอยการทำงานมันทำให้เธอจดจ่ออยู่กับงานมากกว่าการคิดถึงเรื่องอื่นที่เธอไม่ได้อยากนึกถึงสักเท่าไร

“ปากหวานอีกแล้วนะเราฝนจะตกแล้วรีบเข้าบ้านเร็วเดี๋ยวของตรงนี้พี่เก็บเอง”

“จริงๆด้วยฟ้ามืดเลยสงสัยตกหนักแน่เลยค่ะงั้นเอยกลับก่อนนะคะ”

น้ำเมยเห็นว่าเหลือเก็บของอีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วอีกอย่างฟ้าตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วยเพราะดูท่าว่าฝนจะตกหนักเธอจึงบอกให้เอิงเอยกลับไปที่บ้านก่อนเพราะเข้าใจว่าหญิงสาวต้องไปเตรียมปิดบ้านไหนจะเก็บของผ้าผ่อนที่ตากเอาไว้อีกน้ำเมยเองก็อยู่ตัวคนเดียวเหมือนกันเธอเข้าใจดี

แปะๆๆ ซ่า

เอิงเอยวิ่งยังไม่ทันถึงบ้านฝนก็เริ่มเทกระหน่ำลงมาอย่างแรงดีที่บ้านของเธอและบ้านของน้ำเมยอยู่ใกล้ๆกันทำให้หญิงสาวยังไม่ทันได้เปียกสักเท่าไร

เมื่อเอิงเอยวิ่งมาถึงที่บ้านสิ่งแรกที่เธอรีบพุงเข้าปัดการคือรวบผ้าที่อยู่ในราวตากผ้าหลังบ้านเก็บมาทันทีเมื่อจัดการกับผ้าผ่อนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงไปอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายที่มีแต่เหงื่อแทบทั้งวันเพราะการทำงาน

“หืมม...กุญแจบ้าน”

หญิงสาวพึ่งนึกได้ว่าเมื่อตอนที่เข้าบ้านมาเธอเองไม่ได้ไขกุญแจเข้ามาด้วยความที่ใจจดใจจ่ออยู่กับการจัดการเก็บผ้าที่หลังบ้านทำให้เธอลืมเสียสนิทว่าตอนที่เข้าบ้านมาบ้านเธอเองยังเปิดอยู่ซึ่งเมื่อเช้าเธอจำได้ว่าเธอปิดและล็อคกุญแจที่ประตูบ้านเรียบร้อยแล้วนี่นา

“หรือว่า...ขโมย...”

เอิงเอยรีบใส่เสื้อผ้าและรีบเดินออกมาสำรวจรอบๆบ้านเพราะเธอเองคิดว่าขโมยอาจจะเข้ามาในบ้านของเธอซึ่งข้าวของที่นี่ก็ค่อนข้างที่จะมีราคาเธอเองเลยต้องทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าบ้านที่ดีไม่อย่างนั้นเธอคงเสียใจแย่ที่เป็นคนดูแลบ้านให้กับคนที่มีบุญคุณต่อเธอได้ไม่ดี

ครืนนนนเปรี้ยยงงงงงง

“ว้ายยยย”

ตอนนี้หญิงสาวทั้งกลัวโจรทั้งกลัวเสียงลมฟ้าลมฝนแต่เธอก็จำต้องเดินสำรวจรอบๆบ้านของเธอก่อนเพื่อให้แน่ใจมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด

“ก็ไม่เห็นมีอะไรหายนี่นา...”

หญิงสาวถึงกับยืนเท้าเอวทำหน้าครุ่นคิดเพราะเธอเดินรอบๆบ้านและตรวจทานทุกอย่างดีแล้วพบว่ามันไม่ได้มีรอยรื้อค้นหรือมีอะไรหายไปแม้แต่น้อย

“หรือเราอาจจะลืมล็อคบ้านจริงๆ...ทำไมเป็นคนแบบนี้นะเอิงเอย”

หญิงสาวยังยืนชั่งใจว่าเธอเป็นคนลืมล็อคบ้านจริงๆหรือเปล่าแต่หลักฐานมันก็เห็นอยู่ว่าตอนที่เธอเข้ามาบ้านมันเปิดอยู่ทำให้หญิงสาวโทษตัวเองยกใหญ่ที่คิดว่าตัวเองดูแลบ้านดีแล้วแต่กลับเปิดบ้านทิ้งไว้เสียอย่างนั้น

หญิงสาวเดินกลับมาที่ห้องของเธอโดยในหัวของเธอก็ยังมีคำถามอยู่แต่เธอเองก็พยายามที่จะสลัดความคิดออกไปพร้อมหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพราะเธอไม่อยากนอนอยู่เฉยๆเพราะการที่หญิงสาวอ่านหนังสือมันทำให้ลืมฟังเสียงลมฟ้าลมฝนได้อยู่เหมือนกัน

พรึ่บบบบ

“เฮ้อ..มาดับอะไรตอนนี้เนี่ย...”

เอิงเอยนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสอไปได้สักพักปรากฎว่าไฟที่บ้านของเธอจู่ๆก็ดับกะทันหันยังดีที่หญิงสาวมีไฟฉายอยู่ที่หัวเตียงเธอจึงรีบใช้มือควานหาแล้วหยิบมาเปิดทันทีเพราะเธอไม่ค่อยชอบความมืดสักเท่าไรโดยเฉพาะคืนที่ฝนเทกระหน่ำลงมาแบบนี้

“อร้ายยยย...ผีหลอกกกก”

เมื่อหญิงสาวกดเปิดไฟฉายได้ก็เห็นเป็นร่างของผู้ชายยืนอยู่ที่ตรงหน้าเธออย่างกระชั้นชิดหญิงสาวมองแวบเดียวก็หลับตาปี๋พร้อมร้องตะโกนออกมาด้วยความกลัว

“พี่เองเอย..พี่เอง”

อัคนีต้องรีบจับตัวหญิงสาวให้ได้สติว่าเขาไม่ใช่ผีก่อนที่เธอจะโวยวายไปมากกว่านี้

“พี่หมอ!!!”

เอิงเอยจำได้ทันทีว่าเสียงที่เธอได้ยินอยู่นี้เป็นเสียงของใครเธอจึงหยุดโวยวายพร้อมกับส่องไฟไปที่หน้าของชายหนุ่มเธอเองจึงอุทานชื่อเขาออกมาหญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะตามมาเจอเธอที่นี่

“เมื่อกี้เอยเรียกพี่ว่ายังไงนะ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status