"หนาวเหรอทอยส์"
"ก็คุณเปิดขนาดนี้ ผมคงร้อนหรอกมั้ง"
ทอยส์ โวยใส่ให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ
"ผมขอโทษ ก็ใครจะคิดว่าคุณขี้หนาว เห็นเมื่อคืน...เหงื่องี้โทรมตัวเชียว”
"หยุดนะ หุบปากของคุณไปเลย"
"ก็ได้ๆ ไม่พูดก็ได้ คุณนี่ เผด็จการชะมัด โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ดี"
ชายหนุ่มยังไม่วายบ่น แต่เห็นบ่นๆ อย่างนั้น เขาก็เอื้อมมือไปเบาแอร์ให้ในระดับหนึ่งอยู่ดี จวบจนถึงหน้าบ้านของทอยส์นั่นล่ะ ที่เขาก้าวนำลงไปก่อนเพื่อเปิดประตูรถให้ โดยไม่ทันสังเกตสักนิดว่ามีใครบางคนดับบุหรี่อย่างรวดเร็ว และบดขยี้ด้วยรองเท้าหนาๆ อย่างขัดใจเต็มทีกับภาพที่เห็นเบื้องหน้านั่น
"ไงทอยส์...ท่าทางจะสำเริงสำราญกันมาน่าดูชมเลยสินะ ไปปฏิบัติธรรมถึงไหนถึงกันมาเหรอครับ"
แค่เพียงวางกระเป้าใบโตของทอยส์ไว้ตรงหน้าบ้าน เพื่อรอให้เธอไขประตูรั้วเท่านั้น ที่ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนจะโผล่พรวดออกมาจากจุดมีดอับมุมหนึ่งนั่น
"พอล !"
"ใช่ ผมเอง ก็ยังดีนะที่คุณยังจำผมได้ ไอ้ผมก็นึกว่า คุณจะลืมไปแล้วว่าความหวานชื่นระหว่างเรามันเป็นยังไง"
พอลน่าจะดื่มมาบ้างก่อนหน้านี้ ทอยส์ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งเมื่อเขาก้าวตรงมายังร่างบางของทอยส์ที่แทบถอยหลังไปหลายก้าว
"หยุดพูดจาระรานกันดีกว่าพอล อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ก็ขอให้มันจบๆ ไปเถอะ"
"คุณจบ แต่ผมไม่จบด้วยนี่"
"อ้าวคุณพอล พูดจาแบบนี้ได้ไง เป็นสุภาพบุรุษหน่อยนะครับ ทอยส์เขาก็พูดดีๆ กับคุณอย่างที่สุดแล้วนะ”
"ไม่ต้องยุ่งเลย ไอ้หน้าวอก !"
"เอ้า พูดงี้ก็สวยสิ"
"ก็สวยอยู่แล้ว นายมันไอ้พวกแมวขโมยนี่หว่า เที่ยวควงแฟนชาวบ้านเขาไปวันๆ หน้าไม่อายจริงๆ"
"ใครกันแน่แมวขโมย พูดให้ถูกหน่อย ทอยส์เป็นเมียฉัน จะไปไหนกับฉันมันก็ไม่แปลกนักหรอก"
ด้วยความโมโหจริงๆ ที่ทำให้ณดล เผลอตัวตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายไปอย่างนั้น และนั่นก็ราวกับเทน้ำมันลงบนกองไฟให้ลุกโชนขึ้นจนเกินต้าน ในวินาทีที่พอลคว้าวัตถุเงาวับออกมาจากเอวเขาอย่างรวดเร็วอย่างไม่มีใครคาดคิด
"ถ้าคิดจะหยามหน้ากันขนาดนั้น ก็ตายทั้งผัวทั้งเมียเลยดีมั้ย"
ปลายกระบอกปืนพุ่งตรงไปที่ทอยส์ เพราะขณะนั้น ทอยส์ยืนอยู่ใกล้พอลที่สุด ใกล้จนแทบกลายเป็นเป้านิ่ง ให้ณดลถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หากถึงอย่างนั้น เขาก็ไวพอที่จะกระโจนพรวดเดียวไปโอบกอดร่างบอบบางของทอยส์เอาไว้ ในวินาทีที่พอลกดลั่นไก ให้ลูกกระสุนพุ่งตรงเข้าไส่ด้านหลังของณดลอย่างจัง
เปรี้ยง...
ราวกับเสียงฟ้าฟาดของค่ำคืนที่ผ่านมา หากมันผ่าลงตรงกลางหัวใจของทอยส์ในเวลานั้น ด้วยเมื่อสิ้นเสียงปืน ก็เหมือนสิ้นใจ เมื่อทุกอย่างผิดคาดไปหมด พอลก็แทบเผ่นแผล๋วหายไปราวกับสายลมที่พัดแรงแล้วเลือนหายไปพร้อมมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบรท์ที่แอบจอดไว้ในมุมหนึ่งของต้นไม้ใหญ่
เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์หนึบแน่นแล่นผ่านไปอย่างเร็ว ทิ้งไว้เพียงร่างหนาอบอุ่น สองแขนที่เคยโอบกอดทอยส์เอาไว้อย่างแสนรักเท่านั้น ที่ค่อยๆ ทรุดลงจมกองเลือดลงไปต่อหน้าต่อตาทอยส์
"ณดล...อย่าเป็นอะไรไปนะ ดล...คุณทิ้งผมไปแบบนี้ไม่ได้นะ"
ทอยส์ตะโกนเรียกเขา หากความเงียบเท่านั้นที่กลายเป็นคำตอบที่สะท้อนกลับมาในหัวใจที่อ่อนล้าและเจ็บปวดของทอยส์
“ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยทอยส์ด้วย !”
...
ที่โรงพยาบาล...
กับหยดเลือดที่หยาดหยดลงมาตามสายระโยงระยางนั้น หมอบอกว่าณดลปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาเสียที ให้ทอยส์ได้แต่เฝ้ามองเลือดหยดแล้วหยดเล่าที่ถูกเติมเข้าไปตามเส้นเลือดที่ท่อนแขนของเขานั่น
"เมื่อไหร่คุณจะฟื้นขึ้นมาเสียทีนะณดล เวลาคุณเงียบโลกทั้งโลกมันช่างเงียบเหงาไปกับคุณเสียจริงๆ"
ทอยส์นั่งอยู่ข้างเตียง เขาวางมือลงบนหลังมือของณดล อ่อนโยนแผ่วเบา ราวกับจะถ่ายทอดความอบอุ่นที่มีให้อีกฝ่าย
"ป่านนี้ เจ้าโด่งมันคงเฝ้ารอเจ้านาย คุณรีบตื่นขึ้นมาได้แล้วณดล"
ทอยส์ยังคงพร่ำพูดอยู่ตรงหน้าเตียงคนไข้ของณดล ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง ทอยส์มั่นใจ ณดลไม่ทอดทิ้งเธอไปง่ายๆ หรอก บางที...เขาอาจกำลังหลงทางอยู่ก็ได้นะ ณดลยังคงนอนนิ่ง ดวงตาของเขาปิดสนิท เขาคงกำลังหลับสบาย แต่คนที่เฝ้ารอนี่สิ หาความสงบนิ่งไม่เจอเอาซะเลย ทอยส์เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า วันเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากมายแค่ไหน บางครั้งคนเราได้แต่คิด แต่ไม่เคยลงมือทำ เหมือนทอยส์ ที่เอาแต่ลังเลใจ ไม่แม้แต่จะได้บอกรักเขาสักคำ ขณะที่เขาแสดงความรัก พร่ำบอกกับทอยส์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ความรัก กับบทพิสูจน์ที่เขาเคยย้ำกับทอยส์เสมอ ว่าเขาพร้อมจะทำให้ทอยส์ได้เห็น ว่าเขารักทอยส์มากมายแค่ไหน มันช่างมากมายถึงกับเอาตัวมาบังกระสุน เพื่อตายแทนเธอได้แบบนี้เลยเหรอ
อย่าตายนะณดล...ห้ามผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ ที่จะดูแลทอยส์ตลอดไป
นิ่งเงียบไปแบบนี้...ถือว่าผิดสัญญาได้มั้ยนะณดล
รีบลืมตาตื่นขึ้นมาสบตากันเถอะ ขอให้ทุกอย่างมันเป็นแค่เพียงฝันร้ายได้มั้ย!
อีกครั้งที่ทอยส์เฝ้าแต่คิดวกไปวนมา สมองของเขามันเต็มไปด้วยคำถามมากมาย...สับสน ว้าวุ่นจนค่อยๆ ฟุบหน้าลงกับท่อนแขนของอีกฝ่าย และเผลอหลับนิ่งไปในท่านั้น...ขณะเดียวกันณดลกลับค่อยๆ หรี่ตาลืมขึ้น พอเห็นว่าเด็กหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว เขาก็แอบยิ้ม นึกถึงคำพูดมากมายที่อีกฝ่ายพร่ำพูดสารพัดเพราะนึกว่าเขาหลับ จนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว !แบบนี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด ถึงจะโดนยิงบาดเจ็บก็ถือว่าคุ้มเชียวล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ใจคนที่เขาแสนรักอย่างทอยส์!ณดลบอกตัวเองในใจ แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง หากการหลับครั้งนี้ เขาหลับตาลงอย่างสุขใจ ไร้กังวลจริงๆ"คุณคะ...คุณคะ"เสียงเรียกเบาๆ นั่นทำให้ทอยส์ขยับตัว พร้อมกับลืมตาขึ้นมองตามเสียงเรียกนั่น ด้วยความหวาคระแวง และพบว่าพยาบาลสาวเตรียมอุปกรณ์ในการเช็ดตัวชายหนุ่มมาครบมือ"ได้เวลาเช็ดตัวให้คนไข้แล้วค่ะ""ครับ...ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวสักครู่ รบกวนฝากคุณพยาบาลด้วยนะครับ""ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกไม่นานคนไข้ก็ฟื้นค่ะ”พยาบาลสาว บอกกับทอยส์ราวกับให้กำลังใจ ขณะที่ทอยส์หมุนตัวกลับออกไปจากห้องพักฟื้นพิเศษนั่นเงียบๆ กำลังคิดว่านอกจากกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังค
"ถ้าคุณมั่นใจอย่างนั้น ฉันก็คงขัดใจคุณไม่ได้หรอกนะ""ดีใจจริง ถ้างั้นไปแต่งตัวเลยนะคุณ เตรียมตัวไปฉลองกันดีกว่า"ชายหนุ่มปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระเป็นครั้งแรก ให้เธอเผลอค้อน ยิ้มขัน"เอ๊ ! คุณ ไหนว่าเงินมีเท่าไหร่ ใช้ไปก็หมดได้ คุณสอนให้ฉันประหยัดเองนะ แล้วนี่ อึกอักอะไรก็ฉลองท่าเดียว จะเรียกว่าประหยัดได้ยังไงกันคะ""ก็...ผมยังไม่ได้บอกสักคำนี่นาว่าจะชวนคุณไปดินเนอร์นอกบ้านน่ะ ก็แค่จะขวนคุณไปตลาด วันนี้ผมจะโชว์ฝีมือทำอาหารมื้ออร่อยไห้คุณทานเอง โอเคมั้ยคุณ""แน่ใจมั้ยล่ะ ว่าทานได้""ดูถูกน่าคุณ ไปเลย รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชักช้าผมเปลี่ยนให้เอง แล้วอย่ามาอิดออดก็แล้วกัน"เหมือนจะบ่นพอได้ยินอย่างจงใจกลั่นแกล้งให้มาตาแทบโดดผลุงลงจากเตียงกว้างนั่นแทบไม่ทันเรื่องอะไรจะให้อีกฝ่ายฉวยโอกาส เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอให้โง่ล่ะ!"ไม่ต้องเลย ฉันโตแล้ว ฉันทำเองได้ย่ะ"คาสโนวาหนุ่มทิ้งตัวลงบนเดียงกว้าง หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุขที่ได้เย้าอีกฝ่ายให้หน้าแดง เขินอายเล่นได้อย่างนั้น...หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวก้าวเดินลงมาที่ลานจอดรถ หากคราวนี้ เขาไม่ได้ตรงไปที่รถยนต์หรู แต่ไปที
เสียงกุกกักดังอยู่หน้าบ้านนานแล้ว...ทอยส์รู้สึกประหลาดใจ หลายครั้งที่เขาขมวดปลายคิ้วงุนงงสงสัย เสียงอะไรมันดังไม่เลิก ทำลายสมาธิในการอ่านหนังสือในเวลาดีๆ อย่างที่สุด สุดท้าย ก็อดไม่ได้ที่จะผุดลุกขึ้นจากเตียงผ้าใบชายหาดตรงระเบียงนั่น เพื่อก้าวเดินออกไปดูให้หายข้องใจหากเพียงก้าวเดินถึงประตูรั้วเท่านั้น เจ้าเหมียวขาวปลอดทั้งตัว ก็แทบจะวิ่งหูกางทางชี้ ขนฟูฟ่องเข้ามาชนน่องขาวๆ ของเขาที่โผล่พันจากกางเกงขาสั้นสบายๆ ในเช้าวันหยุด จนต้องก้มลงมองพร้อม ๆ กับรู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบที่มองประจันหน้าจากภายนอกโฮ่ง...โฮ่ง...เสียงสุนัขตัวเขื่อง เท่าเสียงดังขึ้น ทำเอาปลายคิ้วขมวดมุ่นด้วยความประหลาดใจ บ้านรั้วติดกันนั่น ปล่อยขายและให้เช่า จนเกือบจะกลายเป็นบ้านร้างไปแล้ว โดยที่เขาไม่ทันสังเกตว่ามีคนเข้ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ต่อเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง แวบแรกก็อดสะดุดกับใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนา จมูกโด่งเป็นสัน ที่ทำเอาใจเต้นแรกขึ้นมาไม่ได้ แต่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ที่พยายามดึงใจตัวเองกลับ บอกตัวเองด้วยว่านั่นน่ะ ! ตัวต้นเหตุที่ทำเจ้าเหมียวน้อยของเขาวิ่งขนฟูกลับมาบ้านเชียวนะ"นี่มันอะไรกัน คุณเป็นใคร..มาทำอะไรลั
เมื่อณดลเดินกลับมาถึงบ้านตัวเองในเวลาต่อมา...เขาก็แทบจะจุ่มพู่กันระบายสีต่อไป ราวกับระบายอารมณ์เอากับผืนผ้าใบนั้น ด้วย...หากยังทำงานไม่ได้สักครึ่งหรอก เสียงโทรศัพท์มือถือในมือ ก็แทบจะแผดร้องจนแสบแก้วหูขึ้นมาดับฝันของเขาเสียก่อน"ฮัลโหล เออ...ไอ้เขี้ยวเหรอ ฉันยุ่งอยู่ เร่งงานน่ะ ต้องส่งอาทิตย์นี้แล้ว ว่าไงนะ...จะรบกวนให้ฉันไปเป็นเป็นไกด์ให้ 2-3 วัน ฮะ...ให้เงินเท่าตัวเลยเหรอ เออ ค่อยน่าสนหน่อย แต่เดี๋ยว ๆ ฉันยังไม่กล้ารับปากสิวะ งานฉันยังไม่เสร็จ โอ.เค. งั้นก็ได้ แล้วฉันจะรีบโทร. ส่งข่าว โอเค.เพื่อน แค่นี้นะ ขอบใจว่ะ"อีกครั้งที่ณดลวางสายโทรศัพท์ผิวปากอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยเขาก็ได้รับข่าวดี ทดแทนเรื่องร้ายเล็ก ๆ ที่ผ่านเข้ามาให้รกสมองเมื่อครู่ก่อน และนั่นเองที่ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น ทำงานที่ตัวเองรักและรับปากมาได้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ในที่สุดหากเพียงงานเสร็จ เขาก็แทบทิ้งตัวลงไปนอนแผ่หลาอยู่บนโซฟาตัวยาวนั่นด้วยความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเต็มที มาสะดุ้งตื่นอีกที ก็ด้วยเสียงโหวกเหวกหน้าบ้านนั่นล่ะใครกันนะ มาโวยวายเสียงดังไม่เกรงใจเจ้าของบ้านแบบนี้ !"ออกมาเลยนะคุณ ไอ้ฆาตกรโรคจิต"ไ
"จะบ้าเหรอคุณ ผมก็แค่เรียนศิลปกรรมมาเท่านั้น ไม่ใช่สัปเหร่ออะไรอย่างที่คุณว่าซะหน่อย คุณนี่หัดมองในทางสร้างสรรค์หน่อยไม่ได้หรือนะ"เขาขยับตัวลุกขึ้น เหลียวซ้ายมองขวาหาสายยางที่พอจะเปิดน้ำล้างมือได้บ้าง ขณะที่ทอยส์มองตามอย่างรู้ทัน"อยู่มุมโน้นครับ เดี๋ยวผมเปิดให้แล้วกัน"ทอยส์บอกกับเขาอย่างนั้นก่อนหมุนตัวไปเปิดน้ำให้ ซึ่งดูเหมือนจะเปิดแรงเกินไปหน่อย สายยางดิ้นไปมา น้ำที่พุ่งแรงทำให้เสื้อผ้าเขาเปียกปอนไปหมด"โอ๊ะ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ""ไม่ได้ตั้งใจ แต่เจตนาจะเอาคืนผมล่ะสิ คนเรานะอุตส่าห์มาช่วยฝังเจ้าเหมียวให้ ยังไม่ได้ยินคำขอบคุณสักคำ""ผมก็ไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากคุณเหมือนกันแหละ ที่เป็นตันเหตุทำให้เจ้าเหมียวของผมตายน่ะ"เริ่มเปิดฉากถกเถียงกันอีกครั้ง หากครั้งนี้ เขาทำหน้าเหมือนนึกได้ เพราะปลาทูตัวนั้นเป็นต้นเหตุให้แมวของทอยส์ต้องจบชีวิตจริงๆ"จริงสิ เพราะมันกินปลาทูของผม ผมต้องสืบให้ได้ ว่าทำไมในปลาทูถึงมีพิษ""พักเรื่องนักสืบของคุณไว้ก่อนเถอะ เสื้อผ้าคุณเปียกขนาดนี้ ผมว่าถอดมันผึ่งแดดเอาไว้ก่อนดีมั้ย เดี๋ยวผมเลี้ยงกาแฟคุณแทนการขอบคุณแล้วกัน""อืมม์ ค่อยน่ารักหน่อย"ชายหนุ่มบ่นพึมพ
"มันจะมากไปแล้วนะ ทอยส์""มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ กับสิ่งที่คุณทำกับผม ใครกันแน่ที่ปันใจกัน ผมรู้มาตลอดว่าคุณมีคนใหม่ซุกไว้ที่ทำไว้ที่ทำงาน รู้ตลอดว่าคุณพาใครอีกคนเป็นตุ๊กตาหน้ารถไปกินข้าวร้านหรูอยู่เป็นประจำ ผมยอมไม่มีใครซะดีกว่า ที่จะกลายเป็นคนไร้ค่า มีแฟนเห็นแก่ตัวแบบคุณ กลับไปซะเถอะพอล แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ผมไม่ต้อนรับคุณ""นี่คุณไล่ผมเป็นครั้งที่สองแล้วนะทอยส์ ได้ !ถ้าคุณคิดอย่างนั้น ก็ตามใจคุณเลย ระวังหน่อยแล้วกัน เกิดคุณฮีทขึ้นมา อย่าโทร.ตามผมกลับมาแล้วกัน"ทอยส์ ถึงกับส่ายหน้า พูดไม่ออกกับถ้อยประโยคนั้นของอีกฝ่ายที่ก้าวออกไปจากบ้านของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้ที่ณดลถึงกับสตั๊นไป กับคำพูดประโยคท้ายของหนุ่มพอลนั่นโอเมก้า งั้นเหรอ !ณดลใจหายวาบ สีหน้าเป็นห่วงอีกฝ่ายขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ ยิ่งเห็นทอยส์ทิ้งตัวลงฟุบหน้าร้องไห้กับมือตัวเอง เขายิ่งพลอยเศร้าไปด้วย เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ ๆ เลย"ทอยส์ครับ...เอ้อ ผมขอโทษนะที่ทำให้ชีวิตคุณวุ่นวายแบบนี้ คุณเป็นอะไรมากมั้ย""คุณต่างหาก เจ็บมากมั้ย""ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมไม่เป็นไร เจ็บแค่ไหนก็ทนได้"คนบอกทนได้ แทบซู้ดปากเอาเหมือนกัน"ปากคุณแตก เลือดซ
แทบทุกคนหันไปตามเสียง เป็นตาเดียวกัน !หากใครก็คงไม่ตื่นตกใจ เท่าณดลอีกแล้วล่ะ เพราะหนุ่มน้อยคนนั้น ใช่คุ้นเคยแต่เสียง หากเพียงเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็แทบกระโดดกอดหนุ่มน้อยนั่นเลยทีเดียวถ้าทำได้"ทอยส์ !"ไม่ผิดหรอก ทอยส์จริงๆ นั่นล่ะ เขาไม่ได้ฝันไปเลยสักนิด โลกสว่างไสวสดใส กว่าเดิมอีกไม่รู้กี่เท่าทีเดียว"คุณณดล...""มา ๆ ให้ผมช่วย อย่าเพิ่งถามอะไร รถกำลังจะออกแล้วครับ"ณดลยื่นมือไปรับกระเป๋าใบโตจากทอยส์ ก่อนลุงเวกจะปิดประตูรถ และค่อยเคลื่อนรถออกไปจากที่หมายอย่างช้าๆ แล้วค่อยเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นอีก...ณดลพาเด็กหนุ่มไปนั่งลงตรงที่ว่างไม่ท่างจากเขานัก ก่อนจะจับเอาสัมภาระวางลงบนชั้นเหนือศีรษะให้อีกฝ่ายค่อยคลายกังวล ถอดหมวกออกพัดให้ลมกับตัวเอง"ขอบคุณครับ ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณมาเที่ยวทริปนี้ด้วย""ผมไม่ได้มาเที่ยว ผมเป็นไกด์ เอ้อ ไกด์จำเป็นน่ะ ที่นี่เป็นบริษัททัวร์ของเพื่อนผม แล้วมันติดธุระเลยขอให้ผมมาแทน""ก็ดีนี่ครับ มีรายได้เข้ากระเป๋า""นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับที่ผมได้เจอคุณหรอกนะ ทอยส์"เหมือนจะฟังดูเศร้า หากเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มกลับทำหน้าเข้มๆ ดุ ๆ ใส่อีกฝ่าย ราวกับทอยส์เป็นน้อ
ทำเลดีจัง!ทอยส์ บอกกับตัวเอง เมื่อก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพัก และพบว่าห้องพักนั้นอยู่ริมสุด และด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขา อากาศดียิ่งกว่าตอนยืนอยู่หน้าท่าเทียบเรือไม่รู้กี่เท่า...แต่จะดีกว่านี้ ถ้าทอยส์ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว แล้วเดินไปชมภาพตะวันตกทะเลในยามใกล้ค่ำก่อนมาห้องพัก เสียงของณดล ประกาศกับกรุ๊ปทัวร์อีกว่า ทุกคนต่างมีเวลาก่อนค่ำ ในการพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนไปรวมตัวเพื่อรับประทานอาหาร และสันทนาการก่อกองไฟริมทะเลร่วมกันอีกครั้งในค่ำคืนนั้น พร้อมการแสดงโชว์อีกมากมาย เรียกว่ามากับทริปนี้แล้วไม่เสียหลาย ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ทอยส์บอกกับตัวเองก่อนเปิดประตูเข้าไป อดนึกถึงคำขู่ของขายหนุ่มที่ตะโกนไล่หลังมาไม่ได้"ระวังผีจะหลอกเอา"คนบ้า รู้ว่าอยู่คนเดียว ยังจะมาขู่กันอีกแน่ะ !บ่นไปงั้น เพราะทำอะไรไม่ได้ นอกจากเปิดม่านรับแสงให้ผ่านเข้ามา เปิดเครื่องปรับ อากาศเบาๆ แล้วคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนลับหายเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว...หากยังไม่ทันก้าวพันประตูห้องน้ำออกมาดีหรอก ที่เสียงกุกกักดังจากด้านหลังห้องจะดังขึ้น ทอยส์เพียงแต่เลิกคิ้วสูง ไม่กล้าหันกลับไปมอ
"ถ้าคุณมั่นใจอย่างนั้น ฉันก็คงขัดใจคุณไม่ได้หรอกนะ""ดีใจจริง ถ้างั้นไปแต่งตัวเลยนะคุณ เตรียมตัวไปฉลองกันดีกว่า"ชายหนุ่มปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระเป็นครั้งแรก ให้เธอเผลอค้อน ยิ้มขัน"เอ๊ ! คุณ ไหนว่าเงินมีเท่าไหร่ ใช้ไปก็หมดได้ คุณสอนให้ฉันประหยัดเองนะ แล้วนี่ อึกอักอะไรก็ฉลองท่าเดียว จะเรียกว่าประหยัดได้ยังไงกันคะ""ก็...ผมยังไม่ได้บอกสักคำนี่นาว่าจะชวนคุณไปดินเนอร์นอกบ้านน่ะ ก็แค่จะขวนคุณไปตลาด วันนี้ผมจะโชว์ฝีมือทำอาหารมื้ออร่อยไห้คุณทานเอง โอเคมั้ยคุณ""แน่ใจมั้ยล่ะ ว่าทานได้""ดูถูกน่าคุณ ไปเลย รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชักช้าผมเปลี่ยนให้เอง แล้วอย่ามาอิดออดก็แล้วกัน"เหมือนจะบ่นพอได้ยินอย่างจงใจกลั่นแกล้งให้มาตาแทบโดดผลุงลงจากเตียงกว้างนั่นแทบไม่ทันเรื่องอะไรจะให้อีกฝ่ายฉวยโอกาส เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอให้โง่ล่ะ!"ไม่ต้องเลย ฉันโตแล้ว ฉันทำเองได้ย่ะ"คาสโนวาหนุ่มทิ้งตัวลงบนเดียงกว้าง หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุขที่ได้เย้าอีกฝ่ายให้หน้าแดง เขินอายเล่นได้อย่างนั้น...หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวก้าวเดินลงมาที่ลานจอดรถ หากคราวนี้ เขาไม่ได้ตรงไปที่รถยนต์หรู แต่ไปที
อีกครั้งที่ทอยส์เฝ้าแต่คิดวกไปวนมา สมองของเขามันเต็มไปด้วยคำถามมากมาย...สับสน ว้าวุ่นจนค่อยๆ ฟุบหน้าลงกับท่อนแขนของอีกฝ่าย และเผลอหลับนิ่งไปในท่านั้น...ขณะเดียวกันณดลกลับค่อยๆ หรี่ตาลืมขึ้น พอเห็นว่าเด็กหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว เขาก็แอบยิ้ม นึกถึงคำพูดมากมายที่อีกฝ่ายพร่ำพูดสารพัดเพราะนึกว่าเขาหลับ จนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว !แบบนี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด ถึงจะโดนยิงบาดเจ็บก็ถือว่าคุ้มเชียวล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ใจคนที่เขาแสนรักอย่างทอยส์!ณดลบอกตัวเองในใจ แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง หากการหลับครั้งนี้ เขาหลับตาลงอย่างสุขใจ ไร้กังวลจริงๆ"คุณคะ...คุณคะ"เสียงเรียกเบาๆ นั่นทำให้ทอยส์ขยับตัว พร้อมกับลืมตาขึ้นมองตามเสียงเรียกนั่น ด้วยความหวาคระแวง และพบว่าพยาบาลสาวเตรียมอุปกรณ์ในการเช็ดตัวชายหนุ่มมาครบมือ"ได้เวลาเช็ดตัวให้คนไข้แล้วค่ะ""ครับ...ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวสักครู่ รบกวนฝากคุณพยาบาลด้วยนะครับ""ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกไม่นานคนไข้ก็ฟื้นค่ะ”พยาบาลสาว บอกกับทอยส์ราวกับให้กำลังใจ ขณะที่ทอยส์หมุนตัวกลับออกไปจากห้องพักฟื้นพิเศษนั่นเงียบๆ กำลังคิดว่านอกจากกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังค
"หนาวเหรอทอยส์""ก็คุณเปิดขนาดนี้ ผมคงร้อนหรอกมั้ง"ทอยส์ โวยใส่ให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ"ผมขอโทษ ก็ใครจะคิดว่าคุณขี้หนาว เห็นเมื่อคืน...เหงื่องี้โทรมตัวเชียว”"หยุดนะ หุบปากของคุณไปเลย""ก็ได้ๆ ไม่พูดก็ได้ คุณนี่ เผด็จการชะมัด โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ดี"ชายหนุ่มยังไม่วายบ่น แต่เห็นบ่นๆ อย่างนั้น เขาก็เอื้อมมือไปเบาแอร์ให้ในระดับหนึ่งอยู่ดี จวบจนถึงหน้าบ้านของทอยส์นั่นล่ะ ที่เขาก้าวนำลงไปก่อนเพื่อเปิดประตูรถให้ โดยไม่ทันสังเกตสักนิดว่ามีใครบางคนดับบุหรี่อย่างรวดเร็ว และบดขยี้ด้วยรองเท้าหนาๆ อย่างขัดใจเต็มทีกับภาพที่เห็นเบื้องหน้านั่น"ไงทอยส์...ท่าทางจะสำเริงสำราญกันมาน่าดูชมเลยสินะ ไปปฏิบัติธรรมถึงไหนถึงกันมาเหรอครับ"แค่เพียงวางกระเป้าใบโตของทอยส์ไว้ตรงหน้าบ้าน เพื่อรอให้เธอไขประตูรั้วเท่านั้น ที่ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนจะโผล่พรวดออกมาจากจุดมีดอับมุมหนึ่งนั่น"พอล !""ใช่ ผมเอง ก็ยังดีนะที่คุณยังจำผมได้ ไอ้ผมก็นึกว่า คุณจะลืมไปแล้วว่าความหวานชื่นระหว่างเรามันเป็นยังไง"พอลน่าจะดื่มมาบ้างก่อนหน้านี้ ทอยส์ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งเมื่อเขาก้าวตรงมายังร่างบางของทอยส์ที่แทบถอยหลังไปหลายก้าว
"คุณงดงามที่สุดเลยทอยส์!"ณดลพึมพำขณะกัมลงพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังสะท้านของอีกฝ่าย...ก่อนพลิกตัวทอยส์กลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง เพื่อครอบครองปากลงบนริมฝีปากอบอุ่นของทอยส์ ดื่มด่ำราวคนหิวกระหาย มือข้างหนึ่งนวดเฟ้นฐานอกเต็มไม้เต็มมืออย่างเมามัน ก่อให้เกิดความเสียวกระสันจนทอยส์แทบแหงนหน้ารับ พร้อมกอดบ่าณดลเอาไว้แน่น รู้สึกได้ถึงปลายเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อของเขา ก่อนเสียงร้องครวญครางด้วยความสุข จะดังแข่งกับเสียงฟ้าที่ครางครืนห่างออกไปณดล ค่อยเลื่อนใบหน้าต่ำลง หลังจากนวดเฟ้นแผงอกของอีกฝ่ายที่สะท้านสะท้อนขึ้นลง ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของเขาและทอยส์ ที่ประสานกันด้วยความซ่านเสียวเกินจะทน ก่อนทุกอย่างจะจบลงเมื่อทอยส์ถูกโอบรัดเอาไว้แน่นราวกับสุนัขติดเป้ง เนิ่นนานจนแทบลืมหายใจ !"คุณช่างน่ารักเหลือเกินครับทอยส์""อืมม์..""ขอบคุณ สำหรับความหอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวของคุณนะ ยอดรักของผม"ณดลได้แต่ครางพึมพำแทบไม่ได้ศัพท์ โอบร่างของทอยส์เอาไว้อย่างแสนรัก เมื่อแสงเทียนค่อยมอดดับลง และแสงไฟที่ดับไปอย่างยาวนานก็ยังไม่มา ห้องทั้งห้องจึงเต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงเสียงลมหายใจที่หอบแรงของทั้งคู่เท่านั้นที่แท
"ฝนเบาลงหน่อยแล้ว เดี๋ยวผมไปต้มมาม่ารองท้องก่อนนะ ไม่งั้นน้ำในกระติกมันเย็นละก็ อดกันทั้งคู่แน่"หลังประโยคนั้น ณดลพยายามขยับตัวลุกขึ้น หากทอยส์เองก็ลุกตามด้วยรวดเร็ว"ผมไปด้วย ให้ผมไปช่วยคุณนะ""ทอยส์ นี่ยังกลัวอยู่อีกเหรอ""กลัวสิ หรือคุณไม่กลัว""ผมไม่กลัว เพราะผมไม่เคยสาบานกับใคร""ผมก็ไม่เคยสาบาน"เด็กหนุ่มโต้ทันควัน หากสองมือของเขาก็แทบจะโอบกอดณดลเอาไว้จากทางด้านหลังรวดเร็วหลังฟ้าดังเปรี้ยงลงมาอีกรอบ ในเวลาที่ณดลกำลังจะก้าวเดินต่อไป"ผมจะเชื่อได้มั้ยเนี่ย แค่คุณบอกไม่เคยสาบานยังเปรี้ยงปร้างลงมาถี่ขนาดนี้ ไปๆ คุณ ถ้ากลัว ตามผมมาก็ได้"ไม่ต้องเชื้อเชิญหรอก เวลานั้นทอยส์แทบไม่อยากปล่อยท่อนแขนยาวๆ ของตัวเอง ออกจากเอวของณดลอยู่แล้ว ไม่อยากห่างเขาสักนาทีเดียวเลยเหอะ !"ผมมีต้มยำกุ้ง กับบะหมี่หมูสับ คุณจะทานอะไร""อะไรก็ได้ ใส่ๆ ไปเถอะคุณ ผมไม่ได้หิวนักหรอก"คนบอกไม่หิว แทบจะมีเสียงท้องร้องจ๊อก ๆ ให้ได้ยินในท่ามกลางความมืด และเงียบชั่วขณะนั่น จนเขาเผลอยิ้มออกมา"ผมเชื่อคุณมากเลย...โอ.เค. ช่วยจุดเทียนให้ผมหน่อยนะ หรือไม่ก็แค่เอามือของคุณออกจากเอวผม แล้วมาถือเทียนให้ผมหน่อย"ทอยส์แทบละร่
"จริงๆ แล้ว บ่ายนี้เราต้องเดินทางออกจากเกาะถึงฝั่งกันนะครับ แต่มีอุปสรรคนิดหน่อยเพราะทางฝั่งรายงานมาว่า พายุจะเข้าบ่ายนี้ และเราไม่ควรออกเรือฝ่าพายุไปอย่างเด็ดขาด ค่ำคืนนี้ เราจะงดกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เอาไว้ก่อน ขอให้ทุกท่าน พักผ่อนตามอัธยาศัยหลังอาหารมื้อเย็น ไม่ควรออกจากห้องพัก จนกว่าพายุจะสงบขอบคุณทุกท่านครับ"หลังดำน้ำขึ้นมาได้ไม่นาน เสียงประกาศตามสายไปทั่วทุกห้องพักก็ดังกระหึ่ม...บางคนกำลังเตรียมเก็บสัมภาระก็ถึงกับหยุดชะงักไปได้ทีเดียว โดยเฉพาะทอยส์ เพราะหลังเสียงประกาศก้องไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ให้เธอชะงักมือที่พับผ้าอยู่นั่น แล้วขยับตัวก้าวเดินไปเปิดประตูกว้างออก และพบว่าเป็นเจ้าของเสียงประกาศเมื่อครู่ก่อนนั้น"คุณณดล...""คุณเก็บของเรียบร้อยยัง""ยังครับ ก็นั่งพับเก็บอยู่ ไม่ต้องรีบแล้วไม่ใช่เหรอ ยังไงก็ยังออกจากเกาะไม่ได้นี่ คุณเพิ่งประกาศออกไป ผมได้ยินอยู่”ทอยส์ ย้อนถาม ขณะที่ชายหนุ่มถือวิสาสะเข้าไปในห้องของเธอ แถมยังช่วยพับผ้ากองโตนั่นหน้าตาเฉยอีกด้วย"คนอื่นไม่รีบก็ได้ แต่คุณไม่รีบไม่ได้ เพราะห้องคุณอยู่ใกล้ทะเลมากกว่าห้องอื่น เป็นจุดที่อันตรายที่สุด""อะไรนะครั
"บ้าสิ...ใครเขาจะคิดไม่ซื่อกับคุณ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”"โอ.เค. ไม่หลงตัวเอง แต่ผมหลงคุณจนหัวปักหัวปำไปแล้ว จะไงล่ะ"อีกครั้งที่เขาเป็นฝ่ายพลิกตัวเข้าหาอีกฝ่าย สองมือยังเกาะกุมมือของทอยส์เอาไว้แนบแน่น"นี่ อย่าแม้แต่จะคิดนะดล ผมไม่สนุกด้วย""แล้วนึกว่าผมสนุกนักรึไง อยู่ ๆ ก็โดนชกหน้าไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ คุณต้องชดใช้ให้ผม”ณดล กระซิบข้างหูทอยส์ ก่อนก้มลงประทับริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากบางแห้งผากหากอบอุ่นจนร้อนของอีกฝ่าย ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนทอยส์เองไม่อาจทัดทานได้ทัน ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออก แล้วโดดลงจากเตียงรวดเร็ว ก่อนที่จะถูกชกปากเข้าให้อีก เพราะรู้ว่าอีกฝ่าย นอกจากปากไวแล้ว มือยังไวจัดได้อีก"เราหายกันแล้วนะ คุณพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราจะไปดำน้ำดูปะการังกัน ฝันดีครับ"คนบอกฝันดี เผ่นไปถึงประตูแล้ว แถมยังยกมือส่งจูบให้ทอยส์ก่อนกดล็อกและปิดประตูแน่นหนา ให้ทอยส์ถึงกับใช้ปลายนิ้วสั่นระริกลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ อยู่เพียงลำพังเหอะ คงฝันดีตายล่ะ เจอรสจูบของนายเข้าไปชนิดไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ !…เช้าวันใหม่...กรุ๊ปทัวร์ของณดล ถูกพาลงเรือไปดำน้ำดูปะการังตามแพลนที่วางไว้
หลังอาหารมื้อค่ำ...หลังสันทนาการ หลังเสียงเพลง และกองไฟที่ลุกโชนดับลง บรรดาลูกทัวร์ ต่างก็พากันกลับไปห้องเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย มีเพียงชายหนุ่มอย่างณดลเท่านั้น สมัครใจเป็นไกด์ส่วนตัวเพื่อพาเด็กหนุ่มขี้เหงาวายร้ายอย่างทอยส์ ไปเดินชมทะเลยามค่ำ ค่ำคืนที่เขาบอกกับทอยส์ด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนว่า…"แล้วคุณจะรู้ว่าทะเลกลางคืนก็มีความงดงามซ่อนอยู่ แม้ว่าจะดูสวยแปลกๆ ไปหน่อยก็เถอะ""เหมือนคุณมั้ยครับ ไอ้แปลกๆ นี่""ผมดูแปลกในสายตาคุณเหรอทอยส์ แต่ต่อให้แปลกแค่ไหน ผมก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายใครนะ ถ้าคน ๆ นั้นไม่สมัครใจ”"ผมรู้...ถ้าคุณคิดจะทำร้ายผม คุณคงทำไปตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วล่ะ จริงมั้ย"ทอยส์ ระบายยิ้มอ่อนๆ ท่ามกลางเสียงคลื่น และลมทะเลที่พัดอื้ออึง ตามจังหวะของมัน ความอบอุ่นใจ ไม่รู้ว่าพรั่งพรูมาจากไหนจนทำให้ทอยส์คลายกังวลใจสารพัดลงไปได้บ้าง"ตอนแรกผมนึกว่า ผมจะรู้ใจคุณคนเดียวซะอีก ที่ไหนได้ คุณก็รู้ใจผมเหมือนกันนะ โอ.เค.ผมยอมแพ้ เราเดินไปนอนดูดาวตรงนั้นกันดีมั้ย ที่นั่นมีเตียงผ้าใบอยู่สองตัวพอดี""มันพอดี เพราะมีคนเอามาวางไว้ต่างหาก !""คุณนี่รู้ทันผมไปซะทุกเรื่อง""ผมไม่ใช่คนโง่นี่ครับ”
ทำเลดีจัง!ทอยส์ บอกกับตัวเอง เมื่อก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพัก และพบว่าห้องพักนั้นอยู่ริมสุด และด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขา อากาศดียิ่งกว่าตอนยืนอยู่หน้าท่าเทียบเรือไม่รู้กี่เท่า...แต่จะดีกว่านี้ ถ้าทอยส์ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว แล้วเดินไปชมภาพตะวันตกทะเลในยามใกล้ค่ำก่อนมาห้องพัก เสียงของณดล ประกาศกับกรุ๊ปทัวร์อีกว่า ทุกคนต่างมีเวลาก่อนค่ำ ในการพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนไปรวมตัวเพื่อรับประทานอาหาร และสันทนาการก่อกองไฟริมทะเลร่วมกันอีกครั้งในค่ำคืนนั้น พร้อมการแสดงโชว์อีกมากมาย เรียกว่ามากับทริปนี้แล้วไม่เสียหลาย ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ทอยส์บอกกับตัวเองก่อนเปิดประตูเข้าไป อดนึกถึงคำขู่ของขายหนุ่มที่ตะโกนไล่หลังมาไม่ได้"ระวังผีจะหลอกเอา"คนบ้า รู้ว่าอยู่คนเดียว ยังจะมาขู่กันอีกแน่ะ !บ่นไปงั้น เพราะทำอะไรไม่ได้ นอกจากเปิดม่านรับแสงให้ผ่านเข้ามา เปิดเครื่องปรับ อากาศเบาๆ แล้วคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนลับหายเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว...หากยังไม่ทันก้าวพันประตูห้องน้ำออกมาดีหรอก ที่เสียงกุกกักดังจากด้านหลังห้องจะดังขึ้น ทอยส์เพียงแต่เลิกคิ้วสูง ไม่กล้าหันกลับไปมอ