แทบทุกคนหันไปตามเสียง เป็นตาเดียวกัน !
หากใครก็คงไม่ตื่นตกใจ เท่าณดลอีกแล้วล่ะ เพราะหนุ่มน้อยคนนั้น ใช่คุ้นเคยแต่เสียง หากเพียงเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็แทบกระโดดกอดหนุ่มน้อยนั่นเลยทีเดียวถ้าทำได้
"ทอยส์ !"
ไม่ผิดหรอก ทอยส์จริงๆ นั่นล่ะ เขาไม่ได้ฝันไปเลยสักนิด โลกสว่างไสวสดใส กว่าเดิมอีกไม่รู้กี่เท่าทีเดียว
"คุณณดล..."
"มา ๆ ให้ผมช่วย อย่าเพิ่งถามอะไร รถกำลังจะออกแล้วครับ"
ณดลยื่นมือไปรับกระเป๋าใบโตจากทอยส์ ก่อนลุงเวกจะปิดประตูรถ และค่อยเคลื่อนรถออกไปจากที่หมายอย่างช้าๆ แล้วค่อยเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นอีก...ณดลพาเด็กหนุ่มไปนั่งลงตรงที่ว่างไม่ท่างจากเขานัก ก่อนจะจับเอาสัมภาระวางลงบนชั้นเหนือศีรษะให้อีกฝ่ายค่อยคลายกังวล ถอดหมวกออกพัดให้ลมกับตัวเอง
"ขอบคุณครับ ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณมาเที่ยวทริปนี้ด้วย"
"ผมไม่ได้มาเที่ยว ผมเป็นไกด์ เอ้อ ไกด์จำเป็นน่ะ ที่นี่เป็นบริษัททัวร์ของเพื่อนผม แล้วมันติดธุระเลยขอให้ผมมาแทน"
"ก็ดีนี่ครับ มีรายได้เข้ากระเป๋า"
"นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับที่ผมได้เจอคุณหรอกนะ ทอยส์"
เหมือนจะฟังดูเศร้า หากเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มกลับทำหน้าเข้มๆ ดุ ๆ ใส่อีกฝ่าย ราวกับทอยส์เป็นน้องเล็กๆ ของเขาอย่างนั้น
"แต่เดี๋ยวนะ...ผมเห็นคุณติดป้ายหน้าบ้านว่าไปปฏิบัติธรรมนี่นา แล้วมาโผล่อะไรที่นี่ โกทกนี่ผิดศีลนะคุณ แค่นี้คุณก็บรรลุธรรมไม่ได้แล้ว"
"ก็แล้วใครบอกว่าผมจะบรรลุธรรม ผมก็แค่อยากให้พอลได้เห็นป้ายหน้าบ้าน แล้วเลิกยุ่งกับชีวิตผมซะทีก็แค่นั้นเอง คุณนั่นล่ะ ทำตัวเป็นนักสืบไม่เลิกรา ไปยุ่มย่ามอะไรแถวหน้าบ้านผมกันนักหนา"
"ผมไม่ได้คิดจะไปแค่หน้าบ้านหรอก ตั้งใจจะบุกเข้าบ้านเลยล่ะ ก็ผมเป็นห่วงคุณนี่ทอยส์"
"ขอบคุณนะ แต่ถ้าคุณเป็นห่วงผมจริงละก็ ผมว่าคุณกลับไปนั่งที่ทางของคุณได้แล้ว เดี๋ยวพวกลูกทัวร์ เขาจะได้ว่าฉันเป็นพวกอภิสิทธิ์ชนกันพอดี อ้อ...อีกอย่างนะ ยิ่งคุณเป็นไกด์แทนเพื่อนก็ควรปฏิบัติหน้าที่ได้แล้วไม่อย่างนั้น กลับไปเมื่อไหร่ฉันจะฟ้องเพื่อนคุณให้จ่ายเงินคุณแค่ครึ่งเดียวก็พอ"
อึ้งไปได้อีกรอบในคราวนี้...
หากเพียงชั่วขณะหนึ่ง ณดลก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ทอยส์ได้ข่มขู่เอาไว้ ลืมไปเสียสนิทว่า ทอยส์รู้จักเพื่อนเขาซะที่ไหน แต่ก็นั่นล่ะ หลังจากนั้น ณดลก็เลือกที่จะลุกไปทำหน้าที่ยืนถือไมค์ แจ้งโปรแกรม แผนการท่องเที่ยวในแต่ละวัน สันทนาการต่างๆ มากมาย ก่อนตบท้ายด้วยการร้องเพลงเบาๆ เพลินๆ เพื่อให้ลูกทัวร์ไม่รู้สึกเบื่อในการเดินทางจากรถไปสู่เรือลำใหญ่ที่จอดเทียบท่ารอ เพื่อพาลูกทัวร์ไปสู่เกาะที่แสนงดงามกันต่อไป
เหนือท้องทะเลกว้างไกล...
ยังไม่ทันได้ลงเรือเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะที่หมายสักนิด หากถึงอย่างนั้น ทอยส์ก็อดที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่ได้ อากาศดีจัง ดีเสียจนเธอแทบหลงลืมความอ่อนล้าในหัวใจไปจนหมดทีเดียว
"เดี๋ยวๆ นะครับ รอลูกทัวร์ผมอีกคน เอ้า...คุณทอยส์ครับ จะยืนหายใจเข้าหายใจออกอีกนานมั้ย เรือจะออกแล้ว เร็วหน่อยสิคุณ"
ณดล บอกกับโซเฟอร์ขับเรือ ก่อนหันมาตะโกนบอกเด็กหนุ่ม และอารามรีบร้อนนี้ล่ะที่ทำให้เธอเซไปปะทะกับแผงอกกว้างของเขาเต็มที่ จนอีกฝ่ายก็แทบจะกางแขนโอบประคองทอยส์เอาไว้รวดเร็วโดยอัตโนมัติ และเพียงสบตากันเท่านั้น ณดลก็เหมือนรู้สึกได้ถึงสายตาของลูกทัวร์รอบๆ นั่น จนแทบปล่อยร่างในอ้อมแขนให้เป็นอิสระรวดเร็ว
ทำงานสาธารณะ ก็ต้องแคร์สื่อแบบนี้ล่ะ !
"ขอโทษครับ...ผมกลัวคุณล้มน่ะ"
"ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณ ผมคงร่วงใส่เรือไปแล้วจริงๆ นั่นล่ะ"
ทอยส์พึมพำก่อนก้าวลงเรือไปเงียบๆ และเงียบอยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระทึกจวบจน ถึงที่หมายเลยทีเดียว
"ถึงที่พักแล้ว เดี๋ยวพวกเราจะได้กุญแจห้องกัน สำหรับห้องพัก จะเป็นสองคนต่อหนึ่งห้องนะครับ"
ณดล ประกาศเจื้อยแจ้ว ก่อนแจกกุญแจห้องพักภายในรีสอร์ทให้ทุกคน จนถึงมือของทอยส์นี่ล่ะ ที่เขาเลิกคิ้วสูงตัวด้วยความประหลาดใจ
"เดี๋ยวนะ ทอยส์ นี่คุณจองไว้สองคน เพื่อต้องการพักคนเดียวเลยเหรอ"
"เปล่า ผมจองไว้เผื่อ เอ้อ...พอลต่างหาก"
"ต่อให้อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่อ คุณไม่ใช่พวกชอบปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนั้นหรอก ผมรู้"
"เหอะ คุณเพิ่งรู้จักผมได้ไม่เท่าไหร่ กล้ารับรองผมขนาดนั้นเขียว อย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย อีกอย่าง...ไม่ต้องอยากรู้ไปซะทุกเรื่องก็ได้นี่ครับ เอากุญแจมาได้แล้ว ผมอยากพักเต็มที
ทอยส์ไม่รอให้เขาส่งกุญแจให้ในคราวนี้ กลับฉวยเอากุญแจนั่นมาจากมือเขาหน้าตาเฉย
"ผมได้กุญแจแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ คุณไกด์สุดหล่อ !"
รู้ล่ะว่าทอยส์จงใจแกล้งเขาเต็มๆ เพราะนอกจากสุ้มเสียงล้อเลียนแล้ว ยังแถมแลบลิ้นใส่ เขาหน้าตาเฉยอีกต่างหาก ร้ายกาจจริง !
"ระวังให้ดีแล้วกันคุณ พักคนเดียวแบบนี้ ผีจะหลอกเอา !”
ณดล จงใจตะโกนไล่หลังแกล้งทอยส์เข้าให้บ้าง หากฝ่ายนั้นกลับโบกมือให้แล้วเดินต่อไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองเขาสักนิด ท่าทางทอยส์บอกว่าไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว นอกจากการพักผ่อนจริงๆ
ทำเลดีจัง!ทอยส์ บอกกับตัวเอง เมื่อก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพัก และพบว่าห้องพักนั้นอยู่ริมสุด และด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขา อากาศดียิ่งกว่าตอนยืนอยู่หน้าท่าเทียบเรือไม่รู้กี่เท่า...แต่จะดีกว่านี้ ถ้าทอยส์ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว แล้วเดินไปชมภาพตะวันตกทะเลในยามใกล้ค่ำก่อนมาห้องพัก เสียงของณดล ประกาศกับกรุ๊ปทัวร์อีกว่า ทุกคนต่างมีเวลาก่อนค่ำ ในการพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนไปรวมตัวเพื่อรับประทานอาหาร และสันทนาการก่อกองไฟริมทะเลร่วมกันอีกครั้งในค่ำคืนนั้น พร้อมการแสดงโชว์อีกมากมาย เรียกว่ามากับทริปนี้แล้วไม่เสียหลาย ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ทอยส์บอกกับตัวเองก่อนเปิดประตูเข้าไป อดนึกถึงคำขู่ของขายหนุ่มที่ตะโกนไล่หลังมาไม่ได้"ระวังผีจะหลอกเอา"คนบ้า รู้ว่าอยู่คนเดียว ยังจะมาขู่กันอีกแน่ะ !บ่นไปงั้น เพราะทำอะไรไม่ได้ นอกจากเปิดม่านรับแสงให้ผ่านเข้ามา เปิดเครื่องปรับ อากาศเบาๆ แล้วคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนลับหายเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว...หากยังไม่ทันก้าวพันประตูห้องน้ำออกมาดีหรอก ที่เสียงกุกกักดังจากด้านหลังห้องจะดังขึ้น ทอยส์เพียงแต่เลิกคิ้วสูง ไม่กล้าหันกลับไปมอ
หลังอาหารมื้อค่ำ...หลังสันทนาการ หลังเสียงเพลง และกองไฟที่ลุกโชนดับลง บรรดาลูกทัวร์ ต่างก็พากันกลับไปห้องเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย มีเพียงชายหนุ่มอย่างณดลเท่านั้น สมัครใจเป็นไกด์ส่วนตัวเพื่อพาเด็กหนุ่มขี้เหงาวายร้ายอย่างทอยส์ ไปเดินชมทะเลยามค่ำ ค่ำคืนที่เขาบอกกับทอยส์ด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนว่า…"แล้วคุณจะรู้ว่าทะเลกลางคืนก็มีความงดงามซ่อนอยู่ แม้ว่าจะดูสวยแปลกๆ ไปหน่อยก็เถอะ""เหมือนคุณมั้ยครับ ไอ้แปลกๆ นี่""ผมดูแปลกในสายตาคุณเหรอทอยส์ แต่ต่อให้แปลกแค่ไหน ผมก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายใครนะ ถ้าคน ๆ นั้นไม่สมัครใจ”"ผมรู้...ถ้าคุณคิดจะทำร้ายผม คุณคงทำไปตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วล่ะ จริงมั้ย"ทอยส์ ระบายยิ้มอ่อนๆ ท่ามกลางเสียงคลื่น และลมทะเลที่พัดอื้ออึง ตามจังหวะของมัน ความอบอุ่นใจ ไม่รู้ว่าพรั่งพรูมาจากไหนจนทำให้ทอยส์คลายกังวลใจสารพัดลงไปได้บ้าง"ตอนแรกผมนึกว่า ผมจะรู้ใจคุณคนเดียวซะอีก ที่ไหนได้ คุณก็รู้ใจผมเหมือนกันนะ โอ.เค.ผมยอมแพ้ เราเดินไปนอนดูดาวตรงนั้นกันดีมั้ย ที่นั่นมีเตียงผ้าใบอยู่สองตัวพอดี""มันพอดี เพราะมีคนเอามาวางไว้ต่างหาก !""คุณนี่รู้ทันผมไปซะทุกเรื่อง""ผมไม่ใช่คนโง่นี่ครับ”
"บ้าสิ...ใครเขาจะคิดไม่ซื่อกับคุณ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”"โอ.เค. ไม่หลงตัวเอง แต่ผมหลงคุณจนหัวปักหัวปำไปแล้ว จะไงล่ะ"อีกครั้งที่เขาเป็นฝ่ายพลิกตัวเข้าหาอีกฝ่าย สองมือยังเกาะกุมมือของทอยส์เอาไว้แนบแน่น"นี่ อย่าแม้แต่จะคิดนะดล ผมไม่สนุกด้วย""แล้วนึกว่าผมสนุกนักรึไง อยู่ ๆ ก็โดนชกหน้าไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ คุณต้องชดใช้ให้ผม”ณดล กระซิบข้างหูทอยส์ ก่อนก้มลงประทับริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากบางแห้งผากหากอบอุ่นจนร้อนของอีกฝ่าย ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนทอยส์เองไม่อาจทัดทานได้ทัน ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออก แล้วโดดลงจากเตียงรวดเร็ว ก่อนที่จะถูกชกปากเข้าให้อีก เพราะรู้ว่าอีกฝ่าย นอกจากปากไวแล้ว มือยังไวจัดได้อีก"เราหายกันแล้วนะ คุณพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราจะไปดำน้ำดูปะการังกัน ฝันดีครับ"คนบอกฝันดี เผ่นไปถึงประตูแล้ว แถมยังยกมือส่งจูบให้ทอยส์ก่อนกดล็อกและปิดประตูแน่นหนา ให้ทอยส์ถึงกับใช้ปลายนิ้วสั่นระริกลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ อยู่เพียงลำพังเหอะ คงฝันดีตายล่ะ เจอรสจูบของนายเข้าไปชนิดไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ !…เช้าวันใหม่...กรุ๊ปทัวร์ของณดล ถูกพาลงเรือไปดำน้ำดูปะการังตามแพลนที่วางไว้
"จริงๆ แล้ว บ่ายนี้เราต้องเดินทางออกจากเกาะถึงฝั่งกันนะครับ แต่มีอุปสรรคนิดหน่อยเพราะทางฝั่งรายงานมาว่า พายุจะเข้าบ่ายนี้ และเราไม่ควรออกเรือฝ่าพายุไปอย่างเด็ดขาด ค่ำคืนนี้ เราจะงดกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เอาไว้ก่อน ขอให้ทุกท่าน พักผ่อนตามอัธยาศัยหลังอาหารมื้อเย็น ไม่ควรออกจากห้องพัก จนกว่าพายุจะสงบขอบคุณทุกท่านครับ"หลังดำน้ำขึ้นมาได้ไม่นาน เสียงประกาศตามสายไปทั่วทุกห้องพักก็ดังกระหึ่ม...บางคนกำลังเตรียมเก็บสัมภาระก็ถึงกับหยุดชะงักไปได้ทีเดียว โดยเฉพาะทอยส์ เพราะหลังเสียงประกาศก้องไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ให้เธอชะงักมือที่พับผ้าอยู่นั่น แล้วขยับตัวก้าวเดินไปเปิดประตูกว้างออก และพบว่าเป็นเจ้าของเสียงประกาศเมื่อครู่ก่อนนั้น"คุณณดล...""คุณเก็บของเรียบร้อยยัง""ยังครับ ก็นั่งพับเก็บอยู่ ไม่ต้องรีบแล้วไม่ใช่เหรอ ยังไงก็ยังออกจากเกาะไม่ได้นี่ คุณเพิ่งประกาศออกไป ผมได้ยินอยู่”ทอยส์ ย้อนถาม ขณะที่ชายหนุ่มถือวิสาสะเข้าไปในห้องของเธอ แถมยังช่วยพับผ้ากองโตนั่นหน้าตาเฉยอีกด้วย"คนอื่นไม่รีบก็ได้ แต่คุณไม่รีบไม่ได้ เพราะห้องคุณอยู่ใกล้ทะเลมากกว่าห้องอื่น เป็นจุดที่อันตรายที่สุด""อะไรนะครั
"ฝนเบาลงหน่อยแล้ว เดี๋ยวผมไปต้มมาม่ารองท้องก่อนนะ ไม่งั้นน้ำในกระติกมันเย็นละก็ อดกันทั้งคู่แน่"หลังประโยคนั้น ณดลพยายามขยับตัวลุกขึ้น หากทอยส์เองก็ลุกตามด้วยรวดเร็ว"ผมไปด้วย ให้ผมไปช่วยคุณนะ""ทอยส์ นี่ยังกลัวอยู่อีกเหรอ""กลัวสิ หรือคุณไม่กลัว""ผมไม่กลัว เพราะผมไม่เคยสาบานกับใคร""ผมก็ไม่เคยสาบาน"เด็กหนุ่มโต้ทันควัน หากสองมือของเขาก็แทบจะโอบกอดณดลเอาไว้จากทางด้านหลังรวดเร็วหลังฟ้าดังเปรี้ยงลงมาอีกรอบ ในเวลาที่ณดลกำลังจะก้าวเดินต่อไป"ผมจะเชื่อได้มั้ยเนี่ย แค่คุณบอกไม่เคยสาบานยังเปรี้ยงปร้างลงมาถี่ขนาดนี้ ไปๆ คุณ ถ้ากลัว ตามผมมาก็ได้"ไม่ต้องเชื้อเชิญหรอก เวลานั้นทอยส์แทบไม่อยากปล่อยท่อนแขนยาวๆ ของตัวเอง ออกจากเอวของณดลอยู่แล้ว ไม่อยากห่างเขาสักนาทีเดียวเลยเหอะ !"ผมมีต้มยำกุ้ง กับบะหมี่หมูสับ คุณจะทานอะไร""อะไรก็ได้ ใส่ๆ ไปเถอะคุณ ผมไม่ได้หิวนักหรอก"คนบอกไม่หิว แทบจะมีเสียงท้องร้องจ๊อก ๆ ให้ได้ยินในท่ามกลางความมืด และเงียบชั่วขณะนั่น จนเขาเผลอยิ้มออกมา"ผมเชื่อคุณมากเลย...โอ.เค. ช่วยจุดเทียนให้ผมหน่อยนะ หรือไม่ก็แค่เอามือของคุณออกจากเอวผม แล้วมาถือเทียนให้ผมหน่อย"ทอยส์แทบละร่
"คุณงดงามที่สุดเลยทอยส์!"ณดลพึมพำขณะกัมลงพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังสะท้านของอีกฝ่าย...ก่อนพลิกตัวทอยส์กลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง เพื่อครอบครองปากลงบนริมฝีปากอบอุ่นของทอยส์ ดื่มด่ำราวคนหิวกระหาย มือข้างหนึ่งนวดเฟ้นฐานอกเต็มไม้เต็มมืออย่างเมามัน ก่อให้เกิดความเสียวกระสันจนทอยส์แทบแหงนหน้ารับ พร้อมกอดบ่าณดลเอาไว้แน่น รู้สึกได้ถึงปลายเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อของเขา ก่อนเสียงร้องครวญครางด้วยความสุข จะดังแข่งกับเสียงฟ้าที่ครางครืนห่างออกไปณดล ค่อยเลื่อนใบหน้าต่ำลง หลังจากนวดเฟ้นแผงอกของอีกฝ่ายที่สะท้านสะท้อนขึ้นลง ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของเขาและทอยส์ ที่ประสานกันด้วยความซ่านเสียวเกินจะทน ก่อนทุกอย่างจะจบลงเมื่อทอยส์ถูกโอบรัดเอาไว้แน่นราวกับสุนัขติดเป้ง เนิ่นนานจนแทบลืมหายใจ !"คุณช่างน่ารักเหลือเกินครับทอยส์""อืมม์..""ขอบคุณ สำหรับความหอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวของคุณนะ ยอดรักของผม"ณดลได้แต่ครางพึมพำแทบไม่ได้ศัพท์ โอบร่างของทอยส์เอาไว้อย่างแสนรัก เมื่อแสงเทียนค่อยมอดดับลง และแสงไฟที่ดับไปอย่างยาวนานก็ยังไม่มา ห้องทั้งห้องจึงเต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงเสียงลมหายใจที่หอบแรงของทั้งคู่เท่านั้นที่แท
"หนาวเหรอทอยส์""ก็คุณเปิดขนาดนี้ ผมคงร้อนหรอกมั้ง"ทอยส์ โวยใส่ให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ"ผมขอโทษ ก็ใครจะคิดว่าคุณขี้หนาว เห็นเมื่อคืน...เหงื่องี้โทรมตัวเชียว”"หยุดนะ หุบปากของคุณไปเลย""ก็ได้ๆ ไม่พูดก็ได้ คุณนี่ เผด็จการชะมัด โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ดี"ชายหนุ่มยังไม่วายบ่น แต่เห็นบ่นๆ อย่างนั้น เขาก็เอื้อมมือไปเบาแอร์ให้ในระดับหนึ่งอยู่ดี จวบจนถึงหน้าบ้านของทอยส์นั่นล่ะ ที่เขาก้าวนำลงไปก่อนเพื่อเปิดประตูรถให้ โดยไม่ทันสังเกตสักนิดว่ามีใครบางคนดับบุหรี่อย่างรวดเร็ว และบดขยี้ด้วยรองเท้าหนาๆ อย่างขัดใจเต็มทีกับภาพที่เห็นเบื้องหน้านั่น"ไงทอยส์...ท่าทางจะสำเริงสำราญกันมาน่าดูชมเลยสินะ ไปปฏิบัติธรรมถึงไหนถึงกันมาเหรอครับ"แค่เพียงวางกระเป้าใบโตของทอยส์ไว้ตรงหน้าบ้าน เพื่อรอให้เธอไขประตูรั้วเท่านั้น ที่ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนจะโผล่พรวดออกมาจากจุดมีดอับมุมหนึ่งนั่น"พอล !""ใช่ ผมเอง ก็ยังดีนะที่คุณยังจำผมได้ ไอ้ผมก็นึกว่า คุณจะลืมไปแล้วว่าความหวานชื่นระหว่างเรามันเป็นยังไง"พอลน่าจะดื่มมาบ้างก่อนหน้านี้ ทอยส์ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งเมื่อเขาก้าวตรงมายังร่างบางของทอยส์ที่แทบถอยหลังไปหลายก้าว
อีกครั้งที่ทอยส์เฝ้าแต่คิดวกไปวนมา สมองของเขามันเต็มไปด้วยคำถามมากมาย...สับสน ว้าวุ่นจนค่อยๆ ฟุบหน้าลงกับท่อนแขนของอีกฝ่าย และเผลอหลับนิ่งไปในท่านั้น...ขณะเดียวกันณดลกลับค่อยๆ หรี่ตาลืมขึ้น พอเห็นว่าเด็กหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว เขาก็แอบยิ้ม นึกถึงคำพูดมากมายที่อีกฝ่ายพร่ำพูดสารพัดเพราะนึกว่าเขาหลับ จนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว !แบบนี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด ถึงจะโดนยิงบาดเจ็บก็ถือว่าคุ้มเชียวล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ใจคนที่เขาแสนรักอย่างทอยส์!ณดลบอกตัวเองในใจ แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง หากการหลับครั้งนี้ เขาหลับตาลงอย่างสุขใจ ไร้กังวลจริงๆ"คุณคะ...คุณคะ"เสียงเรียกเบาๆ นั่นทำให้ทอยส์ขยับตัว พร้อมกับลืมตาขึ้นมองตามเสียงเรียกนั่น ด้วยความหวาคระแวง และพบว่าพยาบาลสาวเตรียมอุปกรณ์ในการเช็ดตัวชายหนุ่มมาครบมือ"ได้เวลาเช็ดตัวให้คนไข้แล้วค่ะ""ครับ...ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวสักครู่ รบกวนฝากคุณพยาบาลด้วยนะครับ""ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกไม่นานคนไข้ก็ฟื้นค่ะ”พยาบาลสาว บอกกับทอยส์ราวกับให้กำลังใจ ขณะที่ทอยส์หมุนตัวกลับออกไปจากห้องพักฟื้นพิเศษนั่นเงียบๆ กำลังคิดว่านอกจากกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังค
"ถ้าคุณมั่นใจอย่างนั้น ฉันก็คงขัดใจคุณไม่ได้หรอกนะ""ดีใจจริง ถ้างั้นไปแต่งตัวเลยนะคุณ เตรียมตัวไปฉลองกันดีกว่า"ชายหนุ่มปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระเป็นครั้งแรก ให้เธอเผลอค้อน ยิ้มขัน"เอ๊ ! คุณ ไหนว่าเงินมีเท่าไหร่ ใช้ไปก็หมดได้ คุณสอนให้ฉันประหยัดเองนะ แล้วนี่ อึกอักอะไรก็ฉลองท่าเดียว จะเรียกว่าประหยัดได้ยังไงกันคะ""ก็...ผมยังไม่ได้บอกสักคำนี่นาว่าจะชวนคุณไปดินเนอร์นอกบ้านน่ะ ก็แค่จะขวนคุณไปตลาด วันนี้ผมจะโชว์ฝีมือทำอาหารมื้ออร่อยไห้คุณทานเอง โอเคมั้ยคุณ""แน่ใจมั้ยล่ะ ว่าทานได้""ดูถูกน่าคุณ ไปเลย รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชักช้าผมเปลี่ยนให้เอง แล้วอย่ามาอิดออดก็แล้วกัน"เหมือนจะบ่นพอได้ยินอย่างจงใจกลั่นแกล้งให้มาตาแทบโดดผลุงลงจากเตียงกว้างนั่นแทบไม่ทันเรื่องอะไรจะให้อีกฝ่ายฉวยโอกาส เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอให้โง่ล่ะ!"ไม่ต้องเลย ฉันโตแล้ว ฉันทำเองได้ย่ะ"คาสโนวาหนุ่มทิ้งตัวลงบนเดียงกว้าง หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุขที่ได้เย้าอีกฝ่ายให้หน้าแดง เขินอายเล่นได้อย่างนั้น...หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวก้าวเดินลงมาที่ลานจอดรถ หากคราวนี้ เขาไม่ได้ตรงไปที่รถยนต์หรู แต่ไปที
อีกครั้งที่ทอยส์เฝ้าแต่คิดวกไปวนมา สมองของเขามันเต็มไปด้วยคำถามมากมาย...สับสน ว้าวุ่นจนค่อยๆ ฟุบหน้าลงกับท่อนแขนของอีกฝ่าย และเผลอหลับนิ่งไปในท่านั้น...ขณะเดียวกันณดลกลับค่อยๆ หรี่ตาลืมขึ้น พอเห็นว่าเด็กหนุ่มหลับสนิทไปแล้ว เขาก็แอบยิ้ม นึกถึงคำพูดมากมายที่อีกฝ่ายพร่ำพูดสารพัดเพราะนึกว่าเขาหลับ จนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว !แบบนี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด ถึงจะโดนยิงบาดเจ็บก็ถือว่าคุ้มเชียวล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ใจคนที่เขาแสนรักอย่างทอยส์!ณดลบอกตัวเองในใจ แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง หากการหลับครั้งนี้ เขาหลับตาลงอย่างสุขใจ ไร้กังวลจริงๆ"คุณคะ...คุณคะ"เสียงเรียกเบาๆ นั่นทำให้ทอยส์ขยับตัว พร้อมกับลืมตาขึ้นมองตามเสียงเรียกนั่น ด้วยความหวาคระแวง และพบว่าพยาบาลสาวเตรียมอุปกรณ์ในการเช็ดตัวชายหนุ่มมาครบมือ"ได้เวลาเช็ดตัวให้คนไข้แล้วค่ะ""ครับ...ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวสักครู่ รบกวนฝากคุณพยาบาลด้วยนะครับ""ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกไม่นานคนไข้ก็ฟื้นค่ะ”พยาบาลสาว บอกกับทอยส์ราวกับให้กำลังใจ ขณะที่ทอยส์หมุนตัวกลับออกไปจากห้องพักฟื้นพิเศษนั่นเงียบๆ กำลังคิดว่านอกจากกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังค
"หนาวเหรอทอยส์""ก็คุณเปิดขนาดนี้ ผมคงร้อนหรอกมั้ง"ทอยส์ โวยใส่ให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ"ผมขอโทษ ก็ใครจะคิดว่าคุณขี้หนาว เห็นเมื่อคืน...เหงื่องี้โทรมตัวเชียว”"หยุดนะ หุบปากของคุณไปเลย""ก็ได้ๆ ไม่พูดก็ได้ คุณนี่ เผด็จการชะมัด โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ดี"ชายหนุ่มยังไม่วายบ่น แต่เห็นบ่นๆ อย่างนั้น เขาก็เอื้อมมือไปเบาแอร์ให้ในระดับหนึ่งอยู่ดี จวบจนถึงหน้าบ้านของทอยส์นั่นล่ะ ที่เขาก้าวนำลงไปก่อนเพื่อเปิดประตูรถให้ โดยไม่ทันสังเกตสักนิดว่ามีใครบางคนดับบุหรี่อย่างรวดเร็ว และบดขยี้ด้วยรองเท้าหนาๆ อย่างขัดใจเต็มทีกับภาพที่เห็นเบื้องหน้านั่น"ไงทอยส์...ท่าทางจะสำเริงสำราญกันมาน่าดูชมเลยสินะ ไปปฏิบัติธรรมถึงไหนถึงกันมาเหรอครับ"แค่เพียงวางกระเป้าใบโตของทอยส์ไว้ตรงหน้าบ้าน เพื่อรอให้เธอไขประตูรั้วเท่านั้น ที่ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนจะโผล่พรวดออกมาจากจุดมีดอับมุมหนึ่งนั่น"พอล !""ใช่ ผมเอง ก็ยังดีนะที่คุณยังจำผมได้ ไอ้ผมก็นึกว่า คุณจะลืมไปแล้วว่าความหวานชื่นระหว่างเรามันเป็นยังไง"พอลน่าจะดื่มมาบ้างก่อนหน้านี้ ทอยส์ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งเมื่อเขาก้าวตรงมายังร่างบางของทอยส์ที่แทบถอยหลังไปหลายก้าว
"คุณงดงามที่สุดเลยทอยส์!"ณดลพึมพำขณะกัมลงพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังสะท้านของอีกฝ่าย...ก่อนพลิกตัวทอยส์กลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง เพื่อครอบครองปากลงบนริมฝีปากอบอุ่นของทอยส์ ดื่มด่ำราวคนหิวกระหาย มือข้างหนึ่งนวดเฟ้นฐานอกเต็มไม้เต็มมืออย่างเมามัน ก่อให้เกิดความเสียวกระสันจนทอยส์แทบแหงนหน้ารับ พร้อมกอดบ่าณดลเอาไว้แน่น รู้สึกได้ถึงปลายเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อของเขา ก่อนเสียงร้องครวญครางด้วยความสุข จะดังแข่งกับเสียงฟ้าที่ครางครืนห่างออกไปณดล ค่อยเลื่อนใบหน้าต่ำลง หลังจากนวดเฟ้นแผงอกของอีกฝ่ายที่สะท้านสะท้อนขึ้นลง ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของเขาและทอยส์ ที่ประสานกันด้วยความซ่านเสียวเกินจะทน ก่อนทุกอย่างจะจบลงเมื่อทอยส์ถูกโอบรัดเอาไว้แน่นราวกับสุนัขติดเป้ง เนิ่นนานจนแทบลืมหายใจ !"คุณช่างน่ารักเหลือเกินครับทอยส์""อืมม์..""ขอบคุณ สำหรับความหอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวของคุณนะ ยอดรักของผม"ณดลได้แต่ครางพึมพำแทบไม่ได้ศัพท์ โอบร่างของทอยส์เอาไว้อย่างแสนรัก เมื่อแสงเทียนค่อยมอดดับลง และแสงไฟที่ดับไปอย่างยาวนานก็ยังไม่มา ห้องทั้งห้องจึงเต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงเสียงลมหายใจที่หอบแรงของทั้งคู่เท่านั้นที่แท
"ฝนเบาลงหน่อยแล้ว เดี๋ยวผมไปต้มมาม่ารองท้องก่อนนะ ไม่งั้นน้ำในกระติกมันเย็นละก็ อดกันทั้งคู่แน่"หลังประโยคนั้น ณดลพยายามขยับตัวลุกขึ้น หากทอยส์เองก็ลุกตามด้วยรวดเร็ว"ผมไปด้วย ให้ผมไปช่วยคุณนะ""ทอยส์ นี่ยังกลัวอยู่อีกเหรอ""กลัวสิ หรือคุณไม่กลัว""ผมไม่กลัว เพราะผมไม่เคยสาบานกับใคร""ผมก็ไม่เคยสาบาน"เด็กหนุ่มโต้ทันควัน หากสองมือของเขาก็แทบจะโอบกอดณดลเอาไว้จากทางด้านหลังรวดเร็วหลังฟ้าดังเปรี้ยงลงมาอีกรอบ ในเวลาที่ณดลกำลังจะก้าวเดินต่อไป"ผมจะเชื่อได้มั้ยเนี่ย แค่คุณบอกไม่เคยสาบานยังเปรี้ยงปร้างลงมาถี่ขนาดนี้ ไปๆ คุณ ถ้ากลัว ตามผมมาก็ได้"ไม่ต้องเชื้อเชิญหรอก เวลานั้นทอยส์แทบไม่อยากปล่อยท่อนแขนยาวๆ ของตัวเอง ออกจากเอวของณดลอยู่แล้ว ไม่อยากห่างเขาสักนาทีเดียวเลยเหอะ !"ผมมีต้มยำกุ้ง กับบะหมี่หมูสับ คุณจะทานอะไร""อะไรก็ได้ ใส่ๆ ไปเถอะคุณ ผมไม่ได้หิวนักหรอก"คนบอกไม่หิว แทบจะมีเสียงท้องร้องจ๊อก ๆ ให้ได้ยินในท่ามกลางความมืด และเงียบชั่วขณะนั่น จนเขาเผลอยิ้มออกมา"ผมเชื่อคุณมากเลย...โอ.เค. ช่วยจุดเทียนให้ผมหน่อยนะ หรือไม่ก็แค่เอามือของคุณออกจากเอวผม แล้วมาถือเทียนให้ผมหน่อย"ทอยส์แทบละร่
"จริงๆ แล้ว บ่ายนี้เราต้องเดินทางออกจากเกาะถึงฝั่งกันนะครับ แต่มีอุปสรรคนิดหน่อยเพราะทางฝั่งรายงานมาว่า พายุจะเข้าบ่ายนี้ และเราไม่ควรออกเรือฝ่าพายุไปอย่างเด็ดขาด ค่ำคืนนี้ เราจะงดกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เอาไว้ก่อน ขอให้ทุกท่าน พักผ่อนตามอัธยาศัยหลังอาหารมื้อเย็น ไม่ควรออกจากห้องพัก จนกว่าพายุจะสงบขอบคุณทุกท่านครับ"หลังดำน้ำขึ้นมาได้ไม่นาน เสียงประกาศตามสายไปทั่วทุกห้องพักก็ดังกระหึ่ม...บางคนกำลังเตรียมเก็บสัมภาระก็ถึงกับหยุดชะงักไปได้ทีเดียว โดยเฉพาะทอยส์ เพราะหลังเสียงประกาศก้องไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ให้เธอชะงักมือที่พับผ้าอยู่นั่น แล้วขยับตัวก้าวเดินไปเปิดประตูกว้างออก และพบว่าเป็นเจ้าของเสียงประกาศเมื่อครู่ก่อนนั้น"คุณณดล...""คุณเก็บของเรียบร้อยยัง""ยังครับ ก็นั่งพับเก็บอยู่ ไม่ต้องรีบแล้วไม่ใช่เหรอ ยังไงก็ยังออกจากเกาะไม่ได้นี่ คุณเพิ่งประกาศออกไป ผมได้ยินอยู่”ทอยส์ ย้อนถาม ขณะที่ชายหนุ่มถือวิสาสะเข้าไปในห้องของเธอ แถมยังช่วยพับผ้ากองโตนั่นหน้าตาเฉยอีกด้วย"คนอื่นไม่รีบก็ได้ แต่คุณไม่รีบไม่ได้ เพราะห้องคุณอยู่ใกล้ทะเลมากกว่าห้องอื่น เป็นจุดที่อันตรายที่สุด""อะไรนะครั
"บ้าสิ...ใครเขาจะคิดไม่ซื่อกับคุณ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”"โอ.เค. ไม่หลงตัวเอง แต่ผมหลงคุณจนหัวปักหัวปำไปแล้ว จะไงล่ะ"อีกครั้งที่เขาเป็นฝ่ายพลิกตัวเข้าหาอีกฝ่าย สองมือยังเกาะกุมมือของทอยส์เอาไว้แนบแน่น"นี่ อย่าแม้แต่จะคิดนะดล ผมไม่สนุกด้วย""แล้วนึกว่าผมสนุกนักรึไง อยู่ ๆ ก็โดนชกหน้าไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ คุณต้องชดใช้ให้ผม”ณดล กระซิบข้างหูทอยส์ ก่อนก้มลงประทับริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากบางแห้งผากหากอบอุ่นจนร้อนของอีกฝ่าย ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนทอยส์เองไม่อาจทัดทานได้ทัน ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออก แล้วโดดลงจากเตียงรวดเร็ว ก่อนที่จะถูกชกปากเข้าให้อีก เพราะรู้ว่าอีกฝ่าย นอกจากปากไวแล้ว มือยังไวจัดได้อีก"เราหายกันแล้วนะ คุณพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราจะไปดำน้ำดูปะการังกัน ฝันดีครับ"คนบอกฝันดี เผ่นไปถึงประตูแล้ว แถมยังยกมือส่งจูบให้ทอยส์ก่อนกดล็อกและปิดประตูแน่นหนา ให้ทอยส์ถึงกับใช้ปลายนิ้วสั่นระริกลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ อยู่เพียงลำพังเหอะ คงฝันดีตายล่ะ เจอรสจูบของนายเข้าไปชนิดไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ !…เช้าวันใหม่...กรุ๊ปทัวร์ของณดล ถูกพาลงเรือไปดำน้ำดูปะการังตามแพลนที่วางไว้
หลังอาหารมื้อค่ำ...หลังสันทนาการ หลังเสียงเพลง และกองไฟที่ลุกโชนดับลง บรรดาลูกทัวร์ ต่างก็พากันกลับไปห้องเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย มีเพียงชายหนุ่มอย่างณดลเท่านั้น สมัครใจเป็นไกด์ส่วนตัวเพื่อพาเด็กหนุ่มขี้เหงาวายร้ายอย่างทอยส์ ไปเดินชมทะเลยามค่ำ ค่ำคืนที่เขาบอกกับทอยส์ด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนว่า…"แล้วคุณจะรู้ว่าทะเลกลางคืนก็มีความงดงามซ่อนอยู่ แม้ว่าจะดูสวยแปลกๆ ไปหน่อยก็เถอะ""เหมือนคุณมั้ยครับ ไอ้แปลกๆ นี่""ผมดูแปลกในสายตาคุณเหรอทอยส์ แต่ต่อให้แปลกแค่ไหน ผมก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายใครนะ ถ้าคน ๆ นั้นไม่สมัครใจ”"ผมรู้...ถ้าคุณคิดจะทำร้ายผม คุณคงทำไปตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วล่ะ จริงมั้ย"ทอยส์ ระบายยิ้มอ่อนๆ ท่ามกลางเสียงคลื่น และลมทะเลที่พัดอื้ออึง ตามจังหวะของมัน ความอบอุ่นใจ ไม่รู้ว่าพรั่งพรูมาจากไหนจนทำให้ทอยส์คลายกังวลใจสารพัดลงไปได้บ้าง"ตอนแรกผมนึกว่า ผมจะรู้ใจคุณคนเดียวซะอีก ที่ไหนได้ คุณก็รู้ใจผมเหมือนกันนะ โอ.เค.ผมยอมแพ้ เราเดินไปนอนดูดาวตรงนั้นกันดีมั้ย ที่นั่นมีเตียงผ้าใบอยู่สองตัวพอดี""มันพอดี เพราะมีคนเอามาวางไว้ต่างหาก !""คุณนี่รู้ทันผมไปซะทุกเรื่อง""ผมไม่ใช่คนโง่นี่ครับ”
ทำเลดีจัง!ทอยส์ บอกกับตัวเอง เมื่อก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพัก และพบว่าห้องพักนั้นอยู่ริมสุด และด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขา อากาศดียิ่งกว่าตอนยืนอยู่หน้าท่าเทียบเรือไม่รู้กี่เท่า...แต่จะดีกว่านี้ ถ้าทอยส์ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว แล้วเดินไปชมภาพตะวันตกทะเลในยามใกล้ค่ำก่อนมาห้องพัก เสียงของณดล ประกาศกับกรุ๊ปทัวร์อีกว่า ทุกคนต่างมีเวลาก่อนค่ำ ในการพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนไปรวมตัวเพื่อรับประทานอาหาร และสันทนาการก่อกองไฟริมทะเลร่วมกันอีกครั้งในค่ำคืนนั้น พร้อมการแสดงโชว์อีกมากมาย เรียกว่ามากับทริปนี้แล้วไม่เสียหลาย ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ทอยส์บอกกับตัวเองก่อนเปิดประตูเข้าไป อดนึกถึงคำขู่ของขายหนุ่มที่ตะโกนไล่หลังมาไม่ได้"ระวังผีจะหลอกเอา"คนบ้า รู้ว่าอยู่คนเดียว ยังจะมาขู่กันอีกแน่ะ !บ่นไปงั้น เพราะทำอะไรไม่ได้ นอกจากเปิดม่านรับแสงให้ผ่านเข้ามา เปิดเครื่องปรับ อากาศเบาๆ แล้วคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมก่อนลับหายเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว...หากยังไม่ทันก้าวพันประตูห้องน้ำออกมาดีหรอก ที่เสียงกุกกักดังจากด้านหลังห้องจะดังขึ้น ทอยส์เพียงแต่เลิกคิ้วสูง ไม่กล้าหันกลับไปมอ