มนทิพย์ฝันถึงหนุ่มสาวคู่หนึ่ง “คุณนพ” เด็กหนุ่มในความฝันทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว โดยเฉพาะดวงตาคมเข้มของเขาที่ฉายแววความรักอย่างเปี่ยมล้มในทุกครั้งที่มองสบมา สิ่งที่เด็กสาวมองเห็น รู้สึก รับรู้ จนแม้กระทั่งนามที่เขาเอ่ยเรียก “ปาริชาต” มนต์ทิพย์กลับรู้สึกว่าทั้งหมดนั้นคือ.. ตัวเธอเอง “ปาริชาต” เจ้าช่อดอกสีแดงเพลิง.. ดอกไม้แห่งการระลึกชาติ กลิ่นหอมแรง.. ทว่ามนุษย์เดินดินหาได้กลิ่นไม่ ด้วยกรุ่นกลิ่นนั้นจรุงใจอยู่ในเพียงเทวโลก แล้วหากมีเจ้าช่อดอกสีแดงเพลิงเป็นสื่อเล่า.. สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ไหม
View More“ก็หลายอย่างจ้ะ มีแกงจืดปลาหมึกยัดไส้ที่พฤกษ์ชอบด้วยนะลูก”“แล้วพ่อก็ชอบด้วยใช่ไหมครับ”“เอ่อ... จ้ะ ไปเถอะเข้าบ้านกันก่อน ถามแม่อยู่อย่างนี้แม่หนักนะ” หญิงสาวแกล้งทำหน้าเง้าที่เหมือนจะถูกลูกชายไล่ต้อนให้จนมุม ส่งผลให้คนร่างป้อมต้องเข้ามากอดรัดเอวบางอย่างเอาใจ“โอ๋! มาพฤกษ์จะช่วยถือ”“จ้า... พ่อตัวน้อย...”“ครับ ก็พฤกษ์น่ะเป็นพ่อตัวน้อยจริงๆ นี่”รอยยิ้มแจ่มใสส่งให้กับลูกชายคนเดียว มนทิพย์ส่งถุงเล็กๆ ให้พลางรีบรุนหลังให้ลูกชายเดินเข้าสู่ตัวบ้านเร็วๆ ส่วนตัวเธอนั้นรับรู้ได้ถึงทั้งใจทั้งขาที่สั่นของตนเองกับสิ่งที่มองเห็นอยู่ตรงหน้ารถยนต์คู่ชีพคันโตของเขามันเหมือนถูกล้างทำความสะอาดเป็นอย่างดีอีกทั้งพื้นซีเมนต์ด้านล่างยังมีรอยเปียกชื้นค้างอยู่แสดงว่าเขากลับมานานแล้ว นานพอที่จะทำความสะอาดรถและนานพอที่รอยเปียกชื้นนั้นซึมจางลง เขาจะต่อว่าเธอไหมหนอที่พาน้องพฤกษ์ไปตะลอนเสียจนเย็นค่ำขนาดนี้ ทั้งที่รู้ว่าวันนี้เขาจะต้องกลับ “บ้าน” บ้านของเรา..“บ้านของเราครับ...”น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบอยู่ข้างหูยามฝ่ามือใหญ่ที่ปิดตาของเธอเปิดออก ภาพที่เห็นนั้นทำให้หน่วยตาคู่งามเหมือนมีน้ำรื้นขึ้นในทันที บ้านเ
ดวงตาหวานเหม่อมองออกไปนอกตัวรถทั้งที่ควรจะสตาร์ทและขับเคลื่อนออกไป ทำให้ทิวลิปและเด็กชายพฤกษ์ต้องมองหน้ากันไปมาอย่างงงๆ มือที่จับพวงมาลัยยังคงนิ่งเฉยและไม่มีทีท่าว่าจะขยับ“มน... มน... มน!”“อ่ะ... ว่าไงทิวลิป”“ฉันสิต้องถามแกว่า... ว่าไง ทำไมไม่ออกรถ”“เออ... ใช่ ขอโทษจ้ะ” ใบหน้างามยิ้มแหยๆ ให้ทั้งเพื่อนและลูกชายตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตักของเพื่อนสาว“มาเลย มานั่งนี่เลย เดี๋ยวฉันขับเอง ให้แกขับมีหวังฉันได้ไปเกิดใหม่ก่อนมีสามีแน่ ลงมาเลย”“...” ดวงตาหวานยังคงเหม่อมองไปด้านนอกตัวรถอย่างไร้จุดหมายเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เพื่อนสาวบอกเลยสักนิด“เฮ้ย! มน นี่ฉันพูดกับแกอยู่นะ นี่... หรือว่าแกไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย”“ฟังจ้ะ ฟังอยู่ จะไปไหนกินไอศกรีมร้านไหนดีล่ะ”“เฮ้อ!” ทิวลิปส่ายศีรษะไปมาอย่างเซ็งสุดขีดในห้างสรรพสินค้าใหญ่ มนทิพย์ขอตัวไปจ่ายของสดในซูเปอร์มาร์เก็ต ทิวลิปจึงทำหน้าที่ดูแลเด็กชายพฤกษ์พร้อมทั้งสังเกตอาการของเพื่อนรักยามจับจ่ายซื้อของในซูเปอร์ฯ ที่อยู่ไม่ไกลกับร้านไอศกรีมไปด้วย อาการเหม่อลอยครุ่นคิดของเพื่อนสาวยิ่งทำให้ทิวลิปไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น เธอรู้ดีว่ามนทิพย์เริ่มมีปัญหาครอบครั
สัมผัสอุ่นวาบที่ทาบทับลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนโลกหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ มือน้อยที่ถูกยื้อยุดไว้นั้นถูกประทับวางทาบไว้ที่แผงอกแกร่ง แรงกอดรัดที่แน่นเสียจนรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนแขน สัมผัสที่ได้รับนั้นอ่อนโยนอ้อยอิ่งดั่งอยากหยุดยั้งเวลาไว้เพียงเราสองฝ่ามือลูบไล้สัมผัสริมฝีปากตนเองไปมา ความอุ่นวาบที่ทาบทับลงมานั้นคล้ายความรู้สึกยังคงรับรู้ได้แม้จนบัดนี้ สิ่งที่เธอเห็นในความฝันนั้น แท้จริงเธอฝันไปเอง... ใช่ไหม“เฮ้ย! มน จะชงอีกนานไหมเนี่ย ฉันยืนรอแกจนขาแข็งแล้วนะ”“อ่ะ... ขอโทษจ้ะ”มนทิพย์ชะงักมือที่กำลังคนถ้วยกาแฟ มุมกาแฟแคบๆ ที่แยกโซนออกมาจากออฟฟิศทำให้เธอต้องเบี่ยงตัวออกมาให้เพื่อนสาวเข้าไปแทนสาวสวยเก๋ผมสั้นระต้นคอมองดูเพื่อนสาวของตนเองนิ่ง ใบหน้าสวยเก๋มีแววกังวลเพียงครู่ แต่แล้วก็รีบสลัดทิ้งไปเพื่อไม่ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกแย่ลงไปมากกว่านี้“มน... แกเป็นอะไรหรือเปล่า แก... แกทำท่าเหมือน... เหมือน...”“เหมือน... เหมือนอะไรทิวลิป” ดวงตางามมีแววตื่นเร้าอยู่ภายใน ยิ่งทำให้ทิวลิปมั่นใจในสิ่งที่ตนเองคิด“แกทำท่าเหมือน เหมือน... เหมือนแกเพิ่งถูกจูบมาเลยว่ะ”คำพูดที่โพล่งออกไปพร้อม
ปริ๊น! ปริ๊น! ปริ๊น!“แม่ครับ... แม่ครับ”“อะ! ว่าไงครับลูก”ปริ๊น!“โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ”มนทิพย์ก้มศีรษะขอโทษขอโพยรถที่วิ่งแซงออกไป เจ้าของรถที่ผ่านไปมองมาด้วยสีหน้าบูดบึ้งที่ชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้ยังมีคนมาขับรถหลับใน แต่เมื่อมองมาเห็นคนขับสาว ใบหน้าบึ้งๆ นั้นก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นเหวอๆ แบบไม่อยากเชื่อสายตาที่จะมาเจอนางฟ้าแต่เช้า ยิ่งเห็นอาการก้มศีรษะขอโทษขอโพยนั้น ภาษาปากที่บอกมาว่าไม่เป็นไรก็ได้รอยยิ้มพิมพ์ใจกลับไปแทน เล่นเอาหัวใจหนุ่มคนขับพองโตแต่เช้า“แม่ครับ... ใกล้ถึงโรงเรียนแล้วครับ”“อ๋อ... จ้ะ”เด็กชายพฤกษ์เอียงศีรษะมองหน้ามารดาอย่างแปลกใจ แววตาคมเข้มที่ถอดแบบมาจากผู้ชายที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำเสมอนั้นมองตรงมาที่มารดาอย่างต้องการคำตอบที่คาดคิดว่ามารดาย่อมรู้ว่าเขาอยากรู้เรื่องอะไร“แม่ขอโทษจ้ะน้องพฤกษ์ แม่มีเรื่องต้องคิดหลายอย่าง ขอโทษนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ขึ้นไปส่งที่ห้องนะ”ใบหน้างามผินมองเจ้าของใบหน้าน้อยๆ ที่ละม้ายคล้ายคลึงเขาคนนั้นเพียงครู่ แล้วรีบละสายตามองด้านหน้าก่อนจะตีไฟเลี้ยวเข้าโรงเรียนอนุบาลมีชื่อแห่งหนึ่ง“น้องพฤกษ์มาลูก แม่อุ้ม”“ไม่ต้องหรอกครับแม่ พฤกษ์โตแล้ว”อาก
“ไยน้องมิมา... ปาริชาต ไยปล่อยให้พี่คอย รอคอยแต่เจ้า มิอาดูรอันใดพี่เลยรึนี่... ยามจากเป็นเจ้ายัง... มิห่วงหา หากแม้นจากตายเล่าเจ้าจักเป็นฉันใด เจ้าจะห่วงหาพี่บ้างหรือไม่ เจ้า... ปาริชาต... ดอกงาม...”น้ำตาปริ่มไหลลงจากหน่วยตาคมเข้ม ก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆ หรี่ลงๆ อย่างสุดระงับความง่วงงุนนั้นไว้ได้ แม้จะรู้ว่าหลับครั้งนี้คงมิได้พานพบ แต่อาการชาวาบจากปลายเท้าที่ส่งมาจนทำให้ทุกประสาทสัมผัสค่อยๆ ดับลงนั้น ก็ไม่อาจหยุดยั้งหัวใจที่โลดแล่นแลเจ็บช้ำนั้นไว้ได้ กลีบดอกไม้งามสมชื่อเจ้าของดวงใจปลิดปลิวลงจากต้นแลรายล้อมร่างสูงที่นอนทอดกายอยู่ใต้ร่มไม้ดังจะรองรับและซึมซับทุกห้วงคำนึงสุดท้ายนั้นประดับไว้ทั่วทุกกลีบบางที่พร่างพรมห่มกายกรุ่นกลิ่น “ปาริชาต” โชย...โหยไห้หอมเอย... หอมกรุ่นกลิ่นไม้หอมนานรำลึก... ตรึงใจแม้นชาติภพข้ามไปกรุ่นกลิ่นอาย... มิลืมร่มเอย... ร่มปาริชาตแดงชูช่ออดีตล้อ... เหินห่างเกินคว้าผู้รอเฝ้าหมายเจ้า... ช่อชีวาเจ้าดอกงามโน้มมา... ให้ชิดชมสัตย์คำมั่นรำลึก... มิลืมเลือนแม้นใจจักเชือดเฉือน... ตรมรักดวงใจพี่สยบแล้ว... แม่พุ่มภักดิ์แต่หวานรักจักร้างลา... ให้ห่างไกลในภพหน
“ไยน้องมิมา... ปาริชาต ไยปล่อยให้พี่คอย รอคอยแต่เจ้า มิอาดูรอันใดพี่เลยรึนี่... ยามจากเป็นเจ้ายัง... มิห่วงหา หากแม้นจากตายเล่าเจ้าจักเป็นฉันใด เจ้าจะห่วงหาพี่บ้างหรือไม่ เจ้า... ปาริชาต... ดอกงาม...”น้ำตาปริ่มไหลลงจากหน่วยตาคมเข้ม ก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆ หรี่ลงๆ อย่างสุดระงับความง่วงงุนนั้นไว้ได้ แม้จะรู้ว่าหลับครั้งนี้คงมิได้พานพบ แต่อาการชาวาบจากปลายเท้าที่ส่งมาจนทำให้ทุกประสาทสัมผัสค่อยๆ ดับลงนั้น ก็ไม่อาจหยุดยั้งหัวใจที่โลดแล่นแลเจ็บช้ำนั้นไว้ได้ กลีบดอกไม้งามสมชื่อเจ้าของดวงใจปลิดปลิวลงจากต้นแลรายล้อมร่างสูงที่นอนทอดกายอยู่ใต้ร่มไม้ดังจะรองรับและซึมซับทุกห้วงคำนึงสุดท้ายนั้นประดับไว้ทั่วทุกกลีบบางที่พร่างพรมห่มกายกรุ่นกลิ่น “ปาริชาต” โชย...โหยไห้หอมเอย... หอมกรุ่นกลิ่นไม้หอมนานรำลึก... ตรึงใจแม้นชาติภพข้ามไปกรุ่นกลิ่นอาย... มิลืมร่มเอย... ร่มปาริชาตแดงชูช่ออดีตล้อ... เหินห่างเกินคว้าผู้รอเฝ้าหมายเจ้า... ช่อชีวาเจ้าดอกงามโน้มมา... ให้ชิดชมสัตย์คำมั่นรำลึก... มิลืมเลือนแม้นใจจักเชือดเฉือน... ตรมรักดวงใจพี่สยบแล้ว... แม่พุ่มภักดิ์แต่หวานรักจักร้างลา... ให้ห่างไกลในภพหน...
Comments