ตึก! ตึก!
หญิงสาวก้าวเท้าเรียวฉับพลัน อาศัยเหตุการณ์เมื่อคืนเลยจำสถานที่ได้ดี หยุดยืนชะงักข้างริมเตียงขนาดใหญ่เหลือบมองเห็นผ้าปูสีเดิม รอยคราบเลือดผสมน้ำขาวขุ่นแห้งกัง ยิ่งย้ำความรู้สึกก้นบึ้งลึก จิตใจดวงน้อยไม่เคยไหวอ่อนให้ชายใด แต่นัยน์ตาคมคู่นั้นทำสูญเสียอาการ
"อยู่นี่เอง" น้ำเสียงใสพูด เมื่อเจอกระปุกยาอยู่ตรงหัวเตียงจริงๆ ร่างอรชรถือวิสาสะคลานขึ้นบนเตียง ขยับไปเอื้อมมือหยิบ เพื่อให้หายป่วยไข้ไวไว
หมับ!
"อ๊ะ!!คุณจะมาเอาให้ทำไมไม่บอกเล่า" จู่จู่มือหนาดันแย่งคว้ากระปุกไปต่อหน้าต่อตา โมอารีบเอี้ยวตัวหันจ้องอย่างสงสัย แต่ดันถูกท่อนแขนแกร่งช้อนหน้าท้องราบไว้ ทำให้เธอค้างอยู่ในท่าคลานเข่าโดยมีร่างกำยำยืนข้างหลัง
"จะทำอย่างอื่น" ซิลค์บอกผ่านน้ำเสียงแห่บพล่า ใช้มือข้างนึงอาศัยเปิดกระปุกยา หยิบออกมาหนึ่งเม็ดคาบไว้ ก่อนขวดน้ำที่ถือตามมาเตรียมส่งให้หญิงสาว
"คุณป่วยเหรอ"
"ป่าว.." พอให้คำตอบเสร็จคนตัวสูงก้มประกบปากปิดทันที สิ้นสากทำหน้าที่ดันเม็ดยาลดไข้ใส่โพรงปากนุ่มแทน
"อื้อ" รสชาติขมปี๋กว่าการกินแบบธรรมดา แล่นเข้าสู่ลำคอระหงทำขนลุกซาบซ่าน รีบแย่งคว้าขวดน้ำกระดกดื่ม ใบหน้าแดงระเรื่อไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรก่อนดี
"ถ้าฉันสำลักขึ้นมาอีกล่ะ!" พอจะผลิกตัวนั่งอีกฝ่ายดันกดหลังบางบังคับค้างอยู่ท่าเดิม
"แล้ว?" เขาไม่พูดอะไรต่อ นอกจากส่งฝ่ามือล้วงเข้าในเสื้อยืดหญิงสาวแทน บีบนวดเต้าอวบผ่านบราเซียร์ แล้วใช้มืออีกข้างถลกกางเกงชุดนอนออก ทำให้เผยสะโพกมนขาวเนียน กระตุ้นอารมณ์ดิบชายแล่นพล่าน
"ไม่ได้นะยังเป็นไข้อยู่เลย แล้วตรงนั้นก็มีแผลด้วย" โมอารีบบอกออกไปตามตรง แค่เวลาโดนน้ำยังแสบซี๊ด แล้วนับประสาอะไรหากอีกฝ่ายกระหน่ำโจมตีเหมือนครั้งแรก
แต่ดูเหมือนว่าคนเอาแต่ใจไม่ยอมฟังความ กระตุกถอดเสื้อนอนลายการ์ตูนโยนทิ้ง แล้วปลดตะขอบราเซียร์รวดเร็ว ยิ่งทำให้ร่างอรชรตัวเปือยเปล่ากว่าเดิม
"ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน"
"อื้อ...คะคุณ..." ปลายนิ้วชี้ยาวดุจสตรีคลี่กลีบกุหลาบงามกว้าง ขณะก้มลงปิดปากเรียวจูบหว่านล้อม สัมผัสสยิวเสียวถูกจุดขึ้น ทำเธอเสียอาการรีบยกมือเกาะข้อมือใหญ่
"อื้มมมม" คนตัวโตหลุดเสียงครางพอใจ รสหวานในโพรงปากนุ่มช่างละมุน เขาจัดการเปลื้องอาภรณ์ตัวเองตาม ระหว่างหญิงสาวโอนอ่อน
แค่เพียงส่งนิ้วทักทายกลางกายสาว น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มตอบสนอง จับแก่นกายขนาดใหญ่ดีดชูชัน ฟาดลงกระทบก้นมนสวยพลานเสียวซาบซ่าน
"เบาๆได้ไหมคะ" ความกระด้างถูกปิดผนึกทันที ยาห้วงเสน่หาเริ่มทำงาน คนใต้ล่างร้องบอกแผ่วเบา เมื่อก้มมองจุดประสานมีท่อนเอ็นจ่อแล้ว
สวบ~
"กรี๊ดดดด....จะเจ็บ" แรงกระทุ้งเข้ารวดเร็วแม้มีน้ำหล่อลื่นเบิกทางรอ ชายหนุ่มไม่ได้สนใจคำเรียกร้อง แค่เพียงสอดใส่ก็กระแทกรุนแรง
รับรู้ยันสัมผัสเสียดสีผนังโพรงอุ่น ร่องคับแคบยังบีบรัดแก่นกายราวสิ่งแปลกปลอม ทำคนตัวโตขบสันกรามแน่นทรมาน รูสวาทดูดตั้งแต่ส่วนหัวเห็ดถึงลำโคน
"อ่าสส"
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!
"อ๊ะ..อ๊ะ..คะคุณเบาก่อน...อื้อ.." เกิดความรู้สึกใหม่ในกายสาว รวมถึงความเสียวสยิวทั่วเรือนร่าง ยามท่อนเอ็นอุ่นโจมตีกลางร่องคับแคบ ปากเรียวเผย่อครางละล่ำละลัก สองเต้าอวบดีดกระเพื่อมตามแรงส่ง จนคนควบคุมเกมส์เอื้อมบีบเค้น พลางเอี้ยวตัวก้มลงดูดยอดประทุมถัน กัดดึงยิ่งกว่าทารกน้อย
".....เสียวก็คราง" เขาแทบสยบกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ เรืองร่างบริสุทธิ์ที่เขาเป็นเจ้าของช่างดึงดูด ทำชายบุรุษคลั่งไคล้อย่างกระหาย ยิ่งรั้งสะโพกมนแนบชิดกระแทกใส่รัว
"อื้อ..อย่าทำรอย..ดะเดี๋ยวคนเห็น..อื้อ" ปากหยักครอบครองอยู่แต่สองเต้าเนื้อ ขบเขี้ยวฟันเป็นรอยแทนผิวขาว ลากลิ้นสากเลียไล่ขึ้นลำคอระหง ตวัดลิ้มรสหอมหื่นกระหาย จนเธอเผลอเอะใจกลัวเหลือเกินใครจะรู้เรื่องนี้เข้า
"ร่างกายนี้ของฉัน" เขาช้อนคางมนเอี้ยวหันจ้องสบตา กำลังส่อประกายหยาดเยิ้มผ่านใบหน้าสวย ค่อยๆเลื่อนขยับใกล้แนบปากจูบเนิบนาบ การกระทำบอบบางราวถนุถนอม แม้ว่าส่วนล่างกระโหมความรุนแรงใส่
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!
"อื้อ..อ๊ะ..มันสะเสียว...อื้อ" คนด้านหลังยังเอาแต่ใจ เน้นแรงกระแทกตอกใส่ร่องงาม บดขยี้สะโพกมนสุดลำโคน ประทบกล้ามท้องครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วส่งฝ่ามือสะกิดติ่งเกสร ทั้งที่อีกข้างโอบอุ้มเต้าอวบ
ร่างอรชรกระเพื่อมจนศรีษะแทบชนขอบเตียง ต้องยกมือเรียวค่ำเกาะไว้ เชิดหน้าปล่อยเสียงครางตามอารมณ์ ยิ่งปรนเปรอเท่าไหร่ยิ่งสยิวไหว
"เรียกชื่อฉันสิ...ซี๊ดดด" น้ำเสียงเข้มดังใกล้กกหูบาง ขบเม้มกระตุ้นอารมณ์สาว ทั้งๆที่เขาใกล้ถึงจุดดุเดือด ร่องคับแคบเริ่มบีบรัดเป็นจังหวะ สร้างความเสียวซ่านทั่วร่างกำยำ
"คะคุณ..ซิลค์..อ๊าา..อ๊ะ.." แค่เธอเอ่ยบอกผ่านน้ำเสียงหวาน แรงกระแทกยิ่งกระหน่ำทวีคูณ กลายเป็นส่วนล่างสาวตอบสนองด้วยน้ำคลื่นมวลใหญ่ ไหลทะลักทะลวงล้นเต็มโคนขา
"อื้มมมม...อ่าสสส์" ซิลค์โน้มลำตัวคล่อมทับหญิงสาวเล็กน้อย เอี้ยวท้อยทอยเล็กหันจูบดูดดื่ม สะโพกแกร่งตะบี้ตะบันสอบกระแทกในรอบสุดท้าย เน้นจังหวะทุกรอบเข้าออก จนกระตุกเกร็งปลดน้ำสีขาวใส่เต็มโพรงนุ่ม
"แล้วไข้มันจะหายไหมหนิ" โมอารีบผละจุดเชื่อมต่อออก ปล่อยให้น้ำสวาทไหลหยดลงผ้าปู ทิ้งร่างกายอ่อนแรงผสมกับพิษไข้นอนลง ถือโอกาสดึงผ้านวมมาคลุมเตรียมหลับตา
"ทีเมื่อกี้ล่ะคราง" อีกฝ่ายดันเปลี่ยนโหมดอารมณ์รวดเร็ว เอื้อมหยิบเสื้อเชิ้ตราคาแผงเช็ดคราบต่างๆ รวมถึงล้วงเข้าใต้ผ้าห่ม คว้าสองขาเรียวอ้ากว้างทำความสะอาดให้
"ไม่ต้องฉันทำเองได้" เธอจะดึงผ้ามาเช็ดเอง แต่เขากลับใช้แรงชายปัดมือบางออก ทำเหมือนว่าเธอไม่รู้สึกกระด้างอายบ้างหรือไง
"รีบนอน..ไม่งั้นทั้งคืน"
.......................................................
ของมันอร่อยอะนะ อิพี่เลยติดใจ
นาทีต่อมา_"คุณไม่นอนเหรอ" เสียงของคนตัวเล็กด้านข้างเอ่ยถาม เวลานอนแปลกสถานที่ เธอมักกังวลเรื่องสิ่งลี้ลับตามถ้อยคำบอกเล่าต่อๆกัน ไหนจะพิษไข้อุณหภูมิร่างกายสูงจนหลับตาไม่ลง ปวดมึนศีรษะแทบทุกนาทีแล้วคนตัวโตยังหอบโน๊ตบุ๊คมาทำงานบนเตียงอีก ถึงแม้จะเปิดแค่โครมไฟสลัวส่อง มันกลับกระทบคนหลับยากต้องหันมองตามด้วยนิสัยอยากรู้"งานยังไม่เสร็จ" เขาให้คำตอบสั้นๆ ผมดกดำพึ่งสระหมาดๆโชยกลิ่นหอม ไร้การเซ็ทตัวเช่นวันอื่น เผยใบหน้าคมคายดูอายุอ่อนกว่าวัย เป็นเท่าตัวแถมดูเข้าถึงง่ายๆดั่งคนสนิทกัน ตอนช่วงเขาไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย โมอาเลยรีบหยิบชุดนอนตัวเดิมมาสวมใส่ชั่วคราว ถึงจะเคยเห็นเรือนร่างกันแล้ว แต่ความเขินอายไม่มีน้อยลง รวมกระทั่งตอนนี้"งั้นให้หนูกลับห้องดีไหม..อ๊ะ!" จังหวะจะลุกนั่งพิษไข้ดันเล่นงาน เซนอนทรุดลงตำแหน่งเก่า เรียกคนด้านข้างหันมองดูตามสัญชาตญาณแพทย์รักษาคนป่วย"หนู?" น้ำเสียงเข้มย้อนถามอีกครั้ง ผ่านใบหน้าหนาเย็นชา เอื้อมหยิบผ้าขนหนูพึ่งซับน้ำพอหมาดๆ วางทาบบนหน้าผากมนเหมือนเดิม"เด็กเวลาคุยกับคนแก่กว่าต้องแทนตัวเองว่าหนูไงคะ" เธอคิดแบบนั้นจริงๆ หากไม่นับถือคงไม่เรียกคำนี้แน่ๆ"เหรอ"
ณ มหาวิทยาลัยชื่อดัง"ยัยเมลล์!!! ฉันเรียกแกหลายรอบแล้วนะ นั่งเหม่ออะไรอยู่" โมอาพยามตะเบ่งเสียงเรียกเพื่อนสาวซ้ำๆ กะว่าจะพุ่งมาจ๊ะเอ๋ให้ตกใจจากด้านหลัง แต่เมล์กลับนั่งเหม่อเฝ้าหน้าจอโทรศัพท์พวกเธอนัดกันใต้ตึกคณะคุรุศาสตร์ ตรงโต๊ะตัวเดิมมุมประจำ หลบแสงแดดได้ทั้งเช้าและเย็นค่อนข้างสงบไร้คนพลุ้งพล่าน"ไม่ได้เหม่อ ว่าแต่วันนั้นได้เอาดอกไม้ไปส่งน้องนิวไหม" เมล์เหลียวหันถาม กดปิดแสงหน้าจอหยิบเอาหนังสือเรียนขึ้นสนใจ"ให้แล้ว อย่าบอกนะว่าน้องไม่รับรักแกอ่ะ" เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นแม่สื่อ ส่งดอกไม้ให้รุ่นน้องดาวคณะบริหารเกือบทุกวัน เมื่อเพื่อนสาวรู้ใจตัวเองว่าลุ่มหลงเพศสตรีเหมือนกัน เธอเลยอยากช่วยให้สมปรารถนา ร่างอรชรในชุดนักศึกษาค่อยๆหย่อนขาเรียวนั่งลงด้านข้าง ยกมือกอดเพื่อนรักคอปลอบใจ"แหง่แหละ ไม่อ่านไม่ตอบ" เมลล์ตอบสั้นๆ แค่อกหักตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ผิดหวังคือเรื่องธรรมดาไม่ได้มีผลต่อชีวิต อย่างน้อยมนุษย์เราควรเรียนรู้หลายๆสิ่ง"งั้นก็กลับมาสนใจเรียนนะ เทอมสุดท้ายแล้ว อ้อ..โมว่าจะขอไปฝึกงานบนดอยอ่ะ เมล์ว่าไง" น้ำเสียงใสเอ่ยบอก เธอไม่ได้อยากอยู่ในพื้นที่เจริญหูเจริญตาแต่แรก หากไม่ติดว่าสถ
ฉึ่บ!!!สิ้นเสียงของกรรไกรผ่าตัดแยกเนื้อเยื่อจากกัน ด้วยฝีมือซิลค์นายแพทย์หนุ่มดีกรีผู้อำนวยการโรงพยาบาล ใบหน้าคมคายเงยขึ้นทันที เอียงส่งสัญญาณให้หมอผู้ช่วยรับผิดชอบอาการคนไข้ต่อ"ขอบคุณอาจารย์นะคะ" ตามด้วยเสียงของพยาบาลประจำห้องผ่าตัด เอ่ยกล่าวต่อนายแพทย์หนุ่มผู้รับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีมครั้งนี้ ซิลค์พยักหน้าตอบรับเล็กน้อย ยืนลำตัวตรงนิ่งความสูงเกินร้อยแปดห้า ทำให้ผู้ช่วยต้องเขย่งปลายเท้าปลดปมผูกชุดผ่าตัดด้านหลัง เพื่อกันเชื้อโรคแปดเปื้อนไปยังพื้นที่นอกเขตควบคุมผับSK"เฮียไม่คิดจะมีเมียบ้างเหรอ" ภาคินลองใจถามซิลค์ รุ่นพี่หนุ่มแสนเย็นชา ใบหน้าเรียบนิ่งไม่ได้เข้ากับบรรยากาศสักนิดเดียว ขณะร่วมโต๊ะดื่มสังสรรค์ ตรงโซนวีไอพีเฉพาะพวกเขาแม้ว่าเสียงดนตรีจะดังครึกครื้นขนาดไหน มีสิ่งยัวยุมากมาย ก็ไม่เคยเห็นเอนไหวสักนิดเดียว"ไม่" ซิลค์ตอบน้ำเสียงเข้ม ถลกแขนเสื้อเชิ้ตขาวขึ้นข้อศอก นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา จับแก้วเหล้าสีอำพันยกดื่ม หลังจบเคสผ่าตัดรักษาสมองเสร็จสิ้น เขาไม่ได้รู้สึกฉาบฉวยมีช่วงเวลาสนุกดั่งมนุษย์คนอื่น ในขณะที่คนรอบตัวล้วนกอบโกยความสุขมากมาย มีครอบครัวสมบูรณ์กันหมดแล้ว"แหม่..ถ
ณ ประเทศนาเธอร์ลาสติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!"แย่แล้วค่ะองค์หญิงตื่นได้แล้ว องค์ชายกำลังมาเพคะ" ผู้ได้รับมอบหมายเป็นพี่เลี้ยงมาร่วมยี่สิบปี กำลังร้อนรนเอื้อมมือสะกิดเจ้าหญิงตัวเล็กบนเตียงหรูประกอบด้วยทองคำ ลิลลี่ส่งเสียงกระวนกระวาย จวนเจียนเหมือนกองเพลิงใกล้ขยับทุกที หลังพยามปลุกร่วมชั่วโมงกว่า แต่ไม่มีท่าทีจะลุกตื่นขึ้นมาเลย"อะไรกันแต่เช้าพี่ลิลลี่ โมอาขอตื่นตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ!" ใบหน้าสวยงอค้ำไม่พอใจ รุดออกจากผ้าห่มผืนหนา สบัดตัวนั่งบนเตียงอย่างไม่สบอารมณ์"นี่มันเกือบบ่ายสองแล้วนะเพคะ องค์ชายกำลังมาตามแล้ว""ห๊ะ!!!!..แล้วทำไมไม่ปลุกกันเล่า!" ดวงตากลมขนงอนเงา รีบเหลือบดูนาฬิกาเรือนใหญ่ข้างพนังห้อง ทันใดนั้นร่างอรชรรีบกระโดดลงจากเตียง เริ่มมีท่าทีกระวนกระวายไม่ต่างจากพี่เลี้ยงเลย"ลิลลี่ปลุกมาเกือบชั่วโมงแล้วนะเพคะ" เธอรีบส่งเครื่องแต่งกายทั้งหมดให้องค์หญิงราวรู้ใจ เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ลิลลี่รับหน้าที่ช่วยดูแลตลอดมา... ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันภายในห้องโถงใหญ่ ของเมืองเล็กๆซึ่งน้อยคนรู้จักทางแถบตะวันตก ทั้งองค์หญิงและองค์ชายนั่งก้มหน้าตึงเครียด เมื่อโดนถ้อยคำบังคับจากบิดา ให้ไปงานการกุศ
@ โรงแรมหรูชื่อดัง"พี่มาร์จะให้น้องเข้าไปจริงๆหน่ะหรอ" ข้อศอกเล็กรีบสะกิดผู้เป็นพี่ชาย ยามทั้งคู่หยุดอยู่หน้าโซนทางเข้างาน ร่างบอบบางสวมชุดราตรียาว เปิดไหล่โชว์ผิวขาวโดดเด่น ท่ามกลางงานระรื่นผู้คนมากล้น ต่างจับจ้องชนชั้นสูงของยศเจ้าหญิง ที่มาพร้อมกับเจ้าชายเรียงลำดับขั้น เตรียมจะขึ้นครองบัลลังก์อีกไม่นาน"ถอยหลังไปตอนนี้ มีหวังท่านพ่อสั่งขังเจ้าแน่โมอา" ใบหน้าหล่อสมฉายาเจ้าชายของเมือง เอียงมองน้องสาวก่อนจับฝ่ามือบางกระชับเข้าที่ ตรงท่อนแขนแกร่ง ออกแรงก้าวเดินนำโดยที่คนด้านข้างจำใจยอมตามทันใดนั้นเกิดเสียงแสงแฟลชกล้องถ่ายรูปกดรัวชัตเตอร์ เป็นจุดจับจ้องจนเจ้าของงานรีบวิ่งเข้าต้อนรับ"ในที่สุดองค์หญิงก็มาด้วย" อองตวนเอ่ยบอก เขาคือลูกของนักการเมืองชื่อดัง แฝงไปด้วยบารมีจากสิ่งผิดกฎหมาย รีบก้มคำนับลงเล็กน้อย เพื่อเป็นการเคารพในเกียรติของทั้งสอง แม้จะรู้จักเล่นสนุกกันตั้งแต่วัยเยาว์"เล่นบังคับกันยันท่านแม่ เกินไปแล้วนะอองตวน!" น้ำเสียงใสรีบโต้กลับเบาๆ ครั้นต้องรักษากิริยาเพราะไม่ว่ายังไงผู้คนก็จับจ้องสถานะพวกเธออยู่ดี"ฝากดูแลเธอด้วย...พี่มีคุยกับพวกองคมนตรีแป๊บเดียว" มาร์แชลล์พยักหน้าใ
@ สวนดอกไม้ในวัง"พี่เดย์เรื่องที่ให้ไปหาข้อมูลไปถึงไหนแล้ว" เสียงขององค์หญิงกระซิบกระซาบ ยามบรรดาพี่เลี้ยงคนสนิทแยกตัวไปจัดเตรียมมื้ออาหารว่าง เธอเลยลอบคุยเรื่องความลับ นั่งบนชิงช้าแกว่งขาเรียวท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ผีเสื้อบินคล่องตัวเหนือดอกกุหลาบหลากสี"เรียบร้อยครับ เป็นผู้มีอิทธิพลค่อนข้างใหญ่โตทางแทบประเทศไทย นี่คือประวัติของเขาครับ" เดโม่แอบยื่นเอกสารลับระบุประวัติของชายนิรนาม มีใบหน้าคมคายแต่นัยน์ตาดำกริบชวนวังเวง"เราจะเริ่มแผนได้เมื่อไหร่" โมอากลับพูดจริงจัง ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกโลเล ยามคิดแผนสำคัญทำชีวิตผลิกผันได้เพียงแค่นาทีเดียว พอเห็นพี่ชายเดินมาระยะไกลรีบขย้ำเอกสารใบนั้นโยนใส่ชายหนุ่มด้านข้าง มือเรียวบางแสร้งรับแก้วน้ำผลไม้สีส้มอมแดงจากองครักษ์ ยกจิบเล็กน้อยให้คล่องคอ"คืนนี้ครับ แต่ว่าองค์หญิง..." เดโม่ลากเสียงยาวไม่ยอมพูดจนจบ ปานวิตกในหัวสมอง"ไม่มีเวลาแล้วรีบไปจัดการนะ" เธอเอ่ยออกคำสั่งแผ่วเบา เมื่อมีบุคคลใหมาใกล้เข้ามาทุกที จนเดโม่พยักเคารพรีบออกจากจุดนั้นสวนคนละทางกัน"ตามหาน้องอยู่หรอพี่มาร์" น้ำเสียงใสพูดก่อน เมื่อเห็นความหมายผ่านนัยน์ตาคมผู้เป็นพี่ ร่างสูงแต่งต
@ ห้องพักระดับพรีเมี่ยม ภายในห้องพักระดับหรูหรา แสงไฟนีออนจ้าสว่าง มีชายร่างกำยำนอนเปือยกายส่วนบนในผ้านวมผืนสีขาวหนา หลับตาสนิทด้วยใบหน้าแสนหล่อเหลา บนเตียงกว้างขนาดใหญ่ ระหว่างนั้นดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง ครุ่นคิดถึงการกระทำผิดชอบชั่วดี แต่ถึงอย่างไรนั้น...คงเป็นเหตุผลเดียวที่สามารถต่อกร เอาตัวรอดจากเรื่องยุ่งเหยิงได้"คุณ!!!ตื่นได้แล้ว" โมอาตะเบ่งเสียงดัง หลังจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง ชนิดขาดรุ่ยหากใครมองคงตกใจ แถมยังป้ายลิปสติกสีบนปากบางลงตามแผงอกกว้าง เธอพยามปลุกคนข้างกายหวังให้ตื่นก่อนใครจะเข้ามา"หื้ม...เฮ้ย!!!" ทันทีที่ประสาทสัมผัสว่องไวทำงาน ซิลค์รีบลุกชันตัวนั่งพิงหัวเตียง สำรวจทั้งสถานที่และหญิงสาวข้างกาย นัยน์ตาคมตื่นตนกครั้งแรก ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสนิท จับจ้องใบหน้าสวยกำลังสับส่ายอย่างมีพิรุจ"เมื่อคืนเรา...." น้ำเสียงใสกลั้นใจพูด สองมือประสานตรงหน้าตักราวประหม่า เหตุใดต้องไหวสั่นกับเวลาอีกฝ่ายจ้องหน้า ยิ่งกว่าผู้ปกครองจ้องจับผิด"ไม่มีทาง" น้ำเสียงเข้มตอบกลับอย่างราบเรีียบ จับผ้านวมสะบัดเตรียมลุกตัวหนี ส่วนล่างยังสวมกางเกงสแลคดำแต่หัวเข็มขัดปลดออก เขาพอจำเธอได้เลือ
โคร้มม!!!!!เสียงของแก้วสแตนเลสทรงสวยถูกปาใส่พนังกำแพงห้องลับอย่างไม่พอใจ ณ ราชวังเมืองนาเธอร์ลาส ด้วยฝีมือประมุขผู้ยิ่งใหญ่ เพราะธิดาสาวกระทำผิดขั้นรุนแรง ไม่ให้คนรับใช้หรือบอดี้การ์ดย่างกรายเข้าล่วงรู้"ท่านพ่อโปรดใจเย็นก่อน" น้ำเข้มสุขุมของเจ้าชายพยามกักเก็บอารมณ์โมโหเช่นเดียวกัน รีบลุกจากที่นั่งไปยืนเคียงข้างบิดา เอื้อมจับมือผู้เป็นแม่กำลังนั่งถือยาดมราวกับจะวูบสลบเมื่อทราบข่าว โดยทุกคนยังเพ่งเล็งชายหญิงสองคนที่นั่งตรงอีกฝั่งห้อง องค์หญิงคนก่อเรื่องก้มหน้าก้มตาแสร้งรู้สึก แต่ใบหน้าหล่อเหลากลับนิ่งเรียบไม่ได้หวั่นเกรงตามบรรยากาศ ถอนหายใจเบื่อหน่ายดันตกหลุมพลาง เรื่องราวคล้ายในละครน้ำเน่า"โมอา!ทำไมเจ้าถึงไม่รู้ผิดชอบชั่วดี กล้าทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติได้ยังไงกัน!!!" ราชาผู้ยิ่งใหญ่ตะเบ่งเสียงแข็งกร้าว พุ่งคว้าดาบยาวโยนปลอกทิ้ง พาดปลายแหลมสีเงินสะท้อนเงาความคมกริบ ตวัดเฉียดลำคอหนายังนั่งหลังตรงเขาไม่มีแม้แต่จะหลบสายตา นัยน์ตาคมบึ้งลึกยากจะอ่านใจออก"อึก!""ท่านพ่อ!!" โมอารีบเอาตัวเองแทรกอยู่ระหว่างกลางดาบนั้นด้วยตัวเอง หากเขาดันโดนทำร้ายถึงชีวิต เธอคงรู้สึกผิดไปตลอดกาล ฝ่ามือหนา
ณ มหาวิทยาลัยชื่อดัง"ยัยเมลล์!!! ฉันเรียกแกหลายรอบแล้วนะ นั่งเหม่ออะไรอยู่" โมอาพยามตะเบ่งเสียงเรียกเพื่อนสาวซ้ำๆ กะว่าจะพุ่งมาจ๊ะเอ๋ให้ตกใจจากด้านหลัง แต่เมล์กลับนั่งเหม่อเฝ้าหน้าจอโทรศัพท์พวกเธอนัดกันใต้ตึกคณะคุรุศาสตร์ ตรงโต๊ะตัวเดิมมุมประจำ หลบแสงแดดได้ทั้งเช้าและเย็นค่อนข้างสงบไร้คนพลุ้งพล่าน"ไม่ได้เหม่อ ว่าแต่วันนั้นได้เอาดอกไม้ไปส่งน้องนิวไหม" เมล์เหลียวหันถาม กดปิดแสงหน้าจอหยิบเอาหนังสือเรียนขึ้นสนใจ"ให้แล้ว อย่าบอกนะว่าน้องไม่รับรักแกอ่ะ" เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นแม่สื่อ ส่งดอกไม้ให้รุ่นน้องดาวคณะบริหารเกือบทุกวัน เมื่อเพื่อนสาวรู้ใจตัวเองว่าลุ่มหลงเพศสตรีเหมือนกัน เธอเลยอยากช่วยให้สมปรารถนา ร่างอรชรในชุดนักศึกษาค่อยๆหย่อนขาเรียวนั่งลงด้านข้าง ยกมือกอดเพื่อนรักคอปลอบใจ"แหง่แหละ ไม่อ่านไม่ตอบ" เมลล์ตอบสั้นๆ แค่อกหักตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ผิดหวังคือเรื่องธรรมดาไม่ได้มีผลต่อชีวิต อย่างน้อยมนุษย์เราควรเรียนรู้หลายๆสิ่ง"งั้นก็กลับมาสนใจเรียนนะ เทอมสุดท้ายแล้ว อ้อ..โมว่าจะขอไปฝึกงานบนดอยอ่ะ เมล์ว่าไง" น้ำเสียงใสเอ่ยบอก เธอไม่ได้อยากอยู่ในพื้นที่เจริญหูเจริญตาแต่แรก หากไม่ติดว่าสถ
นาทีต่อมา_"คุณไม่นอนเหรอ" เสียงของคนตัวเล็กด้านข้างเอ่ยถาม เวลานอนแปลกสถานที่ เธอมักกังวลเรื่องสิ่งลี้ลับตามถ้อยคำบอกเล่าต่อๆกัน ไหนจะพิษไข้อุณหภูมิร่างกายสูงจนหลับตาไม่ลง ปวดมึนศีรษะแทบทุกนาทีแล้วคนตัวโตยังหอบโน๊ตบุ๊คมาทำงานบนเตียงอีก ถึงแม้จะเปิดแค่โครมไฟสลัวส่อง มันกลับกระทบคนหลับยากต้องหันมองตามด้วยนิสัยอยากรู้"งานยังไม่เสร็จ" เขาให้คำตอบสั้นๆ ผมดกดำพึ่งสระหมาดๆโชยกลิ่นหอม ไร้การเซ็ทตัวเช่นวันอื่น เผยใบหน้าคมคายดูอายุอ่อนกว่าวัย เป็นเท่าตัวแถมดูเข้าถึงง่ายๆดั่งคนสนิทกัน ตอนช่วงเขาไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย โมอาเลยรีบหยิบชุดนอนตัวเดิมมาสวมใส่ชั่วคราว ถึงจะเคยเห็นเรือนร่างกันแล้ว แต่ความเขินอายไม่มีน้อยลง รวมกระทั่งตอนนี้"งั้นให้หนูกลับห้องดีไหม..อ๊ะ!" จังหวะจะลุกนั่งพิษไข้ดันเล่นงาน เซนอนทรุดลงตำแหน่งเก่า เรียกคนด้านข้างหันมองดูตามสัญชาตญาณแพทย์รักษาคนป่วย"หนู?" น้ำเสียงเข้มย้อนถามอีกครั้ง ผ่านใบหน้าหนาเย็นชา เอื้อมหยิบผ้าขนหนูพึ่งซับน้ำพอหมาดๆ วางทาบบนหน้าผากมนเหมือนเดิม"เด็กเวลาคุยกับคนแก่กว่าต้องแทนตัวเองว่าหนูไงคะ" เธอคิดแบบนั้นจริงๆ หากไม่นับถือคงไม่เรียกคำนี้แน่ๆ"เหรอ"
ตึก! ตึก! หญิงสาวก้าวเท้าเรียวฉับพลัน อาศัยเหตุการณ์เมื่อคืนเลยจำสถานที่ได้ดี หยุดยืนชะงักข้างริมเตียงขนาดใหญ่เหลือบมองเห็นผ้าปูสีเดิม รอยคราบเลือดผสมน้ำขาวขุ่นแห้งกัง ยิ่งย้ำความรู้สึกก้นบึ้งลึก จิตใจดวงน้อยไม่เคยไหวอ่อนให้ชายใด แต่นัยน์ตาคมคู่นั้นทำสูญเสียอาการ"อยู่นี่เอง" น้ำเสียงใสพูด เมื่อเจอกระปุกยาอยู่ตรงหัวเตียงจริงๆ ร่างอรชรถือวิสาสะคลานขึ้นบนเตียง ขยับไปเอื้อมมือหยิบ เพื่อให้หายป่วยไข้ไวไวหมับ!"อ๊ะ!!คุณจะมาเอาให้ทำไมไม่บอกเล่า" จู่จู่มือหนาดันแย่งคว้ากระปุกไปต่อหน้าต่อตา โมอารีบเอี้ยวตัวหันจ้องอย่างสงสัย แต่ดันถูกท่อนแขนแกร่งช้อนหน้าท้องราบไว้ ทำให้เธอค้างอยู่ในท่าคลานเข่าโดยมีร่างกำยำยืนข้างหลัง"จะทำอย่างอื่น" ซิลค์บอกผ่านน้ำเสียงแห่บพล่า ใช้มือข้างนึงอาศัยเปิดกระปุกยา หยิบออกมาหนึ่งเม็ดคาบไว้ ก่อนขวดน้ำที่ถือตามมาเตรียมส่งให้หญิงสาว"คุณป่วยเหรอ""ป่าว.." พอให้คำตอบเสร็จคนตัวสูงก้มประกบปากปิดทันที สิ้นสากทำหน้าที่ดันเม็ดยาลดไข้ใส่โพรงปากนุ่มแทน"อื้อ" รสชาติขมปี๋กว่าการกินแบบธรรมดา แล่นเข้าสู่ลำคอระหงทำขนลุกซาบซ่าน รีบแย่งคว้าขวดน้ำกระดกดื่ม ใบหน้าแดงระเรื่อไม่รู้ว่า
"เฮ้อ..กว่าจะกินได้ มันขมขึ้นคอเชียวนะ" คนตัวเล็กถึงกลับทิ้งร่างกายอ่อนยวบ นั่งพิงหลังบนเก้าอี้ส่งสายตาชำเรืองค้อนแก่เจ้าของบ้าน หลังร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ เขาเลือกเน้นตักแต่ผักใบเขียวใส่จานบังคับ"ไหนว่าโต" ซิลค์ส่ายหน้าคมคายซ้ายขวา ตอนแรกตั้งใจจะกลับมายึดบัตรเครดิตคืน แต่พอเห็นรายการใช้จ่าย ส่วนมากเป็นของใช้ในบ้าน เลยทำเป็นแกล้งลืมไปก่อน ค่อยชำระทบต้นทบดอกทีหลัง"อยู่ที่นู้นไม่เห็นมีใครบังคับเรื่องการกินเลย คุณนี่ติดนิสัยเป็นหมอชอบบังคับคนไข้ชัวร์!" โมอาส่งเสียงใสยิ่งกว่านกกระจิบ ใช้ช้อนส้อมจิ้มเนื้อกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่แกล้งยั่วน้ำลายอีกฝ่าย"พูดมาก" เขาปรามสั้นๆ ใช้สายตาเข้มหรี่มอง วางช้อนส้อมข้างจานข้าวเป็นระเบียบ ยกแก้วน้ำกระดกดื่มตาม"เชอะ..แคร่ก! แคร่ก!" แต่ยังไม่ทันไร หญิงสาวฝั่งตรงข้ามเกิดอาการสำลักกระทันหัน ใช้กำปั้นเล็กทุบหน้าอวบรัวๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด ใบหน้าแดงก่ำผิดจากเมื่อกี้แววตากลมคล้ายร้องขอ แต่ไม่มีเสียงเอ่ยบอก รู้สึกแสบทั่วลำคอด้านใน ราวจะหมดลมหายใจเพียงไม่กี่นาที"คุณโม!!!!เป็นอะไรครับ" เดโม่และเตโชพึ่งจะเข้ามานำอาหารในครัวไปทานกับพวกบอดี้การ์ด แต่ต้องตกใจเสียงใสร
@ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำโมอาถือโอกาสดีเปิดใช้บัตรเครดิตใบใหม่รูดใช้จ่ายสินค้ามากมาย ส่งถุงแบรนด์หรูให้เดโม่ผู้ช่วยส่วนตัวคอยประกบด้านหลัง โดยเธอไม่ลืมคืนเงินจำนวนนึง ถือคติที่ว่าไม่ยอมเป็นหนี้ใครง่ายๆโดยเฉพาะคนใกล้ตัว"คุณโมไม่ต้องคืนหรอกครับ องค์ชายแอบส่งให้แล้ว" เขาพยามกระซิบบอกยังไงหญิงสาวก็ไม่มีท่าทีจะฟัง พาเดินเข้าแต่ร้านสิ่งของหรูหรา เขาเกรงว่าอีกไม่นานวงเงินในบัตรนั้นคงหมดเร็วๆนี้ หากคนยังใช้ประหนึ่งเล่นสะสมแต้ม"ได้ไงพี่เดย์ ระดับมือขวาของโมเชียว เลือกเสื้อสูทดีๆสักตัวสิ เวลายืนข้างพี่เตจะได้ดูเด่นกว่าเขาไง" น้ำเสียงใสฉายแววหมั่นไส้ ยามนึกถึงใบหน้าคมคายทั้งเจ้านายและลูกน้อง เขาเล่นกอบโกยเรี่ยวแรงทำสองขาเรียวสั่นเวลาก้าวเดิน"อย่าแต่งแบบนั้นเลยครับ เราจะเป็นที่จับตามองได้" พอมาอยู่ประเทศไทยรอบนี้ การแต่งกายเขาเปลี่ยนเป็นแบบชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ทั่วไป ดูกลมกลืนเข้ากับสังคมดีกว่า"เลือก!นี่คือคำสั่ง อ้อ..แล้วเราไปซื้ออาหารสดกันด้วย เย็นนี้โมจะเข้าครัว" ร่างอรชรยื่นแขนเรียวขาวปานเชิญเข้าร้านด้านใน การันตีผ้าแบรนด์ขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้องครักษ์รู้สึกเกรงใจ ทว่าพอเห็นแววตากลมจ
"........." ".........."บรรยากาศชวนอึดอัดทันที เมื่อซิลค์เลือกนั่งหันหลังใส่คนตัวเล็กนอนหมดแรงบนเตียง พลางมองสำรวจบริเวณรอบห้อง ตกแต่งสไตล์เนียบดูสะอาดเหมือนเจ้าของ เธอลอบมองแผ่นหลังกว้างอยู่ระยะนึง เขาไม่ส่งเสียงใดยิ่งเงียบผิดปกติ เป็นตัวบ่งบอกเรื่องความสัมพันธ์จากนี้"ถ้าตามทฤษฎี...เราเป็นผัวเมียกันแล้วใช่ไหมคะ" โมอาเอ่ยบอก อยากรู้ตามความเข้าใจที่ทราบมา ขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงสองมือกำชายผ้าน่วมข่มความรู้สึกประหม่า พอชำเรืองเห็นคราบสีแดงสดปนขาวขุ่นเปลื้อนผ้าปู ร่างอรชรรีบเอี้ยวตัวหยิบทิชชู่ทำลายร่องรอย"หมายความว่าไง?" น้ำเสียงเข้มถามเรียบนิ่ง มีชายผ้าห่มปิดคลุมช่วงล่างเท่านั้น ผิวกายขาวสะอาดสะอ้านไม่มีแม้กระทั่งรอยด่างเลยลำตัวกำยำเอื้อมหยิบบุหรี่จากกางเกงสแล็คดำ จุดแช็กสูบไม่สนผู้ร่วมอาศัย จนเธอรวบรวมผ้าผืนหนายกขึ้นปิดจมูก ปล่อยเสียงอู้อี้พูดคุย"แค่สงสัยเฉยๆ แต่ไม่ต้องคิดนะคะว่าฉันจะเรียกร้องอะไร" เธอรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ตามคำที่พูดบอก ทั้งสองต่างยินยอมทำเรื่องอย่างว่าเอง พอจะขยับส่วนล่างก็เกิดความรู้สึกปวดระบม เลยหยุดชะงักค้างท่าเดิมไว้ก่อน"อวดดี..หึ" เสียงพ่นลมหายใจแรงๆตามหลั
"ฉันจะบอกว่า.." น้ำเสียงใสเริ่มละล่ำลัก ยามเห็นซิลค์ขยับมายืนข้างโต๊ะทำงาน มีอุปกรณ์การแพทย์จำนวนนึงวางอยู่ ชิ้นเนื้อต่างๆกระจัดกระจายในถาดแสตนเลส จากการคาดคะเนตามสายตาอาจเป็นเนื้อเยื่ออ่อน ผสมรอยเลือดสีแดงสดยังไหลซึม"เศษสมองคน" คนตัวโตให้คำตอบชัดทุกถ้อยคำ ยิ่งทับถมความคิดหญิงสาว เกิดอาการกลัวเกร็งสั่นตามมือบาง ปล่อยสองข้างพนักจับเป็นอิสระ ลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอเล็ก ใครจะคิดว่าได้เห็นของจริงระยะใกล้แบบไม่เต็มใจ แสงหริบหรี่ของหน้าจอคอมพิวเตอร์ พาลกดดันก้อนใจดวงน้อยเต้นตึกตัก กระหน่ำรัวแข่งกับแรงสูบเลือดทั่วกายสาว บ่งบอกว่าไม่ควรฝืนอยู่บริเวณอันตราย"ไว้วันอื่นก็ได้เนอะ" ร่างอรชรลุกขึ้นยืน ถึงกลับพะอืดพะอมไม่มีแรงก้าวขา ยกมือทุบขมับเล็กเบาๆตั้งสติ แต่ทว่าดันสะดุดเท้าตัวเองเซล้มใส่คนตัวสูง"แล้วอวดเก่ง?" เป็นเสียงเข้มแว่วผ่านหูบาง ทำใบหน้าสวยแหงนตามองศาเอี้ยวมอง เงาสะท้อนกระทบนัยน์ตาคมชวนลุ่มหลงรอบสอง"คือ.." คนบอกยังสบมองนัยน์ตาคม พาลร่างอรชรอ่อนระทวยสูญเสียความเป็นตัวเอง ฝ่ามือบางทั้งคู่เกาะแผงอกแกร่ง ค่อยๆเลื่อนใบหน้าสวยสีแดงจางเข้าหาริมขอบปากหยัก"อย่ามาร้องเสียใจทีหลัง" ซิลค์
@ คอนโดโมอา เมื่อรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวลงจากรถยนต์คันหรูของสามีในนามชั่วคราว หลังเดโม่ยืมจากเตโชเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เขาสืบทราบข่าววงในได้ว่ามาร์แชลล์ไม่มีทางปล่อยน้องสาวมาร่วมชะตาลำพัง ร่างอรชรสวมชุดธรรมดาเหมือนเด็กสาวแรกรุ่นเช่นเคย ล้วงบัตรแสกนเพื่อเข้าตัวอาคาร โดยให้องครักษ์ติดตามไปยืนรอตรงหน้าประตูห้อง เวลานี้อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนเผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!"รีบไปกันเถอะ จะไปแวะซื้อหนังสืออีก" น้ำเสียงใสเอ่ยบอก โมอาจำเป็นต้องมาเอาสิ่งของสำคัญไว้ใช้เรื่องเรียน ซึ่งอีกไม่กี่วันดีก็จะเปิดเทอมสุดท้าย เดโม่มุ่งเดินนำหน้าไปยังลิฟท์กดประตูจะเลื่อนเปิดกว้างอัตโนมัติ มีบุคคลอื่นสวนลงมาชายนิรนามแปลกหน้าใส่เพียงแมสปิดปาก เหร่สายตาแฝงความคิดมองใบหน้าสวย จนเจ้าตัวรู้สึกรีบเดินไปยืนคู่คนด้านข้าง"เป็นอย่างที่เราคิด" น้ำเสียงเข้มเอ่ยบอก ระหว่างประตูลิฟท์เลื่อนปิดกดระบุชั้นปลายทาง เขาหันไปมองหญิงสาวเล็กน้อย เธอกำลังถอนหายใจเฮือกใหญ่ มันไม่ง่ายสักนิดเดียวแค่อยากมีชีวิตอย่างคนทั่วไปติ่ง!"เชิญครับ" เดโม่พุ่งตัวออกจากลิฟท์ก่อน สอดส่องสายตาดูบริเวณรอบ เมื่อเข้าเขตพื้นที่อยู่อาศ
ภายในห้องครัว_"........" ยามใบหน้าทั้งสองอยู่ระยะใกล้ ดวงตาสองคู่กำลังอ่านข้างในกันและกัน เกิดความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น รับรู้ถึงอุณหภูมิอุ่นราดรดริมฝีปากก้อนใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ไม่เคยเข้าใกล้ชายใดแล้วสูญเสียความเป็นตัวเอง คับคล้ายร่างกายกำลังอ่อนไหว ค่อยๆเคลื่อนเปิดเปลือกตาปิด เมื่อริมฝีหนาใกล้จะประกบก๊อก! ก็อก!"องค์หญิงครับ" เดโม่กดน้ำเสียงต่ำเรียก เขาเคาะพนังกำแพงราวกับส่งสัญญาณขัดจังหวะ ยืนหันหลังให้ตรงกรอบประตู หมายบอกคนทั้งคู่ตรึงตนักสถานะตน"เอ่อ..ขอบคุณค่ะ" ร่างอรชรรีบผละอ้อมแขนแกร่งออก เอียงใบหน้าสวยหันสนใจเตาอบปกปิดสีแดงบนแก้มเนียน"ไม่ถือ" ซิลค์บอกเหมือนไม่ได้ใส่ใจ กระแทกลมหายใจราวหงุดหงิด ไม่คิดเช่นกันว่าทำไมถึงเผลอไผลไป ก่อนเดินผ่านองครักษ์ใช้สายตาเฉือดเฉือนมอง"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ" เขาเอ่ยถามทันที เมื่อเหลือกันสองคนภายในครัว หลังเห็นมาเฟียหนุ่มขึ้นช้างบนแล้ว"โมลื่นเมื่อกี้นิดหน่อย ว่าแต่มีข่าวทางนั้นบ้างไหม" ร่างอรชรเลือกเดินตรงไปหน้าเตาอบ สวมถุงกันร้อนพร้อมเปิดดูผลงาน เธอไม่มีกล้าแม้แต่จะหันมองคู่สนทนา เกรงว่าจะจับอาการเมื้อกี้ออก"วงในเงียบสนิท พวกท่านน่าจ