@ บ้านซิลค์
รถยนต์คันหรูรีบแล่นจอดเข้าโรงเก็บ เมื่อเดโม่ได้รับข้อความของบอดี้การ์ดที่เฝ้าบ้าน ว่ามีครอบครัวของโมอาเดินทางมาเยี่ยม เป็นการกดดันให้เธอต้องเผชิญหน้าครั้งแรก หลังเกิดเรื่องจากวันนั้น
สองเท้าเรียวแทบจะยกก้าวไม่ขึ้น ด้วยความคิดแง่ลบพลุ่งพล่านไปไกล จนองครักษ์พยักหน้าให้สัญญาณ ร่างอรชรสูดลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนมุ่งเข้าทางหน้าบ้าน
"ท่านแม่!พี่มาร์!" น้ำเสียงหวานหลุดร้องแสดงความดีใจ ยามเห็นทั้งสองนั่งบนโซฟา สีหน้ายิ้มแย้มยามเจอกัน เธอรีบพุ่งไปกอดให้หายคิดถึง ละลายความรู้สึกหม่นหมองของวันที่จากลา
"เบาๆหน่อยเจ้าโม เดี๋ยวแม่ท่านก็หายใจไม่ออก" มาร์แชลล์ส่งเสียงปรามนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจดีว่าทั้งหมดมาจากอาการคิดถึง พวกเขาแต่งกายอย่างคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ถือตัวอวดเบ่งกับกลุ่มลูกน้องของมาเฟียหนุ่มเลย
เดโม่รีบก้มเคารพเช่นกัน เมื่อบุคคลทั้งสองยอมเดินทางมาถึงที่นี่ เกิดรอยยิ้มมุมปากนิดๆราวสบายใจขึ้นมา
"คนมันคิดถึงแม่หนิ" ร่างอรชรยังสวมกอดมารดาราวเป็นลูกตัวน้อยๆ ยิ่งคนถูกกอดลูบผมสลวย นิสัยออดอ้อนยิ่งทวีคูณ ยามอยู่ต่างแดนทั้งบุพการีและตัวเธอไม่นิยมใช้คำสรรพนาม เพื่อให้ดูกลมกลืนกับคนทั่วไป
"ที่แม่มาวันนี้เพราะอยากรู้ว่าเราอยู่ดีกินดีไหม แต่อย่าถามถึงพ่อเจ้าเชียวล่ะ ก็รู้ๆกันเนอะ" น้ำเสียงอ่อนโยนบอก วางฝ่ามือเหี่ยวย่นทาบหน้าขาเรียว เธอรู้สึกเสียใจเช่นกัน ที่บุตรสาวเลือกเส้นทางนี้ แต่อย่างไรก็ไม่สามารถตัดสายเลือดตัวเองทิ้งได้ลง
ในทางกลับกันหากเธอมีความสุขดี ผู้ให้กำเนิดเช่นพวกเขาคงต้องยอมรับและคอยสนับสนุนถึงจะถูก
"จริงๆพี่จะไม่มาด้วยนะ ถ้าไม่เห็นแก่ท่านแม่" มาร์แชลล์กลับพูดน้อยใจ ยกแขนแกร่งกอดอกหันหน้าชำเรืองมองทางอื่น ทว่าเบื้องลึกในใจแกร่งย่อมอ่อนเอนให้น้องสาวอยู่ดี
"พี่มาร์ไม่คิดถึงน้องเหรอ" ผู้เป็นน้องสาวรีบผละอ้อมกอดมารดาอย่างเสียดาย ก่อนเอี้ยวตัวไปสวมกอดพี่ชายแทน วางคางมนเชยหัวไหล่ใหญ่โยกไปมาท่าทางทะเล้นเช่นตอนเด็กๆ
"เรามันน่าตีจริง"
"ท่านแม่มาถึงตั้งแต่เมื่อวาน แล้วทำไมไม่อยู่รอเจอโมก่อน" โมอานึกได้รีบหันมาถาม เธอกับเดโม่เข้าใจว่าเป็นคนของพวกเขา ดูจากการแต่งกายและใช้สัญชาตญาณวิเคราะห์ แต่เนื่องด้วยไฟฟ้าดันขัดข้อง จึงเลือกหลบซ่อนตัวเองก่อน หากมีบุคคลอื่นแฝงตัวมาอาจเกิดอันตรายด้วย
"แม่พึ่งมากับพี่วันนี้เอง" คนบอกไม่มีหลบซ่อนแววตาไร้อาการปิดบัง
"วันนี้?" ใบหน้าสวยหันซ้ายขวา เริ่มมีอาการสงสัยได้ชัดเจน จนจ้องสบตาทางเดโม่ เหมือนว่าทุกอย่างผลิกหันเหคลละอย่าง
"อยากรู้ไหมล่ะว่าใคร เราไม่มีทางหนีพ้นได้หรอก" มาร์แชลล์ก้มหน้ามาระยะใกล้กกหูน้องสาว กระซิบบอกแผ่วเบากันมารดาได้ยิน
ทันใดนั้นดวงตากลมเบิกกว้าง สีหน้าอมชมพูเปลี่ยนเป็นซีดเจื่อน เพราะถ้าเป็นคนที่เธอคิดไว้ในหัวสมอง คงพ้นใครไม่ได้นอกจากอองตวน แต่ในอนาเขตรัดกุมเขาช่างผ่านเข้ามาง่ายดายได้อย่างไร
"คุณซิลค์มาแล้วครับ" เสียงของเดโม่บอก ยามเห็นรถคันคุ้นตาจอดเทียบเสมอในโรงเก็บ มีเตโชกระซิบเจ้านายบางอย่าง ก่อนทั้งสองจะรีบมุ่งมาทางนี้
"สวัสดีครับ" น้ำเสียงเข้มของมาเฟียหนุ่มพูดขึ้น พร้อมพนมมือไหว้ผู้ใหญ่ ซึ่งน้อยนักที่เขาจะแสดงมัน ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบมองภรรยาในนามชั่วคราว กำลังบอกขอร้องผ่านดวงตากลม รีบรุดขึ้นยืนมาต้อนรับยืนข้างร่างสูง
ต้องจำใจเหมือนว่าไม่มีเรื่องบาดหมาง ทั้งๆที่เมื่อคืนถ้าไม่ติดว่าเขามีลูกน้องมากกว่า คงได้จับลูกแมวตัวน้อยขังเลี้ยงไว้ในบ้านแล้ว
"เอาเถอะ เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว คุณคงไม่ว่านะถ้าเราจะอยู่ที่นี่กับลูกเราสักคืนสองคืน" ผู้เป็นมารดาเอ่ยบอก ก้มหน้ารับการไหว้ของว่าที่ลูกเขย ไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจ ยกเว้นพี่ชายด้านข้างเลือกไม่สนใจคำทักทาย
"ท่านแม่จะพักที่นี่ได้หรอ ที่นี่ไม่มีแม่บ้านเลยนะ พี่มาร์พาแม่ไปโรงแรมห้าดาวดีกว่าไหม" ร่างอรชรถึงกลับร้อนรน หากบุพการีพักอาศัยที่นี่ มีหวังความลับถูกเปิดเผย แล้วเจ้าของบ้านก็ดูไม่ให้ความร่วมมือสักนิด
"จะยากอะไรยัยโม เดี๋ยวพี่ส่งแม่บ้านที่คอนโดมาให้" มาร์แชลล์เสนอความคิดเห็น พลางจับตาจ้องบุคคลสองรอดูการแสดงอาการ
"ที่นี่มีแต่พ่อบ้านครับ คงไม่ดีหากพาคนอื่นเข้ามา คุณโมอาจจะไม่ปลอดภัยได้นะครับ" เดโม่ช่วยพูดซ้ำ เขารู้ความคิดเจ้านายดี อย่างน้อยทุกคนควรมองเห็นเรื่องความปลอดภัยของเธอเป็นหลัก
ซิลค์ยังยืนนิ่งทำเหมือนว่าทุกคนคือบรรยากาศ แม้ฝ่ามือเรียวแกล้งประสาน ใช้ปลายนิ้วก้อยจิกกระตุ้นให้เขาช่วยพูดบ้าง
"คุณว่ายังไง?" น้ำเสียงอ่อนโยนจากเมื่อกี้ กลับพุ่งความกดดันมายังร่างสูง เขารับรู้แรงจิกตรงในฝ่ามือได้ รวมถึงอุณหภูมิเย็นจากแหวนจำลองเรื่องบ้าๆ ซึ่งเขากลับไม่ได้สวมมัน
"พักที่นี่แหละ เธอจะได้ดูแลท่าน" ซิลล์เลือกหันทางหญิงสาว สรุปคำตอบบอกทุกคนกระจ่างแจ้ง นัยน์ตาคมซ่อนความคิดมากมาย สบมองเพียงใบหน้าสวยข้างกาย
"ผมมีนัดกับอองตวนไว้...งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะมารับไปเที่ยวทำตัวให้ว่างด้วยล่ะยัยโม!" มาร์แชลล์เลือกเอ่ยอำลำ ไม่ลืมหันมากำชับน้องสาวหัวดื้อ โดยเน้นประโยคหลังราบตำหนิ ต่อให้เขาฝืนอยู่ต่อไปคงหมดอารมณ์
"ไหนๆวันนี้แม่ก็ไม่มีไรทำแล้ว อยากชิมฝีมือแม่บ้างไหมล่ะ" มารดาส่งเสียงทำลายบรรยากาศตึงเครียดทันที เธอรู้ว่าเป็นเรื่องยากที่ลูกชายจะยอมรับได้
"อยากกินอยู่แล้ว ให้โมเป็นลูกมืออีกนะ" ร่างอรชรสลัดทิ้งสามีในนาม พุ่งไปนั่งบนโซฟาพลางยกมือส่งสัญญาณไล่ให้ซิลค์ขึ้นบนบ้านไปก่อน
"เอ๊ะ!!แต่ขอแม่ขึ้นไปดูความเป็นอยู่ของเราหน่อยสิ ถ้าลูกแม่อยู่ดีกินดี แม่ก็สบายใจ"
............................................................
........................
ร้อนวูบวาบของจริง
@ชั่วโมงต่อมา เมื่อถึงช่วงเวลาพลบค่ำ ชายหนุ่มเจ้าของบ้านรีบลงมานั่งคอยบนโซฟา ตรงข้างๆมุมรับประทานอาหาร ปล่อยหญิงสาวคลุกกับมารดาในครัว บรรยากาศเริ่มครึกครื้นเพราะเสียงหัวเราะทั้งสองฝ่ายดังเล็ดรอดออกมา ฝ่ามือหนาเลือกวางแฟ้มเอกสารลง ทำอย่างว่ามันไร้ความหมาย พอเหลือบเห็นเดโม่และลูกน้องคนสนิท ลอบสังเกตุทางหลังบ้านเป็นระยะ นัยน์ตาคมเลยหรี่เพ่งจนทั้งคู่ละไปทำหน้าที่ตัวเอง"อาหารเสร็จแล้วค่ะคุณ" น้ำเสียงใสพยามอ่อนหวานกว่าเดิม ยามมีมารดาอยู่ในบริเวณนั้น เธอรีบเรียกสามีชั่วคราวเพื่อให้ไปช่วยท่านยกจานจัดเรียงขึ้นโต๊ะรอ"อืม" คนตัวสูงพยักหน้ารับเล็กน้อย ให้ร่างอรชรเดินข้างหน้าประหนึ่งว่าสามารถนำเขาได้ คงเก็บกดจากเมื่อคืนได้ทีเอาใหญ่สั่งอย่างเดียวร่างสูงเริ่มมีท่าทางเงอะงะ ตั้งแต่มีบ้านส่วนตัวพึ่งเข้ามาในห้องนี้ไม่กี่ครั้ง ยิ่งดูแม่ครัวทำอาหารกำลังวุ่นวาย จะขยับนิดหน่อยยังเกรงว่าเป็นส่วนเกิน"รบกวนคุณช่วยยัยโมถือจานนี้ที ระวังร้อนหน่อยนะ" น้ำเสียงอ่อนโยนบอก ระหว่างดันถ้วยมีไอร้อนโชยซึ่งใช้จานรองอีกชั้นนึงแล้ว ท่านไม่ได้วางท่าทางรังเกียจ แค่เห็นความเป็นอยู่ลูกสาวดีก็เพียงพอ"ครับ" ซิลค์รีบถือ
"ตะแต่ว่า...." หญิงสาวกลับรู้สึกกระด้างอาย ยังยืนตัวแข็งทื่อสองมือบางยึดบ่ากว้างทรงตัว เอียงใบหน้าสวยหลบยามถูกมองด้วยสายตาหื่นกระหาย ความสูงระดับใต้คางสากทำให้จมูกใหญ่คลอเคลียผมสลวย แค่ลมหายใจร้อนวาบหวิวกระทบหน้าผากมน ทำร่างอรชรสยิวขนไรอ่อนลุกชันทั่วกาย เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ทุกครั้งยามใกล้ชิดกัน"เลือกเอาจะนอนครางอย่างเดียว หรือขึ้นขย่มเอง" เขาค่อยๆเชยคางมนขึ้นสบตาระยะใกล้ ปลายจมูกชนถูไถกันและกัน เมื่อความต้องการพลั่งพลู ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้เสื้อนอนลูบแผ่นหลังบาง"คุณ..อื้มมม" คนตัวสูงเลื่อนใบหน้าแนบปากประกบจูบ พยามเนิบนาบหว่านล้อมหญิงสาว แค่เพียงลิ้นสากตวัดทักทายในโพรงนุ่ม ร่างอรชรอ่อนระทวยแทบเสียการทรงตัวเรียวแขนเล็กตวัดคล้องคอหนา เมื่อปล่อยความรู้สึกนำพามากกว่าอาการกระด้างอายสาว จูบตอบแบบเงอะงะไม่ชำนาญ ยิ่งทำให้ผู้คุมเกมส์พอใจ"......." ซิลค์ยอมถอนจูบออกราวเสียดาย ตวัดปลายลิ้นเลียรอบปากหยักเก็บคราบน้ำหวาน ดวงตาสองคู่ยังจ้องมองอย่างเห่อร้อน ท่อนแขนแกร่งช้อนร่างอรชรอุ้มขึ้นมาวางบนเตียง"แล้วผ้าที่เปื้อนไปอยู่ไหนคะ" เกิดความสงสัยรีบแสร้งถามกักเก็บอาการเขิน หากเขาใช้พวกบอดี้
วันรุ่งขึ้น__"ยังไงก็ฝากคุณไปส่งยัยโมด้วยนะ" น้ำเสียงโทนอ่อนโยนเอ่ยบอก ตอนกำลังส่งบุตรสาวขึ้นรถยนต์คันหรูพร้อมออกจากบ้านไปกับสามีในนาม ร่างชุดนักศึกษาสาวพุ่งสวมกอดมารดาจนอิ่มเอม ก้มใบหน้าสวยพรมจูบแก้มเหี่ยวย่นสองข้างเมื่อเข้าสู่วัยชรา"ครับ" ซิลค์ตอบกลับผ่านน้ำเสียงสุภาพ หากเป็นลูกน้องคนสนิทคงได้รู้ว่าเขาจะประพฤติเช่นนี้สำหรับบุพการีเท่านั้น ร่างสูงสวมเสื้อเชิ๊ตขาวกับกางเกงสแลคดำเรียบกริบทุกมุมตามนิสัยเจ้าระเบียบ ผายมือเล็กน้อยให้เกียรติภรรยาในนาม เนื่องจากวันนี้ดันมีบุคคลคอยจ้องจับพิรุธทั้งคู่"เดี๋ยวโมจะรีบกลับมาให้ทันพี่มาร์นะคะ" หญิงสาวยังส่งเสียงใสบอก แม้ว่าก้าวขาขึ้นไปนั่งในรถยนต์เรียบร้อยแล้ว นั่นยิ่งทำให้คนตัวสูงด้านข้าง ต้องพิงหลังปล่อยพื้นที่เบื้องหน้าให้โมอาแทรกแซง พอมารดาของเธอเห็นว่าสมควรแก่เวลา จึงพยักให้เตโชปิดประตูพร้อมไปส่งเจ้านายได้ เมื่อรถยนต์คันหรูแล่นสู่ถนนหลัก หญิงสาวข้างกายดันชะโงกหน้ามองกระจกหลัง วางฝ่ามือเรียวเกาะบ่า ยิ่งทำให้คนถูกกระทำเริ่มไปสบอารมณ์"หยุดได้หรือยัง" โครงหน้าคมคายเอียงมองฝ่ามือบนบ่า ราวกับส่งนัยนะว่าเธอล่วงล้ำจนเกินงาม ไม่รู้ว่าครั้ง
@ บ้านซิลค์"ว๊ายยยย" คนตัวเล็กถึงกลับหลุดร้องเสียงตกใจ ไม่คิดว่าซิลค์จะกลับมาก่อนเวลา พุ่งเข้ามาในห้องส่วนตัวแถมยืนแทรกตรงกลางตู้เสื้อผ้า ขณะร่างอรชรสวมเพียงบาร์เซียและเพนตี้ตัวบาง โชว์สัดส่วนโค้งเว้าล่อแหลม เธออุตส่าห์เลือกช่วงที่มารดาเผลอหวังเปลี่ยนชุดสวยๆใส่ ไปล่องเรือดื่มดำบรรยากาศกลางแม่น้ำ"คน!" น้ำเสียงเข้มจริงจังบอก วางฝ่ามือประคองแผ่นหลังบางดันประชิดลำตัวกำยำ โดยเขาหันเลือกเครื่องแต่งกายเอง"แล้วคุณจะเข้ามาทำไมเล่า" พอจะพยามคว้าเอาชุดคลุมใส่ปกปิด ก็โดนคนตัวสูงแกล้งยืนบัง ปล่อยสองเต้าอวบถูไถแผงอกกว้าง ทำโมอาลอบสูดดมกลิ่นน้ำหอมชายสู้กับอาการวาบหวิบตรงยอดประทุมถัน"ไม่บอกก่อนล่ะว่ามีผู้ชายคนอื่นไปด้วย" ซิลค์ยังค้างมือจับราวแขวนเสื้อผ้า ใช้ร่างกายดันคนตัวเล็กชิดด้านใน ก้มลงประทับรอยจูบบนไหล่มน"อื้อ...นะหนูรีบ" ชายหนุ่มกลับกลั่นแกล้งด้วยการไล่ขยับปลายจมูกใหญ่คลอเคลียซอกคอระหง แล้วเหมือนมีช่วงจังหวะนึง ขบเม้มปากใส่ผิวขาวละเอียด พอได้ร่องรอยพอใจ ถึงยอมขยับออกอย่างเสียดาย เธอไม่เข้าใจความหมายของคนตัวสูงบอกสักเท่าไหร่ คนอื่นที่ว่าคงเป็นกลุ่มองครักษ์เองหรือเปล่า ไม่แปลกหากเขาไม่เค
@ บนเรือท่ามกลางบรรยากาศบนเรือลำใหญ่กำลังแล่นบนแม่น้ำยามค่ำคืน มีแสงไฟสีเหลืองนวลสอดส่องสองข้างทาง เปิดเพลงบรรเลงคลอเบาๆ ชวนผู้คนรื่นรมย์ผ่อนคลาย"เอากุ้งไปยัยโม" มาร์แชลล์ใช้ช้อนกับส้อมตักกุ้งตัวใหญ่ใส่จานให้น้องสาวที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามกับอองตวน ปล่อยมารดานั่งข้างบุตรสาว เพราะทั้งสองชอบสนใจแต่เรื่องกิน บนโต๊ะมีอาหารมากมายโดยเน้นฝีมือของเชฟโรงแรมดัง"แล้วก็ว่าน้องอ้วน" น้ำเสียงหวานตอบ แกล้งยู้หน้าสวยให้มารดาหมั่นเขี้ยว แม้ว่ามือจับช้อนส้อมจิ้มชิ้นเนื้อกุ้งใส่ปากรับประทาน ฉีกยิ้มหวานกว้างบามลิ้มรสอาหารสดถูกปาก"แต่เราว่าโมอ้วนขึ้นจริงๆนะ" อองตวนเอ่ยแซวเสริม ขณะหั่นสเต็กเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ ตามด้วยถือถ้วยซอสราดเติมนิดหน่อย"ตามวัยดีกว่าอองตวน คนมันกำลังโต" หญิงสาวแกล้งตามหลักวิชา ที่สรีระร่างกายย่อมเปลี่ยนตามวัย พอชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามจิ้มชิ้นเนื้อเตรียมป้อนแบบเมื่อก่อน เธอย่อมไม่ขัดให้เสียน้ำใจ ค่อยๆโน้มลำตัวบอบบางไปเตรียมอ้าปากกว้างฟิ้ว~~"เอ้ย..เปลื้อนเลย มาเราเช็ดให้" ก่อนที่โมอาจะได้ชิมดันมีสายลมพัดทำผมสลวยปลิวฟลุ้ง แถมเปลื้อนน้ำซอสราดสเต็ก อองตวนรีบหยิบทิชชู่เอื้อมไปหมายจะทำความสะ
@ เช้าวันใหม่บ้านซิลค์_"มึงจะรีบมาหาเฮียทำไมแต่เช้าว่ะ" ฮาเกนบ่นพึมพำให้เอเดนตามประสาคนตื่นสายโดนปลุกก่อนเวลา เพราะเมื่อคืนลูกตัวน้อยก่อกวน แต่ผู้ถูกนัดกลับไปรับเขาจากบ้านไม่บอกกล่าวล่วงหน้า พอลงรถสปอร์ตคันหรูลูกน้องเจ้าของบ้านรีบวิ่งมารับกุญแจ อาสาขับไปจอดตรงลานกว้างอย่างคุ้นเคย"ก็ตอนบ่ายกูมีประชุม แค่เลื่อนมาเช้าหน่อยทำทีจะตาย" จริงๆคนนัดก่อนคือฮาเกน ด้วยความรักษาคำพูดเขาเลยอุตส่าห์ชิ่งรถไปรับตัดหน้า จนลืมโทรแจ้งตัวรุ่นพี่หนุ่มเป้าหมายก่อนมาถึง"รีบๆนำไปเลยมึง" เขาไม่ลืมถือกระเป๋าสีดำขนาดเล็กแต่สร้างจากเหล็กชั้นดีแสดงความคงทน ข้างในคืออาวุธชนิดคุณภาพร้ายแรง"เออ.....""......." พอทั้งสองชายหนุ่มจะมุ่งเดินเข้าบ้าน ดันสะดุดกับหญิงสาวใบหน้าสวย ร่างอรชรในชุดเดรสสีแดงใส่สายเดี่ยวเผยผิวขาว ยิ่งแสงแดดอ่อนกระทบยิ่งเพิ่มออร่าความสวยงาม กำลังก้มๆเงยๆเก็บดอกไม้ตรงสวน ด้วยนิสัยคาสโนว่าจึงอมยิ้มหยุดมอง"มึงเห็นแบบกูไหมว่ะ" ฮาเกนใช้ปลายรองเท้าหนังสะกิดเพื่อนรัก ไม่เชื่อว่าสถานที่หวงห้ามมีสตรีใบหน้าสวย แถมเธอยังดูอ่อนกว่าเขาอีกหลายปี"ไอเชี้ย!นางฟ้าชัดๆ" เอเดนยกมือลูบคางสากดั่งราชสีห์เห็นเ
@ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ"คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ลงไปกับหนู" เสียงของคนตัวเล็กเอ่ยถาม ยามรถยนต์คันหรูจอดในสถานที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มกับไม่ชอบความวุ่นวายเสียเลย ยังนั่งแผ่นหลังตรงไม่ขยับสักนิดเดียว ผิดจากดวงตากลมเบิกขยายโต พอเห็นป้ายสินค้าแบรนด์เนมติดป้ายลดราคาผ่านตัวอักษรสีแดงโด่ดเด่น ผลิตความต้องการอยากได้"อืม" ฝ่ามือหนาคว้าเอาเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำบังคับให้โมอาสวมทับชุดเดรสอีกชั้นนึง ซึ่งทำตามไม่ขัดเจตนาคนสั่ง พร้อมยื่นบัตรเครดิตใบใหม่ให้เพราะเธออยากซื้อของไว้ใช้ยามไปฝึกงานแถวเขตชายแดน เหลือเวลาอีกไม่กี่วันนี้"ถ้าหนูใช้เงินหมดล่ะ" เมื่อบานกระจกยังปิดกั้นระหว่างผู้โดยสาร ปล่อยลำตัวอรชรพิงแผงอกกว้าง ยกปลายนิ้วชี้เรียวจิ้มแก้มสากอย่างออดอ้อน เหมือนเขาเป็นมุมอบอุ่นในบางเวลา เว้นเสียดุดันยามค่ำคืน"ค่อยมาเอาเพิ่ม" แต่ดูคนตัวเล็กยังไม่ระมัดระวัง ช่วงหน้าอกอวบแนบกล้ามอกชิดสนิท อวดเบ่งผิวขาวโกยขึ้นเกือบล้นบรา พาลกระตุ้นอารมณ์ชายพลั่งพลู จนริมฝีปากหยักประทับจูบหน้าผากมนตอบ ส่งฝ่ามือนวดตรงบั้นท้ายงามงอน"งั้นตอนเย็นรอกินข้าวกันที่บ้านนะคะ" โมอาเขยิบเพียงนิดเอื้อมเกาะบ่ากว้าง ถื
@ บ้านซิลค์"รถใครมาเยอะแยะเลยพี่เดย์ แล้วเราจะเข้าไปดีเหรอ" โมอาพูดเอ่ย เธอเห็นรถยนต์ราคาแพงเกินกว่าปกติจอดตรงลานกว้าง เคียงคู่ด้วยมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ ทั้งที่ช่วงเช้าสามีหนุ่มไม่ได้บอกอะไร แถมยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเขา แม้ว่าเริ่มสนิทสนมกันบ้างแล้วสองเท้าเรียวสวยหยุดชะงักอยู่ข้างรถยนต์ ครั้นจะเดินเข้าไปตอนนี้ก็ไม่รู้สถานการณ์ข้างในเป็นเช่นไร ขืนบุ่มบ่ามเยื้องกรายผ่านคงได้เสียมารยาทอายแทนเจ้าของบ้าน"งั้นเดี๋ยวผมวิ่งไปถามคนอื่นให้ก่อนดีกว้่าครับ" เดโม่บอก แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินไปไหน เตโชที่ยืนหน้าประตูบ้านดันควักมือเรียกส่งสัญญาณให้ทั้งเขาและหญิงสาวรีบเข้าหา"ต้องมีอะไรแน่เลย" น้ำเสียงหวานบอกเบาๆ"เอาไงดีครับ ถ้าคุณโมไม่อยากเข้าไป เดี๋ยวเราไปขับรถเล่นก่อนดีไหม" เขาก็ไม่รู้ข้างในบ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้น น่าจะมีคนจำนวนนึงอยู่ในนั้น"โมอา" แล้วเป็นเสียงเข้มตะโกนบอก เขาเดินดุ่มจากข้างบ้านมุ่งมาตรงจุดที่ร่างอรชรยืนอยู่ เธอรีบกระชับชายเสื้อแจ็คเก็ตข่มความรู้สึกประหม่า"หนูไม่กล้าเข้าไป" เธอเอ่ยบอกไปตามความรู้สึกจริง แม้ยังไม่ได้ฟังอีกฝ่ายอธิบายก่อน"พ่อแม่ฉันเอง" อุ้งมือหนาวางทาบ
เวลาต่อมา_"เป็นไงการสอนวันแรกของเรา" ร่างอรชรรุดทิ้งกายหมดเรี่ยวแรงกับเพื่อนรัก นั่งบนเสื่อผืนเก่าแทนที่นักเรียนตัวน้อย หลังเปิดสอนผ่านไปเกือบสามชั่วโมง เรียกว่าพวกเธอจัดเต็มทุกวิชาฝ่ามือเรียวล้วงหยิบผ้าเช็ดสีหวานส่งให้เบลล์ แม้แดดยามเย็นไม่ส่องเท่าไหร่หนัก แต่คนเคยอยู่ให้ห้องแอร์อุณหภูมิเย็นตลอด ย่อมได้รับผลกระทบต่อผิวบ้าง"เหนื่อยแต่สนุก" เบลล์ยิ้มอ่อน รีบคืนผ้าเช็ดหน้าแก่เพื่อนรัก เพราะใบหน้าสวยมีเหงื่อผุดเต็มขมับ อาการ ไม่ต่างไปกว่ากัน พอเห็นข้าวนึ่งหัวหน้าห้องเรียนรวบรวมถือสมุดทุกคนมาส่ง เธอรีบตบมือชื่นชมก่อนรับของจากเด็กชาย"วันนี้สนุกสุดๆเลยครับ แต่ผมไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย" เด็กชายรีบนั่งลงข้างคุณครูอาสา เปิดสมุดของตัวเองกางโชว์ให้ดู ลายมือขยึกขยักเป็นตัวชี้บอก เขาไม่เข้าใจวิธีการเขียนเริ่มจุดไหนก่อน"เราเก่งมากนะ แค่ไม่ถนัดเรื่องลายละเอียดใช่ไหมล่ะ" โมอารีบชะโงกดูตาม ถือว่าเขาเป็นนักเรียนภายใต้การสั่งสอน ย่อมควรช่วยเหลือให้เด็กชายเข้าใจถูกวิธี"ครับ""เอางี้นะข้าวนึ่ง ช่วงที่คุณครูมาสอนเราแวะมาได้ตลอดเลยนะ ต้องใช้โอกาสนี้เก็บเกี่ยวความรู้ให้มากๆเชียว" เบลล์บอก พลางจับมือนักเ
@ เช้าวันต่อมา"เมื่อคืนแกกลับมาตอนไหน ฉันจำได้ว่ารอเป็นชั่วโมงเลย" หลังจากทั้งสองเสร็จภารกิจส่วนตัวรีบออกมาพบชาวบ้านเตรียมการสอนให้เด็กๆ ซึ่งทุกคนร่วมมือกันอย่างดี เบลล์ใช้ช่วงตอนนั่งพักใต้ต้นไม้ถาม ราวว่าค้างคาอยู่ในหัวสมอง"พอดีเจอคนรู้จักหน่ะเลยคุยเพลินไปหน่อย" คนรู้จักที่ว่าก็คือสามีในนานนั่นแหละ ย้อนนึกถึงช่วงเมื่อคืนเขาไม่ได้ตอบคำถามที่เธออยากรู้เลย ปล่อยเป็นความเงียบตามบรรยากาศ พาลแสงดาวส่องมองจนเพลิน กระทั่งถึงกลางดึกเลยรีบกลับพักผ่อน~ความหวั่นไหวในใจดวงน้อย คงไม่มีความหมายถ้าเกิดเพียงฝั่งเดียว~"เจอคนรู้จักที่นี่อะนะแก?" คนบอกถึงกับตกตะลึง โลกช่างกลมยิ่งกว่าพรมลิขิตอีก เธอมากันแค่สองคนครั้งแรกด้วยซ้ำ อีกฝ่ายจะรู้ใครเยอะแยะขนาดนั้น"เอ่อ..." โมอาเริ่มเลิกลัก จะหยิบยกเอาใครอ้างต่อดี หากเอาองครักษ์มาอ้าง อาจโดนถามต่อไม่จบสิ้น"อ้าว!น้องโมตัวเป็นๆเลย อาสามาสอนเด็กๆที่นี่ด้วย" แล้วเป็นเสียงของอิฐรุ่นพี่หนุ่ม นักศึกษาแพทย์ชั้นปีสุดท้ายมากับกลุ่มโรงพยาบาล เขาแค่แวะนำยาที่ขาดเหลือส่งให้ชาวบ้าน พอเห็นหน้าคุ้นๆเลยรีบทักทายดู ใบหน้าขาวตี๋แสดงความดีใจเปี่ยมล้ม ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรีย
@ ช่วงค่ำ"จะไปไหนของแกยัยโม?" เพื่อนสาวรีบเอ่ยเรียก ตอนที่โมอากำลังจะเยื้องกรายออกจากแคมป์ เพราะผู้ใหญ่ในแถบนี้เตือนว่าห้ามออกตอนกลางคืนมันอันตราย แม้ว่ามีบอดี้การ์ดของทีมแพทย์คอยตรวจเวรยาม"สงสัยลืมหยิบชุดชั้นในมาตอนอาบน้ำ แกรออยู่ที่นี่แหละห้ามออกมาเพ่นพล่านนะ" นิ้วชี้สวยยกออกคำสั่ง เธอกลัวว่าเพื่อนสาวจะจับได้ว่ามีสามีแล้ว เพียงเพราะผูกมัดพันธะแค่ชั่วคราวพอเห็นอีกฝ่ายพยักตอบกลับ ได้ทีรีบทำตามถ้อยคำโกหก สองเท้าเรียวยกก้าวลัดเลาะตามริมลำธาร ดั่งบอดี้การ์ดรู้ยืนคุมเข้มไม่ได้ห้ามปราม"คุณ" น้ำเสียงหวานเอ่ยเรียก ตอนเห็นคนตัวสูงนั่งตรงโขดหินใหญ่ไร้เสื้อท่อนบนโชว์กล้ามมัด สูบบุหรี่ปล่อยควันสีเทาลอยฟุ้ง ท่ามกลางธรรมชาติผ่อนคลาย"อยากเหรอ?" ซิลค์กลับเอ่ยคำถามกำกวม เอียงโครงหน้าคมคายหันมอง ลดฝ่ามือข้างที่จับบุหรี่ลง กระตุกแขนเรียวนั่งทับขาแกร่งมองลำธารแบบเดียวกันคางสากเชยไหล่มนถูไถ ถือโอกาสซุกจมูกดมดอมซอกคอระหง ขบเม้มกระตุ้นอารมณ์เสียวซ่าน รับรู้ได้ว่าคนถูกกระทำขนไรอ่อนลุกสยิว"ดะเดี๋ยวคนเห็นค่ะ" ท้ายทอยเล็กโดนควบคุมหันสบตาระยะใกล้ ได้กลิ่นสารนิโคตินลอยแตะเนินริมฝีปาก สูดดมผิวแก้มชายพาลเสี
หลายวันต่อมา_@ เชียงราย"นั่งเครื่องมาก็เมื่อยแล้ว ยังจะนั่งรถต่ออีกไปเหรอยัยโม" เพื่อนสาวเอ่ยบอกอย่างอ่อนล้า ขณะพึ่งลงเหยียบสนามบินยามถึงปลายทาง เบลล์นั่งกอดคอกับโมอาตรงที่พักผู้โดยสาร เตรียมหาคนขับรถอาสาหลังอาจารย์ประจำภาคติดต่อให้"เอาน่าไม่มีอะไรสบายไปทุกอย่างหรอกน่า" เธอรีบให้กำลังใจเพื่อนรักกลับ แม้ก้อนใจดวงน้อยรู้สึกว้าเหว่เป็นครั้งแรก ยามต้องห่างไกลบ้านหลังนั้น เริ่มผูกพันธ์แม้อยู่ได้ไม่กี่เดือนเศษ แล้วสามีช่างแสนเย็นชา ไม่มีแม้แต่จะเอ่ยอำลาอะไร ปล่อยให้เดโม่มาส่งที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ซึ่งองครักษ์คนสนิทอยู่จัดส่งเอกสารเปลี่ยนชื่อคอนโดให้เจ้าของใหม่ กว่าจะตามมาหาเธอคงเป็นช่วงค่ำ"เราจะไหวแน่หน่ะ" เพื่อนสาวพูดขึ้นเรียกสติ ตามสไตล์ลูกคุณหนูเวลาจะเจอความลำบากย่อยท้อถอยก่อนเป็นอันดับแรก"พลังเราเยอะจะตายยัยเบลล์อย่าเวอร์!" ลำตัวอรชรหยุดยืนขึ้นคว้าเอาแขนเบลลลุกตาม จับสายกระเป๋าเป้กระชับ สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เตรียมให้กำลังใจตัวเอง"เออ..สู้ๆดิว่ะ!!!"@ บนดอยเขตชายแดน เมื่อรถกระบะคันเก่าของเหล่าอาสาตามพื้นที่จอดตรงเชิงเขา ปล่อยสองนักศึกษาฝึกหัดเดินลัดเลาะตามทางที่บอก โดยมี
@ บ้านซิลค์"รถใครมาเยอะแยะเลยพี่เดย์ แล้วเราจะเข้าไปดีเหรอ" โมอาพูดเอ่ย เธอเห็นรถยนต์ราคาแพงเกินกว่าปกติจอดตรงลานกว้าง เคียงคู่ด้วยมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ ทั้งที่ช่วงเช้าสามีหนุ่มไม่ได้บอกอะไร แถมยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเขา แม้ว่าเริ่มสนิทสนมกันบ้างแล้วสองเท้าเรียวสวยหยุดชะงักอยู่ข้างรถยนต์ ครั้นจะเดินเข้าไปตอนนี้ก็ไม่รู้สถานการณ์ข้างในเป็นเช่นไร ขืนบุ่มบ่ามเยื้องกรายผ่านคงได้เสียมารยาทอายแทนเจ้าของบ้าน"งั้นเดี๋ยวผมวิ่งไปถามคนอื่นให้ก่อนดีกว้่าครับ" เดโม่บอก แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินไปไหน เตโชที่ยืนหน้าประตูบ้านดันควักมือเรียกส่งสัญญาณให้ทั้งเขาและหญิงสาวรีบเข้าหา"ต้องมีอะไรแน่เลย" น้ำเสียงหวานบอกเบาๆ"เอาไงดีครับ ถ้าคุณโมไม่อยากเข้าไป เดี๋ยวเราไปขับรถเล่นก่อนดีไหม" เขาก็ไม่รู้ข้างในบ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้น น่าจะมีคนจำนวนนึงอยู่ในนั้น"โมอา" แล้วเป็นเสียงเข้มตะโกนบอก เขาเดินดุ่มจากข้างบ้านมุ่งมาตรงจุดที่ร่างอรชรยืนอยู่ เธอรีบกระชับชายเสื้อแจ็คเก็ตข่มความรู้สึกประหม่า"หนูไม่กล้าเข้าไป" เธอเอ่ยบอกไปตามความรู้สึกจริง แม้ยังไม่ได้ฟังอีกฝ่ายอธิบายก่อน"พ่อแม่ฉันเอง" อุ้งมือหนาวางทาบ
@ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ"คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ลงไปกับหนู" เสียงของคนตัวเล็กเอ่ยถาม ยามรถยนต์คันหรูจอดในสถานที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มกับไม่ชอบความวุ่นวายเสียเลย ยังนั่งแผ่นหลังตรงไม่ขยับสักนิดเดียว ผิดจากดวงตากลมเบิกขยายโต พอเห็นป้ายสินค้าแบรนด์เนมติดป้ายลดราคาผ่านตัวอักษรสีแดงโด่ดเด่น ผลิตความต้องการอยากได้"อืม" ฝ่ามือหนาคว้าเอาเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำบังคับให้โมอาสวมทับชุดเดรสอีกชั้นนึง ซึ่งทำตามไม่ขัดเจตนาคนสั่ง พร้อมยื่นบัตรเครดิตใบใหม่ให้เพราะเธออยากซื้อของไว้ใช้ยามไปฝึกงานแถวเขตชายแดน เหลือเวลาอีกไม่กี่วันนี้"ถ้าหนูใช้เงินหมดล่ะ" เมื่อบานกระจกยังปิดกั้นระหว่างผู้โดยสาร ปล่อยลำตัวอรชรพิงแผงอกกว้าง ยกปลายนิ้วชี้เรียวจิ้มแก้มสากอย่างออดอ้อน เหมือนเขาเป็นมุมอบอุ่นในบางเวลา เว้นเสียดุดันยามค่ำคืน"ค่อยมาเอาเพิ่ม" แต่ดูคนตัวเล็กยังไม่ระมัดระวัง ช่วงหน้าอกอวบแนบกล้ามอกชิดสนิท อวดเบ่งผิวขาวโกยขึ้นเกือบล้นบรา พาลกระตุ้นอารมณ์ชายพลั่งพลู จนริมฝีปากหยักประทับจูบหน้าผากมนตอบ ส่งฝ่ามือนวดตรงบั้นท้ายงามงอน"งั้นตอนเย็นรอกินข้าวกันที่บ้านนะคะ" โมอาเขยิบเพียงนิดเอื้อมเกาะบ่ากว้าง ถื
@ เช้าวันใหม่บ้านซิลค์_"มึงจะรีบมาหาเฮียทำไมแต่เช้าว่ะ" ฮาเกนบ่นพึมพำให้เอเดนตามประสาคนตื่นสายโดนปลุกก่อนเวลา เพราะเมื่อคืนลูกตัวน้อยก่อกวน แต่ผู้ถูกนัดกลับไปรับเขาจากบ้านไม่บอกกล่าวล่วงหน้า พอลงรถสปอร์ตคันหรูลูกน้องเจ้าของบ้านรีบวิ่งมารับกุญแจ อาสาขับไปจอดตรงลานกว้างอย่างคุ้นเคย"ก็ตอนบ่ายกูมีประชุม แค่เลื่อนมาเช้าหน่อยทำทีจะตาย" จริงๆคนนัดก่อนคือฮาเกน ด้วยความรักษาคำพูดเขาเลยอุตส่าห์ชิ่งรถไปรับตัดหน้า จนลืมโทรแจ้งตัวรุ่นพี่หนุ่มเป้าหมายก่อนมาถึง"รีบๆนำไปเลยมึง" เขาไม่ลืมถือกระเป๋าสีดำขนาดเล็กแต่สร้างจากเหล็กชั้นดีแสดงความคงทน ข้างในคืออาวุธชนิดคุณภาพร้ายแรง"เออ.....""......." พอทั้งสองชายหนุ่มจะมุ่งเดินเข้าบ้าน ดันสะดุดกับหญิงสาวใบหน้าสวย ร่างอรชรในชุดเดรสสีแดงใส่สายเดี่ยวเผยผิวขาว ยิ่งแสงแดดอ่อนกระทบยิ่งเพิ่มออร่าความสวยงาม กำลังก้มๆเงยๆเก็บดอกไม้ตรงสวน ด้วยนิสัยคาสโนว่าจึงอมยิ้มหยุดมอง"มึงเห็นแบบกูไหมว่ะ" ฮาเกนใช้ปลายรองเท้าหนังสะกิดเพื่อนรัก ไม่เชื่อว่าสถานที่หวงห้ามมีสตรีใบหน้าสวย แถมเธอยังดูอ่อนกว่าเขาอีกหลายปี"ไอเชี้ย!นางฟ้าชัดๆ" เอเดนยกมือลูบคางสากดั่งราชสีห์เห็นเ
@ บนเรือท่ามกลางบรรยากาศบนเรือลำใหญ่กำลังแล่นบนแม่น้ำยามค่ำคืน มีแสงไฟสีเหลืองนวลสอดส่องสองข้างทาง เปิดเพลงบรรเลงคลอเบาๆ ชวนผู้คนรื่นรมย์ผ่อนคลาย"เอากุ้งไปยัยโม" มาร์แชลล์ใช้ช้อนกับส้อมตักกุ้งตัวใหญ่ใส่จานให้น้องสาวที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามกับอองตวน ปล่อยมารดานั่งข้างบุตรสาว เพราะทั้งสองชอบสนใจแต่เรื่องกิน บนโต๊ะมีอาหารมากมายโดยเน้นฝีมือของเชฟโรงแรมดัง"แล้วก็ว่าน้องอ้วน" น้ำเสียงหวานตอบ แกล้งยู้หน้าสวยให้มารดาหมั่นเขี้ยว แม้ว่ามือจับช้อนส้อมจิ้มชิ้นเนื้อกุ้งใส่ปากรับประทาน ฉีกยิ้มหวานกว้างบามลิ้มรสอาหารสดถูกปาก"แต่เราว่าโมอ้วนขึ้นจริงๆนะ" อองตวนเอ่ยแซวเสริม ขณะหั่นสเต็กเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ ตามด้วยถือถ้วยซอสราดเติมนิดหน่อย"ตามวัยดีกว่าอองตวน คนมันกำลังโต" หญิงสาวแกล้งตามหลักวิชา ที่สรีระร่างกายย่อมเปลี่ยนตามวัย พอชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามจิ้มชิ้นเนื้อเตรียมป้อนแบบเมื่อก่อน เธอย่อมไม่ขัดให้เสียน้ำใจ ค่อยๆโน้มลำตัวบอบบางไปเตรียมอ้าปากกว้างฟิ้ว~~"เอ้ย..เปลื้อนเลย มาเราเช็ดให้" ก่อนที่โมอาจะได้ชิมดันมีสายลมพัดทำผมสลวยปลิวฟลุ้ง แถมเปลื้อนน้ำซอสราดสเต็ก อองตวนรีบหยิบทิชชู่เอื้อมไปหมายจะทำความสะ
@ บ้านซิลค์"ว๊ายยยย" คนตัวเล็กถึงกลับหลุดร้องเสียงตกใจ ไม่คิดว่าซิลค์จะกลับมาก่อนเวลา พุ่งเข้ามาในห้องส่วนตัวแถมยืนแทรกตรงกลางตู้เสื้อผ้า ขณะร่างอรชรสวมเพียงบาร์เซียและเพนตี้ตัวบาง โชว์สัดส่วนโค้งเว้าล่อแหลม เธออุตส่าห์เลือกช่วงที่มารดาเผลอหวังเปลี่ยนชุดสวยๆใส่ ไปล่องเรือดื่มดำบรรยากาศกลางแม่น้ำ"คน!" น้ำเสียงเข้มจริงจังบอก วางฝ่ามือประคองแผ่นหลังบางดันประชิดลำตัวกำยำ โดยเขาหันเลือกเครื่องแต่งกายเอง"แล้วคุณจะเข้ามาทำไมเล่า" พอจะพยามคว้าเอาชุดคลุมใส่ปกปิด ก็โดนคนตัวสูงแกล้งยืนบัง ปล่อยสองเต้าอวบถูไถแผงอกกว้าง ทำโมอาลอบสูดดมกลิ่นน้ำหอมชายสู้กับอาการวาบหวิบตรงยอดประทุมถัน"ไม่บอกก่อนล่ะว่ามีผู้ชายคนอื่นไปด้วย" ซิลค์ยังค้างมือจับราวแขวนเสื้อผ้า ใช้ร่างกายดันคนตัวเล็กชิดด้านใน ก้มลงประทับรอยจูบบนไหล่มน"อื้อ...นะหนูรีบ" ชายหนุ่มกลับกลั่นแกล้งด้วยการไล่ขยับปลายจมูกใหญ่คลอเคลียซอกคอระหง แล้วเหมือนมีช่วงจังหวะนึง ขบเม้มปากใส่ผิวขาวละเอียด พอได้ร่องรอยพอใจ ถึงยอมขยับออกอย่างเสียดาย เธอไม่เข้าใจความหมายของคนตัวสูงบอกสักเท่าไหร่ คนอื่นที่ว่าคงเป็นกลุ่มองครักษ์เองหรือเปล่า ไม่แปลกหากเขาไม่เค