Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 4 คืนสัญญาแห่งความทรงจำ

Share

ตอนที่ 4 คืนสัญญาแห่งความทรงจำ

หญิงสาวหันมามองเขาอีกครั้ง ดวงตาของเธอจับจ้องเอรอสด้วยความนิ่งสงบ แต่แฝงความลึกลับบางอย่าง

“ชะตากรรม... นำคุณมาที่นี่” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความหมายที่เขายังไม่เข้าใจ

เอรอสขมวดคิ้วเล็กน้อย ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

“ชะตากรรม? คุณหมายความว่ายังไง... ผมเคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ?”

หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ ราวกับจะบอกว่าเธอเองก็ไม่ได้มีคำตอบที่ชัดเจน

“ฉันไม่รู้... แค่รู้สึกได้ว่าคุณกับที่นี่... มีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงกันอยู่ คุณไม่ได้เข้ามาโดยบังเอิญหรอก”

เอรอสสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างในใจของเขา เขามองไปรอบๆ ก่อนจะหันกลับมาหาเธอ

“แล้วทำไมคุณถึงปล่อยให้ผมอยู่ต่อ?”เขาถามน้ำเสียงยังคงระวังตัว แต่ความสงสัยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

เธอยิ้มบางๆ ราวกับกำลังชั่งใจ

“ฉันเองก็อยากรู้... ว่าทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ บางทีสิ่งที่คุณกำลังตามหา... อาจอยู่ที่นี่ก็ได้” เธอพูดพลางมองไปรอบๆสถานที่แห่งนี้ มันดูเก่าแก่ และ ลึกลับ ราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

เอรอสพยักหน้าเบาๆ แม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าที่นี่มีความหมายบางอย่างมากกว่าที่ตาเห็น

“งั้นผมขอสำรวจดูหน่อย เผื่อจะเจออะไรบางอย่าง”

เธอมองตามเขา ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ตามสบายเลย... บางทีคำตอบที่คุณต้องการ อาจจะรออยู่ไม่ไกล”

เอรอสสูดหายใจลึก ก่อนจะก้าวออกไปจากศาลา ความเงียบรอบตัวทำให้ทุกย่างก้าวของเขาดูชัดเจนยิ่งขึ้น ในบรรดาสิ่งที่เห็น ต้นไม้ใหญ่เพียงต้นเดียวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ดึงดูดสายตาเขาอย่างประหลาด มันเหมือนกับมีพลังบางอย่างที่เชื้อเชิญเขาเข้าไปใกล้ ราวกับมันกำลังรอคอยให้เขามาพบ

หญิงสาวเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาเธอแฝงไปด้วยความสงบนิ่ง ทว่าแฝงความรู้ลึกซึ้งที่ไม่มีใครล่วงรู้

เมื่อเอรอสเดินเข้าใกล้ต้นไม้นั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดก็ทวีขึ้นในใจของเขา ลมหายใจของเขาหยุดชะงักไปชั่วครู่ ราวกับทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่งลง เขาเอื้อมมือไปแตะที่ลำต้น สัมผัสหยาบกร้านของมันส่งแรงสั่นสะเทือนบางอย่างเข้าไปในตัวเขา ความรู้สึกคุ้นเคยที่ยากจะอธิบายได้ทำให้เขาสับสน

"มันรู้สึก... คุ้นเคย" เอรอสพึมพำกับตัวเอง

“ต้นไม้นี่…” เขาหันกลับไปถามหญิงสาว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย "มันมีความหมายอะไรหรือเปล่า?"

หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ มองต้นไม้ใหญ่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันยาวนาน“มันเป็นแค่ต้นไม้ธรรมดา แต่ว่า” เธอตอบด้วยเสียงเบา แต่ชัดเจน

“บางคนบอกว่ามันคือผู้พิทักษ์ของสถานที่แห่งนี้ บางคนก็ว่า... มันเก็บเรื่องราวของผู้คนในอดีตเอาไว้”

เอรอสขมวดคิ้วเล็กน้อย หันกลับมามองต้นไม้อีกครั้ง ความรู้สึกคุ้นเคยนั้นยิ่งเพิ่มขึ้นเหมือนมันรู้จักตัวเขา

“ผมรู้สึกเหมือน... มันรู้จักผม” เขาเอ่ยออกมาเสียงเบา สายตาจับจ้องไปที่ลำต้นสูงตระหง่าน ราวกับต้นไม้มีชีวิตและกำลังมองตอบเขา

หญิงสาวยิ้มบางๆแต่ไม่พูดอะไร ปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมพวกเขา ทั้งคู่ยืนนิ่งท่ามกลางบรรยากาศลึกลับ ราวกับมีบางสิ่งรอคอยการค้นพบ

เอรอสก้าวเข้าไปใกล้ต้นไม้ใหญ่ทีละนิด ความรู้สึกแปลกประหลาดเริ่มกัดกินหัวใจ ทุกย่างก้าวทำให้ความทรงจำเก่าๆ ที่เลือนรางค่อยๆ ชัดเจนขึ้น จนกระทั่งเขาหยุดอยู่เบื้องหน้าต้นไม้นั้น ลำต้นสูงตระหง่าน กิ่งก้านแผ่ขยายออกเหมือนโอบกอดอดีต แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านใบไม้ส่องประกายราวกับความหวังที่ซ่อนอยู่ในเงามืด

ภาพเด็กสาวสองคนเริ่มปรากฏในหัว เอรอสเห็นตัวเองในวัยเด็ก วิ่งเล่นรอบต้นไม้ใหญ่กับพวกเธอ เสียงหัวเราะของพวกเขาก้องอยู่ใต้ท้องฟ้าอันอบอุ่น เด็กสาวผมสีเงินกำสมุดวาดภาพไว้แน่น ขณะที่เด็กสาวผมสีทองเปิดกล่องดินสอสี พวกเขาหยุดนั่งลงที่พื้นหญ้า แล้วเริ่มวาดรูปอย่างสนุกสนาน

“มาวาดรูปกัน!” เด็กสาวผมสีเงินพูดอย่างตื่นเต้น เธอเปิดสมุดขึ้นแล้วเริ่มวาดทันที เสียงหัวเราะของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วขณะที่ทุกคนมุ่งมั่นวาดภาพของตัวเองใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่

ขณะที่วาดรูป เด็กสาวผมสีเงินก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงที่หนักแน่น

“รู้ไหม? มีตำนานเล่าว่าถ้าเราขอพรจากต้นไม้นี้ คำขอของเราจะเป็นจริง”

เด็กสาวผมสีทองหันมามองด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

“จริงเหรอ? งั้นฉันจะขอให้ตัวเองแข็งแกร่ง จะได้ปกป้องทุกคนที่อ่อนแอ!”

เด็กสาวผมสีเงินยิ้มกว้าง ยืนขึ้นแล้วตะโกนอย่างมั่นใจ

“ส่วนฉัน! ฉันจะขอให้โลกนี้สงบสุข ไม่มีใครต้องเจ็บปวดอีก!”

เอรอสในวัยเด็กได้แต่ยิ้ม ก่อนจะพูดออกมาอย่างจริงใจ

“ฉันขอให้คำขอของพวกเธอเป็นจริง”

เด็กสาวผมสีทองหันมาทำหน้านิ่วเล็กน้อย เอ่ยต่อว่าเขาด้วยเสียงน้อยใจ

“ขออะไรที่เป็นของตัวเองสิ!”

เอรอสหัวเราะเบาๆ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่มั่นคง

“นี่แหละความปรารถนาของฉัน ต่อให้ต้นไม้ไม่ช่วย แต่ฉันจะช่วยพวกเธอเอง”

เด็กสาวทั้งสองยิ้มออกมา เสียงหัวเราะของพวกเขายังคงดังก้องไปทั่วเมื่อพวกเขาลุกขึ้นและเริ่มวิ่งเล่นกันต่อ

พวกเขาหยุดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่เด็กสาวผมสีเงินจะหยิบสมุดวาดภาพออกมาอีกครั้ง และเริ่มเก็บมันลงในกล่องไม้ พวกเขาช่วยกันฝังสมุดนั้นไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เด็กสาวผมสีเงินหันมามองพวกเขาอย่างตั้งใจ

“เราจะกลับมาที่นี่ด้วยกันอีกใช่ไหม?” เธอถามอย่างจริงจัง

“แน่นอน!” เอรอสพูดพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่ว่าเราจะห่างกันแค่ไหน พวกเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง... ด้วยกัน”

เด็กสาวผมสีทองพยักหน้า ยิ้มกว้างพร้อมกับจับมือทั้งสองแน่น ความฝันและคำสัญญาของพวกเขาผูกพันไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่นี้

ภาพความทรงจำอันแสนอบอุ่นพลันกลายเป็นความเจ็บปวด เอรอสในปัจจุบันรู้สึกถึงน้ำหนักของอดีตที่เขาไม่อาจหนีจากได้ เขาพยายามนึกถึงใบหน้าของเด็กสาวผมสีเงิน แต่กลับจำไม่ได้ ภาพใบหน้าของเธอเริ่มเลือนลาง มีเพียงเส้นผมสีเงินที่ยังชัดเจน ราวกับสะท้อนแสงอาทิตย์เอาไว้

“ทำไมผมถึงจำเธอไม่ได้...” เอรอสพึมพำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาจ้องมองต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า ความเศร้าและเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ

หญิงสาวที่ยืนอยู่ห่างออกไปเฝ้ามองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง แต่แฝงความเข้าใจลึกซึ้ง เธอไม่ได้พูดอะไร ราวกับรอให้เอรอสค้นพบคำตอบด้วยตัวเอง

เอรอสยืนนิ่ง หัวใจหนักอึ้ง ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยงดงามกลายเป็นภาพลางๆ ที่เขาไม่อาจสัมผัสได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป เสียงลมหายใจของเขาแผ่วเบา ราวกับว่าความหวังและความฝันที่เคยมีได้ถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจลบล้างได้

“ผมจะไม่ลืมอีก...และครั้งนี้ ผมจะทำตามคำสัญญานั้นให้ได้” เอรอสกล่าวเบาๆ สูดหายใจเข้าลึก

ทันใดนั้น สร้อยคอของเขาส่องแสงระยิบระยับอย่างแรง มานาในอากาศรอบตัวเริ่มสั่นไหว แสงแดดที่เคยอบอุ่นพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม บรรยากาศรอบต้นไม้บิดเบี้ยวราวกับโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป

“เกิดอะไรขึ้น...” เอรอสพึมพำ เสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและระแวง สัญชาตญาณของเขารับรู้ถึงบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status