Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 4 ปลายทางของอุดมคติ

Share

ตอนที่ 4 ปลายทางของอุดมคติ

Author: Abyssgloom
last update Last Updated: 2024-10-28 23:05:49

ชายหนุ่มก้าวเข้าสู่ห้องทำงานในแผนกสืบสวน แสงอ่อนจากหน้าต่างสูงเพียงจุดเดียวพาดลงบนพื้นไม้เย็น เงาทอดยาวไปบนความว่างเปล่ารอบตัว เขากวาดสายตามองรอบห้อง—โต๊ะเก้าอี้จัดเรียงอย่างเรียบร้อยแต่ไร้ชีวิต ราวกับมีเขาคนเดียวที่มาที่นี้

สายตาเหล่มองนาฬิกาบนฝาผนัง ก่อนจะพึมพำเบาๆ “เรียกมาตั้งแต่เช้า แต่ไม่เห็นโผล่หัวออกมาสักตัว อะไรกันว่ะเนี่ย?” เสียงสะท้อนกลับมากระทบห้องว่างเปล่า

มือเอื้อมหยิบลูกบอลแสงสีทองจากกระเป๋าหนัง มันเปล่งแสงสลัวคล้ายจันทร์คืนมืด ก่อนจะถูกวางลงบนแท่นเล็กที่โต๊ะ สัญญาณแสงสีฟ้ากะพริบขึ้นช้าๆ เป็นจังหวะบอกว่าการรายงานตัวเสร็จสมบูรณ์ แต่ความเงียบยังคงปกคลุมทั่วบริเวณโดยรอบ

ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนเดินไปตามทางเดินเล็กมุมห้องที่นำไปสู่ห้องทำงานส่วนตัว ห้องนั้นเล็ก และ อับแต่สงบ โต๊ะไม้เก่าเต็มไปด้วยฝุ่นและกองเอกสารที่วางกองกันอยู่ มุมหนึ่งยังมีปากกาดินสอที่เริ่มกร่อนตามกาลเวลา บ่งบอกถึงการถูกทิ้งร้าง

เขาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้เสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แขนกอดอกแน่น สายตาจ้องเอกสารบนโต๊ะที่ดูเหมือนถูกจัดเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ ภายในรายงานคือข้อมูลการหายตัวไปของจอมเวทย์หนุ่มสาวจากตระกูลขุนนาง ทุกคนถูกพบในภายหลัง 1-2 สัปดาห์ หลังจากที่หายตัวไป โดยพวกเขาทั้งหมดจะไร้ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ราวกับถูกลบออกจากความคิด

หลังอ่านคร่าวๆ คิ้วเริ่มขมวด เขาไล่สายตาผ่านข้อมูลที่เหมือนจะบอกบางอย่าง แต่กลับเว้นจุดสำคัญไว้เหมือนมีเจตนาแอบแผง กระดาษแผ่นถัดไปไม่มีคำใดจารึกไว้ ราวกับมันกำลังรอให้ใครมาเขียนคำตอบเอง

“จริงจังใช่ไหมเนี่ย?…ให้มาแค่เนี่ย?” เสียงพึมพำหลุดออกมา สายตาจ้องชื่อเหยื่อพลางครุ่นคิด ทำไมเป้าหมายมักเป็นลูกหลานขุนนาง? นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

มือเขาค่อยๆ ไล่ดูเอกสารทีละหน้า ทุกหน้ามีเพียงข้อความลึกลับ รายชื่อ และข้อมูลที่เชื่อมโยงกันอย่างหลวมๆ เขาจดบันทึกลงสมุดเล็ก เพิ่มสัญลักษณ์เตือนใจให้กลับมาตรวจสอบ

“อย่างน้อยก็ต้องหาวิธีที่ทำให้พวกเขาหายไปได้ยังไงก่อน” เขาพึมพำเสียงเบา ขณะจ้องเอกสารในมือพลางไล่อ่านซ้ำอีกครั้ง

แต่ในจังหวะที่สายตาเลื่อนผ่านตัวอักษร ความรู้สึกแปลกประหลาดก็พลันเกิดขึ้น มุมหนึ่งที่กระดาษบดบัง เขาเห็นเงาจางๆ ของเด็กสามคนกำลังยืนมองอยู่ ร่างเหล่านั้นดูสลัวและสว่างไสวในคราวเดียวกัน ราวกับไม่มีตัวตนอยู่จริง

เขาเคยเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า ปรากฏการณ์ภาพหลอนของความทรงจำ เงาเหล่านี้เป็นผลพวงจากมานาแปลกปลอมที่ติดตามเขามาตั้งแต่วันที่ฟื้นคืนสติ เงาเหล่านั้นพูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ แต่เหมือนว่าพวกมันจะเคลื่อนไหวตามเจตจำนงของเขาเอง และบ่อยครั้งพวกมันก็ช่วยนำทางหรือชี้เบาะแสในคดีต่างๆ

เขามองพวกมันเงียบๆ ร่างแรกเป็นเด็กชายในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงขายาว เหมือนเขาในวัยเด็ก ข้างๆกันคือเงาของเด็กหญิงสองคน ร่างหนึ่งดูเหมือนเอเลน่าในวัยเด็ก แต่ชุดเดรสสีขาวเรียบง่ายที่เธอสวมกลับแตกต่างจากเครื่องแต่งกายหรูหราที่เคยเห็นในอดีต

ส่วนเงาสุดท้ายเป็นเด็กสาวผมสีขาวยาว ในเดรสลูกไม้สีดำ แม้ใบหน้าของเธอจะพร่ามัวจนจับไม่ได้ แต่เธอกลับดูคุ้นเคยอย่างประหลาด ราวกับเป็นความทรงจำที่หลบซ่อนในมุมมืดของจิตใจ ร่างนั้นเลือนรางเหมือนภาพที่ไม่สมบูรณ์กว่าทั้งสองเงา

โดยปกติ เขามักจะเห็นเพียงร่างของตัวเองในวัยเด็ก และ ของเพื่อนสมัยเด็กเท่านั้น เงาของเด็กสาวปริศนานั้นนานๆ ทีจะปรากฏ บางครั้งก็หายไปนานเป็นปีจนเขาแทบลืม แต่ในยามที่เธอปรากฏตัว มักจะเกิดเรื่องแปลกๆที่อธิบายไม่ได้อยู่เสมอ

ในตอนที่เขาตั้งใจจะอ่านเอกสารต่อ เงาของเด็กสาวในเดรสลูกไม้สีดำดูเหมือนจะขยับเล็กน้อยจากมุมสายตา เมื่อเขาหันไปมอง เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แม้เขาจะมองไม่เห็นใบหน้า แต่เขาสัมผัสได้ว่าร่างเล็กๆ นั้นกำลังแอบยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก รอยยิ้มบางเบานั้นราวกับส่งผ่านความลึกลับบางอย่างที่ยังรอการไขคำตอบ

ชายหนุ่มมองมันเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะเมินเฉย ล่ะสายตาไปจากมัน หลังจากไล่อ่านเอกสารต่อสักพัก เสียงของคนข้างนอกเริ่มดังขึ้น ดูเหมือนมีคนทยอยกันเข้างานมาแล้ว

เขาเหลือบมองนาฬิกาตั้งโต๊ะ เสียงเข็มวินาทีดังก้องในห้องเงียบสงัด เข็มชี้บอกเวลา 9 โมงเช้าพอดี อีกหนึ่งชั่วโมงกว่าคนอื่นจะมา แต่สำหรับเขา ดูเหมือนเวลาจะไม่มากพอเสียแล้ว ภารกิจที่รออยู่เบื้องหน้าไม่มีที่ว่างให้ความล่าช้า

สายตาของเขาเลื่อนมองไปยังลิ้นชักโต๊ะอย่างลังเล ก่อนจะเอื้อมมือเปิดมันออก ด้านในมีนาฬิกาพกสีเงินวางเรียงอยู่ห้าเรือน ถูกบรรจุในซองใสอย่างประณีต แสงสะท้อนจากนาฬิกาเหล่านั้นคล้ายจะสะท้อนความทรงจำในอดีต

มันคือของขวัญที่เขาตั้งใจจะมอบให้เด็กฝึกงานทั้งห้าคนที่เขาดูแลอยู่ เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลใครสักคน และสองปีที่ผ่านมาได้เปลี่ยนความรู้สึกของเขาอย่างสิ้นเชิง

เขายังจำได้ถึงวันแรกที่พวกเราพบกันได้อย่างชัดเจน เด็กฝึกงานมองเขาด้วยความลังเล แฝงไปด้วยความไม่เชื่อใจ แต่ในวันที่พวกเขาส่งยิ้มกว้างเมื่อแก้ไขคดีสำเร็จด้วยตัวเอง ความมุ่งมั่นในแววตาของพวกเขาเหมือนสะท้อนถึงตัวเขาในอดีต พวกเขาจึงกลายเป็นเหมือนเพื่อนที่ชายหนุ่มสามารถไว้ใจ และ ฝากฝังงานบางอย่างได้ แม้ว่าเขาจะพยายามรักษาระยะห่างอยู่เสมอ เพราะความลับเกี่ยวกับพลังของเขาก็ตาม

ชายหนุ่มหยิบหนึ่งในนาฬิกาพกขึ้นมา ค่อยๆ หมุนมันในมืออย่างระมัดระวัง ด้านหลังสลักตัวอักษรเล็กๆ เป็นชื่อของอนาคตเจ้าของมันเอาไว้—เครื่องหมายแห่งความทรงจำ และ มิตรภาพตลอดสองปีที่ผ่านมา เขามองมันครู่หนึ่ง ก่อนจะซ่อนมันเอาไว้ในลิ้นชัก พร้อมกับปิดมันอย่างเบามือ

“อีกสองสัปดาห์… หลังจากการฝึกงานของพวกเขาจบ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกเดินทาง” เสียงของเขาแผ่วเบาเหมือนกำลังคุยกับตัวเอง รอยยิ้มจางๆ แต่แฝงความเศร้าไล้บนใบหน้า

เขามีแผนอยู่ในใจ แผนที่จะออกเดินทางไปนอกทวีป เพื่อตามหารุ่นพี่ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาใช้เวลาหลายปีค้นหาไปทั่วทั้งทวีป แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยความว่างเปล่า

ครั้งนี้ เขาจะก้าวออกไปไกลกว่านั้น ออกจากกิลด์ ออกจากทวีป ราวกับจะละทิ้งทุกอย่างเพื่อคำตอบที่อาจไม่มีวันพบ และ ในตอนที่เขา และ เธอกลับมา…….จะเป็นวันที่พวกเราทั้งสองจะเปลี่ยนแปลงเมืองนี้อีกครั้ง

เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมก่อนจะหันมองรอบห้อง สุดท้ายก็เดินออกจากห้องไป เสียงฝีเท้าก้าวออกไปอย่างมั่นคง เงาเด็กทั้งสามก้าวตามหลังเขาอย่างเงียบงัน แสงแดดที่เล็ดลอดผ่านหน้าต่างทอดเงาของพวกเขาไว้เบื้องหลัง ราวกับทิ้งอดีตที่ไม่อาจลบเลือนไว้กับห้องแห่งนี้

Related chapters

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 5 เมื่อหมอกทับซ้อนความจริง

    เอรอสเดินงัวเงียผ่านซอกซอยในย่านเมืองหลวง หลังจากที่ไปพบกับกลุ่มผู้เสียหายที่เพิ่งถูกพบตัวไม่นาน หลายคนให้ความร่วมมือกับเขาด้วยท่าทางอ่อนล้า เหมือนยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้เต็มที่ บางคนแม้จะมองเห็นเขาอยู่ตรงหน้า แต่ก็เหมือนสายตาล่องลอยออกไปที่อื่นขณะที่เอรอสคุยกับพวกเขา เขาสังเกตได้ว่าความทรงจำที่ขาดหายไปนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ช่วงเวลาที่พวกเขาหายตัวไปเท่านั้น แต่ยังมีบางส่วนของเหตุการณ์ก่อนการหายตัวที่ดูเหมือนจะถูกลบออกไปด้วย ผู้เสียหายแต่ละคนต่างจำเหตุการณ์หรือสถานการณ์ก่อนหน้าของตัวเองได้เพียงลางๆ ราวกับว่ามีบางสิ่งที่ทำให้พวกเขาสูญเสียช่วงเวลาสำคัญของตัวเองไปแม้ว่าการสอบปากคำจะไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ๆ ที่สำคัญ แต่เอรอสยังพอจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง—ร่องรอยของมานาที่ดูแปลกประหลาด แผ่กระจายอำนาจและพลังที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของโลก ในนั้นมีความรู้สึกอันรุนแรงบางอย่างที่เขาสัมผัสได้ชัดเจน ราวกับเป็นอำนาจที่สามารถหักล้างทุกกฎที่เคยรู้จักหนึ่งในตัวตนที่เขานึกถึงก็คือแม่มด ผู้ที่ลือกันว่าเป็นผู้เดียวที่มีพลังสามารถดัดแปลงและฝืนกฏเกณฑ์ของโลกได้ เอรอสจดบันทึกข้อมูลนี้ไว้ในใจ พลางเดินเปร

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 6 ผู้เฝ้าแห่งโดม

    เสียงบางอย่างแว่วมาแต่ไกล ราวกับคลื่นทะเลกระทบชายฝั่ง มันไม่ใช่เสียงที่คุ้นเคย แต่กลับปลอบโยนอย่างน่าประหลาด สติของเขาค่อยๆ ฟื้นขึ้นจากความมืดมิด ดวงตาที่พร่ามัวลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า เหมือนยังติดอยู่ในห้วงฝันที่ยาวนานเขาไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน แต่สิ่งที่สัมผัสได้ คือความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ร่างที่เคยเล็กและอ่อนแอกลับมาหนักแน่น นิ้วมือที่เคยเหมือนเด็กเล็กบัดนี้เรียวยาวและหยาบกร้าน รอยแผลที่คุ้นเคยปรากฏบนผิวอย่างชัดเจน มันเป็นหลักฐานของชีวิตที่เขาเคยมีเขาค่อยๆลุกขึ้นยืน ขาที่มั่นคงและร่างกายที่สมส่วน ทำให้เขารู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่หายไปนาน ชุดเสื้อโค้ทสีดำและกางเกงขายาวกลับคืนมาราวกับมันไม่เคยหายไปไหน ความคุ้นเคยที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับสัมผัสของเนื้อผ้า ทำให้เขารู้ว่าสิ่งนี้เป็นความจริง ไม่ใช่ภาพหลอน"เกิดอะไรขึ้น..." เขาพึมพำ เสียงแหบแห้งแต่หนักแน่นกว่าที่เคยเป็นเมื่อมองไปรอบตัว เขาเห็นเพียงหมอกดำหนาทึบที่ปกคลุมทุกสิ่ง แต่ในความมืดนั้น มีบางสิ่งดึงดูดสายตา โดมขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านกลางความมืด โครงสร้างสีขาวมุกสะท้อนแสงเลือนรางจากหมอก มันดูทั้งน่าค้นหาและน่าหวาดหวั่นในเวลาเดียวกันชาย

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 7 หัวใจต้องห้ามของจอมปราชญ์

    สายลมเย็นพัดผ่านศาลาหินกลางป่า หญิงสาวนั่งบนม้านั่งหิน ท่าทางสงบนิ่ง ข้างกายของเธอคือกรงนกเหล็กที่บรรจุหัวใจสีแดงสดเอาไว้ สายตาสีน้ำเงินเข้มของเธอจับจ้องผู้มาเยือนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับกดดันราวกับถูกตรวจสอบจากดวงตานับพันมวลมานาอันเข้มข้นปกคลุมทั่วบริเวณ พลังเวทย์ที่แฝงความกดดันจนทำให้รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกในกระดูก"นายเข้ามาได้ยังไง?" เธอเอ่ยถามเสียงเรียบ ดวงตาไม่ละไปจากเขา "ยังไม่ถึงเวลาทดสอบเลย...ทำไมถึงเข้ามาที่นี้ได้?"คำพูดนั้นทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ยังคงเลือกที่จะเงียบ เธอยิ้มบางๆ ก่อนพูดต่อ"ถ้านายไม่อยากตอบ ฉันจะไม่บังคับ" เธอเอนตัวพิงพนักม้านั่ง "ดูเหมือนนายจะสงสัยว่าที่นี้คืออะไร….เห็นแก่ความกล้านั้นของนาย ฉันจะยอมให้ถามก่อนก็ได้"หลังจากครุ่นคิด เขาเอ่ยคำถามขึ้น "การทดสอบที่ว่าคืออะไร?"เธอหัวเราะเบาๆ ราวกับพบเรื่องที่น่าสนใจ "นายเข้ามาโดยที่ไม่รู้อะไรเลยงั้นเหรอ?"สายตาของเธอกวาดมองเขา ก่อนหยุดนิ่งอย่างครุ่นคิด "น่าสนใจ... ในตัวนายไม่มีร่องรอยพลังเวทย์หลงเหลืออยู่เลย… ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีอยู่แท้ๆ"น้ำเสียงราบเรียบแฝงความกดดันของเธอทำให้บรรยากาศ

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 8 ในเงามืดแห่งความสงสัย

    "น่าสนใจใช่ไหม?" หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง เธอมองเขาอย่างพึงพอใจ "แต่ล่ะคนก็มีแนวทาง และ วิธีรับมือต่างกันไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถเข้ากับมันได้"เธอสบัดมือ คริสตัลที่รายล้อมหายไปในพริบตา พื้นดินที่เคยถูกกดทับกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรอยู่ตรงนั้น กลิ่นหอมจางๆของหญ้าสดโชยขึ้นมาจากบริเวณที่โดนกดทับ พร้อมกับมานาที่ซึมลงดินอย่างแผ่วเบา ราวกับมันพยายามทำให้พื้นที่นั้นกลับมาเหมือนเดิมเขามองสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงระวังตัว "พวกเขาสมัครใจรับการทดสอบเองงั้นหรอ?"หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบเรียบๆ “แน่นอนอยู่แล้ว ทุกคนที่มาที่นี้ต่างก็สมัครใจรับการทดสอบ”ก่อนจะพูดปิดท้ายอย่างเย้ยหยัน"มีแค่นายเท่านั้นแหละทีี่ไม่รู้อะไรเหมือนคนอื่น"ก่อนจะยักไหล่น้อยๆตอบ น้ำเสียงดูเหมือนจะไม่ใส่ใจนัก"เอาเถอะ ครั้งนี้การทดสอบมันยากเกินไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครได้มันไปอยู่แล้ว"คำว่า "ครั้งนี้" ทำให้เขาสะดุด ใจเขาเริ่มตั้งคำถาม—แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ?เขาจ้องเธออีกครั้ง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย "แล้วของรางวัลก่อนหน้านี้ล่ะ?"หญิงสาวไม่ตอบในทันที เธอเพียงยิ้มบางๆ ก่อนส่ายหัวช้

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 9 รอยขีดแห่งอดีต

    ศาลาหินกลางสวนที่ล้อมรอบด้วยพุ่มไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกสงบ ราวกับหยุดเวลาเอาไว้ เสียงลมพัดแผ่วเบา แทรกซึมผ่านบรรยากาศที่เงียบงันเขาหยุดพูดไปชั่วครู่หลังจากเอ่ยปากว่าจะเล่าเรื่อง ดวงตาสีเทาหม่นทอดต่ำ ราวกับกำลังพยายามจับเศษเสี้ยวของความทรงจำที่กระจัดกระจาย“จริงๆ แล้ว… ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” น้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นเจืออารมณ์บางอย่างที่ซ่อนลึก“ที่นี่… มันให้ความรู้สึกแปลกๆ เหมือนว่าฉันเคยมาที่นี่ แต่กลับจำอะไรไม่ได้”หญิงสาวมองด้วยความสนใจ ดวงตาสีน้ำเงินเปล่งประกายอยากรู้อยากเห็น“แล้วอะไรที่ทำให้นายมั่นใจว่าเคยมาที่นี่?”ไม่มีคำตอบในทันที สายตาเลื่อนลอยกวาดมองรอบๆ ก่อนจะหยุดที่เสาไม้ด้านหนึ่ง มือยื่นออกไปแตะรอยขีดสามเส้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนเกิดจากการแกะสลัก นิ้วลูบเบาๆบนพื้นผิวหยาบกร้าน สีหน้าฉายแววบางอย่างที่ยากจะอธิบาย“นี่คือ...” เขาพึมพำอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ ก้มมองรอยขีดด้วยความสงสัย“นี่อะไร?”“ที่ๆเราเคยใช้วัดส่วนสูงด้วยกัน ตอนนั้นเรามีกันสามคน…” เสียงแผ่วเบาดังขึ้น ร่องรอยความทรงจำเลือนลางเหมือนจะกลับมาชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่ปลายนิ้วสัมผัสรอยขีดนั้น“ใครคือ ‘เรา’?” อีกฝ่ายถามด้วยคว

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 10 มรดกแห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

    สายลมที่พัดผ่านต้นไม้ใหญ่นั้นแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่กลับนำพาบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า—กลิ่นอายของอดีตที่หวนคืนมาในทุกลมหายใจชายหนุ่มพลิกสมุดภาพในมืออย่างแผ่วเบา ทุกหน้ากระดาษเหมือนพาเขาดำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำ ภาพเลือนรางที่เคยจางหายกลับชัดเจนขึ้น เสียงหัวเราะในวัยเยาว์สะท้อนขึ้นมาในใจ คำสัญญาที่หลงลืมกลับมาก่อตัวอีกครั้ง ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อยหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันมามองเขาด้วยสายตาสงสัย “เกิดอะไรขึ้น...” เธอเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อสายลมรอบๆ ต้นไม้เริ่มพัดไหวเบาๆ ราวกับกำลังแหวกม่านบางๆ เผยให้เห็นบางสิ่งที่อยู่อีกฟากของเวลาและแล้ว...ภาพในสมุดภาพก็เหมือนจะก้าวข้ามหน้ากระดาษเบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นภาพลวงตาที่ไม่อาจอธิบายได้ เด็กชายในชุดเรียบง่ายปรากฏตัวพร้อมเด็กสาวสองคน พวกเขาหัวเราะสดใสราวกับไม่ได้รับรู้ถึงสายตาของผู้ชมจากอนาคต ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนมองผ่านหน้าต่างแห่งเวลาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มมองภาพเหล่านั้นอย่างตกตะลึง “นี่มัน...” เธออ้าปากค้าง แต่เสียงของเธอกลับถูกกลืนหายไปกับเสียงหัวเราะ

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 11 การรอคอยในความเงียบสงบ

    เวลา 2 ทุ่ม ลมหนาวจากค่ำคืนพัดความหนาวเย็นเอื่อยๆมาแตะผิวเบาๆ ชวนให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงระเบียงยกผ้าคลุมไหล่ขึ้นห่มตัวแน่นขึ้น เธอทอดสายตามองบันไดหินที่ทอดยาวจากถนนเบื้องล่างขึ้นมาถึงหน้าห้องพัก ไม่มีเงาร่างของคนที่เธอเฝ้ารอเธอรอเขามาทั้งบ่าย ทั้งเย็น จนกระทั่งค่ำคืนนี้มาถึงอย่างเงียบงัน เพื่อจะมาขอความช่วยเหลือจากเขา ก่อนหน้านี้ เธอเคยส่งจดหมายไปแล้ว เนื้อความในนั้นสั้นแต่เร่งด่วน เป็นคำร้องขอให้ช่วยตามหาคู่หมั้นของเธอที่หายตัวไป ทว่าจดหมายนั้นกลับไร้คำตอบ กระทั่งเธอได้ยินข่าวมาว่าเขาออกเดินทางไปไกลเสียก่อนจดหมายนั้นจะไปถึงเสียอีกมันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เธอโล่งใจที่เขาไม่ได้ตั้งใจเมินเฉยต่อเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแย่กับความโล่งใจของตัวเอง เธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป ความรู้สึกผิดที่ไม่เคยเลือนหายจากใจและในเช้าวันนี้ เธอจึงตัดสินใจจะทำในสิ่งที่หลีกเลี่ยงมานาน เธอไปดักรอเขาที่ริมถนนสายเล็กๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เขามักใช้ประจำจนกระทั่งเธอเห็นเขาชายหนุ่มยืนอยู่ที่อีกฟากของถนน ร่างสูงในชุดทำงาน ใบหน้าของเขานิ่งเฉยจนแทบอ่านอารมณ์ไม่ได้ แต่แววตาของเขา—ดวงตาคู่นั้นเต็มไป

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 12 เงาในห้วงวิญญาณ

    ชายหนุ่มอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น สติเลือนรางขณะที่สายตาเหลือบมองรูโหว่บริเวณหน้าอกของตัวเอง แม้หัวใจจะหายไป แต่ร่างกายของเขากลับไม่ยอมพังทลาย มันกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยพลังบางอย่างที่ไม่อาจระบุได้ร่างของเขาลอยอยู่กลางอากาศ มวลมานาขนาดใหญ่แผ่กระจายโอบล้อมร่างที่กำลังถูกแทรกแซงจากจิตวิญญาณอีกดวงที่แฝงตัวอยู่ภายใน มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เฝ้ามองอีกต่อไป แต่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเองด้วยการพยายามครอบงำทุกส่วนของร่างกายเขาผิวสีขาวของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มในหลายจุด ผมที่ดำสนิทกระเซอะกระเซิง บัดนี้มีสีเทาแซมอย่างเด่นชัด ดวงตาข้างหนึ่งกลายเป็นสีแดงเข้ม บ่งบอกถึงการแผ่ขยายอิทธิพลของจิตวิญญาณแปลกปลอม แม้ว่าการครอบงำจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ร่องรอยของมันปรากฏชัดในทุกเส้นสายของร่างกายจิตวิญญาณที่แฝงอยู่พยายามอย่างสิ้นหวังที่จะฟื้นฟูรูโหว่บริเวณหน้าอก โดยการเปลี่ยนพลังงานที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้ฟื้นฟูหัวใจของเขาอย่างสิ้นหวัง แม้ว่ามันจะเป็นการพยายามที่สูญเปล่าก็ตามขณะเดียวกัน หญิงสาวผมดำ ดวงตาสีเงิน จับจ้องเขาด้วยความพึงพอใจปนความระแวดระวังเธอมองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่กำล

    Last Updated : 2024-10-28

Latest chapter

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 34 มรดกของจอมเวทย์สติเฟื่อง

    "นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย?" หญิงสาวถามขึ้น ขณะที่พวกเขาเลี้ยวเข้าตรอกซอยแคบๆแห่งหนึ่ง กลิ่นอายของความวุ่นวายในย่านนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น"ฉันไม่ได้พาเธอ เธอตามฉันมาเอง" ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าตอบเสียงห้วนๆ แต่ยังไม่หยุดเดิน เขาไม่แม้จะหันมามองด้วยซ้ำก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นคนที่พูดจานุ่มนวล สุภาพ และมีมารยาทเสมอเมื่ออยู่ใกล้เธอ แต่ทุกสิ่งที่เธอรู้จักเกี่ยวกับตัวเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อคมมีดหันมาจ่อที่ตาของเธอ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คืออาร์วินคนเดิมที่เธอเคยรู้จักแววตาของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้เลนส์แว่นสีน้ำตาลอมแดง เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เหมือนกับเด็กน้อยที่พึ่งออกจากบ้านเป็นครั้งแรก มันเป็นสายตาที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความแปลกใจอย่างชัดเจนเธอมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ในขณะที่เขาก้าวเดินอย่างชำนาญ แต่ทุกย่างก้าวกลับเต็มไปด้วยความระแวง เขามองไปรอบตัวเหมือนกับคนที่กำลังหลบหนี หรือไม่ก็เหมือนคนที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป เธอเริ่มสงสัยว่าเขากำลังกลัวอะไรอยู่ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาสูญเสียวงแหวนเวทมนตร์ไป ทำให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เลยต้องระวังตัวเป็นพิเศษหญิงสาวหยุดชะงักเมื่ออาร์วินหย

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 33 คนประหลาด

    ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปในแนวป่าจนถึงเขตเมือง กลิ่นอายของผู้คนเริ่มแตะจมูกของเธอที่แอบตามมาเงียบๆ เสียงพูดคุยและความเคลื่อนไหวของตลาดกลางคืนแว่วเข้ามา เธอหยุดอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบระหว่างร้านค้าเล็กๆ“ทำไมต้องแอบมาเข้าเมืองมาในเวลานี้ด้วย น่าสงสัยจริงๆ…” หญิงสาวคิดในใจ ก่อนปรับผ้าคลุมไหล่ให้กระชับและเริ่มตามเขาเข้าไปในตรอกที่ดูคับแคบและอับทึบ มีกลิ่นอับของความชื้นผสมกับกลิ่นไม้เก่าจากกำแพงร้านค้าหญิงสาวที่กวาดสายตาเหลือบมองไปรอบข้าง ก่อนที่จะเห็นเงาของเขาเลี้ยวหายเข้าไปในซอยเล็กๆ เธอเห็นดังนั้น จึบรีบเร่งก้าวตามโดยไม่ลดความระมัดระวัง แต่เมื่อพ้นมุมซอยเข้าไป ร่างสูงของชายหนุ่มก็พุ่งพรวดเข้ามามาจากมุมที่เขาเข้าไป ชายหนุ่มเคลื่อนตัวรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว เธอถูกผลักชนเข้าติดกับกำแพงผนังด้านหลัง“อึก—!” เสียงร้องสั้นกระชับของเธอดังขึ้นในความเงียบ คทาในมือถูกปัดกระเด็นไปด้วยแรงที่เหนือชั้น ตัวเธอแข็งทื่อเหมือนถูกแช่แข็ง ลมหายใจที่เคยสม่ำเสมอหยุดชะงักทันที ปลายมีดเย็นเฉียบจ่ออยู่ห่างจากดวงตาของเธอเพียงเส้นขน ความหวาดกลัวที่ท่วมท้นทำ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 32 ติดตาม

    หลังจากที่หญิงสาวหลับไป ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นไฟไหม้สองจุดในคืนเดียว—หนึ่งคือห้องของเขาเอง สถานที่ที่เคยอบอวลไปด้วยเงาของความทรงจำ ทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นชีวิตของเขาและเธอ หนังสือที่เคยวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ บัดนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน เฟอร์นิเจอร์ที่เขาเลือกเองถูกเผาผลาญจนไม่เหลือเค้าเดิม ทุกสิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวันคืนที่เคยมีร่วมกัน มอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวเพลิง ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก…มือขวาของเขากำแน่นจนข้อกระดูกปูดขึ้นมา เขาบีบมือจนเจ็บ แต่พยายามข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ แม้จะพยายามทำเช่นนั้น แววตากลับยังคงสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ภายใน เขาหายใจเข้าลึก พยายามประคองสติขณะที่ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวอีกแห่งคือโรงพยาบาลกลางเมือง... สถานที่ๆซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย หากต้องการลบตัวตนของเขาจริงๆ แค่เผาห้องพักก็เพียงพอ แต่ทำไมต้องเผาโรงพยาบาล?เรื่องมันใหญ่เกินไป… หรือทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตอนที่เกิดเรื่องกับเขาพอดี? แต่ถ้านี้เป็นแผนของใครบางคน แล้วพวกมันจะได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำเช่นนี้?ชายหนุ่มนั่งครุ่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 31 คำลวง

    ความกังวลในใจของเธอคลี่คลายลง แต่ก็ยังไม่หมดสิ้น ราวกับไม่สามารถสลัดคำถามนั้นออกจากหัวไปได้ ก่อนจะหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าอีกครั้ง“ฉันรู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะที่จะถามอะไรแบบนี้ ในตอนที่นายเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา…”เธอหยุดเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเขา แต่ชายหนุ่มยังคงนิ่ง เหมือนไม่มีความสับสนใดๆ“มันมีหลายเรื่องที่ฉันอยากจะถามนาย แต่…” เธอลดสายตาลงมองแก้วชาที่อุ่นในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “เรื่องที่สำคัญกว่านั้น—ฉันอยากรู้... นายได้รับอะไรจากการทดสอบนั้น?”ชายหนุ่มมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบอย่างอึดอัด"ขอโทษด้วย มันเป็นความลับเฉพาะฝ่ายนักเวทย์ ไม่สามารถบอกได้""ฉันรู้เกี่ยวกับการทดสอบนั้นแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าของรางวัลอาจจะเป็นชิ้นส่วนร่างกายของจอมปราชญ์ไรอัส นายไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก"เขาชะงักเล็กน้อย หยุดคิดไปชั่วขณะก่อนจะพูดออกมา"รู้มาจากไอริสสิน่ะ? เธอคนนั้นไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของฝ่ายอัศวิน กับ จอมเวทย์รึไง?""แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ารู้แล้ว?""ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นอะไร" เขาพูดเสียงต่ำ แล้วเขาก็ถอนหายใจ"ฟังแล้วก็อย่าไปบอกใครล่ะ แล้วก็ห้ามบอกด้วยว่าเธอรู้มาจากไอริ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 30 เขินอาย

    แสงแดดอ่อนในยามสายลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านสีขาว ลำแสงบางตกกระทบบนเตียงนุ่ม ส่งไออุ่นที่สัมผัสได้ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงนกร้องจากต้นไม้ไกลๆกลืนไปกับบรรยากาศเงียบสงบในห้อง เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ความอบอุ่นของผ้าห่มราวกับอยากกักเก็บเธอไว้ในห้วงความฝันจนเธอไม่อยากจะลุกออกจากเตียงเธอค่อยๆยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่จู่ๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ เมื่อสายตาเธอกวาดมองไปรอบห้องและสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มนั่งพิงหลับอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าสงบนิ่งภายใต้เงามืด เส้นผมสีทองของเขาสว่างไสวเมื่อต้องแสงที่ลอดเข้ามา เผยให้เห็นอีกด้านนึงที่เธอคุ้นเคย—ภายใต้ท่าทีเหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างก่อนหน้านี้ ทำให้เธอโล่งใจขึ้นเล็กน้อย “อาร์วิน...” เธอเรียกชื่อออกมาเบาๆเหมือนจะยืนยันการมีตัวตนอยู่ ก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนวูบวาบเมื่อพึ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองนอนอยู่บนเตียงของเขา“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย ขณะที่พยายามเรียกความทรงจำที่เลือนรางกลับคืนมาภาพเหตุการณ์เมื่อคืนผุดขึ้นในความทรงจำ จำได้ว่าเธอ และ เพื่อนพูดคุยเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องของรางวัลในการทดสอบที่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 29 ความสงบในรุ่งสาง

    ก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนชายที่เขาช่วยเหลือไว้สวมชุดแปลกๆราวกับมาจากอีกทวีป ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาว ภาษาที่ใช้ ก็ดูเหมือนจะถูกๆผิดๆแต่กลับเต็มไปด้วยสำบัดสำนวนมากมายราวกับจงใจชายคนนั้นอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เขาจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีของคนอื่นมาด้วยเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวันแทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยไปให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นศาสตร์ลับในดินแดนของตน หนังสือเล่มนี้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการปกปิด และ ซ่อนเร้น โดยใช้พลังที่ผสานระหว่างธรรมชาติและเจตจำนงในตอนแรก เขารับหนังสือเ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 28 ทายาทแห่งดาบ

    คลินิกตรงหน้าตั้งอยู่ห่างจากเขตใจกลางเมืองเล็กน้อย ตัวอาคารหินสีซีด ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยจำนวนนึงยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น ร่างสูงใหญ่ยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาตรงข้ามกับสถานที่ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท เป็นสถานที่ทำงานของเจ้าของสถานที่แห่งนั้น แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เมื่อแน่ใจแล้ว เขาดึงจดหมายจากกระเป๋าออกมา มันเป็นเศษกระดาษที่เขาเก็บได้แถวนี้ จดหมายนั้นเขียนด้วยลายมือเร่งรีบ เนื้อความสั้นๆระบุเพียงเวลาและสถานที่ ไม่ได้บอกถึงความต้

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 27 หัวใจที่ไม่อาจไขว่คว้า

    หญิงสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจยาว เส้นผมสีม่วงอมดำขลับทิ้งตัวแนบกับไหล่ราวเงามืดที่เกาะกุมตัวเธอ ผิวขาวซีดราวหินอ่อนสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ขับเน้นชุดยาวสีดำที่พลิ้วไหวดุจเงามืดในสถานที่แห่งนี้ในสถานที่แห่งนี้ ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกับเธอ ทำให้เธอรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดใดในสถานที่แห่งนี้ เธอก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เสมอเรย์นาร์ค—หรือเอรอสในร่างของมือสังหาร จอมเชือด เรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนและพลังของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอรับรู้มานานแล้ว แต่สิ่งที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่การค้นพบด้วยตัวเอง หากแต่เป็นการได้ยินคำตอบจากปากเขาโดยตรงเธอเฝ้ารอให้เขาเปิดเผยความลับนี้กับเธอ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่มีท่าทีที่จะบอกเธอ ราวกับเรื่องราวนั้น หนักเกินกว่าจะเล่าออกมาดวงตาสีชมพูอ่อนสะท้อนแสงจากโคมไฟ หญิงสาวนั่งนิ่งราวกับกำลังขบคิดอะไรบาง แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ อยากให้ชายหนุ่มเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเธอ แต่เธอก็รู้ดี เขาก็ยังเป็นตัวเขา—คนที่เลือกจะแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง ไม่ยอมพึ่ง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 26 ความรู้สึกที่ถูกมองข้าม

    ชายร่างสูงใหญ่เดินผ่านทางเดินยาวที่ปกคลุมด้วยความเงียบสงัดของพื้นที่ บรรยากาศภายในบริเวณนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายทรงพลังที่ทั้งหนักอึ้งและน่าเกรงขาม เขาหยุดชั่วครู่หน้าประตูบานใหญ่ของห้องผู้นำองกรณ์ บานประตูไม้สลักลวดลายละเอียดอ่อนแสดงถึงอำนาจและบทบาทสำคัญของเจ้าของห้องในขณะที่เขาก้าวผ่านหน้าประตู ความรู้สึกหนึ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่าง คล้ายมีสายตาจับจ้องจากอีกมิติ พลังจากดันเจี้ยนแห่งนี้ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงการเฝ้ามองของเจ้าของที่นี้อย่างชัดเจน แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆก็ตาม"ดูเหมือนเธอมีเรื่องที่จะพูดด้วย แต่ก็ลังเลที่จะถามสิน่ะ" เขาคิดในใจ สายตาสีแดงฉานของเขาหันไปมองบานประตูอย่างครุ่นคิด ก่อนที่จะส่ายหัวเบาๆผู้นำของสถานที่แห่งนี้ เป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง เธอเป็นลูกสาวของอดีตผู้นำองกรณ์อาชกรรมขนาดใหญ่ในเมือง แต่ถูกเขาทำลายลงไปเมื่อหลายปีก่อน ในตอนนั้นเธอยังเยาว์วัย แถมยังเป็นลูกของโสเภณีที่องกรณ์จับตัวมาอีก ทำให้เธอมักจะถูกรังแก และ กลั่นแกล้งดูหมิ่นเสมอเธอที่ผ่านความยากลำบากในชีวิตแต่ล่ะวัน ก็ได้มาพบกับเขาในร่างของจอมเชือด ในตอนแรกเธอร้องขอที่จะติดตามเขา แต่ตัวเขาในตอนนั้นปฏิเสธ ไม่อยาก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status