หน้าหลัก / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 3 ดั่งโชคชะตาที่ถูกลืม

แชร์

ตอนที่ 3 ดั่งโชคชะตาที่ถูกลืม

หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นมา ร่างเล็กๆของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับคนที่สะลืมสะลือ ตื่นจากการหลับไหลในศาลาสีขาวเล็กๆ ท่ามกลางความเงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งยืนตระหง่านไม่ไกล กิ่งก้านแผ่ขยายอย่างสง่างาม แสงแดดอ่อนส่องลอดผ่านใบไม้สร้างโดมทองอร่ามปกคลุมสถานที่แห่งนี้ ขณะบรรยากาศแฝงความลึกลับ ราวกับสถานที่แห่งนี้ซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้

เธอดูเหมือนยังไม่สังเกตเห็นเขา ราวกับว่าไม่มีใครนอกจากตัวเธอในสถานที่นี้ ความเงียบทำให้รู้สึกว่าโลกนี้มีเพียงเธอ ในมุมของเขา เขาไม่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่นานแค่ไหน แต่ดูเหมือนเธอจะเคยชินกับที่นี้ ราวกับอยู่มานานมากแล้ว

ในขณะที่เขายืนห่างเพียงเล็กน้อย สายตาของเธอก็เลื่อนมาหาเขา ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นเข้ามาในจิตใจ เหมือนกับถูกดึงดูดด้วยความสงสัย แต่ก็มีความกดดันแฝง ราวกับเธอสัมผัสถึงความลึกลับที่เขาซ่อนอยู่ หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อเธอเริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา

“...นั้นใคร?” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยแต่แฝงความเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง คำถามของเธอตึงเครียดขึ้น และในวินาทีนั้น พลังมานาที่สะสมในร่างเล็กๆ ของเธอก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

ความรู้สึกที่เคยสงบนิ่งของเขาถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนก เมื่อแรงกดดันมหาศาลจากมานาที่เธอปลดปล่อยออกมา เริ่มถาโถมเข้าหาเขา ราวกับกระแสน้ำมหาศาลกำลังซัดเข้ามา ทำให้บรรยากาศรอบข้างแทบจะแตกสลายภายใต้แรงกดทับที่เข้มข้น

“หายใจไม่ออก... ต้องหาทางรับมือ!”

แรงกดดันมหาศาลที่ไหลบ่าเข้ามา ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกซัดลงไปในน้ำตกที่เชี่ยวกราก ร่างกายถูกตรึงไว้กับที่ ไม่สามารถขยับตัวได้ แม้ความวิตกกังวลจะแผ่ซ่าน เขาก็พยายามเก็บอารมณ์ให้สงบ

“ไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าอย่างนั้น!” ในเสี้ยววินาทีนั้น เขาตัดสินใจปลดปล่อยความสามารถของตัวเองออกมา แม้จะรู้ว่ามันจะมีผลกระทบตามมาหลังจากนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะลังเล

ร่างกายของเขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เส้นเลือดรู้สึกร้อนระอุราวกับถูกเผา ผมสีดำค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทา ผิวที่เคยเรียบเนียนกลับกลายเป็นสีคล้ำ และ หยาบกร้าน มานาสีแดงที่แผ่ซ่านออกมาอย่างน่าสยดสยองดุจดั่งเลือดไหลบ่าเข้าไปในเส้นเลือด ความรู้สึกแปลกประหลาดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา อารมณ์โกรธแค้นที่ไม่ใช่ของเขาเริ่มขับเคลื่อนเข้ามาในจิตใจ

ในปกติเขามักจะควบคุมพลังนี้ได้อย่างดี แต่ในสถานการณ์นี้ มันอันตรายเกินไป เขารู้สึกว่าต้องฝืนใช้มันอย่างสุดกำลัง มีความเสี่ยงนี้อาจทำให้เขาถูกครอบงำจากเจ้าของร่างมากกว่าเดิม

“ต้องควบคุมให้ได้!” เขาฝืนพูดกับตัวเอง ขณะที่พยายามดึงสติกลับมา ความรุนแรงของพลังนี้แผ่ซ่านเข้ามาในจิตใจ กดดันเขาจนรู้สึกเหมือนจะถูกครอบงำ หากเขายอมให้ความโกรธนำทาง อาจทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปกว่านี้

โดยปกติแล้ว เขามักจะควบคุมพลังนี้ได้อย่างดี แต่ในสถานการณ์นี้ มันอันตรายเกินไป เขารู้ว่าต้องฝืนใช้มันอย่างสุดกำลัง ความเสี่ยงที่จะถูกครอบงำจากเจ้าของร่างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงในใจเขาเตือนว่า การใช้พลังนี้โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาอาจนำไปสู่อันตรายที่ไม่คาดคิด อารมณ์ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ความโกรธ และ ความเกลียดชัง คอยดึงเขาลงไปในหลุมลึกในจิตใจ หากเขาไม่สามารถต้านทานความรู้สึกนี้ได้ เขาอาจจะสูญเสียตัวตนของตนเองไปตลอดกาล

ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้

“นั่นมัน...อะไร?” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง ขณะที่มานาของเธอยังคงกดทับร่างของเขาไม่หยุด

เอรอสหายใจลึกเพื่อรวบรวมสติ แต่แรงกดดันที่บีบคั้นร่างกายยังไม่หายไป ร่างของเขาสั่นไหวเล็กน้อย แม้จะรู้สึกได้ถึงความอ่อนแรง แต่เขาต้องตั้งสติให้มั่น ด้วยหัวใจมานาทั้งสี่วงในตัว เขาจึงเริ่มสร้างมานามาปกคลุมร่างกายเพื่อเสริมพลังให้ตัวเอง

พลังเวทที่อยู่ในตัวเสริมกำลังให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น มันไหลเวียนอย่างรวดเร็ว พลังฟื้นฟูอันมหาศาลเริ่มทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง ความเจ็บปวดและแรงกดดันค่อยๆบรรเทาลง ร่างกายของเขาเริ่มทนรับแรงดันได้มากขึ้นเรื่อยๆ

หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า สังเกตเห็นท่าทีของเขาที่เปลี่ยนไป ดวงตาของเธอเหลือบมองเขาเพียงครู่หนึ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกใดๆปรากฏในสายตา หญิงสาวปิดตาลงช้าๆ ก่อนจะสูดลมหายใจลึก เธอค่อยๆดึงมานาที่ไหลออกมาโดยไม่ตั้งใจกลับคืนสู่ตัวอย่างสงบนิ่ง แรงกดดันที่เคยถาโถมใส่เขาค่อยๆเบาบางลง ราวกับทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมที่สมบูรณ์

หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าสังเกตเห็นท่าทีของเขาที่เปลี่ยนไป ดวงตาของเธอเหลือบมองเขาเพียงครู่หนึ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกใดๆปรากฏในสายตา เธอปิดตาลงอย่างช้าๆก่อนจะสูดลมหายใจลึก มานาที่เคยไหลออกมาอย่างตั้งใจ เริ่มค่อยๆถูกดึงกลับเข้าสู่ร่างของเธออย่างสงบนิ่ง แรงกดดันที่เคยถาโถมใส่เขาค่อยๆ เบาบงลง ราวกับทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมที่สมบูรณ์

หญิงสาวยังคงจ้องมองเอรอสด้วยสายตาเย็นชา ราวกับทะเลสาบที่ไร้การเคลื่อนไหว แม้บรรยากาศโดยรอบจะเงียบสงบ แต่ภายในกลับแฝงความตึงเครียดที่จับต้องไม่ได้ มันเป็นความกดดันที่เอรอสสัมผัสได้ แม้ว่าตอนนี้มานาของเธอจะไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่บรรยากาศที่หลงเหลือกลับทำให้สถานการณ์นี้ตึงเครียด

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงบนิ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นและทรงอำนาจ

“คุณเป็นใคร... แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”

เสียงของเธอไม่แสดงความหวาดกลัวหรืออารมณ์ใดๆ เป็นเสียงที่สะท้อนความมั่นคงและนิ่งสงบ ไม่มีร่องรอยของการตื่นตระหนกหรือความอ่อนไหว

เอรอสยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงมีกลิ่นอายของอันตรายหลงเหลืออยู่ เขาสูดหายใจเข้าลึก พยายามคงความนิ่งและเยือกเย็นเช่นเดิม เขาไม่ได้เป็นคนที่ตื่นตระหนกง่ายโดยธรรมชาติ ความเป็นนักสืบทำให้เขาชินกับสถานการณ์ที่เหนือการควบคุม

“ผมต้องขอโทษที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่มั่นคง

“แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเหมือนว่าผมถูกสถานที่แห่งนี้ดึงดูดเข้ามา”

หญิงสาวนิ่งเงียบขณะฟังคำตอบของเขา สายตาของเธอยังคงจับจ้องเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ราวกับกำลังประเมินคำพูดของเขา

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอสะท้อนความลึกลับและความทรงพลังที่เอรอสรู้สึกได้

“ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ได้ง่ายๆ… นี่ไม่ใช่เวลาที่ฉันจะเชิญใครเข้ามา”

คำพูดนั้นทำให้เอรอสต้องขบคิด เขายืนอยู่ต่อหน้าเธอด้วยความสงบนิ่ง แต่ภายในยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย แม้ทุกอย่างรอบตัวดูสงบลง แต่เขาสัมผัสได้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้ไม่ธรรมดา

“ถ้าอย่างนั้น... คุณคงมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ใช่ไหม? ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่?” เขาถามอย่างตรงไปตรงมา

หญิงสาวไม่ได้ตอบทันที รอยยิ้มบางเบาแต่ลึกลับปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ ก่อนที่เธอจะหันมามองวิวทิวทัศน์รอบตัว ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องผ่านใบไม้เป็นแสงสีทอง

“บางครั้งคำตอบก็ไม่ได้ต้องรีบหา” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ

“แต่ตอนนี้ ฉันจะถามคุณสักคำถาม คุณพร้อมจะตอบหรือเปล่า?”

เอรอสรู้สึกถึงความตึงเครียดในคำถามนั้น เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เพียงคำถามธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เขาคิดไว้

“ผมพร้อมแล้ว ถามมาได้เลย” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาที่อ่านยาก แล้วถามคำถามที่สะท้อนก้องในบรรยากาศอันเงียบสงบ

“คุณเชื่อ…..ในชะตากรรมหรือเปล่า?”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status